Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: jackung207 ที่ กุมภาพันธ์ 16, 2015, 21:07:35
-
คือว่าผมกำลังหาดูรถที่จะเอามาทำแท็กซี่ครับเลยอยากได้ข้อมูลเพิ่มอ่านะครับ
ว่า ระหว่าง3รุ่นที่ว่ามาตัวไหนดีครับ เพราะยังไงซะก็ต้องติดแก๊สngvเลยอยากรู้ว่าใน3รุ่นที่ว่ามาเนี่ยครับตัวไหนตืดแก๊สแล้วประกว่ากันครับ แล้วกินแก๊สอยู่ที่เท่าไร หรือว่าจะไปaltis esportดีครับ เห็นเข้าว่ากันว่าเครื่องของnew altis ใหม่กว่าและดีกว่านี่ยังไงครับ คือค่อนข้างซีเรียสเรื่องอัตราสิ้นเปลืองมากเลย
แล้วระหว่าง camry extremo กับ altis esport จับมาดมแก๊สแล้ว กินกว่ากันเยอะมั้ยครับ
คือในใจอยากได้camryมากกว่าด้วยอ่าครับ
ป.ล.ขอประทานโทษทุกท่านนะครับ ผมตั้งคำถามไม่ค่อยเป็น เลยตั้งคำถามแบบวนไปวนมา ขอโทษจริงๆครับ
-
เครื่องเล็กกว่า ขับในเมืองก็ย่อมประหยัดกว่าเครื่องใหญ่ๆครับ ถ้ามาจากค่ายเดียวกันนะ
-
ยังไง เครื่องเล็ก (1.8) ก็กินน้อยกว่าครับ
แต่ถ้าเน้นขับไกลก็เครื่องใหญ่ดีกว่าครับ
(ไม่แน่ใจว่าจะใช้วิ่งที่ไหนครับ)
-
เอาไปติด NGV ผมว่าเอา ALTIS 1.6 CNG ดีกว่ามั้ย
-
เอาไปวิ่งเหมาหรือว่าอะไรครับ
ถ้าเหมาไป ตจว เกรงว่า ngv ถังเดียวมันจะวิ่งไม่พอนะครับ สุดท้ายก็เหมาไป ตจว ไม่ได้ ส่วนใหญ่พวกเหมาเค้าใช้ lpg หรือติดสองถังกันรึเปล่า รอผู้รู้มาตอบ
แต่ถ้าวิ่งธรรมดาในเมือง ตัวธรรมดาหรือ esport ก็เหลือเฟือแล้ว
-
ทำแท๊กซี่อย่าซื้อ Esport เลยครับ
ล้อใหญ่ บวกกับน้ำหนักถังแก๊ส ถ้าผู้โดยสารนั่งหลัง 3 คน ลงหลุมทีมีเสียวนะครับ
ถ้าเล่น เอา 1.8E ติดแก๊สดีกว่า
ล้อ 16 ได้ซีรี่ห์ยางใหญ่ขึ้นมา ขับสบายใจกว่า
ถ้าทำรถลักษณะนี้ อย่าเอาแคมรี่มาทำเลยครับ กว่าจะถึงจุดคุ้มทุนมันนานนะครับ
ค่าซ่อมบำรุงสูงกว่า อะไหล่ในภาพรวมแพงกว่า
แต่อัลติสเองก็มีข้อน่าเป็นห่วงเรื่องเกียร์ที่เป็น CVT
(แท๊กซี่หลายๆคันก็ใช้นะ เค้าว่า 3-4 แสนโลก็ยังวิ่งได้)
ลองชั่งใจดูครับ
-
จะทำ taxi เอาตัว esport คงไม่เหมาะมั้งครับ ส่วน camry ก็อาจจะสิ้นเปลืองเกินไป
-
ก่อนติดแก้สเช็คราคา NGV LPG ตอนนี้ดูก่อนตัดสินใจว่าจะติดอันไหนนะครับ
ปล. ออกรถแท็กซี่ทำมาหากิน เน้นอัตราความสิ้นเปลืองด้วย ขอแนะนำตัวพื้นๆ ก็พอครับ
-
ผมว่าถ้าให้ความสำคัญในเรื่องอัตราสิ้นเปลือง เลือกอัลติส 1.8 เถอะครับ ;)
แล้วแต่ความชอบเลยว่าจะ E หรือ ESport แต่รุ่น E-CNG ผมไม่แนะนำนะ
เพราะว่าระบบก๊าซจะมีปัญหาในระยะยาว อะไหล่ราคาสูงมากและผูกขาดกับโตโยต้า ทั้งหัวฉีด หม้อต้มก๊าซ ฯลฯ
ปัญหาพวกนี้พบได้ในรุ่น CNG โรงงานตั้งแต่โฉมที่แล้วครับ
