Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: H3T ที่ มกราคม 08, 2015, 18:49:46

หัวข้อ: ถ้ามีโอกาสเสนอทางแก้ไขจำนวนรถมือสองล้นตลาดให้กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล
เริ่มหัวข้อโดย: H3T ที่ มกราคม 08, 2015, 18:49:46
 อยากขอให้เสนอไอเดียหน่อยนะครับ หลายมุมมองอาจจะมีที่น่าสนใจและนำไปสู่การใช้จริงก็ได้ครับ

 อาจจะต้องแยกกลุ่มเป็น รถกระบะ , PPV , เก๋ง

  ขอบคุณทุกท่านครับ
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโอกาสเสนอทางแก้ไขจำนวนรถมือสองล้นตลาดให้กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล
เริ่มหัวข้อโดย: JONNY ที่ มกราคม 08, 2015, 18:55:46
ลด VAT และดอกเบี้ยต่ำ ทำไฟแนนท์ง่าย
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโอกาสเสนอทางแก้ไขจำนวนรถมือสองล้นตลาดให้กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ มกราคม 08, 2015, 19:22:02
ผ่อน 0% ไม่มีการเก็บ Vat ครับ

อีกอย่าง คือ รถ certify user car

ที่มีการตรวจสภาพ รับประกันจริงจัง 1 ปี

ในกลุ่มรถมือสองราคาไม่เกิน 3.5 แสนบาท

ผมแทบไม่เห็นเลยครับ ในกลุ่มนี้

ถ้ามี คันต่อไป ผมคงไม่ต้องซื้อมือ 1 ครับ ผมคงเอา Yaris Eco car แบบนี้แทน

ถ้าตราบใดที่รถ certify user car มันเกิน 3.5 แสน ผมคงไม่เอาละครับ แพงเกินไป
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโอกาสเสนอทางแก้ไขจำนวนรถมือสองล้นตลาดให้กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ มกราคม 08, 2015, 19:35:03
ผมว่าไม่ต้องทำอะไรครับ กลไกตลาดทำงานของมันเองครับ

ก็ที่มันล้นตลาด ไม่ใช่เพราะนโยบายเร่งซื้อเหรอครับ  ตอนนี้มันล้นก็ไม่แปลก ผมว่าอยู่ๆแต่แรกมันก็ไม่กระทบแล้วครับ มาแก้ตอนนี้กลัวว่าแก้ไป ก็กระทบอย่างอื่นอีก
ให้มันสะท้อนความจริงน่ะดีแล้ว ให้คนไม่ไหวเค้าอยู่เฉยๆบ้าง  ผมกลัวมาเดี๋ยวมันเป็นหนี้เสียจะพากันแย่หมดครับ
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโอกาสเสนอทางแก้ไขจำนวนรถมือสองล้นตลาดให้กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล
เริ่มหัวข้อโดย: Sagittarius Toshi ที่ มกราคม 08, 2015, 19:50:27
ไม่บวก vat ในค่างวด น่าจะพอช่วยได้นะ
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโอกาสเสนอทางแก้ไขจำนวนรถมือสองล้นตลาดให้กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล
เริ่มหัวข้อโดย: localgame ที่ มกราคม 08, 2015, 20:34:51
ปล่อยไปตามกลไกลตลาดเถอะครับ จริงๆแบบนี้ก็ดีอยู่แล้วผู้บริโภคหาซื้อรถมือสองสภาพดีๆได้ในราคาถูก รถเก่ามากๆที่ไม่ดูแลสภาพจะได้โละๆออกไปบ้าง
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโอกาสเสนอทางแก้ไขจำนวนรถมือสองล้นตลาดให้กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ มกราคม 08, 2015, 21:32:50
ลดราคามือสอง ลงมาอีกจบครับ
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโอกาสเสนอทางแก้ไขจำนวนรถมือสองล้นตลาดให้กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล
เริ่มหัวข้อโดย: Highway Star ที่ มกราคม 08, 2015, 23:46:21
ผมว่ารัฐอยู่เฉยๆอ่ะดีแล้ว ที่มันเน่าแบบนี้ไม่ใช่รัฐแทรกแซงหรือครับ จะบอกให้ซื้อได้ง่ายขึ้นดอกถูกแต่คนซื้อไม่มีปัญญาผ่อนสุดท้ายก็วัฎจักรเดิม ผมว่าไม่ต้องทำอะไรหรอกค่อยๆแก้ปัญหาเศรษฐกิจไปถ้าเศรษฐกิจดีขึ้นเดี๋ยวกำลังซื้อก็กลับมาเองครับ 
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโอกาสเสนอทางแก้ไขจำนวนรถมือสองล้นตลาดให้กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล
เริ่มหัวข้อโดย: prayalone ที่ มกราคม 09, 2015, 05:08:08
คิดว่าควรเป็นตามกลไกตลาดนะ รถมือสองเมืองไทยราคาสูงเกินไป คนไม่ซื้อ ล้นตลาด ทางแก้คือคนขายต้องยอมลดราคา เต็นท์รถเป็นคนส่วนน้อย ถ้าจะเจ๊งก็เพราะกงกรรมตัวเอง สุดท้ายประโยชน์อยู่กับผู้บริโภค.
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโอกาสเสนอทางแก้ไขจำนวนรถมือสองล้นตลาดให้กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล
เริ่มหัวข้อโดย: mrpich ที่ มกราคม 09, 2015, 07:52:07
ส่งออกไปนอกประเทศแบบญี่ปุ่นครับ
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโอกาสเสนอทางแก้ไขจำนวนรถมือสองล้นตลาดให้กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล
เริ่มหัวข้อโดย: whoami ที่ มกราคม 09, 2015, 08:19:29
ต้องดูครับว่ามือสองล้นตลาดใครเดือดร้อน
ก็เต็นท์รถไง แล้วเต็นท์ทั้งประเทศคิดเป้นกี่% ของคนทั้งประเทศ
เอาเวลาเอางบไปแก้ปัญหาให้คนส่วนใหญ่ของประเทศดีกว่าครับ

