Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: JeansZ ที่ มีนาคม 07, 2015, 13:02:12
-
ตอนนี้มีความคิดว่าจะซื้อรถ SUV สำหรับใช้ขับออกทริป และจะใช้เป็นรถขับประจำคู่กับ Fiesta ecoboost และคิดว่าจะใช้ยาวเลยครับ เผื่อตอนมีครอบครัวเลย ตอนแรกก็คิดว่าจะใช้ Ecoboost ยาวๆ เลย แต่เมื่อสัปดาห์ก่อน เพื่อนๆ มารวมตัวกันเพื่อรายงานตัวเข้ารับปริญญา ก็เลยถือโอกาสรวมกลุ่มกันไปเที่ยวเชียงใหม่ โดยใช้รถผม แต่ปรากฏว่าที่นั่งไม่พอครับเพราะเพื่อนๆ ในกลุ่มมี 6 คน ไหนจะสัมภาระอีก ทำให้เพื่อนต้องเอารถไปอีกคันนึง (All new Dmax 2 ประตู) ทำให้มีค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นมา เพราะทุกคนจะหารค่าน้ำมันกัน ด้วยเหตุนี้ ทำให้ผมมองเห็นความสำคัญของรถ SUV ขึ้นมาครับ แต่เนื่องจากราคาสูงผมเลยดูเป็นมือสอง แล้วก็มารู้สึกโอเคกับ Isuzu MU 7 ครับ ราคาตกอย่างน่าใจหาย เพราะราคาตามเต็นท์ และตามเว็บรถมือสอง กระจุกอยู่ที่ 4 แสนปลายๆ ถึง 6 แสนเท่านั้น ตอนแรกคิดว่าราคาน่าจะ 7 แสนไปจนถึงเฉียดล้านเหมือนคู่แข่งอย่าง Fortuner
คันที่ผมไปดูมาวันก่อนเป็นรุ่น Activo ขับ4 ปี 2009 ราคา 550,000 แต่ยังไม่ได้ลองขับ แต่พอได้สัมผัสแล้วคิดว่ารุ่นนี้แหละใช่เลย มีคำถามตามนี้ครับ
- ตัวนี้มีปัญหาหรือ defect อะไรบ้างไหมครับ แล้วแก้จบไหม
- อะไหล่รุ่นนี้ยังหาง่ายอยู่ไหมครับ
- ทำไมราคาถึงตกมาเยอะแบบนี้ครับ ทั้งๆ ที่ควรจะเป็นเจ้าตลาด ราคาขายต่อไม่ควรตกมาก
- ถ้าต้องการซ่อมหรือเช็คสภาพ เอาเข้าศูนย์หรืออู่นอกดีครับ ค่าใช้จ่ายเยอะไหม
- เปลี่ยนพวงมาลัยเป็นของ All new Dmax พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงได้ไหมครับ
ตัวอย่างรถจาก one2car คันที่อยู่ในสายตา
http://showroom.one2car.com/carDetail.aspx?car_id=b12150066 (http://showroom.one2car.com/carDetail.aspx?car_id=b12150066)
http://www.one2car.com/ISUZU_MU-7/K12120088 (http://www.one2car.com/ISUZU_MU-7/K12120088)
http://www.one2car.com/ISUZU_MU-7/A21150539 (http://www.one2car.com/ISUZU_MU-7/A21150539)
ปล. อีกเหตุผลหนึ่งที่ต้องการซื้อรถ SUV เพิ่ม คือเพื่อนผมคนนึงบ่นว่าเบาะหลัง fiesta ecoboost นั่งไม่สบายด้วยครับต้องขยับไปมาตลอด ผมเลยคิดว่าไม่ควรใช้ Fiesta ecoboost เป็นรถครอบครัว
-
MU7 ช่วงล่างยังเป็นแบบกระบะใส่หลังคา ไม่ให้ความรู้สึกเป็น SUV เลยครับ คล้ายไทรุ่ง ทำใส่หลังแค่นั้น
