Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: scotch_fillet ที่ กุมภาพันธ์ 18, 2015, 22:57:32
-
เมื่อเทียบกับใช้รถยี่ห้ออื่นๆที่ขนาดพอๆกันเช่น Jazz
ถ้าผมใช้ Mazda 2 HB ตัว top ภาพลักษณ์จะเป็นไงครับ
ปัจจุบันอายุสามสิบปลายๆ เป็นลูกจ้างกินเงินเดือนครับ
ขอบคุณครับ
-
ภาพลักษณ์มันก็เหมือนกัน เพราะ segment เดียวกัน
แต่เล่น mazda จะดูเป็นคนใจวัยรุ่นมากว่า honda ที่เป็นอนุรักษ์นิยม ไม่ชอบเสี่ยง
มันคือ character ของรถ
-
เดิมๆจากโรงงานไม่แต่งในรถระดับเดียวกันมันก็ดูเหมือนกันหมดล่ะ
ลองจับ jazz แต่งจัดเต็มสิ ก็ดูวัยรุ่นได้ทั้งนั้น
ดังนั้น รถระดับนี้ให้มองตรงๆนะ ก็คือรถสำหรับคนเพิ่งเริ่มทำงาน แบบเก็บเงินก้อนแรกเพื่อออกรถเริ่มต้นชีวิตเอง บ้านไม่รวย ไม่ได้ถูกหวย ซื้อรถสำรองมาขับเล่นๆขำๆ
นี้แหละคือภาพลักษณ์ที่คนส่วนใหญ่มอง สำหรับคนที่ขับรถระดับนี้
-
B segment ก็คือ B segment
ไม่ใช่รถหรู ราคาแพง แบบ Mini ที่จอดไฟแดง คนจะเหลียวมอง ;D
เพิ่มเงิน เป็น 833,000 คุณได้ขับ M3 Skyactive (Entry) ที่ออฟชั่น ความปลอดภัย คุ้มค่ากว่ารถตลาดครับ
เจอ M3 บนถนน ผมมองตามตลอด มันดูดีจริง
นั่งของพี่ชายบ่อยๆ ก็ชอบ ห้องโดยสารเงียบ นุ่มนวล
ไปลองขับ ลองนั่ง M3 เทียบกับ M2 ครับ
M3 นั่งสบายกว่า กว้างกว่า หล่อกว่า แต่แพงกว่าสินะ แฮร่ ;D
-
ภาพลักษณธรรมดาครับ ไม่หวือหวา โดดเด่น
เป็นหัวสมัยใหม่ ไม่ตามกระแสนิยม ชอบท้าทาย
ใจกล้าบ้าบิ่น ขับไปเถอะครับ พอเพียงกับรายได้ ไม่เดือดร้อน เกินตัวเกินไป ขอให้มันตอบโจทย์ได้เต็มที่และภูมิใจ
ก็พอแล้ว
-
เป็นผม เพิ่มเงินอีกหน่อยไปเล่น M3 ตัวเริ่มต้นครับ ภาพดีกว่าเยอะครับ + เครื่องเติม E85 ได้ ช่วงล่างดีกว่าเยอะ โอกาสเกิดเหตุน้อยกว่า 2 เยอะครับ
-
เน้นภาพลักษณ์ ไป ALTIS, M3, CIVIC ตัวเริ่มต้นดีกว่าครับ
แต่ผมเริ่มชอบ JAZZ ตรงที่ให้ถุงลม 6 ใบซะแล้วสิครับ (รุ่น SV+)
-
ภาพลักษณ์มันดีและออกแนววัยรุ่นๆตั้งแต่ Zoom Zoom แล้วครับ ยิ่งพอถึงยุคเปลี่ยนผ่านเป็นสกายแอ๊กทรีฟไม่ต้องพูดถึงครับ สปอดยิ่งขึ้นไปอีก 555+