บอกกันว่าล้นรถมือสองขายไม่ได้ แต่ราคาหน้าเต็นท์ก็ยังไม่เห็นจะถูกลงเท่าไหร่
ทีพอตอนรับเข้ากดแทบตาย ขายแพงๆคนซื้อเทียบแล้วว่าไปผ่อนของใหม่ดีกว่า
มันก็ขายไม่ออกสิครับ ยอมเอากำไรน้อยๆหน่อยแต่ปล่อยออกไวได้เงินมาหมุน
มันก็อยู่ได้ไม่ใช่กะเอากำไรคันนึงรวยแบบนั้นก็จอดเต็มเต็นท์ละครับ
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโอกาสเสนอทางแก้ไขจำนวนรถมือสองล้นตลาดให้กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ มกราคม 09, 2015, 09:02:24
ลดภาษีป้ายแดงลงมาอีกครับ รถเก๋งนี่เก็บอะไรกันตั้ง 25 - 35% ราคามันเลยโดดไปเยอะ พอป้ายแดงราคาลดลงเยอะคนก็หันมาซื้อป้ายแดงกันเยอะราคามือสองก็ยิ่งร่วงลงไปก็จัดการส่งออกยังประเทศเพื่อนบ้านเราซะ เท่ากับว่าเราผลิตรถใหม่ใช้ในประเทศเยอะๆ ประชาชนในประเทศก็ได้ใช้รถราคาถูกและใหม่เสมอมลภาวะก็น้อยลงด้วย ส่งออกมือสองก็ได้มากเอาให้เรียบทั้งลาว เขมร พม่าเอาซะจนเค้าเปลี่ยนมาใช้พวงมาลัยขวาอย่างเราไปเลย บางส่วนก็ส่งไปแอฟริกาด้วย


แล้วเราก็จะกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกที่ใหญ่ที่สุดในแถบนี้ ภาษีที่ลดลงก็ไม่ต้องห่วงมันถูกทดแทนด้วยจำนวนการผลิตที่มากขึ้น การลงทุนก็มีมากขึ้น งานก็มีมากขึ้น เศรษฐกิจก็ดีขึ้น โรงงานผลิตชิ้นส่วนมากขึ้นก็จ่ายภาษีมากขึ้น พนักงานมีรายได้มากขึ้นก็เสียภาษีมากขึ้น วนเป็นลูปได้อีกเยอะ ฝันก่อนแปป เอิ้กๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโอกาสเสนอทางแก้ไขจำนวนรถมือสองล้นตลาดให้กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล
เริ่มหัวข้อโดย: Weetting ที่ มกราคม 09, 2015, 09:14:59
จัดตั้งโรงงาน รีไซเคิล 

และแยกส่วนมาขาย อีกครั้งครับ


หัวข้อ: Re: ถ้ามีโอกาสเสนอทางแก้ไขจำนวนรถมือสองล้นตลาดให้กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล
เริ่มหัวข้อโดย: MUK ที่ มกราคม 09, 2015, 09:40:58
ลด VAT และดอกเบี้ยต่ำ ทำไฟแนนท์ง่าย

ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับผม
แต่ว่า ราคาต้องไม่เอาเปรียบด้วยนะครับผม เพราะว่าถ้าดอกเบี้ยต่ำแต่ว่าบวกเข้าไปแล้วคนซ์้อก็เจ็บอยู่ดีครับผม

ที่สำคัญ  ต้องหาผู้เชี่ยวชาญ และทำเอกสารรับรอบสภาพรถตามจริง จากหน่วยงานของรัฐ ด้วยนะครับผม ทุกคัน ไม่ใช่ให้คนซ์้อเสี่ยงดวงไปเอง  เคย ซ่อม เคยเชน และผมว่าควรจะมีประวัติรถอย่างละเอียดเพื่อให้คนซ์้อตัดสินใจได้
ไม่ใช่ แม่ต่อบอกว่ารถบ้านๆๆๆ โกหกกันทั้งเพ
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโอกาสเสนอทางแก้ไขจำนวนรถมือสองล้นตลาดให้กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล
เริ่มหัวข้อโดย: localgame ที่ มกราคม 09, 2015, 09:51:06
ต้องดูครับว่ามือสองล้นตลาดใครเดือดร้อน
ก็เต็นท์รถไง แล้วเต็นท์ทั้งประเทศคิดเป้นกี่% ของคนทั้งประเทศ
เอาเวลาเอางบไปแก้ปัญหาให้คนส่วนใหญ่ของประเทศดีกว่าครับ

บอกกันว่าล้นรถมือสองขายไม่ได้ แต่ราคาหน้าเต็นท์ก็ยังไม่เห็นจะถูกลงเท่าไหร่
ทีพอตอนรับเข้ากดแทบตาย ขายแพงๆคนซื้อเทียบแล้วว่าไปผ่อนของใหม่ดีกว่า
มันก็ขายไม่ออกสิครับ ยอมเอากำไรน้อยๆหน่อยแต่ปล่อยออกไวได้เงินมาหมุน
มันก็อยู่ได้ไม่ใช่กะเอากำไรคันนึงรวยแบบนั้นก็จอดเต็มเต็นท์ละครับ

เดวราคาหน้าเต้นก็ปรับลงเองแหละครับ คงไม่มีใครยอมทิ้งไว้จนขายขาดทุน
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโอกาสเสนอทางแก้ไขจำนวนรถมือสองล้นตลาดให้กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล
เริ่มหัวข้อโดย: dht_tubes ที่ มกราคม 09, 2015, 10:24:10
ผมมองว่า มันเปรียบเหมือนเป็นหุ้นเน่า โดยโครงสร้างตัวมันเองแล้วครับ ทำอะไรจริงๆไม่ได้แล้ว

ถ้าแก้แบบลูบหน้า ปะจมูก ก็ไม่พ้น เอาภาษีของส่วนรวมมาแก้ให้ธุรกิจนี้ ซึ่งเป็นของคนรวย ความคิดผม เต๊นท์รถส่วนใหญ่ มองลึกเข้าไป มันเป็นของกลุ่มทุนของคนรวยครับ  เพราะพวกแมงเม่า หรือรายย่อยๆ ตายไปตอนโครงการรถคันแรกเกือบหมดแล้ว

ในมุมผม เคสนี้ สะท้อนให้เห็นหลายเรื่องครับว่า ตลาดรถยนต์ในความเป็นจริงแบบสากล ไม่มีรถมือสองที่ไหนราคาสูงเเบบบ้านเรา (หรืออาจจะมี แต่คงไม่มาก) เพราะในความเป็นจริงมันเป็นของที่เสื่อมอย่างเดียว ไม่มีทรง หรือเพิ่ม

มองย้อนไป ตลาดมือสอง เกิดบูมเพราะการปั่นราคาถ้าผมจำไม่ผิด ช่วงซัก KE70 มั้ง ซื้อมาใช้แล้วขายได้เท่าทุน

ราคารถมือสองที่ผ่านมา เอื้อประโยชน์ให้บริษัทรถใหม่ เพราะคุณซื้อของแพง แต่ขายได้แพง ไม่มีใครสนใจ ใช้ 4 ปี เปลี่ยน

