Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: final ที่ มีนาคม 13, 2015, 16:26:51
-
ถ้าระหว่าง na กับ turbo นี่ต่างกันเห็นๆ แต่ฉีดตรงนี่ดีกว่าฉีดไม่ตรงยังไงหรอครับ แรงกว่าหรือประหยัดกว่าครับ
จะได้เห็นฉีดตรงในเจ้าตลาดทั้งสองเจ้าเมื่อไหร่ครับ
-
ประหยัดกว่าแน่ๆ ส่วนแรงมีหลายปัจจัยเกี่ยวข้องครับ ;D
-
ฉีดเข้ากระบอกสูบโดยตรง ไม่ต้องผ่านที่อื่นให้เสียแรงหรือน้ำมัน ข้อเสียคือความร้อนจะสูงขึ้น แต่ส่วนใหญ่เค้าออกแบบมารองรับไว้อยู่แล้ว
ได้เห็นฉีดตรงในเจ้าตลาดเมื่อไร
โตโยต้าก็มีแคมรี่ไงที่ออกมา ความจริงก็มีมาในเล็กซัสเป็น 10 ปีแล้ว
ฮอนด้า เทคโนโลยี earth dream นั่นแหละ ฉีดตรง แค่ยังไม่ลงบ้านเรา
-
ลองอ่านดูครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/Gasoline_direct_injection (http://en.wikipedia.org/wiki/Gasoline_direct_injection)
หลักๆคือมันทำยากกว่าดีเซลเพราะต้องแม่นยำในการฉีดมากกว่าครับ
-
คิดได้เท่านี้อ่ะคับ
1.ทำกำลังอัดกระบอกสูบได้สูงขึ้น กว่ายุคก่อน...จึงแรงขึ้น..หรือประหยัดขึ้น
2รอบสูงๆ ยังจ่ายน้ำมันทัน
-
ราวๆปี 2000 บล็อกเจ มีตัว 1JZ-FSE กับ 2JZ-FSE ที่มี D4 (direct injection) พ่วงมาด้วย เป็นเจไม่โบ ม้าเท่าเดิม แต่เผาไหม้ ไอเสียลดลง
-
(http://www.aa1car.com/library/gasoline_direct_injection_buick36v6.jpg)
เอาเท่าที่จำได้นะครับ เคยศึกษาเมื่อนานมาแล้ว
ข้อดีของเครื่องฉีดตรง
1. สามารถฉีดเชื้อเพลิงบางๆ แบบ Super Lean Burn ได้
เช่น ปกติ การจ่ายเชื้อเพลิงที่ Lambda = 1 ก็คือ อากาศ 14.7 ส่วน : น้ำมันเบนซิน 1 ส่วน
พอเป็น Direct Injection สามารถจ่ายเชื้อเพลิงบางได้ถึง 40 : 1
ทำให้ประหยัดกว่าเครื่องยนต์ธรรมดา ที่ output เดียวกัน
2. ลด Pumping Loss
3. ลดพวกมลพิษ NOx อะไรพวกนี้ได้ดี
ข้อเสีย
1. หัวฉีดมันแพง นี่ขนาดหัวฉีด Solinoid แบบฉีดตรง ยังแพงกว่าธรรมดาตั้งเยอะ
ถ้าเป็นหัวฉีด Piezo แบบฉีดตรง นี่เค้าว่ากันว่าแพงกว่า Solinoid ฉีดตรงราวๆ 5 เท่า (ได้เจอในเครื่องรหัส B48 ของ BMW Series 3, 4 LCI)
-
อีกหน่อย คงเป็นฉีดตรงหมด
ข้อเสียอีกอย่างคือ เสียง
ลองจาก masda3 หนวกหูมากๆ ดังกว่ารุ่นเก่า แถมไม่ใส่ฉนวนใต้ฝากระโปรง ดังไปกันใหญ่
คนขับรถค่าน้ำมันไม่ถึง 3000 แบบผม ไม่เห็นอยากได้เลย :P
