Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Eddy5659 ที่ มีนาคม 05, 2015, 22:38:47
-
เรื่องเกิดจากที่ผมกำลังครุ่นคิดเรื่องรถครอบครัว จึงไปดูรถหลายคันมา รวมถึง odyssey รถดีมาก อ๊อฟชั่นเต็มก็เหอะ แต่ราคา 2.95 ล้าน มันแพงไปนิสนึง คิดหลายตลบเลย วันนี้มีโอกาสได้คุยกับรุ่นพี่ที่เป็นไฟแนซ์อยู่กรุงศรีฯ เลยถามเรื่องการเช่าชื้อ และราคามือ 2 ผมมาสะดุดกับราคากลางรับซื้อ odyssey นี่หละครับ ราคากลางตอนนี้ รุ่นท๊อป 2.95 ล้าน ราคากลางรับซื้อคือ 1.82 ล้าน รถปีเดียวราคาตกฮวบ 40% เลยเหรอครับ สงสัยมาก ประเมิณราคากลางใครเป็นคนประเมิณ มีหลักเกณฑ์ยังไงบ้าง
-
รอฟังด้วยครับ
-
สินค้ามือสองเป็นเรื่องของความพอใจล้วนๆ ไม่มีใครมาเป็นคนกำหนดว่าจะต้องราคาเท่าไหร่
ต่อให้มีหน่วยงานมากำหนด ถ้าไม่มีคนซื้อ ก็ไร้ความหมาย ยิ่งขายถูกก็ยิ่งได้เงินไว เต้นท์รถรับซื้อราคาต่ำ ถ้ารับได้ เขาก็รับซื้อ ถ้ารับไม่ได้ ไปตั้งขายเอง ราคาแพง ผ่านไปเป็นปี ก็ไม่มีคนซื้อ
ขึ้นชื่อว่าของมือสอง ถ้าไม่ใช่ของหายากจริงๆ เป็นที่นิยม ราคามันต่ำได้สุดๆอยู่แล้วครับ รถป้ายแดงคันละ 8 ล้าน ใช้ไปสองปี ขายคันละ 4 ล้าน บางรุ่นยังไม่มีคนกล้าซื้อเลย ทั้งๆที่เหลือแค่ครึ่งราคา
แต่ส่วนตัวผม รถมือสอง ถ้าอายุเกิน 5 ปี ผมก็ซื้อใช้ในราคาไม่เกิน 35 % ของราคาป้ายแดงเหมือนกัน
-
ตลาดคนเล่นเยอะหรือน้อย
ส่งผลกับราคารถมือสองครับ
เพราะรถมือสอง เสียงกับการซ่อม
รถในตลาดเยอะก็พอมีอะไหล่รองรับ
หาได้ไม่ลำบากนัก
-
ราคารับซื้อ สะท้อนถึงราคาขายครับ
ถ้าเค้าจับราคาสูงกว่านี้ มันไม่คุ้มตอนปล่อยของออก
ดังนั้นการกดราคาให้ต่ำๆเข้าไว้จึงเป็นทางให้เค้าอยู่รอด
[(ราคารับซื้อ + ค่าเก็บสต๊อค + ค่าใช้จ่ายด้านการขาย) * ค่าเสียโอกาศ] * ความเสี่ยง = ราคาขายของเต้น
มองในมุมธุรกิจครับ ปัจจัยด้านความเสี่ยงมันมีรอบด้าน สมัยก่อนญาติผมเปิดเต้นมือสอง
ก่อน Fortuner ออกมา ญาติผมแกมีหลานทำงานอยู่โตโยต้า รู้ล่วงหน้าเป็นปี
แกเทขาย Sport rider ตอนนั้นลูกค้าแกเยอะมาก แกปล่อยเอากำไรแค่หลักพัน เพราะแกรู้
หลานแกบอกว่าให้เทขายทิ้งให้หมด โชคดีที่สมัยนั้นยังไม่มี Spyshot หลุดมาบ่อยๆ
พอสุดท้าย Fortuner ออกมา รู้ๆกันว่าราคาขาย Sport rider ตกลงฮวบๆขนาดไหน
ยิ่งช่วงน้ำท่วม มันมาแบบงงๆ มาแบบไม่ตั้งใจ ทุกท่านคงรู้ดีว่ามันกระทบกับธุรกิจเต้นขนาดไหน
ปัจจัยด้านน้ำมัน ภาษีเพิ่ม น้ำท่วม รถหาย รถโจร โอย เยอะครับ
หลักเกณฑ์การประเมิน อยู่ที่ผู้ขายคิดต้นทุนและความเสี่ยงยังไง ตกลงกันแล้วเอามา setup ขึ้นมาเป็นราคาเดียว
เต้นส่วนใหญ่มีเครือข่ายกัน ตั้งราคาไล่ๆกันอยู่แล้ว เพื่อความอยู่รอดร่วมกัน
-
ถ้าเจอรถอย่าง LN 106 ,MX5 NA , Landcruiser ตั้งราคาแพงมาก มีหน่วยงานไหนมารับผิดชอบบ้างล่ะ
คือสินค้ามือ 2 มันไม่มีการกำหนดราคาตายตัว ขึ้นกับตลาด ป้ายแดงจะแพงหรือถูกแค่ไหนก็ตาม อยู่ที่สภาพตลาดขณะนั้นมากกว่าเขาต้องการหรือไม่ กลุ่มคนซื้อรับได้ที่ราคาประมาณไหน นั่นละคือตัวกำหนดราคาของมัน
-
ราคากลางคือราคาส่วนมากที่คนพอใจจะซื้อและเต้นท์ยินดีจะขายนั้นแหละครับ ไม่มีใครรับผิดชอบหรอก
-
ผมว่ารถมือสองคือราคาที่สามารรถขายได้ ขายต่ำขายเร็วคือกำไรครับ ส่วนขายแพงแต่ไม่มีคนซื้อมันก็ติดคอครับดีไม่ดีราคาตกไปอีก เลยต้องขายให้แพงที่สุดเท่าที่ยังมีคนซื้ออยู่
รถแพงคนก็กลัวซ่อมครับ ราคาตกไว
แบบนี้แหละที่เค้าว่าคนซื้อรถแพงต้องรวยจริงๆ จะบอกว่าไม่ซื้อมาขายต่อก็เถอะแต่รถยนต์เป็นอะไรที่ไม่แน่นอนครับ
-
ก็เนื่องมาจาก สถาบันการเงิน(ธนาคาร) และ ไฟแนนซ์ ด้วยละคับ อันนี้น่าจะมีส่วนเกิน70% ด้วยซ้ำ
เอาง่ายๆ สมมุติ วีออสปี2010 เกียร์AT สีขาว ไฟแนนซ์ ตั้งยอดผ่อนไว้สูงสุด270000บาท แต่เต้นตังขาย 350000
ส่วนต่าง80000บาท ในส่วนนี้ไปออกรถใหม่ดีกว่าไหมละคับ ดอกเบี้ยถูกกว่า VATรถมือสอง ก็ไม่มี
ไฟแนนซ์นี่แหละคือ คนตั้งราคากลาง ตัวจริงเสียงจริงเลย