เมื่อก่อน ซื้อรถสองล้าน เอายี่ห้อดังๆ ใช้ไป 4 ปี ขายเหลือล้านนึง ควักอีกล้านซื้อคันใหม่ โอเคไหว
ตอนนี้ ขายเหลือห้าแสน จะเอาแบบเดิมต้องควักล้านห้า ไม่ไหว ขายไปได้รถถูกลงเยอะมาใช้ ทำใจไม่ได้ ดาวน์เกรด อย่างโน้นอย่างนี้

ผมว่าเรื่องนี้ให้บทเรียนคนไทยโดยรวมนะครับว่า เราใช้รถกันเท่าที่จะเป็นมั๊ย เรามองรถเป็นอะไร ยานพาหนะ หรือ สมบัติ มันบอกเราแล้วตอนนี้ว่าความจริงมันคืออะไร ส่วนใครจะยอมรับได้ หรือไม่ ก็แล้วแต่ละคนไปครับ

ผมว่า ราคาของรถเก่า มันเป็นอย่างนี้แหละครับโดยเนื้อแท้มันนะ

รถใหม่ต่างหากที่แพงเกินไป

ส่วนเรื่องแก้ไข ผมไม่เห็นด้วยครับ เพราะแทรกแซงไป คนได้ประโยชน์มีแต่ภาคธุรกิจใหญ่

ถูกผิดอย่างไร ชี้แนะด้วยครับ
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโอกาสเสนอทางแก้ไขจำนวนรถมือสองล้นตลาดให้กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล
เริ่มหัวข้อโดย: H3T ที่ มกราคม 09, 2015, 11:56:09
 ประเด็นเรื่องราคาขายต่อตกต่ำมาก ไม่ว่าปัจจัยอะไรก็ตามในระยะสั้นจนถึงระยะยาว ฝ่ายเกี่ยวข้องวงการรถยนต์ได้มีการหารือกันหลายภาคส่วน

 เพราะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ยอดขายรถใหม่ลดลง การตัดสินใจเปลี่ยนรถใหม่ทำได้ยากขึ้น และเลือกที่จะใช้คันเดิมต่อไป ซึ่งรถใหม่นั้น ผู้ผลิตต่างได้รับผลกระทบกันมากน้อยต่างกันไป

 มีการหารือ และรับเสนอไอเดียการบริหารจัดการรถมือสอง รถเก่า อย่างไรจึงจะแก้ปัญหาได้โดยรวม

  ด้วยมาตรการช่วยทางภาษีของ Pick up , PPV , Eco car ทั้ง 3 กลุ่มนี้จะเลือกวิธีหนึ่งคือ การส่งออกไปต่างประเทศ มีราคาที่สามารถแข่งขันกับรถเก่าจากที่อื่นได้
 
  แต่กลุ่มอื่นนอกเหนือจากนี้แทบจะใช้วิธีส่งออกไม่ได้ ราคารถใหม่แพง พอเป็นมือสองก็ยังสูง แข่งขันรถเก่าจากญี่ปุ่นไม่ได้ อาจจะต้องโฟกัสไปช่วยบริหารจัดการรถกลุ่มนี้เป็นพิเศษ

 ลองเสนอไอเดียเพิ่มเติมด้วยนะครับ
 
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโอกาสเสนอทางแก้ไขจำนวนรถมือสองล้นตลาดให้กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ มกราคม 09, 2015, 12:10:26
ประเด็นเรื่องราคาขายต่อตกต่ำมาก ไม่ว่าปัจจัยอะไรก็ตามในระยะสั้นจนถึงระยะยาว ฝ่ายเกี่ยวข้องวงการรถยนต์ได้มีการหารือกันหลายภาคส่วน

 เพราะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ยอดขายรถใหม่ลดลง การตัดสินใจเปลี่ยนรถใหม่ทำได้ยากขึ้น และเลือกที่จะใช้คันเดิมต่อไป ซึ่งรถใหม่นั้น ผู้ผลิตต่างได้รับผลกระทบกันมากน้อยต่างกันไป

 มีการหารือ และรับเสนอไอเดียการบริหารจัดการรถมือสอง รถเก่า อย่างไรจึงจะแก้ปัญหาได้โดยรวม

  ด้วยมาตรการช่วยทางภาษีของ Pick up , PPV , Eco car ทั้ง 3 กลุ่มนี้จะเลือกวิธีหนึ่งคือ การส่งออกไปต่างประเทศ มีราคาที่สามารถแข่งขันกับรถเก่าจากที่อื่นได้
 
