Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Mac BRZ WR Blue ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2015, 00:00:38
-
รบกวนถาม พี่แพน พี่จิมมี่ และทุกท่าน Brz ใน Sport Mode อัตราเร่ง 0-100 และ 80-120 จะได้สักเท่าไรครับจะใกล้เคียงตัวเลขMT มั้ยครับ Paddle shift เวลาเปลี่ยนใกล้เคียงกับสับเกียร์MT มั้ยครับ โดยรวมสนุกใกล้เคียงกับMT. มั้ยครับอยากสนุกแต่ไม่อยากเมื่อยวุ่นวายเหยียบครัช ขอบคุนครับ ป.ล.ยังขับเกียร์MTไม่เป็นครับแต่ใจรักพร้อมหัดถ้ามันส์กว่าชัดเจน
-
ไม่เคยขับ brz แต่บอกตามตรง at ที่มีโหมดชิพเองได้ต่อให้ดีเลิศหรือทันสมัยแค่ไหนฟิลลิ่งแบบดิบๆความมันส์ในอารมณ์แบบสปอร์ตยังไงก็สู้ mt ไม่ได้ครับ
-
ยังไม่เคยขับ BRZ
แต่เคยขับเกียร์แมนนวลมาก่อน บอกได้เลยว่ายังไงมันก็ไม่เหมือนครับ แมนนวลได้ฟิลลิ่งกว่าครับ
แต่ออโต้มันก็สบายกว่าตอนรถติด ถ้าไม่อยากเมื่อย ยังไงก็ต้องออโต้หละครับ
ส่วนตัว ถ้าซื้อผมซื้อออโต้ครับ เกียร์ออโต้ฉลาดๆ+Paddle Shift ก็สนุกได้ไม่น้อยครับ
เมื่อวานเพิ่งไปลองขับ WRX CVT ติดใจเลยครับ รอภาษีใหม่ปีหน้า ได้เจอกันแน่ครับ
-
ถ้ามีคำถามแบบนี้แปลว่ายังไม่เข้าใจถึงเกียร์ธรรมดาที่แท้จริง ถ้ามาสนใจแค่ตัวเลขต่างๆ รถอย่าง Porsche BMW VW นั้นเกียร์ออโต้ทำตัวเลขได้ดีกว่าทั้งอัตตราและสิ้นเปลือง
ของแบบนี้ต้องลองเองถึงจะเข้าใจ ถ้ามาบอกว่าเกียร์ธรรมดาลากเกียร์สะใจ เกียร์ออโต้มันก็คิกดาวน์ลากได้เหมือนกัน บอกว่าเอนจิ้นเบรกได้ เกียร์ออโต้ฉลาดๆสมัยนี้ทำได้ทั้งนั้น แต่อะไรล่ะที่ไม่เหมือน ผมก็อธิบายออกมาไม่ได้ ยิ่งถ้ามีโอกาสได้ลองในสนาม คำตอบจะชัดเจนทันที
แต่พวกรถเกียร์เทพๆอย่าง BMW Porsche เลือกได้ก็ออโต้ไปแถอะครับ
-
แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงครับ
แต่ต้องขอบอกไว้ เกียร์ 6 AT ของเค้าไม่ขี้เหร่เลย.... สับเกียร์ได้ไวมาก ยิ่งเวลาดาวน์ชิพ มี Rev Matching ให้อีก
แต่ยังไงฟิลลิ่งไม่มีทางเทียบเท่าเหยียบคลัชยัดเกียร์หรอกครับ
-
ถ้าขับเกียร์ MT เป็น ..... เกียร์ MT ให้ฟีลลิ่งดีกว่า สั่งได้ดั่งใจกว่า ทั้งการเล่นกับครัช เล่นกับรอบเครื่องยนต์ได้ถึงใจกว่า
เกียร์ MT ...
- เสียกำลังในระบบขับเคลื่อนน้อยกว่า
- Lag time ในการ shift เกียร์ น้อยกว่า AT
- มักจะรองรับ แรงม้า-แรงบิด ได้มากกว่า AT (เมื่อเทียบใน model เดียวกัน)
- คนขับ MT เก่งๆคล่องๆ ในการขับขี่ แข่งขัน จะรีดความสามารถได้ดีกว่า AT
**เว้น เกียร์ AT บางแบบ อย่าง PDK ของ porsche ที่ประสิทธิภาพสูง ออกแบบมาเพื่อ performance เน้นๆ
(แต่ shift feeling ยังเป็นเสน่ห์ของ MT อยู่เสมอ...แต่ก็แลกมากับความสะดวกที่น้อยกว่า)
-
.
.
.
บางคนก็ยังยึดติดกับอะไรเดิมๆ เทคโนโลยีไปถึงไหนแล้ว
รถแข่งในสนามหรือ supercar เดี๋ยวนี้ยังมีใครใช้ M/T สับเองมั่ง
-
.
.
.