ถ้าเป็นผมจะมองรถมือสองราคานี้
PAJARO SPORT ,TRAILBLAZER ก็น่าสนใจครับ ช่วงล่างดีกว่า MU7 ชัดเจน
-
ทำไมไม่มอง Fortuner รุ่น 3.0 V 4x4 หรือ 2.7v 4x4 แทน ล่ะครับ ได้ที่ราคาแพงกว่าหน่อยนึงหรือปีเก่ากว่าหน่อยนึง แต่โดยรวมแล้วรถพวกนี้ไม่มีปัญหาอะไร ถ้าได้สภาพดีดูรถเป็น ความประหยัดไม่ได้แตกต่างกันเลยครับสำหรับรถพวกนี้ MU7 จะกินน้ำมันประมาณ 10-12 โล / ลิตร Fortuner ดีเซลกินอยู่ที่ 10-10.5 km/l แต่ภาพโดยรวม Fortuner ดีกว่า การใช้งานดีกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นตามหลังมีน้อยกว่าและยิ่งใช้ระยะยาว มั่นใจกว่า ISUZU แน่นอน
เวลาขับขี่ Fortuner ให้สมรรถถนะดี แต่ Mu 7 รุ่นติดโคลงกว่า ๆ นิด ๆ เวลาขับขี่เหมือนจะใหญ่เทอะทะกว่า For
ส่วนความนิ่มนวลผมให้เหมือน MU7 เหมือนจะนิ่มกว่าในการเซทแหนบออกมา แต่ก็โคลงเวียนหัวกว่า
- แอร์ ทั้ง 2 ตัวไม่มี HEATER ทั้งคู่ ของ ISUZU รุ่นเดิมเป็น แอร์เตาแก๊สด้วย แอร์เป่าหัวโดยตรงไข้แดรกเลยเวลาเป็นคนนั่งหลังแถว 2 เพราะแอร์ตัดต่อเร็วมาก ไม่ใช่เสถียรนะครับแต่มันตัดให้เย็นจัดอย่างเดียว ยอมรับว่าเย็นมาก ขณะที่อากาศภายนอกร้อน พอขึ้นรถมาหนาว แต่พอลงจากรถร้อนจัด หน้าร้อนผ่าวเลยครับ ไข้แดกเพราะแบบนี้ ถ้าไปออกทริปเข้าป่าขึ้นดอย เจอแอร์แบบนี้ ไม่เป็นไรครับ คนในเวปนี้บอกให้หาเสื้อหนาวมาใส่ ลองดูแล้วกันว่าไหวไหม For แอร์ดูดีกว่าครับไม่เย็นเกินไป เย็นเร็วเหมือนกัน ผมขับคนเดียวตลอดรู้สึกชอบมากกว่าแอร์ของ MU7
แต่ต้องเข้าใจว่าทั้ง 2 ตัวเป็นแอร์แหกตาทั้งคู่
เบาะแถว 3 MU7 ไม่ได้เซทมาเพื่อนั่งเท่าไหร่ ไม่สบายเอาเลย เครดิตนี้ยกให้เบาะฟอร์สบายมากกว่าเยอะ เพราะเป็นเบาะพับทั้งตัวแบบยกขึ้นทำให้ได้เบาะขนาดใหญ่ที่หย่อนขา
- เวลานำไปออกทริปให้เครดิต ฟอร์จูเนอร์ดีกว่าหลาย แง่มุม เนื่องจากรถไปในร่องต่างๆ การลุย ดีกว่า รถไม่ใหญ่เท่า MU7 เวลาต้องออกทริปบ่อย ๆจะรู้ว่าต้องแต่งเติมเสริม หรือซ่อมยังไง Fortuner มีของให้ซ่อมให้แต่งในตลาดเพียบ หมายถึงของเล่นงานออฟโรดน่ะครับ ไม่ใช่งานคลองถม ขณะเดียวกันของ MU7 เริ่มหาของไม่ได้แล้ว ระยะยาวแพ้ Fortuner ทุกกระบวนท่า
