Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: as909za ที่ กันยายน 17, 2014, 10:02:39
-
มีงบอยู่ประมาณ 4.5 ล้าน เลือกรถค่ายไหนดีครับ ส่วนตัวไม่เคยเล่น Premium มาก่อนเลย แล้วก็เป็นคนใช้รถแบบยาว 5-7 ปี (วิ่งปีละ 50,000 km โดยประมาณ) อยากจะลองขับรถแบบ Premium สักครั้งรบกวนช่วยแนะนำหน่อยครับ
ที่ผมเล็งๆไว้ก็มีตามนี้ (ถ้ามีนอกเหนือจากนี้รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะครับ ขอบคุณครับ)
1. Bmw 525d ประสิทธิภาพของตัวรถเวลาใช้ระยะยาวจะคุ้มไหมครับ จุกจิกไหมเวลาใช้ไปนานๆ ค่าซ่อมหลังหมดประกันจะขนาดไหนครับ บริการหลังการขายของศูนย์ และอู่ซ่อม bmw ที่ไว้ใจได้ หายากไหมครับ เดี๋ยวนี้
2. Lexus gs 300h เรื่องการขับขึ่เทียบกับค่ายยุโรปได้ไหมครับตัวนี้ ค่าดูแลจะแพงเหมือนรถยุโรปไหมครับ จุกจิกไหมเวลาใช้ไปนานๆ บริการหลังการขายของศูนย์ และ อู่ข้างนอกหาซ่อมยากไหมครับ
3. Subaru Legacy 2.5 ค่าดูแลจะแพงเหมือนรถยุโรปไหมครับ จุกจิกไหมเวลาใช้ไปนานๆ บริการหลังการขายของศูนย์ และ อู่ข้างนอกจะหาทำยากไหมครับ
-
Mercedes cls
-
3 activehybrid
-
จากโจทย์ วิ่งปีละ 50,000 km
วิ่งเยอะๆต้องเครี่ื่อง ดีเซล เท่านั้น และถ้าใช้รถเยอะขนาดนี้
ผมว่าไป BMW เถอะครับ BSI ช่วยได้เยอะมากครับ
-
งบ 4.5 ล้านนี่จัดได้หลายคันเลยครับ ทั้ง Audi, BMW, Benz, Lexus, Volvo
ต้องถามท่าน จขกท ต้องการประมาณไหน sedan SUV หรือขอแค่เป็น premium และต้องการภาพลักษณ์ประมาณไหน
ถ้าแบบว่าดูดีที่สุด ดูหรูหรา ดูรวย ก็ไป CLS เลยครับ เพิ่มงบหน่อยจบเลยครับ
หรืออยากดูเด่นไม่ซ้ำใคร ก็ประมาณ Audi A4, Audi Q5, Range Rover Evoque
ตัวเลือกมีเยอะมากครับ scope ความต้องการลงหน่อยจะได้แนะนำกันได้ตรงประเด็นกว่านี้ครับ
แต่ถ้าเลือก 3 คันที่ จขกทเลือก 525d ผมว่าดูดี ลงตัวที่สุด และครบครันในทุกด้านครับ
-
วิ่งปีละ 50,000 กิโลเมตร ใช้รถ 5-7 ปี แสดงว่าอย่างน้อยต้องใช้รถ 250,000 ใช้เครื่องดีเซลคุ้มครับ
