Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: morak ที่ พฤศจิกายน 23, 2014, 20:58:22
-
หลังจากอ่านบทความจบแล้วก็รู้สึกสนใจเจ้ากระบะตัวนี้เลย ตอนนนี้จึงเกิดข้อสงสัยสักสองสามข้อนะครับ
1.ค่าบำรุงรักษาของกระบะขับสี่แตกต่างจากขับสองมากมั้ยครับ พอดีหาในเนตละแทบไม่เจอเลยหนะครับ ที่เป็นตัวเลขจริงๆ มีแต่ทำนองว่าขับสี่ก็ต้องมากกว่าขับสองอยู่แล้ว
2.ศูนย์มิตซูตอนนี้เป็นไงบ้างครับ แล้วแถบๆบางเขน รังสิต มีที่ไหนพอไว้ใจได้บ้างครับ ขอบคุณมากครับ
-
ขอพูดถึงตัวเก่านะครับผม เพราะผมใช้อยู่ ก็นับอายุได้ 8 ปีแล้วนะครับผม
การบำรุงรักษา ผมว่า ไม่ได้เยอะอย่างที่คิดนะครับผม ขอให้เปลี่ยนตามระยะครับ
และระบบขับสี่ ท่านก็ต้องใช้บ้าง ไม่ใช่เลยไม่ได้ จะไปลุยหรือไม่ลุยก็ต้องใช้ครับ
อื่นๆ ผมว่า ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลครับ พอเจออุปสรรค ขับสี่ได้เปรียบมากๆ ครับขอบอกครับ
หลายคนบอกว่า มีไว้ทำไม ไม่ได้ใช้ แต่สำหรับผม คันต่อไปที่จะซื้อก็จะเอาขับสี่เหมือนเดิมครับ
มันช่วยชีวิต ช่วยเหลือเราได้เยอะ เวลาที่เราไปคนเดียว ไม่มีใครช่วย จริงๆครับ
ผ่านมา ผมยังไม่เคยซ๋อม ระบบขับสี่เลยครับ ซ่อมช่วงล่างตามปกติครับผมอื่นๆ ไม่มีอะไรครับ
---- มันกินน้ำมันกว่าเพื่อนๆ อีกเล็กน้อย แต่ผมว่า ก็ประหยัดดีนะครับ ผมขับ 100 ได้ 14-15 กิโลต่อลิตรเลยครับ
ตัวใหม่น่าจะทำได้ดีกว่าด้วยนะครับ เพราะบอกว่าประหยัดว่า 20%
:)
-
ขอบคุณมากครับ ทีนร้ผมอยากทราบเป็นตัวเลขอาจเป็นคร่าวๆก็ได้ครับเช่นที่หนึ่งหมื่นโลมีค่าใช้จ่ายเท่าไร สองหมื่นโลเป็นอย่างไร แล้วแปดปีที่ใช้มาอยากทราบว่ามีอะไรที่ต้องเปลี่ยนหรือเสียหนักๆบ้างไหมครับ แล้วศูนย์เป๋นอย่างไรบ้างครับ ขอบคุณมากครับ
-
เคยเอารถที่ทำงานไปเข้าแต่เป็นไทรทันขับ2เบนซินไปเข้าศูนย์น่ะผมว่าแพงกว่าอีซูซุประมาณ20%ได้ เท่าที่จำได้นะครั้ง1,2,3หมื่นโลประมาณ2000-3000บาท4หมื่นนี้ประมาณ7พันได้ วนๆไปประมาณนี้
ส่วนตัวขับ4น่าจะแพงกว่าขับ2แค่น้ำมันเฟืองท้ายเพลาหน้าครับไม่น่าจะเกินพัน จ่ายแค่ตอนถ่ายทุก4หมื่นโล
แต่ไม่รู้เครื่องใหม่ไทรทันรุ่นนี้เปลื่ยนสายพานทามมิ่งเป็นโซ่ราวลิ้นหรือยังถ้ายังต้องโดนประมาณหมื่นหก ทุกแสนโล(เข้าศูนย์นะ)