MU7 มีจุดอ่อนตรงเกียร์ด้วยนะครับว่าวิ่งประมาณ 3 แสนโลเกียร์มักพัง ไม่รุ้ใช้เกียร์พัฒนาร่วมกันกับของ GM อีกหรือเปล่า จึงพังไวเช่นนี้ GM มันคบไม่ได้อยู่แล้วตั้งแต่สมัยทำ ISUZU TROOPER ก็แบบนี้ ค่าซ่อมอู่นอกประมาณ 3 หมื่น พังแทบทุกคัน แต่ Fortuner ใช้งานหนักได้ดีกว่าทนทานกว่ามากเกียร์ไม่พัง ถ้าไม่ได้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ผิดเบอร์หรือเอาน้ำมันเกียร์ยี่ห้ออื่นมาใส่แทนของ TOYOTA รับรองเกียร์อยู่ยาวมากเกิน 4 แสนโลผมเห็นก็ยังไม่พังสำหรับคนรู้จักที่เขาใช้อยู่และออกทริปบ่อยด้วย ( น้ำมันเกียร์รุ่นนี้ของพี่โตใช้ T-IV แท้ของโตโยต้าเท่านั้นห้ามเอายี่ห้ออื่นมาใส่ ) ถ้ารุ่นใหม่จะใช้น้ำมันเกียร์เบอร์ ATF-WS แต่ความทนทานของเกียร์จะลดลงเล็กน้อย
-
ฟอร์จูนเนอร์น่าสนใจกว่าครับ ถ้าไม่รีบรอซื้อซักปลายปีดีกว่าครับเพราะตัวใหม่จะออกแล้วราคามือสองน่าจะร่วงอีกพอสมควรแล้วค่อยช้อนเอา
-
ผมใช้ mu7 choiz ก่อนเปลี่ยนโฉมเป็น mux ครับ เป็น ppv นะครับคือกระบะดัดแปลง ไม่ใช่ suv ครับ
-ไม่ต้องกังวลเรื่องอะไหล่หรือศูนย์ครับ
-พวงมาลัยไม่มีปุ่มควบคุมใดๆครับ
ถ้าต้องการขนผู้โดยสาร7คนก็ok ครับ, แต่เบาะพับได้แค่แถว3 ปรับราบไม่ได้, รถจะโคลงๆ หน่อยตามประสา ppv
ผมว่าเก็บตังค์ รอมีครอบครัวก่อนดีกว่าครับ หรือรอมือ 2 mux ก็ได้พวงมาลัยมีปุ่มควบคุมด้วย, option เยอะกว่า
mu7 ,ไว้ขับจริงๆ ไม่มีลูกเล่นอะไรเลย, แต่ผมก็คงใช้ต่อไป (ฮาาาาาาาาา)
-
เรื่องซ่อมบำรุงไม่น่าห่วงครับ เพราะใช้อะไหล่ร่วมกับdmaxไปได้เว้นแต่ตัวถังท่อนหลังนี่แหละน่าจะหายากกว่า การขับขี่โดยสารผมชอบมากกว่าจูนอีกนะถึงหลังเป็นแหนบก็เหอะ แต่ที่ราคามันตกเพราะมันเปลี่ยนรุ่นไปแล้วก่อนแถมดีไซน์มันไม่ค่อยโดนดูแข็งเกินไปไม่สวยอย่างแร สมัยมันป้ายแดงก็ขายไม่ค่อยดีเท่าไหรคนที่ซื้อส่วนมากเป็นแฟนอีซูซุจริงๆหรือมองรถที่คุณลักษณะการใช้งานได้มากกว่าดีไซน์หรืออฟชันต่างๆ ส่วนพวงมาลัยเปลี่ยนกันได้อยู่แล้วล่ะก็เดินสายไฟต่อชุดมัลติฟังก์ชันก็ได้ ถ้าชอบก็จัดได้หรือจะมองปาเจโรสปอร์ตก็น่าสนใจดีรถปีใหม่เช่นกันราคาไม่แรงแถมช่วงล่างดีกว่าหรือจะมองฟอร์จูนเนอร์ก็ได้แต่ก็จะได้รถสภาพโทรมกว่าครับ
-
- เวลานำไปออกทริปให้เครดิต ฟอร์จูเนอร์ดีกว่าหลาย แง่มุม เนื่องจากรถไปในร่องต่างๆ การลุย ดีกว่า รถไม่ใหญ่เท่า MU7 เวลาต้องออกทริปบ่อย ๆจะรู้ว่าต้องแต่งเติมเสริม หรือซ่อมยังไง Fortuner มีของให้ซ่อมให้แต่งในตลาดเพียบ หมายถึงของเล่นงานออฟโรดน่ะครับ ไม่ใช่งานคลองถม ขณะเดียวกันของ MU7 เริ่มหาของไม่ได้แล้ว ระยะยาวแพ้ Fortuner ทุกกระบวนท่า