525d ผมไม่ทราบข้อมูลว่าใช้ไปยาวๆ แล้วจะเป็นยังไงแต่จากข้อมูลของบ้านพี่เขยที่ใช้ 520d E60 เค้าบอกว่ารถยังใช้ได้ดีอยู่
Lexus อยากให้ดู ES 300h ที่คุณจิมมี่ได้รีวิวไว้ผมว่ารถน่าใช้ทีเดียวช่วงล่างเกาะถนนดีแถมไม่ตึงตังซะด้วย คันนี้มีรีวิวนะครับลองอ่านดูครับ
อยากให้ลองดู E300 เพิ่มอีกคันครับ เป็นรถที่ขับแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ ไม่หวือหวาแต่สวยและประหยัดน้ำมันสุดๆ คันนี้ก็มีรีวิวนะครับลองไปอ่านดูครับ
-
ใช้ปีละ 5 หมื่นโล...BSI 2 ปีก็หมดแล้วครับ ทีเหลือก็ลุ้นเอาตัวใครตัวมัน
MB ได้ประกัน 3 ปีไม่จำกัดระยะทางแต่ E300 diesel hybrid ผมว่ายังไม่เสถียรพอกับงานหนักแบบนั้น ส่วนตัวเลือกอื่นไม่มี
ใจคงแนะนำ Lexus NX300h ประหยัดน้ำมันพอๆกับ diesel ยุโรป แต่ได้ประกัน 4 ปีไม่จำกัดระยะทาง ซึ่งน่าจะตรงกับโจทย์ จขกท. ที่สุดแล้ว
เรื่องศูนย์บริการ Lexus ไม่เป็นรองใครในปฐพีนี้ครับ
-
จากสามตัวที่ให้มาผมขอจิ้มไปที่ Lexus ครับ
-
ผมชอบ SUV ครับ
ลองดู MB250 cdi Excutive เป็น AWD ด้วย
-
ใช้รถโหดขนาดนี้ bmw ตัดทิ้ง หมด bsi คงเอาการ
subaru ตัดทิ้ง 0 น้อย เพื่อนน้อย รออะหลั่ยคงอ่วม
คงต้อง lexus แล้วหละครับ
-
Boxter ครับ
-
CLS facelift ครับ
-
จากสามตัวที่ให้มาผมขอจิ้มไปที่ Lexus ครับ
ใช้รถโหดขนาดนี้ bmw ตัดทิ้ง หมด bsi คงเอาการ
subaru ตัดทิ้ง 0 น้อย เพื่อนน้อย รออะหลั่ยคงอ่วม
คงต้อง lexus แล้วหละครับ
ใช้ปีละ 5 หมื่นโล...BSI 2 ปีก็หมดแล้วครับ ทีเหลือก็ลุ้นเอาตัวใครตัวมัน
MB ได้ประกัน 3 ปีไม่จำกัดระยะทางแต่ E300 diesel hybrid ผมว่ายังไม่เสถียรพอกับงานหนักแบบนั้น ส่วนตัวเลือกอื่นไม่มี
ใจคงแนะนำ Lexus NX300h ประหยัดน้ำมันพอๆกับ diesel ยุโรป แต่ได้ประกัน 4 ปีไม่จำกัดระยะทาง ซึ่งน่าจะตรงกับโจทย์ จขกท. ที่สุดแล้ว
เรื่องศูนย์บริการ Lexus ไม่เป็นรองใครในปฐพีนี้ครับ
Lexus รถเขาเรื่องประสิทธภาพ ฟิลลิ่ง การขับขี่โอเค ความคงทน การซ่อมบำรุง ราคาอะไหล่ แพงไหมครับ แล้ว gs300h นี่ขับหน้าหรือหลังครับ ขอบคุณครับ
-
ตามตัวเลือก จขกท
1. Bmw 525d -> วิ่งเยอะผมว่าดีเชลโอเคครับ
