Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: A!MMY ที่ พฤศจิกายน 24, 2014, 00:43:31
-
สวัสดีครับ สมาชิกใหม่ฝากตัวด้วยนะครับ
ทุกวันนี้รถยุโรปค่อนข้างเกลื่อนเมืองทีเดียวครับ
ไม่กี่เดือนมานี้เจอ w205 ทุกวันเลย ชอบมากๆ
อยากถามความเห็นเพื่อนๆตามหัวข้อเลยครับ ต้องมีเงินเดือน หรือเงินเกบเท่าไหร่ถึงจะซื้อได้แบบสบายๆไม่เป็นภาระ
-
เดือนละแสนกว่ายังไม่กล้าซื้อเลยครับ
ค่าผ่อนรถเป็น 1 ใน 10 ของเงินเดือนผมถึงจะกล้าซื้อครับ
ถ้าซื้อเงินสดคงต้องมีสัก 20 ล้านขึ้นไป
สำหรับรถราคา 3 ล้าน
ประมาณนี้ครับ
-
ก็ขึ้นอยู่กับว่า ดาวน์เท่าไหร่ผ่อนเท่าไหร่ครับ ถ้าดาวน์เยอะ ผ่อนน้อยๆ ยอดเงินผ่อนต่อเดือนก็ไม่ควรเกิน 15% ของเงินเดือน จะได้กันที่เหลือไว้ใช้เติมน้ำมันกับเก็บออมไว้สำหรับค่าดูแลและประกันชั้น 1 ครับ เพราะอย่าลืมว่า เดือนๆนีงยังต้องกินต้องใช้อย่างอื่นอีก ถ้ายังมีภาระบ้านอีกก็ต้องคำนวนเข้าไปด้วยครับ
เพราะงั้น ถ้าคนกินเงินเดือนผมว่า อาจจะต้องกัดฟันหน่อยครับ ถ้าสองคน(แต่งงาน) ช่วยกันผ่อนแล้วมันไม่เกิน 15% ของแต่ละคน ก็ยังพอทำเนาครับ
ถ้าอยากได้ ทำธุรกิจเป็นของตัวเองให้รอด และรุ่ง ดูจะมีหนทางมากกว่าครับ ผมเป็นเจ้าของโรงน้ำแข็งขนาดกลางค่อนมาทางเล็กรายได้เดือนละ 7 หลัก ยังไม่ออกรถยุโรปเลยครับ (ยกเว้นโฟล์คตู้คันเดียว) แต่มีรถญี่ปุ่นหลายคันเต็มบ้านเลย (ผมก็ใช้แค่ Altis 1.6G) นอกนั้นเงินเอาไปซื้อที่ ลงทุนกับพวกกองทุนรวม (ไม่เล่นหุ้น) หวังเอาว่า สักวันนึงผลตอบแทนจะเอามาซื้อรถในฝันไว้เล่นๆสักคัน ;D
-
รายได้ต่อปีเท่ากับราคารถ คุณก็สามารถซื้อได้ละครับ
c250 ราคา 3 ล้าน คุณควรมีรายได้ เดือนละ 250000
ผมเปนคนที่คิดว่า รถเปนสิ่งที่ชอบ ถ้าขับตอนอายุมากว่า 45 มันก็ไม่สนุกละครับ ถามพ่อแม่ หรือคนรู้จักได้
มีโอกาสซื้อได้ ซื้อเลย
-
ผมซื้อมินิได้ตอนอายุ 23 คับ 2.7m จากเงินเดือนของผมคับ
ตอนนั้นผมอยากได้มินิมาก แต่ขอคุณแม่ท่านก็ไม่ยอมให้ซื้อให้สักที
เลยไปเปิดบริษัทนำเข้าไฟซีน่อน ตีแบนด์ OEM จากจีน IMPORT มาไทย แล้ว EXPORT ส่งออกไปขายเป็นแบนด์ตัวเองอีกทีนึ่ง
ระหว่างนั้นก็ตั้งเงินเดือนตัวเองในบริษัท เป็นเงินเดือนเข้าเดือนล่ะ 50,000 ทุกเดือน(เงินเดือนกรรมการผู้บริหาร) เดิน statement ไปในตัว
สิ้นปีเงินปันผลบริษัทออก ได้เงินมา ล้านกว่าๆผมก็เอาเงินส่วนนี้ไปจ่ายเป็นเงินดาวน์ แล้วผ่อนเดือนล่ะ 2x,xxx บาท พ่านไป 2 ปี ผมปิดยอดเรียบร้อยแล้ว
ระหว่างที่ผมผ่อนผมก็ไม่ได้ลำบากอะไรน่ะคับ เพราะบ้านก็มีอยู่แล้ว ค่าน้ำไฟ ที่บ้านก็จ่าย
ส่วนค่าน้ำมันรถก็แค่เดือนไม่เท่าไหร่ เพราะผมนอนอยู่ที่ออฟฟิตบริษัทเลย บริษัทเป็น homeoffice ไม่ได้ออกไปไหน = ผมเหลือเงินอีก 2x,xxx ต่อเดือนไว้เที่ยว
ผมมองว่าถ้าผ่อนแล้วไม่ลำบากก็ซื้อได้แล้วน่ะคับ ส่วนตอนนั้นผมรีบซื้อเพราะ F56 มันมาแล้ว แต่ผมชอบรุ่นเก่า(r56)มากกว่า เพราะมือ1จะไม่มีขายแล้วเลยรีบซื้อ
-
หนี้สินทั้งหมดไม่ควรเกิน 1 ใน 3 ของรายได้ครับ
-
:)
-
พอที่จะผ่อนได้ให้ซื้อเลยครับ รายได้เดือนเดือนละแสนก็ซื้อได้แล้ว. ดาวน์เยอะหน่อย ซื้อรถพวกนี้ขับตอน อายุ 30 กว่า กับ 50 มันไม่มีทางได้อารมณ์เหมือนกันหรอกครับ พอถึง 50 มีเงินเยอะกว่านี้ แต่ passion มันไม่เหมือนตอนนี้หรอกครับ
-
ผมตั้งว่าน่าจะผ่อนประมาณ 40000-45000 ต่อเดือน เพราะฉะนั้นผมต้องมีรายได้ 110000 ขึ้นไปครับ
-
ผมว่าไม่มีคำตอบตายตัวครับ สูตรนั้นสูตรนี้
ต้องมีเงินเก็บเท่าไหร่? บางคนแทบไม่มีเงินเก็บ แต่ก็ออกรถแบบนี้ได้ แค่เอารถเก่าไปเทอร์น หรือ มีเงินดาวน์ประทานมาจากพ่อแม่
ยอดผ่อนเป็นกี่ % ของรายรับ? บางคนเงินเดือนสามแสน แต่มีค่าใช้จ่ายประจำสองแสนห้า อย่างงี้ก็คงถอย C250 ไม่ไหวหรอกครับ
บางคนอยู่กับพ่อแม่ ไม่มีค่าใช้จ่ายในบ้าน ไม่มีลูก ไม่ต้องผ่อนบ้าน เงินเดือน 5-6 หมื่น ก็อาจจะออกรถพวกนี้ได้
แต่ละคนก็มีข้อจำกัดที่ต่างกัน ตราบใดที่การซื้อรถไม่ทำให้เราเดือดร้อน ก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคน
-
ของแบบนี้มันพูดยากครับ
รถราคานี้ ค่างวดผ่อน เดือนละ 5 หมื่น +- แล้วแต่ดอกเบี้ย เงินดาว หรือ จำนวนปีที่ผ่อน
ถ้าขั้นต่ำจริงๆ ที่ Finance จะให้ ก็ต้องมี 100,000+ ต่อเดือน
แต่ถ้าเอาแบบ เหลือกินเหลือใช้ ช้อปปิ้ง เที่ยวต่างประเทศ มีเงินเก็บ เลี้ยงครอบครัวได้ ผ่อนบ้านได้ อย่างน้อยที่สุด ก็ต้อง 3-4 แสนบาทครับ
ไหนจะค่าแต่งรถอีก และอีกอย่าง ถ้าเลือกได้ เราคงอยากมีรถ 2-3 คัน มากกว่ามีรถคันเดียว
สำหรับผม ถึงจะชอบ W205 ขนาดไหน แต่ผมก็ไม่ยอมให้ รถ มาบดบังคุณภาพชีวิตด้านอื่นของผมเด็ดขาด
-
ภาระของแต่ละคนไม่เท่ากันครับ
ท่านลองคิดดูว่ารายได้ของท่านได้มาเท่าไหร่ มีกี่ทาง ถ้าจะเล่นรถยุโรบผมเองคิดว่าน่าจะมีรายได้มากกว่า 2-3 ทางนะครับ
แต่ถ้ามีแค่เงินเดือนอย่างเดียว คงต้องดูเงินดาวน์ ครับ
ผมเองก็คิดอยากได้ BMW 320D F30 สักคันไปดูราคามาหลายที่เลย
ผมเลยนั่งคิดๆดูผมต้องเก็บเงินดาวน์ไห้ไม่ต่ำกว่า 60 % ของราคารถผมจึงจะสามารถผ่อนได้ โดยไม่ลำบากมีเงินเหลือพอที่จะอย่างอื่นได้
เงินของแต่ละคนมันต่างกันครับ อย่างผมมื้อ 100 หนึ่งกินข้าวทีก็ว่าเยอะแล้ว แต่บางคนมื้อละ 1,000 เค้าก็บอกว่าถูกรับได้
