Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ซิ่งเข้าส้วม ที่ มีนาคม 11, 2015, 11:51:19
-
เช่นถ้าผมต้องการขับที่ 120 กม./ชม. ผมต้องเหยียบคันเร่งให้รอบค้างที่ 2500 มันถึงจะความเร็วคงที่ที่ 120 ได้
ผมเลยสงสัยว่า ถ้าผมเหยียบหนักๆ ไปก่อนให้ความเร็วมันถึง 120 แล้วค่อยลดรอบลงมา 2500 กับ เหยียบที่ 2500 ค้างไว้แล้วให้ความเร็วมันค่อยๆ ขึ้น อันไหนประหยัดกว่ากันครับ
-
จากประสบการณ์ผมน่ะค่อยๆเหยียบขึ้นไปจะประหยัดกว่าครับ พอมันถึงความเร็วที่เราต้องการให้ผ่อนเท้าลงลงนิดนึง รอบเครื่องจะลดลงแต่ความเร็วจะยังคงที่อยู่ครับ ;D
-
เวลาผมขับ รถcvt ผมจะค่อยๆส่งมันขึ้นไป เคยกดเเรงๆเเล้วมีความรู้สึกว่ารอบมันสูงเเต่รถไม่ค่อยไป
-
เกียร์ทุกชนิดค่อยๆเหยียบแช่จะประหยัดน้ำมันและขับนุ่มนวลกว่าครับ
ผมเคยเจอไมโครบัสคันหนึ่ง(ตอนนี้ไมโครบัสเจ๊งไปเรียบร้อย) ขับลากเกียร์1คนเครื่องหอนแล้วก็ปล่อยแล้วก็เหยียบใหม่ตลอดทาง นั่งแล้วชวนอ้วกมาก
-
กด cruise คับ สังเกตได้ว่ารถที่มีระบยวาวแปรผัน รอบจะตกลงอีกหน่อยโดยที่ความเร็วเท่าเดิม
-
ถ้าแบบผมนะครับ สมมุตินะครับ ติดไฟแดงอยู่ ถ้าคุณตั้งความเร็วใจในคุณไว้ว่าจะขับประมาณ 80-90 กม./ชม. พอไฟเขียวปั๊บเหยียบส่ง (รอบไม่เกิน 3500 รตน.) พอถึงสัก 80 กม./ชม. ถึงที่คุรกำหนดแล้ว รถลอยลมแล้ว คุณถอนเท้าจากคันเร่งนิดนึง (ประมาณว่าให้เกียร์มันเปลี่ยน) รอบจาก 3500 - 4000 รตน. มันจะตงลงมาอยู่ประมาณ 1600 - 1800 รตน. แล้วก็ขับชิวไปครับ สังเกตช่วงแรกห้นาปัทม์มันโชว์อัตราสิ้นเปลือง 7-11 กม./ลิตร หลังจากลอยลำแล้ว ถอนคังเร่งให้เกียรืมันเปลี่ยน รอบมันตกแล้ว อัตราสิ้นเปลืองตามหน้าปัทม์อยู่ราวๆ 20 กม./ลิตร up ครับ ผมใช้สูตรแบบนี้แหละ ค่าเฉลี่ยออกมาราวๆ 17-19 กม./ลิตรเลยครับ (หมายถึงตอนเดินทางนะ ในเมืองอีกเรื่องนึง คุมความเร็วลำบาก เด๋วๆหยุด เด๋วๆเร่ง)
-
ถ้าแบบผมนะครับ สมมุตินะครับ ติดไฟแดงอยู่ ถ้าคุณตั้งความเร็วใจในคุณไว้ว่าจะขับประมาณ 80-90 กม./ชม. พอไฟเขียวปั๊บเหยียบส่ง (รอบไม่เกิน 3500 รตน.) พอถึงสัก 80 กม./ชม. ถึงที่คุรกำหนดแล้ว รถลอยลมแล้ว คุณถอนเท้าจากคันเร่งนิดนึง (ประมาณว่าให้เกียร์มันเปลี่ยน) รอบจาก 3500 - 4000 รตน. มันจะตงลงมาอยู่ประมาณ 1600 - 1800 รตน. แล้วก็ขับชิวไปครับ สังเกตช่วงแรกห้นาปัทม์มันโชว์อัตราสิ้นเปลือง 7-11 กม./ลิตร หลังจากลอยลำแล้ว ถอนคังเร่งให้เกียรืมันเปลี่ยน รอบมันตกแล้ว อัตราสิ้นเปลืองตามหน้าปัทม์อยู่ราวๆ 20 กม./ลิตร up ครับ ผมใช้สูตรแบบนี้แหละ ค่าเฉลี่ยออกมาราวๆ 17-19 กม./ลิตรเลยครับ (หมายถึงตอนเดินทางนะ ในเมืองอีกเรื่องนึง คุมความเร็วลำบาก เด๋วๆหยุด เด๋วๆเร่ง)
