Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Steeringwheel Father ที่ มีนาคม 21, 2009, 16:56:32
-
ปกติ ผมใช้ BMW 318i E46 ซึ่งก็ใช้กันมาอย่างราบรื่นดีจนบัดนี้เข้าปีที่ 5 แล้ว ก็ซ่อมกันไปตามวาระ ไม่เคยชน ไม่เคยเฉี่ยว มีรถตายกลางถนนให้หัวเสียบ้างก็ด้วยสาเหตุเดียวคือ "สายพานหน้าเครื่องขาด" ซึ่งก็เรียกรถสไลด์มายกแล้วพาไปหาช่างเจ้าประจำได้ทุกทีไปเหมือนกัน ยกเว้นบางทีเกิดรำคาญไม่อยากเรียกรถสไลด์ก็จัดการมันซะตรงนั้น (ถ้าหาร้านขายอะไหล่ใกล้ ๆ ได้)
มาเมื่อเดือนก่อน มือคันครับ ไปเปิดเว็บขายรถมือสอง (ตลาดรถกับวันทูคาร์) รวมทั้งเวบบอร์ดของชาว SAAB เข้า แล้วก็ไประลึกถึงวันคืนเก่า ๆ สมัยเข้ายุคมิลเลนเนี่ยมใหม่ ๆ ว่าไอ้เจ้า 9-5 เนี่ย หน้าตามันก็ดีอยู่มิใช่น้อย ๆ ก็เลยเกิดอยากได้ SAAB 9-5 ขึ้นมาซะงั้นแหละ และนี่ไม่ใช่ SAAB คันแรกที่ผมอยากได้ แต่ว่าก่อนหน้านั้นผมเคย "คลั่ง" ไอ้แมงสาบ 900 Classic ชนิดเก็บเอาไปฝันถึงทุกวัน และแน่นอนว่า "ไม่เคยมีโอกาสได้ครอบครอง"
ก็เปิดหาข้อมูลไปเรื่อย ๆ อ่านข้อมูลในเวบบอร์ดของชาวซ้าบก็เรื่อย ๆ ค้นและคุ้ยข้อมูลซึ่งมีอยู่ไม่มากนัก พอให้อ่านได้ แล้วก็เกิดความสงสัยขึ้นมาว่า "ถ้าผมจะขาย E46 ที่ครองรักกันมาดี ไม่มีอะไรเสียหายมาถึง 5 ปี แล้วไปซื้อไอ้เจ้า 9-5 เนี่ย มันพอจะเป็นไปได้หรือเปล่า" ที่สนใจมากๆ คือเรื่องของสถานที่ซ่อม การจัดหาอะไหล่ ฝีมือของช่าง และบุคลิกของรถว่า "มันจะกวนตีนเจ้าของมั้ย" และมีคนที่ปราบพยศมันได้หรือเปล่า ราคาค่าเลี้ยงดู ซ่อม บำรุง มันจะหนักหนามากมั้ย
รถคันที่ไปดู เป็นตัว 2.0t วิ่งมาแสนหก รถปี 03 ซึ่งแน่นอนว่ามันแก่กว่า E46 อยู่ปีนึง และผมจะได้ความกว้างของห้องโดยสารช่วง shoulder room เพิ่มขึ้นมา 2 นิ้ว (E46 ข้างหลังนั่งสองคนกำลังสบาย แต่ห้ามมีบุคคลที่ 3 เด็ดขาด เพราะมันแคบจริง ๆ แถมยังติดอุโมงค์เพลากลางเสียอีก) ได้ความแรงของเครื่องเพิ่มมาอีกหน่อย แต่ไม่รู้ว่ามันจะรวนมั้ย ซ่อมแพงมั้ย โดยถ้าผมปล่อย E46 ไป และเอา 9-5 เข้าบ้านแทน ผมจะมีเงินทอนเหลือประมาณแสนนึง มันพอจะเอามาเลี้ยงดู 9-5 ได้มั้ยครับ
-
ถ้าในเรื่องของตัวรถเพียวๆ SAAB ที่มีเทอร์โบกับ 318i E46 ผมโดดขี่ SAAB อย่างไม่ลังเลเลย
ที่ไม่รู้จริงๆคือซ่อมแพงไหม ซ่อมกันที่ไหนยังไง อย่างนี้ต้องลองถามตา Signifer ผู้เป็นเจ้าของ SAAB 900 ในบอร์ดเราดู
เอ้า ธูป..เทียน...อาร์ตเว้ยยย อาร์ต
-
อ้อ แล้วตกลงไอ้ 9-5 2.0t ที่ขายในบ้านเราเนี่ย มันมีกี่แรงม้าครับ สเปคมันเป็นแบบไหนกัน จะได้ตั้งตัวถูก
-
t ปรับแต่งหัวฉีดแล้วก็น่าจะอยู่ประมาณ 210 ม้าครับ
เพื่อนของผมเคยใช้ 95 ปี 2002 wagon พอเริ่มมีปัญหาเรื่องเกียร์ก็เลยขายทิ้งไป....
