Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: kris-lack ที่ พฤศจิกายน 03, 2014, 14:51:19
-
คือ ก็ติดตามข่าวรถยนต์มาตลอด โดยเฉพาะช่วงนี้กับข่าว มาสด้า 2 ดีเซล
เลยมีข้อสงสัยและอยากได้ความรู้ ดังนี้ค่ะ
1. ทำไมเทคโนโลยีดีเซลถึงแพงกว่าเบนซิล
2. ทำไมเครื่องดีเซลถึงมีเสียงดังกว่าเบนซิล
3. ทำไมเครื่องดีเซลถึงวิ่งขึ้นได้ช้ากว่าเบนซิล อันนี้ไม่แน่ใจใช้ภาษาถูกมั้ย
ขอบคุณค่ะ
-
เหมือนหลังๆๆมีการdiscredit บ่อยมั่กมาก
ติดๆเลย ;D ;D
ฮี่ ฮี่
-
เหมือนหลังๆๆมีการdiscredit บ่อยมั่กมาก
ติดๆเลย ;D ;D
ฮี่ ฮี่
ดิสเครดิต อะไรอ่ะ งง
ถามเป็นความรู้ค่ะ ส่วนคนซื้อถ้ามาอ่านแค่นี้แล้วไม่ซื้อก็ให้มันรู้ไป
คนซื้อเขาคงดูที่อย่างอื่นมากกว่านะ เราว่า
อย่างเรายังอยากขายรถกระบะไปซื้อเลย เพราะเห็นอัตราสิ้นเปลืองแล้ว สุดๆๆอ่ะ
-
คือ ก็ติดตามข่าวรถยนต์มาตลอด โดยเฉพาะช่วงนี้กับข่าว มาสด้า 2 ดีเซล
เลยมีข้อสงสัยและอยากได้ความรู้ ดังนี้ค่ะ
1. ทำไมเทคโนโลยีดีเซลถึงแพงกว่าเบนซิล - > มีการระเบิดรุนแรงกว่า ทำให้ต้องใช้วัสดุที่ทนทานกว่า และส่วนใหญ่ก็ใส่เทอร์โบมาด้วยเพื่อลดข้อด้อยเรื่องแรงม้าลง เลยแพงกว่า
2. ทำไมเครื่องดีเซลถึงมีเสียงดังกว่าเบนซิล - > มาจากด้านบน และแก้ไม่ได้ด้วย(เป็นธรรมชาติของมัน) เพราะเป็นแบบอัดจนระเบิดเอง ต้องใช้กำลังอัดสูงๆ
3. ทำไมเครื่องดีเซลถึงวิ่งขึ้นได้ช้ากว่าเบนซิล อันนี้ไม่แน่ใจใช้ภาษาถูกมั้ย - > เดี๋ยวนี้ก็แล้วแต่เกียร์ครับ ขึ้นเร็วพอๆกับเบนซีนก็มี
ขอบคุณค่ะ
-
ดีเซลทุกวันนี้ แรงม้าไม่เป็นรองเบนซินนะครับ ทั้งแรงบิดที่มากว่าเท่าตัว
ส่วนน้ำหนักนั้นอาจเป็นตัวแปรที่หนึง การทดเกียร์ด้วย
เก๋งกับเก๋ง สบายอยู่แล้ว ยกเว้นเก๋งเทอโบ
-
ผมจะตอบเท่าที่ผมรู้นะตรับ
เครื่องยนต์ดีเซลเป็นเครื่องยนต์ชนิดจุดระเบิดด้วยPressure(Compress Ignition)ความดันสูงทำให้อุณหภูมิสูงและจุดระเบิดตัวเองต่างกับเบนซินที่จุดระเบิดด้วยการใช้หัวเทียน(Spark Ignition) ซึ่งการที่จะทำให้ห้องเผาไหม้มีความดันสูงเนื่ยจะต้องทำให้ค่าอัตราส่วนกำลังอัดสูงตาม