บางคนก็ยังยึดติดกับอะไรเดิมๆ เทคโนโลยีไปถึงไหนแล้ว
รถแข่งในสนามหรือ supercar เดี๋ยวนี้ยังมีใครใช้ M/T สับเองมั่ง
นอกจากสนาม Drag แล้ว ที่อื่นๆผมก็ยังเห็นเกียร์ธรรมดากันอยู่เยอะนะครับ แต่เป็นเกียร์แบบ Dog Sequential ซะเยอะไม่ก็ Seq ธรรมดา ต้องบอกว่าแทบไม่มีเกียร์ออโต้เลยมากกว่า ถึงมีก็เป็นเกียร์ที่ทำงานโดยระบบไฟฟ้าที่ต้องกดเอง
แต่ถ้า Supercar นี้ก็ส่วนใหญ่เป็นออโต้+Paddle shift กันหมด
ส่วนเหตุผลผมก็ไม่ทราบว่าทำไม Supercar เป็นเกียร์ออโต้กันหมด แต่คิดไว้ว่า
1. คนซื้อซุปเปอร์คาร์ขับส่วนใหญ่ไม่ใช่คนบ้ารถ แค่ต้องการรถที่บ่งบอกรสนิยม ดังนั้นถ้าเป็นเกียร์ธรรมดาแล้วสตาร์ทติดๆดับๆทำลูกค้าหน้าแตกกลางวงธาลกำนัลมีหวังจะโดนบอยคอตไปตลอดชาตื และ
2.คนบ้ารถจริงๆที่กว่าจะเก็บเงินซื้อซุปเปอร์คาร์ได้ซักคันคงต้องอายุมากพอตัว จะให้เหยียบคลัชเหมือนวัยสะรุ่นก็คงจะไม่ไหว และ
3.การพัฒนาเกียร์ออโต้ในรถกลุ่มพวกนี้เรียกว่ายอดเยี่ยม รวดเร็วทันใจ และเลียนแบบเกียร์ธรรมดามาได้หมด แถมยังเล่นได้ทั้งบทบู้ และบทติ๋ม แล้วยังได้ขั้นเกียร์ที่เพิ่มขึ้นมาเป็น 7 เป็น 8 แล้วยังมีโหมด Manual ที่แป้น Paddle Shift ที่ไปลอกแบบมาจาก F1 ถึงจะไม่มันส์เท่าสับเอง แต่แค่นี้มันก็น่าพิศมัยพอตัวอยู่
4. ต่อเนื่องจากข้อที่ 1 เดี๋ยวนี้ที่ถิ่นของซุปเปอร์คาร์ไม่ใช่สนามแข่ง แต่มักไปจบที่ร้านเสื้อผ้าในเมือง ร้านอาหารหรู ห้างดัง ย่านดาวน์ทาวดังๆ แล้วใครมันจะอยากขับเกียร์ธรรมดาเข้าไปผจญรถติด (วะ)
แต่ถามว่ามีมั้ยแบรนด์ที่ยึดมั่นยึดติดในเกียร์ธรรมดา เท่าที่เห็นก็มีแบรนด์ Lotus นี้แหละ ทั้งหมดมีเกียร์ออโต้มาให้แค่ Evora
-
รบกวนถาม พี่แพน พี่จิมมี่ และทุกท่าน Brz ใน Sport Mode อัตราเร่ง 0-100 และ 80-120 จะได้สักเท่าไรครับจะใกล้เคียงตัวเลขMT มั้ยครับ Paddle shift เวลาเปลี่ยนใกล้เคียงกับสับเกียร์MT มั้ยครับ โดยรวมสนุกใกล้เคียงกับMT. มั้ยครับอยากสนุกแต่ไม่อยากเมื่อยวุ่นวายเหยียบครัช ขอบคุนครับ ป.ล.ยังขับเกียร์MTไม่เป็นครับแต่ใจรักพร้อมหัดถ้ามันส์กว่าชัดเจน
เคยอ่านรีวิวนอก 86,BRZ AT ขับไม่ได้เรื่องเลยครัช แล้วก็ในคลิปรีวิวของเฮียจิม ก็แนะนำไว้ว่า "86 ต้องเกียร์ธรรมดาเท่านั้น !!"
พอดีว่า 86 มันไม่ได้มีเกียร์เทพมาสิ่งสู่หนะครับ เป็นออโต้ธรรมดา 6 จังหวะ มันก็จะให้ไปสู้เกียร์ธรรมดาคงไม่ได้
-
ลองไปเล่นเกมส์ gran turismo ดูครับ
ลองขับให้มันหมดทุกแบบ
ทั้ง auto ให้มันเปลียนเกียร์เอง , manual แบบ paddle shift
, แล้วก็สุดท้าย เกียร์กระปุก เหยียบคลัช ยัดเกียร์ + heel and toe เอง
ผมว่าแบบหลังสุดเนี่ย มันส์สุดๆแล้ว
ถึงแม้เราจะทำช้า แล้วเวลาไม่ดีเท่าคนอื่นก็ตาม แต่ความมันส์นี่ทะลุพิกัด ;D ;D ;D
-
ขอบคุณครับเห็นภาพเลยต้องเมื่อยขาซ้ายละ
-
.
.
.
บางคนก็ยังยึดติดกับอะไรเดิมๆ เทคโนโลยีไปถึงไหนแล้ว
รถแข่งในสนามหรือ supercar เดี๋ยวนี้ยังมีใครใช้ M/T สับเองมั่ง
mt ให้ความรู้สึกที่แตกต่างครับ ถึงเกียร์ at จะมีให้สับเองได้ ก็ไม่สนุกเหมือนmt
-
.
.
.