-
อีกหน่อย คงเป็นฉีดตรงหมด
ข้อเสียอีกอย่างคือ เสียง
ลองจาก masda3 หนวกหูมากๆ ดังกว่ารุ่นเก่า แถมไม่ใส่ฉนวนใต้ฝากระโปรง ดังไปกันใหญ่
คนขับรถค่าน้ำมันไม่ถึง 3000 แบบผม ไม่เห็นอยากได้เลย :P
BMW F30 ก้อเป็นครับ ( น่าจะเป็นทุกรุ่นที่ใช้เครื่องรหัส N20). ไปยืนนอกรถ ตอนสตารทใหม่ๆ ถ้าตั้งใจฟัง
จะได้ยินเสียงหัวฉีดดังคล้ายๆเครื่องดีเซล
-
316i ก็ดังครับ ผมต้องโทรไปถามฝ่ายเทคนิคเลยว่าทำไมเสียงเครื่องดังแบบนี้ เขาบอกว่าเป็นเพราะหัวฉีดแรงดันสูง
ก็เลยถามต่อว่า Twin power turbo คืออะไร ครั้งแรกคิดเองว่าเป็น turbo 2 ตัว คำตอบคือ
power ที่ได้จากการฉีดตรง + turbo นั่นเอง ไม่น่าละ เหยียบแล้วพุ่งดีมากๆ
แต่พอไปเห็นคลิปของน้าแจ่มที่ใส่ turbo ในตัว jazz โฉมปัจจุบันแล้ว 0- 100 ประมาณ 6 วิเอง แล้วไต่ไปจนมิดเกจจ์ที่ 220 อย่างรวดเร็ว
เจอแบบนี้หลบสถานเดียว 555
-
เบนซินฉีดตรงบางรุ่น เสียงไม่น่าฟังเท่ากับ ดีเซลเทอร์โบบางรุ่น(รอบเดินเบา)
;D ;D ;D
-
ติดแก๊สยาก ไม่อยากได้เลย อะไหล่จะแพงอีกไหม
-
เบนซินฉีดตรงบางรุ่น เสียงไม่น่าฟังเท่ากับ ดีเซลเทอร์โบบางรุ่น(รอบเดินเบา)
;D ;D ;D
จริง
ผมชอบเสียงดีเซล Countryman มาก แต่เบนซิลยุโรปรุ่นไหม่ๆนี้เสียงไม่เอาอ่าวเลย
ยังไงผมก็ยังชอบเสียงเบนซิล Maserati อยู่ดี
-
จ่ายน้ำมันบางทำให้เกิดความร้อนสูง เป็นอันตรายต่อเครื่องไม่ใช่หรอครับ
การจ่ายน้ำมันบางๆ ฉีดไม่ตรงทำไม่ได้หรอครับ
-
ขอบคุณครับ
-
จ่ายน้ำมันบางทำให้เกิดความร้อนสูง เป็นอันตรายต่อเครื่องไม่ใช่หรอครับ
การจ่ายน้ำมันบางๆ ฉีดไม่ตรงทำไม่ได้หรอครับ
ที่เราพูดกันว่าน้ำมันบางเพราะเราเทียบจากน้ำมันและอากาศทั้งห้องเผาไหม้ครับ
แต่ถ้าดูเฉพาะตรงที่หัวเทียนกำลังจุดระเบิด ตรงนั้นไม่บางครับ ตรงนั้นกำลังพอดี จึงทำให้จุดติด
ที่ทำให้ตรงหัวเทียนกำลังพอดีได้ เพราะเราฉีดน้ำมันเข้าใกล้หัวเทียนครับ ซึ่งทำได้เฉพาะเครื่องฉีดตรง ทำให้น้ำมันหนาเฉพาะจุด
ซึ่งเครื่องฉีดไม่ตรงจะทำได้ยากกว่า แต่จะว่าไปก็มีเครื่องแบบ lean burn แบบไม่ฉีดตรงก็มีนะครับ แต่ผมก็ไม่รู้เทคนิคเหมือนกันว่าทำอย่างไร
แต่ไม่ว่าจะใช้เทคนิคใดๆ ก็แล้วแต่ ตรงตำแหน่งหัวเทียนต้องไม่หนาไม่บางครับ จึงจุดติดแล้วเครื่องไม่พัง
-
ส่วนมากมีพี่ๆตอบกันหมดเเล้ว