ผมจะอธิบายง่ายๆว่าลองเอา syringe มาอุดด้านรูทางออกนะครับละดันก้านเข้ามา(จะพบว่าดันเข้าไม่ได้ อิอิ) สมมติครับว่าคุณคือHulk อุดทางออกอากาศ ละดันก้านมันเข้ามาได้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือมันจะต้องแตก เพราะ วัสดุไม่อาจทนความดันไหว ถ้าจะไม่ให้มันแตกคือ ต้องเพิ่มความหนาของวัสดุให้หนามากพอเพราะงั้นชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ดีเซลจะมีความหนาและต้องมีความทนต่อความล้ามากกว่าเครื่องยนต์เบนซิน ตรงนี้ก็เลยน่าจะทำให้เครื่องยนต์แบบดีเซลมีต้นทุนสูงกว่า นอกจากนี้ยังมีเรื่องของรางคอมมอนเรล ค่าใช้จ่ายR&D เงินเดือนวิศวกร คนงาน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเสื่อมราคา ค่าStockของ OT อื่นๆอีกมากมาย
1. ทำไมเทคโนโลยีดีเซลถึงแพงกว่าเบนซิน
- เรื่องของการใช้วัสดุที่ต้องหนากว่า
2. ทำไมเครื่องดีเซลถึงมีเสียงดังกว่าเบนซิล
- เพราะเป็นการจุดระเบิดด้วยความดันจึงมีเสียงที่ดังมากกว่า
3. ทำไมเครื่องดีเซลถึงวิ่งขึ้นได้ช้ากว่าเบนซิล อันนี้ไม่แน่ใจใช้ภาษาถูกมั้ย
- หมายถึงอัตราเร่งหรือเปล่าครับ สมัยนี้มันไม่แพ้กันเลยนะครับในพิกัดความจุเท่าๆกัน
หรือถ้าหมายถึงรอบเครื่องยนต์เพราะการจุดระเบิดด้วยความดันอีกนี่แหละครับ เป็นข้อจำกัดของวัสดุที่มนุษย์ตอนนี้ยังไม่สามารถทำให้วัสดุทนได้ขนาดที่ว่าให้เครื่องดีเซลทำงานรอบจัดเยี่ยงเบนซินได้
ตอบตามความเข้าใจและความรู้อันน้อยนิดของผม ผิดถูกตรงไหนถ้ามีพี่ๆท่านใดมีความรู้มากกว่าผมรบกวนชี้แนะด้วยครับ
-
ok กระจ่างมากค่ะ
ส่วนกระบะดีเซลบ้านเราที่ราคาถูกได้ เพราะได้ในเรื่องของภาษีช่วย??
-
เดี๋ยวนี้ถ้ารถรุ่นเดียวกันก็ไม่แน่นะครับ ม้าอาจสู้เบนซินไม่ได้แต่แรงบิดมหาศาลนะครับ
-
ต้องคนเรียนมาน่ะครับ พูดตรง ๆ อธิบายก็เหมือนไปนั่งเรียนกันใหม่ ตอบคร่าว ๆ ที่แพงกว่านะครับ
เอาเฉพาะตัวเครื่องยนต์เหมือนกันในกลุ่มรถประเภทเดียวกันนะครับ ภาษีเดียวกัน
1. จริง ๆ แล้ว ดีเซลแพงกว่าเบนซินมานานแล้ว เพราะต้องใช้วัสดุที่ทนทานกว่ามีราคาแพงกว่า เนื่องจากดีเซลมีอัตราส่วนกำลังอัดสูงกว่า การระเบิดรุนแรงกว่า แรงบิดมากกว่า ชินส่วนที่ต้องใช้มีราคาแพงมากขึ้นตามไปด้วย ในสมัยก่อนคนทั่วไปชอบคิดว่าดีเซลถูกกว่าเพราะเครื่องดีเซลอยู่ในรถปิคอัพคนรู้จักเป็นส่วนใหญ่ และราคาไม่แพงมือ 2 ราคาเครื่องยนต์เก่าไม่แพงเท่าไหร่ อีกทั้งระบบเครื่องยนต์ดีเซลไม่ซับซ้อนซ่อมง่าย และมีจุดที่ต้องซ่อมน้อยกว่า และนานกว่าจะได้ซ่อม คนส่วนใหญ่จึงยิ่งคิดหลงประเด็นไปว่าดีเซลถูกและดีทุกอย่าง
