Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: cloud ที่ กุมภาพันธ์ 20, 2015, 16:19:33
-
"แรงบิด250นิวตันเทียบเท่าเครื่องยนต์2,500cc" นี่คือคำโฆษณาของmazda
ตอนนี้เห็นมีคนมารีวิว0-100 ได้11วินาทีซึ่งพอกันกับ jazz เลยซึ่งมีแรงบิดเพียง146นิวตัน/4,700รอบ
ก็เลยสงสัยครับว่าทำไม น่าผิดหวังจัง หรือผมเข้าใจอะไรผิดตรงไหน ช่วยอธิบายทีครับ อยากรู้จริงๆ
-
ไม่รู้สึกแปลกใจ สำหรับ รถ econobox แบบนี้ จะโฆษณาชวนเชื่อว่าแรง ขนาดไหน อัตราเร่งประมาณนี้ก็ธรรมดาๆประมาณนี้ครับ
ยังไงมันก็ไม่ใช่ Supermini ตัวแรงของจริงจากโรงงาน อย่าง VW Polo GTi (1.8 Turbo 190 ม้า ) หรือ Ford Fiesta ST (1.6 Ecoboost 199 ม้า)
-
แรงบิดมากๆใช่ว่าจะทำ 0-100 ได้ดีเสมอไปนะครับ
-
แรงม้าตากหากครับที่ทำความเร็ว
แรงบิทช่วยการลากจูง
ถ้ามาสด้า2คันนี้บรรทุก5คนขึ้นมา
มันจะได้เปรียบทันที่เมื่อบรรทุกเท่ากัน
อย่าง suppercar แรงม้ากับแรงบิทไม่ต่างกันเลย
-
ไหนจะเรื่องทดเกียร์อีก
ถ้าเอาไว้ใช้ตอนต้นๆหมด ปลายก็มีหงอยได้นะครับ
-
เป็นการสื่อสารไปคนละทางที่ทางมาสด้าบริษัทแม่จะเน้นอย่างนึงแต่มาสด้าประเทศไทยเน้นอีกอย่างนึง :P การโฆษณาบ้านเรามันน่าเบื่อตรงนี้ที่ชอบออกตัวแรงเสมอๆซึ่งคราวนี้ดันออกตัวว่ามีแรงบิดเท่าเครื่อง2500cc ใช้ประโยคนี้ออกมาเป็นตัวชูหลักคนก็ต้องเข้าใจว่ามันต้องแรงแน่ๆเลย แต่พอวัดอัตราเร่งออกมาแล้วมันดันไม่ได้แรงอย่างที่คำโฆษณาว่าไว้มันก็บรรลัยสิ :P เหมือนที่ฟอร์ดจะข่มมาสด้าว่า"ดีเซลไม่ใช่คำตอบ"อ้าวไอ้เวรรรฟอร์ดขายเรนเจอร์ดีเซลเป็นหลักใช่ไหม? โฟกัสดีเซลคือรถที่เคยทำชื่อให้เอ็งรุ่นนึงใช่มั๊ย? คนคิดแคมเปญโฆษณากับคนวางแผนการตลาดเปิดตัวไลน์รถมันไม่ได้คุยกันใช่ม๊ายยยย? ในอนาคตถ้าจะกลับลำเอาโฟกัสดีเซลมาขายอีกหรือจะกล้าฉีกแนวเอาอีโคสปอร์ตหรือเฟียสต้าดีเซลมาขายเอ็งจะทำยังไงกับคำพูดนี้? :P
ผมก็สงสัยมาสด้าเหมือนกันว่าทำไมมาสด้าถึงทำรถที่ด้านความแรงยังคงไม่ประทับใจเช่นนี้? ทั้งที่ในเครื่องยนต์ดีเซลในระดับวิศวกรมันไม่น่าจะยากเย็นอะไรเลยทีจะทำให้แรงม้าแรงบิดอัตราเร่งมันออกมาได้ดีกว่านี้ จะบอกว่าเน้นแต่การประหยัดน้ำมันไม่สนใจความแรงก็คงไม่ได้แล้วเพราะรีวิวรถทั่วทุกมุมโลกต้องมีการวัด0-100และควอเตอร์ไมล์มาประกอบเสมอๆ ยังมีMX5อีกรุ่นที่ยังโดนครหาเรื่องพลกำลังที่น้อยไปในรถยุคนี้อยู่ จะบอกว่าทำรถแรงไม่ได้ก็ไม่ใช่เพราะในCX5เบนซินก็ทำอัตราเร่งออกมาได้โหดร้ายทารุณกันเห็นๆ :-X
-
เป็นการสื่อสารไปคนละทางที่ทางมาสด้าบริษัทแม่จะเน้นอย่างนึงแต่มาสด้าประเทศไทยเน้นอีกอย่างนึง :P การโฆษณาบ้านเรามันน่าเบื่อตรงนี้ที่ชอบออกตัวแรงเสมอๆซึ่งคราวนี้ดันออกตัวว่ามีแรงบิดเท่าเครื่อง2500cc ใช้ประโยคนี้ออกมาเป็นตัวชูหลักคนก็ต้องเข้าใจว่ามันต้องแรงแน่ๆเลย แต่พอวัดอัตราเร่งออกมาแล้วมันดันไม่ได้แรงอย่างที่คำโฆษณาว่าไว้มันก็บรรลัยสิ :P เหมือนที่ฟอร์ดจะข่มมาสด้าว่า"ดีเซลไม่ใช่คำตอบ"อ้าวไอ้เวรรรฟอร์ดขายเรนเจอร์ดีเซลเป็นหลักใช่ไหม? โฟกัสดีเซลคือรถที่เคยทำชื่อให้เอ็งรุ่นนึงใช่มั๊ย? คนคิดแคมเปญโฆษณากับคนวางแผนการตลาดเปิดตัวไลน์รถมันไม่ได้คุยกันใช่ม๊ายยยย? ในอนาคตถ้าจะกลับลำเอาโฟกัสดีเซลมาขายอีกหรือจะกล้าฉีกแนวเอาอีโคสปอร์ตหรือเฟียสต้าดีเซลมาขายเอ็งจะทำยังไงกับคำพูดนี้? :P
ผมก็สงสัยมาสด้าเหมือนกันว่าทำไมมาสด้าถึงทำรถที่ด้านความแรงยังคงไม่ประทับใจเช่นนี้? ทั้งที่ในเครื่องยนต์ดีเซลในระดับวิศวกรมันไม่น่าจะยากเย็นอะไรเลยทีจะทำให้แรงม้าแรงบิดอัตราเร่งมันออกมาได้ดีกว่านี้ จะบอกว่าเน้นแต่การประหยัดน้ำมันไม่สนใจความแรงก็คงไม่ได้แล้วเพราะรีวิวรถทั่วทุกมุมโลกต้องมีการวัด0-100และควอเตอร์ไมล์มาประกอบเสมอๆ ยังมีMX5อีกรุ่นที่ยังโดนครหาเรื่องพลกำลังที่น้อยไปในรถยุคนี้อยู่ จะบอกว่าทำรถแรงไม่ได้ก็ไม่ใช่เพราะในCX5เบนซินก็ทำอัตราเร่งออกมาได้โหดร้ายทารุณกันเห็นๆ :-X
ลองไปขับ 2 ใหม่ดูครับ แรงดึงของมันทำให้ผมคนนึงยอมจ่ายเงินซื้อมาครอบครองแล้วครับ
-
ท่านจะเห็นความแตกต่าง ตอนขึ้นเนิน ขึ้นเขา อย่างชัดเจน สำหรับที่มีแรงบิดสูงๆ จะชิลๆ รถที่มีแรงม้าสูง แต่แรงบิดไม่เยอะ (พวกเบนชิน) ต้องเพิ่มคันเร่งมากขึ้น เหนื่อยกว่าแน่ ๆ
-
แรงม้าตากหากครับที่ทำความเร็ว
แรงบิทช่วยการลากจูง
ถ้ามาสด้า2คันนี้บรรทุก5คนขึ้นมา
มันจะได้เปรียบทันที่เมื่อบรรทุกเท่ากัน