2. Lexus gs 300h -> มันคือไฮบริด ไม่น่าจะเหมาะวิ่งไกลๆน่ะครับ คันนี้อะไหล่ร่วมโตต้าได้ เวลาซ่อมน่าจะโอเคครับ(0นอก) ถ้าเชอร์วิส lexus ผมว่าเอาเรื่องอยู่
3. Subaru Legacy 2.5 -> ตัวนี้ไม่น่าจะเข้าข่าย พรีเมี่ยม น่ะครับ (รึผมเข้าใจผิด)
ส่วนตัวไม่ชอบสไตล์ BSI ของ BMW ครับ เหมือนเหมาะกับ คนขับรถน้อยมากกว่า ในที่นี้จอดเก็บ (5ปี 100,000โล)
ถ้าคิดตามคนที่ใช้รถหนักๆ ระยะทางเยอะๆ ไม่ต่างอะไรกับ ประกันคุณภาพรถตลาดเลย
// เชียร์ Benz ครับ เพราะได้ 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง เลยปีที่ 3 ไปผมว่าอะไหล่น่าจะเบากว่า BMW พอสมควร
E300 AMG Facelift 4.19ล
CLS 250 Facelift 4.49ล
ML 250 4.59ล
แต่ถ้าไม่โดน หรือ ต้องเอาตามตัวเลือก ก็
Lexus
525D -> หรือ ลงไป 520D เก็บเงินไว้บำรุงรักษาในอนาคต
Legacy
ตามลำดับครับ
-
ถ้าวิ่งเยอะขนาดนี้ 3ปี ไม่จำกัดระยะทางของ Benz น่าจะลงตัวสุดครับ
เพราะส่วนมากทุกยี่ห้อติดตรงเลขไมล์ทั้งนั้นคือไม่เกิน 100,000 หรือ3ปี หรือ5ปี ก็ว่ากันไปแล้วแต่ระยะใดถึงก่อน
แนะนำ CLS 250CDI ไม่ก็ ML250CDI ครับ ดีเซลใช้ยาวๆวิ่งเยอะๆคุ้มเลย
-
จากโจทย์ วิ่งปีละ 50,000 km
วิ่งเยอะๆต้องเครี่ื่อง ดีเซล เท่านั้น และถ้าใช้รถเยอะขนาดนี้
ผมว่าไป BMW เถอะครับ BSI ช่วยได้เยอะมากครับ
ถ้าขับหนักปีละ 50,000 โล BSI หมดตั้งแต่ปีที่ 2 แล้วครับ
วิ่งต่อปีเยอะขนาดนี้ขอเดาว่าใช้งานต่างจังหวัดด้วยผมว่า
น่าจะไปเล่นพวก SUV ก็ดีนะครับขับสบายกว่าช่วงล่างทนทานเพิ่มมาอีกหน่อย
ถ้าผมเองใช้รถเยอะขนาดนี้ผมไม่ลงทุนซื้อรถแพงมากเอามาวิ่งปีละ 5 หมื่นเพราะขายต่อจะไม่เหลือเลย
และการบำรุงรักษาจะหนักมากเป็นผมจะซอยงบแบ่งออกเป็น 2 คันรถใช้งานคันนึงและขับไปเที่ยวหรือแบ่งสลับวิ่งเอาครับ
-