"จะทำการใหญ่ ใจต้องนิ่ง" เรื่องคัมรี่ ตัดทิ้งเถอะครับ ถ้ายังห่วงเรื่องค่าแก๊ส ;D
ส่วนระบบก๊าซ นาทีนี้ผมเลือก LPG *เพราะราคาไม่ต่างกันมากเท่าไหร่ แต่สบายใจเรื่องระยะทางต่อถัง
แถมยังสามารถใช้ถังโดนัทได้ด้วย รถผมเวลาขนของเยอะๆนี่สบายเลยครับ
*หมายเหตุ : ราคา NGV สำหรับรถแท็กซี่ที่ไม่มีบัตรส่วนลดคือ 13.00 บาท/กก. ถ้ามีบัตรจะได้ส่วนลด 3 บาท/กก. ครับ
-
ถ้าเป็นผม case นี้จะเอาตัว 1.6G ไม่ก็ 1.8E ครับ ;)
-
ถ้าใจอยากไปcamryแล้วก็ไปcamryเถอะครับ รถดูดีกว่าย่อมมีคนอยากขึ้นมากกว่า
ส่วนเรื่องngvขึ้นชื่อว่าพี่โตทนทุกรุ่นครับ พอติดแก๊สแล้วค่าใช้จ่ายก็ไม่ต่างกับaltisเท่าไหร่
ปล.เงินเป็นของเรา ไม่ได้มีใครมาช่วยออก เพราะฉะนั้นควรเลือกสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดสำหรับเราแล้วเราจะได้ใช้มันอย่างมีความสุข
-
ผมสอบถามหน่อยครับ
มีท่านใดที่นี่ที่ขับ Taxi บ้าง ทั้ง part time มีงานประจำและ Full time เต็มเวลา
อยากทราบว่า จุดเริ่มต้นของท่านที่ไปขับเริ่มจากอะไรครับ
ผมอยากทราบว่าการที่เราซื้อรถ Altis มาเพื่อขับ taxi แบบ part time มันคุ้มไหมครับ มีต้นทุนประมาณเท่าไหร่ อะไรบ้าง
แล้วรถนี่ควรเป็นเบาะหนังเทียม หรือว่าซื้อรถที่เป็นหนังแท้ไปเลยได้ครับ
ถ้าผมซื้อคงเอาตัว 1.6G หรือ 1.8E ติด CNG เอง ไม่ก็ 1.6E CNG แต่ได้ยินว่าระบบแก๊ซมีปัญหา
-
ผมคิดว่า TAXI แบบทั่วๆไป ในกทม. มันมีมากเกินไปแล้วอ่ะครับ
แต่ถ้าเป็นแบบ premium แบบ Uber ก็ ok นะครับ
-
ผมสอบถามหน่อยครับ
มีท่านใดที่นี่ที่ขับ Taxi บ้าง ทั้ง part time มีงานประจำและ Full time เต็มเวลา
อยากทราบว่า จุดเริ่มต้นของท่านที่ไปขับเริ่มจากอะไรครับ
ผมอยากทราบว่าการที่เราซื้อรถ Altis มาเพื่อขับ taxi แบบ part time มันคุ้มไหมครับ มีต้นทุนประมาณเท่าไหร่ อะไรบ้าง
แล้วรถนี่ควรเป็นเบาะหนังเทียม หรือว่าซื้อรถที่เป็นหนังแท้ไปเลยได้ครับ
ถ้าผมซื้อคงเอาตัว 1.6G หรือ 1.8E ติด CNG เอง ไม่ก็ 1.6E CNG แต่ได้ยินว่าระบบแก๊ซมีปัญหา
ผมครับ! เริ่มจากตอนเข้ามหา'ลัย กำลังจะขึ้นปี2 เหนื่อยกับการเดินทางไป-กลับ เลยอยากจะมีรถขับไปเรียนครับ
ทางบ้านให้อิสระในการเลือกรถ ผมก็มาคิดว่าถ้าเป็นรถบ้านๆ คงมีค่าใช้จ่ายตามมาหลายอย่างเลยที่ผมจะต้องรบกวนพ่อแม่
บวกกับความที่บ้านผมอยู่โซนนอก มหา'ลัยอยู่ในเมือง เวลาจะไป-กลับก็เห็นคนเรียกแท็กซี่แล้วถูกปฏิเสธ ผมคิดเลยว่าถ้าเป็นผมนะ
จะไปให้หมด ไม่มีปฏิเสธเลย จนในที่สุดก็ได้ซื้อรถแท็กซี่มาเป็นคันแรก (มือสอง) หลังจากนั้นชีวิตผมก็เปลี่ยนไป.....