ต้องลองคิดดูครับ ท่านอาจจะไม่มีภาระเยอะ มีโอกาศก็รีบจัดเลยครับ บางทีมันก็เป็นของที่เราชอบซื้อแล้วมีความสุข แต่ในความสุขอย่าให้กระทบกับการใช้ชีวิตของเราครับ
-
ของแบบนี้มันพูดยากครับ
รถราคานี้ ค่างวดผ่อน เดือนละ 5 หมื่น +- แล้วแต่ดอกเบี้ย เงินดาว หรือ จำนวนปีที่ผ่อน
ถ้าขั้นต่ำจริงๆ ที่ Finance จะให้ ก็ต้องมี 100,000+ ต่อเดือน
แต่ถ้าเอาแบบ เหลือกินเหลือใช้ ช้อปปิ้ง เที่ยวต่างประเทศ มีเงินเก็บ เลี้ยงครอบครัวได้ ผ่อนบ้านได้ อย่างน้อยที่สุด ก็ต้อง 3-4 แสนบาทครับ
ไหนจะค่าแต่งรถอีก และอีกอย่าง ถ้าเลือกได้ เราคงอยากมีรถ 2-3 คัน มากกว่ามีรถคันเดียว
สำหรับผม ถึงจะชอบ W205 ขนาดไหน แต่ผมก็ไม่ยอมให้ รถ มาบดบังคุณภาพชีวิตด้านอื่นของผมเด็ดขาด
+1 ครับ ผมชอบตรงที่ว่า จะไม่ยอมให้รถคันนึง มาทำให้คุณภาพชีวิตด้านอื่นเสียไป
อีกอย่าง ต่อให้มีเงินรายได้มากกว่านี้ ก็ยังตอบยากครับ แต่ละคนมีภาระต่างกัน ไหนจะผ่อนบ้าน ผ่อนรถคันอื่น เลี้ยงดูครอบครัวต่างๆอีก
-
ตอบไม่ได้คับ ตัวคุณเองน่าจะรู้ดีที่สุด เพราะของแบบนี้มันไม่แน่นอน บางคนรายได้เป็นล้านต่อเดือนขับ อัลติส อีกคนรายได้แสนนิดๆขับ benz sport ;D ;D
-
ขึ้นอยู่กับภาระอื่นๆด้วยครับ
อย่างผมไม่ต้องผ่อนบ้าน กินผมก็กินไม่แพง นานๆทีกินแพงทีหนึ่ง
ไม่เที่ยวไม่ดื่ม เดือนหนึ่ง ใช้3-4หม่นผมก็สบายละ
ถ้าผมมี ประมาณแสนนิดๆ ก็กล้าซื้อครับ
แต่ให้ชัวจริงๆ ผมคงอยากให้ได้ปประมาณ 250,000+
-
ถ้า200,000 บาท/เดือนไหว แต่ไม่ชิล
แต่ถ้า300,000 บาทขึ้นไป ไม่มีใครว่าอะไรคุณได้ ผ่อนสบายๆอยู่แล้ว
-
เงินเดือนไม่สำคัญเท่ากับเหลือเงินสุทธิเท่าไรในแต่ละเดือนครับ
เอาข้อมูลคร่าวๆ มาให้ดู
อันนี้ของ E300 ราคาประมาณ 3.8 ล้าน ถ้า C250 ก็จะถูกลงไปอีกลองประมาณดู
ดาวน์ 1,200,000 (ดอกเบี้ยผมจำไม่ได้แล้ว)
ผ่อน 48 งวด 62,xxx บาท
ผ่อน 60 งวด 51,xxx บาท
ผ่อน 72 งวด 44,xxx บาท
การจัดไฟแนนซ์หลักๆเลยที่มีผลในการพิจารณา
-เงินเดือน/หรือ Statement ส่วนบุคคล
เดินบัญชีโดยตัดภาระการผ่อนอื่น ๆ แล้ว เกินเดือนละ 200,000 บาท
-มีบ้าน/ที่ทำงานหรือที่อยู่ชัดเจน
-อื่นๆ
หลักๆเลยที่มีผลในการพิจารณาคือเขาดูว่าเงินคุณเหลือสุทธิจริงๆ เท่าไร เพราะยอดผ่อน
ต่อเดือนก็ไม่น้อย เอาง่ายๆเลยเขากลัวคุณผ่อนไม่ไหว จะได้ไม่เสียเวลาทวงและยึดคืน
เพราะมันก็ทำให้เขามีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมาทั้งนั้น
ถ้าอยากผ่อนให้น้อยลง ให้ดาวน์เยอะๆเข้าไว้ ลองพิจารณาดูครับ
-
ไม่มีใครตอบคุณได้ไปกว่าตัวคุณเอง ชอบและสามารถซื้อได้ก็เอาเลย
แต่ที่ผมเห็นมาคนซื้อรถพวกนี้คงตามด้านบนว่ามีรายได้เหลือพอกินพอใช้ไม่ดเดือร้อนสามารถซื้อรถได้ไม่เป็นภาระ สดผ่อนเขาไม่เป็นภาระ พอหมดประกัน 3-5 ปี ก็ขายทิ้งซื้อใหม่ไม่เดือดร้อนอีก เรียกว่าเขามีเงินเหลือครับ
แต่คนที่น่าห่วงคือพวกชอบซื้อมือ 2 เขามา เงินไม่ค่อยมีอยากขับรถยุโรป พอตอนเอามาซ่อมก็ โน้นนี่ มีปัญหา แถมเขี้ยวไม่ยอมซ่อมให้ถึงอีก พวกนี้คือภาระจริง ๆ ไม่อยากให้ซื้อถ้าคิดว่าไม่ไหวก็อย่าซื้อเลย คนที่เขาไหวจริง ๆ เขาก็เล่นป้ายแดงแล้วก็ทิ้ง
-
เรื่องนี้มันแล้วแต่ใจคนด้วยครับ บางคนบอกว่า มีเงิน 20เป็นเงินสดถึงกล้าซื้อ บางคนบอกเงินเดือน แสนนึงก้ผ่อนได้ละ ดาวน์เยอะหน่อย อะไรประมาณนี้ ผมว่าคนที่ซื้อน่าจะรู้ตัวเองดีครับ ไม่ต้องถามคนอื่นหรอกเพราะ ระดับการจัดการเงินทุกคนไม่เท่ากัน เอาเป็นว่าลองดูค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนดูครับว่าถ้าเพิ่มค่าผ่อนรถมาอีกจะไหวมั้ย แล้วอย่าลืมคำนวนส่วนที่เหลือไว้เก็บด้วยนะครับ เพราะอาจมีเหตุไม่คาดฝันให้เราต้องใช้
-
สูตรการคิดไม่มีตายตัว แต่ไอเดียหลักมีอย่างเดียวคืออย่ารักรถจนตัวตาย
ถ้าเป็นผมหรือครับ...ผมเคยซื้อรถคันละ 200,000 พร้อมกับทำรถอีกแสนบาท ฟังดูสามแสนนี่น้อยมากนะ แต่ผมทำโดยที่ไม่มีเงินเก็บ และรายได้ต่อเดือนยังไม่ถึงสามหมื่นบาท ผลออกมาคือนรกแตกครับ ทุกวันนี้ยังใช้หนี้ที่เกิดขึ้นคราวนั้นไม่หมด เวลาผ่านมาอีกแค่สองปี ผมทำเงินเก็บได้เยอะขึ้นมาก แล้วมองย้อนกลับไป นี่ถ้าเราใจเย็นกว่านี้สองปี คงไม่ต้องผ่อนหนี้ตัวเองมาถึงทุกวันนี้ หนี้ทุกวันที่มีอยู่ตอนนี้คือเพราะรถเยอะสุด ที่เหลือคือเรื่องอื่น
ดังนั้นในวันนี้ ถ้าผมอยากจะซื้อรถคันละ 3 ล้านสักคัน ผมขอมีเงินว่างๆวางอยู่อย่างน้อย 10 ล้านครับ
มันไม่ใช่แค่ค่าดาวน์ ค่าผ่อนส่ง แต่ยังรวมถึงสิ่งที่เสียไปเพื่อให้ได้เป็นเจ้าของรถคันนึง ซื้อเบนซ์ป้ายแดง ใช้ 5 ปี เงินหายไปเท่าไหร่ คนเงินเดือนสองสามแสนคงไม่คิดมาก แต่คนเงินเดือนหลักหมื่นอย่างผมคิดครับ และอย่าลืมเรื่องการซ่อมบำรุงรถด้วย รถพรีเมียม มาพร้อมกับค่าดูแลแบบพรีเมียม ผมยังทำใจรับตรงนั้นไม่ได้ และยังรู้สึกว่าชอบที่จะใช้เงินที่น้อยที่สุดเพื่อสร้างประสบการณ์ที่กว้างที่สุดให้กับชีวิตโดยไม่ต้องแคร์ว่าภาพพจน์ทางสังคมเป็นอย่างไร หน้าพังๆอย่างผม ต่อให้นั่ง Phantom คนก็นึกว่าขายยาเสพติดมาซื้อรถครับ ดังนั้นคงไม่จำเป็น งานของผมก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาภาพพจน์ของตัวรถ ผมมีเงิน 10 ล้าน ให้ตายก็ไม่ซื้อรถราคาสามล้านคันเดียว ผมยินดีเจียดเงินมาสองล้านแล้วเอามาเสกเป็นรถหลายๆคันที่ถึงจะเก่า เน่า แต่มีคาแร็คเตอร์และตอบโจทย์ตัวเองดีกว่า
แต่ถ้ามีคนให้ฟรี เอานะ ไม่ใช่ไม่เอา C250 น่ะผมก็ชอบอยู่ ภายในมันสวยจริงๆ