อย่าง suppercar แรงม้ากับแรงบิทไม่ต่างกันเลย
ขอบคุณครับขออนุญาติถามเพิ่ม
แล้วแรงดึงล่ะครับมันคือแรงบิดเยอะยิ่งหลังติดเบาะไม่ใช่หรอครับ
แปลว่าถึงจะหลังติดเบาะก็แปลว่าไม่ได้เร็วเหรอครับ jazz146นิวตันคงไม่ดึงมากแต่เร็วเท่ากัน11วิ
ต้องขออภัยด้วย ผมความรู้น้อย
-
เป็นการสื่อสารไปคนละทางที่ทางมาสด้าบริษัทแม่จะเน้นอย่างนึงแต่มาสด้าประเทศไทยเน้นอีกอย่างนึง :P การโฆษณาบ้านเรามันน่าเบื่อตรงนี้ที่ชอบออกตัวแรงเสมอๆซึ่งคราวนี้ดันออกตัวว่ามีแรงบิดเท่าเครื่อง2500cc ใช้ประโยคนี้ออกมาเป็นตัวชูหลักคนก็ต้องเข้าใจว่ามันต้องแรงแน่ๆเลย แต่พอวัดอัตราเร่งออกมาแล้วมันดันไม่ได้แรงอย่างที่คำโฆษณาว่าไว้มันก็บรรลัยสิ :P เหมือนที่ฟอร์ดจะข่มมาสด้าว่า"ดีเซลไม่ใช่คำตอบ"อ้าวไอ้เวรรรฟอร์ดขายเรนเจอร์ดีเซลเป็นหลักใช่ไหม? โฟกัสดีเซลคือรถที่เคยทำชื่อให้เอ็งรุ่นนึงใช่มั๊ย? คนคิดแคมเปญโฆษณากับคนวางแผนการตลาดเปิดตัวไลน์รถมันไม่ได้คุยกันใช่ม๊ายยยย? ในอนาคตถ้าจะกลับลำเอาโฟกัสดีเซลมาขายอีกหรือจะกล้าฉีกแนวเอาอีโคสปอร์ตหรือเฟียสต้าดีเซลมาขายเอ็งจะทำยังไงกับคำพูดนี้? :P
ผมก็สงสัยมาสด้าเหมือนกันว่าทำไมมาสด้าถึงทำรถที่ด้านความแรงยังคงไม่ประทับใจเช่นนี้? ทั้งที่ในเครื่องยนต์ดีเซลในระดับวิศวกรมันไม่น่าจะยากเย็นอะไรเลยทีจะทำให้แรงม้าแรงบิดอัตราเร่งมันออกมาได้ดีกว่านี้ จะบอกว่าเน้นแต่การประหยัดน้ำมันไม่สนใจความแรงก็คงไม่ได้แล้วเพราะรีวิวรถทั่วทุกมุมโลกต้องมีการวัด0-100และควอเตอร์ไมล์มาประกอบเสมอๆ ยังมีMX5อีกรุ่นที่ยังโดนครหาเรื่องพลกำลังที่น้อยไปในรถยุคนี้อยู่ จะบอกว่าทำรถแรงไม่ได้ก็ไม่ใช่เพราะในCX5เบนซินก็ทำอัตราเร่งออกมาได้โหดร้ายทารุณกันเห็นๆ :-X
ลองไปขับ 2 ใหม่ดูครับ แรงดึงของมันทำให้ผมคนนึงยอมจ่ายเงินซื้อมาครอบครองแล้วครับ
ก็ลองดูแล้วแรงเครื่องก็งั้นๆจริง ทั้งๆที่มาสด้าโฆษณาเครื่องเป็นจุดขายแท้ๆ ที่น่าทึ่งมีแค่ดีเซลที่ทำรอบได้มากถึง 5500 รอบเท่านั้น แต่มันก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดีเพราะไม่ใช่ช่วง power band
สิ่งที่ดีที่สุดของมาสด้า 2 ผมมองว่าคือช่วงล่างเดิมๆที่ซับแรงสะเทือนได้ดีมากและเกาะถนนดีพอสมควรกับหน้ายางเพียงแค่ 185 แต่กลับไม่มีการโฆษณาออกมา
-
แรงบิดมันมาที่ 1500-2500 เองคับติดเบาะแปปๆเองก้อหมดแล้ว
-
mazda มาอีกกระทู้แล้ว หวังว่าจะไม่มีมาม่า
อยากตอบท่าน จขกท. ว่า ถ้าดูจากการจับเวลา ดูจากกระดาษ มันไม่ได้เร็วกว่าคู่แข่งครับ
แต่ถ้าได้ขับ จะรู้สึกว่าแรง ขับสนุก ดึงกันมันส์เลย
เหมือนพวกกระบะดีเซลตัวใหม่ๆทั้งหลาย เวลาเราขับจะรู้สึกคึกคักมาก สนุกมากๆ ทั้งๆที่จับเวลามา ก็ไม่ได้ต่างกับเก๋ง 2.0 เท่าไร
เพราะในความเป็นจริง เราไม่มีใครขับรถกดสุดคันเร่งกันตลอดหรอกครับ ดังนั้นรถที่แรงบิดดีๆ มันจะรู้สึกดีกว่า อารมณ์ว่าเห้ย กดแค่ครึ่งคันเร่งเอง ดึงยังกับ Kickdown
ของแบบนี้ต้องไปลองครับ อย่านั่งดูแต่ตัวเลขแล้วคิดไปเอง
-
แค่นี้ก็หรูแล้ว ลองเทียบกับคู่แข่งที่ทำดีเซลด้วยกันอย่างvolk เทียบที่พิกัดsegmentเดียวกัน
volk polo mk5 1.6 TDI ดีเซลตัวปัจจุบัน 0-100 ก็ประมาณ10-11วิ
เครื่องดีเซลจะให้แรงขนาดไหนกันครับ อยากแรงไปเบนซินดีกว่านะ
-
เค้าบอกแรง ไม่ได้บอกเร็ว
555
-
เอาง่ายๆ นะครับ ลองเทียบใน Mazda ด้วยกันเองก็แล้วกัน CX-5 ตัว 2.5 เบนซินมี 256 Nm กับ 2.2 D ที่มี 420 Nm อัตราเร่งเป็นยังไงก็เห็นๆ กันอยู่ ต่อให้ไม่มีระบบ AWD มาเอี่ยวก็ไม่น่าจะทันตัว 2.5 ได้
ถ้าเอาแบบง่ายๆ ก็เป็นแบบที่หลายๆคนข้างบนพูดนะครับ แรงม้า รอบที่ลากได้ (ซึ่งพันไปถึงอัตราทดเกียร์ด้วย) แบนวิดธ์ของเครื่อง ถ้าเครืองดีเซลลากรอบได้พอกับเบนซิน แล้วมีแรงบิดมากกว่า อันนั้นกินเบนซินแน่ๆ แต่ในโลกความจริง มันไม่ใช่ไงครับ (ปล. อย่าลืมว่า แรงม้า = แรงบิด x รอบเครื่อง นะครับ)
ส่วนลึกๆ นั้น ถ้าสงสัยว่าทำไมเครื่องดีเซลถึงมีข้อจำกัดตรงนั้น ก็ต้องเข้าใจเรื่องการ combustion ลักษณะการจุดระเบิด การลามของเปลวไฟ ลักษณะแรงดันที่เกิดขี้นในกระบอกสูบ ฯลฯ
ส่วนขับแล้วอันไหน น่าใช้กว่ากัน ก็แล้วแต่คนนั่นแหละครับ อย่างผมลอง CX-5 ทั้งเบนซินและดีเซลมา ยังไงก็ยังชอบเบนซินมากกว่า เพราะเหมาะกับลักษณะการใช้งานของผมากกว่า แต่แน่นอน ดีเซลประหยัดกว่าค่อนข้างเยอะนะครับเมือเทียบระยะทางต่อปริมาณน้ำมันที่ใช้ไปนะ
-
ทำไมช่วงนี้มีกระทู้เกี่ยวกับมาสด้า 2 เยอะจัง...
