Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: bahasa ที่ พฤศจิกายน 26, 2014, 22:56:21
-
มีเรื่องสงสัยกับระบบ Hybrid ว่า
1.จริงไหมที่รถ Hybrid ขับทางไกลจะไม่ประหยัด เพราะเมื่อวิ่งเร็วมอเตอร์ไฟฟ้าก็ไม่ได้ทำงาน
2.Hybrid แรงเท่ากับติดเทอร์โบตัวน้อยๆ อาทิ กรณี BMW Active Hybrid 3
3. นานๆไปซ่อมหรือบำรุงยาก (คิดว่าในอนาคตเมื่อใช้กันมากๆเดี๋ยวก็หาซ่อมหรือดูแลง่ายขึ้นเอง?)
ขอบคุณครับ
-
ไม่เค้นมากๆก็ไม่กินนะครับ ถ้าไฟฟ้าเหลือเยอะยังไงก็ประหยัด แต่ถ้ากะเร่งจนแบตไม่พอ เหลือเครื่องแทบจะล้วนๆกินนะ
Prius VS BMW M3 E92 อันนี้ชัดมากๆ
http://www.youtube.com/watch?v=JmxUsGiGp3w
-
ก็มีส่วนแต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะถ้าวิ่งลอยตัวที่ความเร็วคงที่ จะใช้กำลังจากเครื่องยนต์อย่างเดียว
แต่พอกดคันเร่งลึก ตัวมอเตอร์จะปั่นให้กำลังเหมือน turbo เพียงชั่วขณะ แล้วจะใช้เครื่องยนต์ต่ออย่างเดียว
การซ่อมเครื่องยนต์ปกติ แต่จะแพงที่อะไหล่ของตัว ไฟฟ้า ทั้งมอเตอร์ และ battery
-
1. ผมว่าถ้ากดคันเร่งหนักๆ รถอะไรก็ไม่ประหยัดนะครับ
2. จริงครับ
3. น่าจะเป็นเช่นนั้นครับ แต่ไม่รู้เมื่อไหร่
-
อยู่ที่การขับขี่ครับ ถ้าขับไปเรื่อยๆ hybrid ประหยัดกว่่าจริง แต่ถ้าเค้น กดแรง ผมว่าอาจจะไม่ประหยัดกว่าเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ดีกว่าในรถขนาดเครื่องเท่ากันคือ อัตราเร่งครับ
-
ถ้าระบบไฮบริดทำงานมีไฟฟ้าร่วมด้วย
จะทางใกล้ทางไกล ก็ส่งผลถึงความ
ประหยัดทั้งนั้นครับ แต่จะมากน้อยแตกต่างกัน
ครับ เพราะเวลาเราขับยังไงก็ต้องมีจังหวะเบรค
จังหวะยกคันเร่งปล่อยไหล จังหวะรถติดไฟแดง
ให้ระบบไฟฟ้าเข้ามาทำงานแทนเป็นช่วงๆอยู่แล้วครับ
ส่วนแรงความแรงนั้นก็จริงครับ
เรื่องบำรุงรักษา อนาคตค่าใช้จ่ายๆต่างๆจะถูกลงแน่ๆ
-
ถ้าเทียบกับรถใหญ่ ตอนนี้ใช้
Panamera S E-hybrid อยู่ครับ
ถ้าขับในเมืองความเร็วไม่สูงมาก Battery เหลือเยอะหน่อย ขับซัก 30-50km ก็อยู่ที่ 16-20km/L พอได้ครับ
(ถ้ามีที่เสียบปลั๊กทั้งไปและกลับ วิ่งรถติดกับคล่องตัวบ้าง ระยะทางระหว่างกัน 30km จะกินอยู่ที่ 30km/L ได้ครับ)
แต่ถ้าขับนอกเมืองความเร็วสูงหน่อย 100-160km/h ก็อยู่ที่ 9-12km/L ได้ครับ
ถือว่าแตกต่างกันพอชัดเจนเลยครับ
คหสต
