Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: laempiab ที่ มกราคม 04, 2015, 13:17:53
-
ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร - บก.02 เผยแพร่ราชกิจจานุเบกษาเกี่ยวกับการแก้ไข พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2557
พร้อมบันทึกหัวข้อ "โปรดทราบไม่ยอมตรวจแอลกอฮอล์...เท่ากับเมาแล้วขับ"
เนื้อหาระบุว่า พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่10) พ.ศ.2557 เพื่อแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.จราจรทางบก 2522 ได้มีผลบังคับใช้แล้ว
โดยมีการแก้ไข 2 ประเด็นสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 142
เกี่ยวกับกำหนดข้อสันนิษฐานในกรณีผู้ขับขี่ไม่ยอมให้ทดสอบว่าหย่อนความสามารถในการขับขี่โดยไม่มีเหตุอันควร
ซึ่ง พรบ. แก้ไขเพิ่มเติมใหม่จะให้อำนาจเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่สั่งให้ผู้ขับขี่หยุดรถ
เมื่อเห็นว่ารถนั้นมีสภาพไม่ถูกต้องตามที่บัญญัติไว้ และในกรณีที่ผู้ขับขี่มีพฤติการณ์อันควรเชื่อว่าเสี่ยงเมาสุรา
หรือขับรถในขณะหย่อนความสามารถในอันที่จะขับหรือขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นหรือไม่
กฎหมายใหม่ระบุอำนาจเจ้าพนักงานจราจรว่า สามารถสั่งให้ผู้ขับขี่ขับรถเข้าช่องทางที่มีกรวยวางตั้งไว้
ให้ไขกระจกเพื่อให้เจ้าหน้าที่ยื่นอุปกรณ์เข้าไปตรวจวัดแอลกอฮอล์เข้าไปในรถได้
หรือเรียกให้ผู้ขับขี่เป่าเครื่องวัดแอลกอฮอล์
รวมทั้งสั่งให้ลงจากรถเพื่อดูว่าร่างกายสามารถรักษาสมดุลของการเดินได้หรือไม่
หากผู้ขับขี่ไม่ยอมให้ทดสอบ ให้เจ้าหน้าที่สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ผู้นั้นเมาสุรา
เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีฐานขับรถขณะเมาสุราได้
สำหรับบทลงโทษหากมีการฝ่าฝืนตามกฎหมายใหม่
กรณีผู้ขับขี่ปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าพนักงานในการทดสอบ
เดิมระวางโทษปรับครั้งละไม่เกิน 1,000 บาท
กรณียินยอมให้ทดสอบแต่พบว่าเมาสุราขณะขับรถ ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000-10,000 บาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบขับขี่
แต่กฎหมายใหม่ได้ปรับเพิ่มความเข้มงวดในการเอาผิดทางกฎหมาย
โดยกรณีไม่ยินยอมให้ทดสอบให้สันนิษฐานว่ามีเหตุอันควรเชื่อว่าเมาไว้ก่อน
จะมีบทลงโทษคือจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000 -20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โดยผู้ถูกกล่าวหาไปสืบพยานหักล้างในศาลได้
เหตุผลที่ต้องเพิ่มบทลงโทษ เนื่องจากที่ผ่านมา ผู้ขับขี่มักปฏิเสธให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่
อีกทั้งการขับรถขณะเมาสุรามีโทษน้อยมาก จึงมักละเลยขับรถโดยประมาท
ดังนั้นการแก้ไขกฎหมายเพิ่มเติมจึงถือเป็นมาตรการป้องปราม
และขอความร่วมมือจากประชาชนเพื่อช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ทางหนึ่ง
