Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Micjty ที่ กันยายน 18, 2014, 01:23:47
-
พอดีเมื่อวานผมนั่งรถเมล์แล้วรถติดนานมาก ไม่มีอะไรทำก็เลยนั่งสังเกตมองรถบนถนนไปเรื่อยๆ ก็เลยพึ่งสังเกตเห็นว่าพวกรถตู้ Hatchback SUV PPV เกือบทุกรุ่นมีใบปัดน้ำฝนข้างหลัง (Alphard Velfireไม่มี) ก็เลยสงสัยว่า ทำไมต้องมีใบปัดน้ำฝนข้างหลังด้วยครับ??? แล้วรถเก๋งทั่วๆไปไม่ต้องมีหรอครับ???
-
ความเห็นส่วนตัวนะครับ รถยนต์ท้ายตัด Van Hatchback SUV PPV
อากาศหมุนวนด้ายท้ายรถเยอะพอสมควร ทำให้เมื่อขับบนถนนที่มีฝุ่น
เกิดคราบฝุ่นเกาะอยู่บริเวณกระจกหลังค่อนข้างเยอะกว่ารถยนต์ Sedan Saloon
เพื่อทัศนวิสัย การมองเห็นที่ดี จึงจำเป็นต้องมีที่ปัดน้ำฝนด้านหลังมาให้
ส่วน Alphard Velfire Evoque หรือรถหรูราคาแพงบางรุ่น มีที่ปัดน้ำฝนหลังให้เช่นกัน
แต่จะซ่อนอยู่ใต้ Spoiler ครับ
-
เพิ่มเติมรูปให้ครับ
-
ความเห็นส่วนตัวนะครับ รถยนต์ท้ายตัด Van Hatchback SUV PPV
อากาศหมุนวนด้ายท้ายรถเยอะพอสมควร ทำให้เมื่อขับบนถนนที่มีฝุ่น
เกิดคราบฝุ่นเกาะอยู่บริเวณกระจกหลังค่อนข้างเยอะกว่ารถยนต์ Sedan Saloon
เพื่อทัศนวิสัย การมองเห็นที่ดี จึงจำเป็นต้องมีที่ปัดน้ำฝนด้านหลังมาให้
ส่วน Alphard Velfire Evoque หรือรถหรูราคาแพงบางรุ่น มีที่ปัดน้ำฝนหลังให้เช่นกัน
แต่จะซ่อนอยู่ใต้ Spoiler ครับ
คำตอบครบถ้วนอยู่ในนี้ครับ
รถหรูๆเค้าจะออกแบบซ่อนใบปัดน้ำฝนครับ
-
ใบปัดหลัง อาจจะดูไม่เท่ห์เหมือนไล่ฝ้า แต่ใช้งานได้ดีกว่ากันมาก ผมยังอยากให้มีในซีดานเลย เวลาเจอหมอกจัดหน่อยเนี่ย ปัดพรึบ หาย แต่ไล่ฝ้า กว่าจะละลายใฟ้ได้มองเห็น นานพอดู แต่มันดูไม่สวยแค่นั้นครับ คล้ายๆเคสเสาอากาศที่รถหรูๆ แพงๆเข้าไปใช้เป็นครีบฉลาม รึไม่ก็เส้นลวดเล็กๆนั่นแหละครับ
-
ฝนตกรู้เลยครับ กระจกหลังจะมองไม่ได้เลย ฝุ่นโคลนบังหมดต้องปัด นะ
-
คนขับรถท้ายตัดจะรู้ดีเวลาที่วิ่งลุยฝนหรือทางเปียกชื้นครับ ลมมันวนที่ท้ายรถ ทำให้เศษโคลนต่างๆ มันลอยมาติดได้ง่ายมากๆ ถ้าไม่มีใบปัดน้ำฝนหลังนี่แทบมองอะไรไม่เห็นเลยล่ะครับ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำไม Honda Brio รุ่นแรกถึงโดนด่าเละเทะเรื่องไม่มีใบปัดน้ำฝนหลังจนเขายอมใส่มาให้ตอน MC ครับ :)
-
จากประสบการณ์ตรง ฝนหน่ะไม่เท่าไหร่พอมองเห็นได้เพราะอย่างน้อยฝนก็ใสๆยังพอมองผ่านได้แต่ฝุ่นนี่สิพอเกาะกันเต็มพรืดแล้วยังกะอากระดาษไปแปะทับมิดเลย
-
Mitsubishi วิวัฒนาการ เป็นรถเก๋ง 4ประตูที่มีที่ปัดน้ำฝนหลังเหมือนกัน
-
รถท้ายตัด ถ้าเจอฝุ่นผสมน้ำเข้าไปนี่ไม่ต้องพูดถึง เอากระจกมองหลังออกไปได้เลย
ปล. แต่เมื่อก่อนรถเก๋งก็มีนะ ถ้าจำไม่ผิดก็ Mitsubishi Galant
-