-
แพงกว่าขับ2แค่น้ำมันเฟืองท้ายเพลาหน้าครับไม่น่าจะเกินพัน จ่ายแค่ตอนถ่ายทุก4หมื่นโล
แต่ไม่รู้เครื่องใหม่ไทรทันรุ่นนี้เปลื่ยนสายพานทามมิ่งเป็นโซ่ราวลิ้นหรือยังถ้ายังต้องโดนประมาณหมื่นหกทุกแสนโล(เข้าศูนย์นะ)
ตามนี้ แต่รู้สึกว่า จะทุกๆ 20,000 โลครับ ที่ต้องจ่ายเพิ่มจากตัว ขับสอง
น้ำมันเกียร์ชุดทรานสเฟอร์
2.5 ลิตร 525
น้ำมันเฟืองท้ายลูกหน้า + ลูกหลัง
4 ลิตร 560
ข้างบน อ้างอิงจาก Triton 4x4 น่ะครับ
-
แพงกว่าขับ2แค่น้ำมันเฟืองท้ายเพลาหน้าครับไม่น่าจะเกินพัน จ่ายแค่ตอนถ่ายทุก4หมื่นโล
แต่ไม่รู้เครื่องใหม่ไทรทันรุ่นนี้เปลื่ยนสายพานทามมิ่งเป็นโซ่ราวลิ้นหรือยังถ้ายังต้องโดนประมาณหมื่นหกทุกแสนโล(เข้าศูนย์นะ)
ตามนี้ แต่รู้สึกว่า จะทุกๆ 20,000 โลครับ ที่ต้องจ่ายเพิ่มจากตัว ขับสอง
น้ำมันเกียร์ชุดทรานสเฟอร์
2.5 ลิตร 525
น้ำมันเฟืองท้ายลูกหน้า + ลูกหลัง
4 ลิตร 560
ข้างบน อ้างอิงจาก Triton 4x4 น่ะครับ
มีน้ำมันทรานเฟอร์ด้วยอันนี้ผมไม่รู้ครับอิอิ
-
เท่าที่เคยใช้รถกระบะ 4WD ค่า mentainance ไม่ได้เพิ่มขึ้นเท่าไหร่ ...แต่สิ่งที่มี impact มากกว่าน่าจะเป็นเรื่องค่าน้ำมัน เพราะมันแบกน้ำหนักเกียร์ 4WD เพิ่มอีกเกือบๆ 200 โล อ่ะครับ
:)
-
ผมใช้ กระบะ Dmax กับ เก๋ง Lancer EX ศูนย์บริการ ความเก่งของช่าง ยังต่างกัน ค่าอะไหล่สิ้นเปลือง Isuzu ไม่ได้ถูกกว่า บางคัวแพงกว่า เช่นน้ำหล่อเย็น แต่ศูนย์ Mitsu ก็ไม่ได้แย่มาก ถ้ารถมีปัญหา เราหาเจอ ช่างก็แก้ให้จบ...
ผมยังรัก Mitsu อยู่ครับ
ส่วนเรื่องค่าบำรุง 4*4 ถ้ามันจำเป็นต้องใช้รถก็ไม่ได้เพิ่มจากเดิมมาก...
-
เคยเอารถที่ทำงานไปเข้าแต่เป็นไทรทันขับ2เบนซินไปเข้าศูนย์น่ะผมว่าแพงกว่าอีซูซุประมาณ20%ได้ เท่าที่จำได้นะครั้ง1,2,3หมื่นโลประมาณ2000-3000บาท4หมื่นนี้ประมาณ7พันได้ วนๆไปประมาณนี้
ส่วนตัวขับ4น่าจะแพงกว่าขับ2แค่น้ำมันเฟืองท้ายเพลาหน้าครับไม่น่าจะเกินพัน จ่ายแค่ตอนถ่ายทุก4หมื่นโล
แต่ไม่รู้เครื่องใหม่ไทรทันรุ่นนี้เปลื่ยนสายพานทามมิ่งเป็นโซ่ราวลิ้นหรือยังถ้ายังต้องโดนประมาณหมื่นหก ทุกแสนโล(เข้าศูนย์นะ)
หมื่นหก นี่ฟังมาหรือเคยจ่ายเองครับ