หวังว่ากระทู้นี้จะไม่ดราม่าเหมือนกระทู้ก่อน ๆ นะครับ
ผมว่าโมษณามาสด้า น่าจะเน้นเรื่องของเครื่องยนต์ดีเซล และการประหยัดน้ำมันมากกว่าความแรงนะครับ
ปล. ตอบไม่ตรงประเด็น ขออภัยด้วยครับ
-
แรงบิดเท่าเครื่อง 2.5 แต่มันมาที่รอบต่ำครับ และค่อยๆหายไปเมื่อรอบสูงขึ้น หมายความว่าตอนออกตัวจะพุ่งกว่าตอนเร่งความเร็วครับ แรงม้ามีความสำคัญต่อการเร่งความเร็วในช่วงรอบสูง ซึ่ง Mazda 2 มี 105 แรงม้า ยังน้อยกว่า 120 แรงม้าของ Jazz หรือ 125 แรงม้าของ Ecoboost ครับ แต่ดีเซลได้เปรียบเรื่องการบรรทุกและการปีน เคยมีคนเปรียบเทียบไว้ว่า
เครื่องเบนซิน คือนักวิ่ง วิ่งได้ดี แต่พอแบกน้ำหนักหรือปีนเขาแล้วแผ่วเลย
เครื่องดีเซล คือนักยกน้ำหนัก+นักปีนเขา เก่งด้านการยกและการไต่ แต่วิ่งสู้นักวิ่งไม่ได้
-
"แรงบิด250นิวตันเทียบเท่าเครื่องยนต์2,500cc" นี่คือคำโฆษณาของmazda
ตอนนี้เห็นมีคนมารีวิว0-100 ได้11วินาทีซึ่งพอกันกับ jazz เลยซึ่งมีแรงบิดเพียง146นิวตัน/4,700รอบ
ก็เลยสงสัยครับว่าทำไม น่าผิดหวังจัง หรือผมเข้าใจอะไรผิดตรงไหน ช่วยอธิบายทีครับ อยากรู้จริงๆ
แรงบิดอาจจะเท่าเครื่อง 2.5 ลิตรจริงๆ ครับ ใช้แค่แว๊บเดียวก็หมดแล้ว power band ไม่ได้กว้างขนาดนั้นนิ๊ครับ แล้วระยะเวลาตั้ง 11 วินาที แรงกว่าแจ๊สซักวินาทีที่ 1-3 หรือ 1-5 เท่านี้ นอกนั้นแจ๊สกินไงครับ
ถ้าไม่อยากผิดหวัง ก็จับเวลาแข่งกันเฉพาะช่วงที่มาสด้า 2 แรงดีที่สุดครับ ชนะแน่นอน ^^
-
มันไม่เร็วหรอกครับ เครื่องดีเซลรอบไม่ได้สูง
แต่มันแรง จะเห็นผลตอนเร่งแซง ตอนนั่งกันเต็มรถ ตอนขึ้นเนิน ขึ้นสะพาน
เหมือนคำที่รถบรรทุกพูดกัน หนักเบาวิ่งได้เท่ากัน
จุดเด่นจริงๆมันน่าจะอยู่ที่ความประหยัด และความสบายในการเร่งแซง มากกว่า
-
ลองนั่ง4คนแล้วแข่งกันสิครับ ทิ้งแจซไม่เห็นฝุ่นแน่ๆ หลักการก็คล้ายรถกระบะดีเซลเครื่องโตม้าเยอะแต่วิ่งจริงๆก็ไม่ได้เร็วกว่ารถเก๋งมากมาย เวลารถเปล่าแรงบิดต่างกันอาจไม่เห็นผลมากนักแต่ในความจริงดีเซลยุคปัจจุบันจะให้เความรู้สึกดีกว่าเพราะกดไม่เกินครึ่งคันเร่งก็ไปแล้วแต่เบนซินต้องเรียกรอบอย่างเดียว
-
คือผมขับทั้งเบนซินและดีเซล
พอจะสรุปได้ว่า กรณีมาสด้า2ดีเซลนั้น
แรงบิดมันเท่า2500จริงๆ แต่มันแค่แวบเดียวครับ
เครื่อง2500 เบนซิน แรงบิดมันได้ยาวนะ 3000-7000รอบนี่ได้แน่ๆ ไม่่รวมการแต่งเพิ่ม
แต่ดีเซลรอบมันไม่ได้กว้างขนาดนั้น
-
ยืนยันอีกคนครับ
ว่าเรื่องอัตราเร่ง ให้ดูที่แรงม้า
ส่วนการลากจูงและขึ้นทางชัน ให้ดูที่แรงบิด
ซึ่ง mazda 2 มันมี 105 แรงม้า อัคราเร่งจึงเป็นอย่างที่เห็น
-
มันจะไปแสดงผลตอนที่ขับสัก 100 110 ที่รอบ 1800-1900(มั้งครับ)
ผลคือ ประหยัดขรี้แตรกเลย ไงครับ
-
ที่หลังเวลาจะสื่อสารกับผู้บริโภค ก้ใช้คำที่มันเข้าใจได้เลย
ไอ้ที่บอกนั่งสี่แล้วมาลองอัดกัน อยากถามหน่อยว่า ห้องโดยสารเล็ก แคบแบบนี้
ยังอยากจะนั่งกันสี่คนเหรอครับ จริงๆ แรงบิดเป็นผลพลอยได้ คือไม่เค้นเครื่องเมื่อรถลอยตัว
เรื่องประหยัดน้ำมันต่างหาก ที่ควรจะโฆษณา หรือบอกกล่าว อย่างจริงจัง
-
ทุกสถาบันรีวิวพูดตรงกันครับ ประหยัดและขับสนุก เลยได้ JCTY ไปครองไง
ส่วนแข่ง 0-100 แค่อยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยก็เจ๋งแล้วครับ ที่เหลือคนขับใช้ฝีมือบู๊เอาเอง
ช่วงล่าง พวงมาลัยก็ให้มาดีแล้ว ปั้นต่ออีกหน่อยทิ้งรถตลาดที่ไม่ได้เน้นด้านการขับขี่ไม่เห็นฝุ่นครับ
แต่ถ้าคนที่ขับรถตลาดฝีมือดีกว่า เค้นสมรรถนะตัวรถได้ดีกว่า ก็ไปดูถูกไม่ได้เลยครับ หลักๆ อยู่ที่ฝีมือนะ
-
เรื่องคำโฆษณาต้องใช้วิจารณญาณครับ ;D เค้าต้องการเรียกร้องให้เราสนใจเท่านั้น
