Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: delpingero ที่ มกราคม 09, 2015, 13:00:18
-
สวัสดีครับ
ตามหัวข้อเลย เนื่องจากกำลังจะออกรถใหม่ เท่าที่คุยกับภรรยา และที่บ้าน คิดเห็นลงตัวว่าเป็น accord แต่ติดอยู่ที่จะเอาเป็นตัว 2.0 EL (ธรรมดา) หรือ รุ่น hybrid ดี
รบกวนขอความรู้ทุกท่านเรื่องความคุมค่า และ ฟีลลิ่งการขับ และ คนนั่งครับ ขอบคุณครับ
-
จริงๆผมว่า ราคามันค่อนข้างต่างกันเยอะน่ะครับ โดยส่วนตัวเคยขับทั้ง 2.0EL , 2.4TECH และ hybrid ตัวล่าง
สองตัวนี้ผมว่าที่ต่างชัดๆก็แค่อัตราเร่งกับความประหยัดครับ ถ้าเคยมอง 2.0EL เป็นผมก็จะซื้อ 2.0EL ครับ
-
จริงๆผมว่า ราคามันค่อนข้างต่างกันเยอะน่ะครับ โดยส่วนตัวเคยขับทั้ง 2.0EL , 2.4TECH และ hybrid ตัวล่าง
สองตัวนี้ผมว่าที่ต่างชัดๆก็แค่อัตราเร่งกับความประหยัดครับ ถ้าเคยมอง 2.0EL เป็นผมก็จะซื้อ 2.0EL ครับ
ขอบคุณครับ ไม่ทราบว่าอัตราความประหยัดต่างกันเยอะมั้ยครับ ดูตามรีวิวพี่จิมมี่ ก็พอควร แต่อยากทราบจากผู้ใช้จริงเพิ่มขึ้นอีกหน่อย แล้วอย่างค่าบำรุงรักษา เข้าศูนย์อะไรพวกนี้ ต่างกันมั้ยครับ
-
ราคามันต่างกันเยอะนะ
1)ต้องดูว่าใช้รถเยอะไหม เยอะ hybrid น้อย 2.0
2)ขับเร็วไหม ชอบอัตราเร่งไหม ชอบ Hybrid เฉยขับแบบคนทั่วไป 2.0
3)ใช้นานไหม >5ปี 2.0 <5ปี Hybrid
4) ขับ 2.0 แล้วเพียงพอไหม ถ้าใช้ 2.0 ก็พอครับ
-
มีงบ..เท้าหนัก จัดไปไฮบริดเลยครับ :)
-
ต้องถามก่อนว่า เป็นคนซีเรียส กับอัตราเร่ง มากน้อยขนาดไหน
ถ้าไม่ เอา 2.0EL พอครับ เหลือเฟือครับ จะทางใกล้ ทางไกล ขับสบาย
เก็บเงินส่วนต่าง 400,000 บาท เอามาเติมน้ำมันได้ 4 ปี เลยนะครับ
-
ราคามันต่างกันเยอะนะ
1)ต้องดูว่าใช้รถเยอะไหม เยอะ hybrid น้อย 2.0
2)ขับเร็วไหม ชอบอัตราเร่งไหม ชอบ Hybrid เฉยขับแบบคนทั่วไป 2.0
3)ใช้นานไหม >5ปี 2.0 <5ปี Hybrid
4) ขับ 2.0 แล้วเพียงพอไหม ถ้าใช้ 2.0 ก็พอครับ
ขอบคุณครับ
1. ไม่แน่ใจว่าเรียกว่าใช้เยอะมั้ยนะครับ ออกแนวกลางๆ จ-ศ จะขับอยู่ในกรุงเทพ บางนา - พระราม 3 และมีไป ตจว ราชบุรี ประมาณเดือนละ 2 ครั้ง
2. หลังๆค่อนข้างขับไม่เร็วครับ แต่ไม่มั่นใจว่าอัตราเร่งตัว 2.0 จะเป็นยังไง (ตอนนี้ใช้ vw golf 1.4tsi น่ะครับ) มันมี turbo เลยไม่แน่ใจว่าพอมาเป็นตัว 2.0 มันจะต่างกันมากน้อยยังไง
3. น่าจะราวๆ 5 ปีครับ
4. ยังตอบไม่ได้เลยครับ เคยแต่ลองช่วงสั้นๆ
-
มีงบ..เท้าหนัก จัดไปไฮบริดเลยครับ :)
ถ้าไม่มีงบ แต่เท้าหนักล่ะครับ ;D ล้อเล่นครับ งบกลางๆครับ แต่ 2.0el ย่อมดูเป็นมิตรกว่า แล้วก็หลังๆไม่ได้ขับเร็วครับ แต่ยังมีกังวลเรื่องอัตราเร่งบ้าง ขอบคุณครับ