ผมเปลี่ยนสายพานทามมิ่ง จ่ายประมาณหมื่นสองอันนี้รวมน้ำมันเครื่องด้วย แต่อย่างว่าเรื่องศูนย์มิตรซูไม่ค่อยมีมาตรฐานที่เหมือนกันราคาอาจต่างกันได้ บังเอิญผมใช้ศูนย์ที่จัดอยู่ในกลุ่มศูนย์ดีอันดับต้นๆของมิตซู
ส่วนขับสี่จะมีเพิ่มจากขับสองก็เฟืองหน้ากับทรานเฟอร์ ทุกๆสี่หมื่นโล (ถ้าจำไม่ผิด)
ปล. เครื่องตัวใหม่เปลี่ยนเป็นโซ่ครับ ถ้าชอบและไม่เป็นภาระมากก็จัดเลย
-
ขอบคุณมากครับ ทีนร้ผมอยากทราบเป็นตัวเลขอาจเป็นคร่าวๆก็ได้ครับเช่นที่หนึ่งหมื่นโลมีค่าใช้จ่ายเท่าไร สองหมื่นโลเป็นอย่างไร แล้วแปดปีที่ใช้มาอยากทราบว่ามีอะไรที่ต้องเปลี่ยนหรือเสียหนักๆบ้างไหมครับ แล้วศูนย์เป๋นอย่างไรบ้างครับ ขอบคุณมากครับ
เท่ากันทุกช่วงครับ เหมือนกันหมด กระบะขับ 4 x 4 จ่ายแตกต่างกันตอน 40000 โล จะมีค่าน้ำมันเฟืองหน้าเพิ่มขึ้นมาอีก 3 ลิตร ขึ้นอยู่กับว่าขายกันลิตรล่ะเท่าไหร่ของยี่ห้อนั้น อย่าง TOYOTA ขายกระป๋องล่ะ 400 บาท รวมจ่ายเพิ่มขึ้นอีก 3 กระป๋อง 1200 บาท ส่วนเฟืองท้ายถ้าเป็นตัวปกติมี Limited slip จะแพงกว่าเดิมอีกนิดหน่อย คือลิตรล่ะ 400 กว่าบาท เพราะต้องใช้น้ำมัน LSD แต่ถ้าเป็น 2wd ก็ประมาณลิตรล่ะ 200 กว่าบาท ใช้ 3 ลิตร สรุปจ่ายที่เฟืองท้ายต่างกันแค่ 600 บาท ไม่เกินนี้ คนเราจะใช้รถวนรอบ 4 หมื่นโลซักกี่ครั้งจนกว่าจะขายรถ ไม่ได้จ่ายแตกต่างกันเยอะหรอก รวมแล้วทุก 40,000 โลจะจ่ายเพิ่มอีกไม่เกิน 2000 บาทแต่ช่วงอื่นก็ปกติจ่ายเท่ากัน
ส่วนเฟืองท้ายถ้าเป็น Top สุด 4x4 AT ไม่มี Limited slip ของ Mitsu ก็จะเหมือนรถ 2wd จ่ายเท่าตัว 2wd ปกติทั่วไป เพราะใช้น้ำมันเฟืองท้ายร่วมกันกับตัวขับ สอง ถ้าลือกรุ่นสูงสุดของมิตซูก็จะจ่ายแพงกว่ากันตรงแค่เฟืองหน้าอีกประมาณ 1200 บาทที่ทุกระยะ 40,000 โล
แต่สิ่งที่น่าเจ็บใจคือ Mitsu ไม่ใส่ Rear diff lock ไฟฟ้ามาให้ด้วย และไม่ใส่ Air locker มาให้ด้วย Option นี้สำหรับตัวส่งนอกอย่างเดียวเหมือนเคย
ส่วนค่าซ่อมช่วงล่างอื่นๆ ถ้าเป้นรถปิคอัพ 4x4 อะไหล่บางตัวสำหรับช่วงล่างจะแพงกว่า 2wd ประมาณ 10เปอร์เซ๊นต์ แต่ก็จะแลกมาด้วยความทนทานของช่วงล่างจะแกร่งและทนทานกว่าขับ 2wd เยอะกว่านั้น ลองเซทโช๊คดี ๆ ซัก 4 ตัวลงไปก็จะรู้
-
