Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: final ที่ มีนาคม 17, 2015, 17:20:52
-
มันเหมือนหนังยางหนังกระติ๊กหรอครับ ทำไมมีแต่คนเกลียด แต่บริษัทรถยนต์เริ่มใช้มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งทีคนไม่ชอบ เพราะเหตุใดครับ
-
ผมก็เพิ่งรู้ว่าเค้าเรียกว่า เกียร์หนังกะติ๊ก จากคุณนี่แหละ :D :D
-
มันเหมือนหนังยางหนังกระติ๊กหรอครับ ทำไมมีแต่คนเกลียด แต่บริษัทรถยนต์เริ่มใช้มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งทีคนไม่ชอบ เพราะเหตุใดครับ
คนส่วนน้อยหรือเปล่าครับที่เกลี้ยด
คนชอบมันก้อมีนะคับ
คนเฉยๆ อะไรก้อได้ ยิ่งมากๆ นะคับ
ผมเฉยๆ กะ cvtคับ เข้าใจมัน ใช้อย่างที่มันเป็น
-
ลองดูข้อมูลเก่า ๆ ที่เขาตอบกันไว้แล้วก็ได้มีเยอะพอสมควรครับ ตอบซ้ำก็เหนื่อย
-
google คำว่า CVT rubber band effect (rubber band แปลว่า หนังกระติ๊ก)
-
ถ้า CVT ใส่ใน BMW ทุกอย่างจะจบปัญหาครับ
และจะได้ฉายาว่า "เกียร์เทพ"
จบข่าว :)
-
คนที่ว่าCVTกากหรืออ่อนด้อย ผมว่าเขาคงมาจากสมัยเมื่อ10-20ปีที่แล้ว กะมังครับ
ไมไ่ด้อยู่กับปัจจุบัน ไม่ได้เห็นว่า เทคโนโลยี เขาพัมนาไปถึงไหนแล้ว หรือไม่ก็ฟังๆเขามาแล้วก็นำมาแสดงทัศนะคติ
เหมือนกระทู้ ฟอร์ด จะทำเกียร์ลูกใหม่ CVT คนร้องยี้เป็นแถว แต่แล้วทำไม CVT ในอัลติส กลับไม่มีคนด่าหรือ ยี้ เนอะ
ปล...ส่วนCVT ทำไมเรียกว่าหนังกะติ๊ก ผมก็เพิ่งได้ยินจาก จขกท.นี่แหละครับ
-
ไม่ต้องเอาไปใส่บีเอ็มแล้วเค้าจะชมหรอกครับ แค่เกียร์ cvt ในอัลติสของ Aisin เค้าก็ทำออกมาได้ดี คนก็ชมเชยแล้วครับ หรือแม้แต่ Jatco 8 ใน L33 ตัว 2.5 ก็ไม่ได้เลวร้ายเลย แต่ถ้า gen ก่อนหนัาที่ใส่ในสารพัดยี่ห้อ อันนั้นผมก็ไม่ไหวนะ ยิ่งขับเร็ว ยิ่งประสาทกิน
แต่ถ้ายังมีผู้ผลิตนำเสนอเกียร์อื่นให้เลือก ยิ่งเกียร์กระปุกได้ยิ่งดี ผมก็ไม่เอา cvt ครับ ไม่ใช่เกียร์ไม่ดี แต่ขับแล้วไม่สนุก เสียงลากรอบมาโทนเดียว แค่นั้นเอง
-
คนชอบขับรถลากรอบสับเกียร์ฟังเสียงเครื่องจะไม่ชอบ แต่คนส่วนใหญ่ที่นั่งโดยสารน่าจะชอบครับ เพราะการขับขี่มันสมูทขึ้น
-
เกียร์ cvt สำหรับผม เคยขับใน jazz ตัวแรก ผมว่ามันเป็นเกียร์ที่โอเคนะครับ แม้หลายๆคนมีปัญหาอายุการใช้งาน แต่ผมไม่เจอปัญหาเพราะใช้รถแค่100000กิโล เกียร์ไม่มีอาการใดๆ ในด้านการขับผมว่าสนุกได้ ผมไม่มีการติดขัดความสนุกเลย
หลังจากนั้นมาใช้ j32 เจอปัญหาการขับขี่มาก ขับไม่สนุก เกียร์เอาแน่เอานอนไม่ได้กับอัตราเร่ง บางครั้งเกียร์ค้าง แม้จะไม่เคยพาไปตายกลางทาง แต่รำคาญมาก กะการเร่งแซงยาก เครมเกียร์ก็ไม่หาย
ผมเคยไปเทสไดว์ altis juke march almera jazzใหม่ lanser ex พบว่า ผมวางใจเกียร์จากิtoyota honda มากกว่า อาการเนือยๆ ทอร์คไม่จับจะเป็นน้อยครับ และกะการแซงง่าย ที่สำคัญออกตัวง่ายกว่า แต่แน่ๆไม่การชากแบบเฟือง
ส่วนตัวผมชอบ cvtที่ไม่มีปัญหามากกว่านะครับ ขอแค่ทอร์คต้องจับตลอด อย่าวืดๆทุกช่วง ผมละโอเคเลย ชอบกว่าเฟืองทดห่างๆอีก
-
1. มันเหมือนหนังยางหนังกระติ๊กหรอครับ
ตอบ คงพออนุมานได้ว่ามันมีสายพานเป็นตัวส่งกำลัง คงเหมือนหนังกระติ๊กเวลาเราต่อกับมอเตอร์สองตัวกระมังครับ (ปล.เอาส่วนตัว ผมเพิ่งเคยได้ยินจากคุณนี่แหละครับที่แรกที่เรียกเกียร์แบบนี้ว่าอย่างนั้น)
2. ทำไมมีแต่คนเกลียด
ตอบ อคติล้วนๆครับ มันก็มีดีของมันนะครับ ที่เห็นง่ายๆคือการต่อเนื่องของกำลังมันจะแปรผันไปเรื่อยๆรอบเครื่องยนต์ไป บางคนไม่ชอบเพราะมันไม่มันส์เหมือนเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์ออโตทั่วไปเพราะมัน สมูท นี่แหละครับที่หลายคนไม่ชอบ สรุปคนชอบก็มี คนเกลียดก็มาก หลักใหญ่ใจความคงย้อนกลับมาที่อคติเช่นเดิม ฮ่าๆๆๆ
3. แต่บริษัทรถยนต์เริ่มใช้มากขึ้นเรื่อยๆ
ตอบ ต้นทุนมันถูก หนื่งละนะ ที่สำคัญเหมือนๆข้อ 2 คือมันสมูทดีทำให้มีผลในอัตราสิ้นเปลืองที่ดีและอัตราเร่งที่สมูทดีครับ
4. ไม่ว่าทั้งทีคนไม่ชอบ เพราะเหตุใดครับ
ตอบ ย้อนไปดูข้อ2.