แต่ที่จริงราคาอะไหล่เฉพาะเครื่องเบนซิน ดีเซลในกลุ่มเดียวกันมีราคาแตกต่างกันค่อนข้างเยอะ เช่น เทียบกับ Fortuner ดีเซล และเบนซินนะครับ รถกลุ่มเดียวกันจะได้มาตรฐานเดียวกัน
ราคาปั๊มน้ำดีเซล 2300-2400 บาท ถ้าเป็นเบนซิน 2100 บาท
ราคาแหวนลูกสูบทั้งชุด + ประเก็น ดีเซล ราคาหลักหมื่นบาท ของเบนซินหลักพันบาท
2. ดีเซลสมัยนี้ราคาจะยิ่งถีบตัวแพงมากกว่าเบนซินเพราะเทคโนโลยีสูงขึ้น ราคาย่อมแพงขึ้นไปอีกเป็นธรรมดา อุปกรณ์ส่วนควบยิ่งเพิ่มมากขึ้นเช่น ก่อนหน้านี้ดีเซลยุคก่อนปี 96 คือรถที่ไม่มีกล่อง ECU ไม่มีปั๊มคอมมอนเรล ไม่มีหัวฉีดคอมอมนเรล ไม่มีเทอรโบ ไม่มีเซนเซอร์ควบคุม แต่ปัจจุบันที่กล่าวมามีหมด ราคายิ่งสูงขึ้นมาก จุกจิกไม่แพ้เบนซิน ใครบอกดีเซลไม่จุกจิกผมไม่เชื่อ เพราะส่วนควบที่เพิ่มขึ้นมาคือจุดซ่อมไม่ต่างจากเบนซิน เฉพาะราคาเทอรโบ + เพิ่มขึ้นมาหลักแสนบาทต่อเครื่องแล้ว ยังไม่นับบรรดาส่วนคอมอมนเรลอีก ราคาหลักหมื่นขึ้นทั้งนั้น
ขนาดรถนำเข้าจากนอก คือตัว Pajero แท้ดีเซล จากนอก ไม่ใช่ปา PPV บ้านเราน่ะครับ ปั๊มคอมมอนเรลเสียหายจากน้ำมันดีเซลบ้านเรา อู่ซ่อมปั๊มคอมมอนเรลดัง ๆ ของบ้านเราที่มีชื่อตามเวป เอาไม่จบซักอู่ซ่อมไม่ได้เลย แค่ค่าเปิดปั๊มออกมาดูเจ้าของต้องเสียเงิน 7500 บาท แล้ว แค่ดูอย่างเดียวยังไม่ได้ซ่อมน่ะครับ แถมเปิดมาแล้วซ่อมไม่ได้อีก ราคาค่าเปลี่ยนปั๊มคอมมอนเรลศูนย์ Mitsu สั่งให้จากนอก ราคาลูกล่ะ 130,000 บาท นี่แค่ปั๊มอย่างเดียวไม่เกี่ยวกับส่วนอื่น อีกตัวนึงคือ Landcruiser ดีเซลจากนอก ไม่ต่างกัน อู่ดีเซลในเมืองไทยซ่อมไม่ได้ เหมือนกัน ต้องเปลี่ยนของใหม่หรือเซียงกงที่ยังไม่เคยรื้อมาก่อน ราคาไม่ได้ถูกน่ะครับ ถ้าไม่ใช่คนที่มีกำลังซื้อรถป้ายแดงพวกนี้คันล่ะ 4-5 ล้าน ไม่กล้าซ่อมแน่นอน
คนที่บอกดีเซลซ่อมถูกไม่จุกจิก ผมเห็นมโนภาพฟังเขาเล่ามา ตามเขาบอกกันมาทั้งนั้น ไม่ได้คิดก่อนเลย
-
ok กระจ่างมากค่ะ
ส่วนกระบะดีเซลบ้านเราที่ราคาถูกได้ เพราะได้ในเรื่องของภาษีช่วย??
ใช่ครับ. รัฐมองว่ากระบะ เอาไว้ใช้ในงานเกษตร ขนของ ขนส่ง เลยเก็บภาษีน้อย. ทั้งที่จริงๆ ก็ใช้กันทุกแบบแหละ.