อันนี้แชร์ความรู้สึกส่วนตัวกันขำขำ ส่วนถ้าใครจะซื้อรถคันละกี่ล้าน ผมมีสูตรเดียว คืออย่ารักรถจนตัวตาย ยิ่งถ้ามีเมียมีลูกแล้ว คุณไม่สามารถเอาความอยากของคนคนเดียวมากำหนดชะตาทางการเงินของคนในบ้านทุกคนได้ครับ
-
คุณไม่สามารถเอาความอยากของคนคนเดียวมากำหนดชะตาทางการเงินของคนในบ้านทุกคนได้ครับ
คำคมมากครับ
ผมเองมีสูตรง่าย ๆ ตรงที่ว่ารถที่ผมจะซื้อเขามาใช้แต่ละคันนั้น ไม่ว่าใหม่เก่า รถที่ซื้อมาต้องมมีค่าซ่อมถูกไม่เป็นภาระในการซ่อม เรียกว่าเข้าศูนย์ได้ ไม่ใช่เก่าจนต้องหาอู่เฉพาะถึงซ่อมได้ หรือพรีเมียมจนศูนย์ทั่วไปเข้าไม่ได้ ต้องไปหาสำนักแต่งหรือซ่อมชื่อดังตามเวป เข้าซ่อมยังงี้ไม่ไหว มันกินเวลาครอบครัวไป เสียเวลา เสียความรู้สึก
ส่วนรถรุ่นไหนก็ตามที่ซื้อมาแล้วค่าซ่อมแพงนรกแตก อย่างเช่นรถไฮบริด รถนำเข้า รถยุโรป อย่างเช่น BMW ผมจะไม่มองหรือซื้อเข้ามาใช้งานในบ้านเลย เพราะมีไว้เป็นภาระมากกว่า ไม่อยากเอาเงินเดือนไม่กี่หมื่น เศษเงินของคนอีกหลายคนเอาโยนไปเป็นภาระกับค่าซ่อมรถ ต่อให้รถดีแค่ไหนซ่อมแพงไม่ไหวครับ เสียดายเงิน เอาเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่าไปซ่อมรถครับ อีกทั้งรถที่ซื้อมาแล้วปล่อยยากติดดอย ติดมือ ราคาตกฮวบฮาบ อย่างเชฟโรเลต รถยุโรปผมไม่เอาอีกเช่นกัน
งานของผม แค่มีรถใช้เพื่อความสุขเพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีรถไว้เพื่อสร้างภาพลักษณ์ เพราะภาพเหล่านั้นสำหรับผมไม่จำเป็น
-
ได้ประมาณเดือน5หมื่นผ่อน3หมื่นกว่า ผ่อนเอง มีเงินเก็บสำรอง400k แต่พ่อดาวน์ พ่อค้ำ ไม่มีภาระ อายุ22 ค่าน้ำมันสบายใจ F30 มากกว่านี้คงเกินตัว สรุป คือ ใจล้วนๆครับ ผมถอยด้วยความคิดที่ว่า กินเดี๋ยวก็ขี้(อดิเรกดูหนัง เหตุผลเดียวที่เดินห้าง) กับข้าวบ้านอร่อยที่สุดในสามโลก อาหารตามสั่งคือสุดยอด(อาหารญี่ปุ่นสู้อาหารตามสั่งไม่ได้เลยฟาสฟูดตายเร็ว) ทำใจขับรถญี่ปุ่นไม่ได้ และคนอื่นเงินเดือนหมื่นห้ามีอีโค่คาร์เค้าก็อยู่ได้ ผ่อน ไม่มีปัญหาเลยครับ ไม่ขอพ่อแม่เพิ่มด้วย ตามแบบฉบับเด็กต่างจังหวัดครับ
เพิ่มเติม
ถ้าเปรียบก็เหมือนคนที่ทานข้าวห้างบุฟเฟ่ถ่ายรูปลงIG เที่ยวผับแทบทุกคืน เลี้ยงแฟน สรุปรายจ่ายเยอะมาก ทั้งๆที่รายได้เท่าผม เงินเหลือน้อย
ส่วนผมเรื่องพวกนี้ไม่มี กินเหล้ายังแพ้เลย5555 จึงเอาเงินส่วนนั้นมาผ่อนรถ เอาง่ายๆขึ้นมากรุงเทพ ผมยังใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้น รองเท้าแตะเดินสยามเลยครับ แล้วก็รู้สึกว่ามีความสุขมากด้วย
ชีวิตความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ ถ้าทำแล้วมีความสุขไม่เดือดร้อนใคร ก็จัดเลยครับ ง่ายนิดเดียว
มุมมองส่วนตัวล้วนๆครับ
-
เคยอ่านหนังสือเรื่อง millionare next door เป็นหนังสือวิจัยเกี่ยวกับคนรวยที่อเมริกา
คนรวยที่นั่นเกิน 70% ไม่เคยซื้อรถหรูนำเข้า แบบ benz ส่วนใหญ่ใช้รถที่ผลิตในประเทศ
แล้วมีคำถามต่อว่า แล้ว benz ที่นั่นใครซื้อ คำตอบคือ คนที่ไม่รวย แต่ชอบทำตัวรวยซื้อ
-
ซื้อแล้ว ไม่ลำบาก ไม่เดือนร้อนคนรอบข้าง จัดไปเลยครับ
-
ผมมีสูตรง่ายมาก
ถ้าคุณยังตั้งคำถาม แบบนี้แปลว่าคุณไม่พร้อม
คนที่พร้อมแล้วหลายคนตอนซื้อเค้าไม่คิดด้วยซ้ำว่าต้องมีเท่าไหร่ เค้าแค่อยากได้และเค้าไม่เดือดร้อนอะไรเลยกับการได้มันมา
เหมือนมีเงินร้อยนึงคุณอยากไปกินฮะจิบังราเมง คุณต้องคำนวนการสั่งอย่างดีว่าเท่าไหร่ถึงจะพอกินไปอยากสั่งเกี๊ยวซ่าอีกจานก็สั่งไม่ด้ละเงินไม่พอ กินราเมงเสร็จเค็มคอยากกินน้ำอีกแก้วก็สั่งไม่ได้ต้องออกไปซื้อน้ำขวดกิน อร่อยมั้ยก็อร่อยแต่พอจ่ายไปเกือบหมดตัว ออกมารีบกลับบ้าน
แต่ถ้าคุณมีในกระเป๋าสองพัน คุณนั่งสั่งอัดทุกออปชั่น ทันตัมเมง ฮารุมากิ ชูมัย เกี๊ยวซ่า ตบด้วยชาฮั่ง โค้กสองแก้วด้วย
ตอนไปจ่ายเงินที่เคาเตอร์ควักแบงค์พันมารอ ดูบิลว่าเท่าไหร่ตรงกับบิลสั่ง จ่ายไปรอเงินทอนหยอดทิปใส่กล่อง แล้วเดินออกมาช้อปปิ้งกินไอติมต่อ สบายตัว
ถ้าไม่ได้ฟีลสบายตัวแบบนี้ อย่าฝืนครับ มันมีความสุขแค่ตอนอยากได้พอได้มาแล้วไม่ไหวมันเป็นทุกข์ยาวนาน ทำอะไรที่เหมาะสมกับตัวเราเซฟๆน่าจะสบายกว่าครับ
แต่ก็แล้วแต่นโยบายทางการเงินของแต่ละคนด้วยล่ะครับ นิสัยส่วนตัวคนไม่เหมือนกัน
-
ขอบคุณทุกความเห็นนะครับผม เห็นภาพขึ้นพอสมควร
-
ของแบบนี้มันพูดยากครับ
รถราคานี้ ค่างวดผ่อน เดือนละ 5 หมื่น +- แล้วแต่ดอกเบี้ย เงินดาว หรือ จำนวนปีที่ผ่อน
ถ้าขั้นต่ำจริงๆ ที่ Finance จะให้ ก็ต้องมี 100,000+ ต่อเดือน
แต่ถ้าเอาแบบ เหลือกินเหลือใช้ ช้อปปิ้ง เที่ยวต่างประเทศ มีเงินเก็บ เลี้ยงครอบครัวได้ ผ่อนบ้านได้ อย่างน้อยที่สุด ก็ต้อง 3-4 แสนบาทครับ
ไหนจะค่าแต่งรถอีก และอีกอย่าง ถ้าเลือกได้ เราคงอยากมีรถ 2-3 คัน มากกว่ามีรถคันเดียว
สำหรับผม ถึงจะชอบ W205 ขนาดไหน แต่ผมก็ไม่ยอมให้ รถ มาบดบังคุณภาพชีวิตด้านอื่นของผมเด็ดขาด
+1 ครับ ผมชอบตรงที่ว่า จะไม่ยอมให้รถคันนึง มาทำให้คุณภาพชีวิตด้านอื่นเสียไป
อีกอย่าง ต่อให้มีเงินรายได้มากกว่านี้ ก็ยังตอบยากครับ แต่ละคนมีภาระต่างกัน ไหนจะผ่อนบ้าน ผ่อนรถคันอื่น เลี้ยงดูครอบครัวต่างๆอีก
ใช่ครับเห็นด้วย ผมเห็น คนขับ CLS บางคน จอดกินก๋วยเตี๋ยว ลาบต้ม ตามข้างทาง ก็มีนะครับ
บางคน มีรถหรูๆ แพงๆ ใช้ว่า จะใช้ชีวิต ฟุ่มฟอยเสมอไป
-
.