-
https://www.youtube.com/watch?v=8VYPsrOyIdw (https://www.youtube.com/watch?v=8VYPsrOyIdw)
https://www.youtube.com/watch?v=uCEvBGT8twM (https://www.youtube.com/watch?v=uCEvBGT8twM)
ถ้าปั่นจักรยานมีเกียร์จะเข้าใจ
ส่วนที่ว่ามันห่วยมันห่วยจริงครับในความรู้สึกผม แม้ว่าเกียร์ CVT ทำเวลาและอัตราประหยัดได้ดีมาก
ส่วนตัวไม่ชอบเสียงเครื่องเมื่อกระทืบมันไม่ใช่การไล่รอบ มันคือการเอารอบไปรอความเร็ว
และเสียงเครื่องยนต์ไม่มีความไพเราะ รวมถึงบางจังหวะที่รู้สึกว่าคลัชต์จับไม่ทันใจ
เรื่องความทนทานมันก็ยังไม่สามารถตอบให้คนทั่วไปกระจ่างซักทีว่ามันจริงไหม
และผลงานเกียร์ CVT ลองดูในเรื่อง 1200 หลายรุ่นก็ทำเวลาได้ไม่ดีเท่า MT
-
โดยส่วนตัวผมคิดว่าในอนาคตเกียร์ Auto ที่ทำเวลาได้ดีสุดจะเป็น CVT ครับ (เวลากับความรู้สึกมันคนละเรื่องนะครับ)
https://youtu.be/x3UpBKXMRto (https://youtu.be/x3UpBKXMRto)
-
มันก็ดีมีข้อดีข้อเสียต่างกันไปครับ แต่สำหรับผเคยลองใช้อัลติสตัวล่าสุด5วันบอกตรงๆว่าถ้าเลี่ยงเกียร์cvt ได้ก็จะเลี่ยงครับ แม่งโคตรไม่สนุก
-
มันเหมือนหนังยางหนังกระติ๊กหรอครับ
>>>ไม่ทราบเหมือนกันครับ ผมอยากรู้เหมือนกัน :D :D :D
ทำไมมีแต่คนเกลียด
>>>คงเพราะยุคแรกๆมันพังง่ายเนื่องจากยังใช้กันไม่เป็น และการพัฒนายังไม่เท่าปัจจุบันละมั้งครับ บุคลิกเกียร์จะลากรอบเครื่องอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการเปลี่ยนเกียร์ที่smoothกว่าทั่วไป คนชอบ(หรือบ้า)ขับรถอาจจะไม่ชอบการลากรอบเครื่องหรือเสียงที่เหมือนเรากำลังทรมานเครื่องยนต์ คงจะไม่ชอบเจ้าเกียร์ชนิดนี้เท่าไรหรอกครับ คนขับรถในเมืองบ่อยๆผมว่าคงจะชอบCVTนะ เพื่อนผมขับโฟกัสนี่กระตุกซะจนรำคาญ พอมาขับCVTนี่บอกว่าแทบหลับ คงพอเห็นภาพนะครับ :D
แต่บริษัทรถยนต์เริ่มใช้มากขึ้นเรื่อยๆ
>>>การเปลี่ยนรอบเครื่องที่smoothขึ้นทำให้ประหยัดน้ำมันได้เพิ่ม ลองดูพวกรถที่เปลี่ยนมาใช้CVTดูสิครับ อัตราการกินน้ำมันลดลงอยู่(มากหรือนอยก็แล้วแต่)
ทั้งทีคนไม่ชอบ เพราะเหตุใดครับ
>>>กลุ่มคนที่ชอบก็มีนะครับ
-
Nissan CVT เริ่มใส่ D step logic เข้ามาบ้างแล้วในหลายๆรุ่นตั้งแต่ปี 2014 นะครับ Altima X-trail Murano Pathfinder พวกนี้ถ้ากดคันเร่งแรงๆจะชิฟเกียร์แบบเดียวกับ AT ปกติเลยครับช่วงๆแรกทำไม่ค่อยเหมือน หลังๆเริ่มคล้ายขึ้นเท่าที่ลองใน Xtrail มา และ ถ้าขับธรรมดาเบาๆไม่เกิน 4000รอบ (แล้วแต่รุ่น) จะเหมือน CVT ปกติทั่วไปไม่มีชิฟเกียร์ ความเร็วขึ้นเรื่อยๆ ปกติ มันช่วยให้เวลาขับไม่จืดชืดเหมือนแต่ก่อนได้เยอะทีเดียว
-
ตกลงว่าเกียร์ CVT สมัยใหม่ยังต้องค่อยๆย่องแล้วถึงค่อยกดเหมือนแต่ก่อนหรือเปล่าครับ
-
https://www.youtube.com/watch?v=8VYPsrOyIdw (https://www.youtube.com/watch?v=8VYPsrOyIdw)
https://www.youtube.com/watch?v=uCEvBGT8twM (https://www.youtube.com/watch?v=uCEvBGT8twM)
ถ้าปั่นจักรยานมีเกียร์จะเข้าใจ
ส่วนที่ว่ามันห่วยมันห่วยจริงครับในความรู้สึกผม แม้ว่าเกียร์ CVT ทำเวลาและอัตราประหยัดได้ดีมาก
ส่วนตัวไม่ชอบเสียงเครื่องเมื่อกระทืบมันไม่ใช่การไล่รอบ มันคือการเอารอบไปรอความเร็ว
และเสียงเครื่องยนต์ไม่มีความไพเราะ รวมถึงบางจังหวะที่รู้สึกว่าคลัชต์จับไม่ทันใจ
เรื่องความทนทานมันก็ยังไม่สามารถตอบให้คนทั่วไปกระจ่างซักทีว่ามันจริงไหม
และผลงานเกียร์ CVT ลองดูในเรื่อง 1200 หลายรุ่นก็ทำเวลาได้ไม่ดีเท่า MT
เอา CVT ไปเทียบ อัตราเร่งกับ Mt ก็ผิดแล้ว ขนาด AT ยังสู้ไม่ได้เลย
กระทืบมันไม่ใช่การไล่รอบ นี่ คือ ตัวอย่างการขับ CVT นี่คือตัวอย่างกับขับ CVT ที่ผิดครับ
เรื่องทนทาน รถรุ่นใหม่ พิสูจย์ แล้ว ว่าถ้าขับรถแบบเข้าใจรถ บำรุงรักษา มันก็อยู่ได้เกิน 200000
-
โดยส่วนตัวผมคิดว่าในอนาคตเกียร์ Auto ที่ทำเวลาได้ดีสุดจะเป็น CVT ครับ (เวลากับความรู้สึกมันคนละเรื่องนะครับ)
https://youtu.be/x3UpBKXMRto (https://youtu.be/x3UpBKXMRto)
เห็นด้วยกับคุณ seamonkey ครับถ้า CVT พัฒนาให้ทนทานต่อ torque สูงๆได้แล้วใช้งานได้ยาวๆนะครับ
อ้างอิงจากคลิปนี้
https://www.youtube.com/watch?v=PRp1wFcuBL0 (https://www.youtube.com/watch?v=PRp1wFcuBL0)
กฏ formula 1 แบน CVT เพราะว่ามันเหมือนโกง.....จริงรึเปล่าอันนี้ไม่ทราบเหมือนกันครับ
แต่ถ้าจริงมันก็น่าจะเป็น 1 ในข้อยืนยันสมรรถนะของเกียร์ CVT นะครับ
1. มันเหมือนหนังยางหนังกระติ๊กหรอครับ
ส่วนที่ว่าเหมือนหนังกระติ๊กก็คงเหมือนที่หลายท่านตอบไปหน่ะครับด้วยรูปทรงและความเปราะ (ที่หลายคนว่า) ของมันนะครับ.
2. ทำไมมีแต่คนเกลียด
ถามว่าคนเกลียดเยอะมั้ย....ถ้าถามคนส่วนใหญ่ที่ชอบการขับขี่คงจะไม่ค่อยชอบเจ้านี่เท่าไหร่หรอกครับเพราะมันขาดอารมณ์ในการขับขี่
ส่วนถ้าเป็นรถบ้านคนทั่วไปใช่งาน (แบบขับเรื่อยๆปกติทั่วไปไม่ได้ขับเอามัน) น่าจะชอบมันนะครับเพราะมันแทบไม่มีความรู้สึกตอนเปลี่ยนอัตราทดเลย
ยกเว้นแต่ว่าขับรอบสูงๆแล้ว ไปกด overdrive off แล้วbreak หรือปล่อยคันเร่งนะครับ กระตุกหน่วงเลยซึ่งวิธีการนี้ส่วนตัวผมเข้าใจว่าเป็นการใช้ engine break.