เก๋งซีดานหลายๆรุ่นยุคเก่าๆหน่อยก็มีครับ ;D
-
บริโอ้ ไม่มีที่ปัดน้ำฝนด้านหลังมาด้วยในรุ่นแรก โดนด่าตรึมจนต้องหยุดกลับไปใส่ที่ปัดน้ำฝนหลังมาใหม่
ท่านคิดว่ามันจำเป็นไหมล่ะ ผมว่ามันมีดีกว่าไม่มี
-
ผมใช้รถท้ายตัด (Jazz) เวลาฝนตกนี่ ได้เปิดที่ปัดน้ำฝนหลังตลอดครับ
รถท้ายตัดอากาศหมุนวนด้านหลังจะเยอะ ทำให้ละอองน้ำหรือฝุ่นมาเกาะมากกว่ารถเก๋ง 4 ประตูครับ
ยิ่งถ้าเจอถนนที่มีฝุ่น มีดินเยอะนี่ ถ้าไม่มีที่ปัดน้ำฝนหลังนี่ ไม่ต้องมองกระจกกันเลยทีเดียวครับ
-
ผมใช้รถท้ายตัดมาหลายคัน ขับจนขายก็ไม่ค่อยได้ใช้นะครับ คือบางทีพอปัดฝุ่น หรือคราบขี้โคนออก มันจะสะอาดแป๊บเดียว ที่นี้โคลนมันมาเกาะตรงบริเวณที่ปัดมากกว่าส่วนอื่นๆนะครับ จริงๆทั้งรถซีดาน หรือ รถท้ายตัดก็มีลมหมุนวนที่ท้ายรถทั้งคู่ครับ แต่รถซีดานมันหมุนมาไม่ถึงกระจกหลังเนื่องจากมีฝากระโปรงท้ายคั่นอยู่ และก็มีอากาศไหลผ่านกระจกหลังตลอด ถ้าฝนตกก็จะมีน้ำไหลผ่านกระจกหลังช่วย เลยไม่ค่อยมีคราบเก่าะที่กระจกนะครับ ส่วนรถตูดตัด ลมมันจะผ่านสุดที่ปลายติ่งสปอยเลอร์ท้าย ก่อนจะหมุนวนมาที่กระจกและก็ฝาท้ายนะครับ แต่หมุนแบบผสมทิศทาง ก็เลยเปรอะเยอะนั้นเองครับ
-
เคยขับบริโอ้ตัวแรกไปเที่ยวกับเพื่อน ไม่มีใบปัดหลัง ทั้งฝุ่นทั้งโคลนเกาะเต็มกระจกหลัง กลางวันไม่เท่าไร แต่กลางคืนนี่มองหลังไม่เห็นเลย ลองนึกภาพวันฝนตก แต่ต้องจอดรถมาเช็ดกระจกหลังให้สะอาด เพราะมองหลังลำบาก....นี่คือสาเหตุที่บริโอ้ไมเนอร์เชนจ์ถึงต้องเอาใบปัดน้ำฝนมาติดให้ ปล.ตอนแรกฮอนด้ามันแถว่า รถวิเคราะห์มาแล้ว มันลดการเกาะ ลดคราบ ไม่ต้องมีใบปัด สุดท้ายมันก็ต้องเอาใบปัดมาติดตั้งจนได้ 555
-
มีผมว่าดี
ถ้าไม่อยากให้มีต้อง
ทำระบบ ไร้ฝุ่น ไร้น้ำเกาะครับผม หรือติดตั้งกล้องหลังที่สมบูรณ์แบบที่สุดครับผม
-
ขอขอบคุณพี่ๆทุกๆท่านมากครับที่มาให้คำตอบนะครับ ทำให้ผมมีความรู้เกี่ยวกับรถเพิ่มขึ้น พึ่งทราบวันนี้แหละครับว่าพวกรถท้ายตัดจะมีอากาศวนอยู่ท้ายรถมาก ทำให้ฝนและฝุ่นเกาะติดเยอะกว่ารถซีดานทั่วๆไป
-
รถตู้ไม่ต้องใช้ครับ ปาดได้ปาดเลย แซงแบบไม่ต้องมองหลัง ครับ
-
ขับบนทางด่วนฝนตกหนักปานกลางถึงหนักมากนี่รู้เลยว่ามันดีมากๆ ไม่งั้นมองรถหลังไม่เห็น ต้องใช้กระจกข้างแทนเลยหล่ะ
-
รถท้ายตัด ถ้าเจอฝุ่นผสมน้ำเข้าไปนี่ไม่ต้องพูดถึง เอากระจกมองหลังออกไปได้เลย
ปล. แต่เมื่อก่อนรถเก๋งก็มีนะ ถ้าจำไม่ผิดก็ Mitsubishi Galant
รถนำเข้าส่วนใหญ่มีที่ปัดน้ำฝนหลังเพราะประเทศเค้าหิมะตกครับ
ที่ปัดน้ำฝนหลังของรถเก๋งซีดานจึงออกแบบมาสำหรับปัดหิมะมากกว่าปัดน้ำฝนครับ
-
ท้ายตัดมวลลมมันจะหมุนอยู่แถวกระจกครับ เวลาฝนตกจะโดนตรงนั้นแหละ แต่ถ้าซีดานลมมันจะไปวนอยู่ตรงกันชนหลังเลยไม่ต้องมีใบปัด