Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: YIM ที่ สิงหาคม 01, 2014, 11:35:41
-
พอรถผม (Vios 2011) ออกมาสามปีนิดๆ แล้ว ยังไม่ได้เปลี่ยนยางเลย แต่รถวิ่งไม่มาก (ประมาณ 40000 ต้นๆ อยู่) เลยอยากถามความเห็นว่าควรเปลี่ยนได้แล้วไหมครับ แล้วถ้าเปลี่ยนจะเปลี่ยนเป็นอะไรดีครับ (รถใช้งานทั่วไป ไม่เน้นสมรรถนะมาก วิ่งเร็วเกิน 120 บ้าง ขอเป็นแบบที่ไม่ค่อยเหินน้ำ) อยากได้ราคาไม่เกินเส้นละ 2500-3500 บาทครับ
ขอบคุณครับ
-
ปรกติ ถ้าถามตามร้านยาง ก็จะได้คำตอบว่า 2ปี หรือ 50,000 โล อันใดอันหนึ่งถึงก่อนก็ควรเปลี่ยน
แต่ในความเป็นจริง อันนี้แล้วแต่ลักษณะการใช้งานครับ
บางคนทำไม 2-3 หมื่นโลต้องเปลี่ยน เพราะ เขาขับเร็ว ออกตัวแรง เข้าโค้งแรง หรือ บรรทุกหนัก ยางสำคัญกับความปลอดภัย แบบนี้ควรเปลี่ยนเร็วกว่าปรกติ
แต่ถ้าเป็นคนที่ขับรถเรื่อยๆ ไม่เกิน 120 อยู่แล้ว อันนี้อาจจะยืดจากระยะ 50000 โล หรือ 2 ปี ได้ครับ แต่จะได้เท่าไหร่ อันนี้แล้วแต่เราครับ
สำหรับผม ผมใช้ไม่เกิน 3 ปี หรือ 6 หมื่นโลครับ
แต่ส่วนใหญ่ จะ 50000 ก็ต้องเปลี่ยนแล้วครับ เพราะ เสียงยางดัง รวมถึงไม่นุ่มเนื่องจากเนื้อยางมันแข็งแล้วครับ
-
ของผม ยาง ดันหลบ ให้เต็มที่ 3 ปีครับ ถึงดอกจะยังเหลือพอวิ่งได้ แต่ยางเริ่มแข็งแล้ว
:D
-
พิจารณาเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก ดูที่ความแข็ง-อ่อนของเนื้อยาง ถ้ายางแข็งแล้วถึงดอกยางจะเยอะ ก็ไม่ช่วยให้เกาะถนนดีขึ้น แต่หากเป็นรถที่ไม่ค่อยขับ ขับก็ไม่ค่อยเร็ว ก็พอจะยืดออกไปได้อีก แต่การขับขี่ในปีหลังๆ หรือ กม. หลังๆ ก็ควรระมัดระวังมากขึ้นเป็นลำดับ
-
เรื่องอายุอยู่ได้ถึง5ปีด้วย ถ้าดอกยังไม่หมด เสียงยังไม่ดังให้รำคาญ
แต่ส่วนมากผมทนเสียงไม่ไหวครับประสาทจะกิน ไม่เคยวิ่งเกิน2ปีได้เลย
-
ยางที่ผมเคยใช้ อายุอยู่ได้ประมาณสองปีครับ ดอกมันจะหมดก่อนเป็นประจำ
เรื่องการเหิรน้ำสำหรับยางเล็กผมไม่เคยลองครับ
คันเก่าผมใช้ขนาด 205-55-R16 Michelin Pilot Sport3 ดีมากครับ
คันใหม่นี่ถ้าเปลี่ยนยาง อยากลอง Goodyear อินทรีย์ F1 อาซิ้ม2 ;)
-
รีดน้ำดี มอง Goodyear F1 Directional 5 เลยครับ
เส้นละ ประมาณ 2,700 บาท
-
ผมดูดอกยาง แก้มยาง เป็นหลักครับ ;D
-