บางคนก็ยังยึดติดกับอะไรเดิมๆ เทคโนโลยีไปถึงไหนแล้ว
รถแข่งในสนามหรือ supercar เดี๋ยวนี้ยังมีใครใช้ M/T สับเองมั่ง
ผมว่า เทคโนโลยียุคใหม่ พยายามเพิ่มประสิทธิภาพ M/T โดยเพิ่มประสิทธิภาพของชิ้นส่วนกลไกต่างๆ
แต่ เทคโนโลยียุคใหม่ พยายามเพิ่มประสิทธิภาพ A/T โดยเปลี่ยนโครงสร้างการทำงานให้ใกล้เคียง M/T
รถแข่งในสนามและซูเปอร์คาร์ปัจจุบัน ส่วนมากเป็นเกียร์ M/T ที่ลงระบบอัตโนมัติ ไม่ใช่ A/T จริงๆ (โครงสร้างเกียร์ไม่เหมือนกัน) ท่านคงทราบดี
แต่ว่า BRZ ถ้าผมจำไม่ผิด โครงสร้างเกียร์ยังเป็น A/T (Torque Converter + Planetary Gear) ซึ่งไม่ใช่เกียร์เทคโนโลยีสูงยุคใหม่
สู้เกียร์ธรรมดาจริงๆ ไม่ได้ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ งานนี้ BRZ เกียร์ธรรมดา วินครับ แต่ถ้าวันไหน BRZ Dual Clutch มา ดูอัลคลัตช์ น่าจะวินครับ
-
เห็นหลายคนสงสัยว่าทำไมรถพวกตัวแรงๆหลังๆ ทำแต่ ออโต้ ผมบอกเลยครับว่า เพราะเรื่องอัตราเร่งและการทำเวลา ครับ เห็นง่ายๆเลย 911 GT3 ไม่มีเกียร์ธรรมดาแล้ว เพราะเหตุผลที่ว่า เกียร์ออโต้สามารถทำเวลารอบสนามได้เร็วกว่าโข แล้วการที่เราจะขับแบบมุดๆ ซิ่งๆ เนี่ยถ้าไม่ได้ขับแมนวลมาจนชินหรือเก๋าพอแล้วเนี่ย เป็นอะไรที่ยากพอสมควรไหนจะสมาธิทั้งเปลี่ยนเกียร์และสมาธิบนถนนอีกยากพอสมควรเลยครับ ผมเองก็เคยลองมารู้สึกเลยมันยากแฮะ คนขับได้คล่องๆนี่เก่งวุ้ย อันนี้ผมแยกประเด็นกับฟิลลิ่งความมันส์นะ ยังไง แมนวลก็มันกว่าอยู่ละ เหยียบคลัชละสับมันได้ฟิลลิ่งดีกว่า แต่ออโต้ทุกวันนี้โดยเฉพาะ ดูอัลคลัชเทพๆของหลายยี่ห้อ เวลาชิพละดังแปร๊ดๆ เนี่ยก็สนุกไม่แพ้แมนวลเท่าไหร่แล้วครับ หรือแม้แต่ของ BMW 8 สปีดเนี่ย ถ้าเปลี่ยนท่อตั้งแต่ ดาวน์ไปป์ลงไป เวลาเปลี่ยนเกียร์ก็ตดแล้วครับ เพราะงั้นดูที่ความชอบส่วนตัวเลยครับ ถ้าอยากได้ฟิลลิ่ง ไม่ได้เน้นว่ากุจะสบายหรือจะแข่งเอาเป็นเอาตายกะใคร ขับแค่สนุกๆกดเฮฮาบ้าง ก็แมนวลครับ แต่ถ้าอยากซิ่งแบบคล่องตัวหน่อยก็ออโต้ครับ
-
ขับเกียร์ออโต้เหมือนนั่งเล่น PS อยู่บ้าน ขาด้วน แขนด้วน ข้างนึงก็ขับได้
ส่วนเกียร์ MT ขับไม่เป็นก็โดนเอาง่ายครับ ผมลงสนามใหม่ๆสับ 2ไป 5บ่อยๆ
-
ไม่ได้ขับเกียร์ธรรมดามาเกือบ 10 ปีล่าสุดได้ alfa 156 gta เกียร์ธรรมดามา
ขับมันส์มากๆ :)
-
เคยไปเทสไดรฟ BRz AT ส่วนเพื่อนผมมี brz mt ความเร็วไม่ห่างกันเท่าไหร่ครับ แต่ feeling คนละเรื่อง เหยียบคลัช สับเกียร นี้เปนอะไรที่มันโคตรๆ ยกเว้นรถติดนะครับ. ถ้ามีรถเกิน1คัน แล้วขับ mt เปน ซื้อ mt เถอะคับ
-
สงสัยเรื่องนี้เหมือนกันครับ ของผมได้คุยกับสภาที่บ้าน (พ่อ แม่ น้องชาย) แล้วทุกคนไม่มีปัญหาที่รถคันใหม่จะเป็น BRZ (แต่เงินผมออกเองหมด)
เสียงส่วนใหญ่ต้องการเป็น AT แต่ผมต้องการ MT ช่วงนี้ก็เลยเกิดการถกกันอยู่
-
.
.
.
ผมไม่ได้หมายถึงรถแข่งใช้เกียร์ออโต้ครับ แต่อย่างดูอัลคลัชต์เราจะนับมันเป็นเกียร์อะไรดี?
รถแข่งเดี๋ยวนี้แทบไม่ต้องใช้เท้าเหยียบคลัชต์กันแล้ว มันเสียเวลา
ระบบเกียร์ในรถแข่งหรือซุปเปอร์คาร์ ต่างใช้ระบบภายในเป็นแบบเกียร์ธรรมดา
(เหมือนดูอัลคลัชต์) แต่ระบบการเปลี่ยนเกียร์มันเปลี่ยนไปหมดตั้งนานแล้ว
ไม่มีใครมานั่งเหยียบคลัชต์ใส่เกียร์กันนานแล้วครับ เสียเวลาไปหลายวิ
-
ไม่มีใครเถียงหรอกว่า Dual clutch หรือออโต้ดีๆ เร็วกว่า mt มันเร็วกว่าอยู่แล้ว
ประหยัดน้ำมันก็มากกว่าในบ่อยครั้ง
ถ้าคุณเอาแค่ตัวเลข ชอบแค่ความแรง ก็เหมาะเลย
แต่ขับรถมันมีไรมากกว่านั้น ยิ่งรถแนวนี้ด้วย
ถ้าคุณหารถแรง brz/86 ไม่ใช่คำตอบ รถมันไม่ได้คิดมาเพื่อการนั้น
มันคือความลงตัวที่เป็นเหตุผลว่าทำไมถึงใส่ยางแบบ prius ด้วยซ้ำ เพื่อให้ตูด slide ง่ายขึ้น ถึง limit เร็วขึ้น เพื่อได้สนุกกับมัน
แรงเครื่องเพียงพอจะทำให้ขับสนุก แต่ยังห่างไกลความแรงนัก แต่ทำให้แรงได้ไหม ก็ได้ แต่มันเสีย character มัน
ขับ MT มันเอา feeling ที่เกียร์ออโต้มันให้ไม่ได้ ถ้ารถแนวนี้ซื้อ AT ขาดอรรถรสไม่เยอะเลย
ผมว่าเขาไม่อยากสร้าง AT ด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องทำให้มันได้กำไรมั่ง ซึงคนหลายคนขับ mt ไม่เป็นหรือไม่อยากได้ mt
ก็ต้องรองรับลูกค้าแนวนี้ จะ indy mt ล้วนก็คงขายได้ไม่เยอะเท่า
เหตุผลคล้ายๆทำไม GT3 RS4.0 เป็นเกียร์ธรรมดา หรือ cayman gt4 เกียร์ธรรมดา
แต่ 911 GT3 มันต้องทำให้เป็น benchmark เลขมันต้องดี
cayman gt4 ไว้ตอบพวก die hard porsche fan
นี่เอามาจากคนใน porsche นะ จาก youtube อันหนึ่งจำไม่ได้ละ
ท้ายสุด ดีที่สุดคือที่มันตอบโจทย์คุณ คนเราแสวงหาอะไรในรถไม่เหมือนกัน
ต่อให้ผมบ้า mt แค่ไหนผมก็ชอบความสนุกอีกแบบที่ขับ
Golf GTI เช่นกัน
รถส่วนตัวผมก็ AT เพราะผมมีตังซื้อแค่คันเดียว ผมไม่ไหวจะมาเหยียบคลัชทุกวัน
-
ถ้าคุณจะเน้นเวลาแข่งขันหรือสะดวกสบายก็เลือก AT เทพๆไป แต่ถ้าเอาตัวเองเป็นที่ตั้งและชอบสั่งได้ดั่งใจ ไม่เบื่อที่จะเหยียบครัช ก็เลือก MT สำหรับผมรถโล่งๆขับแบบดิบๆเลือกคันที่ MT ส่วนลุยในดงรถติดใจกลางเมืองเอารถอีกคันที่เป็น ATไป ซึ่งมีคันเดียวในบ้านนอกนั้น MT หมด
-
.