MU7 มีจุดอ่อนตรงเกียร์ด้วยนะครับว่าวิ่งประมาณ 3 แสนโลเกียร์มักพัง ไม่รุ้ใช้เกียร์พัฒนาร่วมกันกับของ GM อีกหรือเปล่า จึงพังไวเช่นนี้ GM มันคบไม่ได้อยู่แล้วตั้งแต่สมัยทำ ISUZU TROOPER ก็แบบนี้ ค่าซ่อมอู่นอกประมาณ 3 หมื่น พังแทบทุกคัน แต่ Fortuner ใช้งานหนักได้ดีกว่าทนทานกว่ามากเกียร์ไม่พัง ถ้าไม่ได้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ผิดเบอร์หรือเอาน้ำมันเกียร์ยี่ห้ออื่นมาใส่แทนของ TOYOTA รับรองเกียร์อยู่ยาวมากเกิน 4 แสนโลผมเห็นก็ยังไม่พังสำหรับคนรู้จักที่เขาใช้อยู่และออกทริปบ่อยด้วย ( น้ำมันเกียร์รุ่นนี้ของพี่โตใช้ T-IV แท้ของโตโยต้าเท่านั้นห้ามเอายี่ห้ออื่นมาใส่ ) ถ้ารุ่นใหม่จะใช้น้ำมันเกียร์เบอร์ ATF-WS แต่ความทนทานของเกียร์จะลดลงเล็กน้อย
http://www.mu7club.com/board/index.php?topic=11925.0 (http://www.mu7club.com/board/index.php?topic=11925.0)
น่ากลัวตามที่ท่านว่าจริงๆ ครับ
-
- เวลานำไปออกทริปให้เครดิต ฟอร์จูเนอร์ดีกว่าหลาย แง่มุม เนื่องจากรถไปในร่องต่างๆ การลุย ดีกว่า รถไม่ใหญ่เท่า MU7 เวลาต้องออกทริปบ่อย ๆจะรู้ว่าต้องแต่งเติมเสริม หรือซ่อมยังไง Fortuner มีของให้ซ่อมให้แต่งในตลาดเพียบ หมายถึงของเล่นงานออฟโรดน่ะครับ ไม่ใช่งานคลองถม ขณะเดียวกันของ MU7 เริ่มหาของไม่ได้แล้ว ระยะยาวแพ้ Fortuner ทุกกระบวนท่า
MU7 มีจุดอ่อนตรงเกียร์ด้วยนะครับว่าวิ่งประมาณ 3 แสนโลเกียร์มักพัง ไม่รุ้ใช้เกียร์พัฒนาร่วมกันกับของ GM อีกหรือเปล่า จึงพังไวเช่นนี้ GM มันคบไม่ได้อยู่แล้วตั้งแต่สมัยทำ ISUZU TROOPER ก็แบบนี้ ค่าซ่อมอู่นอกประมาณ 3 หมื่น พังแทบทุกคัน แต่ Fortuner ใช้งานหนักได้ดีกว่าทนทานกว่ามากเกียร์ไม่พัง ถ้าไม่ได้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ผิดเบอร์หรือเอาน้ำมันเกียร์ยี่ห้ออื่นมาใส่แทนของ TOYOTA รับรองเกียร์อยู่ยาวมากเกิน 4 แสนโลผมเห็นก็ยังไม่พังสำหรับคนรู้จักที่เขาใช้อยู่และออกทริปบ่อยด้วย ( น้ำมันเกียร์รุ่นนี้ของพี่โตใช้ T-IV แท้ของโตโยต้าเท่านั้นห้ามเอายี่ห้ออื่นมาใส่ ) ถ้ารุ่นใหม่จะใช้น้ำมันเกียร์เบอร์ ATF-WS แต่ความทนทานของเกียร์จะลดลงเล็กน้อย
http://www.mu7club.com/board/index.php?topic=11925.0 (http://www.mu7club.com/board/index.php?topic=11925.0)
น่ากลัวตามที่ท่านว่าจริงๆ ครับ