-
ต้องถามก่อนว่า เป็นคนซีเรียส กับอัตราเร่ง มากน้อยขนาดไหน
ถ้าไม่ เอา 2.0EL พอครับ เหลือเฟือครับ จะทางใกล้ ทางไกล ขับสบาย
เก็บเงินส่วนต่าง 400,000 บาท เอามาเติมน้ำมันได้ 4 ปี เลยนะครับ
ใช่ครับ เรื่องส่วนต่างนี่เอาไปทบค่าน้ำมันสบายๆเลย เหลือแค่เรื่องอัตราเร่งครับ ถ้าให้ชัวร์ อาจจะต้องไปลอง ขอบคุณครับ
-
2.0 ธรรมดาก็ไม่ได้อืดแล้วนะครับ ส่วนต่างตอนซื้อ 400000 นี่ยังไม่ร่วมค่าซ่อมบำรุงที่ไฮบริดจ่ายแพงกว่า
ค่าประกันชั้น 1 รายปีก็แพงกว่า แถมพอขายต่อทำใจได้ไหมที่ตัวไฮบริดขายได้ราคาพอกันกับ 2.0el :o
เทียบกับความประหยัดน้ำมันแล้วต้องขับเป็นล้านกิโลมั้งครับถึงจะคุ้มกับเงินที่จ่ายแพงกว่า
ถ้าอัตราเร่ง 2.0 ยังไม่สะใจพอ แนะนำว่าขยับมา 2.4el ครับ อัตราเร่งอยู่ตรงกลางระหว่าง 2.0 กับไฮบริด ;D
-
2.0 ธรรมดาก็ไม่ได้อืดแล้วนะครับ ส่วนต่างตอนซื้อ 400000 นี่ยังไม่ร่วมค่าซ่อมบำรุงที่ไฮบริดจ่ายแพงกว่า
ค่าประกันชั้น 1 รายปีก็แพงกว่า แถมพอขายต่อทำใจได้ไหมที่ตัวไฮบริดขายได้ราคาพอกันกับ 2.0el :o
เทียบกับความประหยัดน้ำมันแล้วต้องขับเป็นล้านกิโลมั้งครับถึงจะคุ้มกับเงินที่จ่ายแพงกว่า
ถ้าอัตราเร่ง 2.0 ยังไม่สะใจพอ แนะนำว่าขยับมา 2.4el ครับ อัตราเร่งอยู่ตรงกลางระหว่าง 2.0 กับไฮบริด ;D
โอ้ว จริงด้วย ยังมีในส่วนค่าประกัน และราคาขายต่ออีก ถ้างี้ คงจบที่ 2.0 แหละครับ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ขอบคุณมากครับ
-
ผมใช้ 2.0 อยู่ อัตราเร่ง ok เลยนะครับถ้าไม่ขับกระโชคโฮกฮากมาก
-
ถ้าเป็นคนขับเร็ว ชอบแซง ไม่ชอบขับชิวๆ ผมถือว่า 2.0 อืดไปนิด นะครับ
เรียกพลังในทันที มันยังไม่ดึงเท่าที่ควร แต่ถ้าไม่ใจร้อน ถือว่า เพียงพอ
2.0EL มีติดเครื่องสั่นนิดๆๆๆ บางๆๆ ถ้าเป็นคน sensitive สูง อย่าเอา
แต่ที่ผ่านมา มีคนบ่นบ้าง แต่ยังไม่เป็นประเด็นใหญ่
-
ผมใช้ 2.0 อยู่ อัตราเร่ง ok เลยนะครับถ้าไม่ขับกระโชคโฮกฮากมาก
ขอบคุณครับผม
-
ถ้าเป็นคนขับเร็ว ชอบแซง ไม่ชอบขับชิวๆ ผมถือว่า 2.0 อืดไปนิด นะครับ
เรียกพลังในทันที มันยังไม่ดึงเท่าที่ควร แต่ถ้าไม่ใจร้อน ถือว่า เพียงพอ
2.0EL มีติดเครื่องสั่นนิดๆๆๆ บางๆๆ ถ้าเป็นคน sensitive สูง อย่าเอา
แต่ที่ผ่านมา มีคนบ่นบ้าง แต่ยังไม่เป็นประเด็นใหญ่
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
-