1.ถ้าจะวิ่งทางไกล Diesel คือคำตอบที่ดีครับ แต่วิ่งในเมือง ความรู้สึกตัวรถที่สั่นและความประหยัดจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่
2.วิ่งในเมือง Hybrid จะนิ่งและเงียบสบายมาก โดยเฉพาะรถติดนาน 30นาที เข็ม Battery จะลดลงไปไม่มาก ถ้าเทียบกับ Diesel อย่างต่ำก็น่าจะหายไป 1-5L ได้ ตามขนาดเครื่องยนต์
แต่ถ้าวิ่งทางไกลละก็ กินน้ำมันไม่ต่างกับรถยนต์สันดาปทั่วๆไปเลยครับ อาจจะมากกว่าเล็กน้อยด้วยครับ เพราะต้องแบกน้ำหนักระบบ Hybrid ไปด้วย 100-200kg
-
ขับทางไกลประหยัดกว่าขับในเมืองค่ะ
พรีอุสเคยขับไกลๆ ทางด่วนโล่งๆ ได้เกือบ 30โลลิตร/ ในเมือง16-20 โลลิตรค่ะ
ต้องรู้จักขับ เปลี่ยนการขับแช่เท้าแบบรถทั่วไป เพราะทุกครั้งที่เบรค/ปล่อยคันเร่ง แบตเตอรี่จะถูกชาร์ตค่ะ
-
สวัสดีครับน้องโบ๊ท หายไปนานเลยนะครับ สบายดีนะครับ ขอบคุณที่มาเล่าประสบการณ์ให้ฟังครับ แบบนี้ก็น่าซื้อTeslaมาใช้ดีกว่านะครับ เพื่อนบ้านผมบอกว่าTesla S ราคา5ล้านกว่าเองครับ
-
ผมใช้ Lexus CT200h
ขับทางไกล ประหยัดกว่าขับในเมืองครับ เพราะผมขับไป ชลบุรี สระบุรี บ่อยมาก รถ 3 ปีผมวิ่งไป แสนสองโล
ส่วนถ้าขับแบบเร่งสุดๆ ผมเคยขับจากกรุงเทพไปนครสวรรค์ พอพ้นรังสิตก็เหยียบที่ความเร็ว 150-160 แทบตลอดทาง เพราะเจอรถติดในกรุงเทพ และต้องเร่งไปงานแต่ง ตอนนั้นก็เติมน้ำมันเต็มถังก่อนเดินทางด้วย
ไปถึงนครสวรรค์เติมน้ำมันที่โน่นคำนวนแล้วยังได้ 15กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งผมว่ามันก็ยังประหยัดกว่า เครื่องยนตร์ธรรมดาอยู่ดี
-
1.จริงไหมที่รถ Hybrid ขับทางไกลจะไม่ประหยัด เพราะเมื่อวิ่งเร็วมอเตอร์ไฟฟ้าก็ไม่ได้ทำงาน
มีทั้งจริงและไม่จริงครับ ขึ้นอยู่กับว่าเราเปรียบเทียบกับรถรุ่นไหน
ยกตัวอย่าง ถ้าเปรียบเทียบ เช่น Camry 2.5G กับ Camry 2.5 Hybrid
Camry Hybrid ประหยัดกว่าแน่นอนครับ ทั้งในเมืองและนอกเมือง
ถ้าเปรียบเทียบระหว่าง Camry 2.5 Hybrid กับ BMW 320 ดีเซล
อันนี้ BMW ดีเซลประหยัดกว่าครับ
2.Hybrid แรงเท่ากับติดเทอร์โบตัวน้อยๆ อาทิ กรณี BMW Active Hybrid 3
มีส่วนครับ มอเตอร์ Hybrid จะมีส่วนช่วยในการเพิ่มกำลังเครื่องในยามที่ต้องการอัตราเร่งครับ
3. นานๆไปซ่อมหรือบำรุงยาก (คิดว่าในอนาคตเมื่อใช้กันมากๆเดี๋ยวก็หาซ่อมหรือดูแลง่ายขึ้นเอง?)
