Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: yacoolsa9 ที่ พฤศจิกายน 26, 2014, 10:19:39
-
พอดีมีการแชร์กันเรื่อง "เกียร์หลุด"
"#ดับเครื่องยนต์ทันที จากข่าวมีรถถอยหลังตกตึกสูงบ้าง ถอยรถลงสระจมน้ำบ้าง บางครั้งไม่เกิดจากผู้ขับ แต่เกิดจากอาการ "เกียร์หลุด" ถ้าเกิดกับเราต้องทำอย่างไร ?
เกียร์หลุด มันไม่ใช่เกียร์หลุดติดมืออกมา หรือเข้าเกียร์ไม่ได้ แต่มันหลุดไปอยู่ที่เกียร์ถอย R อาการของมันก็คือ ไม่ว่าคุณจะเข้าเกียร์อะไร ก็ควบคุมรถไม่ได้ ไม่ว่าคุณจะผลักเกียร์ไปอยู่ที่ P, D, 3 หรือ 2 ก็ตาม ทุกเกียร์จะถูกสั่งให้ถอยหลังทั้งหมด ยิ่งคุณพยายามจะเดินหน้า โดยผลักไปที่ D แล้วเหยียบคันเร่ง เครื่องยนต์จะถูกเร่งให้ถอยหลังแรงขึ้น ยกเว้นคุณจะเหยียบเบรคอยู่อย่างนั้น และอย่าหวังพึ่งเบรคมือเพราะมันจะมีประสิทธิภาพเมื่อรถจอด ป้องกันไม่ให้รถไหล จากประสบการณ์ที่เคยเจอเหมือนที่เล่ามา ก็เลยเหยีบเบรค และเลื่อนเกียร์มาที่เกียร์ว่าง N แล้วก็ปล่อยเบรค เพื่อจะดับเครื่องจอด ทันใดนั้นเองสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือรถพุ่งถอยหลังด้วยความเร็วและแรงมากในชั่ววินาทีเดียว สิ่งที่อยากจะฝากเตือนทุกคนก็คือ เมื่อเกิดเหตุควบคุมรถไม่ได้เพราะเกียร์หลุด ต้องดับเครื่องยนต์ทันที (คำแนะนำของช่าง) เพราะรถที่เกียร์หลุด จะไม่สามารถควบคุมได้เด็ดขาด ยกเว้นหลุดไปเป็นเกียร์ว่าง"
ประมาณนี้อ่ะครับ เลยอยากทราบว่ามันจริงหรือไม่จริงครับ
-
เหมือน ฟอร์เวิร์ดเมลล์ยุคก่อน
ความจริง ในรถเก๋งราคาไม่เกิน 1 ล้าน เมืองไทย
เกียร์เป็นระบบกลไกธรรมดา ไม่ใช่ไฟฟ้า
ถ้าเปิดแท่นใต้แป้นเกียร์ดูจะเห็นเป็นสายสลิงไปดึงคันโยกที่เสื้อเกียร์ (ตัวเกียร์อยู่หน้ารถติดกับเครื่อง เกียร์ไม่ได้อยู่ใต้แป้นเกียร์เหมือนรถกระบะ
อีกอย่าง การเลื่อนไป R ต้องกดปุ่มเสมอ หรือแป้นเกียร์แบบขั้นบันได ก็ต้องโยก2ทิศทางเสมอ ถึงจะไป R ได้ ไม่พบว่ายี่ห้อไหนออกแบบให้เลื่อนไป R ได้ทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข??
