Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: FlyMe ที่ มกราคม 12, 2015, 21:07:18
-
ณ เวลานี้ ราคาน้ำมันประมาณนี้ ราคาของรถยนต์โมเดลเดียวกันต่างกันราว 2 แสน 520d หรือ 520i คาดว่าวิ่งปีละ 2 หมื่นกิโล ผมใช้ดีเซลมาหลายปี ชอบที่ประหยัด + ราคาน้ำมันต่อลิตรที่เคยถูกกว่ามาก และความไม่จุกจิก และคงทน แต่ก็มีเสียงเครื่องที่ดังกว่า และราคาค่าตัวที่สูงกว่า เห็นตอนนี้ 520d มีเครื่อง B47 ตัวใหม่ 190 hp, 400 n.m torque ไม่ทราบว่าดีขึ้นแค่ไหน
อยากถามความเห็นเพื่อนๆ ว่าจะเลือกอะไร ขอบคุณล่วงหน้าครับ
-
เทียบกัน ก.ม./ลิตร ดีเซลยังเหนือกว่า
ความคงทน จุกจิก ดีเซล ดีกว่า
ความนิ่มนวลในอัตราเร่ง การตอบสนองที่ความเร็วต่ำ- ปานกลาง ดีเซลดีกว่า
แต่ความนิ่ง เงียบ เบนซิลดีกว่า
ความเร็วปลายๆ เบนซิลไปได้ดีกว่า
คอนซื้อดีเซลแพงกว่า ตอนขายก็คืดว่าดีเซลก็น่าจะขายได้แพงกว่าเช่นกัน
สรุปต้องตัดสินใจเองครับชอบสไตลไหน
-
1.วิ่งน้อย -> เบนซิน
2.วิ่งมาก -> ดีเซล
แต่โดยส่วนตัวแล้วผมชอบเบนซินมากกว่าเพราะปลายมันไหล
-
ราคาน้ำมัน มันจะลงแบบนี้ได้นานสักแค่ไหนเชียวครับ
ถ้าไม่คิดจะคบพลังงานทางเลือก ผมว่าดีเซลเถอะครับ
ยังไงอัตราสิ้นเปลืองก็ต่ำกว่า นะครับ
-
ถ้าไม่กังวลเรื่องเสียงเครื่องยนต์ ผมเชียร์ดีเซลครับ
ความเร็วปลายเท่าที่ได้จากเครื่องดีเซลก็เหลือพออยู่แล้ว
ได้แรงบิดสูงๆมาในรอบต่ำ ขับสนุก ประหยัดน้ำมันครับ
-
ดีเซลทนทานไม่จุกจิกเลยครับ แต่พวกหัวฉีด เทอร์โบ ปั๊ม เสียที่จุกอกครับ แต่มันก็มีแพงๆเท่านี้จริงๆ
วิ่งถึง 200 อยู่แล้ว อันที่จริงเกิน 140 ก็ไม่ค่อยจะมีถนนให้วิ่งแล้วครับ
ไปดีเซลครับ ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหา
-
ราคาน้ำมัน มันจะลงแบบนี้ได้นานสักแค่ไหนเชียวครับ
ถ้าไม่คิดจะคบพลังงานทางเลือก ผมว่าดีเซลเถอะครับ
ยังไงอัตราสิ้นเปลืองก็ต่ำกว่า นะครับ
+1
เปลี่ยนรัฐบาล ไม่รู้ราคาน้ำมันจะเป็นยังไง ที่แน่ๆ ราคาของกิน ของใช้ ไม่เคยถูกลง
-
ใช้ปีละ2หมื่นโล ใช้หลายปี + กับชอบดีเซลอยู่แล้ว จบที่ 520d ครับ
F10 LCI diesel สเปคไทยเป็น B47 แล้วหรอครับหรือผมตกข่าว
-
ถ้าคุณใช้ดีเซลมาก่อนเเล้วใช้ต่อไปดีกว่า ผมว่าราคาน้ำมัน มันไม่เเน่นอนเดียวขึ้นเดียวลง
-
ถ้าใช้รถไม่นาน เดี๋ยวแป๊บๆเปลี่ยน ดีเซลก็น่าสนใจกว่าครับ แต่ถ้าใช้ยาวๆ 10 ปี ขึ้นไป ผมว่าดีเซลสมัยนี้มันก็จุกจิกไม่น้อยทีเดียว ยิ่งถ้าเราใช้แบบไม่ค่อยดูแล ขับไม่ถนอมเครื่องเท่าไหร่ ตอนซ่อมนี่จุกกันเลยทีเดียว
ประสพการ์ณจากรถที่ บ. ดีเซล เทอร์โบ ทั้งหลาย โดนเปิดฝาสูบ โอเวอร์ฮอล เป็นอัตราส่วนครึ่งต่อครึ่ง ของรถที่มีอยู่