เรื่องซ่อมหรือดูแล ถ้ามีปัญหาแล้วโยนศูนย์ไปเลย อันนี้ก็ไม่ยากครับ เครื่องไม้เครื่องมือในศูนย์บริการมีพร้อมแก้ไขปัญหารถ Hybrid แต่ถ้าซ่อมอู่อันนี้ยากแน่นอนครับ
รถไฮบริดตอนนี้ เป็นที่นิยมในเมืองไทยมาก็สี่ห้าปีแล้ว ส่วนตัวคิดว่าในอนาคตไม่ยากแน่นอนครับ ตอนนี้รถไฮบริดก็วิ่งกันแพร่หลายแล้ว
แต่สิ่งที่น่ากังวลกว่าเรื่องซ่อม คือเรื่อง ราคาอะไหล่ครับ เลือดสาดหลายตัวเลย ฮ่าๆ
-
เคยขับ Alphard Hybrid กทม. - ระยอง ได้ 14km/L ตามหน้าปัด
ขับประมาณ 80-90 กินลมชมวิวไปเรื่อยๆ ค่อยๆเลียคันเร่งเวลาต้องการเพิ่มความเร็ว พยายามใช้ความเร็วแบบนิ่งๆลอยตัวไหลไปเรื่อยๆ ถ้าขับปกติได้ประมาณ 10-11km/l ครับ
-
1. ถ้ากับไฮบริดรุ่นแรกๆจิงอยู่ครับ แต่ก้ไม่ใช่ว่าจะกินกว่าเครื่องทั่วไปแต่ถ้าเป็นรุ่นใหม่ๆอย่าง Accord Hybrid ขับทางไกลประหยัดครับเพราะเครื่องไม่ได้ทำงานเป็น
หลัก
2. ใช่ครับได้ผลออกมาประมาณนั้นแต่ถ้าหมายถึง activehybrid 3 อันนี้มีทั้งไฮบริดทั้งเทอร์โบแถมซีซีก้สูงด้วยครับจึงไม่แปลกที่จะแรงขนาดนั้น แต่ตัวนี้ไม่ได้ประหยัดเท่าไหร่นะครับ ยิ่งโดยเฉพาะเทียบกับมาตรฐานบีเอม
3. ยากมั้ยไม่หรอกครับแต่ควรเข้าศูนย์ตลอดครับ จะมีก้อาจจะมีชิ้นส่วนบางอย่างที่ราคาสูงกว่าปกติหน่อย ถ้าความคิดเห็นผมถ้าใช้รถเกิน 6 ปีอย่าใช้เลยครับแต่ถ้า 3-5 ปีน่าสนใจมากครับ
-
เรื่องประหยัดหรือไม่ ไปเหมารวมไม่ได้หรอกครับ
เพราะแต่ละยี่ห้อใช้เทคนิคที่แตกต่างกันออกไป
แต่ในเมืองประหยัดกว่าแน่ๆ
เพราะมีมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยในการออกตัว
ซึ่งเป็นจุดอ่อนของเครื่องยนต์เบนซิน ที่แรงบิดน้อยที่รอบต่ำ
การหยุดๆ ไปๆ บ่อยๆ พอมีมอเตอร์มาช่วย เลยประหยัดขึ้นครับ
ไม่รวมถึงการที่ใช้ไฟฟ้าล้วนในการขับเคลื่อนที่ความเร็วต่ำด้วยนะ
-
ขอเทียบกันสองคันนะครับ
เส้นทางมอเตอร์เวย์กทม.-พัทยา
Camry Hybrid ตัวล่าสุด เติม โซฮอล 95 ได้ไม่เกิน 16 Km/.L. ที่ความเร็วไม่เกิน 100
BMW 320i F30 เติม E20 ได้ไม่เกิน 19 Km/.L. ที่ความเร็วไม่เกิน 110
ถ้าในเมืองช่วงเลิกงานตอนเย็นรถติดๆ ความเร็วเฉลี่ย 12 Km./Hr.
Camry Hybrid ได้ไม่เกิน 11 Km/.L.
BMW 320i ได้ไม่เกิน 9 Km/.L.