ถ้ายอมรับเสียงเครื่องได้ก้ 525d หรือ 420d GC แต่ถ้าเอาเบนซินซึ่งขับมันกว่า ดึงทุกรอบความเร็วก้ 528i หรือ 420i GC ส่วนตัวผมเชียร์ เบนซินคับ diesel ขับนานๆไปเบื่อคับดึงหลอกๆตอนต้นคับยิ่งกดรถยิ่งไม่ค่อยวิ่งแล้วอีกอย่าง เครื่องไม่ได้ทนไปกว่า เบนซินหรอกคับ หรือจะข้ามไป CLS ตัวล่างก้ได้นะคับ แต่สมรรถนะเป็นรอง 525d คับ ถ้าจะเอา performance ล้วนๆ 3 activehybrid เลยคับ ส่วน GS 300h ถ้าใช้ในเมืองเยอะก้น่าสนใจแต่ผมว่ารถมันแนวต้องมีคนขับน่าจะเหมาะกว่าคับ ดูจากไมล์ที่บอกมา ปีละ 50,000 ผมว่าไม่น่าวิ่งอยู่ในเมืองคับ ถ้าเป็นผม ถ้าขับ 2 ประตูได้ 420i & d coupe เลยคับมันสวยมาก
-
เอา Lexus
รับประกัน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทา
ที่เหลือเจอค่าซ่อม ค่าบำรุงรักษาอ่วมครับ
-
ขับรถทางปกติเปล่าครับ
นั่งกี่ชน
ชอบแนวสปอร์ตเปล่าครับ
ถ้าใช้ CLS. เลยครับ
เพิ่มจาก 525D. แต่วัสดุภายในคนละเรืองเลยครับ
แต่ความแรงไม่สู้ 525d. แลกกับความหรูหร่า ครับ
-
ในแง่ ภาพลักษณ์ และความคุ้มค่าราคา เล็กซัสอาจแพงเกินไป
แต่อ่านดีๆ แล้ว เจ้าของกระทู้ ใช้รถ ปีละ 50,000 กิโลเมตร ถือว่าหนักมาก
รถใช้งานหนัก อุปกรณ์ต่างๆ จะได้ซ่อมมากขึ้น
จากลิสต์ที่ไล่มา เล็กซัสน่าจะโอเครสุดแล้วครับ
-
-เพิ่งจะเปลี่ยนแนว งั้นผมขอเชียร์รถฝั่งยุโรปก่อน
อย่างน้อยก็ได้บรรยากาศที่แตกต่าง ทั้งรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส
-hybrid ใช้ 2 ปี แสนโล เกรงว่าจะต้องพะวงกับค่าซ่อมบำรุงก่อนเวลาอันควร
-BMW bsi ที่แสนดูดี แต่ใช้แค่ 2 ปีหมด ก็ไม่คุ้มอีก
-ด้วยงบที่บอกมา ขายรถเก่า แล้วซื้อใหม่ 2 คันน่าจะพอดีๆ
1. 520d bsi 5 ปี ก็ใช้ปีละ 20,000 - 25,000 km
ด้วยช่วงล่างที่ยอด เครื่อง/เกียร์ที่ดี ผมว่าได้บรรยากาศพรีเมียมอยู่นะ
2. Hyundai H1 / Fortuner / MU-X / CX-5 คันไหนก็ได้ เอาไว้วิ่งให้สุดขอบฟ้าไปเลย
ไม่ต้องไปแคร์รับประกันกี่ปี กี่กิโล อยากไปไหน สตาร์ทรถ ลุยเลย
--------------------------------------------------
ข้อมูลรถผม ที่ใช้วิ่ง ตจว. (ใช้เยอะคล้ายๆ จขกท.)
คู่หูปัจจุบัน
1.520d F10 รถ 10 เดือน ตอนนี้ 18,000 km.
2.Hyundai H1 รถ 2 ปีครึ่ง ตอนนี้ 88,000 km.
คู่ที่เริ่มปลดระวาง
3.520d E60 รถ 7 ปี ตอนนี้ 140,000 km.
4.Isuzu Trooper CDi รถ 13 ปี ตอนนี้ 230,000 km.