ผมก็ขับแบบเดี่ยวกันครับ แต่เป็นเกียร์ออโต้ธรรมดา คือเวลาขับจะคอยสังเกตว่าเข้าโหมดประหยัดน้ำมันหรือยัง
ที่แรกเข้าใจว่าถ้าขับ 90 กม จะประหยัด ปรากฏว่าเวลาเร่งความเร็วพอถึงก็ยังไม่ประหยัด แต่พอผ่อนคันเร่ง แล้วกดซ้ำอีกครั้ง
คราวนี้มันเข้าโหมดประหยัด ผมเลยใช้วิธีขับแบบนี้ ซึ่งพอเปรียบเทียบพบว่าเฉลี่ยประหยัดว่าขับแบบเดิม เกือบ 2 กม/ลิตรเลยครับ
-
ถ้าแบบผมนะครับ สมมุตินะครับ ติดไฟแดงอยู่ ถ้าคุณตั้งความเร็วใจในคุณไว้ว่าจะขับประมาณ 80-90 กม./ชม. พอไฟเขียวปั๊บเหยียบส่ง (รอบไม่เกิน 3500 รตน.) พอถึงสัก 80 กม./ชม. ถึงที่คุรกำหนดแล้ว รถลอยลมแล้ว คุณถอนเท้าจากคันเร่งนิดนึง (ประมาณว่าให้เกียร์มันเปลี่ยน) รอบจาก 3500 - 4000 รตน. มันจะตงลงมาอยู่ประมาณ 1600 - 1800 รตน. แล้วก็ขับชิวไปครับ สังเกตช่วงแรกห้นาปัทม์มันโชว์อัตราสิ้นเปลือง 7-11 กม./ลิตร หลังจากลอยลำแล้ว ถอนคังเร่งให้เกียรืมันเปลี่ยน รอบมันตกแล้ว อัตราสิ้นเปลืองตามหน้าปัทม์อยู่ราวๆ 20 กม./ลิตร up ครับ ผมใช้สูตรแบบนี้แหละ ค่าเฉลี่ยออกมาราวๆ 17-19 กม./ลิตรเลยครับ (หมายถึงตอนเดินทางนะ ในเมืองอีกเรื่องนึง คุมความเร็วลำบาก เด๋วๆหยุด เด๋วๆเร่ง)
ผมก็ขับแบบเดี่ยวกันครับ แต่เป็นเกียร์ออโต้ธรรมดา คือเวลาขับจะคอยสังเกตว่าเข้าโหมดประหยัดน้ำมันหรือยัง
ที่แรกเข้าใจว่าถ้าขับ 90 กม จะประหยัด ปรากฏว่าเวลาเร่งความเร็วพอถึงก็ยังไม่ประหยัด แต่พอผ่อนคันเร่ง แล้วกดซ้ำอีกครั้ง
คราวนี้มันเข้าโหมดประหยัด ผมเลยใช้วิธีขับแบบนี้ ซึ่งพอเปรียบเทียบพบว่าเฉลี่ยประหยัดว่าขับแบบเดิม เกือบ 2 กม/ลิตรเลยครับ
+1 ตามนี้ครับ
-
ค่อยๆเหยียบขึ้นไปแล้วแช่อยู่แบบนั้นครับ ประหยัดกว่า สามารถที่รถจะไม่ประหยัดในความเร็วเท่ากันคือการเค้นรอบเครื่องครับ
เหยียบหนัก เหยียบๆปล่อยๆแบบในเมือง กินน้ำมันครับ
-
CVT นี่มันพูดยากจริง เพราะบอกเทียบรอบเครื่องกับเกียร์ไม่ได้ ดังนั้นแชร์จากประสบการณ์ มันก็ทำได้ทั้งสองแบบ โดยถ้าทางยาวๆไม่กีดขวางใคร ก็เลียงที่สัก 2000 กว่ารอบครับ ความเร็วจะขึ้นเองจากการแปรผันของเกียร์ หรือถ้าเร่งหน่อย ก็เหยียบ/ถอน ให้สวิงคล้ายเกียร์สเต็ป ประมาณ 3000 รอบ จนได้ความเร็วที่ต้องการค่อยผ่อนคันเร่ง