::)
เรื่องมันยาวครับ ข้ามมาตอนนี้เลยละกัน เรียนจบและก็เริ่มทำงานบริษัทแล้ว ก็ยังขับแท็กซี่ไปทำงานครับ
เช้าๆก่อนเข้างานก็ขับแปปนึง เลิกงานมาก็ขับต่อเลย ส่วนอีก 2 คันที่ซื้อมาเพิ่มก็เอามาปล่อยเช่าสลับกัน
โดยที่ผมจะยังคงได้ขับรถทุกๆคันของผมในหนึ่งอาทิตย์เพื่อเป็นการเช็คสภาพรถครับ
รู้สึกดีที่ได้หาเงินใช้เอง และก็ช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้านด้วย :)
ส่วนเรื่องคำถามว่าซื้อรถมาขับ Part-time คุ้มมั้ย ผมว่าถ้ามีเงินก้อนอยู่ ก็ซื้อสดมาเลยครับ จะสบายกว่า
เพราะดอกเบี้ยไฟแนนซ์สำหรับรถแท็กซี่สูงกว่ารถบ้านมาก(ๆๆๆ)ครับ ถ้าทำงานประจำอยู่แล้วยังต้องมา
กังวลกับเงินค่าผ่อนรถอีกผมว่าไม่เวิร์คนะ มีรายได้ต่อเดือนเพิ่มแต่ว่าเสียสุขภาพกาย-จิต มันไม่คุ้มกันครับ ;)
นี่ก็เลยเป็นอีกเหตุผลที่ผมซื้อรถแท็กซี่มือสองมาตลอด จริงๆเหตผลหลักคือผมเพิ่งอายุ22 + ไม่มีเครดิตเงินเดือน
สำหรับเรื่องเบาะหนัง ซื้อรถสเปคเบาะอะไรมาก็ได้ครับ แล้วมาหุ้มหนังเทียมเอาดีกว่า มีร้านเฉพาะสำหรับแท็กซี่ครับ ราคาเบาๆ
คุณพ่อผมเคยใช้เบาะหนังแท้ (Altis 1.6G) มาใช้รับผดส.แล้ว ผลคือ..ยับเยินครับ :D หุ้มทับไว้ดีกว่า พอเลิกเป็นแท็กซี่ก็แค่ถอดออก
อ้อ! กระบวนการจะมีแท็กซี่ผมว่าค่อนข้างวุ่นวายและใช้เวลานานนะครับ โดยเฉพาะส่วนของใบขับขี่สาะารณะเนี่ย ผมใช้เวลาในการไปทำมาร่วม 3 เดือนแน่ะครับ
-
มันก็กินกว่าครับ
แต่มันก็ไม่ได้มากมายอะไรเวอร์ ในกรณีนี้คุณใช้หาเงิน อะไรเซฟได้ก็เซฟไปเถอะครับ
เลือก Altis 1.6 พอ Cam2.5 นี่ยิ่งไม่ต้องคิดเลย ติดแก๊สถึงจะขับในเมืองก็แหลกเหมือนกันครับ
-
ผมสอบถามหน่อยครับ
มีท่านใดที่นี่ที่ขับ Taxi บ้าง ทั้ง part time มีงานประจำและ Full time เต็มเวลา
อยากทราบว่า จุดเริ่มต้นของท่านที่ไปขับเริ่มจากอะไรครับ
ผมอยากทราบว่าการที่เราซื้อรถ Altis มาเพื่อขับ taxi แบบ part time มันคุ้มไหมครับ มีต้นทุนประมาณเท่าไหร่ อะไรบ้าง
แล้วรถนี่ควรเป็นเบาะหนังเทียม หรือว่าซื้อรถที่เป็นหนังแท้ไปเลยได้ครับ