.
.
สูตรผมคืออย่าทำอะไรเกินตัวครับ
ผมชอบรถมาก ชอบมาตั้งแต่เด็ก และยังชอบ MB สุดๆ
และก็พยายามทำงานเก็บเงินจนซื้อมาได้ครับ
แต่อย่างที่หลายๆท่านแนะนำ อย่าให้รถมาทำให้ชีวิตเราลำบาก
เพราะชีวิตมันยังมีด้านอื่นๆอีกเยอะ คุณจะรู้ว่าคุณซื้อได้ก็ต่อเมื่อ
คุณรู้สึกว่าการผ่อนรถนั้นมันไม่ได้เป็นภาระเลยนั่นแหละครับค่อยซื้อ
แต่ถ้ายังต้องคิดเสียดายเงินที่ผ่อนอยู่อย่าเพิ่งซื้อครับ
เดี๋ยวจะกลายเป็นความทุกข์แทนความสุข
-
ของแบบนี้มันพูดยากครับ
รถราคานี้ ค่างวดผ่อน เดือนละ 5 หมื่น +- แล้วแต่ดอกเบี้ย เงินดาว หรือ จำนวนปีที่ผ่อน
ถ้าขั้นต่ำจริงๆ ที่ Finance จะให้ ก็ต้องมี 100,000+ ต่อเดือน
แต่ถ้าเอาแบบ เหลือกินเหลือใช้ ช้อปปิ้ง เที่ยวต่างประเทศ มีเงินเก็บ เลี้ยงครอบครัวได้ ผ่อนบ้านได้ อย่างน้อยที่สุด ก็ต้อง 3-4 แสนบาทครับ
ไหนจะค่าแต่งรถอีก และอีกอย่าง ถ้าเลือกได้ เราคงอยากมีรถ 2-3 คัน มากกว่ามีรถคันเดียว
สำหรับผม ถึงจะชอบ W205 ขนาดไหน แต่ผมก็ไม่ยอมให้ รถ มาบดบังคุณภาพชีวิตด้านอื่นของผมเด็ดขาด
+1 ครับ ผมชอบตรงที่ว่า จะไม่ยอมให้รถคันนึง มาทำให้คุณภาพชีวิตด้านอื่นเสียไป
อีกอย่าง ต่อให้มีเงินรายได้มากกว่านี้ ก็ยังตอบยากครับ แต่ละคนมีภาระต่างกัน ไหนจะผ่อนบ้าน ผ่อนรถคันอื่น เลี้ยงดูครอบครัวต่างๆอีก
ใช่ครับเห็นด้วย ผมเห็น คนขับ CLS บางคน จอดกินก๋วยเตี๋ยว ลาบต้ม ตามข้างทาง ก็มีนะครับ
บางคน มีรถหรูๆ แพงๆ ใช้ว่า จะใช้ชีวิต ฟุ่มฟอยเสมอไป
สมัยเรียนราม ผมนั่งกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ แยกลำสาลี เคยเจอ คนขับแลมโบ ลงมาซื้อก๋วยเตี๋ยวอะ ชาม50บาท นี่แหละสุดยอด 55555+ ทุกคนมองเหมือนเจอดารา
-
.
.
.
สูตรผมคืออย่าทำอะไรเกินตัวครับ
ผมชอบรถมาก ชอบมาตั้งแต่เด็ก และยังชอบ MB สุดๆ
และก็พยายามทำงานเก็บเงินจนซื้อมาได้ครับ
แต่อย่างที่หลายๆท่านแนะนำ อย่าให้รถมาทำให้ชีวิตเราลำบาก
เพราะชีวิตมันยังมีด้านอื่นๆอีกเยอะ คุณจะรู้ว่าคุณซื้อได้ก็ต่อเมื่อ
คุณรู้สึกว่าการผ่อนรถนั้นมันไม่ได้เป็นภาระเลยนั่นแหละครับค่อยซื้อ
แต่ถ้ายังต้องคิดเสียดายเงินที่ผ่อนอยู่อย่าเพิ่งซื้อครับ
เดี๋ยวจะกลายเป็นความทุกข์แทนความสุข
ชอบครับ
-
ความสุขของคุณคืออะไร และความสุขของครอบครับคืออะไร ลองถามเขาดูครับ อาจจะไม่ใช่รถหรูๆก็ได้นะ
-
ของแบบนี้มันพูดยากครับ
รถราคานี้ ค่างวดผ่อน เดือนละ 5 หมื่น +- แล้วแต่ดอกเบี้ย เงินดาว หรือ จำนวนปีที่ผ่อน
ถ้าขั้นต่ำจริงๆ ที่ Finance จะให้ ก็ต้องมี 100,000+ ต่อเดือน
แต่ถ้าเอาแบบ เหลือกินเหลือใช้ ช้อปปิ้ง เที่ยวต่างประเทศ มีเงินเก็บ เลี้ยงครอบครัวได้ ผ่อนบ้านได้ อย่างน้อยที่สุด ก็ต้อง 3-4 แสนบาทครับ
ไหนจะค่าแต่งรถอีก และอีกอย่าง ถ้าเลือกได้ เราคงอยากมีรถ 2-3 คัน มากกว่ามีรถคันเดียว
สำหรับผม ถึงจะชอบ W205 ขนาดไหน แต่ผมก็ไม่ยอมให้ รถ มาบดบังคุณภาพชีวิตด้านอื่นของผมเด็ดขาด
+1 ครับ ผมชอบตรงที่ว่า จะไม่ยอมให้รถคันนึง มาทำให้คุณภาพชีวิตด้านอื่นเสียไป
อีกอย่าง ต่อให้มีเงินรายได้มากกว่านี้ ก็ยังตอบยากครับ แต่ละคนมีภาระต่างกัน ไหนจะผ่อนบ้าน ผ่อนรถคันอื่น เลี้ยงดูครอบครัวต่างๆอีก
ใช่ครับเห็นด้วย ผมเห็น คนขับ CLS บางคน จอดกินก๋วยเตี๋ยว ลาบต้ม ตามข้างทาง ก็มีนะครับ
บางคน มีรถหรูๆ แพงๆ ใช้ว่า จะใช้ชีวิต ฟุ่มฟอยเสมอไป
สมัยเรียนราม ผมนั่งกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ แยกลำสาลี เคยเจอ คนขับแลมโบ ลงมาซื้อก๋วยเตี๋ยวอะ ชาม50บาท นี่แหละสุดยอด 55555+ ทุกคนมองเหมือนเจอดารา
55555 เห็นภาพเลยครับ เคยนั่ง Audi R8 เพื่อนไปซื้อข้าวมันไก่ตรงสวนหลวง แถวๆหลังสนามศุภตอนพีคๆ 3 ทุ่ม เดินลงมามีแต่คนมองจริงๆครับ
-
ผมมีสูตรง่ายมาก
ถ้าคุณยังตั้งคำถาม แบบนี้แปลว่าคุณไม่พร้อม
คนที่พร้อมแล้วหลายคนตอนซื้อเค้าไม่คิดด้วยซ้ำว่าต้องมีเท่าไหร่ เค้าแค่อยากได้และเค้าไม่เดือดร้อนอะไรเลยกับการได้มันมา
เหมือนมีเงินร้อยนึงคุณอยากไปกินฮะจิบังราเมง คุณต้องคำนวนการสั่งอย่างดีว่าเท่าไหร่ถึงจะพอกินไปอยากสั่งเกี๊ยวซ่าอีกจานก็สั่งไม่ด้ละเงินไม่พอ กินราเมงเสร็จเค็มคอยากกินน้ำอีกแก้วก็สั่งไม่ได้ต้องออกไปซื้อน้ำขวดกิน อร่อยมั้ยก็อร่อยแต่พอจ่ายไปเกือบหมดตัว ออกมารีบกลับบ้าน
แต่ถ้าคุณมีในกระเป๋าสองพัน คุณนั่งสั่งอัดทุกออปชั่น ทันตัมเมง ฮารุมากิ ชูมัย เกี๊ยวซ่า ตบด้วยชาฮั่ง โค้กสองแก้วด้วย
ตอนไปจ่ายเงินที่เคาเตอร์ควักแบงค์พันมารอ ดูบิลว่าเท่าไหร่ตรงกับบิลสั่ง จ่ายไปรอเงินทอนหยอดทิปใส่กล่อง แล้วเดินออกมาช้อปปิ้งกินไอติมต่อ สบายตัว
ถ้าไม่ได้ฟีลสบายตัวแบบนี้ อย่าฝืนครับ มันมีความสุขแค่ตอนอยากได้พอได้มาแล้วไม่ไหวมันเป็นทุกข์ยาวนาน ทำอะไรที่เหมาะสมกับตัวเราเซฟๆน่าจะสบายกว่าครับ
แต่ก็แล้วแต่นโยบายทางการเงินของแต่ละคนด้วยล่ะครับ นิสัยส่วนตัวคนไม่เหมือนกัน
เห็นภาพครับ
มันใช่จริงๆ
-
รถราคา 3-4 ล้าน
ค่าเสื่อมต่อเดือน เฉลี่ยเมื่อใครรถ 5 ปี มันอยู่ที่ประมาณ 4-5 หมื่นบาท
ถ้าคุณรู้สึกว่า 4-5 หมื่นบาทต่อเดือน มันไม่มากไม่มาย สบายๆสำหรับคุณ ก็ซื้อได้เลย
แต่ถ้าคิดมาก ก็รอให้คุณรู้สึกว่า มันจิ๊บจ๊อยสำหรับคุณก่อนแล้วค่อยซื้อ
-