ดอกยาง เสียง แก้ม ลายงาตามเนื้อยาง ปี การขับขี่ ดูทุกอย่างประกอบกัน
ถามว่ายางเริ่มเก่า ใช้งานได้ไหม? ใช้ได้ แต่ผู้ขับขี่ควรใช้ความเร็วน้อยลง
เว้นระยะห่างมากขึ้น เพราะประสิทธิภาพยางมันก็ถดถอยตามปีตามสภาพ รถ
คันนึงออกป้ายแดงปี2010 ยางยังชุดเดิม ใช้งานร่วม50,000kms ยังใช้ได้อยู่
แต่ประสิทธิภาพก็แย่ลง ผมก็ขับระวังขึ้น ฝนตก ผมเว้นระยะ ผมขับช้าลง ไม่ประมาท
สำคัญคือความไม่ประมาทครับทยางใหม่ๆถ้าไม่ระวังก็อันตรายเช่นกันครับ
-
พอรถผม (Vios 2011) ออกมาสามปีนิดๆ แล้ว ยังไม่ได้เปลี่ยนยางเลย แต่รถวิ่งไม่มาก (ประมาณ 40000 ต้นๆ อยู่) เลยอยากถามความเห็นว่าควรเปลี่ยนได้แล้วไหมครับ แล้วถ้าเปลี่ยนจะเปลี่ยนเป็นอะไรดีครับ (รถใช้งานทั่วไป ไม่เน้นสมรรถนะมาก วิ่งเร็วเกิน 120 บ้าง ขอเป็นแบบที่ไม่ค่อยเหินน้ำ) อยากได้ราคาไม่เกินเส้นละ 2500-3500 บาทครับ
ขอบคุณครับ
ยางที่รีดน้ำได้ดี ดูที่ลายดอกยางครับ พวกแบบไม่มีทิศทางการหมุนนั่นแหละครับรีดน้ำได้ดี
ดูเส้นรอบวงของดอกยาง ยิ่ง มีหลายๆ เส้น ตรงกลาง ยิ่งมากเส้นยิ่งดีเวลารีดน้ำ เพราะน้ำจะเข้าไปในร่อง แล้ว เมื่อ ล้อหมุนล้อจะสะบัด น้ำออกไปทางด้านหลัง ของล้อ
พวกดอกใหญ่ที่มีทิศทางการหมุนนั้นเน้นถนนแห้งเป็นหลัก
พวกราคาถูกยาง ลายดอกพิมท์นิยมเนี่ยแหละครับรีดน้ำได้ดี ไม่ค่อยเหินน้ำ ถูกแต่ดีเงียบและทนด้วยเพราะดอกละเอียด ถ้าขับรถ ใช้งานทั่วๆไป ก็พิมท์นิยมเนี่ยแหละครับ ทนสุด ถูกสึด และดีครบในหลายๆองค์ประกอบ
ส่วนยางใช้ได้เท่าไหร่
ระดับแรกยางจะฟ้องด้วยเสียงก่อน เสียงของยางนั้น เวลาดังจะมีหลายสเต๊ป ดังครั้งแรก ใช้ๆไปแล้วมันจะเงียบไปเอง เพราะดังครั้งแรก เป็นเพราะยางสึกไม่เท่ากัน พอทนบดไปอีก เสียงจะเงียบลง ใช้ๆไป อีก เป็นปี ก็ จะดังมาอีก ผมเคยเจอ ดัง ถึง 3 สเต๊ปเลยทีเดียวก่อนที่ยางจะแข็งใช้ไม่ได้
สังเกตุได้อย่างไรว่า ยางเริ่มแข็งแล้วเอาเล็บจิ๊กนั้นไม่รู้เรื่องแน่ๆ สังเกตุได้จากเวลายูเทิรน์รถ ถ้ามีเสียงเอี๊ยดออกมานั่นก็แสดงว่า ยางเริ่มแข็งแล้ว
ควรสลับยาง ด้วยครับ ยางจะได้เฉลี่ยความนิ่มรึแข็งให้เต็มหน้ามากขึ้น ดีกว่าไม่สลับยางเลย ช่วยยืดอายุของยาง หมื่นโล กำลังดี
แก้มยางของแต่ล๊ะยี่ห้อนิ่มไม่เท่ากัน อันนี้ก็แล้วแต่ชอบ เวลาไปดูหลายๆยี่ห้อ ก็ ลองเอามือกดๆดูเอาเอง
