Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Red Bicycle ที่ เมษายน 09, 2015, 15:53:40
-
แต่ละท่านคิดว่าควรจะใช้ไปยาวนานกี่ปีครับ เพราะเวลาใช้มัน OK อะครับ
เพราะด้านดีก็มีอยู่มากเช่น ความสะดวกสบายกว้างขวาง อัตราเร่ง Option ค่าน้ำมัน
แต่อีกด้านก็เรื่องการดูแลในช่วงหลัง และ ราคาขายต่อที่ตกใจหายครับ
ผมตั้งใจว่าถ้าไม่มีปัญหาหนักๆ ก็ว่าจะใช้ไปเรื่อยๆนะครับ ไม่รู้คิดถูกหรือผิด ?
ตัวผมเลือกใช้ D segment Hybrid Japan ไม่ได้เน้นเรื่องค่าน้ำมัน แต่ชอบความกว้าง แรง และOption อะครับ
และอีกส่วนหนึ่งที่ตัดสินใจใช้ก็เพราะเห็นคนอื่นๆเค้าใช้กันเกลื่อนเมืองนะครับ (. เหมือนมีเพื่อนร่วมชะตา)
ปล. และในอนาคตข้างหน้าซัก 7-8 ปี แนวโน้มของความแพร่หลายในรถ Hybrid จะมากขึ้นไหมครับ
แล้วจะทำให้การบำรุงรักษารถ Hybrid ได้ง่ายขึ้นไหมครับ
-
ผมก็มีข้อสงสัยเกี่ยวกับรถ ไฮบริด เหมือนกัน รถประเภทนี้เน้นมาเพื่อความประหยัดเป็นหลัก และได้เรื่องลดมลพิษเป็นของแถม
แต่ถ้าดูจากเทคโนโลยีเครื่องดีเซล ทั้งของ BMW และ มาสด้า2 แล้วจะเห็นว่า เรื่องความประหยัดนี่แทบจะไม่ต่างกันเลย(ดีไม่ดี ดีเซลจะประหยัดกว่าด้วยซ้ำ) ไอเสียก็ปล่อยน้อยลงมากสำหรับเครื่องดีเซลรุ่นใหม่ๆ
แล้วรถไฮบริดจะยังมีอนาคตที่สดใสอยู่ไหม จะสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นไปได้มากแค่ไหน ท่ามกลางค่าใช้จ่ายด้านการบำรุงรักษาที่ค่อนข้างโหดมากกกกกก ณ ปัจจุบัน
-
ตัวรถมันไม่มีอะไรหรอก ปัญหาอยู่ที่แบตเตอรี่ล้วนๆ ต้นทุนการผลิตแบท การจัดเก็บและทำลายแบทเก่า ความเร็วในการเติมและดึงพลังมาใช้
ถ้าแก้ปัญหาตรงนี้ได้....มันก็จะไม่มีรถไฮบริดละ เป็นรถพลังงานไฟฟ้าล้วนไปเลย
รถไฮบริดมันจะอยู่ตรงไหน ผมก็บอกไม่ได้เหมือนกัน แต่ถ้าถามว่าชอบมั้ย ชอบ ดีกว่าติดแก้ส
-
ตัวรถมันไม่มีอะไรหรอก ปัญหาอยู่ที่แบตเตอรี่ล้วนๆ ต้นทุนการผลิตแบท การจัดเก็บและทำลายแบทเก่า ความเร็วในการเติมและดึงพลังมาใช้
ถ้าแก้ปัญหาตรงนี้ได้....มันก็จะไม่มีรถไฮบริดละ เป็นรถพลังงานไฟฟ้าล้วนไปเลย
รถไฮบริดมันจะอยู่ตรงไหน ผมก็บอกไม่ได้เหมือนกัน แต่ถ้าถามว่าชอบมั้ย ชอบ ดีกว่าติดแก้ส
เห็นด้วยครับ ส่วนตัวใช่รถไฮบริด แต่มองว่ามันเป็นทางผ่านเพื่อไปหารถไฟฟ้าล้วน หรือรถที่ไม่ต้องพึ่งพาน้ำมันในอนาคต
-
ตราบใดที่โครงสร้างระบบรถยนต์ไฟฟ้า 100% ในบ้านเรายังไม่พร้อม รถไฮบริดก็จะยังมีบทบาทไปอีกพักใหญ่ๆครับ แต่คนไทยกลัวเรื่องค่าใช้จ่าย ชอบอะไรซ่อมง่ายๆเพราะมันขายต่อง่ายกว่า เลยทำให้ราคาไฮบริดตกครับ ถ้าไม่คิดจะขายใช้กันยาวๆ ก็คุ้มค่าครับ
-
แล้วแต่มุมมองครับ อย่างผมเลือก hybrid เพราะข้อได้เปรียบเรื่องภาษีครับ
-
ผมก็มีข้อสงสัยเกี่ยวกับรถ ไฮบริด เหมือนกัน รถประเภทนี้เน้นมาเพื่อความประหยัดเป็นหลัก และได้เรื่องลดมลพิษเป็นของแถม