ส่วน fact อาจจะไม่ 100% หรือขยายความไม่หมด กำลังดีเซลขนาดเท่านี้ก็ได้ประมาณเท่านี้แหล่ะครับ
ที่สำคัญคือเน้นประหยัดด้วยอะไรด้วย
-
(โดนเตือนไปกระทู้ที่แล้ว ไม่ได้จะมามาม่าต่อนะ)
แค่สงสัยว่า รถที่ทำมากะให้นั่งแค่เบาะคู่หน้า พอถามหาจุดเด่นเรื่องเครื่องยนต์ดันต้องนั่งเต็มคันรถแล้วมาแข่งกันซะงั้น ย้อนแย้งกันดี
บอกตรงๆไม่แปลกใจหรอกว่ามันจะขับสนุกที่สุดในรุ่น แต่ผิดหวังกับอัตราเร่งมันเหมือนกัน ดูจะ overrated ไป(ไม่)หน่อย
ส่วนเรื่องประหยัดนี่มันควรจะต้องประหยัดนะ ไม่งั้นไม่รู้จะยัดเครื่องดีเซลมาแล้วตัดออพชั่นทิ้งทำไมให้คนด่าเล่น
แต่รอรีวิว HLM ดีกว่า คนละคนขับก็ต่างกันอยู่แล้ว
-
คงต้องนั่งสี่คน ท้ายใส่ข้าวกระสอบนึง แล้ววิ่งขึ้นดอยอินทนนแข่งกันดูครับ อาจจะเห็นผล
ผมว่าหลักๆ เขาขายเครื่องประหยัดน้ำมัน ในราคาน้ำมันที่ประหยัด โดยไม่ต้องดัดแปลงนะ
ไม่งั้นก็เรื่องอัตราเร่งแซงสิบล้อพ่วง ตามโฆษณา
-
ที่วิ่งได้แค่นั้นเพราะเกียรATคับ
ถ้าเป็นเกียรMT แล้วออกตัวกระชากคลัสที่4000รอบทุกเกียร
แบบไม่กลัวเกียรแตก แบบรถกระบะทำกันเวลาได้ต่ำ10วิแน่นอน
-
รถเล็กเครื่องเบนซินเวลาเดินทางไกลมันอึดอัดกว่ารถใหญ่ ส่วนหนึ่งเพราะแรงบิดน้อยด้วยครับ
มันอธิบายไม่ถูก ทั้งๆที่จับเวลา 0-100 มันก็ไม่อืดนะ สำหรับผมๆคิดว่า 2 ดีเซลน่าจะใช้งานได้ดีและสนุกทั้งในและนอกเมืองครับ
อันนี้มโนเอาเพราะยังไม่ได้ลองครับ
-
;D ;D แวะมาอ่านความเห็น ;D ;D
ส่วนความเห็นของผม
มาสด้าไม่ได้แรงขนาดว้าว อู้ฮู้ กว่าอีโคบูส
ขับสนุกไหม ผมว่าสนุกนะ แต่ยังไม่น่าว้าวขนาดเหนือกว่าคันอื่นเป็นทุ่ง
มันอยู่ในเกรณเดียวกันในกลุ่มของมันนั่นแหละครับ
อยู่ในระดับ บีเซกเม้น แต่ใครจะไปคุยว่าอะไรก็แล้วแต่
แต่ ความจริงมันก็ดีในกลุ่มบีเซกเม้นเท่านั้นจริงๆ
อย่าคาดหวังเยอะ
-
เก๋ง 1500cc 0-100 ได้10วิปลายๆ-11วิต้น แถมประหยัดได้ 20+km/l(เท่าที่ดูในคลับกะเว็ปต้องห้าม) ผมว่ามันก็โอแล้วนะครับ...
-
ลองแล้ว ขับสนุก
-
ผมว่ามันก็ทำได้ดีเพียงพอแล้วนะครับ สำหรับ "B SEGMENT"
-
เป็นการสื่อสารไปคนละทางที่ทางมาสด้าบริษัทแม่จะเน้นอย่างนึงแต่มาสด้าประเทศไทยเน้นอีกอย่างนึง :P การโฆษณาบ้านเรามันน่าเบื่อตรงนี้ที่ชอบออกตัวแรงเสมอๆซึ่งคราวนี้ดันออกตัวว่ามีแรงบิดเท่าเครื่อง2500cc ใช้ประโยคนี้ออกมาเป็นตัวชูหลักคนก็ต้องเข้าใจว่ามันต้องแรงแน่ๆเลย แต่พอวัดอัตราเร่งออกมาแล้วมันดันไม่ได้แรงอย่างที่คำโฆษณาว่าไว้มันก็บรรลัยสิ :P เหมือนที่ฟอร์ดจะข่มมาสด้าว่า"ดีเซลไม่ใช่คำตอบ"อ้าวไอ้เวรรรฟอร์ดขายเรนเจอร์ดีเซลเป็นหลักใช่ไหม? โฟกัสดีเซลคือรถที่เคยทำชื่อให้เอ็งรุ่นนึงใช่มั๊ย? คนคิดแคมเปญโฆษณากับคนวางแผนการตลาดเปิดตัวไลน์รถมันไม่ได้คุยกันใช่ม๊ายยยย? ในอนาคตถ้าจะกลับลำเอาโฟกัสดีเซลมาขายอีกหรือจะกล้าฉีกแนวเอาอีโคสปอร์ตหรือเฟียสต้าดีเซลมาขายเอ็งจะทำยังไงกับคำพูดนี้? :P
ผมก็สงสัยมาสด้าเหมือนกันว่าทำไมมาสด้าถึงทำรถที่ด้านความแรงยังคงไม่ประทับใจเช่นนี้? ทั้งที่ในเครื่องยนต์ดีเซลในระดับวิศวกรมันไม่น่าจะยากเย็นอะไรเลยทีจะทำให้แรงม้าแรงบิดอัตราเร่งมันออกมาได้ดีกว่านี้ จะบอกว่าเน้นแต่การประหยัดน้ำมันไม่สนใจความแรงก็คงไม่ได้แล้วเพราะรีวิวรถทั่วทุกมุมโลกต้องมีการวัด0-100และควอเตอร์ไมล์มาประกอบเสมอๆ ยังมีMX5อีกรุ่นที่ยังโดนครหาเรื่องพลกำลังที่น้อยไปในรถยุคนี้อยู่ จะบอกว่าทำรถแรงไม่ได้ก็ไม่ใช่เพราะในCX5เบนซินก็ทำอัตราเร่งออกมาได้โหดร้ายทารุณกันเห็นๆ :-X
บางเรื่อง คนไทยก็ลืมง่าย หรือไม่เคยจำก็มีนะครับ ถ้าไม่ได้สนใจจริงๆ
ถึงเวลาเลือกรถ ก็เลือกเอาหน้างาน...