.
.
ผมไม่ได้หมายถึงรถแข่งใช้เกียร์ออโต้ครับ แต่อย่างดูอัลคลัชต์เราจะนับมันเป็นเกียร์อะไรดี?
รถแข่งเดี๋ยวนี้แทบไม่ต้องใช้เท้าเหยียบคลัชต์กันแล้ว มันเสียเวลา
ระบบเกียร์ในรถแข่งหรือซุปเปอร์คาร์ ต่างใช้ระบบภายในเป็นแบบเกียร์ธรรมดา
(เหมือนดูอัลคลัชต์) แต่ระบบการเปลี่ยนเกียร์มันเปลี่ยนไปหมดตั้งนานแล้ว
ไม่มีใครมานั่งเหยียบคลัชต์ใส่เกียร์กันนานแล้วครับ เสียเวลาไปหลายวิ
ถ้าไม่มีคลัช ยัดเกียรเอง มันก็คืออโต้นั้นแหละครับ ตัวผมเองใช้รถที่มีเกียร dual clucth เหมือนกัน ใช่ แม้ว่ามันจะเปลื่ยนไวเปลื่ยนเร็ว แต่ถ้ามีเกียรธรรมดาไห้เลือก ผมก็เลือกเกียรธรรมดา อยู่ดี รถแข่ง มีไว้ทำความเร็วครับ แต่รถสปอรต รถซิ่ง มีไว้เผื่อความสนุกสนาน ถ้าอะไร ไห้ smiles per gallon เยอะกว่า นั้นก็คือสิ่งที่เีไม่ใช่เหรอครับ พูดกันในมุมคนชอบขับรถนะครับ ไม่ใช่พวกชอบโชวรถ
-
ไม่มีใครเถียงหรอกว่า Dual clutch หรือออโต้ดีๆ เร็วกว่า mt มันเร็วกว่าอยู่แล้ว
ประหยัดน้ำมันก็มากกว่าในบ่อยครั้ง
ถ้าคุณเอาแค่ตัวเลข ชอบแค่ความแรง ก็เหมาะเลย
แต่ขับรถมันมีไรมากกว่านั้น ยิ่งรถแนวนี้ด้วย
ถ้าคุณหารถแรง brz/86 ไม่ใช่คำตอบ รถมันไม่ได้คิดมาเพื่อการนั้น
มันคือความลงตัวที่เป็นเหตุผลว่าทำไมถึงใส่ยางแบบ prius ด้วยซ้ำ เพื่อให้ตูด slide ง่ายขึ้น ถึง limit เร็วขึ้น เพื่อได้สนุกกับมัน
แรงเครื่องเพียงพอจะทำให้ขับสนุก แต่ยังห่างไกลความแรงนัก แต่ทำให้แรงได้ไหม ก็ได้ แต่มันเสีย character มัน
ขับ MT มันเอา feeling ที่เกียร์ออโต้มันให้ไม่ได้ ถ้ารถแนวนี้ซื้อ AT ขาดอรรถรสไม่เยอะเลย
ผมว่าเขาไม่อยากสร้าง AT ด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องทำให้มันได้กำไรมั่ง ซึงคนหลายคนขับ mt ไม่เป็นหรือไม่อยากได้ mt
ก็ต้องรองรับลูกค้าแนวนี้ จะ indy mt ล้วนก็คงขายได้ไม่เยอะเท่า
เหตุผลคล้ายๆทำไม GT3 RS4.0 เป็นเกียร์ธรรมดา หรือ cayman gt4 เกียร์ธรรมดา
แต่ 911 GT3 มันต้องทำให้เป็น benchmark เลขมันต้องดี
cayman gt4 ไว้ตอบพวก die hard porsche fan
นี่เอามาจากคนใน porsche นะ จาก youtube อันหนึ่งจำไม่ได้ละ
ท้ายสุด ดีที่สุดคือที่มันตอบโจทย์คุณ คนเราแสวงหาอะไรในรถไม่เหมือนกัน
ต่อให้ผมบ้า mt แค่ไหนผมก็ชอบความสนุกอีกแบบที่ขับ
Golf GTI เช่นกัน
รถส่วนตัวผมก็ AT เพราะผมมีตังซื้อแค่คันเดียว ผมไม่ไหวจะมาเหยียบคลัชทุกวัน
คลิปนี้ป่ะครับ
https://www.youtube.com/watch?v=lGVWojMMeg4 (https://www.youtube.com/watch?v=lGVWojMMeg4)
-
.