-
Prius ครับ ล้อ TRD 16" ขับแบบไม่เน้นประหยัดนะครับ ออกต่างจังหวัดได้ประมาณ 19 km/L นิดๆ
ขับในเมืองได้ประมาณเกือบ 18 km/L มีแต่ถังล่าสุดน้ำมันถูกลงเลยใช้ power mode ตลอด ได้ 17.64 km/L ออกตัวแบบขับเหยียบๆ
สรุปขับทางไกลประหยัดกว่าแน่นอนความเร็วเดินทาง 100 - 130 Km/Hr เส้นทางชลบุรี สังเกตจากหน้าจอจะมีการใช้มอเตอร์ตลอดครับไม่ได้ใช้เครื่องยนต์อย่างเดียว
(http://image.ohozaa.com/t/14d/4Fedsl.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xZLZNKP5F1rwlb0M)
(http://image.ohozaa.com/t/2e4/VCdhqe.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xZLZQWDed0yuAlMO)
-
มีเรื่องสงสัยกับระบบ Hybrid ว่า
1.จริงไหมที่รถ Hybrid ขับทางไกลจะไม่ประหยัด เพราะเมื่อวิ่งเร็วมอเตอร์ไฟฟ้าก็ไม่ได้ทำงาน
แล้วแต่รถด้วยครับถ้าเป็น Full Hybrid เช่นที่ผมเคยสังเกต Camry Hybrid AHV40 วิ่งทางไหลล๊อคความเร็วที่ 110 บางเวลารถจะกินน้ำมันประมาณ 15 กิโลต่อลิตร บางเวลาจะกินน้ำมัน 20 กิโลต่อลิตรสลับกันเป็นพักๆ ผมเข้าใจว่าพอแบตฯ เก็บพลังงานจนเต็มก็จะส่งแรงกลับมาช่วยเครื่องยนต์ไปด้วย แต่ถ้าเป็น Light Hybrid แบบ E300 วิ่งทางไกลจะใช้พลังจากเครื่องยนต์อย่างเดียว ส่วนพลังงานในแบตฯ จะเก็บไว้ใช้จังหวะเร่งแซง
ผมเคยขับ Camry Hybrid AHV40 จาก กทมไปเชียงใหม่ ใช้ความเร็ว 120 น้ำมันถังเดียวเอาอยู่สบายๆ พอไปถึงเติมน้ำมันกลับคิดอัตราสิ้นเปลืองได้ประมาณ 15 กิโลต่อลิตร ครับ
2.Hybrid แรงเท่ากับติดเทอร์โบตัวน้อยๆ อาทิ กรณี BMW Active Hybrid 3
กรณีของ Active Hybrid 3 ไม่ค่อยเห็นผลเพราะเครื่องมัน 3,000 ซีซีบวกเทอร์โบอยู่แล้ว อยากให้ลองดูของ Accord Hybrid กับ Camry Hybrid ดีกว่าจะเห็นภาพว่าไฮบริดเหมือนติดเทอร์โบตัวน้อยๆ
Accord Hybrid เครื่อง 2.0 ซีซี 143 แรงม้า พอรวมระบบไฮบริดแล้วเป็น 199 แรงม้า
Camry Hybrid เครื่อง 2.5 ซีซี 160 แรงม้า พอรวมระบบไฮบริดแล้วเป็น 205 แรงม้า
ลองไปดูผลอัตราเร่งและอัตราสิ้นเปลืองเทียบกับรถรุ่นอื่นๆ ดูได้ครับ
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,39032.0.html (http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,39032.0.html)
ปล. การทดสอบอัตราสิ้นเปลืองของคุณ J!MMY เป็นการวิ่งทางไกลนะครับดังนั้นกระทู้นี้มันตอบคำถามข้อ 1 ได้ด้วยครับ
3. นานๆไปซ่อมหรือบำรุงยาก (คิดว่าในอนาคตเมื่อใช้กันมากๆเดี๋ยวก็หาซ่อมหรือดูแลง่ายขึ้นเอง?)
ขอบคุณครับ
ซ่อมบำรุงอาจจะยากขึ้นแต่ไม่เกินความสามารถของศูนย์บริการครับ เพียงแต่ราคาสูงกว่ารถเครื่องสันดาปเท่านั้นเอง
-
ของผม Jazz Hybrid ต้วเก่า ประหยัดกว่าตัวธรรมดา 1.5ลิตร ทั้งในเมืองและนอกเมืองครับ ผมลองทั้งสองคันเลยครับ