บ.รถไหนๆ ก็ไม่เคยออกแบบให้ Safe mode ไป R ไว้ก่อน ส่วนมากจะคาเกียร์3ในโหมดประคองตัว
ส่วนมากที่ผมพบ คนขับรถแล้วเกียร์ค้าง R คือ
พวกชอบกดปุ่มตลอดเวลา ไม่ว่าเลื่อนไปไหนๆ พวกดปุ่มตลอด นัยว่าเลื่อนง่ายดี
หากเราสังเกต จะพบว่า D ไป N ไม่ต้องกดปุ่ม
บางคนจะไป N แล้วกดปุ่มค้างไว้ เกียร์มันจึงเลยไปคร่อม R ได้ง่ายๆ
อีกเคสนึงคือ เข้า P ไม่สุด ละเลย มักง่าย ไม่สังเกต ไม่มองจอ
พวกนี้ก็ไม่รู้จะบอกยังไง มักเป็นพวกไม่สนโลก ปิดประตูไม่แน่น เปิดไฟฉุกเฉินผ่านแยก จอดขวางหน้า7-11
จริงๆสมัยนี้ การ"หารถมาขับ"มันง่ายเกินไป บางทีเห็นคนอายุน้อยๆขับรถเป็นภาระบนท้องถนนเสียแล้ว
-
เหมือน ฟอร์เวิร์ดเมลล์ยุคก่อน
ความจริง ในรถเก๋งราคาไม่เกิน 1 ล้าน เมืองไทย
เกียร์เป็นระบบกลไกธรรมดา ไม่ใช่ไฟฟ้า
ถ้าเปิดแท่นใต้แป้นเกียร์ดูจะเห็นเป็นสายสลิงไปดึงคันโยกที่เสื้อเกียร์ (ตัวเกียร์อยู่หน้ารถติดกับเครื่อง เกียร์ไม่ได้อยู่ใต้แป้นเกียร์เหมือนรถกระบะ
อีกอย่าง การเลื่อนไป R ต้องกดปุ่มเสมอ หรือแป้นเกียร์แบบขั้นบันได ก็ต้องโยก2ทิศทางเสมอ ถึงจะไป R ได้ ไม่พบว่ายี่ห้อไหนออกแบบให้เลื่อนไป R ได้ทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข??
บ.รถไหนๆ ก็ไม่เคยออกแบบให้ Safe mode ไป R ไว้ก่อน ส่วนมากจะคาเกียร์3ในโหมดประคองตัว
ส่วนมากที่ผมพบ คนขับรถแล้วเกียร์ค้าง R คือ
พวกชอบกดปุ่มตลอดเวลา ไม่ว่าเลื่อนไปไหนๆ พวกดปุ่มตลอด นัยว่าเลื่อนง่ายดี
หากเราสังเกต จะพบว่า D ไป N ไม่ต้องกดปุ่ม
บางคนจะไป N แล้วกดปุ่มค้างไว้ เกียร์มันจึงเลยไปคร่อม R ได้ง่ายๆ
อีกเคสนึงคือ เข้า P ไม่สุด ละเลย มักง่าย ไม่สังเกต ไม่มองจอ
พวกนี้ก็ไม่รู้จะบอกยังไง มักเป็นพวกไม่สนโลก ปิดประตูไม่แน่น เปิดไฟฉุกเฉินผ่านแยก จอดขวางหน้า7-11
จริงๆสมัยนี้ การ"หารถมาขับ"มันง่ายเกินไป บางทีเห็นคนอายุน้อยๆขับรถเป็นภาระบนท้องถนนเสียแล้ว
+1
-
ผมก็นึกว่าเกียร์ธรรมดาเข้าๆไปแล้วเกียร์หลุดมาเป็นเกียร์ว่างซะอีก
เหมือน ฟอร์เวิร์ดเมลล์ยุคก่อน
ความจริง ในรถเก๋งราคาไม่เกิน 1 ล้าน เมืองไทย
เกียร์เป็นระบบกลไกธรรมดา ไม่ใช่ไฟฟ้า
ถ้าเปิดแท่นใต้แป้นเกียร์ดูจะเห็นเป็นสายสลิงไปดึงคันโยกที่เสื้อเกียร์ (ตัวเกียร์อยู่หน้ารถติดกับเครื่อง เกียร์ไม่ได้อยู่ใต้แป้นเกียร์เหมือนรถกระบะ
อีกอย่าง การเลื่อนไป R ต้องกดปุ่มเสมอ หรือแป้นเกียร์แบบขั้นบันได ก็ต้องโยก2ทิศทางเสมอ ถึงจะไป R ได้ ไม่พบว่ายี่ห้อไหนออกแบบให้เลื่อนไป R ได้ทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข??