.
.
ผมไม่ได้หมายถึงรถแข่งใช้เกียร์ออโต้ครับ แต่อย่างดูอัลคลัชต์เราจะนับมันเป็นเกียร์อะไรดี?
รถแข่งเดี๋ยวนี้แทบไม่ต้องใช้เท้าเหยียบคลัชต์กันแล้ว มันเสียเวลา
ระบบเกียร์ในรถแข่งหรือซุปเปอร์คาร์ ต่างใช้ระบบภายในเป็นแบบเกียร์ธรรมดา
(เหมือนดูอัลคลัชต์) แต่ระบบการเปลี่ยนเกียร์มันเปลี่ยนไปหมดตั้งนานแล้ว
ไม่มีใครมานั่งเหยียบคลัชต์ใส่เกียร์กันนานแล้วครับ เสียเวลาไปหลายวิ
ดังนั้นหากรถซึ่งเป็นคำถามนั้นเป็นรุ่นที่ใช้เกียร์อัตโนมัติที่โครงสร้างภายในเป็นเกียร์ธรรมดา ผมจะเห็นเหมือนคุณครับ
แต่ BRZ เป็นรุ่นที่เกียร์ A/T เป็นแบบเก่า ดังนั้นข้อนี้ ผมจึงเชียร์ เกียร์ธรรมดา ครับ
-
ผมเคยไปลองขับ BRZ MT ครับ ไม่ได้ขับเกียร์ MT มาเป็น 10 ปีล่ะ (รถคันแรกเป็น MT ขับมา 7 ปี)
มันก็มันส์ได้อารมณ์ตรงลากรอบนะแหละครับ แต่ต้องรอบเกิน 4000 รอบขึ้นไปนะครับ
แต่ถ้าขับในเมืองไม่ได้มีโอกาสใช้แน่นอนครับ ต้องทางโล่งๆถึงจะได้ความมันส์จาก MT ครับ
แต่พนักงานทดสอบรถที่ไปด้วย บอกว่า AT ของ 86 ฺิิBRZ ไม่ค่อยทน ต้องดูแลเยอะ
ถ้าจะซื้อควรซื้อ MT ครับ ดูแลง่ายไม่จุกจิก
เปรียบเทียบกับ BM ง่อยๆของผม (116i) ผมว่า BM ขับละมุ่นกว่า ดึงกว่า สบายกว่า มันส์น้อยกว่าหน่อยถึงตอนลากรอบครับ
แต่ถ้าขับในเมือง BM จะมันส์กว่าตรงไม่ต้องรอรอบนะครับ
ผมไม่ได้มีเงินเยอะ พอจะซื้อรถหลายๆคคันครับ ถ้าจะมี MT อีกคัน คงไปหา อิม MT หรือ Vtec MT มือสองราคาไม่สูงเอาครับ
ถ้าจะซื้อ BRZ แนะนำเป็น MT ครับ คุณจะได้อารมณ์ของมันจริงๆ แต่ถ้ารถแถวบ้านติดๆ อย่าดีกว่าครับ นอกจากขาแข็งแรง ขัีบ MT มาแล้วจนคล่องครับ
-
.
.
.
ผมไม่ได้หมายถึงรถแข่งใช้เกียร์ออโต้ครับ แต่อย่างดูอัลคลัชต์เราจะนับมันเป็นเกียร์อะไรดี?
รถแข่งเดี๋ยวนี้แทบไม่ต้องใช้เท้าเหยียบคลัชต์กันแล้ว มันเสียเวลา
ระบบเกียร์ในรถแข่งหรือซุปเปอร์คาร์ ต่างใช้ระบบภายในเป็นแบบเกียร์ธรรมดา
(เหมือนดูอัลคลัชต์) แต่ระบบการเปลี่ยนเกียร์มันเปลี่ยนไปหมดตั้งนานแล้ว
ไม่มีใครมานั่งเหยียบคลัชต์ใส่เกียร์กันนานแล้วครับ เสียเวลาไปหลายวิ
เกียร์ Dog Seq ยังเป็นเกียร์ธรรมดาครับ จาก N ไป 1 ยังต้องเหยียบครัชอยู่ แต่หลังจากนั้นจะไม่ใช้คลัชแล้ว
แต่ระบบโดยรวมเรียกอะไร เรียกเกียร์ธรรมดาครับเพราะยังไงก็ยังต้องสับเกียร์เอง ไม่มีระบบเลือกเกียร์ให้ เหยียบจนเครื่องพังสูบออกมานอนแอ้งแม้งเกียร์ก็คงที่เดิมของมัน
แต่เป็นสับขึ้นลงแทนที่ H Pattern
-
เห็นหลายคนสงสัยว่าทำไมรถพวกตัวแรงๆหลังๆ ทำแต่ ออโต้ ผมบอกเลยครับว่า เพราะเรื่องอัตราเร่งและการทำเวลา ครับ เห็นง่ายๆเลย 911 GT3 ไม่มีเกียร์ธรรมดาแล้ว เพราะเหตุผลที่ว่า เกียร์ออโต้สามารถทำเวลารอบสนามได้เร็วกว่าโข แล้วการที่เราจะขับแบบมุดๆ ซิ่งๆ เนี่ยถ้าไม่ได้ขับแมนวลมาจนชินหรือเก๋าพอแล้วเนี่ย เป็นอะไรที่ยากพอสมควรไหนจะสมาธิทั้งเปลี่ยนเกียร์และสมาธิบนถนนอีกยากพอสมควรเลยครับ ผมเองก็เคยลองมารู้สึกเลยมันยากแฮะ คนขับได้คล่องๆนี่เก่งวุ้ย อันนี้ผมแยกประเด็นกับฟิลลิ่งความมันส์นะ ยังไง แมนวลก็มันกว่าอยู่ละ เหยียบคลัชละสับมันได้ฟิลลิ่งดีกว่า