3. แต่บริษัทรถยนต์เริ่มใช้มากขึ้นเรื่อยๆ
ด้วยจำนวนชิ้นส่วนที่น้อยกว่าความซับซ้อนของชุดเกียร์น้อยกว่า ต้นทุนมันเลยถูกกว่าครับ
แล้วด้วยที่ชิ้นส่วนมันน้อยกว่าชุดเกียร์โดยรวมก็ น่าจะ เล็กกว่าเกียร์ 5-6 speed ใช้กับรถยนต์รุ่นเล็กๆง่ายกว่าครับ
4. ทั้งทีคนไม่ชอบ เพราะเหตุใดครับ
อย่าที่บอกไปครับคนที่ชอบขับรถและเน้นอรรถรสในการขับขี่จริงๆ มีน้อยกว่าคนอยากได้รถที่ ขับ-นั่ง สบายเยอะครับ
คนส่วนมากที่ไม่ได้เน้นเรื่องนั้นก็จะชมว่า "อ่า....เปลี่ยนเกียร์นุ่มจุงเบย"
-
สายพานเกียร์CVTเป็นสายพานทำมาจากโลหะ เป็นแบบเหล็กทั้งสายเลย
แต่เพราะอาการปัญหาและชื่อสายพานเลยทำให้ดูมันเหมือนเป็นยางหนังกะติ๊ก
-
ผมว่าลองให้สมาชิกร่วมด้วยช่วยกันโหวตซักกระทู้ดีมั๊ยครับ เรื่องชอบและไม่ชอบ...
แค่บ้านผม /ผมและภรรยา
ผมและภรรยาขับรถเป็นตอนสิบต้นๆ ก็... ขับกันมาคนละ 20กว่าปีแล้ว
ขับเกียร์ธรรมดาเป็นทั้งคู่ครับ ตีนก็หนักพอๆกัน
ผมเข้าใจการทำงานของเกียร์ออโต้(เฟือง)...
แต่ภรรยาผมไม่เข้าใจซักเท่าไหร่...
ในรถคันเดียวกันครับ
Honda Freed
ภรรยาผมบ่นเช้า กลางวัน เย็น ว่ามันอืด ทั้งๆที่ผมเตือนเธอแล้วก่อนซื้อ
ส่วนผม... พอผมจับจังหวะการขับขี่มันได้ ผมกลับบอกว่า มันไม่อืดเลย ยกเว้นวิ่งทางไกล ซึ่งอาจขึ้นช้าไปซักนิด...
เคยถามภรรยาว่า รู้มั๊ยว่าฟรีด e250 และ space wagon ที่ใช้อยู่มีกี่เกียร์
ภรรยาผมตอบว่าไม่รู้...
ผมเชื่อว่า คนที่ขับรถโดยที่ไม่รู้ระบบการทำงานของระบบเกียร์ยังมีอยู่เยอะมากนะครับ
ผมคิดว่า คนที่รู้ซึ้งจริงๆ อาจมีแค่ไม่ถึง 1 ใน 10 ด้วยซ้ำ
-
ไอคำว่าหนังกะติ๊ก ผมได้ยินมาจากที่นี่แหละครับ เวลามีใครพูดถึงเกียร์ CVT จะต้องมีคอมเม้นท์บางคอมเม้นท์ประมาณว่า ยี้เกียร์หนังกะติ๊ก
-
เรียกแบบนั้นกันจริงครับ ด้วยรูปลักษณ์ของมันที่มีลักษณะเป็นห่วงยืดหดได้
เมื่อก่อนมันรับแรงบิดมากไม่ค่อยได้เพราะทำจากสายพาน
แต่หลังๆมีการปรับวัสดุขึ้น (เช่น โซ่ )
บริษัทรถชอบใส่เกียร์แบบนี้มาให้ ผมว่าส่วนหนึ่งเพราะมันให้อัตราสิ้นเปลืองที่ดี
(ด้วยอัตราทดที่ต่อเนื่อง จากที่มันยืดๆหดๆเนี่ย)
เรื่องอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่ง ผมไม่แน่ใจนะ
แต่ถ้าอัตราเร่งแซง ยังไงรถเกียร์ธรรมดาก็สู้ยากครับ
กว่าจะเหยียบคลัตช์ ลดเกียร์เรียกรอบ รถออโต้กดคันเร่งก็หนีไปได้แล้ว
(คลัตช์คู่/ทอร์คคอนเวอร์เตอร์/หนังกะติ๊ก แบบไหนกิน ก็ต้องแยกย่อยไปดูอีกที)
คนที่ไม่ชอบมัน ส่วนตัวผมว่า อย่างแรก เพราะส่วนใหญ่เกียร์มันจะลากรอบไปครางฮือๆ รอบสูงๆ เหมือนจะขาดใจ
(บางค่ายไม่เป็น มีลูกเล่นลากรอบ)
สอง มันไม่ดึงแบบรถทั่วไป วิ่งไปเรื่อยๆ เหมือนไม่แรง พอมาจับเวลาถึงรู้ว่ามันเร็ว
ตรงนี้บางคนที่บอกว่าตัวเองชอบขับรถเนี่ย จะพูดว่าเกียร์ออโต้ แบบดั้งเดิมดีกว่า
ผมก็ได้แต่ทำเสียง หึหึ อยู่ในลำคอ พร้อมนึกในใจว่า นายลืมเกียร์ธรรมดาแล้วใช่มั้ย เท้าซ้ายยังเหยียบคลัตช์เป็นป่าว
และสาม ด้วยเท้าของคนไทย ออกตัวจากสี่แยกทีไร ส่วนใหญ่ก็กระแทกคันเร่งตึง
เกียร์ยุคก่อนมันเพิ่งเริ่มพัฒนา ก็เลยลาโลกไว
(ถึงหลังๆจะทนขึ้น แต่ตอนออกตัวก็ย่องๆ ดีแล้วครับ ถึงเป็นเกียร์ธรรมดา อย่าคิดว่าจะไม่มีอะไรพัง)
ทีนี้มันเลยเกิดข้อกังขาว่า ไอหนังกะติ๊กนี่มันไหวป่าวเนี่ย พังง่ายชะมัด
ซึ่งถ้าคุณเกิดทันยุค คาร์บูฯ - หัวฉีด ก็จะเห็นอะไรประมาณนี้แหละ
จาก first impression ที่ไม่ดี ก็เลยทำให้บางคนคิดจงเกลียดจงชังมันแบบนี้
ทั้งๆที่ ตัวเองบอกว่าชอบเทคโนโลยี เครื่องต้องมีวาล์วแปรผัน ไม่หัวฉีดตรง ก็ต้องรางร่วม
เบรคนี่ก็ต้องดิสก์สี่ล้อ จากเซรามิคได้ยิ่งดี ช่วงล่างคานแข็งมันเอ้าต์ ต้องอิสระสี่ล้อดิ
สารพัดระบบช่วยเหลือการขับขี่ พอเป็นเกียร์บอกต้องอัตโนมัติทอร์คคอนเวอร์เตอร์เท่านั้น (เดิมๆมั่ง ปรับไส้แล้วเรียกชื่อใหม่มั่ง)
ทั้งๆที่ CVT ที่บริษัทผู้ผลิตเพิ่งนิยมใส่มาช่วงหลังมันใหม่กว่า คุณว่ามันน่าตลกดีมั้ยล่ะ
-
มันเป็นเกียร์ในอุดมคติในด้านperformance ยกเว้นรองรับแรงบิดได้น้อย
แต่ด้านfeelingการขับมันจืดสนิท
ต้นทุนต่ำประสิทธิภาพสูงขนาดเล็กน้ำหนักเบาประหยัดน้ำมัน คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้เรื่องอยู่แล้วบางคนคิดว่ารถเปลี่ยนเกียร์ไม่รู้สึกเลยรถดีจริงๆ เรื่องอะไรผู้ผลิตจะไม่ใช้ล่ะครับ
-
CVTถ้าเป็นคนที่ชอบขับเรื่อยๆไม่รีบจะชอบมากเพราะมันsmoothและถ้าจะแซงเหยียบไปมันก็จะค้างรอบที่แรงบิด/แรงม้า ที่เหมาะสม ไปได้ต่อเนื่องๆ แต่ถ้าคนที่ชอบขับรถ จะไม่ค่อยชอบ เพราะด้วยความที่มันเรื่อยๆไร้feelingของตัวมันเอง อยากให้รถที่ใช้เกียร์ CVT เอา DSG ของตระกูล VW มายัดแทนจริงๆครับ DSGนี่เป็นเกียร์ออโต้ตัวนึงที่ทำเวลาได้ดีกว่าแมนนวลในบางรุ่นด้วยครับ เป็นเกียร์ที่ขับแล้วชอบมากครับ
-
ผมก็ไม่ทราบ ทำไมมีคนเรียกแบบนั้น ส่วนตัวไม่ใช่คนเกลียด CVT จริงๆคือ เกียร์แบบไหนอะไรก็ได้ ที่มันไม่กระตุก ไม่กระชาก เวลาเปลี่ยนเกียร์
-
สำหรับผมนะเฉยๆครับ
แต่ถ้าเลือกได้ขอผ่านไปเลย แต่ถ้าไม่ก็รับได้นะแจ๊ะ
-
ภายในเกียรื CVT จะมีสายพานขับเคลื่อน ซึ่งสายพานเส้นนี้จะยืดไปมาได้ครับ
เลยอาจจะเป็นที่มาของคำว่าหนังกะติ๊ก
ส่วนเรื่องความชอบ อันนี้ผมว่าส่วนบุคคลนะ
ของทุกอย่างไม่ได้มีคนชอบทั้งหมด และก็ไม่ได้มีคนที่ไม่ชอบทั้งหมด
-
เรื่องชื่อผมไม่ทราบแต่ CVT เป็นเกียร์ที่โอเคนะครับและเป็นอนาคต สร้างอัตราเร่งที่ดีขึ้นและประหยัดน้ำมันพร้อมกัน 2 อย่างที่คนเราชอบอยากได้พร้อมกันนะครับ
-
ผมเอง ไม่ชอบ CVT , ง่ายๆเลยเหตุผลเดียว เพราะผมชอบความรู้สึกที่ให้จาก AT/MT...