ในกรณีที่สลับยางแล้ว รถวิ่งเป๋ ห่าว ถ้าแบบไม่มีทิศทางก็ต้องลองกลับ ล้อคู่หน้าซ้ายขวา ถ้าไม่หาย ก็ต้องถอดยางออกจากแม็กแล้วสลับด้านในยางเส้นเดียวกับแม๊กวงนั้นๆ
ส่วนยางแบบมีทิศทางถ้า และ ฟิ๊กตำแหน่งด้วย เพราะลายดอกยางไม่เหมือนกันทั้ง 2 ข้างแบบนี้ ได้แค่ หน้ามาหลังฝั่งเดียวกัน แบบนี้ ไม่เหมาะในการใช้งานในชวิตประจำวัน ยางแบบนี้จะเสื่อมไวมากๆ แต่บนถนนแห้ง ก็ ตามราคาเลย
สรุป เอายางรีดน้ำที่ดี ก็ ยาวงลายธรรมดาเนี่ยแหละครับ แบบไม่มีทิศทาง เน้น ร่องเส้นรอบวงหลายๆเส้น ยิ่งมากเส้นยิ่งรีดน้ำดี ส่วนเรื่องกี่ปี ดู ยางไม่แตกลายงา ที่แก้มยาง และดูในร่อง ลึกสุดของลายดอกยาง ถ้าไม่มีรอยแตก ก็ ใช้ไปเหอะ ยางเสื่อมเพราะยางแข็งก่อนอายุปีทั้งนั้น
ยางสมัยนี้ เรื่องระเบิด ด้วยตัวของมันเองนั้น หมดห่วงได้แล้ว จะระเบิดก็ต่อเมื่อ วิ่งทับหินรึอะไร
อีกอย่างนึงยางที่ประสิทธ์ภาพสูงยึดเกาะถนนดีไม่มีทางที่จะประหยัดน้ำมันได้ เพราะมันสวนทางกัน
เวลาไปเปลี่ยนยาง ก็ดูด้วยว่า เวลาใส่ยางกับแม็ก ก็ ดู ด้วยว่า ต้องสูบลมให้เสียงดังป๊องแบบสะดุ้ง แบบนี้ยางมันจะดีดขบกับขอบแม็ก สนิทจริงๆ
เพิ่มเติมให้อีกนิดนึง ยางใหม่ๆจะมีจุดแต้มสีเอาไว้ที่แก้มยางด้วย
ปกติสีเหลือง อย่าเข้าใจผิดคิดว่าเป็นการ คิวซี ที่จริงมันคือ จุดที่เบาที่สุดของยางดังนั้น จุดที่แต้มสีเหลือง เวลาใส่ต้องให้ตรงกับจุ๊บล้อ เพราะ ตรงจุ๊ลล้อก็มีน้ำหนักที่ดเหวี่ยงหนีศูนย์มากที่สุด พอใส่ให้มันตรงกับส่วนที่เบาที่สุดของยาง ก็ จะถ่วงตะกั่วได้น้อยที่สุดด้วย
คิดเองทั้งหมดจากผสบการณ์ ไม่มีอะไรอ้างอิงทั้งนั้น อาศัยชอบถามชอบดูมาจากร้านยางมาล้วนๆเลย
-
พอรถผม (Vios 2011) ออกมาสามปีนิดๆ แล้ว ยังไม่ได้เปลี่ยนยางเลย แต่รถวิ่งไม่มาก (ประมาณ 40000 ต้นๆ อยู่) เลยอยากถามความเห็นว่าควรเปลี่ยนได้แล้วไหมครับ แล้วถ้าเปลี่ยนจะเปลี่ยนเป็นอะไรดีครับ (รถใช้งานทั่วไป ไม่เน้นสมรรถนะมาก วิ่งเร็วเกิน 120 บ้าง ขอเป็นแบบที่ไม่ค่อยเหินน้ำ) อยากได้ราคาไม่เกินเส้นละ 2500-3500 บาทครับ
ขอบคุณครับ
ยางที่รีดน้ำได้ดี ดูที่ลายดอกยางครับ พวกแบบไม่มีทิศทางการหมุนนั่นแหละครับรีดน้ำได้ดี