แต่ออโต้ทุกวันนี้โดยเฉพาะ ดูอัลคลัชเทพๆของหลายยี่ห้อ เวลาชิพละดังแปร๊ดๆ เนี่ยก็สนุกไม่แพ้แมนวลเท่าไหร่แล้วครับ หรือแม้แต่ของ BMW 8 สปีดเนี่ย ถ้าเปลี่ยนท่อตั้งแต่ ดาวน์ไปป์ลงไป เวลาเปลี่ยนเกียร์ก็ตดแล้วครับ เพราะงั้นดูที่ความชอบส่วนตัวเลยครับ ถ้าอยากได้ฟิลลิ่ง ไม่ได้เน้นว่ากุจะสบายหรือจะแข่งเอาเป็นเอาตายกะใคร ขับแค่สนุกๆกดเฮฮาบ้าง ก็แมนวลครับ แต่ถ้าอยากซิ่งแบบคล่องตัวหน่อยก็ออโต้ครับ
เห็นด้วยเลยครับ ถ้าอยากจะไปให้เร็วๆในเมืองคงต้องมุด at นั้นสะดวกกว่ามาก เพราะไม่มีเวลาให้เราคิดนาน รถจี้ๆติดๆกัน mt อาจเสียจังหวะได้สำหรับคนยังไม่ชิน
โจทย์นี้ถ้าขับในเมืองผมเชียร์ at นอกเมือง mt
-
ผมว่าถ้าโตต้าอยากจะพัฒนาเกียร์ออโต้มาเพื่อตอบสนอง 86 โดยที่ยังคงความเป็น 86 มันต้องเป็นออโต้ที่พร้อมลาตายตลอดเวลา ลากรอบได้ กระชากคันเร่งได้ ถ่ายทอดแรงบิดลงล้อได้ต่อเนื่องเและเต็มที่ ไม่เอ๋อ ไม่ฮีทกลางทางตอนซัดที่ 6-7 พันรอบเป้นเวลาต่อเนื่องขณะที่กำลังกวาดตูดรอบสนาม
ดูแล้วโจทย์ยากไปนะ
-
ตอนแรกก็อยากได้รถสปอร์ตเกียร์ MT เหมือนกันนะครับ
แต่ตอนนี้ติดใจ paddle shift ซะแล้วสิ
ปล. BRZ ยังไม่เคยขับ แต่เห็นว่าแรงม้ายังน้อยไปนิด ขับ AT อาจจะไม่สนุกก็ได้
-
ผมว่า นิยาม ขับสนุกแต่ละคน ไม่เหมือนกัน
ผมผู้ซึ่งไม่ชอบความยุ่งยาก ไม่ออกตัวหลังติดเบาะ แต่ชอบทำกิจกรรมอื่นระหว่างขับรถ ผมเลือก AT ผมก็สนุกของผม
บางคน ชอบ ออกตัวเร็ว หลังติดเบาะ มีการเปลี่ยนเกียร์ ไม่ให้น่าเบื่อเกินไป ในระหว่างขับรถ ไม่เน้นทำกิจกรรมอื่นในรถ ไป MT
สรุปแล้ว ขับสนุก นี่แล้วแต่ความชอบครับ อยากแรงอยากเร็ว AT หรือ MT ก็ทำได้หมดล่ะครับ อยู่ที่คนขับเท่านั้นจะตัดสิน
-
ไม่มีใครเถียงหรอกว่า Dual clutch หรือออโต้ดีๆ เร็วกว่า mt มันเร็วกว่าอยู่แล้ว
ประหยัดน้ำมันก็มากกว่าในบ่อยครั้ง
ถ้าคุณเอาแค่ตัวเลข ชอบแค่ความแรง ก็เหมาะเลย
แต่ขับรถมันมีไรมากกว่านั้น ยิ่งรถแนวนี้ด้วย
ถ้าคุณหารถแรง brz/86 ไม่ใช่คำตอบ รถมันไม่ได้คิดมาเพื่อการนั้น
มันคือความลงตัวที่เป็นเหตุผลว่าทำไมถึงใส่ยางแบบ prius ด้วยซ้ำ เพื่อให้ตูด slide ง่ายขึ้น ถึง limit เร็วขึ้น เพื่อได้สนุกกับมัน
แรงเครื่องเพียงพอจะทำให้ขับสนุก แต่ยังห่างไกลความแรงนัก แต่ทำให้แรงได้ไหม ก็ได้ แต่มันเสีย character มัน
ขับ MT มันเอา feeling ที่เกียร์ออโต้มันให้ไม่ได้ ถ้ารถแนวนี้ซื้อ AT ขาดอรรถรสไม่เยอะเลย
ผมว่าเขาไม่อยากสร้าง AT ด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องทำให้มันได้กำไรมั่ง ซึงคนหลายคนขับ mt ไม่เป็นหรือไม่อยากได้ mt
ก็ต้องรองรับลูกค้าแนวนี้ จะ indy mt ล้วนก็คงขายได้ไม่เยอะเท่า
เหตุผลคล้ายๆทำไม GT3 RS4.0 เป็นเกียร์ธรรมดา หรือ cayman gt4 เกียร์ธรรมดา
แต่ 911 GT3 มันต้องทำให้เป็น benchmark เลขมันต้องดี
cayman gt4 ไว้ตอบพวก die hard porsche fan
นี่เอามาจากคนใน porsche นะ จาก youtube อันหนึ่งจำไม่ได้ละ
ท้ายสุด ดีที่สุดคือที่มันตอบโจทย์คุณ คนเราแสวงหาอะไรในรถไม่เหมือนกัน
ต่อให้ผมบ้า mt แค่ไหนผมก็ชอบความสนุกอีกแบบที่ขับ