วิ่งไป 4 แสนกว่าเกียร์ออโต้คลัชท์หมดนี่มันยังไม่ทนอีกเหรอครับ vigo,fortuner คลัชท์เกียร์ออโต้เริ่มไปประมาณนี้เหมือนกัน ค่าแรงโอเวอร์ฮอลล์เกียร์ก็สามหมื่นกว่าๆพอกัน ไอ้ที่น่าระวังจริงๆน่ะเครื่องมากกว่าครับ อีซุซุยุคคอมมอนเรลนี่ฝาสูบเปราะมาก ทะยอยโก่งกันเป็นงานอดิเรก
-
ตัว 3.0 vgs น่าสนใจนะครับ เป็นรถใหญ่ที่เรี่ยวแรงดีเลย
เคยขับข้ามจังหวัด โอเคยอมรับว่าช่วงล่างไม่ค่อยดี ออกแนวนุ่มๆย้วยๆหน่อย แต่นั่งสบายครับ
มันขับดีกว่า B-Segment ทั่วๆไปนะ ผมว่าช่วงล่างไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้น
อีกตัวเลือกคือ Fortuner ครับ
ถ้าไม่รีบ รออีกหน่อย รุ่นใหม่มา ราคาร่วงเยอะแน่ๆ
เอาจริงๆ ถ้าคิดจะนั่งเยอะ SUV ไม่ตอบโจทย์หรอกครับ
หารถแนว MPV ที่เน้นนั่งน่าจะดีกว่า
-
แสดงว่าปัญหาที่น่ากลัวที่สุดคือเรื่องเกียร์หรอครับ เพราะเข้าไปอ่านดูก็แพงเอาเรื่องเหมือนกัน แต่มีทางเลือกคือโอเวอร์ฮอลล์เอา หรือใช้อะไหล่เซียงกง แต่ผมคิดว่าคงไม่น่ากลัวเท่าเกียร์ ford fiesta
ส่วนช่วงล่างที่เป็นแหนบอันนี้ผมรับได้และรู้แล้วครับ ผมเคยนั่ง Hummer H3 ของเพื่อน ก็เป็นแหนบเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้แข็งกระด้างแบบกระบะโหลดเตี้ย
-
สอยมือสอง ผมแนะนำ ปาเจโร่สปอร์ตครับ ราคาค่าตัวพอๆกัน กินน้ำมันพอๆกัน แต่ช่วงล่างไว้ใจได้กว่าเยอะ
ผมเคยนั่ง MU-7ของแฟนเก่าสมัยรถออกใหม่ๆ เส้นเชียงใหม่-เชียงราย นั่งแถวที่2 ทำให้ผมเวียนหัว อยากอ้วกมาก
ทั้งๆที่ปกติ้เป็นคนชอบขับรถ ขับรถเที่ยว ขับรถทำงานตลอด ถ้าบ้านคุณมีคนชอบเมารถ หลีกหนีให้ไกล MU-7
-
3 แสนโล ซ่อม3หมื่น ตก กม.ละ10 สตางค์เองอ่ะ ถูกนะ
ถ้าผมใช้แล้วมันพัง ผมยก 5MT ใส่ชิวๆเลย
-
เอ่อ เกียร์ออโต้ Mu-7 ใช้เกียร์ 4 speed ลูกเดียวกับ For รุ่นเก่าครับ ยี่ห้อ AISIN 30-40le ผมอ่านไปก้อเคล้มๆ นะ อิอิ มาสดุดว่าเกียร์ MU-7 ไม่ทนนี่ล่ะ 55555 เกียร์พี่โตแท้ๆ แต่กลับไม่ทน แสดงว่าวางยาให้อีผุผุ 55555
-
เอ่อ เกียร์ออโต้ Mu-7 ใช้เกียร์ 4 speed ลูกเดียวกับ For รุ่นเก่าครับ ยี่ห้อ AISIN 30-40le ผมอ่านไปก้อเคล้มๆ นะ อิอิ มาสดุดว่าเกียร์ MU-7 ไม่ทนนี่ล่ะ 55555 เกียร์พี่โตแท้ แสดงว่าวางยาให้อีผุผุ 55555
MU-7 มีเกียร์2ตัวนะครับ ตัวแรก JATCO รุ่น JE405E ใช้กับเครื่อง 3.0 146 แรงม้า ส่วนเครื่อง 3.0 VGS จะเป็นเกียร์ AISIN ครับ
-