เคยอ่านหนังสือเรื่อง millionare next door เป็นหนังสือวิจัยเกี่ยวกับคนรวยที่อเมริกา
คนรวยที่นั่นเกิน 70% ไม่เคยซื้อรถหรูนำเข้า แบบ benz ส่วนใหญ่ใช้รถที่ผลิตในประเทศ
แล้วมีคำถามต่อว่า แล้ว benz ที่นั่นใครซื้อ คำตอบคือ คนที่ไม่รวย แต่ชอบทำตัวรวยซื้อ
นั่นสิ รถหรูแพง ๆ กับประเทศหรือคนที่มีวินัยการเงิน เขาไม่ค่อยสนใจจริง ๆ เพราะค่าเสื่อมรถสูงมาก เอามาก็น่ะ ...... ไม่ค่อยมีประโยชน์ มันแค่ความหยากได้ช่วงเวลานึงอาจปล่อยมันผ่านไปดีกว่า
-
เคยอ่านหนังสือเรื่อง millionare next door เป็นหนังสือวิจัยเกี่ยวกับคนรวยที่อเมริกา
คนรวยที่นั่นเกิน 70% ไม่เคยซื้อรถหรูนำเข้า แบบ benz ส่วนใหญ่ใช้รถที่ผลิตในประเทศ
แล้วมีคำถามต่อว่า แล้ว benz ที่นั่นใครซื้อ คำตอบคือ คนที่ไม่รวย แต่ชอบทำตัวรวยซื้อ
นั่นสิ รถหรูแพง ๆ กับประเทศหรือคนที่มีวินัยการเงิน เขาไม่ค่อยสนใจจริง ๆ เพราะค่าเสื่อมรถสูงมาก เอามาก็น่ะ ...... ไม่ค่อยมีประโยชน์ มันแค่ความหยากได้ช่วงเวลานึงอาจปล่อยมันผ่านไปดีกว่า
.
.
.
แหม องุ่นเปรี้ยวปี๊ดมาเลยนะครับ ;D
-
ของแบบนี้มันพูดยากครับ
รถราคานี้ ค่างวดผ่อน เดือนละ 5 หมื่น +- แล้วแต่ดอกเบี้ย เงินดาว หรือ จำนวนปีที่ผ่อน
ถ้าขั้นต่ำจริงๆ ที่ Finance จะให้ ก็ต้องมี 100,000+ ต่อเดือน
แต่ถ้าเอาแบบ เหลือกินเหลือใช้ ช้อปปิ้ง เที่ยวต่างประเทศ มีเงินเก็บ เลี้ยงครอบครัวได้ ผ่อนบ้านได้ อย่างน้อยที่สุด ก็ต้อง 3-4 แสนบาทครับ
ไหนจะค่าแต่งรถอีก และอีกอย่าง ถ้าเลือกได้ เราคงอยากมีรถ 2-3 คัน มากกว่ามีรถคันเดียว
สำหรับผม ถึงจะชอบ W205 ขนาดไหน แต่ผมก็ไม่ยอมให้ รถ มาบดบังคุณภาพชีวิตด้านอื่นของผมเด็ดขาด
+1 ครับ ผมชอบตรงที่ว่า จะไม่ยอมให้รถคันนึง มาทำให้คุณภาพชีวิตด้านอื่นเสียไป
อีกอย่าง ต่อให้มีเงินรายได้มากกว่านี้ ก็ยังตอบยากครับ แต่ละคนมีภาระต่างกัน ไหนจะผ่อนบ้าน ผ่อนรถคันอื่น เลี้ยงดูครอบครัวต่างๆอีก
ใช่ครับเห็นด้วย ผมเห็น คนขับ CLS บางคน จอดกินก๋วยเตี๋ยว ลาบต้ม ตามข้างทาง ก็มีนะครับ
บางคน มีรถหรูๆ แพงๆ ใช้ว่า จะใช้ชีวิต ฟุ่มฟอยเสมอไป
สมัยเรียนราม ผมนั่งกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ แยกลำสาลี เคยเจอ คนขับแลมโบ ลงมาซื้อก๋วยเตี๋ยวอะ ชาม50บาท นี่แหละสุดยอด 55555+ ทุกคนมองเหมือนเจอดารา
ขึ้นกับว่าร้านก๋วยเตี๋ยวนั้นอยู่ตรงไหน มีที่จอดรึเปล่า
เพราะส่วนใหญ่ที่เจอคือ เป็นรถเข็น โต๊ะอยู่ตรงฟุตบาท และพอมีรถมาจอดเพื่อซื้อกลับบ้านหรือนั่งกินก็ทำให้รถที่ตามมาเลนซ้ายต้องหักขวาออกกัน
ถ้าทำให้รถติดแบบนี้ ต่อให้เป็น RR ผมก็ด่า (ในใจ) ไม่มองด้วยความชื่นชมหรอกครับ
-
ผมมีสูตรง่ายมาก
ถ้าคุณยังตั้งคำถาม แบบนี้แปลว่าคุณไม่พร้อม
คนที่พร้อมแล้วหลายคนตอนซื้อเค้าไม่คิดด้วยซ้ำว่าต้องมีเท่าไหร่ เค้าแค่อยากได้และเค้าไม่เดือดร้อนอะไรเลยกับการได้มันมา
เหมือนมีเงินร้อยนึงคุณอยากไปกินฮะจิบังราเมง คุณต้องคำนวนการสั่งอย่างดีว่าเท่าไหร่ถึงจะพอกินไปอยากสั่งเกี๊ยวซ่าอีกจานก็สั่งไม่ด้ละเงินไม่พอ กินราเมงเสร็จเค็มคอยากกินน้ำอีกแก้วก็สั่งไม่ได้ต้องออกไปซื้อน้ำขวดกิน อร่อยมั้ยก็อร่อยแต่พอจ่ายไปเกือบหมดตัว ออกมารีบกลับบ้าน
แต่ถ้าคุณมีในกระเป๋าสองพัน คุณนั่งสั่งอัดทุกออปชั่น ทันตัมเมง ฮารุมากิ ชูมัย เกี๊ยวซ่า ตบด้วยชาฮั่ง โค้กสองแก้วด้วย
ตอนไปจ่ายเงินที่เคาเตอร์ควักแบงค์พันมารอ ดูบิลว่าเท่าไหร่ตรงกับบิลสั่ง จ่ายไปรอเงินทอนหยอดทิปใส่กล่อง แล้วเดินออกมาช้อปปิ้งกินไอติมต่อ สบายตัว
ถ้าไม่ได้ฟีลสบายตัวแบบนี้ อย่าฝืนครับ มันมีความสุขแค่ตอนอยากได้พอได้มาแล้วไม่ไหวมันเป็นทุกข์ยาวนาน ทำอะไรที่เหมาะสมกับตัวเราเซฟๆน่าจะสบายกว่าครับ
แต่ก็แล้วแต่นโยบายทางการเงินของแต่ละคนด้วยล่ะครับ นิสัยส่วนตัวคนไม่เหมือนกัน
+ 100 คะแนน
-
ผมมีสูตรง่ายมาก
ถ้าคุณยังตั้งคำถาม แบบนี้แปลว่าคุณไม่พร้อม
คนที่พร้อมแล้วหลายคนตอนซื้อเค้าไม่คิดด้วยซ้ำว่าต้องมีเท่าไหร่ เค้าแค่อยากได้และเค้าไม่เดือดร้อนอะไรเลยกับการได้มันมา
เหมือนมีเงินร้อยนึงคุณอยากไปกินฮะจิบังราเมง คุณต้องคำนวนการสั่งอย่างดีว่าเท่าไหร่ถึงจะพอกินไปอยากสั่งเกี๊ยวซ่าอีกจานก็สั่งไม่ด้ละเงินไม่พอ กินราเมงเสร็จเค็มคอยากกินน้ำอีกแก้วก็สั่งไม่ได้ต้องออกไปซื้อน้ำขวดกิน อร่อยมั้ยก็อร่อยแต่พอจ่ายไปเกือบหมดตัว ออกมารีบกลับบ้าน
แต่ถ้าคุณมีในกระเป๋าสองพัน คุณนั่งสั่งอัดทุกออปชั่น ทันตัมเมง ฮารุมากิ ชูมัย เกี๊ยวซ่า ตบด้วยชาฮั่ง โค้กสองแก้วด้วย
ตอนไปจ่ายเงินที่เคาเตอร์ควักแบงค์พันมารอ ดูบิลว่าเท่าไหร่ตรงกับบิลสั่ง จ่ายไปรอเงินทอนหยอดทิปใส่กล่อง แล้วเดินออกมาช้อปปิ้งกินไอติมต่อ สบายตัว
ถ้าไม่ได้ฟีลสบายตัวแบบนี้ อย่าฝืนครับ มันมีความสุขแค่ตอนอยากได้พอได้มาแล้วไม่ไหวมันเป็นทุกข์ยาวนาน ทำอะไรที่เหมาะสมกับตัวเราเซฟๆน่าจะสบายกว่าครับ
แต่ก็แล้วแต่นโยบายทางการเงินของแต่ละคนด้วยล่ะครับ นิสัยส่วนตัวคนไม่เหมือนกัน
เปรียบเทียบได้ชัดเจนดีครับ ชอบมากๆ
-
ผมมีสูตรง่ายมาก
ถ้าคุณยังตั้งคำถาม แบบนี้แปลว่าคุณไม่พร้อม
คนที่พร้อมแล้วหลายคนตอนซื้อเค้าไม่คิดด้วยซ้ำว่าต้องมีเท่าไหร่ เค้าแค่อยากได้และเค้าไม่เดือดร้อนอะไรเลยกับการได้มันมา