Golf GTI เช่นกัน
รถส่วนตัวผมก็ AT เพราะผมมีตังซื้อแค่คันเดียว ผมไม่ไหวจะมาเหยียบคลัชทุกวัน
ถูกใจ
ความสนุกกับ time attack. อาจจะไม่ได้ไปด้วยกันเสมอไป
แต่สำหรับ 86/brz มันไปด้วยกัน
รถเกียร์ธรรมดาแตนๆก็สามารถทำอะไรบางอย่างที่เกียร์ออโต้เทพทำไม่ได้
-
ถ้าโจทย์คือ BRZ อยากขับสนุกก็ไปเกียร์ธรรมดาเลยครับ(ความคิดเห็นส่วนตัว) อย่าไปสนใจเรื่องตัวเลข0-100,80-120 อะไรแบบนี้เลยครับว่าออโต้กี่วิธรรมดากี่วิ(่ส่วนตัวมองว่าไร้สาระ)ถ้าคุณจะซื้อรถคันนี้จริงๆ รถคันละ2ล้านจะไม่ลองขับเหรอครับถามในนี้ก็ไม่ได้คำตอบหรอกครับ คุณก็ควรไปลองขับด้วยตัวเอง ความสนุกแต่ละคนไม่เหมือนกันตอบยาก เวลาที่คุณถามมามันก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยหลายอย่าง ถ้าคุณสับเกียร์ไม่เก่งไม่รู้จังหวะการเปลี่ยนเกียร์ควรเปลี่ยนที่รอบเครื่องเท่าไหร่แถมยังต้องประคองพวงมาลัยด้วยมือข้างเดียวยังไงเกียร์ออโต้ก็ทำเวลาได้ดีกว่า เคยดูที่ทดสอบ(เกียร์ธรรมดา)รถคันเดียวกันคุณพีท ทองเจือ กับคุณอ๊อฟ หทัย คุณอ๊อฟน้ำหนักตัวมากกว่าคุณพีทหลาย10กิโลแต่ทำเวลาได้ดีกว่านั่นแสดงว่าเค้ามีทักษะและเข้าใจรอบเครื่องยนต์รถคันนั้นได้ดีกว่า
-
ผมโตมาในยุคที่เกียร์ออโต้ เป็น Option ตอนนั้นพ่อผมบอกว่าอีกหน่อยรถเกียร์ธรรมดาอาจเป็น Option ก็ได้ ผมยังหัวเราะร่วนว่ามันจะเป็นไปได้รึ จากนั้น ผมใช้รถเกียร์ธรรมดามา(เกือบ) ตลอด แต่มีรถเกียร์ออโต้ไว้ใช้ประจำ จนมา 3 - 4 ปีหลัง ที่ไม่มีใช้ คันสุดท้าย ขาย Mini Cooper S เกียร์ธรรมดาไป ราคาขายต่ำกว่าเกียร์ออโต้ รุ่น และปีเดียวกันโขอยู่ เพราะปัจจุบัน มีคนขับเกียร์ธรรมดาน้อยลงไปเยอะ ได้ขับรถเกียร์ออโต้สมัยใหม่ โดยเฉพาะเกียร์ Dual Clutch ของหลายเจ้า สนุกเหมือนกัน (ไม่ค่อยอยากยอมรับว่าอาจจะสนุกกว่าด้วยซ้ำ อิอิ) ผมว่าอยู่ที่คน ความชอบ และประสบการณ์ส่วนบุคคลมากกว่าครับ แต่ก็แอบดีใจที่คนรุ่นใหม่ยังชอบเกียร์ธรรมดากันอยู่ สำหรับผม หลังจากว่างเว้นเกียร์ธรรมดามาสักพัก พึ่งจะจัด 86 เกียร์ธรรมดามาครับ บอกตามตรงเลยว่ามันสุดยอดมากเลย รู้สึกว่าหนุ่มขึ้น 10 ปี อารมณ์แบบว่าไม่ได้รู้สึกสนุกกับการขับรถมานานมากแล้ว ดังนั้น ขอตอบว่าถ้าจะซื้อ BRZ แล้วเคยรู้สึกมันส์ และสนุกกับการขับรถเกียร์ธรรมดามาก่อน ก็จัดเลยครับ
ปล. เวลาขับรถเกียร์ธรรมดา แบบของออฟฟิส ก็ไม่ได้รู้สึกสนุกสนานกว่าขับรถปกติอะไรครับ
-
AT ในโหมดสปอต สุดยอดครับ
-
AT ต่อให้เทพแค่ไหนก็ทำได้ไม่เท่าเกียร์ MT ในเรื่องความรู้สึก (ของคนบางคน หรืออาจจะหลายๆคน)
.
.
.
ที่แน่ๆ ออกตัว ปล่อยคลัชผิดจังหว่ะ AT ยังไงมันก็ไม่ดับ เหมือน MT นะครับ ;D
-
ไม่รู้ตลาดวายไปรึยังนะครับ 55
ผมแค่สงสัยว่า dual clutch กับ planetary AT ต่างกันยังไง กรณีไม่ได้สนใจตัวเลข สนแค่การขับขี่
ในเมื่อแป้นเหยียบก็มีแค่สองอันเท่ากัน
โหมด +- ก็มีเหมือนกัน
ลดเกียร์แล้วเบิ้ลเครื่องให้เอง ก็มีเหมือนกัน
.
.
สงสัยอีกนิดครับ ปกติแล้ว จากขับเกียร์ AT ทั่วไป มาเป็น dual clutch วิธีการขับขี่มันต่างกันหรอครับ?