  แต่กลุ่มอื่นนอกเหนือจากนี้แทบจะใช้วิธีส่งออกไม่ได้ ราคารถใหม่แพง พอเป็นมือสองก็ยังสูง แข่งขันรถเก่าจากญี่ปุ่นไม่ได้ อาจจะต้องโฟกัสไปช่วยบริหารจัดการรถกลุ่มนี้เป็นพิเศษ

 ลองเสนอไอเดียเพิ่มเติมด้วยนะครับ
 

ผมว่ารถใหม่เองก็ควรปรับตัวด้วยครับ

ควรปรับให้ รถ B-seg ทั้งหมดและ C-seg มาตีตั๋วเด็กเป็น Eco car ด้วยครับ ราคาจะได้ถูกลง

เพราะยังไง ก็ขาย B-car อยู่แล้วในนาม Eco car ถ้าเอา C-car มาลงต่อให้ขายน้อย ยอดรวมก็ไม่กระทบครับ เพราะ total เกินแสนแน่ๆ

รถเก่าบางคัน เช่น โดเรม่อน สามห่วง (ที่เน่ามากๆ แล้ว) E-car champ B11 B13 เตารีด รถที่เกิน 20 ปีไป และรถ Taxi ปลด ผมอยากให้เปลี่ยนแนวคิด ถ้ามันต่ำมากๆ ขายเป็นเศษเหล็ก โดยมีโครงการเอารถกลุ่มนี้ไปแลกรถใหม่ ให้เป็นคืนภาษีไป เช่น 30000-50000 บาท

มันก็จะช่วยให้คนมีรถเก่า ขาย (กำจัดรถ) ที่เก่ามากๆ ของตนเองไปได้

ผมว่ารถมือสองในกลุ่ม 1-3 แสน ก็ควรได้ส่วนลดตรงนี้ด้วยครับ เอารถเก่ามากๆ ไปแลกได้ตังคืนภาษี
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโอกาสเสนอทางแก้ไขจำนวนรถมือสองล้นตลาดให้กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล
เริ่มหัวข้อโดย: Ruksadindan ที่ มกราคม 09, 2015, 14:40:46
จัดตั้งโรงงาน รีไซเคิล 

และแยกส่วนมาขาย อีกครั้งครับ




แปลว่า มันเคยมีอยู่ อย่างนั้นหรือครับ
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโอกาสเสนอทางแก้ไขจำนวนรถมือสองล้นตลาดให้กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ มกราคม 09, 2015, 15:33:50
   รถใหม่ถ้าราคาแพงคนก็ทิ้งรถยากขึ้น    บ้านเราราคาภาษีแพงถ้าทำให้รถใหม่ถูกมาก  เทียบกับค่าครองชีพเหมือนในต่างประเทศสอดคล้องกับค่าครองชีพ   คนส่วนใหญ่จะไม่ซ่อมรถและเลือกจะทิ้งรถไปเลย มากกว่าและจะไม่มีใครซื้อรถแพงเกินจำเป็น      อู่ซ่อมรถส่วนใหญ่ก็เตรียมปิดตัวลงได้   คนจะซื้อรถก็คงคิดมากขึ้น  อย่างเช่นถ้าราคารถถูกลง ซีวิค โคโรลาเหลือคันล่ะ 5 - 6 แสน  พอขายเป็นมือ 2 ได้ราคา 3 หมื่น   ต่อไปคนทั่วไปคงคิดหนักในการจะมีรถ 1 คันเพื่อใช้งาน
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโอกาสเสนอทางแก้ไขจำนวนรถมือสองล้นตลาดให้กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล
เริ่มหัวข้อโดย: mothsan ที่ มกราคม 09, 2015, 16:20:31
ปล่อยให้่รถมือสองมันถูกไปแแบบนี้ก็ดีแล้วครับ
คนที่ซื้อรถใหม่จะได้เป็นคนที่พร้อม มีอำนาจซื้อจริงๆ
ส่วนคนที่ไม่มีรายได้เยอะ ก็จะได้ซื้อรถมือสองที่ราคาลดลงตามค่าเสื่อมจริงๆ ไม่ใช้ปั่นราคากัน มือสองตัวมาตราฐานให้มันเหลือ แค่50,000-300,000 พอครับ
เกิน 20 ปี ราคาเป็น 0 หรือไม่ก็ แยกเป็นขยะไปเลยครับ คนที่เก็บรถเกิน 20 ปี ก็ให้เป็นเก็บสะสมจริงๆ มีคุณค่าทางใจ แต่คุณค่าทางราคาเป็น 0 ไปเลย คือ
เก็บก็เก็บ ไป แต่ถ้าขายก็ไม่ได้เงิน ว่างัั่น นอกจากจะไปย่อยเป็นขยะ อาจได้เงินสัก 10,000-20,000 หมื่นแทน
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโอกาสเสนอทางแก้ไขจำนวนรถมือสองล้นตลาดให้กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ มกราคม 09, 2015, 16:37:22
ในฐานะที่ผมเคยใช้รถมือสองมาก่อน