ถ้าผมซื้อคงเอาตัว 1.6G หรือ 1.8E ติด CNG เอง ไม่ก็ 1.6E CNG แต่ได้ยินว่าระบบแก๊ซมีปัญหา
นับถือครับ ;D ;D ;D
ผมครับ! เริ่มจากตอนเข้ามหา'ลัย กำลังจะขึ้นปี2 เหนื่อยกับการเดินทางไป-กลับ เลยอยากจะมีรถขับไปเรียนครับ
ทางบ้านให้อิสระในการเลือกรถ ผมก็มาคิดว่าถ้าเป็นรถบ้านๆ คงมีค่าใช้จ่ายตามมาหลายอย่างเลยที่ผมจะต้องรบกวนพ่อแม่
บวกกับความที่บ้านผมอยู่โซนนอก มหา'ลัยอยู่ในเมือง เวลาจะไป-กลับก็เห็นคนเรียกแท็กซี่แล้วถูกปฏิเสธ ผมคิดเลยว่าถ้าเป็นผมนะ
จะไปให้หมด ไม่มีปฏิเสธเลย จนในที่สุดก็ได้ซื้อรถแท็กซี่มาเป็นคันแรก (มือสอง) หลังจากนั้นชีวิตผมก็เปลี่ยนไป.....
::)
เรื่องมันยาวครับ ข้ามมาตอนนี้เลยละกัน เรียนจบและก็เริ่มทำงานบริษัทแล้ว ก็ยังขับแท็กซี่ไปทำงานครับ
เช้าๆก่อนเข้างานก็ขับแปปนึง เลิกงานมาก็ขับต่อเลย ส่วนอีก 2 คันที่ซื้อมาเพิ่มก็เอามาปล่อยเช่าสลับกัน
โดยที่ผมจะยังคงได้ขับรถทุกๆคันของผมในหนึ่งอาทิตย์เพื่อเป็นการเช็คสภาพรถครับ
รู้สึกดีที่ได้หาเงินใช้เอง และก็ช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้านด้วย :)
ส่วนเรื่องคำถามว่าซื้อรถมาขับ Part-time คุ้มมั้ย ผมว่าถ้ามีเงินก้อนอยู่ ก็ซื้อสดมาเลยครับ จะสบายกว่า
เพราะดอกเบี้ยไฟแนนซ์สำหรับรถแท็กซี่สูงกว่ารถบ้านมาก(ๆๆๆ)ครับ ถ้าทำงานประจำอยู่แล้วยังต้องมา
กังวลกับเงินค่าผ่อนรถอีกผมว่าไม่เวิร์คนะ มีรายได้ต่อเดือนเพิ่มแต่ว่าเสียสุขภาพกาย-จิต มันไม่คุ้มกันครับ ;)
นี่ก็เลยเป็นอีกเหตุผลที่ผมซื้อรถแท็กซี่มือสองมาตลอด จริงๆเหตผลหลักคือผมเพิ่งอายุ22 + ไม่มีเครดิตเงินเดือน
สำหรับเรื่องเบาะหนัง ซื้อรถสเปคเบาะอะไรมาก็ได้ครับ แล้วมาหุ้มหนังเทียมเอาดีกว่า มีร้านเฉพาะสำหรับแท็กซี่ครับ ราคาเบาๆ
คุณพ่อผมเคยใช้เบาะหนังแท้ (Altis 1.6G) มาใช้รับผดส.แล้ว ผลคือ..ยับเยินครับ :D หุ้มทับไว้ดีกว่า พอเลิกเป็นแท็กซี่ก็แค่ถอดออก
อ้อ! กระบวนการจะมีแท็กซี่ผมว่าค่อนข้างวุ่นวายและใช้เวลานานนะครับ โดยเฉพาะส่วนของใบขับขี่สาะารณะเนี่ย ผมใช้เวลาในการไปทำมาร่วม 3 เดือนแน่ะครับ