ตอนนี้มันก็ใช้ 520D อยู่ มันก็บ่นถึงวันเก่าๆ ตอนขับซาบ เพราะแรงซาบมันแรงทันใจ อิอิ
ผมก็เคยไปลองขับมา.... ก็สนุกดีครับ
จนผมก็คิดจะหาสะสมไว้สักคัน....ถ้ามีตังค์น่ะ
ส่วนเรื่องการซ่อม มันบอกว่าเอาไปเข้าออโต้เทคนิค ราคาก็โอเคครับ ไม่แพงเวอร์
-
ใครจุดธูปเรียกเนี่ย.....
ผมไม่เคยใช้ SAAB 9-5 นะครับ แต่ก่อนคุณพ่อผมใช้ SAAB9000 Executive จะว่าไปก็คือรถรุ่นพ่อของเจ้า 9-5 นี่เอง
เทคโนโลยีของซาบค่อนข้างซับซ้อนนะ แต่ก็ไม่เกินความสามารถช่างไทยครับ แต่ที่ต้องพึงระลึกคือเรื่องอะไหล่ มันอาจจะไม่ได้แพร่หลายเหมือนบีเอ็ม
โดยเฉพาะ 9-5 หลายๆ ตัวอาจจะต้องพึ่งออโต้เทคนิค แต่ก็แน่นอนครับ มีบริการเกือบทุกอย่างแต่ราคาก็ไม่ใช่ว่าถูกเสียทีเดียว ถ้าเทียบกับ บีเอ็มน่าจะสูสีครับ
แต่ถ้าเทียบกับเจ้าซาบรุ่นก่อนๆ 9-5 มีราคาอะไหล่หลายๆตัวแพงกว่า ประมาณ 20-30% เห็นจะได้
ใจจริงผมกะจะขายทีด้าเพื่อเอา SAAB 9-5 เหมือนกันครับ แต่ติดที่ทีด้ามันราคาล่วงเยอะมาก และผมไม่อยากเป็นหนี้เป็นสินเยอะๆ
ผมก็เลยตัดสินใจเก็บทีด้าไว้(ยกให้เมียซะงั้น) แล้วผมก็ไปซื้อ SAAB900 Draken มาอีกคัน เอาไว้ใช้ส่วนตัว แบบชอบมาตั้งแต่มันเปิดตัวเมื่อ 15 ปีก่อนครับ
โชคดีที่ได้รถสภาพคุณหญิงใช้มา(พูดไม่ผิดคุณหญิงใช้จริงๆ!!!) วิ่งมาเจ็ดหมื่นโลแท้ๆ เอาไว้รอโอนปรับสภาพแล้วจะทำรีวิวมาอวดเจ้าคอมมาเด๋อแพน
ส่วน 9-5 ผมว่าเป็นรถที่ดีมากๆคันหนึ่งนะครับ ถ้าเทียบหมัดต่อหมัดกับ E46 ผมว่าน่าจะชกกันมันหยดเลยหล่ะ
ผมแยกข้อดีข้อเสียไว้ให้เข้าใจง่ายๆ ดีกว่า
ข้อดี ข้อเสีย ของ E46
คุณรู้ประวัติมันตั้งแต่เกิดเลย และมีประสบการณ์ในการซ่อมในการดูแลมาตลอด
ในแง่การซ่อมบำรุง ศูุนย์เยอะแยะ อู่นอกพรึบบบบ
ในแง่อะไหล่ แท้ เทียม เทียบ ของแต่ง โอ๊ยยยยเพียบไปหมดครับ จะเอาเกรดไหนมีหมด
ราคาขายต่อล่วงน้อยกว่าซาบแน่นอน
เรื่องการขับขี่ ผมว่ารอจิมมี่มาตอบดีกว่า เพราะผมไม่เคยลอง 9-5 เสียที แต่มีหลายคนบอกมันคือ 9000 เบบี้เฟส ส่วน 318iE46 ผมเคยขับรถเพื่อน
ยอมรับว่าแฮนด์ริ่งดีครับ ช่วงล่างหนึบ พวงมาลัยคมใช้ได้เลย แต่ ไม่แรง.... เสียงลมเสียงถนน เยอะมากๆ ถ้าคิดว่ามันคือรถยุโรป...มันควรเงียบกว่านี้