เหมือนมีเงินร้อยนึงคุณอยากไปกินฮะจิบังราเมง คุณต้องคำนวนการสั่งอย่างดีว่าเท่าไหร่ถึงจะพอกินไปอยากสั่งเกี๊ยวซ่าอีกจานก็สั่งไม่ด้ละเงินไม่พอ กินราเมงเสร็จเค็มคอยากกินน้ำอีกแก้วก็สั่งไม่ได้ต้องออกไปซื้อน้ำขวดกิน อร่อยมั้ยก็อร่อยแต่พอจ่ายไปเกือบหมดตัว ออกมารีบกลับบ้าน
แต่ถ้าคุณมีในกระเป๋าสองพัน คุณนั่งสั่งอัดทุกออปชั่น ทันตัมเมง ฮารุมากิ ชูมัย เกี๊ยวซ่า ตบด้วยชาฮั่ง โค้กสองแก้วด้วย
ตอนไปจ่ายเงินที่เคาเตอร์ควักแบงค์พันมารอ ดูบิลว่าเท่าไหร่ตรงกับบิลสั่ง จ่ายไปรอเงินทอนหยอดทิปใส่กล่อง แล้วเดินออกมาช้อปปิ้งกินไอติมต่อ สบายตัว
ถ้าไม่ได้ฟีลสบายตัวแบบนี้ อย่าฝืนครับ มันมีความสุขแค่ตอนอยากได้พอได้มาแล้วไม่ไหวมันเป็นทุกข์ยาวนาน ทำอะไรที่เหมาะสมกับตัวเราเซฟๆน่าจะสบายกว่าครับ
แต่ก็แล้วแต่นโยบายทางการเงินของแต่ละคนด้วยล่ะครับ นิสัยส่วนตัวคนไม่เหมือนกัน
+1
-
ตรงๆเลย นะ ผ่อนรถอย่างเดียวไม่มีภาระด้านอื่นนะ และโสดไม่มีลูก ผ่อน 48 เดือน นะห้าเกินนี้ ดาวประมาณ 25%ขึ้น
20,000 ซื้อ Eco
25,000-30,000 Jazz city vios เถือกนี้
35,000-40,000 Civic altis hrv mz3 juke กระบะ4d
50,000 up camry accord teana กระบะ4x4 ppv
100,000 ก็พรีเมียมตัวเริ่มต้น A class series 1
300,000 ก็ C250 เป็นคำตอบ ^^
-
สูตรผมนะครับ ไม่สนว่าจะผ่อนหรือสด อย่างน้อยต้องมีเงินว่างๆ20ล้านคับ
และอาจจะเอามือสองด้วยเพราะรถป้ายแดงมือ1ใช้แปปเดียวราคาหายไปครึ่ง
เอาง่ายๆซื้อferrariวันนี้20ล้านพรุ่งนี้ไปขายเหลือ15ล้านแล้ว
-
ผมซื้อมินิได้ตอนอายุ 23 คับ 2.7m จากเงินเดือนของผมคับ
ตอนนั้นผมอยากได้มินิมาก แต่ขอคุณแม่ท่านก็ไม่ยอมให้ซื้อให้สักที
เลยไปเปิดบริษัทนำเข้าไฟซีน่อน ตีแบนด์ OEM จากจีน IMPORT มาไทย แล้ว EXPORT ส่งออกไปขายเป็นแบนด์ตัวเองอีกทีนึ่ง
ระหว่างนั้นก็ตั้งเงินเดือนตัวเองในบริษัท เป็นเงินเดือนเข้าเดือนล่ะ 50,000 ทุกเดือน(เงินเดือนกรรมการผู้บริหาร) เดิน statement ไปในตัว
สิ้นปีเงินปันผลบริษัทออก ได้เงินมา ล้านกว่าๆผมก็เอาเงินส่วนนี้ไปจ่ายเป็นเงินดาวน์ แล้วผ่อนเดือนล่ะ 2x,xxx บาท พ่านไป 2 ปี ผมปิดยอดเรียบร้อยแล้ว
ระหว่างที่ผมผ่อนผมก็ไม่ได้ลำบากอะไรน่ะคับ เพราะบ้านก็มีอยู่แล้ว ค่าน้ำไฟ ที่บ้านก็จ่าย
ส่วนค่าน้ำมันรถก็แค่เดือนไม่เท่าไหร่ เพราะผมนอนอยู่ที่ออฟฟิตบริษัทเลย บริษัทเป็น homeoffice ไม่ได้ออกไปไหน = ผมเหลือเงินอีก 2x,xxx ต่อเดือนไว้เที่ยว
ผมมองว่าถ้าผ่อนแล้วไม่ลำบากก็ซื้อได้แล้วน่ะคับ ส่วนตอนนั้นผมรีบซื้อเพราะ F56 มันมาแล้ว แต่ผมชอบรุ่นเก่า(r56)มากกว่า เพราะมือ1จะไม่มีขายแล้วเลยรีบซื้อ
เจ๋งมากครับ ชื่นชมๆ
-
เรื่องแบบนี้ มันเป็นเรื่อง "ตัญหา" และความต้องการ มากครับ
บางคนคิดว่ารถฟุ่มเฟือย หหรือบางคนไม่ชอบรถ แต่ชอบบ้าน คอนโดงามๆ ชอบเที่ยว หรือเอาไปลงทุน ชอบซื้อที่ ซื่อนุ่นนื่นั้น ก็ใช้ว่าจะเกิดประโยชน์แบบจับต้องได้เสมอไป
แต่สำหรับบางคนในเรื่องรถมันมี need สูง พอมีเงินถึงจุดนึงจะกี่ล้านก็แล้วแต่ มันจะถึงจุดที่รู้ว่าต้องจับรถคันนั้นสนอง need ตัวเองละ
จะเหนื่อยเพิ่มหน่อยยอมได้ จะซ่อม อะไหล่ไร ช่างมัน จัดการไหว
เชื่อว่าหลายคนที่ซื่อ super car ก็เป็นแบบนี้เยอะครับ ใช่ว่าทุกคนจะโชคดีมีเงินถังนอนรอแล้วไปซื้อ
ผมเชื่อว่าอะไรที่มันอยู่ในความต้องการของเราเมื่อถึงวันที่เรารู้สึกว่าเราพร้อมละ เราก็จะหาทางครอบครองมัน และหาเหตุผลต่างๆให้มันครับ
-
ของแบบนี้มันพูดยากครับ
รถราคานี้ ค่างวดผ่อน เดือนละ 5 หมื่น +- แล้วแต่ดอกเบี้ย เงินดาว หรือ จำนวนปีที่ผ่อน
ถ้าขั้นต่ำจริงๆ ที่ Finance จะให้ ก็ต้องมี 100,000+ ต่อเดือน
แต่ถ้าเอาแบบ เหลือกินเหลือใช้ ช้อปปิ้ง เที่ยวต่างประเทศ มีเงินเก็บ เลี้ยงครอบครัวได้ ผ่อนบ้านได้ อย่างน้อยที่สุด ก็ต้อง 3-4 แสนบาทครับ
ไหนจะค่าแต่งรถอีก และอีกอย่าง ถ้าเลือกได้ เราคงอยากมีรถ 2-3 คัน มากกว่ามีรถคันเดียว
สำหรับผม ถึงจะชอบ W205 ขนาดไหน แต่ผมก็ไม่ยอมให้ รถ มาบดบังคุณภาพชีวิตด้านอื่นของผมเด็ดขาด
+1 ครับ ผมชอบตรงที่ว่า จะไม่ยอมให้รถคันนึง มาทำให้คุณภาพชีวิตด้านอื่นเสียไป
อีกอย่าง ต่อให้มีเงินรายได้มากกว่านี้ ก็ยังตอบยากครับ แต่ละคนมีภาระต่างกัน ไหนจะผ่อนบ้าน ผ่อนรถคันอื่น เลี้ยงดูครอบครัวต่างๆอีก
เห็นด้วยครับ
พื้นฐานครอบครัวก็สำคัญมาก
คนที่มาจากครอบครัวที่มีฐานะ อยู่บัานพ่อ-แม่ ไม่ต้องส่งเงินให้พ่อแม่ใชั ก็ซื้อง่าย ถ้าฉุกเฉินก็มีพีอแม่ช่วยอีก
อย่างผม มาจากติดลบ พอสร้างเนื้อสรัางตัวได้ ก็กลัวจะกลับไปจนอีก ไหนจะต้องส่งเสียทางบ้าน ขยายการลงทุน เก็บออมเผื่อฉุกเฉิน
รายได้พอผ่อนเบนซ์ได้ แบบไม่ลำบาก แต่ยังไม่กล้าซื้อมาขับตอนนี้ครับ
-
เอาจากมุมคนซื้อ premium car คันแรกของตัวเองครับ
รายได้ต่อปี ผม 3m+ รวมโบนัส ก็กล้าซื้อครับ แต่หากมองย้อนกลับไป ตอนรายได้ผม 1.5-2m+ ต่อปี ผมซื้อ D seg มาใช้ 3-4 คัน เปลี่ยนไปเรื่อยๆ หากเรามองถึงการใช้งาน ที่ premium car น่าจะใช้ได้ 10 ปี+ กับ D seg ที่ผม ใช้ไม่เคยถึง 5 ปี มันก็ซื้อได้เหมือนกันนะ
ตอนนั้นบอกเลย ไม่กล้า กลัวแบบที่หลายๆ คนกลัวครับ แล้วก็คิดเอาเองมาตลอด D seg มันก็เจ๋งพอแล้ว สำหรับเรา แต่ ...