ลอง search ตารางภาษีได้ครับ google ง่ายๆ. เหมือนกระบะตอนเดียวแทบจะไม่เสียภาษีเลย. 3% เองมั้ง
-
จริงๆต้นทุนรถดีเซลแพงกว่าเบนซินมานานมากแล้วครับ ตั้งแต่ยุคไม่มีเทอร์โบ ไใ่มีคอมมอนเรลแล้วครับ แต่คนไทยมักโดนยัดใส่สมองอยู่เรื่อยว่าเบนซินมักแพงกว่า เพราะเครื่องดีเซลต้องใช้กำลังอัดทีสูงกว่าเบนซินจึงจะจุดระเบิดได้ไม่เหมือนเบนซินที่มีหัวเทียนช่วยหายใจทำให้ต้องออกแบบวัสดุใส้ในให้แข็งแรงกว่ามากเพื่อให้ทนทานมากกว่าต้นทุนจึงแพงกว่าครับ ยิ่งยุคปัจจุบันมีคอมมอนเรลเทอร์โบก็ยิ่งทวีคูณไปมาก
ส่วนเรื่องเสียงเพราะกำลังอัดดีเซลต้องใช้มากกว่าทำให้แรงสั่นสะเทือนมากกว่า
ถ้าเป็นยุคเก่าใช่อัตราเร่งที่รถดีเซลเร่งได้ช้ากว่า เพราะธรรมชาติเบนซินรอบจัดสร้างแรงม้าได้สูงแต่ต้องใช้รอบเครื่องมากแต่แรงบิดก็ต้องมารอบสูงทำให้มันเหมาะแต่กับรถเก๋ง แต่สำหรับดีเซลธรรมชาติคือเร่งได้ช้าแต่ถ้ารอบเท่ากันจะแรงกว่าจึงมีแรงบิดมากกว่าทำให้ไม่ต้องเร่งรอบมาก แต่ข้อเสียคือพอเลยรอบพีคของแรงบิดแล้วแรงบิดตกส่วนแรงม้าก็น้อยกว่าทำให้วิ่งสู้กันในรอบสูงไม่ได้จึงเหมาะกับรถบรรทุกมากกว่า แต่ยุคปัจจุบันดีเซลไม่แพ้แล้วครับเพราะเครื่องคอมมอนเรลปัจจุบันแรงบิดสูงตั้งแต่รอบต้นยันรอบปลายและแรงม้าก็สูงมากขึ้นด้วย
-
ok กระจ่างมากค่ะ
ส่วนกระบะดีเซลบ้านเราที่ราคาถูกได้ เพราะได้ในเรื่องของภาษีช่วย??
กระบะ4ประตู เสียภาษีสรรพสามิตถูกกว่า Ecocar อีกเชื่อผมไหมล่ะครับ ขนาดภาษีถูกรุ่นท็อปยังทะลุล้านกันแล้ว ถ้าเก็บภาษีเท่ารถเก๋งราคาชนรถเก๋ง D-Segment เลยทีเดียว ฝรั่งยุโรปมาเมืองไทยครั้งแรกถึงกับอุทานว่า "รถไทยทำไมรวยกันจังขับรถกระบะกันเต็มไปหมด" เพราะที่บ้านเค้ารถกระบะจัดว่าเป็นรถราคาแพงครับ เอาเป็นว่าราคารถกระบะที่นั่นพอซื้อ Benz C-Class หรือ BMW series 3 ได้ละกัน
-
ดีเซลเดี๋ยวนี้ไม่ใช่กระจอกแล้วนะครับ
เอาเข้าจริงๆมันก็เทพขึ้นมานานแล้ว แต่หลายๆคนยังชินกับภาพเก่าๆ เพราะเสียงมันแก้ไม่หาย
-
คนตอบข้อ1กันไปเยอะแล้วงั้นผมช่วยตอบข้อ2 กับ 3ละกันครับ
2. เครื่องดังกว่าเพราะตัวลูกสูบใช้แรงอัดระเบิดมากกว่าครับ นึกสภาพรถเครื่อง12สูบเบนซินก็ดังเพราะมีแรงอัดระเบิดเยอะครับ