ในแง่วัสดุ ความทันสมัยในบีเอ็มผมว่าสูสีซาบนะ เพราะเบาะเจ้า 318iE46 สีเทาๆ ? ผมว่ามันน่าจะทำไ้ด้ดีกว่านี้
ในแง่ภาพลักษณ์ เป็นวัยรุ่น โฉบเฉี่ยว หญิงกรี๊ดตูม กรี๊ดตูม(ถ้าไม่มายด์ข้อนี้ข้ามไปเลย)
ข้อดี ข้อเสี ของ 9-5
คุณยังไม่รู้ประวัติในเบื้องต้นเพราะไม่ได้ใช้มาตั้งแต่ป้ายแดง แต่...เอาทะเบียนโทรเข้าศูนย์เพชรเลย เช็คได้หมดว่ารถทำไรมาบ้าง ขาดซ่อมค้างซ่อมอะไรบ้าง
ชนด้านไหนบ้าง หนักเบา เช็คได้หมดครับเพราะเวลาซื้ออะไหล่ รถซาบต้องใช้เลขทะเบียนด้วย เพื่อเป็นส่วนลด เพื่อเก็บประวัตินั่นเอง
ในแง่การซ่อมบำรุงผมว่าไม่ต่างจากบีเอ็มนะ เพียงแต่ศูนย์เหลือศูนย์เพชร...รถค้างซ่อมอาจจะเยอะนิดนึง แต่อู่นอกมีเยอะเลย ในบอร์ดซาบเองก็พูดไว้มากแล้วเืรื่องนี้
ในแง่อะไหล่ผมว่า เบิกคลังอะไรของซาบมีหมดทุกตัว แต่ถ้าตัวไหนแพงมากๆ เวปนอกมีครับ....เพื่อนๆในซาบก็ใช้วิธี สั่งเข้ามาเองมันซะเลย สุดยอดมาก....ยิ่งกว่าร้านอะไหล่อีกนะ อะไหล่มือสองก็มีให้ใช้เช่นกัน แต่ต้องแล้วแต่ชนิดครับ
ราคาขายต่อร่วงกระจาย รักกันแล้วห้ามทิ้งฉัน.....แต่ส่วนมากมันจะเป็นรถคันท้ายๆ ที่คนขับรถยุโรปมาก่อน.....หลงรัก
ความจุกจิก ถ้าซ่อมถึงไม่ค่อยเท่าไหร่นะ เปอโยต์คันเก่าผมโคตรจุกจิกกว่าเยอะเลย
การขับขี่ผมตอบไม่ได้อ่ะครับ แต่ที่แน่ๆ รู้ว่ามันแรงมาก.....เพราะมีเทอร์โบเสกเป่าแรงม้าและแรงบิดให้ด้วย การโมดิฟายเพิ่มความแรงสามารถทำได้เยอะมาก
จาก ม้าร้อยปลาย กระโดดเพิ่มอีก 100 ม้าได้ไม่ยากเลย.....ถ้าเป็นคนรักความแรงนะ คุณจะยิ่งชอบอ่ะ
ห้องโดยสารค่อนข้างเงียบ เก็บเสียงดี ฟิลลิ่งประตูหนักมาก ปิดแล้วรู้สึกเลยทันทีว่า รถคันนี้ปลอดภัย....จริงๆนะ ไม่รู้ว่าวิศวกรมันออกแบบไงนะ แต่ประตูซาบ
และวอลโวแทบทุกรุ่น เวลาปิดเปิดจะรู้สึกว่ามันเซฟชีวิตเราได้แทบจะทันที ส่วนการออกแบบภายในผมว่าดูไม่ได้น่าเกลียดกว่า E46 เพียงแต่วัสดุแย่ไปนิด
มันดูเรียบๆ สุขุมแต่ด้วยตัววัสดุพวกลอก ล่อน เก่า มันมีให้เห็นนะครับ แต่ก็เอาไปเก็บงานสีได้นะ ไม่น่าซีเรียสเท่าไหร่ ถ้าคุณได้ัขับ คุณจะชอบเบาะของซาบมาก