ทั้ง 4 คันยังใช้อยู่ และอยู่ในสภาพที่ดีพร้อมเดินทางเสมอ
ค่าซ่อม BMW หลังหมดประกัน ก็ไม่มีไรน่ากลัวครับ ไหวแน่นอน
ถ้าใช้คันเดียว ตอนนี้คงโทรมมิใช่น้อย แถมคันนึงซ่อม ก็ยังมีรถใช้
ช่วยแชร์ประสบการณ์ครับ ;D
-
BMW 320d GT อันนี้ชอบส่วนตัวครับ
ใหม่ๆก็ BMW X4 ก็สวยนะครับ
-
Legacy 2.5 GT ครับ
เหตุผล (ข้อดี)
1. AWD ของ Subaru ไม่ใช่ขับสี่กล้าๆกลัวๆ แบบ CR-V เห็นนุ่มๆนี่เกาะอย่างกับตุ๊กแก ขับรถเยอะๆ Active Safety อย่าง AWD อาจดีกว่าถุงลมเพราะคงไม่มีใครอยากใช้
2. เป็นรถญี่ปุ่น ซ่อมง่ายไม่จุกจิก (ใช้ Impreza 6 ปียังไม่เคยนอนอู่เลย ยกเว้นซนเอง) เป็นโมเดลที่ขายทั่วเอเชียและญี่ปุ่น อะไหล่หายห่วง ใช่สักพักหาหัวตัดมาเก็บเป็นอะไหล่ยังได้ เครื่องตัวนี้เป็นเครื่องรหัส EJ255 265 ม้า (ตัวที่อยู่ใน WRX STi เป็น EJ257 มี 300 ม้า) ซึ่งอู่ซูบารุทุกอู่ซ่อมได้และชำนาญด้วยซึ่งอู่ซูบารุเก่งๆเยอะมากทั่วกรุง
3. ระบบไม่ซับซ้อน รถยุโรปและรถญี่ปุ่นอย่าง Lexus มีข้อเสียที่ระบบไฟฟ้าและสมองกลมีเยอะจนเวลาเสียแล้วเจ็บตัวสุดๆ แล้วยิ่งจะขับเยอะด้วยแล้วโอกาสเสียยิ่งมีมาก ยิ่ง BMW ถ้าใช้เกิน BSI ซ่อมทีอ๊วก MB รุ่นใหม่ในไทยตอนนี้ E300 ก็เห็นว่าตอบรับกันไม่ค่อยดี ส่วน Lexus ระบบ Hybrid แม้จะใกล้เคียงคำว่าสมบูรณ์ที่สุดแต่สำหรับตลาดในเมืองไทยคงต้องได้รับการพิสูจน์ต่อไปในเรื่องความทนทานหากใช้เยอะๆ
4. โปร 0% 48 เดือน ส่วนลดอีกเยอะ เพราะ ขายไม่ค่อยได้
ข้อเสีย
1. คนไม่รู้จัก ไม่เสริมสร้างภาพลักษณ์ ไม่หรูหรา
2. ขายต่อยากเน้นขายในกลุ่ม แต่ราคาตกไม่โหดเท่ารถ ยุโรป และ Hybrid ถ้าช่วงเศรษฐกิจไม่ดีติดมือเจ้าของไม่ออกเลย
3. ศูนย์งั้นๆ ถ้ารุ่น Turbo ถ้าเป็นอะไรเยอะๆคงต้องวิ่งเข้าเสรีไทยที่เดียว
4. แพงเพราะภาษี
5. Club online ไม่แน่นเหมือน BMW MB ทั้งข้อมูลและการตอบคำถาม แต่ก็มีสมาชิกแบบเทพๆ ไปเลยก็มี แต่ไม่เยอะเท่า MB
-
ทุกยี่ห้อที่กล่าวมาปัญหาคือ ถ้าขับทางไกลบ่อยๆ ด้วย เหนื่อยครับ อาจได้กินข้าวลิงเนื่องจากศูนย์บริการไม่ได้มีแพร่หลาย แต่บริการยกรถนี่ดีมากครับ สำหรับรถที่ผมใช้อยู่ครับ บริการดี แต่ต้องรอ
ใช้เยอะแสดงว่ารถสำคัญในการงาน จะเสียเวลามากกกกกกก แค่ยางแบนก็หนาวแล้วครับ ประเภท ทิ้งรถรอยางกันเลย runflat ไม่เหมาะ เงินมีแต่ไม่มียางให้เปลี่ยนอิอิ เพราะเค้าไม่ค่อยสต๊อกของ ต้องรอมาส่ง อิอิ ผมใช้ปีละประมาณ 30000 ยังต้องมี รถสำรองอีกคันเลย