ส่วนถ้าได้กระบะ 4x4 มา แล้วบอกว่าต้องเข้าเกียร์ 4wd ใช้อย่างน้อยเดือนล่ะ 16 km ตามที่เค้าว่านั้นไม่ผิดหรอก แต่ไม่ใช้งานก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ผมก็ซื้อปิคอัพ วีโก้ 4x4 มาใช้งาน ปกติน้องชายเขาเอาไว้วิ่งขายของตามตลาดนัด ระบบ 4x4 มันไม่ได้เสียง่าย ๆ หรอก ทุกวันนี้ก็ปกติไม่เห็นเดือดร้อนต้องใช้ ยิ่งถ้าเป็น 4wd fulltime จุดซ่อมบำรุง 4wd ก็จะน้อยลงกว่า part time อีก เพราะจุดซ่อมบำรุงน้อยลงไม่มีกล่องเกียร์ 4wd มาแยกต่างหากแล้ว
คือสรุปไม่ได้ซ่อมล่ะกันครับ ตั้งแต่ผมใช้งานมา Vigo 4x4 และ Fortuner 4x4 ไม่มีการซ่อมอะไรเลยและรถก็นำไปใช้งานออฟโรดค่อนข้างเยอะด้วยสำหรับ Fortuner แต่คันวีโก้ 4x4 จะใช้ไปขายของตามตลาดนัดมากกว่า ทุกคันปกติสุขทั้งนั้น คนที่บอกซ่อมแพงอย่างโน้นอย่างนี้ ทำยังกับว่าเคยซ่อมงั้นแหละ ทั้งที่ไม่ได้ใช้
-
เคยเอารถที่ทำงานไปเข้าแต่เป็นไทรทันขับ2เบนซินไปเข้าศูนย์น่ะผมว่าแพงกว่าอีซูซุประมาณ20%ได้ เท่าที่จำได้นะครั้ง1,2,3หมื่นโลประมาณ2000-3000บาท4หมื่นนี้ประมาณ7พันได้ วนๆไปประมาณนี้
ส่วนตัวขับ4น่าจะแพงกว่าขับ2แค่น้ำมันเฟืองท้ายเพลาหน้าครับไม่น่าจะเกินพัน จ่ายแค่ตอนถ่ายทุก4หมื่นโล
แต่ไม่รู้เครื่องใหม่ไทรทันรุ่นนี้เปลื่ยนสายพานทามมิ่งเป็นโซ่ราวลิ้นหรือยังถ้ายังต้องโดนประมาณหมื่นหก ทุกแสนโล(เข้าศูนย์นะ)
หมื่นหก นี่ฟังมาหรือเคยจ่ายเองครับ
ผมเปลี่ยนสายพานทามมิ่ง จ่ายประมาณหมื่นสองอันนี้รวมน้ำมันเครื่องด้วย แต่อย่างว่าเรื่องศูนย์มิตรซูไม่ค่อยมีมาตรฐานที่เหมือนกันราคาอาจต่างกันได้ บังเอิญผมใช้ศูนย์ที่จัดอยู่ในกลุ่มศูนย์ดีอันดับต้นๆของมิตซู
ส่วนขับสี่จะมีเพิ่มจากขับสองก็เฟืองหน้ากับทรานเฟอร์ ทุกๆสี่หมื่นโล (ถ้าจำไม่ผิด)
ปล. เครื่องตัวใหม่เปลี่ยนเป็นโซ่ครับ ถ้าชอบและไม่เป็นภาระมากก็จัดเลย
คือเป็นรถที่ทำงานแล้วผมเป็นคนเอารถไปเข้า แล้วเบิกเงินบริษัทไปจ่ายครับ หมื่นหกนี้ไม่รวมถ่ายน้ำมันเครื่องนะ แต่รถที่ผมเอาไปเข้าเป็นตัวเบนซินนะไม่รู้ว่ามันต่างกับตัวดีเซลไหมใบเสนอรายการยาวครับประมาณ10รายการ
-
ในฐานะที่ใช้ 4x4 มาเกือบสิบปี
ขอบอกว่าถ้ามีความสามารถซื้อรถราคาล้านหรือเกือบล้านได้
ค่าบำรุงรักษา 4x4 มันถูกอย่างขึ้เลยครับ
-
ขอบคุณทุกคนมากครับ
-
ในฐานะที่ใช้ 4x4 มาเกือบสิบปี