เพราะเป็นเบาะที่ผมว่ามันนั่งโคตรสบาย ไม่ใช่สบายแบบโอ่อ่านะ แต่สบายแบบนั่งได้นานๆ ไม่เมื่อยอ่ะครับ บีเอ็มเบาะจะเล็กและกระชับ ส่วนซาบไม่เล็กแต่กระชับ
อย่าคิดลึกนะ......ผมรู้นะคนอ่านคิดอะไรอยู่ เล็กๆ กระชับๆ....
ขับซาบคนไม่รู้จักว่ามันคือรถสวีเดน อาจจะมีคำปรามาสว่า เฮ๊ยทำไมมาใช้รถเกาหลีหรือญี่ปุ่น.....บางคนคิดว่าเป็นแอคคอร์ด....
ภาพลักษณ์ ให้ความรู้สึกเป็นผู้ใหญ่กว่า E46 แต่เป็นผู้ใหญ่ที่ค่อนข้างมีเทสนะ ไม่ใช่ผู้ใหญ่แบบ หล่อหรูเริ่ด....
ส่วนอื่นๆ ผมว่ารอคนใช้จริงมาตอบดีกว่าครับ
หรือไม่ก็อ่านๆ จาก SCOT หล่ะครับ เยอะมากๆเลย
ทีนี้อยู่ที่ใจคุณแล้วว่าจะ "Move Your Mind" ไปกับ SAAB หรือเปล่า ?
-
โห ถึงผมไม่ใช่ จขกท.
มาอ่านแล้ว
ขอขอบคุณ คุณ SignifeR มากๆครับ
ความรู้มากมาย
เอาหนะเรามัน คนสวีเดนด้วยกัน 55
-
คุณ SignifeR รายละเอียดเพียบจริงๆ
สุดยอดครับ
ผมเองก็อยากได้เหมือนกันนะครับ ซาบ เนี่ย
ว่าแต่ใครมีความเห็นเกี่ยวกับ SAAB 9-3 มั๊ํยครับ
เล็งๆว่าถ้ามีเงินจะเล่นตัวนี้ละครับ
หุหุ
-
ขอบคุณมาก ๆ เลย สำหรับรายละเอียด
แม้ผมจะเข้าวัยเลข 4 ไปแล้ว มีเมีย มีลูก แต่บางโอกาสผมก็ชอบสิ่งที่ E46 ให้ผม ซึ่งก็คือ "การเรียกร้องสายตาและความสนใจจากสาว ๆ" นั่นแหละครับ จริงอย่างว่า ที่ว่าบีเอ็มมักเรียกร้องความสนใจจากสาว ๆ ได้เสมอ (ซึ่งเรื่องนี้จะให้เมียผมรู้ไม่ได้เด็ดขาด 55555)
เรื่องราคาร่วง นี่อาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผมต้องส่งสายตามามองเจ้านกในตำนานนี่ เพราะเจ้า 9-5 ตอนออกจากห้างนั้น มีค่าตัวเลย "สามล้าน" ไปแล้ว และเมื่อเวลาผ่านไป 6 ปี ราคามันลงมาเหลือป้วนเปี้ยนแถว ๆ หกเจ็ดแสน เหลือค่าตัวติดตัวอยู่ราวยี่สิบเปอร์เซ็นต์นับจากวันออกห้าง ทำให้ใครหลายคนที่อยากครอบครองเมื่อวันนั้นเกิดอาการ ใกล้เอื้อมขึ้นมาได้ แม้บีเอ็มจะราคาตกน้อยกว่าซ้าบ แต่ก็แรงไม่ใช่เล่น จากสองล้านสองมาเหลือแปดเก้าแสนและคาดว่าคงจะลงต่อไปเรื่อย ๆ ตามประสารถยุโรป (ที่ไม่ใช่เบนซ์) พูดเรื่องราคาตกแล้ว ชีช้ำกันทุกยี่ห้อนั่นแหละครับ