3. เครื่องแรงมากน้อยไม่เกี่ยวกับเบนซินหรือดีเซลครับ มันอยู่กับขนาดเครื่อง แรงม้าและแรงบิด ดีเซล200ม้าย่อมเร็วกว่าเบนซิน170ม้า แต่ลักษณะคือดีเซลแรงบิดจะมาในรอบต่ำกว่าเพราะการอัดระเบิดที่แรงกว่า ในเครื่องขนาดทุกอย่างเท่ากัน ดีเซลจะออกตัวช่วงต้นได้ดีกว่า และเบนซินอัตตราเร่งจะต่อเนื่องได้ดีกว่าในความเร็วกลางถึงปลายเพราะมีหัวเทียนช่วย
รถแข่งเลยนิยมใช้เบนซิน เพราะส่วนใหญ่เค้าวิ่งกัน 120-300 กันทั้งนั้น แต่บนถนนไม่มีผลอะไรหรอกครับ
-
คนตอบข้อ1กันไปเยอะแล้วงั้นผมช่วยตอบข้อ2 กับ 3ละกันครับ
2. เครื่องดังกว่าเพราะตัวลูกสูบใช้แรงอัดระเบิดมากกว่าครับ นึกสภาพรถเครื่อง12สูบเบนซินก็ดังเพราะมีแรงอัดระเบิดเยอะครับ
3. เครื่องแรงมากน้อยไม่เกี่ยวกับเบนซินหรือดีเซลครับ มันอยู่กับขนาดเครื่อง แรงม้าและแรงบิด ดีเซล200ม้าย่อมเร็วกว่าเบนซิน170ม้า แต่ลักษณะคือดีเซลแรงบิดจะมาในรอบต่ำกว่าเพราะการอัดระเบิดที่แรงกว่า ในเครื่องขนาดทุกอย่างเท่ากัน ดีเซลจะออกตัวช่วงต้นได้ดีกว่า และเบนซินอัตตราเร่งจะต่อเนื่องได้ดีกว่าในความเร็วกลางถึงปลายเพราะมีหัวเทียนช่วย
รถแข่งเลยนิยมใช้เบนซิน เพราะส่วนใหญ่เค้าวิ่งกัน 120-300 กันทั้งนั้น แต่บนถนนไม่มีผลอะไรหรอกครับ
กะลังจะเข้ามาถามพอดีเลยคับ ว่าทำไมรถแข่งทั้งหลายถึงยังใช้เครื่องเบนซิน
-
คนตอบข้อ1กันไปเยอะแล้วงั้นผมช่วยตอบข้อ2 กับ 3ละกันครับ
2. เครื่องดังกว่าเพราะตัวลูกสูบใช้แรงอัดระเบิดมากกว่าครับ นึกสภาพรถเครื่อง12สูบเบนซินก็ดังเพราะมีแรงอัดระเบิดเยอะครับ
3. เครื่องแรงมากน้อยไม่เกี่ยวกับเบนซินหรือดีเซลครับ มันอยู่กับขนาดเครื่อง แรงม้าและแรงบิด ดีเซล200ม้าย่อมเร็วกว่าเบนซิน170ม้า แต่ลักษณะคือดีเซลแรงบิดจะมาในรอบต่ำกว่าเพราะการอัดระเบิดที่แรงกว่า ในเครื่องขนาดทุกอย่างเท่ากัน ดีเซลจะออกตัวช่วงต้นได้ดีกว่า และเบนซินอัตตราเร่งจะต่อเนื่องได้ดีกว่าในความเร็วกลางถึงปลายเพราะมีหัวเทียนช่วย
รถแข่งเลยนิยมใช้เบนซิน เพราะส่วนใหญ่เค้าวิ่งกัน 120-300 กันทั้งนั้น แต่บนถนนไม่มีผลอะไรหรอกครับ
กะลังจะเข้ามาถามพอดีเลยคับ ว่าทำไมรถแข่งทั้งหลายถึงยังใช้เครื่องเบนซิน
ดีเซลก็มีครับ มันอยุ่ที่รุ่นที่เขาจะเอาไปลงสนามกับรายการแข่งขัน
-