ดูเส้นรอบวงของดอกยาง ยิ่ง มีหลายๆ เส้น ตรงกลาง ยิ่งมากเส้นยิ่งดีเวลารีดน้ำ เพราะน้ำจะเข้าไปในร่อง แล้ว เมื่อ ล้อหมุนล้อจะสะบัด น้ำออกไปทางด้านหลัง ของล้อ
พวกดอกใหญ่ที่มีทิศทางการหมุนนั้นเน้นถนนแห้งเป็นหลัก
พวกราคาถูกยาง ลายดอกพิมท์นิยมเนี่ยแหละครับรีดน้ำได้ดี ไม่ค่อยเหินน้ำ ถูกแต่ดีเงียบและทนด้วยเพราะดอกละเอียด ถ้าขับรถ ใช้งานทั่วๆไป ก็พิมท์นิยมเนี่ยแหละครับ ทนสุด ถูกสึด และดีครบในหลายๆองค์ประกอบ
ส่วนยางใช้ได้เท่าไหร่
ระดับแรกยางจะฟ้องด้วยเสียงก่อน เสียงของยางนั้น เวลาดังจะมีหลายสเต๊ป ดังครั้งแรก ใช้ๆไปแล้วมันจะเงียบไปเอง เพราะดังครั้งแรก เป็นเพราะยางสึกไม่เท่ากัน พอทนบดไปอีก เสียงจะเงียบลง ใช้ๆไป อีก เป็นปี ก็ จะดังมาอีก ผมเคยเจอ ดัง ถึง 3 สเต๊ปเลยทีเดียวก่อนที่ยางจะแข็งใช้ไม่ได้
สังเกตุได้อย่างไรว่า ยางเริ่มแข็งแล้วเอาเล็บจิ๊กนั้นไม่รู้เรื่องแน่ๆ สังเกตุได้จากเวลายูเทิรน์รถ ถ้ามีเสียงเอี๊ยดออกมานั่นก็แสดงว่า ยางเริ่มแข็งแล้ว
ควรสลับยาง ด้วยครับ ยางจะได้เฉลี่ยความนิ่มรึแข็งให้เต็มหน้ามากขึ้น ดีกว่าไม่สลับยางเลย ช่วยยืดอายุของยาง หมื่นโล กำลังดี
แก้มยางของแต่ล๊ะยี่ห้อนิ่มไม่เท่ากัน อันนี้ก็แล้วแต่ชอบ เวลาไปดูหลายๆยี่ห้อ ก็ ลองเอามือกดๆดูเอาเอง
ในกรณีที่สลับยางแล้ว รถวิ่งเป๋ ห่าว ถ้าแบบไม่มีทิศทางก็ต้องลองกลับ ล้อคู่หน้าซ้ายขวา ถ้าไม่หาย ก็ต้องถอดยางออกจากแม็กแล้วสลับด้านในยางเส้นเดียวกับแม๊กวงนั้นๆ
ส่วนยางแบบมีทิศทางถ้า และ ฟิ๊กตำแหน่งด้วย เพราะลายดอกยางไม่เหมือนกันทั้ง 2 ข้างแบบนี้ ได้แค่ หน้ามาหลังฝั่งเดียวกัน แบบนี้ ไม่เหมาะในการใช้งานในชวิตประจำวัน ยางแบบนี้จะเสื่อมไวมากๆ แต่บนถนนแห้ง ก็ ตามราคาเลย
สรุป เอายางรีดน้ำที่ดี ก็ ยาวงลายธรรมดาเนี่ยแหละครับ แบบไม่มีทิศทาง เน้น ร่องเส้นรอบวงหลายๆเส้น ยิ่งมากเส้นยิ่งรีดน้ำดี ส่วนเรื่องกี่ปี ดู ยางไม่แตกลายงา ที่แก้มยาง และดูในร่อง ลึกสุดของลายดอกยาง ถ้าไม่มีรอยแตก ก็ ใช้ไปเหอะ ยางเสื่อมเพราะยางแข็งก่อนอายุปีทั้งนั้น
ยางสมัยนี้ เรื่องระเบิด ด้วยตัวของมันเองนั้น หมดห่วงได้แล้ว จะระเบิดก็ต่อเมื่อ วิ่งทับหินรึอะไร
อีกอย่างนึงยางที่ประสิทธ์ภาพสูงยึดเกาะถนนดีไม่มีทางที่จะประหยัดน้ำมันได้ เพราะมันสวนทางกัน