สำหรับเรื่องการนั่งในห้องโดยสาร ถ้าเบาะไม่มีอาการทรุดละก็ มันนั่งได้ดี ไม่มีปวดหลังกันเลยทีเดียว เคยมีอยู่ครั้งหนึ่ง ที่จู่ๆ ผมก็มีอาการปวดร้าวที่สันหลัง สอบหาสาเหตุกันอยู่นาน แล้วในที่สุดก็พบว่า เหตุเกิดจากเบาะนั่งของน้องเจ็ด BMW 730i E32 คันที่ผมใช้สลับกับ E46 มันเกิดอาการ "เบาะทรุด" ขึ้นมาเสียเฉย ๆ แก้เรื่องเบาะแล้วอาการปวดหลังก็หายไป ทีแรกก็ไม่สงสัยหรอกครับว่าเหตุมาจากน้องเจ็ด แต่ผมลองไปนั่งเทียบดูระหว่างที่นั่งคนขับกับคนนั่ง และไปนั่งเทียบกับรถของคนอื่น เลยรู้ว่าโดนเบาะทรุดเล่นงานเข้าให้แล้ว
สำหรับภาพลักษณ์วัยรุ่นที่ได้จาก E46 ผมคงไม่หวงเท่าไหร่ เพราะเริ่มเจียมเนื้อเจียมตัวกับพุงที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ พอ ๆ กับหัวที่ขาวขึ้นเรื่อย ๆ (แม้จะตัดสกินเฮดแล้วมันก็ยังอุตส่าห์โผล่ตอขาว ๆ มาอวดชาวโลกอยู่ดี)
เดี๋ยวมาต่อ เมียเรียกไปซื้อกับข้าวครับ
-
ผมเคยผ่านช่วงเวลาเดียวกับเจ้าของกระทู้มาแล้วครับ :)
เมื่อ2ปีที่แล้วมีโอกาสได้เลือกซื้อรถ1คัน งบ650000บาท นั่งคิดอยู่หลายวันว่าอยากทำฝันตัวเองให้เป็นจริงดี หรือเลือกซื้อรถใหม่ป้ายแดงแล้วใช้ยาวๆ
สุดท้ายผมเลือกทำตามฝันครับ ถึงแม้นั้นจะเป็นเวลาไม่มาก(1ปี) ที่ได้ครอบครองรถที่ผมอยากได้ที่สุด :D
ทุกๆวันตอนเช้าเวลาผมตื่นนอน ผมจะรู้สึกดีใจและตื่นเต้นทุกครั้งที่จะได้ขับรถคันนั้น และช่วงเย็นอีกเหมือนกันที่มัวแต่จ้องเวลาให้เลิกงานไวๆ เพื่อที่จะได้ขับรถคันนั้นกลับบ้าน(ผมเป็นพนักงาน office ธรรมดา) :D :D
ขอให้ได้รถที่เหมาะและถูกใจเร็วๆนะครับ 8)
-
เอาละ
พี่พ่อพวงมาลัยครับ
คุณ Signifer ตอบไปหมดจนเกือบจะเกลียง งั้นผมแถมให้อีกหน่อยว่า
รีวิว Saab ทุกตัวที่เคยทำมา ตอนนี้อยู่ในส่วน Review ของ Healightmag.com ของเราแล้ว เข้าไปคลิ๊กอ่านได้เลยครับ
รถ 2 รุ่นนี้ ผมว่า คนละเรื่อง
มันขับสนุกเหมือนกัน แต่เป็นคนละสไตล์
E46 แน่นอนละ มันเป็นรถที่พวกยุโรปเรียกว่า Best Premium Compact Car in the World
หนึบ กระด้าง พวงมาลัย หนัก แต่คม ระยะฟรีน้อยๆ
แต่ 9-5 จะนุ่มกว่า เพราะเป็นอารมณ์ของ European Executive Family Saloon อยู่ดี