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=303703039818533&id=152824254906413 (https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=303703039818533&id=152824254906413)
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/A/089/14.PDF (http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/A/089/14.PDF)
ทราบแล้วเปลี่ยน
-
ดีครับ พวกเล่นลิ้นจะได้ยอมๆเป่ากันเสียที
ถ้าคิดจะเมา ก็เมาแล้วนอนอยู่บ้านหรือนั่งแท็กซี่ขับจะดีกว่านะครับ
เดี๋ยวนี้ผมไปงานก็ดื่มไม่เกิน2แก้ว เพื่อจะได้ขับรถกลับได้อย่างสบายใจ ไม่เมา
-
เห็นด้วยครับ ผมว่าเมาแล้วขับ ขับไม่มีวินัย ชอบแช่ ขวา จัดหนักๆ ไปด้วยเลยครับ
แต่ว่าที่เป่าหาวิธีให้สะอาดก็จะดีครับ
-
ฟังวิทยุวันก่อนมีนักกฏหมายบอกว่ามีออกมาใหม่ให้จนท.พาไปเจาะเลือดได้เลยถ้าขัดขืน
-
เห็นด้วยครับ
พวกเมาแล้วขับเร็ว ขับเป็นงูเลย
ที่เปาควรจะเอาแอลกอฮอล์เช็คและทำความสะอาด 1 คน 1 ครั้ง ก็ดีนะครับ
-
ฟังวิทยุวันก่อนมีนักกฏหมายบอกว่ามีออกมาใหม่ให้จนท.พาไปเจาะเลือดได้เลยถ้าขัดขืน
อย่าเจาะเลือดเลยครับ
-
สอบถามหน่อยครับ เราจะมั่นใจเครื่องเป่าได้ยังไง
ขอดูใบ คาริเบรตได้ไหม และใบมีอายุกี่ปี
-
สอบถามหน่อยครับ เราจะมั่นใจเครื่องเป่าได้ยังไง
ขอดูใบ คาริเบรตได้ไหม และใบมีอายุกี่ปี
แล้วจ่าจะรู้ไหมว่าการคาลิเบรต (calibration) คืออะไร
กฏหมายออกมาเพื่อกันคนหัวหมอไม่อยากเป่า
คนออกกฏหมายจบกฏหมายไม่ได้จบวิทยาศาสตร์
ขอบอกว่าจะเอาคำตอบคือ ยาก
เซนเซอร์ของอุปกรณ์พวกนี้คือกลุ่ม semiconductor ที่ปรับปรุงผิวหน้า คือพอใช้งานไปสักพัก เซนเซอร์จะไม่เป็นลิเนียร์
จำเป็นต้องมีการคาลิเบรตซ้ำ (re-calibration) ตามคำแนะนำของผู้ผลิตเพื่อให้มีความเที่ยง (precision) และความแม่น (accuracy)
แต่จ่าจะให้เป่าอย่างเดียว และเชื่อเครื่องอย่างเดียว
เห็นตำรวจกับทหารใช้อุปกรณ์กลุ่มนี้หล่ะผมนึกถึง GT200 เลย
(ไม่ได้ดิสเครดิตนะครับ)
-
ดีแล้วครับ
ทุกวันนี้ก็ขับเมาแล้วตายกันทุกวัน เก็บศพกันทุกวัน ลูก เมีย หลาน พ่อแม่ พี่น้องร้องห่มร้องไห้กันระงมทุกวัน
จริงๆ Concept คือ แค่ แก้ว-2แก้ว มันก็ไม่ควรขับแล้วครับ อันตรายมาก ถ้าซัดกับต้นไม้ เสาไฟไป แล้วคนเมาไปมันก็ดูสมเหตุสมผล แต่ถ้าต้องไปซัดกับรถคันอื่น มอไซค์ คนเดินทางเท้า นั่นโคตรจะไม่สมเหตุสมผลเลยครับ
-
เอ่อ วันก่อนกินแมคนักเกตซอสบาร์บิคิวกะโค้กแล้วก็เฟรนซ์ฟรายด์
เข้าไปดูหนัง
ออกมาโดนเป่าหน้า สนโชคชัย
ขึ้นสีแดง
ห๊ะ!
-
ดีครับพวกหัวหมอเยอะมากที่พอโดนเรียกก็ไม่ยอมเป่ารอจนเช้าหรือจนตำรวจเลิกด่านแล้วขับรถกลับต่อ ถ้ามันฉลาดมากขนาดนั้นทำไมมันไม่ฉลาดที่จะรักตัวเองกินเหล้าไม่ขับรถก็ไม่รู้เนาะ ::) ปรับให้หนักและเพิ่มข้อหาขัดขืนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ด้วยยิ่งดี 8)
-
ที่เกาหลีถ้าปฏิเสธการเป่าถือว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์สูงสุดทันที