ใช้เยอะผมเลือก ml ครับ
-
แนะนำ Lexus NX300h ไปต่างจังหวัดเข้าศูนย์พี่โต ได้ทุกที สะดวกสะบาย ขับไกลๆ นุ่มไม่เหมื่อยครับ
-
จากโจทย์ที่ให้มา และตัวเลือกที่ให้มา
ตัด bmw ออก ครับ เพราะ ว่า bsi ประกันไม่เกิน 100,000 กม คุณน่าจะหมดใน 2 ปี
น่าเลือก lexus มากกว่า เพราะประกัน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และ ระบบ hybrid รับประกัน 5+5 ปี น่าจะไม่มีปัญหากับการกังวลใจเรื่อง hybrid ส่วนจะเป็น es gs หรือ lx ตามชอบเลยครับ เชียร์ lexus มากสุดในตัวเลือก
ส่วน legacy ก็น่าสนใจ ขับดี แต่ ถ้าเสียที่ ตจว อาจลำบากเรื่อง รอ อะไหล่ ครับ
ที่แนะนำ นอกตัวเลือกคือ
ml 250 หรือ cls 250 อยู่ใกล้เคียงงบของท่าน เป็น diesel ไม่มี hybrid น่าสนใจ และ ประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
-
Lexus GS เลยครับ
ถ้าเป็นเงินเรา เอารถที่เราชอบครับ อย่าเอารถที่คนอื่นชอบ
-
ใช้เยอะถึงปีละ 50,000
ผมว่าเลือกรถที่เป็นดีเซล หรือ เลือกรถที่ประกันโดยปี ไม่จำกัดระยะทางคุ้มกว่าครับ
อย่างกรณีนี้ ผมว่า มีแค่ 2 ยี้ห้อ
เบ็นซ็ 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง วิ่งได้ 150,000
เล็กซัส 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง วิ่งได้ 200,000
เพราะ
บีเอ็ม 2 ปี วิ่งได้ 100,000 หมดแล้ว
พูดง่ายๆ คือ เริ่มออกตังซ่อมเองช้ากว่าไป 1-2 ปีนะครับ
ส่วนรุ่นอะไร ก็ตามชอบเลยครับ ถ้าเป็นดีเซลได้ก็ยิ่งดี
-
Lexus gs นี่ขับหน้าหรือขับหลังครับ แล้วมีใครเคยลองรุ่นบ้างหรือยังว่าเป็นยังไง การขับขี่ ความนุ่มสบาย อะไรพวกนี้อะครับ เพราะราคาก็โดดไปกี่ 4.3 ล้าน แล้วครับ ขอบคุณครับ
-
Lexus gs นี่ขับหน้าหรือขับหลังครับ แล้วมีใครเคยลองรุ่นบ้างหรือยังว่าเป็นยังไง การขับขี่ ความนุ่มสบาย อะไรพวกนี้อะครับ เพราะราคาก็โดดไปกี่ 4.3 ล้าน แล้วครับ ขอบคุณครับ
ขับหลังครับผม
-
Lexus gs นี่ขับหน้าหรือขับหลังครับ แล้วมีใครเคยลองรุ่นบ้างหรือยังว่าเป็นยังไง การขับขี่ ความนุ่มสบาย อะไรพวกนี้อะครับ เพราะราคาก็โดดไปกี่ 4.3 ล้าน แล้วครับ ขอบคุณครับ
ขับหลังครับผม
ขับหลัง ญี่ปุ่น เทียบ กับขับหลังยุโรปได้ไหมครับ เช่น GS กับ f10 ขอบคุณครับ
-
Lexus gs นี่ขับหน้าหรือขับหลังครับ แล้วมีใครเคยลองรุ่นบ้างหรือยังว่าเป็นยังไง การขับขี่ ความนุ่มสบาย อะไรพวกนี้อะครับ เพราะราคาก็โดดไปกี่ 4.3 ล้าน แล้วครับ ขอบคุณครับ