บ.รถไหนๆ ก็ไม่เคยออกแบบให้ Safe mode ไป R ไว้ก่อน ส่วนมากจะคาเกียร์3ในโหมดประคองตัว
ส่วนมากที่ผมพบ คนขับรถแล้วเกียร์ค้าง R คือ
พวกชอบกดปุ่มตลอดเวลา ไม่ว่าเลื่อนไปไหนๆ พวกดปุ่มตลอด นัยว่าเลื่อนง่ายดี
หากเราสังเกต จะพบว่า D ไป N ไม่ต้องกดปุ่ม
บางคนจะไป N แล้วกดปุ่มค้างไว้ เกียร์มันจึงเลยไปคร่อม R ได้ง่ายๆ
อีกเคสนึงคือ เข้า P ไม่สุด ละเลย มักง่าย ไม่สังเกต ไม่มองจอ
พวกนี้ก็ไม่รู้จะบอกยังไง มักเป็นพวกไม่สนโลก ปิดประตูไม่แน่น เปิดไฟฉุกเฉินผ่านแยก จอดขวางหน้า7-11
จริงๆสมัยนี้ การ"หารถมาขับ"มันง่ายเกินไป บางทีเห็นคนอายุน้อยๆขับรถเป็นภาระบนท้องถนนเสียแล้ว
+100
เมื่อวันเสาร์ ผมขับรถลงทางด่วนอุรุพงษ์ ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงกว่าจะออกจากทางด่วนได้ ทั้งๆที่ถ.พระราม6รถไม่ได้ติดอะไร แต่เพราะ "ภาระถนน" ไม่กล้าออกจากซอยจนรถติดนรกแตก
-
เหมือน ฟอร์เวิร์ดเมลล์ยุคก่อน
ความจริง ในรถเก๋งราคาไม่เกิน 1 ล้าน เมืองไทย
เกียร์เป็นระบบกลไกธรรมดา ไม่ใช่ไฟฟ้า
ถ้าเปิดแท่นใต้แป้นเกียร์ดูจะเห็นเป็นสายสลิงไปดึงคันโยกที่เสื้อเกียร์ (ตัวเกียร์อยู่หน้ารถติดกับเครื่อง เกียร์ไม่ได้อยู่ใต้แป้นเกียร์เหมือนรถกระบะ
อีกอย่าง การเลื่อนไป R ต้องกดปุ่มเสมอ หรือแป้นเกียร์แบบขั้นบันได ก็ต้องโยก2ทิศทางเสมอ ถึงจะไป R ได้ ไม่พบว่ายี่ห้อไหนออกแบบให้เลื่อนไป R ได้ทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข??
บ.รถไหนๆ ก็ไม่เคยออกแบบให้ Safe mode ไป R ไว้ก่อน ส่วนมากจะคาเกียร์3ในโหมดประคองตัว
ส่วนมากที่ผมพบ คนขับรถแล้วเกียร์ค้าง R คือ
พวกชอบกดปุ่มตลอดเวลา ไม่ว่าเลื่อนไปไหนๆ พวกดปุ่มตลอด นัยว่าเลื่อนง่ายดี
หากเราสังเกต จะพบว่า D ไป N ไม่ต้องกดปุ่ม
บางคนจะไป N แล้วกดปุ่มค้างไว้ เกียร์มันจึงเลยไปคร่อม R ได้ง่ายๆ
อีกเคสนึงคือ เข้า P ไม่สุด ละเลย มักง่าย ไม่สังเกต ไม่มองจอ
พวกนี้ก็ไม่รู้จะบอกยังไง มักเป็นพวกไม่สนโลก ปิดประตูไม่แน่น เปิดไฟฉุกเฉินผ่านแยก จอดขวางหน้า7-11
จริงๆสมัยนี้ การ"หารถมาขับ"มันง่ายเกินไป บางทีเห็นคนอายุน้อยๆขับรถเป็นภาระบนท้องถนนเสียแล้ว
จริงครับ สมัยนี้ใครๆก็ขับรถได้ ไม่ต้องรู้กฏระเบียบอะไรทั้งนั้น เข้าเกียร์ถูก เหยียบคันเร่งได้ ประคองพวงมาลัยได้ ก็ขับออกถนนกันแล้ว บอกตามตรงสมัยนี้ขับรถยากขึ้นทุกที เพราะพวกภาระบนนถนนนี่แหละ
