Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: oayaka ที่ สิงหาคม 16, 2014, 14:28:40
-
พอดีเมือ่วานผมได้ดูข่าวว่าจะยกเลิกกองทุน ราคาน้ำมันจะลดลง
พี่ๆช่วยอธิบายหน่อยครับ ว่ามันเป็นยังไง ดีหรือไม่ ใครได้ใครเสียครับ
และมันจะมีผลกับตลาดรถมือ2 ไหมครับ
-
กองทุนน้ำมัน มีไว้ ทำให้ราคาเบนซินขึ้น แต่ ราคา LPG ครัวเรือน คงที่ (ถังก๊าซหุงต้ม)
ถ้าเลิกกองทุนน้ำมัน ก๊าซหุงต้ม ก๊าซLPG เติมรถยนต์ ขึ้นแน่นอนครับ
เรื่องนี้ เข้าดราม่าง่าย อยากให้ย้ายไปอยู่ใน Relax นะครับ ฝาก admin ด้วยครับ
-
ยังไม่แน่ครับ จุดประสงค์หลักของกองทุนเมื่อก่อตั้งนานมาแล้ว คือเป็นตัว buffer เมื่อราคาน้ำมันในตลาดโลกมีความผันผวน ด้วยวิธีง่ายๆคือใช้เงินกองทุนอุดหนุนเมื่อราคาขึ้นสูง แล้วเก็บเงินคืนกองทุนเมื่อราคาลดต่ำลง
ในเวลาต่อมา มีการใช้กองทุน และกลไกทางภาษี ในการ Cross subsidy เพื่อการสนับสนุนทางราคา การใช้ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและก๊าซบางตัวเช่น E85, E20, หรือไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบทางราคา เช่น LPG แต่ต้องเก็บเงินจาก เบินซิน, E10 มาสนับสนุนกองทุน
การใช้กองทุนเป็นการบิดเบื่อนโครงสร้างราคาเพื่อจุดประสงค์ข้างบน ข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งที่ต้องคำนึงก็คือ น้ำมันทางเลือกเช่น Ethanol E85, E20 จะเกิดไม่ได้ถ้าไม่มีการช่วยด้านราคา ethanol ไม่ถูกนะครับ
ปัญหาหลักของกองทุนคือ LPG ที่ไม่ควรอุดหนุน ซึ่งก็มีความพยายามที่จะขึ้นราคา LPG (โดยลดการอุดหนุน)
หวังว่าคำตอบนี้ช่วยอธิบายได้ เรื่องนี้ไม่ง่ายครับ
-
ความเห็นส่งนตัวคือกองทุนเอาไว้จัด promotion เพื่อ promote พลังงานที่รัฐอยากให้ประชาชนใช้ และ เอาไว้ตรึงราคาเพื่อหาเสียงเท่านั้น
-
หาอ่านดูในเฟส - ความไม่รู้ พลังงานไทย,แฉความจริง ทวงคืนปตท ดูครับ คงกระจ่างพอควร ไม่รู้อะไรถาม Admin ดูครับ
-
ประเด็นมันจะไม่ดราม่า ถ้าแยกระหว่าง 2 เรื่องนี้ชัดเจน
1. หน้าที่กองทุนน้ำมัน
คือการเป็น Buffer สำหรับไม่ให้เกิดความผันผวนรุนแรงของราคา อย่างที่ท่านบนบอก
ก็คือ เก็บภาษีจากน้ำมันก่อนเป็นราคาขายปลีกถึงผู้บริโภค เข้ากองทุน ในกรณีที่เกิดส่วนต่างจากราคาตลาดสิงคโปร์
ที่จะส่งผลกระทบ กองทุนน้ำมันก็จะไปช่วยสำรองให้มันค่อยๆ เกิดโฟลว์ของมันแบบช้าๆ หรือถ้าระยะสั้นก็ช่วยตรึงราคาได้พักหนึ่ง
การมีกองทุนน้ำมันทำให้เกิดการการันตีว่า เราจะมีเงินทุนสำรองด้านพลังงาน เพราะแหล่งพลังงานของเราไม่มีสำรองมากนัก
เรามีแต่ศักยภาพการกลั่น แต่ปิโตรเลียมที่เรากลั่นถูกเอาไปใช้รูปแบบใดก็อีกเรื่องหนึ่ง
2. นโยบายรัฐ ณ ขณะนั้นๆ
ต้องการโปรโมตการใช้พลังงานรูปแบบใด มีความเหลื่อมล้ำเป็นพิเศษหรือไม่
อย่างการตรึงราคาดีเซล, กดราคา E85 หรือเบรกราคา LPG อาจจะพิจารณาใช้เงินอุดหนุนจากกองทุนน้ำมัน
ส่วนที่เป็นปัญหาก่อนหน้านี้ก็คือ ฝั่งเบนซินโดยเฉพาะเบนซินที่ไม่ใช่โซฮอล์ ถูกเก็บภาษีลิตรละ 7-8 บาทได้มั้ง
เพื่อเอามาเป็นฐานรองรับการไม่ขึ้นราคา LPG ตามตลาดโลก เพราะเหตุผลว่ากระทบทั้งครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรมด้วย
แต่ในส่วนของ CNG เอง เราคงเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ขน CNG ทางรถยนต์ (ใช้ดีเซลลิตรละ 30 ขนแก็สลิตรละ 7 บาท กิโลละ 10.50 บาท)
หรืออย่าง E85 ที่ทุกวันนี้ผันงบอุดหนุนลิตรละ 11.60 บาท และมีคนใช้มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะต้องการส่งเสริมพลังงานทดแทน
แต่จริงๆ ราคา ณ หน้าโรงกลั่น E85 แพงที่สุดในฝั่งเบนซิน (เบนซินเพียวๆ ออกหน้าโรง 25 บาท/ลิตร E85 อาจจะราวๆ 28-30 บาท/ลิตร)
ลองดูเว็บ EPPO จะมีรายละเอียดค่าใช้จ่ายแต่ละส่วนชัดเจนครับ