ขับหลังครับผม
ขับหลัง ญี่ปุ่น เทียบ กับขับหลังยุโรปได้ไหมครับ เช่น GS กับ f10 ขอบคุณครับ
GS300h ผมก็ไม่เคยขับนะครับ แต่รีวิวเมืองนอกหลายสำนักเค้าชื่นชมว่าขับดีมาก ลองหาอ่านดูได้ครับ จะเน้นความนุ่มนวลในการขับขี่เป็นหลักตามสไตล์ Lexus
ทางที่ดีไปลองเองเลย จะตอบได้ดีสุดครับผม
-
Lexus gs นี่ขับหน้าหรือขับหลังครับ แล้วมีใครเคยลองรุ่นบ้างหรือยังว่าเป็นยังไง การขับขี่ ความนุ่มสบาย อะไรพวกนี้อะครับ เพราะราคาก็โดดไปกี่ 4.3 ล้าน แล้วครับ ขอบคุณครับ
ขับหลังครับผม
ขับหลัง ญี่ปุ่น เทียบ กับขับหลังยุโรปได้ไหมครับ เช่น GS กับ f10 ขอบคุณครับ
GS300h ผมก็ไม่เคยขับนะครับ แต่รีวิวเมืองนอกหลายสำนักเค้าชื่นชมว่าขับดีมาก ลองหาอ่านดูได้ครับ จะเน้นความนุ่มนวลในการขับขี่เป็นหลักตามสไตล์ Lexus
ทางที่ดีไปลองเองเลย จะตอบได้ดีสุดครับผม
ขอบคุณสำหรับทุกๆคำแนะนำมากครับ
-
ผมใช้ 525d f10 มา 2 ปี บอกได้เลยว่า รถ BMW ปัจจุบัน ทำได้ดีมากครับ สองปีแรกไม่มีอะไรจุกจิกกวนใจเลย รถดีเซลคงทนถาวรสมคำร่ำลือ
BSI ลองคุยกับ BMW ดูนะครับ รู้สึกว่ามีออปชั่นซื้อเพิ่มระยะ หรือเพิ่มปีได้ คุยก่อนออกรถอาจมีรูปแบบที่เหมาะกับเราครับ
ในแง่ฟีลลิ่งการขับขี่ การเบรค พวงมาลัย ผมว่า 525d ชนะเลิศ ขับทางไกลนี่หายห่วงเลยครับ นอกจากนี้ยังประหยัดน้ำมันมากจริงๆ สามตัวเลือกนี้ผมเชียร์ 525d แน่นอนครับ
ข้อติ 525d สำหรับผมคือ ประตูปิดยาก และกระโปรงหลังหนักไป และหาที่จับยากต้องใช้สองมือ นี่ถ้ามีออปชั่นประตูดูด กับกระโปรงหลังไฟฟ้า ผมซื้อเพิ่มแน่นอน ไม่รู้ตัว Minor change มีออปชั่นนี้แล้วยัง ประตูเป็นอลูมิเนียมเลยเบา ปิดต้องใช้กำลังเยอะ ผมใช้มาสองปี ก็ยังมีบ่อยครั้งที่ปิดเบาไป ส่วนกระโปรงหลังนี่ออกแบบมาต้องใช้ไฟฟ้า แต่พอตัดออปชั่นนี้ออก คนใช้งานจะลำบากหน่อย คือต้องล้วงไปในรถ ต้องใช้กำลังเยอะในการปิด หรือไม่ก็ต้องจับส่วนนอกกระโปรงหลังให้มือเลอะได้
แต่ overall เป็นรถที่ดีมากครับ
-
bm ผมว่ายังทนสู้รถญี่ปุ่นไม่ได้เลย รถญี่ปุ่นจะไม่ค่อยมีปัญหาจุกจิก แล้วดูแลง่าย เพราะพวกระบบอะไรแบบนี้มันไม่ซับซ้อน ส่วน subaru นี่โดดเด่นเรื่อง AWD พวกช่วงล่างหนึบ เกาะถนน โครงสร้างรถแข็งแรง ศูนย์บริการมีน้อยหน่อย แต่หาอู่นอกไม่ยากหรอก อู่เก่งๆเดี๋ยวนี้ก็มีเยอะ อยากได้ทนๆ ผมว่าไป subaru หรือ lexus ดีกว่า