ตอนผมกับพี่ชายไปดูรถให้สะใภ้ลองตัว Hybrid ปุ๊บวางเงินจองเลยอัตราเร่งช่วงต้นมันดีเอามากๆ ยิ่งใช้รถแค่ราวๆ 5 ปี ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหาขับไฮบริดและจะติดใจครับ ส่วนอัตราสิ้นเปลืองพี่สะใภ้ผมใช้วิ่งจาก วงแหวนตะวันตกช่วงบางแคไปส่งลูกที่ เซนโย ไปจุฬาฯ เฉลี่ยอยู่ราวๆ 14-16 กิโลเมตรต่อลิตรครับ ถ้างบไม่ใช่ปัญหาไปลองขับดูก่อนถ้าลองแล้วคิดว่า 2.0 เพียงพอแล้วก็เอา 2.0 ครับ
-
ถ้าชอบเร่งเร็วๆ Hybrid เลยครับ ถ้าขับชิวๆไป 2.0 EL พอครับ พยายามอยุ่ใน 2 รุ่นนี้ครับอย่าไปยุ่งกับ 2.4 เลยถ้าเป็นไปได้ เครื่องนี่เก่ายังกล้าเอามาติดโลโก้ Earthdream อีก 5555 ต้องไม่คิดมากคับถึงเอา 2.4 เครื่องไฮบริดของ accord ตัวนี้เวิคมากนะครับ ถามว่า+ จากราคา 4 แสนจาก 2.0 คุ้มมั้ยถ้าคิดโดยคำนวนเงินโอกาสจะคุ้มยากครับแต่ถ้าเอาความแรงมาเป็นเหตุผลก้ไปไฮบริดได้ ในฐานะที่ผมใช้รถ accord เยอะมากถ้าผมใช้งานอย่างที่คุณกล่าวมา ผมเอา Hybrid ครับ จ-ศ คงเจอรถติดไม่น้อยแค่นี้ผมก้ไปไฮบริดละครับ
-
เหตุผล 2.0
อารมณ์ Hybrid
2.0 เพียงพอครับ ถ้ารับได้ตอนที่มันหอนและสั่น บางครั้งสั่นรุ่นแรงจริงไรจริง
-
ผมจอง Hybrid ตั้งแต่เปิดตัว ก.ค. รับรถเดือน ส.ค. ทุกวันนี้วิ่งมากกว่า 20,000 โลแล้วครับ
ถ้ามองเรื่องความแรง ก็หลังติดเบาะเลย กดเท่าไรมาเท่านั้น
ถ้ามองเรื่องความประหยัด เท่าท่ีใช้ก็เฉลี่ยต่อถังเกิน 17 กม./ลิตรตลอด (เติมเต็มถัง วิ่งได้ประมาณ 1,000 ก.ม.)
ผมว่าถ้าไม่ติดเรื่องเงิน Hybrid ตอบทุกโจทย์
และอย่าลืมว่าไม่ใช่ได้แค่ Hybrid แต่เราได้ Air Bag 6 ลูก ผมว่ามันสำคัญกับทุกคนบนรถ
ส่วนเรื่องการซ่อมในอนาคตนั้น ต้องลองวัดใจกับทาง Honda เพราะในอนาคตน่าจะมีมาหลายรุ่น
ผมเห็นท่ีญี่ปุ่นนั้น Accord Hybrid เป็น Taxi หลายคันอยู่ ดังนั้นในอนาคตอะไหล่บางตัวอาจหาได้จากเชียงกง
อันนี้เป็นประสบการณ์จากการใช้ของผม เอาไว้เป็น ข้อมูลในการพิจารณา
-
1 ตอนซื้อแพงกว่า 400000 แล้วตอนขายโดนกดลงมามากกว่าปกติสัก 1-200000 งั้น ไฮบริด เสียเปรียบเรื่องราคา รวม 600000 บาท (ผมคิดเอาเองครับ)
2 ส่วนต่างน้ำมันที่ประหยัดได้จากไฮบริด ต้องใช้มากๆ และใช้ในพื้นที่ที่รถติดมาก อย่างนี้ไฮบริดมาครับ แต่หากใช้รถน้อยและใช้เดินทางไกลไฮบริดคงประหยัดแต่กรณีนี้ไม่ต่างกันมาก ใช้ 2.0 ดีกว่า
3 หมดประกัน 2.0 ซ่อมได้ทั้งอู่และศูนย์ ดูตามอาการและซ่อมส่วนไหน ส่วนไฮบริด ระบบมอร์เตอร์ แบบตารี่ ระบบส่งถ่ายกำลัง ที่มันเพิ่มจาก n/a มันเฉพาะครับ เรื่องอย่างนี้มันใหม่สำหรับอู่ข้างทาง ประเดี๋ยวเละ ให้ศูนย์ดูแลดีกว่า อย่างว่าราคาค่าซ่อม
ก็โคตรแพงเลยเกิน ซ่อมไม่ดีแทนที่จะเพิ่มกำลัง กลับหน่วงกำลังเครื่องยนต์อีก