เวลาไปเปลี่ยนยาง ก็ดูด้วยว่า เวลาใส่ยางกับแม็ก ก็ ดู ด้วยว่า ต้องสูบลมให้เสียงดังป๊องแบบสะดุ้ง แบบนี้ยางมันจะดีดขบกับขอบแม็ก สนิทจริงๆ
เพิ่มเติมให้อีกนิดนึง ยางใหม่ๆจะมีจุดแต้มสีเอาไว้ที่แก้มยางด้วย
ปกติสีเหลือง อย่าเข้าใจผิดคิดว่าเป็นการ คิวซี ที่จริงมันคือ จุดที่เบาที่สุดของยางดังนั้น จุดที่แต้มสีเหลือง เวลาใส่ต้องให้ตรงกับจุ๊บล้อ เพราะ ตรงจุ๊ลล้อก็มีน้ำหนักที่ดเหวี่ยงหนีศูนย์มากที่สุด พอใส่ให้มันตรงกับส่วนที่เบาที่สุดของยาง ก็ จะถ่วงตะกั่วได้น้อยที่สุดด้วย
คิดเองทั้งหมดจากผสบการณ์ ไม่มีอะไรอ้างอิงทั้งนั้น อาศัยชอบถามชอบดูมาจากร้านยางมาล้วนๆเลย
ขอบคุณครับที่แชร์ความรู้ ข้อมูลดีมากครับ :D :D
-
Prius ผมใช่ไป80,000km
ไม่สลับยาง
ผลคือ ดอกหน้า บางม๊ากๆๆ แต่ก็ไม่ถึงจุดม๊าค แต่ยางหลังเหลือเพียบ (ผมจึงเอายางหลังมาทำอะไหล่)
-
ขอบคุณครับ
งั้นวิ่งไปอีกสักพักก็คงพอไหวมั้งครับ (แต่เสียงเอี้ยดเริ่มมาแล้วเหมือนกัน)
-
พอรถผม (Vios 2011) ออกมาสามปีนิดๆ แล้ว ยังไม่ได้เปลี่ยนยางเลย แต่รถวิ่งไม่มาก (ประมาณ 40000 ต้นๆ อยู่) เลยอยากถามความเห็นว่าควรเปลี่ยนได้แล้วไหมครับ แล้วถ้าเปลี่ยนจะเปลี่ยนเป็นอะไรดีครับ (รถใช้งานทั่วไป ไม่เน้นสมรรถนะมาก วิ่งเร็วเกิน 120 บ้าง ขอเป็นแบบที่ไม่ค่อยเหินน้ำ) อยากได้ราคาไม่เกินเส้นละ 2500-3500 บาทครับ
ขอบคุณครับ
วิ่งแค่ 4 หมื่นนิดๆเอง ยางดอกละเอียดติดรถ ยังต่อไปได้อีกหลายหมื่นโลครับ รถน้ำหนักเบาด้วย ยางรับภาระน้อย
ถ้ายูเทิรนฺรถแล้ว ไม่มีเสียงเอี๊ยด ยางก็ยังไม่หมดสภาพ
ถ้าพอใจกับยี่ห้อเดิม ของติดรถ ผมประมาณว่า ถ้ายางเบอร์ติดรถมันก็หาได้ง่ายๆ กับยางมือสองที่ไม่ใช่ยางเปอร์เซนต์ที่้ร้านยางบางร้านชอบเอา ที่แกะสลักตอนเรียนหนังสือ มานั่งแกะลายดอกใหม่ ให้ลึกลงไปอีก
หาพวกมือสอง พวกขาโจ๋ว ไปเปลี่ยนแม๊กใหม่วงโตใส่ บางทีได้ยางหนวดกุ้งยังเอี่ยมๆเลย ผมซื้อประจำ ประหยัดเงินได้เป็นครึ่งๆ ใช้ยาวๆเลย ส่วนมากในหน้าซื้อขายของเว็บรถยี่ห้อนั้นๆก็จะมีลงขายอยู่แล้ว ก็ ดู สัปดาห์ และ ปีที่ผลิตด้วย ปั๊มไว้ที่แก้มยาง หา ปีใหม่ๆ ก็ ได้ใช้ยาวๆ