ถ้าฟอร์ดจะเอาดีเซลเข้ามา ถึงตอนนั้น คนส่วนใหญ่คงลืมๆหมดล่ะ
-
ด้วยข้อจำกัดด้านการปล่อยมลพิษ รวมถึงเรื่องประหยัดน้ำมัน ซึ่งในคลับหลายๆ คนใช้กันมา ถังนึงแตะ 800 กิโลแบบสบายๆ กันเลย มันก็เลยมาแค่นี้ เน้นขับง่าย สนุกๆ มากกว่า
แต่ถ้าเอาไปทำต่อ ผมว่าไปไกลแน่ๆ เพราะไม่ต้องกลัวเร่องมลพิษจะเกิน หรือ จะเปลืองน้ำมันอีกต่อไป
เดี๋ยวน่ะครับ ตอนราคาผมจำได้ว่าเทียบกับ eco car แต่ตอนแรงจะเทียบ B-segment แหนะ
-
พอเข้าใจแล้วครับ คงเหมือนที่320i เร็วกว่า320d และc250cgiเร็วกว่าc250cdi
-
เอาง่ายๆว่า เครื่องดีเซล แรงบิดเยอะ มาไว แต่ก็หมดไว
ดังนั้น ถ้าปรกติขับรถเบนซินมาตลอด อาจจะไม่ชิน เพราะ ตอนออกตัวจะหน่วงนิดๆหลังจาก turbo ทำงานก็ดึง ถ้าลากต่อแรงเริ่มหาย มันจะไม่เหมือนเบนซินที่ยิ่งลากรอบยิ่งแรง
แต่ในทางกลับกัน เครื่องดีเซลturbo จะดีในแง่การขับขี่ที่เรารักษารอบในช่วงแรงบิดสูง ประมาณ 2พันถึง3พันรอบ ความเร็วจะขึ้นต่อเนื่อง และ ดึงให้รู้สึกได้ ดังนั้น ถ้าเป็นคนชอบลากรอบ ดีเซลไม่เหมาะแน่ ครับ หรือจะเอามาวัดอัตราเร่งแบบกดเต็มๆผมว่าก็ไม่ได้ดีกว่าเบนซินturbo หรือ เบนซินnaเครื่องใหญ่กว่า แน่ๆ
-
;D ;D แวะมาอ่านความเห็น ;D ;D
ส่วนความเห็นของผม
มาสด้าไม่ได้แรงขนาดว้าว อู้ฮู้ กว่าอีโคบูส
ขับสนุกไหม ผมว่าสนุกนะ แต่ยังไม่น่าว้าวขนาดเหนือกว่าคันอื่นเป็นทุ่ง
มันอยู่ในเกรณเดียวกันในกลุ่มของมันนั่นแหละครับ
อยู่ในระดับ บีเซกเม้น แต่ใครจะไปคุยว่าอะไรก็แล้วแต่
แต่ ความจริงมันก็ดีในกลุ่มบีเซกเม้นเท่านั้นจริงๆ
อย่าคาดหวังเยอะ
B segment อะไรกันผมเห็นคนในนี้ยังบอกว่า Mazda 2 เป็นรถอิโคคาร์กันอยู่เลย ;D :D :o
-
เอาง่ายๆว่า เครื่องดีเซล แรงบิดเยอะ มาไว แต่ก็หมดไว
ดังนั้น ถ้าปรกติขับรถเบนซินมาตลอด อาจจะไม่ชิน เพราะ ตอนออกตัวจะหน่วงนิดๆหลังจาก turbo ทำงานก็ดึง ถ้าลากต่อแรงเริ่มหาย มันจะไม่เหมือนเบนซินที่ยิ่งลากรอบยิ่งแรง
แต่ในทางกลับกัน เครื่องดีเซลturbo จะดีในแง่การขับขี่ที่เรารักษารอบในช่วงแรงบิดสูง ประมาณ 2พันถึง3พันรอบ ความเร็วจะขึ้นต่อเนื่อง และ ดึงให้รู้สึกได้ ดังนั้น ถ้าเป็นคนชอบลากรอบ ดีเซลไม่เหมาะแน่ ครับ หรือจะเอามาวัดอัตราเร่งแบบกดเต็มๆผมว่าก็ไม่ได้ดีกว่าเบนซินturbo หรือ เบนซินnaเครื่องใหญ่กว่า แน่ๆ
ตามนั้นเลยครับ
-
สรุปจากหลายๆความเห็น น่าจะเหมือนกระบะแข่งกับเก๋งตอนออกไฟแดง
เร่ง 0-50 น่าจะแรงดี แต่ 50-100 ก็คงแพ้เบนซิน
ก็ดูน่าจะขับในเมืองสนุกกว่า B-Seg เบนซินทั่วไปนะครับ
-
แรงบิดมีไว้ลาดจูงครับ แรงม้ามีไว้เพิ่มความเร็ว
ดังนั้นถ้าอยากให้ 0-100 ดีขึ้นก็ไปทดเฟืองท้ายลง เอาแรงบิดลงแรงม้ามากขึ้นแค่นั้นแหละ
แต่ก็ไม่ใช่ว่าแรงบิดมันสูญเปล่า เพราะปริมาณแรงบิดขนาดนี้ ตอบเหยียบออกไปผมว่ามีเสียวท้องน้อยกันบ้างละ
-
สรุปยังไงผมคงไม่ซื้อเครื่องดีเซลไปตลอดกาล เพราะมันไม่เข้ากับผมเลยจริงๆ มีดีแค่แรงบิด ซึ่งใช้เวลาบรรทุก เสียงเครื่องก็ดัง ซึ่งผมจะชอบเงียบๆ มักจะขับคนเดียว แต่เร็วๆไหลลื่น สรุปเราคงจะต้องแยกทางกับเครื่องดีเซล ตลอดกาล
ขอบคุณความเห็นในนี้ สำหรับผมกระจ่างเลย
-
ทำไมช่วงนี้มีกระทู้เกี่ยวกับมาสด้า 2 เยอะจัง...