หนังติ๊ก คงเป็นตัวแทนของความเปราะบาง ขาดง่าย?
เรื่อง F1 ที่ให้เหตุผลว่าไม่เอา CVT เพราะกลัวว่าจะไม่มีใครไปทำเกียร์อื่นมาใช้ เนื่องจากหลักการที่มันใช้ และผลที่ได้ มันยอดเยี่ยมอยู่แล้ว
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าไม่มีใครสนใจพัฒนาเกียร์อื่นๆ เพราะยึดแนวคิดที่่ว่า CVT มันสมบูรณ์แบบแล้ว
มาถึง Fact บ้าง
CVT ไม่เปราะ ขึ้นอยู่กับการออกแบบแต่ละค่ายผู้ผลิต
CVT รับม้าสูงๆสะบาย 600 ม้า up
CVT ใช้ในรถถังหนัก 50 ตันเช่นกัน
มาถึงข้อต่อมา ทำไมผู้ผลิตถึงทำ AT ออกมา? ง่ายๆผมมองออกว่า เขาต้องการ หาระบบเกียร์ที่สามารถทดแทน MT ได้ ความประหยัด feeling / performance
-
CVT (continuously variable transmission) เดิมสายพาน(belt) เป็นยาง แต่ปัจจุบันตอนนี้พัฒนาไปมากแล้วครับ ตอนนี้ สายพาน(belt) เป็นสายพานโลหะ แต่คนรุ่นเก่าๆๆ ยังชอบเข้าใจผิดกันนึกว่าเป็น ยาง
CVT คิดค้นโดย ดร.Hub van Doorne และใช้ในปี ค.ศ. 1958 รถยนต์สองจังหวะที่มีใช้ระบบนี้เสียงจะมีความนุ่มนวล CVT เคยมีชื่อเรียกว่า Variomatic และใช้ในโรงงาน DAF Cars Doornes Auto Factory Variomatic ตัวแรกใช้ยางเป็นส่วนประกอบสายพานมีความคงทนน้อยสำหรับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ หรือรถยนต์แรงบิดสูง จึงทำให้เกิดการพัฒนาสายพานโลหะทำหน้าที่ส่งถ่ายทอดกำลังขับระหว่างพูลเลย์ ( Pulley) เพื่อทำหน้าที่ในการเปลี่ยนอัตราทดเกียร์และส่งแรงขับเคลื่อนแทนการใช้ระบบเฟืองเกียร์แบบเก่า ซึ่งทำให้อัตราทดเกียร์สามารถเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง (มากถึง 450 Nm) ตัว pushbelt ในปัจจุบันมีความหลากหลาย โดยเฉพาะการออกแบบให้มีส่วนประกอบของโลหะ พร้อมกับสายพานรัดทั้ง 2 อันไว้ อันหนึ่งเชื่อมกับเครื่องยนต์ อีกอันเชื่อมกับแครงขับเคลื่อน และแต่ละอันจะประกอบไปด้วยแผ่นดิส 2 แผ่นประกบไว้กับสโลป ?เมื่อแผ่นดิสห่างออก ?สายพานจะเข้าใกล้จุดศูนย์กลาง ซึ่งจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า ต่อเมื่อแผ่นดิสทั้งสองแผ่นถูกดึงเข้าหากัน สายพานก็จะต้องหนีออกมาจากจุดศูนย์กลาง ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่ ผลก็คือ ระบบนี้สามารถปรับเปลี่ยนเฟืองเกียร์ได้ตลอดเวลาและหลากหลายระดับได้
(http://www.thairath.co.th/media/NjpUs24nCQKx5e1HUuRHd4J1ZKpEpWHHjPYLTC66wbQ.jpg)
แต่เป็นธรรมดาของมนุษย์ มักไม่ชอบการเปลี่ยน
ก็เหมือนกับ สมัยแรกของ Gear Auto นั้นแหละครับ ต่างคนต่างยี้
-
ที่หลายๆ คนบอกว่า CVT ทุกๆ 2 แสนโลจะต้องเปลี่ยน สายพานโซ่และชุดพูลเล่ห์ภายในเป็นเรื่องจริงหรือไม่ครับ
หรือว่าถ้าถ่ายน้ำมันเกียร์ทุก 2 หมื่นโล จะอายุยาวนานกว่านั้น
-
แม้นจะเรียกกันว่าเกียร์หนังสติ๊กแต่อย่าลืมว่าสายพานของมันคือโลหะครับไม่ใช่ยางแต่อย่างใด :P ค่ายรถในปัจจุบันและในอนาคตใช้CVTเพราะว่าต้นทุนในการผลิตมันถูก ถ้าต้นทุนการผลิตถูกรถก็จะทำกำไรต่อคันได้มากขึ้นค่ายรถเลยนิยมหันมาใช้กัน แต่อย่าคิดว่าค่ายรถจะลดราคารถยนต์ลงเพราะต้นทุนผลิตถูก ไม่มีทางๆๆๆๆ :P ข้อดีของCVTคือมันล็อกรอบในช่วงที่กำลังสูงสุดของเครื่องยนต์มาได้ตลอด เทียบได้กับนักวิ่งที่มีกำลังวิ่งสูงสุดตลอดระยะเวลาที่วิ่ง ฟิตปั๋งไปตลอดทางไม่มีแรงตกจะวิ่งช้าหรือวิ่งเร็ว แต่ที่คนส่วนใหญ่ไม่ชอบคือมันไม่มีอารมณ์กระตุกๆๆเหมือนเกียร์อัตโนมัติหรือเกียร์กระปุก แค่นั้น :P
เกียร์รูปแบบนี้มันจะน่ารังเกียจหรือดีงามอยู่ที่มุมมองของคุณเอง ถ้ามองมันโดยยึดติดกับความคิดของเกียร์กระปุกที่ต้องมีจังหวะเปลี่ยนเกียร์ ต้องมีกระตุกให้ได้อารมณ์ เกียร์นี้มันจะน่าเบื่อ แต่ถ้ามองจากคุณงามความดีของCVTที่ล็อกรอบที่กำลังสูงสุดมาได้ตลอดCVTนี่น่ากลัวมากๆเพราะเกียร์อัตโนมัติทั่วๆไป เกียร์ธรรมดา เกียร์คลัทช์คู่ก็ทำไม่ได้อย่างCVT ;D ส่วนตัวผมไม่ได้รังเกียจCVTแม้มันจะไม่ให้อารมณ์กระตุก ขอแค่มันเรียกพลกำลังของเครื่องยนต์มาใช้ได้เหมาะสมที่สุดแค่นั้นเป็นพอ ถึงมันจะอารมณ์เดียวตลอดทางแต่ถ้ามันตบพวกชอบมาท้าทายจี้ท้ายให้กระจุยกระจายตามไม่ทันได้แค่นั้นเป็นพอ ใครบอกCVTไม่แรงดูในพัลซ่าร์เทอร์โบก็แล้วกัน ในรถรุ่นใหม่ๆที่เพิ่งออกรีวิวในปีนี้ที่ทำอัตราเร่งได้เกินคาดก็มีCVTเป็นตัวส่งกำลังทั้งนั้น ::)