ช่วงล่าง ไม่ได้แข็งกระด้างแบบ BMW แต่เข้าโค้งแล้วมั่นใจได้ใกล้เคียงกัน หรือเผลอๆจะดีกว่าด้วยในบางครั้ง
ระยะฟรีพวงมาลัยอาจมากกว่านิดนึง แต่ ผมแฮปปี้ที่จะนั่งอยุ่ใน Cockpit ของ 9-5 มากกว่า E46
แถมเครื่องของ ซาบนั้น จะโมดิฟายต่อให้แรงขึ้นอีก ก็ย่อมได้ เอาชนิดว่า ออกตัวกันจนล้อหน้า ฟรีทิ้ง Torquesteer ไปเลยก็สบายๆ
แต่ทั้งหมดนี้ เราวัดกัน เมื่อวันที่ รถ ยังป้ายแดงทั้งคู่ หรือมีเลขไมล์ ไม่เกิน 20,000 กิโลเมตร
เพราะเมื่อมาดูค่าบริการหลังการขายในปัจจุบันแล้ว ผมชักไม่แน่ใจ
บานประตู ของ 9-5 นั้น ใครสักคน เคยเช็คราคาเอาไว้ให้ผมเมื่อปีที่แล้ว เขาบอกว่า บานประตูข้างเดียว เมื่อเคลมประกัน ราคาบานละ มี แสนบาท!!!!!!
ประตูนี้ พระเจ้าสร้างขึ้นเองหรือไงฟะเนี่ย?
อย่าเพิ่งเชื่อข้อมูลนี้จากผมนะครับ เช็คราคาก่อนอีกครั้งดีกว่า มันไม่น่าแพงขนาดนั้น
ข้อดีอย่างนึง ที่คุณ Signifer บอกคือ Autotechnic จะเช็คประวัติรถเอาไว้แทบทั้งหมด ครบเกือบทุกคัน
ดังนั้น ใช้เป็นฐานข้อมูล ของรถที่คุณกำลังคิดจะซื้อได้เลย
และในบางที ก็จะมีการจัดงานที่ศูนย์เพชรบุรีตัดใหม่นั่นละ
มีคนเอาซาบมาจอดฝากขาย ก็มี เจ้าของอาจจะอยากเอารถคันอื่นไปแลก มาแลก หรือแลกเป็นป้ายแดงคันใหม่ออกไปก็มี
ลองเข้าไปพูดคุยกันที่ www.saab-scot.com ครับ
-
ประตูบานละแสน! บร๊ะจ้าว
-
ขอบคุณสำหรับคำชมนะครับ ผมยังรู้เท่าหางอึ่งของคุณจิมมี่ (ถ้ามีเทสรถให้แพนโทรชวนกันบ้างก็จะแจ่มมิใช่น้อย 5 5 5 )
ประตูบานละแสน! บร๊ะจ้าว
ถึงต้องเรียกใช้บริการเซียงกงไงครับ อิอิอิ
จริงๆ อย่างที่บอกอ่ะครับ อะไหล่บางตัวมันแพงมากๆ(กรณีเบิกใหม่) แต่รถมือสอง ถ้าใจผมนะ ผมว่าหาของมือสองสภาพดีใส่แทนกันน่าจะเหมาะสมกว่า
แ่ต่พวกอะไหล่สิ้นเปลือง หรืออะไหล่ที่มันไม่ได้เปลี่ยนบ่อยๆ ของแท้ศูนย์หรือแท้จากนอก ถือว่าอยู่ในระดับราคาที่พอซื้อหาได้ครับ ไม่โหดมากนะ
พวกนี้ค่อยๆศึกษาครับ มันมีอะไรให้เล่นเยอะเลย สนุกดีครับ ยิ่งมีรถสลับใช้ การบำรุงรักษาไม่น่าจะใช่เรื่องใหญ่เลย
เมื่ออาทิตย์ก่อนผมไปล้างรถร้านประจำ ก็สนิทกันนะ คุยกันบอกว่าจะเลิกแต่งทีด้าแล้ว มันก็ถามว่าพี่จะไปเล่นอะไร ก็บอกว่าไปเอา SAAB900Draken มาคัน