ขอบอกว่าถ้ามีความสามารถซื้อรถราคาล้านหรือเกือบล้านได้
ค่าบำรุงรักษา 4x4 มันถูกอย่างขึ้เลยครับ
ผมไม่รู้ใครมันเริ่มมั่วมาก่อน ว่าคำบำรุงรักษาแพงอย่างโน้นแพงอย่างนี้ 4x4 เอามาทำไมไม่ค่อยได้ใช้งาน เดี๋ยวก็พัง อีกทั้งรถมันก็เกินความจำเป็น เอาไปลุยเข้าป่าเดี๋ยวก็พัง
จากที่ผมใช้รถ 4x4 เป็นรองจากท่านคือปีนี้เข้าปีที่ 8 แล้ว และนอกจากมีรถ 4x4 คันแรก ก็มีมาคันที่ 2 เพิ่มขึ้นมา
ถ้าอนาคตจะซื้อ SUV PPV หรือปิคอัพอีก รถคันนั้นจะไม่ใช่ 4x2 อีกต่อไปอย่างแน่นอน พอกันทีเลยครับ
เพราะไอ่ความคิดห่วย ๆ ของใครบางคน รวมถึงคนรอบข้างที่บอก 4x4 ไม่ดีอย่างโน้นอย่างนี้ ทำให้ผมพลาดซื้อรถคันแรกในชีวิต คือ LN106 แล้วผมหันไปซื้อรถแค่พอใช้งานเป็นรถเก๋งญีปุ่นมือ 2 คันนึง ไม่อยากเล่าต่อล่ะเด๊ยวยาวมาก
เอาเป็นว่าผมพลาดจังหวะดีดีในชีวิตอีกมากมาย ในสิ่งที่รถ 4x2 ให้ไม่ได้
ทุกวันนี้ขับรถเที่ยวป่า ลุยออฟโรดตามโอกาสกับเพื่อน ๆ ในกลุ่ม 2.7 (ก่อนหน้านี้ไปคนเดียว ) รถก็ไม่เห็นพัง
-
ไม่เคยใช้4x4นะครับ แต่เท่าที่ทราบก็อย่างหลายท่านบอกว่าค่าใช้จ่าย มันก็เพิ่มไม่มากท่าไหร่เวลาเซอร์วิสพอถึงระยะก็มีแค่น้ำมันเพลาหน้าเพิ่มกลับเพลาขับหน้าถ้าเสียก็เป็นรายจ่ายเพิ่มแต่มันก็ไม่พังกันง่ายๆหรอกครับ ก็จะมีแต่น้ำมันกินเพิ่มกว่าตัวขับสองยกสูงนิดหน่อยเพราะน้ำหนักเพิ่มแค่100โลก็เปรียบเหมือนมีคนตัวใหญ่มานั่งอีกคนกับราคาขายต่อที่ตกกว่า4x2แน่ๆ ถ้าวิ่งทางไกลตจว กันบ่อยๆ งบถึงเลือก4x4ก็ดี เพราะอย่างน้อยมันก็ช่วยได้เวลาฝนตกถนนลื่นใส่เกียร์4้hก็เกาะถนนขึ้น หรือเที่ยวตามตจว ไปติดหล่มก็เอาตัวรอดได้ แต่ถ้าใช้ในเมือง4x2ก็พอแล้วครับ ส่วนเรื่องศูนย์มิตซูก็พอได้อยู่ระหว่างกลาง ศูนย์ดีมีเยอะ ศูนย์ห่วยๆก็เยอะเหมือนกัน แต่ถ้าไม่รู้จะเข้าศูนย์ไหนหรือแก้ไม่จบก็ไปหาสำนักงานใหญ่ ตรงนวนครแน่นอน
-
เข้ามายืนยันอีกเสียงว่า ไม่แพงอย่างที่คิดแถมช่วงล่างยังแข็งแรง
-
ผมเห็นหลายๆคนบอกว่า 4WD เกินความจำเป็น ค่าบำรุงรักษาแพงกว่าขับ2 ปกติ กินกว่าปกติ
ผมใช้กระบะ มา 2 คัน ใช้ 4x4 ทั้ง2คัน ผมไม่รู้ว่า ค่าบำรุงรักษา 4WD มันแพงกว่า 4x2 เท่าไรนะครับ แต่ไม่ได้ทำให้กระเป๋าฉีกแน่นอนครับ