ไม่ว่าคนใช้รถจะชอบหรือไม่ชอบก็ตามแต่ในอนาคตรถญี่ปุ่นบ้านๆหนีCVTไม่พ้นครับ มีไม่กี่ค่ายหรอกที่จะใช้เกียร์อัตโนมัติรูปแบบอื่นๆแทน CVTไม่ได้น่ากลัวแต่ที่น่ากลัวคือแนวคิดลดต้นทุนของค่ายรถต่างๆต่างหาก :P CVTมีการใช้แพร่หลายเพราะต้นทุนการผลิตมันถูก แนวคิดการพัฒนาของระบบเกียร์จะไปในทิศทางที่ไม่มีการเผื่อเหลือเผื่อขาดความทนทานให้สูงไปกว่าการใช้งานแบบปกติมากนัก เราจะไม่เจอแล้วเกียร์ที่ใช้ไป300000กิโลไม่ต้องทำอะไรจนขายรถไปก็ยังไม่ออกอาการเกียร์ผิดปกติ ดูจากตอนนี้ก็ได้ที่คนใช้รถทุกยี่ห้อทุกรุ่นจะคลัทช์คู่ CVT อัติโนมัติแบบplanetary gear set ต้องตะกายพยายามเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุกๆ40000-50000กิโลเองเพื่อรักษาระยะให้เกียร์มันอยู่ได้เกิน100000กิโลเพื่อเอามาข่มกันเองว่าเกียร์ข้าเกินหนึ่งแสนเกินสองแสนกิโลแล้วยังไม่พังว่ะ ::)
-
ที่หลายๆ คนบอกว่า CVT ทุกๆ 2 แสนโลจะต้องเปลี่ยน สายพานโซ่และชุดพูลเล่ห์ภายในเป็นเรื่องจริงหรือไม่ครับ
หรือว่าถ้าถ่ายน้ำมันเกียร์ทุก 2 หมื่นโล จะอายุยาวนานกว่านั้น
รอรถผมขับ ถึง 200,000 โลก่อนครับ จะมาบอก ตอนนี้ 140,000
หรือใครมีประสบการณ์ CVT เกิน 200,000 มั่งครับ
CVT ต้องเปลี่ยน น้ำมันเกียร์ ตามระยะ ครับ
ถ้าน้ำมันเกียร์เสื้อมเพราะไม่ยอมเปลี่ยน โอกาสเกียรไป สูงมาก เปลี่ยนทุก ๆ 20000 ได้ยิ่งดี แต่ รุ่นใหม่ นายหน่อย 40000 UP
-
เรียกแบบนั้นกันจริงครับ ด้วยรูปลักษณ์ของมันที่มีลักษณะเป็นห่วงยืดหดได้
เมื่อก่อนมันรับแรงบิดมากไม่ค่อยได้เพราะทำจากสายพาน
แต่หลังๆมีการปรับวัสดุขึ้น (เช่น โซ่ )
บริษัทรถชอบใส่เกียร์แบบนี้มาให้ ผมว่าส่วนหนึ่งเพราะมันให้อัตราสิ้นเปลืองที่ดี
(ด้วยอัตราทดที่ต่อเนื่อง จากที่มันยืดๆหดๆเนี่ย)
เรื่องอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่ง ผมไม่แน่ใจนะ
แต่ถ้าอัตราเร่งแซง ยังไงรถเกียร์ธรรมดาก็สู้ยากครับ
กว่าจะเหยียบคลัตช์ ลดเกียร์เรียกรอบ รถออโต้กดคันเร่งก็หนีไปได้แล้ว
(คลัตช์คู่/ทอร์คคอนเวอร์เตอร์/หนังกะติ๊ก แบบไหนกิน ก็ต้องแยกย่อยไปดูอีกที)
คนที่ไม่ชอบมัน ส่วนตัวผมว่า อย่างแรก เพราะส่วนใหญ่เกียร์มันจะลากรอบไปครางฮือๆ รอบสูงๆ เหมือนจะขาดใจ
(บางค่ายไม่เป็น มีลูกเล่นลากรอบ)
สอง มันไม่ดึงแบบรถทั่วไป วิ่งไปเรื่อยๆ เหมือนไม่แรง พอมาจับเวลาถึงรู้ว่ามันเร็ว
ตรงนี้บางคนที่บอกว่าตัวเองชอบขับรถเนี่ย จะพูดว่าเกียร์ออโต้ แบบดั้งเดิมดีกว่า
ผมก็ได้แต่ทำเสียง หึหึ อยู่ในลำคอ พร้อมนึกในใจว่า นายลืมเกียร์ธรรมดาแล้วใช่มั้ย เท้าซ้ายยังเหยียบคลัตช์เป็นป่าว
และสาม ด้วยเท้าของคนไทย ออกตัวจากสี่แยกทีไร ส่วนใหญ่ก็กระแทกคันเร่งตึง
เกียร์ยุคก่อนมันเพิ่งเริ่มพัฒนา ก็เลยลาโลกไว
(ถึงหลังๆจะทนขึ้น แต่ตอนออกตัวก็ย่องๆ ดีแล้วครับ ถึงเป็นเกียร์ธรรมดา อย่าคิดว่าจะไม่มีอะไรพัง)
ทีนี้มันเลยเกิดข้อกังขาว่า ไอหนังกะติ๊กนี่มันไหวป่าวเนี่ย พังง่ายชะมัด
ซึ่งถ้าคุณเกิดทันยุค คาร์บูฯ - หัวฉีด ก็จะเห็นอะไรประมาณนี้แหละ
จาก first impression ที่ไม่ดี ก็เลยทำให้บางคนคิดจงเกลียดจงชังมันแบบนี้
ทั้งๆที่ ตัวเองบอกว่าชอบเทคโนโลยี เครื่องต้องมีวาล์วแปรผัน ไม่หัวฉีดตรง ก็ต้องรางร่วม
เบรคนี่ก็ต้องดิสก์สี่ล้อ จากเซรามิคได้ยิ่งดี ช่วงล่างคานแข็งมันเอ้าต์ ต้องอิสระสี่ล้อดิ
สารพัดระบบช่วยเหลือการขับขี่ พอเป็นเกียร์บอกต้องอัตโนมัติทอร์คคอนเวอร์เตอร์เท่านั้น (เดิมๆมั่ง ปรับไส้แล้วเรียกชื่อใหม่มั่ง)
ทั้งๆที่ CVT ที่บริษัทผู้ผลิตเพิ่งนิยมใส่มาช่วงหลังมันใหม่กว่า คุณว่ามันน่าตลกดีมั้ยล่ะ
โดนใจหลายๆ ;D นิสัยคนไทยคือขี้กลัว กลัวความเปลี่ยนแปลงครับ แม้จะเป็นความเปลี่ยนแปลงของคนอื่นก็จะไม่ยอมรับมัน :P อย่างที่ว่ามาเด๊ะเลยที่สมัยก่อนตอนเครื่องหัวฉีดมาใหม่ๆก็จะรังเกียจกันครหาว่าห่วยไม่ทนทาน ตอนนี้เป็นยังไง? หัวฉีดทุนรุ่น ตอนนี้บอกว่าฉีดตรงล้ำเกินไปใครจะซ่อมเป็น? พอเจ้าตลาดเอาฉีดตรงมาใส่พวกอุทาน"ดีงามอ่ะ"ประหนึ่งอีหนูในโฆษณาแกแลคซี่ก็ไม่ปาน :D มันเป็นเรื่องปกติที่เทคโนดลยีใหม่มักจะมีข้อเสียในช่วงเริ่มแรก เหมือนคนที่หัดเดินย่อมต้องมีการล้มลุกคลุกคลานกว่าจะวิ่งได้ แต่คนไทยจะรังเกียจความพยายามที่จะก้าวหน้านั้นแล้วจบแค่ว่าพวกข้าจะใช้แต่ของเก่า ของเก่ามันดีพอแล้วจะเอาของใหม่มาใส่ทำไม ไม่ชอบไม่ซื้อไม่ว่ากันแต่ถึงขนาดจะปิดกั้นความพยายามในการเติมโตของเทคโนโลยีมันไม่ไหวนะ ทุกวันนั้นเราก็อยู่ในยุคที่เทคโนโลยีคนรุ่นพ่อรุ่นปู่เคยด่ากันว่า"ไม่จำเป็น"หรือ"ไม่ทนทาน"ทั้งนั้น :P