เมื่อวันที่ออก F30 บอกตรงๆ ฟิน ราคาคือส่วนหนึ่ง ความโก้ คือส่วนหนึ่ง การขับขี่ คือส่วนหนึ่ง ทุกอย่างรวมกัน คือ ชอบอะ
ใครจะว่า ยังไง ผมไม่แคร์แล้ว หากย้อนกลับไปได้ ผมซื้อรถ premium car ตั้งแต่ก่อนซื้อ D seg ละครับ ผมว่า ถึงเวลาจริงๆ ความสุขส่วนตัว เท่าไหร่ คุณถึงคิดว่า คุ้ม? คำตอบ อยู่ที่คุณเอง ถามผมเหรอ หากต้องกินก๋วยเตี๋ยวบ้าง ลดอาหารหรูๆ ลงบ้าง เพื่อให้ได้สิ่งที่เรา happy ผมยอมนะ ลองชั่งใจดูเองดีกว่าครับ เพราะหากคุณซื้อแล้ว มันอยู่กับคุณ คุณ happy แค่ไหน ที่ได้อยู่กับมันทุกวัน
ผมบอกได้ ผมโคด happy ครับ ทุกวันนี้ ;D
-
เชื่อไหมครับ มีคนที่ทำงานได้เดือนละหมื่น แต่ผ่อนรถเดือนละ6500บาท เวลา6ปี เค้าเหลือเงินเดือน3500บาททุกเดือน ไม่มีรายได้จากทางอื่นเข้ามาด้วย แต่...เค้าไม่ต้องเช้าบ้าน จ่ายแต่ค่าน้ำกับค่าไฟเดือนละ800-1000 เค้าเหลือเงินเดือน2500บาท ซื้อกินแค่ช่วงเช้า-เที่ยง เย็น-ค่ำกินฟรี เบ็ดเสร็จเค้าจะเหลือเงินอยู่ประมาณเดือนละ1000บาท ไอเงิน1000บาทเนี่ยแหละ ที่เค้าเก็บเป็นค่าเทอมให้ลูก ลูกเรียนอนุบาล3
พี่ๆคิดว่าไงครับ
-
เคยจะซื้อตราดาว 2ล้านกว่า แต่มีเหตุพลิกผัน ไม่ได้ซื้อ เลยเอาเงินไปทำอย่างอื่น5ล้าน ได้เงินกลับมาเดือนเกือบ3หมื่นทุกเดือน สรุปไปไม่ถึงดวงดาว
แต่แอบมองดาวร่วงนะ รถ2-3ปี ราคาร่วงลง1-2ล้านเลย โอ้.....พระสงฆ์ :o :D
-
ทำสิ่งที่สมองกับใจคุณตกลงกันได้พอดีครับ....ชีวิตนี้สั้นนัก หลายคนเก็บเงิน แล้วไม่มีโอกาสได้ใช้ เรื่องบางเรื่อง รอจนแก่ มันก็ไม่ใช่.. แต่ถ้าซื้อแล้วชีวิตขาดสมดุลย์ ก็ถามสมองคุณเยอะๆหน่อย
แต่อย่างที่ข้างบนว่า ถ้ายังมีคำถาม คือคุณยังไม่พร้อมครับ
-
ขั้นต่ำ อย่าให้เงินเดือนต่ำกว่า 2.5 เท่าของค่างวด อยากให้ดีต้อง 3 เท่าขึ้นไปเลย อาจจะมีธุรกิจส่วนตัว ถ้างานประจำก็นึกถึงตำแหน่งผู้บริหาร หรืองานที่มีลักษณะพิเศษ
แต่ก็ขึ้นอยู่กับชีวิตความเป็นอยู่ ทั้งของตนเองและครอบครัวด้วยครับ ผมเองขับ Ford Fiesta ecoboost ยังถูกที่บ้านมองว่าเกินตัวและไม่สมฐานะเลยครับ ถึงแม้ว่าราคามันจะเท่าๆ กับรถของเพื่อนๆ แต่มันแพงกว่ารถพ่อผมถึง 7 เท่า และเป็นรถป้ายแดงคันแรกในครอบครัว (พ่อผมยังขับกระบะ Mighty X ซื้อมามือสองอยู่เลย)
-
นั่งอ่านกระทู้นี้มา 2 วันได้เห็นมุมมองความคิดหลายๆ แบบ สรุปที่ชอบได้ดังนี้
1. ถ้าคุณยังมีคำถามแสดงว่าคุณยังไม่พร้อม และคำว่าพร้อมของแต่คนมันก็ไม่เท่ากันอีกต่างหากเช่น
- มีรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว 2 แสนบาทต่อเดือนยังมีคำถาม แสดงว่ากิเลสหรือความอยากได้ของคุณยังไม่พร้อม ตัดใจซื้อไม่ลง
- มีรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย 5 หมื่นบาทต่อเดือนย่อมมีคำถามเพราะการเงินคุณยังไม่พร้อม
ดังนั้นตราบใดที่ยังมีคำถาม 90% ของคนที่ถามน่าจะยังไม่พร้อมแน่ๆ ชอบไอเดียนี้มากๆ
2. ใช้ความอยากเป็นแรงกระตุ้นทำให้พร้อม อันนี้ก็ดีมากเพราะเราจะมีเป้าหมายในการดำเนินชีวิตแล้วก็คิดหาวิธีทางที่จะเดินไปให้ถึงเป้าหมายช้าเร็วแล้วแต่บุคคล อย่างน้องที่ซื้อ mini ตั้งเป้าหมายคิดและกระทำเลย เจ๋งมากเลยครับ
3. ใช้สมองกับใจให้ตรงกันอย่าให้ครอบครัวต้องลำบากเพราะรถคันเดียว เป็นข้อเตือนใจที่ดีครับเพราะมีหลายคนที่ความอยากหรือกิเลสมากจนบดบังความจริงไป สุดท้ายต้องมานั่งขายดาวน์หรือ refinance เป็นหนี้เพิ่มจาก 5 ปีเป็น 10 ปีบ้าง
4. อย่ารอให้ช้าจนเกินไปแล้วค่อยสนองกิเลส เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นบ่อยๆ บางครั้งคุณพร้อมที่จะสนองกิเลสของคุณแล้วแหละแต่คุณเสียดายเงินที่เก็บมาจนกระทั้งมันสายเกินไป อย่าให้คุณเป็นคนที่ต้องพูดว่า "รู้งี้ซื้อมาขับตอนที่ยังขับไหวดีกว่า"
-
ก่อนอื่น ขอออกตัวก่อนว่ายังไม่ได้อ่าน comment จากท่านอื่นนะครับ พอดีเห็นหัวข้อ เลยอาจจะมีบอกซ้ำกับท่านอื่นได้
คือในฐานะที่ผมเองก็เคยไม่แน่ใจในความสามารถในการซื้อรถซักคัน ผมอยากจะแนะนำอย่างนี้ครับ
ครั้งแรกเลยที่ผมจะซื้อรถที่ผมอยากได้ แต่ผมไม่แน่ใจว่าจะไหวมั้ย ผมใช้วิธีทดลองความสามารถตัวเองโดยการ
เปิดบัญชีฝากประจำครับ(แบบปลอดภาษี ได้ดอกเบี้ยด้วย ได้ประโยชน์ 2ต่อ) โดยฝากแต่ละเดือนให้มากกว่าหรือเท่ากับ
ค่าผ่อนรถ (ยังไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องเงินดาวครับ อันนี้เรื่องเล็ก)
คุณจะฝากประจำนานและนานเท่าไหร่ ก็แล้วแต่ว่าเดือนนึงคุณคิดว่าคุณเหลือเท่าไหร่ ของผม
ลองฝาก 3ปีครับ หมด 3 ปีได้เงินก้อน (ไปซื้อรถนั่นแหละ ดาวก้อนใหญ่ก็ผ่อนรายเดือนน้อยนิดเดียวครับ)
และพิสูจน์ตัวเองแล้วว่า จากการใช้ชีวิตการจับจ่าย ของเรานั้น เรามีความสามารถในการรับภาระตรงนี้ได้
วิธีนี้ ไม่เสี่ยง และไม่เหนื่อยครับ
เพียงแต่ ท่านต้องใจเย็นนิดดดนึงนะครับ แล้วท่านจะมีความสุข ไม่ใช่กัดฟันซื้อมาแล้วเป็นทุกข์ไปอีก 3ปี-5ปี
มันไม่สนุกครับ ลองแบบนี้ สุดท้ายถ้าไม่ไหว เราก็จะได้ประมาณตัวเองได้ว่าเรายังไม่พร้อม และเงินเราก็ยังอยู่ครับ
กลับมาที่คำถามว่า เราต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่????