4WD มันจะทำให้คุณวิ่งถนนเปียกๆได้อย่างมั่นใจ ถ้าจ่ายได้เอา 4WD ไปเลยครับ
-
ถ้างบถึงแบบไม่เดือดร้อน 4*4ไปเลยครับ
ส่วนการบำรุงรักษาไม่ได้แพงกว่าเท่าไหร่เลยครับ
จะต่างกันตรงที่การถ่ายของเหลวครั้งใหญ่ครับ
เช่น 40,000 โล 80,000 โล จะต่างกันที่ 1,500-2,000 บาท
นอกนั้นเท่าๆกันเลย ถ้าไม่ได้เปลี่ยนถ่ายของเหลวที่เกี่ยวกับ 4*4
-
ผมใช้ all new dmax vcross อยู่ครับ ค่าใช่จ่ายเช็คระยะจะแพงกว่าก็ต่อเมื่อทุกๆระยะ 40000 โลจะเพิ่มน้ำมันเพืองหน้าหรือเกียร์สโลว์แล้วแต่เรียก ราวๆ 1100 บาทครับ ผมว่าถ้างบไม่ใช่ปัญหามีติดไว้ก็ดีครับ มีแล้วไม่ได้ใช้ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มี
-
ครอบครัวผมใช้รถกระบะ 3 แบบครับ
กระบะ 4 ประตูขับ4
กระบะ 4 ประตูขับ 2 ยกสูง
กระบะแคป ขับ2 ตัวเตี้ย
กระบะขับ4 ได้เปรียบแค่ตอนขึ้นเขาชันๆ ฝนตกตอนขึ้นทางชัน ทางทุรกันดาร ครับ
กระบะขับ2ยกสูง ได้เปรียบแค่เด่น ลุยน้ำท่วมได้สูงดูเหมือนขับ4 แค่นั้นเอง ในทางปกติรึน้ำท่วมทางปกติ
กระบะตัวเตี้ย สมัยนี้ตัวเตี้ยเหมือนมันจะสูงพอๆกะรถกระบะขับ4สมัยก่อนแล้วนะ ถ้าเตี้ยผมชอบเตี้ยๆแบบบีที50ตัวเก่า
ขับสนุกกว่า ทัศนวิสัย เหมือนเก๋งเลย แต่สูงกว่าเก๋งนิดนึง ส่วนตัวของผมชอบขับแบบขับ2ตัวเตี้ยมากกว่า
ประหยัดกว่า ไม่โครงเวลาวิ่งด้วยความเร็วสูง ทัศนวิสัยในรุ่นตัวเตี้ยยุคนี้ อารมย์เหมือนขับขับ4สมัยก่อนจริงๆ
แต่มันก็ประหยัดกว่ากันไม่มากเท่าไหร่หรอก สำหรับตัวผมขับนะ เพราะค่อนข้างขับเร็ว ผมใช้ในเมืองเป็นหลัก
ไม่เคยออกไปเที่ยวที่ต้องใช้ขับ4เลย ถ้าออกจริงๆคงใช้ขับ4แทน แต่นี่ผมไม่ได้ออกเที่ยว ตจว พวกขึ้นเขาลงห้วยเลย 4ปีละ
ทุกทางที่ไปก็ กระบะธรรมดาไปได้หมด
มาเข้าเรื่องค่าใช้จ่าย
ไม่ต่างกันมากหรอกครับ แค่เปลี่ยนตามกำหนดแค่นั้นเอง ต่างกันไม่กี่บาท บางช่วงแพงหน่อยก็ต่างไม่กี่พัน
ถ้าชอบก็ใช้ขับ4เลย แล้วแต่ว่าตัวเองชอบแบบไหน ถ้าให้ซื้อกระบะอีกรอบ ก็อยากได้ขับ4นะ แต่อยากได้คันเตี้ยๆ ;D
-
ครอบครัวผมใช้รถกระบะ 3 แบบครับ
กระบะ 4 ประตูขับ4
กระบะ 4 ประตูขับ 2 ยกสูง
กระบะแคป ขับ2 ตัวเตี้ย
กระบะขับ4 ได้เปรียบแค่ตอนขึ้นเขาชันๆ ฝนตกตอนขึ้นทางชัน ทางทุรกันดาร ครับ