-
ส่วนตัวชอบขับเกียร์อัตโนมัติปกติมากกว่า เพราะขับแล้วมีอารมณ์ค่ะ (หรือว่าชิน) ส่วนCVT เคยขับแล้วมันแปลกๆ 555555555+ แต่ถ้าขับบ่อยๆคงชินมั้่ง แต่มันก็ไปเร็วดีนะว่าไปก็เป็นข้อดีอีกจุดนึง รู้สึกจะช่วยประหยัดน้ำมันด้วย (มั้ง) :P ส่วนที่ว่าคนเกลียดนี่คงเป็นยุคก่อนๆมั้งค่ะ อีกอย่างเรื่องที่ช่วงนึงเกียร์ CVT ของรถบางรุ่นพังง่าย เลยทำให้มีประเด็นขึ้นมา (เดา) อิอิ แต่ปัจจุบันก็เป็นที่นิยมมากขึ้น ^^
-
ส่วนตัวเป็นกังวลเรื่องความทนทานครับ หลายคนบอกว่าให้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์บ่อยๆจะได้ใช้งานได้นานๆสำหรับผมมันไม่ใช่อะเพราะต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นทำให้ที่ว่าประหยัดน้ำมันกว่านี่ไม่มีผลอะไรเลย ดังนั้นคนที่ใช้งานมาเป็นแสนโลแต่ดูแลอย่างดีเปลี่ยนน้ำมันเกียร์บ่อยๆขับนิ่มๆไม่กระชากนี่ไม่มีผลอะไรกับผมเลย
-
.
.
.
ผมว่าขึ้นอยู่กับประสบการณ์ที่เจอมาของแต่ละคน
อย่างผมเคยขับแล้วไม่ชอบ มันนิ่งๆขับแล้วจะหลับ
ถ้าให้นั่งคงชอบ แต่ต่อไปรถบ้านๆคงหนีเกียร์ CVT ไม่พัน
เพราะต้นทุนมันถูกแถมประหยัดน้ำมัน
อีกหน่อยคนที่ไม่ค่อยมีทุนทรัพย์แล้วอยากได้เกียร์แบบอื่นคงลำบาก
-
ส่วนตัวเป็นกังวลเรื่องความทนทานครับ หลายคนบอกว่าให้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์บ่อยๆจะได้ใช้งานได้นานๆสำหรับผมมันไม่ใช่อะเพราะต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นทำให้ที่ว่าประหยัดน้ำมันกว่านี่ไม่มีผลอะไรเลย ดังนั้นคนที่ใช้งานมาเป็นแสนโลแต่ดูแลอย่างดีเปลี่ยนน้ำมันเกียร์บ่อยๆขับนิ่มๆไม่กระชากนี่ไม่มีผลอะไรกับผมเลย
จริงราคา น้ำมันเกียร์มันไม่ได้แพงมากครับ แพงกว่าน้ำมันเครื่องนิดหน่อย
แล้วรถรุ่นใหม่ ๆ ก็ไม่ได้เปลี่ยนบ่อยขนาดนั้น ถ้าใช้รถปกติ
ยิ่ง altis ใหม่นี้ กำหนดมัน ทุก 80,000 โล เหมือนน้ำมันเกียร์ปกติเลยนะครับ
ตอนี้อยากเจอคนที่ลาก CVT เกิน 200 000 โล มาโชว์ตัวหน่อยครับ
-
ส่วนตัวเป็นกังวลเรื่องความทนทานครับ หลายคนบอกว่าให้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์บ่อยๆจะได้ใช้งานได้นานๆสำหรับผมมันไม่ใช่อะเพราะต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นทำให้ที่ว่าประหยัดน้ำมันกว่านี่ไม่มีผลอะไรเลย ดังนั้นคนที่ใช้งานมาเป็นแสนโลแต่ดูแลอย่างดีเปลี่ยนน้ำมันเกียร์บ่อยๆขับนิ่มๆไม่กระชากนี่ไม่มีผลอะไรกับผมเลย
จริงราคา น้ำมันเกียร์มันไม่ได้แพงมากครับ แพงกว่าน้ำมันเครื่องนิดหน่อย
แล้วรถรุ่นใหม่ ๆ ก็ไม่ได้เปลี่ยนบ่อยขนาดนั้น ถ้าใช้รถปกติ
ยิ่ง altis ใหม่นี้ กำหนดมัน ทุก 80,000 โล เหมือนน้ำมันเกียร์ปกติเลยนะครับ
ตอนี้อยากเจอคนที่ลาก CVT เกิน 200 000 โล มาโชว์ตัวหน่อยครับ
ถ้าแบบ Altis 80,000 นี่ผมโอเคครับ แต่ถ้าบางรุ่นที่เค้าเปลี่ยนกัน 20,000 โลนี่ผมไม่เอาด้วยเลยครับ ไหนจะค่าน้ำมันเกียร์ไหนจะค่าแรงอีกเสียเวลาอีกประหยัดเพิ่มมาได้อีกหน่อยเดียวไม่คุ้มกันเลย ยิ่งถ้าเป็นคนไม่ค่อยดูแลนักไม่ถ่ายบ่อยๆตามที่กำหนดหละก็เสียหายบานเลย ถ้าให้เลือกซื้อรถที่เป็นเกียร์ CVT หละก็ผมไปทางโตกับฮอนมากกว่าที่จะไปมิตซูกับนิสสันครับ
ตอนนี้กำลังรอดูพี่แท๊กซี่ ดูซิว่า CVT จะทนทานยังไง
-
ทำไมถึงเรียกเกียร์หนังกระติ้ก
เพราะเกียร์ CVT รุ่นแรกๆ ใช้สายพานยางครับ (แบบเดียวกับในมอไซต์) แต่รุ่นหลังๆ ใช้โซ่ราวลิ้น หรือ โลหะไปแล้ว แต่ระบบการทำงานยังคล้ายเดิม
ทำไมถึงรับไม่ได้
เคยเจอยุงบินข้างหูแล้วไล่มันไม่ไปปะครับ นั้นแหละอาการเดียวกัน รำคาญเสียงเครื่อง รำคาญความทื่อซื้อบื่อของมัน (แต่ถ้าเป็นคนนั่งผมชอบนะ นิ่มดี)
ถ้าเป็น CVT ขั้นบรรไดละ
รับได้ครับ อย่างใน Altis หรือ HR-V ผมว่ามันก็ปรับจูนมาดี ผมรับได้ เหยียบแล้วมีการไล่ขั้นบรรไดขึ้นไปแบบรวดเร็ว (แบบช้าๆตื้อๆผมก็รับไม่ได้นะ) ผมโอเค
แต่ถ้าให้เลือก CVT กับเฟือง สุดลิ่มทิ่มประตู ผมเลือกเฟืองมากกว่าเกียร์สายพาน
ยกเว้น T-MAX 500
-
ส่วนตัวเป็นกังวลเรื่องความทนทานครับ หลายคนบอกว่าให้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์บ่อยๆจะได้ใช้งานได้นานๆสำหรับผมมันไม่ใช่อะเพราะต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นทำให้ที่ว่าประหยัดน้ำมันกว่านี่ไม่มีผลอะไรเลย ดังนั้นคนที่ใช้งานมาเป็นแสนโลแต่ดูแลอย่างดีเปลี่ยนน้ำมันเกียร์บ่อยๆขับนิ่มๆไม่กระชากนี่ไม่มีผลอะไรกับผมเลย