เน้นภาพลักษณ์ ผมต้องถามคุณต่อไปว่าเน้นภาพลักษณ์แบบไหนละครับ อยากให้ภาพลักษณ์ดูหนุ่ม ดูเด็ก อารมณ์สปอด ก็จัด M2 HB ได้ แต่ถ้าภาพลักษณ์เกี่ยวกับหน้าตาสังคม หรือหน้าที่การงาน จัดซี-เซ็กเม้นท์แบบพวกอัลติสหรือซีวิคจะดีกว่าครับ หรืออัดงบหน่อยจัดพวก BMW 316I 320I แบบนั้นยิ่งโก้เลยครับ
-
ก็จะดูวัยสะรุ่นเลยหล่ะครับยิ่งสีแดงยิ่งจี๊ดโดนใจ การแต่งตัวคุณต้องตามรถด้วยนะครับเดี๋ยวไม่แมทกัน
อย่างน้องที่ทำงานผมเล่าให้ฟังว่ารถน้องเค้าซีวิคแต่งซิ่งทั้งสี โหลด ท่อ แล้วไปธุระกันลุงเป็นคนขับแม่เป็นคนนั่งขับผ่านวัยรุ่นมีแต่คนมองกันเป็นตาเดียวเลยพอจอดลงรถเท่านั้นแหละโดนโห่เลยกลายเป็นเรื่องโจ๊กประจำบ้าน แต่แม่กับลุงก็ยืมไปขับเรื่อยๆอยู่นะบอกมันเท่ห์ดี
-
วัยรุ่นด้วยกันขับ สาวกรี๊ด
วัยเริ่มต้นทำงานขับ ดูทันสมัย
วัยทำงานมาสักระยะ ไม่ค่อยมีตังนะ
วัยทำงานจะมีครอบครัว จนอะ
วัยเป็นผจก ดูไม่ดีแล้วอะ
วัยชรา เฮ้อ ไม่ดูตัวเองเลย
-
Mazda 3 เนี่ยนะเงียบ
ลองนั่ง พวก Nissan หรือ Ford ดูครับ
-
Mazda 2 มาช้าไป จำเป็นต้องใช้รถ เลยจำใจต้องออก Jazz มาใช้ก่อน ถ้ามาพร้อมกัน คงจัด Mazda แบบไม่ลังเล
-
อย่าไปคิดไรมากครับ เงินเรา เราใช้เท่าที่พอ ไม่เดือดร้อนตัวเอง ไม่เดือดร้อนใคร
-
เอาจริงๆ ผมว่าภาพลักษณ์มันเป็นของ Segment น่ะครับ B-Segment มันก็ค่อนข้างชัดว่า ส่วนใหญ่มักจะเป็นคนเริ่มทำงาน หรือพวกวัยรุ่นพ่อแม่ซื้อให้หัดขับ ไม่ก็ถ้ามีอายุหน่อยอาจเป็นข้าราชการหรือพนักงานที่เงินเดือนไม่ได้สูงมากมาย (คืออยู่ระดับฐานะปานกลางพอมีพอกิน) แต่สำหรับยี่ห้อ มันจะบอกรสนิยมแตกต่างไป เช่นถ้าใช้พวกแบรนด์รองๆ ก็จะดูเป็นคนกล้าลอง กล้าเสี่ยง มีความเป็นวัยรุ่น ไม่ได้ยึดติด เปิดกว้าง อะไรงี้ครับ ถ้าใช้แบรนด์ตลาดก็ออกแนวอนุรักษ์นิยม ใช้จ่ายระวังตัว ไม่ฟุ้งเฟ้อ
ถ้าอยากได้ภาพลักษณ์ที่ดูดี เหมาะกับหน้าที่การงาน ขั้นต่ำก็ควรเป็น C-Segment ครับ อย่างมาสด้า 3 ตัวเริ่มต้น มองจากภายนอกก็แยกไม่ค่อยออกกับรุ่นท๊อปหรอกครับ
แต่ถ้างานที่ทำไม่ได้ต้องการภาพลักษณ์อะไร รถอะไรก็ใช้ได้ครับ ญาติผมเจ้าของร้านยารวยมาก ที่บ้านก็มี Benz แต่เวลาทำงานนี่ Isuzu มังกรทองครอบ Carryboy เก่าจนไม่รู้จะเก่าไงแล้วครับ