ผมฝากแนวคิดไว้แบบนี้ละกันครับ
นาย Low profile High profit เงินเดือน 100,000
หักกินเที่ยว เดินทาง และภาระอื่นๆแล้ว เหลือ 40,000บาท/เดือน
นาย Hiso Low income เงินเดือน 200,000
หักกินเที่ยว เดินทางและภาระอื่นๆแล้ว เหลือ 20,000บาท/เดือน
พอเข้าใจนะครับ ว่านาย Low กะ นาย Hi ต่างกันยังไง ทั้งๆที่นาย Hi เงินเดือนมากกว่านาย Low ถึงเท่าตัว
เพราะฉนั้น ความสามารถในการผ่อนชำระ = เงินเดือน-(ภาระ+กิน+เที่ยว+เมา+กิ๊ก+เดินทาง+life style)
ที่เหลือ จขกท. คงต้องทำการบ้านนี้ต่อเองละครับ ;D
-
การใช้ชีวิตให้คุ้มค่า และมีความสุข ไม่ได้วัดจาก จำนวนของที่คุณสั่งสม ราคารถที่คุณขับ ความหรูหราของบ้านที่คุณซื้อ แต่มันคือ การใช้ชีวิต โดยที่ไม่ต้องพึ่งมันต่างหากล่ะ
เมื่อ 10 ปีก่อน รู้สึกอยากมี อยากได้เหมือนคนอื่น กว่าจะผ่านมาได้ก็ยากสุดๆ .. มองย้อนกลับไปวันนั้น รู้สึกคิดถูกที่ไม่ซื้อมา
เดี๋ยวนี้เฉยๆ กับของพวกนี้ มองปลายทางของชีวิต เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ว่าจะอยู่อย่างไรให้ไม่ทุกข์ หรือให้ทุกข์น้อยที่สุดก็พอ
ส่วนตัวเป็นคนชอบรถเหมือนกัน แต่ถ้าให้ซื้อ ต้องรวยจริงๆ ครับ อย่างน้อยต้องมี 30 ล้าน up ครับ ถึงจะซื้อ
-
อ่ะ ตอน เเวป แรก ดูผ่านๆ คิดว่าคุณ J!MMY เป็นคนตั้งกระทู้ คำถามนี้อ่ะครับ ;D ;) :o
อ้อ ชอบความเห็นหลายๆท่านจังครับ ว่าจะตั้งแบบนี้เหมือนกัน แต่อยากได้ F30
-
ก่อนอื่น ขอออกตัวก่อนว่ายังไม่ได้อ่าน comment จากท่านอื่นนะครับ พอดีเห็นหัวข้อ เลยอาจจะมีบอกซ้ำกับท่านอื่นได้
คือในฐานะที่ผมเองก็เคยไม่แน่ใจในความสามารถในการซื้อรถซักคัน ผมอยากจะแนะนำอย่างนี้ครับ
ครั้งแรกเลยที่ผมจะซื้อรถที่ผมอยากได้ แต่ผมไม่แน่ใจว่าจะไหวมั้ย ผมใช้วิธีทดลองความสามารถตัวเองโดยการ
เปิดบัญชีฝากประจำครับ(แบบปลอดภาษี ได้ดอกเบี้ยด้วย ได้ประโยชน์ 2ต่อ) โดยฝากแต่ละเดือนให้มากกว่าหรือเท่ากับ
ค่าผ่อนรถ (ยังไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องเงินดาวครับ อันนี้เรื่องเล็ก)
คุณจะฝากประจำนานและนานเท่าไหร่ ก็แล้วแต่ว่าเดือนนึงคุณคิดว่าคุณเหลือเท่าไหร่ ของผม
ลองฝาก 3ปีครับ หมด 3 ปีได้เงินก้อน (ไปซื้อรถนั่นแหละ ดาวก้อนใหญ่ก็ผ่อนรายเดือนน้อยนิดเดียวครับ)
และพิสูจน์ตัวเองแล้วว่า จากการใช้ชีวิตการจับจ่าย ของเรานั้น เรามีความสามารถในการรับภาระตรงนี้ได้
วิธีนี้ ไม่เสี่ยง และไม่เหนื่อยครับ
เพียงแต่ ท่านต้องใจเย็นนิดดดนึงนะครับ แล้วท่านจะมีความสุข ไม่ใช่กัดฟันซื้อมาแล้วเป็นทุกข์ไปอีก 3ปี-5ปี
มันไม่สนุกครับ ลองแบบนี้ สุดท้ายถ้าไม่ไหว เราก็จะได้ประมาณตัวเองได้ว่าเรายังไม่พร้อม และเงินเราก็ยังอยู่ครับ
กลับมาที่คำถามว่า เราต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่????
ผมฝากแนวคิดไว้แบบนี้ละกันครับ
นาย Low profile High profit เงินเดือน 100,000
หักกินเที่ยว เดินทาง และภาระอื่นๆแล้ว เหลือ 40,000บาท/เดือน
นาย Hiso Low income เงินเดือน 200,000
หักกินเที่ยว เดินทางและภาระอื่นๆแล้ว เหลือ 20,000บาท/เดือน
พอเข้าใจนะครับ ว่านาย Low กะ นาย Hi ต่างกันยังไง ทั้งๆที่นาย Hi เงินเดือนมากกว่านาย Low ถึงเท่าตัว
เพราะฉนั้น ความสามารถในการผ่อนชำระ = เงินเดือน-(ภาระ+กิน+เที่ยว+เมา+กิ๊ก+เดินทาง+life style)
ที่เหลือ จขกท. คงต้องทำการบ้านนี้ต่อเองละครับ ;D
ผมเห็นด้วยกับความเห็นนี้อย่างมากครับ เป็นวิธีที่ดีที่เดียว
ผมก็ทำคล้ายๆ แบบนี้ ผมไม่ได้มัีเงินสดเยอะนะครับ มากกว่าตัวรถแค่ล้านเดียว
แต่ผมเก็บจนสามารถซื้อเงินสดได้
ผมจึงไปลองขับแล้วชอบมัน สุดท้ารยผมดาวน์แค่ 50 % ที่เหลืออีก 50 % เอาไปโป๊ะบ้านแทนเพราะดอกเบี้ยบ้านแพงกว่า
อย่างความเห็นที่ว่า ต้องมีเงิน 20 ล้านก่อนแล้วค่อยซื้อ ผมคงรอแบบนั้นไม่ได้ ชีวิตนี้ ไม่รู้จะอยู่ได้อีกกี่วัน ถ้ารอขนาดนั้น ผมก็ไม่เคยถึงซะด้วย พอมีเงินหน่อยก็ไปลงทุนหมดแล้ว เปลี่ยนเป็นรายได้ที่มันคง สมมุติเก็บได้ 20 ล้าน แต่อีกวันดันไม่อยู่บนโลกนี้ สรุปก็อดขับ ถ้าไม่เดือนร้อนเรามากก็จัดเลยครับ
วิธีแบบข้างบนทำให้รู้ว่าเรามีปัญญาผ่อนไหวไหม แต่ต้องอย่างน้่อย 1 ปีนะครับ
แต่ถ้าถามตัวผมเองตอนนี้ คันต่อไปจะเป็นรถยุโรปหรือไม่ ตอบง่ายๆ เลยครับว่า ไม่แน่นอน
ไม่ใช้ไม่มีปัญญาซ่อมนะ คิดว่าจ่ายไหว แต่เสียดายเงินนะ
ทำไมหรือครับ ผมมองว่าซื้อรถญีปุ่น สัก 2 คันแทนดีกว่า
เช่นรถใช้งาน 1 คัน แบบขนของได้ ดูดีพอประมาณ เช่น fortuner หรือ แคมรี่ แอคคอร์ดตัวกลางๆ มือหนึ่ง หรือ มือสองปีใหม่ๆ หน่อยก็ได้
ขับลุยๆ ไปเลย ไม่ต้องเสียดายรถมาก ใช้เต็มที่ ซ่อมยังไงก็ไม่แพงมาก
อีกคันเลือกรถที่ขับสนุกคล้ายๆรถยุโรป แต่แรงกว่า เช่น อิม STI มือสอง อิอิ คันนี้ก็เหยียบเต็มตีน ขับเต็มที่เลย
แบบนี้น่าจะตอบโจทย์ผมได้ดีกว่าได้ดีกว่า
ผมมองว่าราคารถบ้านเรามันแพงไปหน่อย