กระบะขับ2ยกสูง ได้เปรียบแค่เด่น ลุยน้ำท่วมได้สูงดูเหมือนขับ4 แค่นั้นเอง ในทางปกติรึน้ำท่วมทางปกติ
กระบะตัวเตี้ย สมัยนี้ตัวเตี้ยเหมือนมันจะสูงพอๆกะรถกระบะขับ4สมัยก่อนแล้วนะ ถ้าเตี้ยผมชอบเตี้ยๆแบบบีที50ตัวเก่า
ขับสนุกกว่า ทัศนวิสัย เหมือนเก๋งเลย แต่สูงกว่าเก๋งนิดนึง ส่วนตัวของผมชอบขับแบบขับ2ตัวเตี้ยมากกว่า
ประหยัดกว่า ไม่โครงเวลาวิ่งด้วยความเร็วสูง ทัศนวิสัยในรุ่นตัวเตี้ยยุคนี้ อารมย์เหมือนขับขับ4สมัยก่อนจริงๆ
แต่มันก็ประหยัดกว่ากันไม่มากเท่าไหร่หรอก สำหรับตัวผมขับนะ เพราะค่อนข้างขับเร็ว ผมใช้ในเมืองเป็นหลัก
ไม่เคยออกไปเที่ยวที่ต้องใช้ขับ4เลย ถ้าออกจริงๆคงใช้ขับ4แทน แต่นี่ผมไม่ได้ออกเที่ยว ตจว พวกขึ้นเขาลงห้วยเลย 4ปีละ
ทุกทางที่ไปก็ กระบะธรรมดาไปได้หมด
มาเข้าเรื่องค่าใช้จ่าย
ไม่ต่างกันมากหรอกครับ แค่เปลี่ยนตามกำหนดแค่นั้นเอง ต่างกันไม่กี่บาท บางช่วงแพงหน่อยก็ต่างไม่กี่พัน
ถ้าชอบก็ใช้ขับ4เลย แล้วแต่ว่าตัวเองชอบแบบไหน ถ้าให้ซื้อกระบะอีกรอบ ก็อยากได้ขับ4นะ แต่อยากได้คันเตี้ยๆ ;D
รายละเอียดท่านก็ชัดเจนดีแล้วครับ คนซื้อกระบะขับ 2wd ยกสูงไม่รู้จะซื้อไปทำไมเพราะเอาเข้าจริงรถใช้งานอะไรไมได้เลยที่แตกต่างจากรุ่น 2wd ตัวเตี้ย จะดีกว่าหน่อยตรงที่รู้สึกว่าลุยน้ำท่วมได้ดีกว่านิดนึงเท่านั้นเอง แต่ตัวรถโคลงมากและรถแหกลงข้างทางง่ายมาก รถกินน้ำมันกว่า ราคาแพงกว่ากันมากและได้เพียงแค่ 2wd ที่สำคัญจ่ายเงินเปลี่ยนยางราคาแพงมากเหมือนตัว 4wd ค่ายางที่เปลี่ยนทุก 2 ปี 20,000 กว่าบาท ยังแพงกว่าค่าน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของรุ่น 2wd ไป 4wd เลย ข้อนี้คนซื้อรถทุกคนได้คิดกันหรือไม่ ความจริงคนที่ไม่ต้องการใช้รถสูงใหญ่มาก ซื้อแค่ 2wd ตัวเตี้ยก็เพียงพอแล้ว จะประหยัดค่าใช้จ่ายลงไปได้มากกว่าแบบเห็นได้ชัด เริ่มตั้งแต่ราคารถที่ถูกกว่ากันเป็นแสนบาทแล้ว
ค่าใช้จ่ายค่าน้ำมัน ค่าดูแลไม่ได้หนีกันกับรุ่น 2wd ใกล้เคียงกัน ไม่ค่อยน่าคิดเท่าไหร่เพราะแทบไม่ได้แตกต่างกันเลย
แต่สิ่งที่ต่างกันเยอะ ๆ จนเป็นเงินที่เด่นชัดเลยคือ ราคาตอนซื้อ ถ้าซื้อรถยกสูงไม่ว่าจะ 2wd ราคาจะแพงกว่าตัวเตี้ยหลายแสนบาท ราคายางรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นต้องเปลี่ยนทุก 2 ปี ก็เพิ่มขึ้นอีกเป็นหมื่นบาท ขายต่อราคาตกลงมากกว่าปิคอัพตัวเตี้ยเป็นแสนบาท