ผมว่าราคานี้สมเหตุผลครับ

เพราะผมเคยใช้ Toyota AE100 1.6 ในราคา 2.3 แสน (ราคาเมื่อปี 2549 นะครับ)

ถามว่าแพงไหม ผมว่ามันเว่อร์มาก รถเก่าเป็น 10 ปีราคานี้

ผมขายไปตอนปี 2554 ปลายๆ ปี ก่อนรถคันแรกที่แสนสอง (เต้นต์ด้วยนะครับ) ถ้าปล่อยเองคงได้ไม่เกินแสนห้า

จากนั้น ราคาแทบจะไม่ถึง 5 หมื่นครับ (ประเด็นคือ มีคนซื้อไหม ตอนนี้)

ซึ่งผมว่า มันสมราคาแล้วครับ รถผม ณ ตอนนี้ ก็ 20 ปีพอดี (รถปี 2537 ครับ)

ส่วนพวก Altis หน้าหมู และ Vios ตัวแรก ราคาไม่เกิน 2 แสน (10 ปีพอดี)

ผมว่าราคาเหมาะสมมาก

ดังนั้น ผมว่าราคาปัจจุบัน ดีแล้วครับ

แต่ถ้าจะช่วยจริงๆ สนับสนุนให้รถออกไปจากระบบครับ พวกรถเก่ามากๆ สนับสนุนเงินอุดหนุนไปเลยครับ 3-5 หมื่น คืนภาษีไป
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโอกาสเสนอทางแก้ไขจำนวนรถมือสองล้นตลาดให้กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล
เริ่มหัวข้อโดย: balliblue ที่ มกราคม 09, 2015, 17:09:03
ยกเลิก vat 7% แค่นี้ก็สุดยอดแล้วจริงๆ ;D
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโอกาสเสนอทางแก้ไขจำนวนรถมือสองล้นตลาดให้กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล
เริ่มหัวข้อโดย: ฟง อวิ๋น ที่ มกราคม 10, 2015, 08:18:52
จริงๆ สงสัยว่าทำไมต้องมี VAT 7% เพียงเพราะเป็นการซื้อขายที่มีเอกสารที่มีธนาคารมาเกี่ยวหรือ ??

แล้วเวลาเราซื้อสด ไม่เห็นต้องจ่าย VAT 7% (เพราะไม่มีใบเสร็จ)?? แต่ตอนไปโอนที่ขนส่งก็ต้องแสดงเอกสารการซื้อขายอยู่ดี

ตอนซื้อไม่เห็นจ่าย VAT 7% ให้คนขาย แต่ตอนขายจะมาเก็บ VAT 7% กับคนซื้อ

หัวข้อ: Re: ถ้ามีโอกาสเสนอทางแก้ไขจำนวนรถมือสองล้นตลาดให้กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล
เริ่มหัวข้อโดย: udis ที่ มกราคม 10, 2015, 08:22:44
มีรถไฟในทุกที่ มีรถโดยสารประจำทางครบๆ แบบญี่ปุ่น ผมอยู่ญี่ปุ่นมา ไม่คิดที่จะซื้อรถเลยครับ
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโอกาสเสนอทางแก้ไขจำนวนรถมือสองล้นตลาดให้กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ มกราคม 10, 2015, 09:10:06
ปล่อยให้่รถมือสองมันถูกไปแแบบนี้ก็ดีแล้วครับ
คนที่ซื้อรถใหม่จะได้เป็นคนที่พร้อม มีอำนาจซื้อจริงๆ
ส่วนคนที่ไม่มีรายได้เยอะ ก็จะได้ซื้อรถมือสองที่ราคาลดลงตามค่าเสื่อมจริงๆ ไม่ใช้ปั่นราคากัน มือสองตัวมาตราฐานให้มันเหลือ แค่50,000-300,000 พอครับ
เกิน 20 ปี ราคาเป็น 0 หรือไม่ก็ แยกเป็นขยะไปเลยครับ คนที่เก็บรถเกิน 20 ปี ก็ให้เป็นเก็บสะสมจริงๆ มีคุณค่าทางใจ แต่คุณค่าทางราคาเป็น 0 ไปเลย คือ
เก็บก็เก็บ ไป แต่ถ้าขายก็ไม่ได้เงิน ว่างัั่น นอกจากจะไปย่อยเป็นขยะ อาจได้เงินสัก 10,000-20,000 หมื่นแทน

+1 :D
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโอกาสเสนอทางแก้ไขจำนวนรถมือสองล้นตลาดให้กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ มกราคม 10, 2015, 21:37:13
จริงๆ สงสัยว่าทำไมต้องมี VAT 7% เพียงเพราะเป็นการซื้อขายที่มีเอกสารที่มีธนาคารมาเกี่ยวหรือ ??