จริงราคา น้ำมันเกียร์มันไม่ได้แพงมากครับ แพงกว่าน้ำมันเครื่องนิดหน่อย
แล้วรถรุ่นใหม่ ๆ ก็ไม่ได้เปลี่ยนบ่อยขนาดนั้น ถ้าใช้รถปกติ
ยิ่ง altis ใหม่นี้ กำหนดมัน ทุก 80,000 โล เหมือนน้ำมันเกียร์ปกติเลยนะครับ
ตอนี้อยากเจอคนที่ลาก CVT เกิน 200 000 โล มาโชว์ตัวหน่อยครับ
ถ้าแบบ Altis 80,000 นี่ผมโอเคครับ แต่ถ้าบางรุ่นที่เค้าเปลี่ยนกัน 20,000 โลนี่ผมไม่เอาด้วยเลยครับ ไหนจะค่าน้ำมันเกียร์ไหนจะค่าแรงอีกเสียเวลาอีกประหยัดเพิ่มมาได้อีกหน่อยเดียวไม่คุ้มกันเลย ยิ่งถ้าเป็นคนไม่ค่อยดูแลนักไม่ถ่ายบ่อยๆตามที่กำหนดหละก็เสียหายบานเลย ถ้าให้เลือกซื้อรถที่เป็นเกียร์ CVT หละก็ผมไปทางโตกับฮอนมากกว่าที่จะไปมิตซูกับนิสสันครับ
ตอนนี้กำลังรอดูพี่แท๊กซี่ ดูซิว่า CVT จะทนทานยังไง
ของ Jatco จริงๆ เปลี่ยนแสนโลครับ (ตามคู่มือนิสสัน) แต่ใครที่เปลี่ยนตอนนั้นไม่มีใครรอดเลยสักราย >:(
เขาจึงแนะนำว่าให้เปลี่ยนที่ 2 หมื่น ถ้าทำได้ ช้าสุด คือ 4 หมื่นโล เกินกว่านะ ไม่ปลอดภัยแล้วครับ เสี่ยงมาก :'(
ส่วนของพี่โต เปลี่ยนที่ 4 หมื่นก็พอครับ :)
-
ส่วนตัวเป็นกังวลเรื่องความทนทานครับ หลายคนบอกว่าให้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์บ่อยๆจะได้ใช้งานได้นานๆสำหรับผมมันไม่ใช่อะเพราะต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นทำให้ที่ว่าประหยัดน้ำมันกว่านี่ไม่มีผลอะไรเลย ดังนั้นคนที่ใช้งานมาเป็นแสนโลแต่ดูแลอย่างดีเปลี่ยนน้ำมันเกียร์บ่อยๆขับนิ่มๆไม่กระชากนี่ไม่มีผลอะไรกับผมเลย
จริงราคา น้ำมันเกียร์มันไม่ได้แพงมากครับ แพงกว่าน้ำมันเครื่องนิดหน่อย
แล้วรถรุ่นใหม่ ๆ ก็ไม่ได้เปลี่ยนบ่อยขนาดนั้น ถ้าใช้รถปกติ
ยิ่ง altis ใหม่นี้ กำหนดมัน ทุก 80,000 โล เหมือนน้ำมันเกียร์ปกติเลยนะครับ
ตอนี้อยากเจอคนที่ลาก CVT เกิน 200 000 โล มาโชว์ตัวหน่อยครับ
ของผม lancer ตอนนี้ 180,000 ละครับ ยังปกติอยู่ ตอนแรกไม่รู้ได้รถมาใหม่ๆเหยียบมิดอย่างเดียว มีแต่เสียงเครื่องรถไม่ไป ขยี้คันเร่งยังไงก็ไม่ขึ้น ตอนนี้ชินแล้วก็ชอบครับ เรื่อยๆ ไหลๆ สบายดี ให้แฟนขับก็ไม่เมารถ
ในนี้มีใครถึง 200,000 มั่งหว่า?
-
เกียร์ cvt ของ jazz 2014 สายพานเป็นยางหรือโลหะหรอครับ และเกียร์มีการล็อครอบแบบของอัลติสมั้ยครับ
-
CVT ไม่ชอบมัน แต่ไม่ได้ต่อต้านซะทีเดียว ขอแค่ว่าล็อคจังหวะให้กระชับแบบ ออโต้ปกติได้ก็โอเคแล้ว
แต่ถ้าให้เลือกขอครัทคู่นั่นแหละ ถ้าทำให้มันทนๆแล้วช่วงเปลี่ยนเกียร์มันไม่ได้รู้สึกเลย
-
ผมได้ยินคำว่า "เกียร์หนังกะติ๊ก" ครั้งแรก จากคุณแพนครับ
คลิปไหนจำไม่ได้
-
ผมก็เป็นคนนึงที่เรียกมันว่าเกียร์หนังสติ็กครับ
ทำไมถึงนิยามมันแบบนั้น??
ก็เพราะจากอาการเหยียบคันเร่งเพื่อเรียกอัตตราเร่ง รอบเครื่องไปนอนรอก่อนเลยในช่วงที่มันให้กำลังได้สูงสุด
เหมือนการยืดยางหนังสติ็กออกเพื่อเรียกกำลังจากการหดกลับของหนังยาง
แล้วความเร็วก็จะค่อยๆวิ่งขึ้นโดยที่รอบเครื่องก็ยังนอนรออยู่
การหดกลับของยางก็เหมือนกำลังที่ไปสร้างอัตตราเร่ง ทำให้ความเร็ววัตถุเพิ่มขึ้น
จนกว่าจะถอนคันเร่งรอบจะค่อยๆลดลงจนได้ความเร็วและรอบเครื่องคงที่ อัตตราเร่งไม่มีแล้ว
หนังยางหดสุดแล้ว ไม่มีกำลัง หรือ แรงหดกลับจากหนังยางเท่ากับ drag ของวัตถุแล้ว
ทีนี้ไม่ใช่ว่า CVT ไม่มีดีนะครับ มันก็มีดีของมัน แต่สำหรับคนที่ชอบขับรถที่อาจจะชอบใช้รอบเครื่องตึงๆหน่อย
อาจจะไม่ค่อยชอบ เพราะ cvt ส่วนใหญ่ถุกโปรแกรมมาให้ขับเคลื่อนให้ประหยัดที่สุด และก็หากคนขับที่ชอบใช้
engine break อาจจะไม่ค่อยชอบ cvt ครับ ถ้าอยากรู้ลึกกว่านี้ ไปถามนาง commander cheng ดู ส่วนเกียร์
auto แบบ conventional (เรียกแบบนี้รึปล่าว?? ที่มี 4เกียร์ 5 เกียร์ 6เกียร์ แล้วแต่รุ่น) มันยังพอรับได้ครับ
ซึ่งเจ้า cvt ก็มีการพยายามเลียนแบบด้วยการล็อคอัตตราทดมาให้ในโหมดพิเศษที่ให้เปลี่ยนเกียร์เองได้
ทั้งนี้นะครับ ถ้าให้ผมเลือก คงเลือกจากลำดับดังนี้ครับ mt at cvt
ผมเชื่อว่า คนที่ชอบขับรถแล้วอยากสนุกกับมันด้วยในเวลาเดียวกันก็คงจะเลือกคล้ายๆผมนี่แหละ
แต่หากผู้ขับเลือกความนิ่มนวลเวลาเร่งเครื่อง ชอบความประหยัด ขับ mt ไม่ได้ cvt อาจจะเป็นคำตอบที่เหมาะกว่าแน่นอนครับ
note: cvt ที่สัมผัสมามี jazz, xtrail, teana และผมคงพอแล้วครับ ไม่เคยสร้างความประทับใจเท่าไหร่ มีดีอย่างเดียวคือเวลาวิ่งนิ่งๆ รอบมันต่ำดีจัง เหมือนจะประหยัดดีจริงๆ ซึ่งส่วนตัวแล้วผมเปรียมมันเหมือนกะการมีเซ็กแบบขอไปทีให้เสร็จๆไปครับ 55555 คือถึงเหมือนกันแต่ความสนุกมันไม่เต็มที่อะ 555555555555555555555555555555555555555