เอ่อ เกียร์ออโต้ Mu-7 ใช้เกียร์ 4 speed ลูกเดียวกับ For รุ่นเก่าครับ ยี่ห้อ AISIN 30-40le ผมอ่านไปก้อเคล้มๆ นะ อิอิ มาสดุดว่าเกียร์ MU-7 ไม่ทนนี่ล่ะ 55555 เกียร์พี่โตแท้ แสดงว่าวางยาให้อีผุผุ 55555
MU-7 มีเกียร์2ตัวนะครับ ตัวแรก JATCO รุ่น JE405E ใช้กับเครื่อง 3.0 146 แรงม้า ส่วนเครื่อง 3.0 VGS จะเป็นเกียร์ AISIN ครับ
Jatco ต้องพยายามเลี่ยงครับ
Aisin นี่ ผ่าน :D
-
เอ่อ เกียร์ออโต้ Mu-7 ใช้เกียร์ 4 speed ลูกเดียวกับ For รุ่นเก่าครับ ยี่ห้อ AISIN 30-40le ผมอ่านไปก้อเคล้มๆ นะ อิอิ มาสดุดว่าเกียร์ MU-7 ไม่ทนนี่ล่ะ 55555 เกียร์พี่โตแท้ แสดงว่าวางยาให้อีผุผุ 55555
MU-7 มีเกียร์2ตัวนะครับ ตัวแรก JATCO รุ่น JE405E ใช้กับเครื่อง 3.0 146 แรงม้า ส่วนเครื่อง 3.0 VGS จะเป็นเกียร์ AISIN ครับ
Jatco ต้องพยายามเลี่ยงครับ
Aisin นี่ ผ่าน :D
ตัวที่ผมเล็งเป็นรุ่น Activo ปี 2008 ขึ้นไป อินเตอร์วางบนเครื่อง แบบในลิงค์ที่ผมแปะไว้ ตัวนี้ใช้เกียร์ของ Aisin ใช่ไหมครับ
-
น่าจะใช่ครับ
-
ผมอยากให้ลองไปขับก่อนนะ ผมว่าช่วงล่างกระบะ PPV มันเด้งๆ มึนๆครับ
ถ้าทริปไม่โหด แนะนำ Wish Spacewagon แถว3นั่งสบายกว่าด้วยไม่มึนด้วย
ส่วนเรื่องอะไหล่การบำรุงผมไม่ทราบครับ แต่ถ้าราคาขายต่อตกก็คงเป็นเพราะคนไม่ค่อยเล่น คนไปเล่นจูนกันหมด
-
Mu7 แถวสองนั่งสบายสุด
นี่คือเรื่องที่เด่นสุดของมันครับ อย่างอื่น ไม่ต่างจากดีแมกเท่าไหร่
ถ้าลุย คันมันยาว ผมว่าฟอร์ดีกว่านะ
ราคา ปีที่ว่า คงหล่นได้อีกไม่มากเท่าไหร่แล้วครับ ถ้าได้สภาพดี ชอบก็พอได้นะราคานีั้
หาๆอยู่ จะเอามาแทนเจ้าคาเมโออยู่เหมือนกันครับ
-
เอ่อ เกียร์ออโต้ Mu-7 ใช้เกียร์ 4 speed ลูกเดียวกับ For รุ่นเก่าครับ ยี่ห้อ AISIN 30-40le ผมอ่านไปก้อเคล้มๆ นะ อิอิ มาสดุดว่าเกียร์ MU-7 ไม่ทนนี่ล่ะ 55555 เกียร์พี่โตแท้ แสดงว่าวางยาให้อีผุผุ 55555
MU-7 มีเกียร์2ตัวนะครับ ตัวแรก JATCO รุ่น JE405E ใช้กับเครื่อง 3.0 146 แรงม้า ส่วนเครื่อง 3.0 VGS จะเป็นเกียร์ AISIN ครับ
Jatco ต้องพยายามเลี่ยงครับ
Aisin นี่ ผ่าน :D
ตัวที่ผมเล็งเป็นรุ่น Activo ปี 2008 ขึ้นไป อินเตอร์วางบนเครื่อง แบบในลิงค์ที่ผมแปะไว้ ตัวนี้ใช้เกียร์ของ Aisin ใช่ไหมครับ
ขอแก้ไขนิดหนึ่ง ตั้งแต่ตัวปี 2007 ที่ใช้เทอร์โบ VGS ครับ
ใช้ครับ
-