แล้วเวลาเราซื้อสด ไม่เห็นต้องจ่าย VAT 7% (เพราะไม่มีใบเสร็จ)?? แต่ตอนไปโอนที่ขนส่งก็ต้องแสดงเอกสารการซื้อขายอยู่ดี

ตอนซื้อไม่เห็นจ่าย VAT 7% ให้คนขาย แต่ตอนขายจะมาเก็บ VAT 7% กับคนซื้อ



VAT คือ  ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ใช้สำหรับผู้ประกอบการ ที่ทำกำไรจากการขายสินค้า หรือ บริการครับ

ตอนเราซื้อรถ มือ 1 มี Vat อยู่ในราคาผ่อนแล้ว
ตอนเราขาย รถเรา ไม่ต้องเสีย VAT เพราะ เราขาย ของๆ เรา ออกไป ไม่ได้ทำกำไรจากของนั้น เพราะขายต่ำกว่าที่ซื้อมา
เต็นรถ ถือเป็นผู้ประกอบการ ทำกำไร จากการขายรถมือสอง  จึงต้องบวก VAT เข้าไป กับราคา รถเพื่อจ่ายให้รัฐบาล  อีกรอบหนึ่งครับ

ทำไมซื้อสด ไม่เสีย VAT เพราะ เตนท์เลี่ยง ภาษี ไงครับ เค้าแค่โอนรถจากเจ้าของเก่าเป็นของเรา เหมือนการซื้อ มือต่อมือ ไม่ผ่านเตนทื จริงๆ ผิดกฏหมายครับ

 
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโอกาสเสนอทางแก้ไขจำนวนรถมือสองล้นตลาดให้กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล
เริ่มหัวข้อโดย: ฟง อวิ๋น ที่ มกราคม 12, 2015, 22:52:36
จริงๆ สงสัยว่าทำไมต้องมี VAT 7% เพียงเพราะเป็นการซื้อขายที่มีเอกสารที่มีธนาคารมาเกี่ยวหรือ ??

แล้วเวลาเราซื้อสด ไม่เห็นต้องจ่าย VAT 7% (เพราะไม่มีใบเสร็จ)?? แต่ตอนไปโอนที่ขนส่งก็ต้องแสดงเอกสารการซื้อขายอยู่ดี

ตอนซื้อไม่เห็นจ่าย VAT 7% ให้คนขาย แต่ตอนขายจะมาเก็บ VAT 7% กับคนซื้อ



VAT คือ  ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ใช้สำหรับผู้ประกอบการ ที่ทำกำไรจากการขายสินค้า หรือ บริการครับ

ตอนเราซื้อรถ มือ 1 มี Vat อยู่ในราคาผ่อนแล้ว
ตอนเราขาย รถเรา ไม่ต้องเสีย VAT เพราะ เราขาย ของๆ เรา ออกไป ไม่ได้ทำกำไรจากของนั้น เพราะขายต่ำกว่าที่ซื้อมา
เต็นรถ ถือเป็นผู้ประกอบการ ทำกำไร จากการขายรถมือสอง  จึงต้องบวก VAT เข้าไป กับราคา รถเพื่อจ่ายให้รัฐบาล  อีกรอบหนึ่งครับ

ทำไมซื้อสด ไม่เสีย VAT เพราะ เตนท์เลี่ยง ภาษี ไงครับ เค้าแค่โอนรถจากเจ้าของเก่าเป็นของเรา เหมือนการซื้อ มือต่อมือ ไม่ผ่านเตนทื จริงๆ ผิดกฏหมายครับ

 