ทั้งรถติดมาก ติดปานกลาง ยังไง Hybrid ก็ประหยัดกว่า แต่ถ้าจะซื้อเพราะมันประหยัดกว่าไม่แนะนำนะครับ เพราะค่าตัวส่วนต่างประมาณ แสนกว่านี่ผมมองว่าไม่คุ้ม แต่ตอนที่ซื้อมันจะตกรุ่นได้ส่วนลด 100,000฿ เลยจีดเลยครับ
ส่วนค่าซ่อมผมมองว่าระยะยาวน่าจะถูกลงนะครับ
-
ขับทางไกลประหยัดกว่ากับในเมืองค่ะ
พรีอุสเคยขับไกลๆ ทางด่วนโล่งๆ ได้เกือบ 30โลลิตร/ ในเมือง16-20 โลลิตรค่ะ
ต้องรู้จักขับ เปลี่ยนการขับแช่เท้าแบบรถทั่วไป เพราะทุกครั้งที่เบรค/ปล่อยคันเร่ง แบตเตอรี่จะถูกชาร์ตค่ะ
อีกเสียงจากพรีอุสครับว่านอกเมืองก็ประหยัดครับ
ผมไม่ได้ขับแบบทำลายสถิตินะ ขับใช้งานปกติ เคยเอาขึ้นเหนือขึ้นดอยมาแล้ว ก็พบว่า ค่าน้ำมันในเส้นทางเดียวกันเลย ถูกกว่า Altis 1.6 ของผมอยู่เกือบๆพันบาท ที่ราคาน้ำมันแพงกว่ากันเกือบ 4-5 บาทได้มั้ง (มีโอกาสได้ขับไปเส้นทางเดิมๆในอีกปีต่อมาเพราะต้องขึ้นไปธุระเรื่องที่ดินครับ เอาไปทริปละคันไม่ซ้ำกัน)
ปกติทุกวันนี้ พรีอุสจะขับได้ประมาณ 4-5l / 100km (20-25 kpl) นอกเมือง ถ้าเข้าในเมืองจะเป็น 5-7 l / 100km (14-20 kpl) ถ้าดูตามมาตรวัดนะครับ ซึ่งก็ใกล้เคียงกับระยะทางที่เติมแล้วคำนวนเองจากหน้าปั๊ม ก็เลยใช้หน้าจออ้างอิงมาเรื่อยครับ
-
ขับทางไกลก็ประหยัดครับ เวลาขับความเร็วคงที่อยู่ บางจังหวะมอเตอร์จะเข้าช่วยอยู่เหมือนกัน นะครับ ลองสังเกต ตรงจอแสดงผล Hybrid ดูครับ
-
ขับทางไกล ถ้าขับเรื่อยๆก็ประหยัดนะครับ
ถ้าเหยียบแหลกนั่นอีกเรื่องนึง คันไหนก็ไม่ประหยัดครับ
-
ของผม Jazz Hybrid ต้วเก่า ประหยัดกว่าตัวธรรมดา 1.5ลิตร ทั้งในเมืองและนอกเมืองครับ ผมลองทั้งสองคันเลยครับ
ทั้งรถติดมาก ติดปานกลาง ยังไง Hybrid ก็ประหยัดกว่า แต่ถ้าจะซื้อเพราะมันประหยัดกว่าไม่แนะนำนะครับ เพราะค่าตัวส่วนต่างประมาณ แสนกว่านี่ผมมองว่าไม่คุ้ม แต่ตอนที่ซื้อมันจะตกรุ่นได้ส่วนลด 100,000฿ เลยจีดเลยครับ
ส่วนค่าซ่อมผมมองว่าระยะยาวน่าจะถูกลงนะครับ
เหมือนกันครับ ต่อให้จุ่มคันเร่งต้องการทำเวลา 100-160 เป็นประจำ ก็ยังมี 12 กม./ลิตรอยู่ดี
ส่วนค่าบำรุงรักษา 100,000 กม. แรก ไม่ต่างจากตัวธรรมดาครับ ;D
-
ไม่เคยใช้ Hybrid ในไทย ไม่เคยมีรถ Hybrid ในครอบครอง
แต่ตอนไปเที่ยวญี่ปุ่น ได้มีโอกาศเช่า Prius ขับเที่ยว ใช้งานอยู่ 3 วัน
ค้นพบว่า ถึงแม้ใช้ทางไกล แต่ถ้ามีภูมิประเทศที่ขึ้นลงเขาเยอะๆแบบญี่ปุ่น
รถ Hybrid มันประหยัดมากๆ
ใช้งาน 3 วัน ระยะทาง เกือบๆ 7 ร้อยกิโล
เติมน้ำมันกลับเข้าถังก่อนคืนรถเพียง 30.5 ลิตร (ระยะทางน่าจะ 680 - 690 กิโล จำเลขแน่ๆไม่ได้)
(อัตราสิ้นเปลืองดังกล่าว ขณะมีคนในรถ 4 คนรวมสัมภาระ มีบางช่วง 5 คนเพราะมีฝรั่งขอติดรถไปเที่ยว)