หวังว่ากระทู้นี้จะไม่ดราม่าเหมือนกระทู้ก่อน ๆ นะครับ
ผมว่าโมษณามาสด้า น่าจะเน้นเรื่องของเครื่องยนต์ดีเซล และการประหยัดน้ำมันมากกว่าความแรงนะครับ
ปล. ตอบไม่ตรงประเด็น ขออภัยด้วยครับ
นั่นสิครับ ไอ้ผมก็คิดว่าเค้าจะเอาเรื่องประหยัดมาข่มคู่แข่ง 26 โลลิตรนี่ใครทำได้มั่งละ แล้วเอาราคาน้ำมันปัจจุบันมาโชว์อีก แล้วยังเรื่องการปล่อยไอเสียที่น้อยกว่าเอาใจพวกรักษ์โลก แรงบิดที่ดีเซลได้เปรียบก็โชว์นั่งเต็มอัตราพร้อมข้าวของเพียบขับขึ้นดอยแบบสบายๆ ช่วงล่างสกายแอคทีฟเด่นตรงไหนเหนือกว่าทั่วไปอย่างไร แล้วเอาผู้ใช้งานจริงมาคุยว่าถังเดียวขับไป 800 กว่าโลเงี้ย
ไปเน้นอะไรก็ม่ายรุเรื่องแรงราคาขนาดนั้นเน้นแค่เรื่องแรงเค้าเอา C-segment แล้ว เห็นแล้วรู้สึกขัดใจพอๆกับนาว่าร่ากระโจนพุ่งออกมาจากน้ำตก
-
ถ้าลองจับเวลา Diesel ไม่ใช่คำตอบจริงๆนั่นแหละ
ecoboost ไวกว่าแน่นอน
-
เค้าบอกแรง ไม่ได้บอกเร็ว
555
5555 +1 คนชอบจำสับสนระหว่างแรงกะเร็ว ;D ;D
-
;D ตอนจับเวลาทำอัตราเร่งสูงสุด ต้องสนที่แรงม้าเป็นหลักครับ
เพราะยังไงก็ต้องไปผ่านอัตราทดเกียร์ เฟืองท้าย และล้อ
รถที่มีแรงม้าสูงกว่า มีแนวโน้มว่า
ได้แรงบิดมาใช้ที่ล้อ @ ความเร็วเดียวกันสูงกว่า
โดยเฉพาะรถที่เป็น CVT สามารถวิ่งคาที่รอบ แรงม้าสูงสุด
โดยค่อยๆลดอัตราทดเกียร์ลง
แรงม้า = ค่าคงที่xแรงบิดxรอบเครื่อง
เมื่อวิ่งที่รอบแรงม้าสูงสุดตลอด โดยค่อยๆลดอัตราทด
หมายความว่า @ ความเร็วค่าใดๆ
จะสามารถทำแรงบิดได้มากสุด เท่าที่เครื่องนั้นมีโอกาสทำได้แล้ว
แต่รถที่ล็อคอัตราทดเกียร์เป็นจังหวะ
รอบเครื่องจะกวาดขึ้นลง ไม่ได้ใช้จุดที่มีแรงมาสูงสุดตลอด
---------------------------
แรงบิดสูงๆ ที่มีอยู่ในรถดีเซลอยู่ในรอบต่ำครับ
เวลากดทำอัตราเร่งเราใช้แต่รอบปลาย
แรงบิดสูงๆตรงนี้เลยไม่ค่อยมีผล เพราะแรงบิดสูงๆที่ว่านี้
อยู่ตำกว่ารอบเครื่องที่ใช้ในการทำอัตราเร่งเวลากดมิด
แต่แรงบิดตรงนี้มีผลต่อความยืดหยุ่นในการขับขี่
ในชีวิตประจำวัน ที่เราใช้งานในรอบต่ำๆ
จะเห็นได้ชัดตอนขับขึ้นเนินชัน หรือตอนที่นั่งกันหลายๆคน
คันที่มีแรงบิดสูงๆ ตรงรอบต่ำที่เราใช้งานนั้น
มีโอกาสที่จะรู้สึกคล่องตัวกว่า
>> รถบางคันกดเต็มลากรอบกันสุดๆแล้วตัวเลขดีกว่า
แต่บางคันตัวเลขเวลาลากกันสุดๆออกมาไม่หรูเท่าไหร่
แต่ขับทั่วไปในชีวิตประจำวันคล่องตัวกว่ามากก็เป็นได้ครับ
-----------------------------------
ลองเอากราฟ แรงบิด และอัตราทดเกียร์ของ mazda 2
มาวาดดูแรงบิดที่ล้อ กับ ความเร็วเวลากดเต็ม แบบคร่าวๆนะครับ
และวาดแค่ 5 เกียร์แรก
จะเห็นได้ชัดเลยครับว่าพอพ้นเกียร์ 1 ไปแล้ว
รอบไม่ได้กวาดผ่านรอบเครื่องตรงที่แรงบิดสูงสุดอีกเลย
และในเกีียร์เดียวกัน ไม่ใช่จะยิ่งลากยิ่งดึงแบบรถเบนซินที่มีแรงบิดสูงสุดอยู่ในรอบสูง
รถดีเซลที่มีกราฟแรงบิดแบบในรูป พอเลยรอบแรงบิดสูงสุดไปแล้ว
ความเร็วกวาดเพิ่มขึ้น ด้วยอัตราเร่งที่ลดลงนะครับ
คือลากแล้วไม่ได้รู้สึกดึงขึ้นเรื่อยๆแบบเบนซิน
(http://www.Po-40.com/image10/m2_engine.jpg)
(http://www.Po-40.com/image10/m2_ratio.jpg)
(http://www.Po-40.com/image10/m2_wheel.jpg)
-
;D ตอนจับเวลาทำอัตราเร่งสูงสุด ต้องสนที่แรงม้าเป็นหลักครับ
เพราะยังไงก็ต้องไปผ่านอัตราทดเกียร์ เฟืองท้าย และล้อ
รถที่มีแรงม้าสูงกว่า มีแนวโน้มว่า
ได้แรงบิดมาใช้ที่ล้อ @ ความเร็วเดียวกันสูงกว่า
โดยเฉพาะรถที่เป็น CVT สามารถวิ่งคาที่รอบ แรงม้าสูงสุด
โดยค่อยๆลดอัตราทดเกียร์ลง
แรงม้า = ค่าคงที่xแรงบิดxรอบเครื่อง
เมื่อวิ่งที่รอบแรงม้าสูงสุดตลอด โดยค่อยๆลดอัตราทด
หมายความว่า @ ความเร็วค่าใดๆ
จะสามารถทำแรงบิดได้มากสุด เท่าที่เครื่องนั้นมีโอกาสทำได้แล้ว
แต่รถที่ล็อคอัตราทดเกียร์เป็นจังหวะ
รอบเครื่องจะกวาดขึ้นลง ไม่ได้ใช้จุดที่มีแรงมาสูงสุดตลอด
---------------------------
แรงบิดสูงๆ ที่มีอยู่ในรถดีเซลอยู่ในรอบต่ำครับ