เรื่องเกียร์หลุดอาจเกิดขึ้นได้ บางทีโยกคันเกียร์ไปไม่สุด ไม่ลงตำแหน่งเกียร์นั้นๆ พอดี พอคร่อมเกียร์แล้วรถเคลื่อนก็อาจทำให้หลุดไปอีกเกียร์นึงที่คร่อมอยู่ได้ ตอน้ข้ากียร์ต้องระวังดีๆ จะใช้เกียร์ไหนก็โยกให้สุด อีกอย่างระวังอย่าวางสิ่งของใดๆอย่าเก็บไว้ใต้เบาะที่ตำแหน่งคนขับ เมื่อก่อนผมเจอแฟนผมเอารองเท้าส้นสูงวางไว้ใต้เบาะฝั่งคนขับ โชคดีที่ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ ตอนหลังผมบังคับให้เอาไปเก็บไว้ด้านหลังรถใต้ฝากะโปรงหลัง
-
จริงๆสมัยนี้ การ"หารถมาขับ"มันง่ายเกินไป บางทีเห็นคนอายุน้อยๆขับรถเป็นภาระบนท้องถนนเสียแล้ว
จริงครับ สมัยนี้ใครๆก็ขับรถได้ ไม่ต้องรู้กฏระเบียบอะไรทั้งนั้น เข้าเกียร์ถูก เหยียบคันเร่งได้ ประคองพวงมาลัยได้ ก็ขับออกถนนกันแล้ว บอกตามตรงสมัยนี้ขับรถยากขึ้นทุกที เพราะพวกภาระบนนถนนนี่แหละ
เรื่องเกียร์หลุดอาจเกิดขึ้นได้ บางทีโยกคันเกียร์ไปไม่สุด ไม่ลงตำแหน่งเกียร์นั้นๆ พอดี พอคร่อมเกียร์แล้วรถเคลื่อนก็อาจทำให้หลุดไปอีกเกียร์นึงที่คร่อมอยู่ได้ ตอน้ข้ากียร์ต้องระวังดีๆ จะใช้เกียร์ไหนก็โยกให้สุด อีกอย่างระวังอย่าวางสิ่งของใดๆอย่าเก็บไว้ใต้เบาะที่ตำแหน่งคนขับ เมื่อก่อนผมเจอแฟนผมเอารองเท้าส้นสูงวางไว้ใต้เบาะฝั่งคนขับ โชคดีที่ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ ตอนหลังผมบังคับให้เอาไปเก็บไว้ด้านหลังรถใต้ฝากะโปรงหลัง
สมัยก่อนผมก็เป็นครับ ดื่ม M150 แล้วทิ้งขวดลงพื้น พอจะเบรคขวดกลิ้งไปคาหลังแป้นเบรค ผมกดจนขวดแตกเลย จากนั้นก็ไม่ทิ้งไว้ฝั่งตนเองอีกเลย ไปทิ้งฝั่งคนนั่ง อิอิ
-
เห็นในข่าว บอกตัดประเด็นฆ่าตัวตายทิ่งไป
ผมว่า มีหลายเหตุการที่เกิดขึ่นได้นะครับ
เช่น ไปซ่อมรถมา ช่างมักง่าย ขันน๊อตไม่แน่น เกี่ยร์หลุด
เช่น ขวดน้ำขัด ตกใจ ขับรถตกตึก
เช่น มีคนทำร้าย ตกใจ ขับรถ ตก
ลองพิจารณาด้วยนะครับ แต่ ว่า เรื่องซ่อมรถไม่อยากให้ตัดทิ่่งนะครับ
-
เกียร์หลุดในที่นี่ ผมเคยเป็นครับ แต่เป็นเพราะสลิงมันหย่อน ตึง ในต่ำแหน่งที่ไม่ถูก
เข้าเกียร์ D หลุดไป N เข้าเกียร์ R หลุดไป N
แต่ส่วนใหญ่มันหลุดมาที่ N อ่ะ ไม่เคยหลุดไป R
กรณีเคส "สายน้ำและห้างดัง" ผมมองที่ระบบเบรกมากกว่า
-
เกียร์หลุดไม่เคยเจอ เจอแต่สายเกียร์หลุด รถโฟกัสเพื่อนผมเองครับ เพราะตัวล็อคตรงหูสายเกียร์หลุด
ทำให้เข้าเกียร์ไม่ได้ ค้างอยู่ในตำแหน่งสุดท้ายก่อนที่จะหลุด
ต้องหาเคเบิ้ลไทด์ล็อคเอาไว้ก่อนขับไปอู่
-
เกียร์หลุด เป็นไปได้ยากมาก