ส่วนตัวผม (6)MT จงเจริญครับ 55+
-
จบประเด็นง่ายๆด้วยการสร้างเกียร์กระปุกแบบdual clutchมาซะเลย ;D
-
ผมแวะมาตอบเจ้าของกระทู้ว่า
ถ้าคุณมีเป้าหมายหลักคืออยากสบายเท้าซ้าย แต่แค่ถามว่าเกียร์มันทำงานได้ดีหรือไม่ ผมจะตอบให้ว่ามันทำได้ดีครับ การเปลี่ยนเกียร์ เร็ว ฉลาด และยิ่งถ้าใส่โหมดสปอร์ต มันจะเหมือนกับคนที่พร้อมมีเรื่อง รอบจะพร้อมไว้ช่วงใกล้ Powerband และเวลาถอนคันเร่งจะมีอาการคาเกียร์ไว้สักพัก มุดมันส์มาก
สาเหตุที่อัตราเร่งสู้ไม่ได้จริงๆอยู่ที่การออกตัว 86/BRZ เป็นรถที่มีแรงบิดรอบต่ำน้อย แรงทั้งหมดไปกองในรอบสูง ในรุ่นเกียร์ธรรมดาสามารถใช้รอบออกตัวสูงแล้วออกล้อฟรีได้ ในขณะที่รุ่นเกียร์ออโต้ ถ้าคุณไม่อยากทรมานเกียร์ ก็ต้องเข้า D หรือ 1 แล้วเร่งผ่านรอบช่วง 2,500 ไปจนถึง 4,500 ซึ่งนั่นเป็นช่วงที่มันไม่มีแรง..แต่ถ้าเป็นช่วงหลังจากออกตัวไป และพยายามประคองความเร็วไว้เกิน 60 เกียร์ออโต้ก็วิ่งตามเกียร์ธรรมดาพอได้ ช้ากว่ากันเป็นเสี้ยววิ ถ้าว่ากันแบบคนชอบจับเช็งคือ ถ้าเกียร์ธรรมดากดก่อน ก็จะทิ้งออโต้ไปเรื่อยๆ แต่ถ้าออโต้กดก่อน ก็นานมากกว่าคันเกียร์ธรรมดาจะตามมาทัน
ที่ผมมักชอบบอกว่าเล่น 86/BRZ ต้องเล่นเกียร์ธรรมดาเท่านั้นเพราะไม่ว่าใครจะบอกว่ายังไง อัตราเร่งมันเห็นๆอยู่ว่าเกียร์ธรรมดาไปเร็วกว่า "ใน 86/BRZ" (ผมไม่พูดถึงรถอะไรก็ตามที่ใช้ PDK เพราะไม่ได้เกี่ยวกับคำถามของเจ้าของกระทู้) เกียร์ธรรมดาอนุญาตให้คุณออกตัวได้ด้วยรอบที่สูงกว่า และถ้าอนาคตหากคุณคิดจะดริฟท์ ลักษณะของเกียร์ธรรมชาติที่สามารถทำ Clutch lock tail-out ได้ หรือปรับแต่งเพิ่มความหนึบของผ้าคลัตช์มันจะยิ่งสนุกใหญ่ รถเกียร์ธรรมดาใน BRZ/86 นอกจากจะดึงสมรรถณะและความสนุกของรถออกมาได้อย่างเต็มที่แล้ว มันยังให้คุณรู้สึกร่วมกับรถในลักษณะที่คุณรับผิดชอบต่อผลที่ได้ คุณสับเกียร์ดีมันก็ไปได้ดี คุณสับเกียร์ช้า มันก็ไปได้ช้า
และพูดตามตรงจากความเห็นส่วนตัว ส่วนหนึ่งที่ไม่ค่อยเห็นหน้าผมสนุกกับรถอย่าง BRZ Auto หรือ MX-5 Auto เพราะผมรู้ว่าผมไม่สามารถควบมันหนีรถบ้านแอบบ้าพลังอย่าง Teana 2.5, Accord Hybrid ได้ แต่..คุณสามารถยอมตรงนี้ได้มั้ยล่ะครับ ผมไม่ยอม..แต่ถ้าคุณยอม ผมว่าก็ไม่น่าเอาประเด็นของผมไปคิดมาก ถ้าคุณทำใจได้ว่า 0-100 กับ 80-120 คุณอาจแพ้รถบ้านแอ๊บแรง..คุณจะหลุดพ้นจากวังวนเสพย์ติดแรงจีอย่างที่ผมเป็น
ผมเข้าใจว่าคนซื้อ BRZ/86 ไม่ใช่ทุกคนที่จะคลั่งไคล้ในการขับขี่และการทำความเร็ว ดังนั้นหากจะมีใครเล่นเวอร์ชั่นเกียร์ออโต้ของรถรุ่นนี้ ผมมองว่ามันเป็นความแตกต่างในความต้องการ ซึ่งคุณอาจจะมองว่าใช้ในเมืองบ่อย ใช้เป็นรถคันเดียว ขับรถติดๆแล้วเมื่อยเท้าซ้ายง่าย ก็เอาตัวเกียร์ออโต้สิครับ เกียร์มันทำงานดีครับ เป็นรองแค่ PDK เท่านั้นในสายตาผม แต่ยังนับว่าสนุก มันส์ และซ่าถวายชีวิตจนน่าพอใจ ส่วนเรื่องแรง เรื่องอัตราเร่ง เดี๋ยวไปทำเอาได้ครับ เฮดเดอร์ กล่อง จูน ทำหน่อยๆอัตราเร่งก็ไล่ BRZ/86 เกียร์ธรรมดาเดิมๆได้ครับ และสบายเท้าซ้ายด้วยอย่างแน่นอน
-
กลัว at ไม่แรง แก้ปัญหาด้วยการโมเพิ่ม ลง rotrex supercharger kit ดิคับ ได้พลังมาที่ 280-300 ตัวแล้ว ถึงยังเป็น at ก็ยังวิ่งมันส์
-
ขอบคุณพี่แพน คำตอบนี้ที่รอคอยครับ เกียร์ใกล้เคียงกับ DSG มั้ยครับถ้าอนาคตลง Turbo หรือ Supercharge มันจะใกล้เคียง Goft. GTI หรือMini coupe sมั้ยครับ ขอบคุนครับ
-
ขอบคุณพี่แพน คำตอบนี้ที่รอคอยครับ เกียร์ใกล้เคียงกับ DSG มั้ยครับถ้าอนาคตลง Turbo หรือ Supercharge มันจะใกล้เคียง Goft. GTI หรือMini coupe sมั้ยครับ ขอบคุนครับ
ผมว่าแรงกว่านะครับ ชุด rotrex supercharger kit ของ kraftwerks (US) ก็ได้มาเพิ่มเป็น 280-300 ตัวแล้ว