-
โดนใจหลายๆ ;D นิสัยคนไทยคือขี้กลัว กลัวความเปลี่ยนแปลงครับ แม้จะเป็นความเปลี่ยนแปลงของคนอื่นก็จะไม่ยอมรับมัน :P อย่างที่ว่ามาเด๊ะเลยที่สมัยก่อนตอนเครื่องหัวฉีดมาใหม่ๆก็จะรังเกียจกันครหาว่าห่วยไม่ทนทาน ตอนนี้เป็นยังไง? หัวฉีดทุนรุ่น ตอนนี้บอกว่าฉีดตรงล้ำเกินไปใครจะซ่อมเป็น? พอเจ้าตลาดเอาฉีดตรงมาใส่พวกอุทาน"ดีงามอ่ะ"ประหนึ่งอีหนูในโฆษณาแกแลคซี่ก็ไม่ปาน :D มันเป็นเรื่องปกติที่เทคโนดลยีใหม่มักจะมีข้อเสียในช่วงเริ่มแรก เหมือนคนที่หัดเดินย่อมต้องมีการล้มลุกคลุกคลานกว่าจะวิ่งได้ แต่คนไทยจะรังเกียจความพยายามที่จะก้าวหน้านั้นแล้วจบแค่ว่าพวกข้าจะใช้แต่ของเก่า ของเก่ามันดีพอแล้วจะเอาของใหม่มาใส่ทำไม ไม่ชอบไม่ซื้อไม่ว่ากันแต่ถึงขนาดจะปิดกั้นความพยายามในการเติมโตของเทคโนโลยีมันไม่ไหวนะ ทุกวันนั้นเราก็อยู่ในยุคที่เทคโนโลยีคนรุ่นพ่อรุ่นปู่เคยด่ากันว่า"ไม่จำเป็น"หรือ"ไม่ทนทาน"ทั้งนั้น :P
ด้วยเหตุผลนี้ โตโยต้าไทยจึงสามารถลาก 1NZ+4AT ได้เกินสิบปี
ส่วนตัว (ตอบตรงกระทู้) ก็ ไม่ชอบคาแรกเตอร์บางอย่างของ CVT แต่ถ้าให้เลือกตอนนี้ ผมก็ยังเอา CVT > AT เพราะคนนั่งทั้งบ้านชอบ
-
ผมก็เป็นคนนึงที่เรียกมันว่าเกียร์หนังสติ็กครับ
ทำไมถึงนิยามมันแบบนั้น??
ก็เพราะจากอาการเหยียบคันเร่งเพื่อเรียกอัตตราเร่ง รอบเครื่องไปนอนรอก่อนเลยในช่วงที่มันให้กำลังได้สูงสุด
เหมือนการยืดยางหนังสติ็กออกเพื่อเรียกกำลังจากการหดกลับของหนังยาง
แล้วความเร็วก็จะค่อยๆวิ่งขึ้นโดยที่รอบเครื่องก็ยังนอนรออยู่
การหดกลับของยางก็เหมือนกำลังที่ไปสร้างอัตตราเร่ง ทำให้ความเร็ววัตถุเพิ่มขึ้น
จนกว่าจะถอนคันเร่งรอบจะค่อยๆลดลงจนได้ความเร็วและรอบเครื่องคงที่ อัตตราเร่งไม่มีแล้ว
หนังยางหดสุดแล้ว ไม่มีกำลัง หรือ แรงหดกลับจากหนังยางเท่ากับ drag ของวัตถุแล้ว
ทีนี้ไม่ใช่ว่า CVT ไม่มีดีนะครับ มันก็มีดีของมัน แต่สำหรับคนที่ชอบขับรถที่อาจจะชอบใช้รอบเครื่องตึงๆหน่อย
อาจจะไม่ค่อยชอบ เพราะ cvt ส่วนใหญ่ถุกโปรแกรมมาให้ขับเคลื่อนให้ประหยัดที่สุด และก็หากคนขับที่ชอบใช้
engine break อาจจะไม่ค่อยชอบ cvt ครับ ถ้าอยากรู้ลึกกว่านี้ ไปถามนาง commander cheng ดู ส่วนเกียร์
auto แบบ conventional (เรียกแบบนี้รึปล่าว?? ที่มี 4เกียร์ 5 เกียร์ 6เกียร์ แล้วแต่รุ่น) มันยังพอรับได้ครับ
ซึ่งเจ้า cvt ก็มีการพยายามเลียนแบบด้วยการล็อคอัตตราทดมาให้ในโหมดพิเศษที่ให้เปลี่ยนเกียร์เองได้
ทั้งนี้นะครับ ถ้าให้ผมเลือก คงเลือกจากลำดับดังนี้ครับ mt at cvt
ผมเชื่อว่า คนที่ชอบขับรถแล้วอยากสนุกกับมันด้วยในเวลาเดียวกันก็คงจะเลือกคล้ายๆผมนี่แหละ
แต่หากผู้ขับเลือกความนิ่มนวลเวลาเร่งเครื่อง ชอบความประหยัด ขับ mt ไม่ได้ cvt อาจจะเป็นคำตอบที่เหมาะกว่าแน่นอนครับ
note: cvt ที่สัมผัสมามี jazz, xtrail, teana และผมคงพอแล้วครับ ไม่เคยสร้างความประทับใจเท่าไหร่ มีดีอย่างเดียวคือเวลาวิ่งนิ่งๆ รอบมันต่ำดีจัง เหมือนจะประหยัดดีจริงๆ ซึ่งส่วนตัวแล้วผมเปรียมมันเหมือนกะการมีเซ็กแบบขอไปทีให้เสร็จๆไปครับ 55555 คือถึงเหมือนกันแต่ความสนุกมันไม่เต็มที่อะ 555555555555555555555555555555555555555
ผมขับกะบะ MT อยู่ครับ ทุกวันด้วย
แต่อีกคัน CVT ทำไมผมเห็นว่า CVT ของ Lancer มันเร่งแซงดีกว่า ไวกว่า ออกตัว แทบไม่ต่างจาก MT หากวัดที่ประสิทธิผล ไม่ได้วัดที่ความรู้สึก
หรือเพราะผมเป็นคนขับรถออกตัว นิ่มๆ ครับ ขับกะบะ ออกตัวเกียร์สอง
-
ที่หลายๆ คนบอกว่า CVT ทุกๆ 2 แสนโลจะต้องเปลี่ยน สายพานโซ่และชุดพูลเล่ห์ภายในเป็นเรื่องจริงหรือไม่ครับ
หรือว่าถ้าถ่ายน้ำมันเกียร์ทุก 2 หมื่นโล จะอายุยาวนานกว่านั้น
ใน youtube ค้นหา เกี่ยสกับ cvt overhaul คนทำวีดีโอบอก
จุดที่เปราะสุดของ cvt แล้วทำให้ต้องมาซ่อม คือ โซลินอยด์ เพราะแรงดันน้ำมันในนั้น สูวกว่าเกียร์ออโต้ธรรมดาๆมาก
นั่นคือเข้า N บ่อยๆ ไม่ดี( อนุมานเอาว่า รถติดให้เข้า D เหยียบเบรค ไม่ควรเองข้าN จะได้ไม่ต้องให้โซลินอยด์ในเกียร์ทำงานบ่อยๆ มันมีอายุแค่หลักหมื่นครั้ง)
เรื่องโซ่ ถ้าลากได้2แสนจริงก้อดีคับ ผัวกัวแต่องประกอบอื่นๆจะะพังจนไร้ทางแก้ก้อน2แสนโล
-
ชอบ cvt คับ นุ่มๆไปเรื่อยๆ ไม่มีจังหวะตัดเกียร์ให้น่ารำคาน แต่เวลาซิ่งจะขัดใจบ้าง เสียงค้างๆคาๆ เหมือนขับมอไซออโต้