ถ้าจะอธิบายง่ายๆ ระหว่าง ฉีดตรง กับ ฉีดในท่อร่วมไอดี
ฉีดตรง คือการฉีดน้ำมันล้วนๆ เข้าไปในห้องเผ้าไหม้ ซึ่งจะเป็นฝอยละอองมากกว่าเเม่นยำมากกว่ามาก ในทุกความเร็วรอบไม่ว่าจะต่ำ กลาง สูง ทำให้เครื่องยนต์ รีดกำลังได้เร็วกว่า
เเต่ข้อเสียของมันก็มี คือเครื่องยนต์ต้องออกเเบบมาให้รองรับการใช้งาน (เพิ่มทุน) เเละอุปกรณ์ต่างๆก็ต้องทำงานได้อย่างถูกต้องเเม่นยำ ราคาจึงต้องสูง เฉพาะค่าหัวฉีดก็เเพงกว่าปกติเเล้ว เพราะต้องทนความร้อนภายในห้องเผาไหม้ รวมถึงความเเม่นยำในการฉีดน้ำมันในทุกความเร็วรอบ
ส่วน หัวฉีดธรรมดา ค่อนข้างนิยมใช้กับรถทั่วไปเพราะ ลงทุนต่ำ อะไหล่ถูก เทคโนโลยีไม่ซับซ้อน เเละประหยัด(เเล้วเเต่การออกเเบบ)
ฉีดธรรมดาคือฉีดภายในท่อรวมไอดี ส่วนผสมระหว่างน้ำมันกับอากาศจะถูกผสม พอวาล์วไอดีเปิด ไอดีจะถูกดูดเข้าไปในห้องเผาไหม้ พอลูกสูบเลื่อนขึ้น ไอดีบางส่วนก็จะถูกดันกลับไป
ทำให้ปริมานไอดีในห้องเผาไหม้น้อยลง เเต่มันก็เพียงพอในการจุดระเบิด ปัญหาของการฉีดเเบบนี้ รอบขึ้นช้า เเละความเเมนยำในการผสมไอดีค่อนข้างน้อยเมือรอบสูงขึ้น
-
ส่วนมากมีพี่ๆตอบกันหมดเเล้ว
ถ้าจะอธิบายง่ายๆ ระหว่าง ฉีดตรง กับ ฉีดในท่อร่วมไอดี
ฉีดตรง คือการฉีดน้ำมันล้วนๆ เข้าไปในห้องเผ้าไหม้ ซึ่งจะเป็นฝอยละอองมากกว่าเเม่นยำมากกว่ามาก ในทุกความเร็วรอบไม่ว่าจะต่ำ กลาง สูง ทำให้เครื่องยนต์ รีดกำลังได้เร็วกว่า
เเต่ข้อเสียของมันก็มี คือเครื่องยนต์ต้องออกเเบบมาให้รองรับการใช้งาน (เพิ่มทุน) เเละอุปกรณ์ต่างๆก็ต้องทำงานได้อย่างถูกต้องเเม่นยำ ราคาจึงต้องสูง เฉพาะค่าหัวฉีดก็เเพงกว่าปกติเเล้ว เพราะต้องทนความร้อนภายในห้องเผาไหม้ รวมถึงความเเม่นยำในการฉีดน้ำมันในทุกความเร็วรอบ
ส่วน หัวฉีดธรรมดา ค่อนข้างนิยมใช้กับรถทั่วไปเพราะ ลงทุนต่ำ อะไหล่ถูก เทคโนโลยีไม่ซับซ้อน เเละประหยัด(เเล้วเเต่การออกเเบบ)
ฉีดธรรมดาคือฉีดภายในท่อรวมไอดี ส่วนผสมระหว่างน้ำมันกับอากาศจะถูกผสม พอวาล์วไอดีเปิด ไอดีจะถูกดูดเข้าไปในห้องเผาไหม้ พอลูกสูบเลื่อนขึ้น ไอดีบางส่วนก็จะถูกดันกลับไป
ทำให้ปริมานไอดีในห้องเผาไหม้น้อยลง เเต่มันก็เพียงพอในการจุดระเบิด ปัญหาของการฉีดเเบบนี้ รอบขึ้นช้า เเละความเเมนยำในการผสมไอดีค่อนข้างน้อยเมือรอบสูงขึ้น
ชัดเจนครับ :D