ตอนนี้มีความคิดว่าจะซื้อรถ SUV สำหรับใช้ขับออกทริป และจะใช้เป็นรถขับประจำคู่กับ Fiesta ecoboost และคิดว่าจะใช้ยาวเลยครับ เผื่อตอนมีครอบครัวเลย ตอนแรกก็คิดว่าจะใช้ Ecoboost ยาวๆ เลย แต่เมื่อสัปดาห์ก่อน เพื่อนๆ มารวมตัวกันเพื่อรายงานตัวเข้ารับปริญญา ก็เลยถือโอกาสรวมกลุ่มกันไปเที่ยวเชียงใหม่ โดยใช้รถผม แต่ปรากฏว่าที่นั่งไม่พอครับเพราะเพื่อนๆ ในกลุ่มมี 6 คน ไหนจะสัมภาระอีก ทำให้เพื่อนต้องเอารถไปอีกคันนึง (All new Dmax 2 ประตู) ทำให้มีค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นมา เพราะทุกคนจะหารค่าน้ำมันกัน ด้วยเหตุนี้ ทำให้ผมมองเห็นความสำคัญของรถ SUV ขึ้นมาครับ แต่เนื่องจากราคาสูงผมเลยดูเป็นมือสอง แล้วก็มารู้สึกโอเคกับ Isuzu MU 7 ครับ ราคาตกอย่างน่าใจหาย เพราะราคาตามเต็นท์ และตามเว็บรถมือสอง กระจุกอยู่ที่ 4 แสนปลายๆ ถึง 6 แสนเท่านั้น ตอนแรกคิดว่าราคาน่าจะ 7 แสนไปจนถึงเฉียดล้านเหมือนคู่แข่งอย่าง Fortuner
คันที่ผมไปดูมาวันก่อนเป็นรุ่น Activo ขับ4 ปี 2009 ราคา 550,000 แต่ยังไม่ได้ลองขับ แต่พอได้สัมผัสแล้วคิดว่ารุ่นนี้แหละใช่เลย มีคำถามตามนี้ครับ
- ตัวนี้มีปัญหาหรือ defect อะไรบ้างไหมครับ แล้วแก้จบไหม
- อะไหล่รุ่นนี้ยังหาง่ายอยู่ไหมครับ
- ทำไมราคาถึงตกมาเยอะแบบนี้ครับ ทั้งๆ ที่ควรจะเป็นเจ้าตลาด ราคาขายต่อไม่ควรตกมาก
- ถ้าต้องการซ่อมหรือเช็คสภาพ เอาเข้าศูนย์หรืออู่นอกดีครับ ค่าใช้จ่ายเยอะไหม
- เปลี่ยนพวงมาลัยเป็นของ All new Dmax พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงได้ไหมครับ
ตัวอย่างรถจาก one2car คันที่อยู่ในสายตา
http://showroom.one2car.com/carDetail.aspx?car_id=b12150066 (http://showroom.one2car.com/carDetail.aspx?car_id=b12150066)
http://www.one2car.com/ISUZU_MU-7/K12120088 (http://www.one2car.com/ISUZU_MU-7/K12120088)
http://www.one2car.com/ISUZU_MU-7/A21150539 (http://www.one2car.com/ISUZU_MU-7/A21150539)
ปล. อีกเหตุผลหนึ่งที่ต้องการซื้อรถ SUV เพิ่ม คือเพื่อนผมคนนึงบ่นว่าเบาะหลัง fiesta ecoboost นั่งไม่สบายด้วยครับต้องขยับไปมาตลอด ผมเลยคิดว่าไม่ควรใช้ Fiesta ecoboost เป็นรถครอบครัว
- ตัวนี้มีปัญหาหรือ defect อะไรบ้างไหมครับ แล้วแก้จบไหม
เรื่องนี้ ไม่ค่อยมีปัญหา ปัญหาแถบจะไม่มี
- อะไหล่รุ่นนี้ยังหาง่ายอยู่ไหมครับ
หาง่าย สั่งกับศูนย์บริการได้หรือซื้อที่ร้านอะไหล่ทั่วไปๆได้เลยครับ
- ทำไมราคาถึงตกมาเยอะแบบนี้ครับ ทั้งๆ ที่ควรจะเป็นเจ้าตลาด ราคาขายต่อไม่ควรตกมาก
เนื่องมาจากมี MU-X ออกมาก ทำให้ราคาตกครับ