4 ตอนขายต่อ คนมักเลือก 2.0 เพื่อไปติดแก๊ส ทำให้ขายง่ายกว่า ส่วนไฮบริด ผู้ซื้อมักกดราคา ข้ออ้างแบตตารี่เสื่อม ค่าซ่อมชุดมอเตอร์ไฟฟ้า
5 2.0จ่ายน้อยกว่า ทั้งค่าตัว และประกัน เอาเงินส่วนต่างไปฝากแบงค์สบายใจครับ
6 เลือกไฮบริดเพราะชอบความแรง จัดไป แต่ 2.0 มันก็เยี่ยมแล้วนะ ดีกว่่า c seg ญี่ปุ่นทั่วไปแล้ว
-
มีคนนั่งด้วยบ่อยมั้ยครับ .. สำหรับผม จะใช้ accord ตอนออก ตจว. ไปกันทั้งบ้าน .. อืดนิด ๆ แต่ไม่เป็นปัญหาครับ
เพราะถ้าขับเร็วกว่า 110-120 เจ้าตัวเล็กนอนไม่หลับครับ มันกระเทือน ต้องขับช้า ๆ ตอนนั้น จะกี่ม้าก็ไม่จำเป็นเลยครับ
แต่ถ้าขับคนเดียวเป็นหลัก เงินเหลือๆ จัด hybrid ครับ .. ว่า งๆ ลองเปิด taladrod ดูราคา camry hybrid ดูนะครับ ตัว AVC40 เหลือ 7-8 แสนละ
ส่วนตัว 50 ยังล้านถ้วน ล้วน 1 ครับ
-
2.0 ธรรมดาก็ไม่ได้อืดแล้วนะครับ ส่วนต่างตอนซื้อ 400000 นี่ยังไม่ร่วมค่าซ่อมบำรุงที่ไฮบริดจ่ายแพงกว่า
ค่าประกันชั้น 1 รายปีก็แพงกว่า แถมพอขายต่อทำใจได้ไหมที่ตัวไฮบริดขายได้ราคาพอกันกับ 2.0el :o
เทียบกับความประหยัดน้ำมันแล้วต้องขับเป็นล้านกิโลมั้งครับถึงจะคุ้มกับเงินที่จ่ายแพงกว่า
ถ้าอัตราเร่ง 2.0 ยังไม่สะใจพอ แนะนำว่าขยับมา 2.4el ครับ อัตราเร่งอยู่ตรงกลางระหว่าง 2.0 กับไฮบริด ;D
1 ตอนซื้อแพงกว่า 400000 แล้วตอนขายโดนกดลงมามากกว่าปกติสัก 1-200000 งั้น ไฮบริด เสียเปรียบเรื่องราคา รวม 600000 บาท (ผมคิดเอาเองครับ)
2 ส่วนต่างน้ำมันที่ประหยัดได้จากไฮบริด ต้องใช้มากๆ และใช้ในพื้นที่ที่รถติดมาก อย่างนี้ไฮบริดมาครับ แต่หากใช้รถน้อยและใช้เดินทางไกลไฮบริดคงประหยัดแต่กรณีนี้ไม่ต่างกันมาก ใช้ 2.0 ดีกว่า
3 หมดประกัน 2.0 ซ่อมได้ทั้งอู่และศูนย์ ดูตามอาการและซ่อมส่วนไหน ส่วนไฮบริด ระบบมอร์เตอร์ แบบตารี่ ระบบส่งถ่ายกำลัง ที่มันเพิ่มจาก n/a มันเฉพาะครับ เรื่องอย่างนี้มันใหม่สำหรับอู่ข้างทาง ประเดี๋ยวเละ ให้ศูนย์ดูแลดีกว่า อย่างว่าราคาค่าซ่อม
ก็โคตรแพงเลยเกิน ซ่อมไม่ดีแทนที่จะเพิ่มกำลัง กลับหน่วงกำลังเครื่องยนต์อีก
4 ตอนขายต่อ คนมักเลือก 2.0 เพื่อไปติดแก๊ส ทำให้ขายง่ายกว่า ส่วนไฮบริด ผู้ซื้อมักกดราคา ข้ออ้างแบตตารี่เสื่อม ค่าซ่อมชุดมอเตอร์ไฟฟ้า
5 2.0จ่ายน้อยกว่า ทั้งค่าตัว และประกัน เอาเงินส่วนต่างไปฝากแบงค์สบายใจครับ
6 เลือกไฮบริดเพราะชอบความแรง จัดไป แต่ 2.0 มันก็เยี่ยมแล้วนะ ดีกว่่า c seg ญี่ปุ่นทั่วไปแล้ว
ตอบครบหมด ตามที่คิดไว้จะแนะนำเลยครับ
-
ขอบคุณทุกท่านมากๆครับ ได้ความรู้มากๆ ส่วนตัวคิดว่า 2.0 คุ้มค่ากว่าในหลายๆด้านครับ มีแอบเสียดายความแรงกับเรื่องของ air bags นิดหน่อย ;D