ถ้าขายพร้อมแม๊กด้วย ก็ เก็บแม๊กเป็นสแปร์ก็ได้ เกิดเราดุ้ง ได้ทิ้งไปเลย บางทีได้ยางลงพื้นไม่เท่าไหร่ได้แม๊กแถมมาด้วยในราคาเท่ากับยางใหม่ พยายามหายางที่หนวดกุ้งยังติดมากๆ เดี่ยวนี้ ตามพ่อค้าที่หากินทางนี้ ลงขายให้มาก
-
ตายหล่ะ ดันหลบผม ติด honda freed มา วิ่งไป 25000 ก็อยากถอดแล้ว
เด้งย้วยลื่น ได้ใจจริงๆ
turanza AR 10 ผมวิ่งไป 25000 กับวีออสอีกคัน ดอกลงไปถึงสะพานยางแล้ว
หมดไวมาก
-
ส่วนมากคนเปลี่ยนยางเพราะกังวลว่ามันจะไม่ดี เช่น ดังน่าลำคาญ ระเบิดตอนวิ่ง ฯลฯ เพราะผู้ผลิตสเปค(แนะนำ)ให้เปลี่ยนทุก 40,000 โลหรือ 3ปี ผมก็เคยห่วงเช่นกัน แต่ระยะหลังอยากลองของ ชุดที่แล้วเปลี่ยนที่ 70,000 แต่ดอกเหลือเกือบครึ่งของใหม่ อีกคันกำลังจะครบ 90,000 โลเร็วๆนี้ แต่ดอกยังพอใช้ได้อีกเกิน 20,000 โลแน่ๆ คหสต ถ้ารู้จักจังหวะ เมื่อเกิน 5-60,000 โลไปแล้ว ไม่วิ่งเร็วมากและยาวๆ ไม่ทรมานยางด้วยการวิ่งบรรทุกหนักเกินบ่อยๆ ผมว่าเกินแสนทุกรุ่น ถ้าทนเสียงได้นะ ;D
-
Camry 1 ปี 6 เดือน ตอนนี้ ขาด 3 พันโล ครบ "แสน" แล้วครับ เสียงดังพอสมควร ดอกเริ่มไปเยอะแล้ว แต่ยังเหลือๆอยู่ จะเปลี่ยนใหม่เร็วๆนี้...
G9 1 ปี 4 เดือน ตอนนี้ 70,000 โล ยังเงียบอยู่ครับ
City 5 ปี วิ่งไปแค่ 2 หมื่นโลกว่าๆ :P ก็ต้องเปลี่ยนแล้วครับ ยางแตกลายงาเป็นตูดช้างเลย 5555
-
รถที่บ้านผมนี่ เต็มที่ 15000 โล กับระยะที่ 5 ปี ฮ่าๆ วิ่งน้อยมากๆครับ ส่วนมากยางจะบวมครับ แข็งฟาดหัวหมาแตกเลยครับ
-
เก็บความรู้ครับ มีประโยชน์มากเลย
-
ส่วนตัวผมตีเท่าอายุการรับประกันรถครับ 3 ปี หรือ 1 แสนกิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน 55 (ขึ้นกับยี่ห้อยางอีกที)
ยางเก่ารถผม Turanza ER300 อายุ 3 ปี ใช้ไป 3 หมื่นโลพอดี ดอกยางเหลือเกิน 50% แต่เนื้อยางแข็งและแตกลายงา เสียงดังมาก
-
ขอบคุณครับ
งั้นวิ่งไปอีกสักพักก็คงพอไหวมั้งครับ (แต่เสียงเอี้ยดเริ่มมาแล้วเหมือนกัน)
เสียงเอี๊ยดยังพอรับได้ครับ ขับช้าลงหน่อย เว้นระยะคันหน้ามากขึ้น
แต่ถ้าเสียงดังหึ่งๆๆๆๆๆตลอดเวลา ไม่ไหวครับประสาทจะกิน เปลี่ยนสถานเดียว
-
ขอบคุณครับ
หลักๆ กลัวมันระเบิดนั่นละครับ ดอกยังเยอะพอควร แต่คิดว่าน่าจะอยู่ถึง 50000 โลไหวครับ ถึงตอนนั้นคงเปลี่ยน เพราะตอนนี้ก็ชอบดังกึ้งๆ แล้วครับ คือเสียงไม่สน เพราะเปิดเพลงกลบ แต่ถ้าระเบิดก็กลัวครับ