ปล. เจอรถติดแบบนิ่งสนิทแค่ 1 ชั่วโมงในทางด่วนใต้ดินของโตเกียว ในระยะทางสั้นๆแค่ประมาณ 10 กิโล
ถ้าวิ่งทางไกลในภูมิประเทศดังกล่าว มันเป็นรถประเภทที่ประหยัดมากๆ
แต่ไม่แน่ใจว่าถ้าขับแบบเดียวกัน ในทางไกลของไทย ซึ่งมีภูมิประเทศค่อนข้างราบ จะได้ผลแบบนั้นมั้ย
-
1.จริงไหมที่รถ Hybrid ขับทางไกลจะไม่ประหยัด เพราะเมื่อวิ่งเร็วมอเตอร์ไฟฟ้าก็ไม่ได้ทำงาน
มีทั้งจริงและไม่จริงครับ ขึ้นอยู่กับว่าเราเปรียบเทียบกับรถรุ่นไหน
ยกตัวอย่าง ถ้าเปรียบเทียบ เช่น Camry 2.5G กับ Camry 2.5 Hybrid
Camry Hybrid ประหยัดกว่าแน่นอนครับ ทั้งในเมืองและนอกเมือง
ถ้าเปรียบเทียบระหว่าง Camry 2.5 Hybrid กับ BMW 320 ดีเซล
อันนี้ BMW ดีเซลประหยัดกว่าครับ
ตอบได้ละเอียดดีครับ ตามนี้เลย
2.Hybrid แรงเท่ากับติดเทอร์โบตัวน้อยๆ อาทิ กรณี BMW Active Hybrid 3
มีส่วนครับ มอเตอร์ Hybrid จะมีส่วนช่วยในการเพิ่มกำลังเครื่องในยามที่ต้องการอัตราเร่งครับ
3. นานๆไปซ่อมหรือบำรุงยาก (คิดว่าในอนาคตเมื่อใช้กันมากๆเดี๋ยวก็หาซ่อมหรือดูแลง่ายขึ้นเอง?)
เรื่องซ่อมหรือดูแล ถ้ามีปัญหาแล้วโยนศูนย์ไปเลย อันนี้ก็ไม่ยากครับ เครื่องไม้เครื่องมือในศูนย์บริการมีพร้อมแก้ไขปัญหารถ Hybrid แต่ถ้าซ่อมอู่อันนี้ยากแน่นอนครับ
รถไฮบริดตอนนี้ เป็นที่นิยมในเมืองไทยมาก็สี่ห้าปีแล้ว ส่วนตัวคิดว่าในอนาคตไม่ยากแน่นอนครับ ตอนนี้รถไฮบริดก็วิ่งกันแพร่หลายแล้ว
แต่สิ่งที่น่ากังวลกว่าเรื่องซ่อม คือเรื่อง ราคาอะไหล่ครับ เลือดสาดหลายตัวเลย ฮ่าๆ
-
ผมเห็นไอ้ข้อความนี้หลายทีหลายที่แล้วครับ แล้วทุกคนก็ออกมายืนยันว่าขับทางไกลมันประหยัดๆๆๆๆ
แต่ที่ผมเข้าใจว่าคนพูดเขาต้องการสื่อว่า เราใช้ประสิทธิภาพของไฮบริดตอนอยู่ในเมืองได้ได้สูงกว่าขับด้วยความเร็วสูงนอกเมืองมากกว่านะครับ เช่นรถธรรมดาวิ่งในเมือง8กม/ลิตร ถ้าเป็นไฮบริดได้16กม/ลิตร คิดแล้วประหยัดเพิ่ม100% ถ้านอกเมืองรถธรรมดาวิ่ง14กม/ลิตร ถ้าเป็นไฮบริดได้20กม/ลิตร คิดแล้วประหยัดเพิ่ม40%
คือยังไงไฮบริดก็ประหยัดกว่ารถธรรมดาวันยังค่ำอะครับ แต่คิดเทียบสัดส่วนแล้วในเมืองได้ประสิทธิภาพมากกว่านอกเมืองเพราะวิ่งเร็วแล้วสัดส่วนการใช้มอร์เตอร์มันลดลงด้วย อันนี้เฉพาะไฮบริดของโดโยต้านะครับ ถ้าของฮอนด้าแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
-
บอกว่าไม่ประหยัด เป็นการใช้คำไม่ถูกต้อง
หากจะเหมาะ อาจจะบอกว่า ส่วนต่างความประหยัดเมื่อเทียบกับเครื่อง NA จะน้อยลง
ดูผลทดสอบในเว็บ ระหว่างรถรุ่นเดียวกัน ขนาดเครื่องพอกันแต่มีกับไม่มีไฮบริดก็ได้
ดังที่ยกตัวอย่างมา BMW 335+motor ไฟฟ้า เครื่อง 3.0l ประหยัดพอกับรุ่นเครื่อง 2.0
-
กำลังจะค้นหากระทู้เรื่องนี้อยู่พอดีเลยครับ ;D