ขอบคุณมากครับ  ;D ;D

แต่ยังงงอีกข้อครับ เวลาเจ้าของขายรถเองผ่าน Web ถ้ามีคนธรรมดา (ไม่ใช้เต็นท์) มาติดต่อซื้อก็จะไม่ต้องจ่าย VAT 7%
แต่ปรากฏว่าคนซื้อไม่มีเงินสด จึงกู้ธนาคารมาจ่าย สงสัยว่าเวลาจ่ายค่างวดให้ธนาคารจึงต้องจ่าย VAT 7% ครับ เพราะเจ้าของรถเดิมขายเองไม่ได้ทำกำไร
(เคยขายรถครับ คนมาซื้อทำเรื่องกู้ธนชาตเอง ผมก็ต้องโดนบังคับไปธนาคารกับเขาด้วย ฟังทุกขั้นตอน)
ถ้าโดน VAT 7% เวลาเรากู้ซื้อบ้านมือสอง ก็ต้องโดน VAT 7% ด้วยป่าวอะครับ
หัวข้อ: Re: ถ้ามีโอกาสเสนอทางแก้ไขจำนวนรถมือสองล้นตลาดให้กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ มกราคม 13, 2015, 11:08:10
จริงๆ สงสัยว่าทำไมต้องมี VAT 7% เพียงเพราะเป็นการซื้อขายที่มีเอกสารที่มีธนาคารมาเกี่ยวหรือ ??

แล้วเวลาเราซื้อสด ไม่เห็นต้องจ่าย VAT 7% (เพราะไม่มีใบเสร็จ)?? แต่ตอนไปโอนที่ขนส่งก็ต้องแสดงเอกสารการซื้อขายอยู่ดี

ตอนซื้อไม่เห็นจ่าย VAT 7% ให้คนขาย แต่ตอนขายจะมาเก็บ VAT 7% กับคนซื้อ



VAT คือ  ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ใช้สำหรับผู้ประกอบการ ที่ทำกำไรจากการขายสินค้า หรือ บริการครับ

ตอนเราซื้อรถ มือ 1 มี Vat อยู่ในราคาผ่อนแล้ว
ตอนเราขาย รถเรา ไม่ต้องเสีย VAT เพราะ เราขาย ของๆ เรา ออกไป ไม่ได้ทำกำไรจากของนั้น เพราะขายต่ำกว่าที่ซื้อมา
เต็นรถ ถือเป็นผู้ประกอบการ ทำกำไร จากการขายรถมือสอง  จึงต้องบวก VAT เข้าไป กับราคา รถเพื่อจ่ายให้รัฐบาล  อีกรอบหนึ่งครับ

ทำไมซื้อสด ไม่เสีย VAT เพราะ เตนท์เลี่ยง ภาษี ไงครับ เค้าแค่โอนรถจากเจ้าของเก่าเป็นของเรา เหมือนการซื้อ มือต่อมือ ไม่ผ่านเตนทื จริงๆ ผิดกฏหมายครับ

 

ขอบคุณมากครับ  ;D ;D

แต่ยังงงอีกข้อครับ เวลาเจ้าของขายรถเองผ่าน Web ถ้ามีคนธรรมดา (ไม่ใช้เต็นท์) มาติดต่อซื้อก็จะไม่ต้องจ่าย VAT 7%
แต่ปรากฏว่าคนซื้อไม่มีเงินสด จึงกู้ธนาคารมาจ่าย สงสัยว่าเวลาจ่ายค่างวดให้ธนาคารจึงต้องจ่าย VAT 7% ครับ เพราะเจ้าของรถเดิมขายเองไม่ได้ทำกำไร
(เคยขายรถครับ คนมาซื้อทำเรื่องกู้ธนชาตเอง ผมก็ต้องโดนบังคับไปธนาคารกับเขาด้วย ฟังทุกขั้นตอน)
ถ้าโดน VAT 7% เวลาเรากู้ซื้อบ้านมือสอง ก็ต้องโดน VAT 7% ด้วยป่าวอะครับ

กู้ธนาคาร เฉยๆ  ไม่ได้นะครับ
ต้องทำเช่าซื้อ คือเอารถคันนั้นเข้าไฟแนนซ์ไป แล้วเราผ่อนอีกที
Vat จะโดนบังคับ เก็บ เพื่อเอาไปจ่ายให้รัฐบาล
เป็นเคสเดียวกับเต็นว์รถเลยครับ

มีวิธีหลีกเลี่ยน VAT คือจำนำเล่มทะเบียน โดยไม่ต้องเปลี่ยนชื่อเข้าไฟแนนซ์ ซึ่งชื่อรถก็ยังเป็นเจ้าของเดิมอยู่
ยกเว้นโอนรถเป็นชื่อเราก่อน แล้วเราเอาทะเบียนไปจำนำ เอาเงินให้เจ้าของรถเดิม