-
ภาพลักษณ์มักจะมากับค่าใช้จ่ายที่มาก ถ้าเกินตัวดูไม่เหมาะหมดแหละ
-
ภาพลักษณ์ในมุมมองของใครครับ ถ้าคนทั่วๆไป รถ segment เดียวกัน ภาพลักษณ์ก็น่าจะพอๆกัน แต่เมื่อดูความเข้มแข็งของแบรนด์และขนาดแล้ว ผมว่า Jazz อาจจะดูดีกว่านิดๆด้วยซ้านะ
-
Mazda 3 เนี่ยนะเงียบ
ลองนั่ง พวก Nissan หรือ Ford ดูครับ
M3 ผมสัมผัสว่า เงียบกว่า Altis, Cvic รุ่นล่าง ถึง กลางๆ นะครับ ไม่เคยขับรุ่นTop ของทั้ง2ตัวนี้ ;D
Silphy ไม่เคยลองครับ
Focus เงียบที่สุดครับ อันนี้ ฟันเฟริม 8) 55
-
เอาจริงๆ ผมว่าภาพลักษณ์มันเป็นของ Segment น่ะครับ B-Segment มันก็ค่อนข้างชัดว่า ส่วนใหญ่มักจะเป็นคนเริ่มทำงาน หรือพวกวัยรุ่นพ่อแม่ซื้อให้หัดขับ ไม่ก็ถ้ามีอายุหน่อยอาจเป็นข้าราชการหรือพนักงานที่เงินเดือนไม่ได้สูงมากมาย (คืออยู่ระดับฐานะปานกลางพอมีพอกิน) แต่สำหรับยี่ห้อ มันจะบอกรสนิยมแตกต่างไป เช่นถ้าใช้พวกแบรนด์รองๆ ก็จะดูเป็นคนกล้าลอง กล้าเสี่ยง มีความเป็นวัยรุ่น ไม่ได้ยึดติด เปิดกว้าง อะไรงี้ครับ ถ้าใช้แบรนด์ตลาดก็ออกแนวอนุรักษ์นิยม ใช้จ่ายระวังตัว ไม่ฟุ้งเฟ้อ
ถ้าอยากได้ภาพลักษณ์ที่ดูดี เหมาะกับหน้าที่การงาน ขั้นต่ำก็ควรเป็น C-Segment ครับ อย่างมาสด้า 3 ตัวเริ่มต้น มองจากภายนอกก็แยกไม่ค่อยออกกับรุ่นท๊อปหรอกครับ
แต่ถ้างานที่ทำไม่ได้ต้องการภาพลักษณ์อะไร รถอะไรก็ใช้ได้ครับ ญาติผมเจ้าของร้านยารวยมาก ที่บ้านก็มี Benz แต่เวลาทำงานนี่ Isuzu มังกรทองครอบ Carryboy เก่าจนไม่รู้จะเก่าไงแล้วครับ
+1 เห็นด้วยครับ ;D
รถ คือ พาหนะภายนอก ไม่ใช่แก่นแท้ของชีวิต :D
ใช้ชีวิตในแบบที่เป็น ;D
-
ผมมองว่ามันเหมือนการที่คนเราใส่เสื้อผ้าหน่ะครับ
รถที่ราคาไม่ถึงล้าน ที่เป็นรถใหม่ ผมมองว่า เหมือนคนซื้อเสื้อผ้า ใหม่ๆ ชุดธรรมดาๆที่ขายตามตลาดนัด ราคาหลักร้อยใส่ เพราะรถกลุ่มนี้คือคนทั่วๆไปของสังคม อาจมีเสื้อผ้าถูกบ้างแพงบ้าง แต่ไม่เกินพัน
ถ้าเป็นคนขับรถพรีเมี่ยม ก็จะเป็นคนใส่เสื้อผ้ามียี่ห้อ ชุดละหลายพันตามห้างดังๆ
-
ราคานี้แพง? กับออฟชั่นขนาดนี้?