เวลากดทำอัตราเร่งเราใช้แต่รอบปลาย
แรงบิดสูงๆตรงนี้เลยไม่ค่อยมีผล เพราะแรงบิดสูงๆที่ว่านี้
อยู่ตำกว่ารอบเครื่องที่ใช้ในการทำอัตราเร่งเวลากดมิด
แต่แรงบิดตรงนี้มีผลต่อความยืดหยุ่นในการขับขี่
ในชีวิตประจำวัน ที่เราใช้งานในรอบต่ำๆ
จะเห็นได้ชัดตอนขับขึ้นเนินชัน หรือตอนที่นั่งกันหลายๆคน
คันที่มีแรงบิดสูงๆ ตรงรอบต่ำที่เราใช้งานนั้น
มีโอกาสที่จะรู้สึกคล่องตัวกว่า
>> รถบางคันกดเต็มลากรอบกันสุดๆแล้วตัวเลขดีกว่า
แต่บางคันตัวเลขเวลาลากกันสุดๆออกมาไม่หรูเท่าไหร่
แต่ขับทั่วไปในชีวิตประจำวันคล่องตัวกว่ามากก็เป็นได้ครับ
-----------------------------------
ลองเอากราฟ แรงบิด และอัตราทดเกียร์ของ mazda 2
มาวาดดูแรงบิดที่ล้อ กับ ความเร็วเวลากดเต็ม แบบคร่าวๆนะครับ
และวาดแค่ 5 เกียร์แรก
จะเห็นได้ชัดเลยครับว่าพอพ้นเกียร์ 1 ไปแล้ว
รอบไม่ได้กวาดผ่านรอบเครื่องตรงที่แรงบิดสูงสุดอีกเลย
และในเกีียร์เดียวกัน ไม่ใช่จะยิ่งลากยิ่งดึงแบบรถเบนซินที่มีแรงบิดสูงสุดอยู่ในรอบสูง
รถดีเซลที่มีกราฟแรงบิดแบบในรูป พอเลยรอบแรงบิดสูงสุดไปแล้ว
ความเร็วกวาดเพิ่มขึ้น ด้วยอัตราเร่งที่ลดลงนะครับ
คือลากแล้วไม่ได้รู้สึกดึงขึ้นเรื่อยๆแบบเบนซิน
(http://www.Po-40.com/image10/m2_engine.jpg)
(http://www.Po-40.com/image10/m2_ratio.jpg)
(http://www.Po-40.com/image10/m2_wheel.jpg)
ขอบคุณคุณtorqueมากครับ ถ้ายังไงมีอะไรสงสัยอีกขออนุญาติpmไปถามนิดนึงนะครับ
-
;D ;D แวะมาอ่านความเห็น ;D ;D
ส่วนความเห็นของผม
มาสด้าไม่ได้แรงขนาดว้าว อู้ฮู้ กว่าอีโคบูส
ขับสนุกไหม ผมว่าสนุกนะ แต่ยังไม่น่าว้าวขนาดเหนือกว่าคันอื่นเป็นทุ่ง
มันอยู่ในเกรณเดียวกันในกลุ่มของมันนั่นแหละครับ
อยู่ในระดับ บีเซกเม้น แต่ใครจะไปคุยว่าอะไรก็แล้วแต่
แต่ ความจริงมันก็ดีในกลุ่มบีเซกเม้นเท่านั้นจริงๆ
อย่าคาดหวังเยอะ
B segment อะไรกันผมเห็นคนในนี้ยังบอกว่า Mazda 2 เป็นรถอิโคคาร์กันอยู่เลย ;D :D :o
มีการเข้าใจผิดอะไรบ้างอย่าง ผมไปศึกษางาน บริษัทมาสด้ายืนยันเลยว่า ผลิตภัณฑ์ของเขา ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม ECOCAR เพียงแค่ได้สิทธิ์ประโยชน์ ของโครงการ ECO Car จึงทำให้ราคาดึงต่ำลงมาได้ เช่นนี้ (ตัวท็อปสีแดง800,000 ต่ำแล้วหร๋ออออ)
-
;D ;D แวะมาอ่านความเห็น ;D ;D
ส่วนความเห็นของผม
มาสด้าไม่ได้แรงขนาดว้าว อู้ฮู้ กว่าอีโคบูส
ขับสนุกไหม ผมว่าสนุกนะ แต่ยังไม่น่าว้าวขนาดเหนือกว่าคันอื่นเป็นทุ่ง
มันอยู่ในเกรณเดียวกันในกลุ่มของมันนั่นแหละครับ
อยู่ในระดับ บีเซกเม้น แต่ใครจะไปคุยว่าอะไรก็แล้วแต่
แต่ ความจริงมันก็ดีในกลุ่มบีเซกเม้นเท่านั้นจริงๆ
อย่าคาดหวังเยอะ
B segment อะไรกันผมเห็นคนในนี้ยังบอกว่า Mazda 2 เป็นรถอิโคคาร์กันอยู่เลย ;D :D :o
มีการเข้าใจผิดอะไรบ้างอย่าง ผมไปศึกษางาน บริษัทมาสด้ายืนยันเลยว่า ผลิตภัณฑ์ของเขา ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม ECOCAR เพียงแค่ได้สิทธิ์ประโยชน์ ของโครงการ ECO Car จึงทำให้ราคาดึงต่ำลงมาได้ เช่นนี้ (ตัวท็อปสีแดง800,000 ต่ำแล้วหร๋ออออ)
แหม่ แบบนี้ Yaris ก็ไม่ใช่อีโค่คาร์ด้วยสิครับ เพราะ โตไม่เคยประกาศว่าอีโค่ชัดๆ
ที่ญี่ปุ่น จะตัวถังขนาดไหน จะแคมรี่แอคคอร์ด ถ้าประหยัดถึงเกณฑ์ก็จะได้สติ๊กเกอร์ อีโคคาร์แปะ
เพราะคนๆทยยังดูถูกอีโค่คาร์กันเองอยู่รึเปล่า เลยพยายามเลี่ยงๆ คำๆ นี้ คิดแล้วน่าเศร้านะครับเหมือนสังคมที่มองอะไรฉาบฉวย
-
เท่าที่ลอง มาเเป๊บนึง ผมว่ามันก็ดึงดีนะครับ (ช่วงนึง) โดยรวมบวกความประหยัดอีก สำหรับผมถือว่า โอเคเลยครับ
ตัว XD High 7 แสนฝ่า ก็พอเเล้นครับ
-
ลองขับกันดูก่อนครับ สำหรับเครื่องดีเซลในรถเก๋ง ส่วนตัวใช้ focus tdci ด้วยทอร์คที่เยอะมารอที่รอบต่ำ ทำให้ขับสนุกครับกดทีปรู้ดปร้าด ใช้รอบไม่สูงกดได้บ่อยๆติดเท้า กลับกันเครื่องเบนซิน จะเรียกอัตราเร่งทีต้องกดคันเร่งมิดลากรอบ เสียงเครื่องโหยหวล มันรู้สึกทรมานเครื่องอ่ะครับ ขนาดกดบ่อยๆแซงเกือบทุกคันบนถนน อัตราสิ้นเปลืองยังต่ำกว่า masda2 กับ vios คันเก่าที่ใช้อีก อ่อของผม tdci m/t นะ