คนตอบข้อ1กันไปเยอะแล้วงั้นผมช่วยตอบข้อ2 กับ 3ละกันครับ
2. เครื่องดังกว่าเพราะตัวลูกสูบใช้แรงอัดระเบิดมากกว่าครับ นึกสภาพรถเครื่อง12สูบเบนซินก็ดังเพราะมีแรงอัดระเบิดเยอะครับ
3. เครื่องแรงมากน้อยไม่เกี่ยวกับเบนซินหรือดีเซลครับ มันอยู่กับขนาดเครื่อง แรงม้าและแรงบิด ดีเซล200ม้าย่อมเร็วกว่าเบนซิน170ม้า แต่ลักษณะคือดีเซลแรงบิดจะมาในรอบต่ำกว่าเพราะการอัดระเบิดที่แรงกว่า ในเครื่องขนาดทุกอย่างเท่ากัน ดีเซลจะออกตัวช่วงต้นได้ดีกว่า และเบนซินอัตตราเร่งจะต่อเนื่องได้ดีกว่าในความเร็วกลางถึงปลายเพราะมีหัวเทียนช่วย
รถแข่งเลยนิยมใช้เบนซิน เพราะส่วนใหญ่เค้าวิ่งกัน 120-300 กันทั้งนั้น แต่บนถนนไม่มีผลอะไรหรอกครับ
กะลังจะเข้ามาถามพอดีเลยคับ ว่าทำไมรถแข่งทั้งหลายถึงยังใช้เครื่องเบนซิน
ดีเซลก็มีครับ มันอยุ่ที่รุ่นที่เขาจะเอาไปลงสนามกับรายการแข่งขัน
จริงครับ มีAudiไงครับที่แข่งLemans
-
3. ทำไมเครื่องดีเซลถึงวิ่งขึ้นได้ช้ากว่าเบนซิล อันนี้ไม่แน่ใจใช้ภาษาถูกมั้ย
ข้อนี้ ต้องลอง Mazda2 1.5D ครับ แล้วจะรู้ว่า เบนซิล หรือ ดีเซล ใครแรงกว่ากัน
Mazda2 1.5D ได้เปรียบตรง turbo
-
ราคาเกียร์ก็มีส่วนอยู่ในราคารถนะครับ
เกียร์ท่ีจับคู่กะเครื่องดีเซลจะต้องรองรับแรงบิดที่มาก ราคาก็ต้องสูงตามด้วย
-
น้ำมันดีเซลเผาไหม้ช้ากว่าเบนซิน เลยทำให้รอบกวาดช้ากว่า และทำให้รอบเครื่องสูงเท่าเบนซินไม่ได้ครับ
ปัจจุบันเทคโนโลยีของเครื่องยนต์ดีเซลกับเบนซินใกล้กันมากแล้ว แต่เนื่องจากเครื่องดีเซลต้องการกำลังอัดที่สูงกว่า เพื่อที่จะได้ความร้อนสูงกว่า เวลาจุดระเบิดจึงรุนแรงกว่า และนั่นทำให้เครื่องยนต์สั่นและเสียงดังกว่าเครื่องเบนซิน
เมื่อเครื่องยนต์จุดระเบิดรุนแรงกว่า ชิ้นส่วนก็ต้องออกแบบมาเพื่อรองรับแรงเครียดนั้นด้วย ทำให้วัสดุต่างๆต้องแข็ง ทน หนัก กว่าเครื่องเบนซิน
-
ดีเซลเดวนี้มันแรงขึ้นเพราะมีเทอโบคับ อย่าเข้าใจกันผิดๆ
ถ้าไม่ใส่โบมาด้วยธรรมชาติของมันแล้วมันยังแรงสูเบนซิลไม่ได้
เพราะเบนซินรอบสูงกว่า แต่ดีเซลจะแรงบิดแรงดึงดีกว่า ง่ายๆลองดูเครื่องวิดน้ำอ่ะคับ ใใช้ดีเซล รอบน้อย ดึง ตึกๆๆ ห่างๆ แต่ได้แรงบิดดี ผมงงกับคำพุดตัวเองแล้วคับตอนนี้ คือมันอยุ่ในหัวแต่ไม่รุ้จะพิมเปนตัวหนังสือยังไง :D