มันก็นั่งคิดๆ ก็อ๋อออ มันบอกว่ารถเทพเลยหรือพี่.....ผมก็งงว่าเทพไงฟะ มันก็รถยุโรปยี่ห้อหนึ่ง....ผมว่าซาบน่ะยุ่งน้อยกว่าเปอโยต์อีกนะครับ
เปอโยต์บางทีทำแล้วไม่ค่อยจะยอมจบ เดี๋ยวเสียเดี๋ยวเสียอีกแล้ว(อะไหล่แท้เบิกห้างเบิกศูนย์) แต่ซาบทำแล้วจบอ่ะครับ แต่ก็ต้องรักษาตามระยะที่กำหนดนะ
เช่นฝา DI เสียที่แสนโล คือไม่ต้องรอให้ถึงครับ ใกล้ๆแล้วควรเปลี่ยนเลยอะไรทำนองนี้ แต่บ้านเราส่วนมากมักจะใช้จนพังค่อยเปลี่ยน อันนี้ผมไม่ค่อยเห็นด้วย
คือบางอย่างควรเคร่งครัดครับ เพราะรถ คือสิ่งที่เราฝากชีวิตไว้เวลาอยู่บนท้องถนน ยังไงก็ต้องทำให้มันเซฟชีวิตเราได้จริงๆ
ส่วนเรื่องอะไหล่ของ 9-5 อันนี้ผมไม่ทราบจริงๆว่าแต่ละตัวจะโหดร้ายขนาดไหน แต่มันก็ไม่ได้เสียกันง่ายๆนะครับ อย่างเซอร์วิสที่ศูนย์เพชรเอง ถ้าไม่เสีย หรือเริ่มเสียจริงๆ ช่างเขาก็ไม่เปลี่ยนให้คุณน่ะครับ
ถ้าเป็น Peugeot 405 / Tiida / Saabบ้างเล็กน้อยยังไม่โปรครับ......ถามกันได้ครับ 405 นี่เล่นมาจนทะลุแล้วอ่ะครับ
พอมันเล่น N/A จนเบื่อ ก็ต้องขยับมาเล่น Turbo ครับ เป็นสเตบ อิอิอิ
-
ใจจริงผมก็แอบปลื้ม
900 Derken 3Dr
กับ
9-5 wagon 2.0t { ที่เล็ก ( t ) ก็พอใจแล้ว , ที่ใหญ่ ( T ) ไม่น่าจะไหว เพราะมันท่างทางจะสูบแรงเหลือเกิน ทั้งอากาศ และ น้ำมัน!!!}
ว่าแต่...ตอนปีที่แล้วอยากมีตังค์สัก 6.5 แสนจังเลย - -
เพราะเพื่อนผมมันปล่อย 9-5 wagon 2.0t ไปอ่า... ทั้งปรับแต่งเทอร์โบ และแต่งหัวฉีดไปเรียบร้อย แต่งจาก 0 ด้วย - - รวมๆแล้วก็มีม้าอยู่ในคอกประมาณ 210 ตัวเห็นจะได้ ง่า....... เคยขับคันนั้นแล้วประทับใจยังไม่หายเลย
ปล. ยังหาตังค์ไม่ได้เลย ดันใฝ่สูง - -
-
สงสัยว่าเปลี่ยนวิธีการน่าจะดีกว่านะเนี่ย
เก็บไอ้เจ้า E46 ไว้ แล้วไปหา 900s Draken 3 ประตูมาแต่งเล่นดีกว่า ;D
-
ถ้าเป็นเช่นนั้น พี่จะประหยัดตังค์ไปได้เยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ครับ
-
สงสัยว่าเปลี่ยนวิธีการน่าจะดีกว่านะเนี่ย
เก็บไอ้เจ้า E46 ไว้ แล้วไปหา 900s Draken 3 ประตูมาแต่งเล่นดีกว่า ;D
เอาไว้เกี่ยวหญิง ;D
-
ซาบ จงฟื้นคืนชีพอีกครั้ง