ถ้าอยากได้ถูกระดับห้าแสน ซื้อ Yaris Mirage เถอะครับ
ผมว่าราคานี้เหมาะสมกับเทคโนโลยีแล้ว อย่าไปสนแต่คำว่าถูกแล้วถอดของดีๆออกเลย ผมเสียดายคุณภาพรถที่มันหายไป
เอามาสด้า 2 ใหม่ไปเทียบ Economy Car P1 บ้านผมขับ Attrage อยากจะบอกว่ารถมันคนละชั้นกันเลยครับ แค่เบาะ ช่วงล่าง ยาง เบรค มันก็คนละคลาสกันแล้ว
บางทีคนเราอย่าไปมองแค่ราคากับขนาดแล้วเอามากำหนดคุณค่าตัวรถเลยครับ ไม่งั้น A180 A250 มันขายราคานั้นไม่ได้หรอกครับ
-
ถ้าชอบตัวรถ ขับแล้วมีความสุข ภาพลักษณ์ที่คนรอบข้างจะมองเรา เราจะสนใจทำไมค่ะ แคร์ภาพลักษณ์มากแล้วพอโดนคนนั้นคนนี้รอบข้างมาพูดว่าทำไมไม่ขับคันนั้น คันนี้ คันนั้นดีกว่ามันหรูกว่าแล้วต้องมาเพิ่มภาระ ทำให้ชีวิตไม่มีความสุข ก็ไม่มีประโยชน์ค่ะ เพราะความสุข ความต้องการของแต่ละคนมันต่างกัน :)
-
ภาพลักษณ์ก็ตามที่สมาชิกท่านอื่นได้กล่าว
ถ้าอยากได้ภาพลักษณ์จริงๆ ลองศึกษายุโรปมือสอง รู้อู่ รู้ปัญหาและวิธีการดูแล
แต่ก็ต้องแลกมากับการดูแลรักษาที่มาก และ ความสบายใจที่น้อยกว่า
-
ดูเด็กลงครับ เพราะ Jazz มันเป็นรถที่ที่คุณย่า คุณอา คุณนาย ทั่วๆไปใครก็ขับ เผลอๆคนจะพาลนึกหน้าคนขับไปว่าผู้หญิงหิ้วลูก 2 ซะอีก
แต่ถ้าเป็น m2 ไม่น่าใช่วัยเถือกนี้แน่ เพราะรถมันไม่ให้
-
ผมมองว่า รถญี่ปุ่นในกลุ่มนี้มองจากภายนอกภาพลักษณ์มันเหมือนๆกันนะครับ
ถ้าจะมองoption ว่าใครดีกว่าใคร คนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้สนใจรถรุ่นนั้นๆอยู่เขาไม่รู้หรอกครับว่าอะไรต่างกัน
แต่ถ้าจะให้แตกต่างกันจริงๆคงต้องเป็นรถยุโรปแหละครับ
-
ถ้าเอาภาพลักษณ์ รถญี่ปุ่นยังไงก็คือรถญี่ปุ่นครับ ถ้าคนเล่นรถรู้ราคาก็จะแยกออก ถ้าคนทั่วๆไปเค้าแยกไม่ออกหรอกครับว่าคันไหนแพงถูก ยกเว้นยุโรปถึงรู้ว่าแพง
-
มันอยู่ที่ว่าใครมองครับ ถ้าคนที่รุ้เรื่องรถ ก็จะดูจากราคารถ
คนที่ไม่รู้เรื่องรถ ก็จะดูจากยี่ห้อ ขับรถเข้าห้าง
เบนซ์ยุคพระเจ้าซัวเถา ยามบอกจอดด้านหน้า
อัลติสตัวท๊อป ยามบอกแท๊กซี่ไปจอดไกลๆ 555
-
คงจะอยู่ที่ว่าใช้ในพื้นที่ไหนครับ
คนแต่ละกลุ่ม ก็มองคุณต่างกัน ถึงใช้รถแพง คนก็จะจ่ดจ้องตอนคุณลงมาจากรถครับว่า
หน้าตา หุ่น การแต่งการ โทรศัพท์ที่ใช้ กระเป๋าที่หิ้ว รองเท้าที่ใส่ เหมาะกับรถที่คุณขับหรือไม่ บราบราบราๆๆๆๆๆ
บางคนมีความสุขที่มีรถธรรมดาหลายคัน แต่บางคนก็มีความสุขที่ได้มีรถหรูเพียงคันเดียว (ซึ่งราคาอาจจะแพงกว่ารถธรรมดาหลายคันในแบบแรก)
สรุปก็ใช้รถที่เราชอบ ขับแล้วมีความสุขตามกำลังที่เราหาได้ ก็มีความสุขแล้วนะครับ
;D ;D ;D ;D ;D ;D
-
ขอบคุณทุก คห. ครับ
ชอบใจตรง ขับแล้วกระชากวัยลงมานี้แหล่ะ
-
ถือว่าหรูหรา (กว่าตัวเก่า) ไม่น้อยครับ