กด cruise คับ สังเกตได้ว่ารถที่มีระบยวาวแปรผัน รอบจะตกลงอีกหน่อยโดยที่ความเร็วเท่าเดิม
เบิกปุ่มจากรุ่น RX ให้หน่อยคับ
-
ตามความคิดผมนะ ถ้าเป็น CVT เหยียบแช่คับ ถ้าเป็นกระบะดีเซลเหยียบปล่อย
เสริมคับ ตอนเร่งควรให้รอบอยู่ที่ช่วงแรงบิตสูงสุด (เพราะรถมีประสิทธิติภาพสูงที่รอบเครื่องนั้น) พอได้ความเร็วแล้วก็เหยืบแบบคงที่ที่ความเร็วที่เราต้องการ ตอนผมใช้ jazz gd ผมใช้วิธีเปลี่ยนเกียรเอง 7speed mode ถ้าต้องออกตัวบ่อยๆ (ในเมืองรถติด)ประหยัดกว่าอยู่ d แบบเห็นๆ
ตอนนี้ใช้ยาริส ถ้าหยียบเบาตอนเริ่มเร่งรถจะอึดมากทำให้ต้องเติมคันเร่งอีก 10-20% ไม่ได้ดังใจเลย แต่ถ้าเริ่มออกตัวก็หยียบไปสัก15-20% เลยเหยีบแช่ไว้รถก็จะไหล่ไป ลองแล้วประหยัดกว่า เท่าที่วัดดูแบบอาทิตย์นึ่งขับแบบนี้อีกอาทิตย์ขับอีกแบบ
ถูกผิดยังไงขออภัยนะคับ
-
จริงๆต้องดูที่สมองกลไฟฟ้าสั่งเปิดลิ้นผีเสื้อมากแค่ไหนในการ stimulate คันเร่งแต่ละครั้ง ซึ่งแต่ละคันเซ็ตมาไม่เหมือนกัน
ต้องดูเป็นรุ่นๆไป ไม่ใช่แยกตามชนิดเกียร์
-
เหยียบแรงๆ หน้าจอแสดงอัตราการสิ้นเปลือง เหมือนว่าจะประหยัดกว่า แต่จริงๆแล้ว ค่อยๆเหยียบจะประหยัดกว่าครับ
-
ขับรถ ก ธรรมดา และ ออโต้ฟันเฟืองมาร่วมๆ 25 ปี
อ่านแต่ละความเห็นแล้ว ถ้าต้องเปลี่ยนเป็นขับ cvt คงทำใจลำบากน่าดู -.-"
-
ขับรถ ก ธรรมดา และ ออโต้ฟันเฟืองมาร่วมๆ 25 ปี
อ่านแต่ละความเห็นแล้ว ถ้าต้องเปลี่ยนเป็นขับ cvt คงทำใจลำบากน่าดู -.-"
CVT สมัยใหม่ขับง่ายนะครับ อัตราเร่งต่อเนื่องดี แถมไม่มีอาการกระตุกให้เสียอารมภ์
ผมขับเกียร์ธรรมดา กับรถเกียร์อัตโนมัติฟันเฟือง
พอลองมาขับ altis 1.8 ใหม่ ทำไห้ทัศนคติต่อ cvt เปลี่ยนไปเยอะครับ
เกียร์ทำงานดี ส่งกำลังได้ต่อเนื่อง เหยียบคันเร่งเท่าไร รอบเครื่องตวัดขึ้นพร้อมกับความเร็วที่เพิ่มขึ้นตามทันที
อาการที่รอบเครื่องพุ่งขึ้นไปก่อน จากนั้นความเร็วค่อยๆขึ้นตาม มันไม่มีเลยครับ
คือถ้าไม่จับผิดก็แทบจะไม่เห็นความแตกต่างถ้าเทียบกับเกียร์อัตโนมัติทั่วไป
พอมาคิดๆดู cvt มันก็ไม่ได้เลวร้าย แต่ถ้าเราลองเปิดใจ มันก็เป็นประสบการณ์การขับขี่อีกแบบนึงครับ
-
วิธีใช้เกียร์ cvt คือ เร่งถึงความเร้วที่ต้องการ แล้วยกคันเร่งขึ้นนิดหน่อย จะเป็นการคงความเร็วไว้ที่เดิมคับ แต่รอบจะลดลง แต่ความเร็วไม่ลด (ถ้าเป็นเกียร์แบบอื่น จะเป็นการผ่อนคันเร่ง) แล้วก้จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันขึ้นมากกว่าเหยียบแช่ไว้ด้วยนะคับ ผมเลยติดใจ cvt มาตลอด