-
ผมล่ะหน่ายกับการสื่อสารผ่านทางสปอตโฆษณาตอนช่วงเปิดตัวทางวิทยุจริงๆ
แรกสุดเลยใช้คำประมาณว่า "แรงเท่าเครื่อง 2500"
ต่อมาคงมีคนทักหลายคนว่ามันไม่ใช่ ก็เลยเปลี่ยนประโยคเป็น "ขับสนุกเหมือนเครื่อง 2500"
ซึ่งก็คงโดนทักมาอีกว่ามันก็ยังฟังดูโม้ๆ อยู่นะก็เลยเปลี่ยนคำใหม่แบบสื่อตรงตัวเป็น "แรงบิดเทียบเท่าเครื่อง 2500"
-
แต่ M2 Diesel เขาหน่วงคันเร่งไว้ไม่ใช่เหรอครับ เพราะต้องผ่านมาตรฐานไอเสีย
ถ้าไม่หน่วงนี้ผมว่าหลังติดเบาะแน่ครับ
(เหมือน Fortumer สมัย 4A/T ครับ ออกตัวทีหลังติดเบาะ แต่พอเป็นรุ่น 5A/T ที่ต้องผ่าน EURO4 คันเร่งหน่วงไปอย่างช่วยไม่ได้ อาการหลังติดเบาะก็หายไป แต่ก็ประหยัดกว่าเดิม)
-
ผมว่าคนทั่วไปที่ไม่ใช่เท้าหนักๆ สมรรถนะเท่านี้ก็ว้าวแล้วครับ
แต่มันต้องหน่วงเพื่อความประหยัดด้วย คงเทียบกับเทอร์โบใน Ecoboost ไม่ได้ ซึ่ง
Ecoboost ก็ประหยัดสู้ 2 ไม่ได้เช่นกัน
-
ธรรมชาติ เครื่องดีเซล แรงดึงดีแต่หมดเร็ว แต่ เครื่องเบนซินแรงดึงไม่เยอะแต่ลากยาว ผลก็มันเลยเป็นแบบนั้น
-
ด้วยข้อจำกัดด้านการปล่อยมลพิษ รวมถึงเรื่องประหยัดน้ำมัน ซึ่งในคลับหลายๆ คนใช้กันมา ถังนึงแตะ 800 กิโลแบบสบายๆ กันเลย มันก็เลยมาแค่นี้ เน้นขับง่าย สนุกๆ มากกว่า
แต่ถ้าเอาไปทำต่อ ผมว่าไปไกลแน่ๆ เพราะไม่ต้องกลัวเร่องมลพิษจะเกิน หรือ จะเปลืองน้ำมันอีกต่อไป
เดี๋ยวน่ะครับ ตอนราคาผมจำได้ว่าเทียบกับ eco car แต่ตอนแรงจะเทียบ B-segment แหนะ
พูดแล้วอยากจิร้องไห้เลยครับ ฮ่าๆ
ถ้าผมเป็น Mazda 2 คงน้อยใจแย่เลย
-
จะเอาแรงจริงก็ทำได้สบาย พี่ไทยอยู่แล้ว โมเก่ง แต่ชุดเกียร์เดิมติดรถพังแน่ๆ แค่ปกติอัดหนักๆผมกลัวชุดเกียร์จะลาบวชไปก่อนจริงๆ
-
มาเสริมนิดหน่อย
แรงบิดเยอะแรงม้าน้อยเวลาออกตัวจะรู้สึกเหมือนใครเอาตีนมาถีบแรงๆ แต่ได้แค่ช่วงสั้นๆพอหมดระยะขามันก็จะไม่ไปอีก รอบกวาดแต่ความเร็วไม่ไหล
ส่วนแรงม้าเยอะแรงบิดน้อย ถ้าน้ำหนักบรรทุกเท่ากันกับคันบน มันจะรู้เหมือนรถไหลลงภูเขาที่ตอนแรกต้องมีคนเข็น ไต่ความเร็วขึ้นไปช้าๆแต่ไปเรื่อยๆ
-
ออกตัวก่อนนะครับ ว่าไม่เคยลอง M2 Diesel
แต่จากประสบการณ์ที่ได้ลงแข่งสลาลม Focus TDCi Test Drive โฉมแรก ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยขับเก๋งดีเซลเลย
(กำหนดเวลาเข้าเส้น ทำเวลาให้ใกล้เคียงที่สุด...และผมได้ที่ 1)
บอกได้เลยว่า เป็นความทรงจำอยู่ถึงทุกวันนี้ แรงเร้าใจ หลังติดเบาะ เท้าหนักเท่าไหร่มาเท่านั้น ไม่มีรีรอ ไม่มีเหนียมอาย มันส์สุดๆ
ถึงทุกวันนี้ใช้เก๋งเบนซินอยู่ เคยขับแต่เก๋งเบนซินมาหลากหลายยี่ห้อ ก็ไม่มีคันไหนลบความทรงจำนี้ได้
ผมอาจจะให้ความสำคัญกับอัตราเร่ง มากกว่าความเร็วสูงสุดอยู่แล้วด้วย มันถึงประทับใจดีเซลมากกว่า
ผมเลยมองว่า มันขึ้นอยู่กับ Life Style ของแต่ละคนมากกว่า
ส่วนผม ชีวิตจริง การเร่งแซงสิบล้อ สำคัญกว่าเหยียบทางตรงให้เร็วที่สุดเสมอครับ
ถ้า Comment ผมมันออกทะเลเกินไป ลบได้เลยครับ
-
ดีเซลเทอโบได้เปรียบเวลาเร่งแซง ไม่ต้องกดมิดให้รอบกวาด แค่ปลายนิ้วโป้งเท้ารถก็พร้อมจะแซงแล้ว
-
;D ;D แวะมาอ่านความเห็น ;D ;D
ส่วนความเห็นของผม
มาสด้าไม่ได้แรงขนาดว้าว อู้ฮู้ กว่าอีโคบูส
ขับสนุกไหม ผมว่าสนุกนะ แต่ยังไม่น่าว้าวขนาดเหนือกว่าคันอื่นเป็นทุ่ง
มันอยู่ในเกรณเดียวกันในกลุ่มของมันนั่นแหละครับ
อยู่ในระดับ บีเซกเม้น แต่ใครจะไปคุยว่าอะไรก็แล้วแต่
แต่ ความจริงมันก็ดีในกลุ่มบีเซกเม้นเท่านั้นจริงๆ
อย่าคาดหวังเยอะ
B segment อะไรกันผมเห็นคนในนี้ยังบอกว่า Mazda 2 เป็นรถอิโคคาร์กันอยู่เลย ;D :D :o
แล้วตกลงอยู่ในเซกเม้นไหนครับ ที่ถามเพราะรอดูราคาภาษีใหม่ จะขึ้น พร้อม บีเซก หรือจะลงแบบอีโค่ เฟส2 ?