ปล.รถกระบะนะครับ เก๋งดีเซลอาจจะแตกต่างกันไป แต่ก็ควรระมัดระวังในเรื่องการขับขี่และดูแลรักษาเหมือนกัน ไม่งั้นพังขึ้นมาก็อ่วมอ่ะครับ ;D
-
DIESEL ดีกว่าครับทนดีไม่ค่อยจุกจิก
-
ชอบออกตัวแบบดึงๆ ต้องดีเซลครับ
พอชอบแล้วไม่ต้องคิดเรื่องอื่น
-
ผมขับดีเซลมาจะ 3 ปี 2 คัน ครับ ชอบดีเซลมากจริงๆ ครับ เรื่องแรงปลายนี่ผมไม่ได้ใช้อยู่แล้ว คือขับอยู่ย่าน 110 - 150 km/hr
ส่วนเรื่องเสียงดังนี่ ผมว่า f10 เก็บเสียงได้ดีครับ ไม่กวนเข้ามาข้างใน แต่ข้างนอกก็แน่นอนว่าดังกว่าเบนซินแน่นอน
จุดที่เป็นข้อด้อยสำหรับผมคือ เรื่องสั่นมากกว่าครับ คือมันจะสั่นบ้างแบบรู้สึกได้ แต่ขับไปสักเดือนนึงก็ชิน แต่สำหรับเบนซินเรียกว่านิ่งมากๆ
แต่ข้อดีของดีเซล มีอีกมากมาย ที่ผมชอบมากๆ คือการไม่จุกจิก ไม่ต้องไปเปลี่ยนโน่นนี่นั่น มันทนกว่าเห็นๆ ครับ และวิ่งยาวๆ ยังไงอัตราบริโภคน้ำมันมันดีกว่าเบนซินเยอะเลย
ถึงน้ำมันจะราคาเท่ากัน ผมก็ยังเลือกดีเซลครับ
ลองฟังข้อมูลจากคนที่ซื้อเบนซินไว้ประกอบด้วยนะครับ อันไหนตรงกับลักษณะการใช้งานของคุณก็ตามนั้นนะครับ ผมขับปีนึงสักหมื่นต้นๆ ยังชอบดีเซลมากกว่าเลยครับ
-
ผมไม่ค่อยชอบลักษณะการออกตัวของดีเซล ผมว่ามันดึงเกินไปไม่ค่อยนุ่มนวล และเรืีองสั่นด้วย มีความรู้สึกเหมือนเครื่องมาสั่นอยู่ที่เท้าเวลาเหยียบคันเร่งตลอดเวลา แต่ที่คิดหนักคือเรื่องขายต่อกลัวเบนซินปล่อยยากกว่าดีเซล แต่สุดท้ายก็จบที่เบนซินเพราะตรงใจผมมากกว่า เรื่องขายต่อคงช่างมัน คิดซะว่าซื้อมาใช้เอง อย่าไปคิดเพื่อคนที่จะมาใช้รถต่อจากเรา
-
ใช้เบนซินอยู่ครับ
ก่อนซื้อผมเทสทั้งสองตัวครับ เรื่องอัตราเร่ง ต่างกันน้อยมากครับ แต่ความต่อเนื่องในการเร่ง ความลื่นไหล ผมชอบเบนซิน
เสียงเครื่อง ภายใน ไม่รู้สึกอะไรครับ แต่ตอน autostart/stop ดีเซลเครื่องติดทีนึงนี่สะเทือนครับ ตอนรถติด ระบบนี้ติด ๆ ดับ ๆ รำคาญทีเดียว แต่เบนซินสั่นเหมือนกัน แต่ไม่มากนัก เรื่องนี้อาจจะชดเชยได้โดยขับดีเซลก็ปิดระบบนี้ไปเลย เพราะมันกินน้ำมันน้อย ราคาน้ำมันถูก ก็คงไม่ต้องมาประหยัดอะไร
ราคาต่างกันสองแสน กับการกินน้ำมันมากกว่าสำหรับเบนซิน ผมเคยคำนวณจุดคุ้มค่าสำหรับเงินสองแสน ได้ที่ราว ๆ แสนกิโลครับ(อาจจะผิด) ก็ลองคิดคำนวณดูครับว่าคุ้มกับคุณมั้ย ส่วนผมขับน้อย ปีนึงแค่หมื่นกว่าโล กว่าจะถึงจุดคุ้มของผมล่อไปเกือบสิบปี ผมเลยไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องน้ำมันมาคำนวณว่าจะต้องการรถที่ประหยัดน้ำมัน จึงมาจบแค่อารมณ์การขับล้วน ๆ เลยไปจบที่เบนซิน ด้วยเหตุผลที่ขับแล้วนุ่มนวลกว่า ไหลลื่นมากกว่า จังหวะความเร็วสูงขับสนุกมาก
ส่วนเรื่องความคงทน อันนี้ไม่ทราบจริง ๆ ครับ ว่าเครื่องเบนซินกับดีเซลของบีเอ็ม(เน้นว่าของบีเอ็ม) อันไหนมันทนกว่ากัน