- ถ้าต้องการซ่อมหรือเช็คสภาพ เอาเข้าศูนย์หรืออู่นอกดีครับ ค่าใช้จ่ายเยอะไหม
อู่นอกจะได้ราคาถูกกว่าของศูนย์บริการ
มีห่วง 2 เรื่อง
- น้ำมันเกียร์ ++ใช้น้ํามันเกียร์ Mobil ATF 3309 เท่านั้น++
- ใช้น้ำมันเฟืองท้ายใช้ เบอร์ 90 หรือ เบอร์ 140 ก็ได้ ++ที่จำเป็นต้องมีรหัส GL-5 เท่านั้น++
- เปลี่ยนพวงมาลัยเป็นของ All new Dmax พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงได้ไหมครับ
อันนี้ไม่แน่ใจครับ
-
- เวลานำไปออกทริปให้เครดิต ฟอร์จูเนอร์ดีกว่าหลาย แง่มุม เนื่องจากรถไปในร่องต่างๆ การลุย ดีกว่า รถไม่ใหญ่เท่า MU7 เวลาต้องออกทริปบ่อย ๆจะรู้ว่าต้องแต่งเติมเสริม หรือซ่อมยังไง Fortuner มีของให้ซ่อมให้แต่งในตลาดเพียบ หมายถึงของเล่นงานออฟโรดน่ะครับ ไม่ใช่งานคลองถม ขณะเดียวกันของ MU7 เริ่มหาของไม่ได้แล้ว ระยะยาวแพ้ Fortuner ทุกกระบวนท่า
MU7 มีจุดอ่อนตรงเกียร์ด้วยนะครับว่าวิ่งประมาณ 3 แสนโลเกียร์มักพัง ไม่รุ้ใช้เกียร์พัฒนาร่วมกันกับของ GM อีกหรือเปล่า จึงพังไวเช่นนี้ GM มันคบไม่ได้อยู่แล้วตั้งแต่สมัยทำ ISUZU TROOPER ก็แบบนี้ ค่าซ่อมอู่นอกประมาณ 3 หมื่น พังแทบทุกคัน แต่ Fortuner ใช้งานหนักได้ดีกว่าทนทานกว่ามากเกียร์ไม่พัง ถ้าไม่ได้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ผิดเบอร์หรือเอาน้ำมันเกียร์ยี่ห้ออื่นมาใส่แทนของ TOYOTA รับรองเกียร์อยู่ยาวมากเกิน 4 แสนโลผมเห็นก็ยังไม่พังสำหรับคนรู้จักที่เขาใช้อยู่และออกทริปบ่อยด้วย ( น้ำมันเกียร์รุ่นนี้ของพี่โตใช้ T-IV แท้ของโตโยต้าเท่านั้นห้ามเอายี่ห้ออื่นมาใส่ ) ถ้ารุ่นใหม่จะใช้น้ำมันเกียร์เบอร์ ATF-WS แต่ความทนทานของเกียร์จะลดลงเล็กน้อย
http://www.mu7club.com/board/index.php?topic=11925.0 (http://www.mu7club.com/board/index.php?topic=11925.0)
น่ากลัวตามที่ท่านว่าจริงๆ ครับ
วิ่งไป 4 แสนกว่าเกียร์ออโต้คลัชท์หมดนี่มันยังไม่ทนอีกเหรอครับ vigo,fortuner คลัชท์เกียร์ออโต้เริ่มไปประมาณนี้เหมือนกัน ค่าแรงโอเวอร์ฮอลล์เกียร์ก็สามหมื่นกว่าๆพอกัน ไอ้ที่น่าระวังจริงๆน่ะเครื่องมากกว่าครับ อีซุซุยุคคอมมอนเรลนี่ฝาสูบเปราะมาก ทะยอยโก่งกันเป็นงานอดิเรก
เกียร์ใช้งานมาแล้ว 3 - 4 แสนกิโล ชุดคลัทช์เกียร์ออโต้ผ้าชุดคลัทช์หมดกันแล้วละครับ
อีซุซุ คคอมมอนเรล ฝาสูบไม่ได้เปราะขนาดนั้น ที่ฝาสูบโกงน้ำหม้อน้ำรั่วหรือหม้อน้ำตัน และไม่เคยดูแลรักษาเสียมากกว่าครับ