ทำไมกระทู้ดีดีแบบนี้น่าจะอยู่ตามเวปคลับรถยนต์ทั่วไปนะ เพราะคนตอบก็ตอบตามปสก. ใช้จริง ๆ มาให้แล้ว
แต่ผมอ่านตมคลับส่วนใหญ่ ทุกคลับไม่ว่าจะเป็นรถญี่ปุ่นหรือปิคอัพอเมริกัน คนบ้านเราบ้าซื้อกระบะขับ 2wd ยกสูง ทั้งที่ไม่ได้ใช้อะไร พอให้ซื้อ 4wd ที่ค่าใช้จ่ายใกล้เคียงกันก้ไม่ซื้อทั้งที่รถมันดีกว่าใช้งานได้ดีกว่า
-
จนถึงวันนี้ผมยังอยากรู้เลยว่าใคร ชาวเน็ต เป็นใคร ที่ชอบพูดกันเหลือเกิน รถ 4x4 ค่าดุแลแพงอย่างโน้นอย่างนี้ เอามาใช้เดี๋ยวก็พัง เอามาลุยเข้าป่าเดี๋ยวก็พัง
เฮ้อ .......... ที่พูดเพราะแค้นและเจ็บใจไม่หาย ทำให้ผมพลาดโอกาสในชีวิตอีกมากมายในการซื้อรถคันแรกเป็น 4x4 มาใช้ ถึงขนาดวันนี้ผมต้องมีรถ 4x4 ถึง 2 คันไปแล้ว และยังมีโอกาสพาคนอื่นซื้อรถ 4x4 อีกมากมาย
รถคันต่อ ๆ ไป อย่างน้อยก็ต้องมี 4x4 ติดบ้านไว้ 1 คันเสมอ
-
ขับ4มีไว้ใช่ไม่เสียหาย ที่บ้านใช้ pajero sport เคยมีเหตุที่ ถ้าเป็นรถธรรมดาก็คงไปไม่ได้ ต้องให้รถคันอื่นมาดึง แต่เป็นขับสี่เลยขึ้นมาเองได้ ค่าบำรุงไม่ได้ต่างเท่าไร มีไว้ไม่ได้ใช้ ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มี
-
ถ้าระบบความปลอดภัยเท่ากัน
ผมยังอยากได้ 4x2 อยู่ครับ
ถ้า 4x4 ควรเป็น AWD ครับ
ไม่ใช่แบบเปลี่ยนเองโดยกดปุ่ม
-
40,000 โลทีจ่ายเพิ่งจากขับสองที่ประมาณ 2,000 บาท
ส่วนเรื่องช่วงล่างอะไหล่ความทนทานขึ้นอยู่กับเท้าคนขับ
รถผม triton 4x4 4 door ปี 07 เดิมๆ เปลี่ยนแค่ล้อปา ใส่หลังคา วิ่งไป 240,000 โล
เที่ยวแนว off road อย่าง เขากระโจม คลองมะเดื่อ ผาตัด ปั่นโคลนก็นับครั้งไม่ถ้วน
อาจไม่ได้ใช้ระบบขับสี่ทุกเดือน แต่ช่วงหน้าฝนทีไรก็ได้ใช้ตลอด เมื่อสองสามเดือนก่อนยาง
หุ้มเพลาขับหน้าตัวในขาดทั้งสองข้าง เลยจัดของก็อป sliken สองตัว700บาท เปลี่ยนที่อู่ ค่าแรง 800
จารบีอีก180 บาท จบลุยน้ำสบาย ตอนนี้กำลังเล็งทริปต่อไปอยู่
ส่วนtriton ใหม่ได้โซ่ราวลิ้นแทนสายพาน ก็น่าเบาค่าใช้จ่ายครบแสนโลไปอีก 10,000 นึง
สรุปสำหรับผม จากที่ไม่เคยขับรถเข้าป่า เข้าเขา พอมีเจ้าคันนี้ก็ได้ประสบการณ์ใหม่เยอะจริงๆ
ยิ่งทำให้รู้สึกว่าคุ้มแล้วที่เลือก 4x4