แต่ถ้าดูจากเทคโนโลยีเครื่องดีเซล ทั้งของ BMW และ มาสด้า2 แล้วจะเห็นว่า เรื่องความประหยัดนี่แทบจะไม่ต่างกันเลย(ดีไม่ดี ดีเซลจะประหยัดกว่าด้วยซ้ำ) ไอเสียก็ปล่อยน้อยลงมากสำหรับเครื่องดีเซลรุ่นใหม่ๆ
แล้วรถไฮบริดจะยังมีอนาคตที่สดใสอยู่ไหม จะสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นไปได้มากแค่ไหน ท่ามกลางค่าใช้จ่ายด้านการบำรุงรักษาที่ค่อนข้างโหดมากกกกกก ณ ปัจจุบัน
อ่านดูความเห็น ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษารถมันเท่ากะรถที่ไม่ใช่ hybrid เลยนะครับ ไม่ได้แพงกว่ากันเลย
ผมเข้าศูนย์ก็แค่สองพันกว่าๆ มันแพงกับค่าอุปกรณ์แบตกับส่วนประกอบในระบบมากกว่า แต่ถ้ามันไม่เสีย ไม่มีอาการ
ก็ไม่ได้ต้องซ่อมบำรุงอะไรนะครับ แล้วพวกรถHybrid รุ่นก่อนหน้า ก็เห็นใช้กันมาตั้งนาน ก็ไม่เห็นว่าใครจะแจ้งปัญหา
อะไรหนิครับ แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ เอาเป็นว่าเก็บตังค์ค่าบำรุงรักษาไว้ด้วยละกันครับ
-
แล้วแต่มุมมองครับ อย่างผมเลือก hybrid เพราะข้อได้เปรียบเรื่องภาษีครับ
รบกวนถามหน่อยครับ. ได้เปรียบเรื่องภาษีอย่างไรหรือครับ ?
-
ใช้มา 4 ปีแล้วครับ
แต่ถามว่าคันต่อไปสนใจจะซื้อไหม
ผมตอบว่าไม่ครับ เพราะขอดูค่าบำรุงรักษาเมื่ออุปกรณ์ไฟฟ้าเริ่มเสื่อมก่อน
.
ยกเว้น jazz hybrid จะเข้ามาแล้วราคาน่าคบหา
-
เคยอ่านใน club ระบบinverterที่สำหรับจัดการระบบไฟฟ้าแพงมากเป็นแสน แบตถ้าต้องเปลี่ยนหลังหมดประกันก็หลายแสน
-
ตรง ปล.นี่ยังอีกไกลครับ
ส่วนจะใช้นานแค่ไหนก็แล้วแต่ครับ ถ้ามีทุนทรัพย์และพร้อมที่จะดูแลเพราะมันไม่ได้จุกจิกอะไร แค่อะไหล่ที่เกี่ยวข้องกับไฮบริดมันแพงเฉยๆ
ถ้ากังวลมาก 2.5G เหลือๆครับสำหรับอัตราเร่ง ออฟชั่นก็เพียงพอแล้ว
-
เอาจากประสบการณ์คนรู้จักนะครับ
- คนแรกใช้ Prius Gen 2 ซื้อมาจากเกรย์ ใช้มาสิบปีเปลี่ยนถ่ายของเหลวกับอะไหล่สิ้นเปลืองตามระยะ และอะไหล่อื่นๆที่เสื่อมตามสภาพ แต่อะไหล่ที่เกี่ยวกับระบบไฮบริดไม่มีอะไรพังเลย พี่แกติดใจเลยไปถอยเอา Prius รุ่นปัจจุบันมาแทนไปเรียบร้อย
- คนที่สอง Alphard Hybrid รุ่นแรก แรกๆไม่มีปัญหาอะไร มาเจอตอนครบ3ปี แบตพังชาร์จไฟไม่เข้า,คอมแอร์ไฟฟ้าพัง และอีก3ปีถัดมามันก็พังเหมือนเดิม ปัจจุบันขยาดรถไฮบริดพอสมควร
ปล. ความรู้สึกผมรถไฮบริดมันเหมือนยุคที่เปลี่ยนเครื่องยนต์จากคาร์บูเรเตอร์เป็นหัวฉีดไฟฟ้าคุมด้วยกล่อง ECU แรกๆคนก็กลัวมากเพราะมันซ่อมกันแพงหาคนซ่อมเป็นก็ยาก เครื่องคาร์บูขายดีกว่าหัวฉีด ปัจจุบันชิวๆไม่น่ากลัวอะไรแล้วคนซ่อมเป็นมีเต็มประเทศไทย ในขณะเดียวกันตอนนี้หาช่างซ่อมระบบคาร์บูเรเตอร์เก่งๆยากกว่าอีก
-
ผมว่า 5-7 ปีกำลังดีครับเกินนั้นไปถ้าดูแลดีกี่ปีก้อยุ่ได้ครับ ผมชอบครับมันคืออนาคตดีกว่าใช้รถเทคโนโลยีเก่าๆ ขับไปก้น่าเบื่อคับ ส่วนเรื่องแพร่หลายอีก 7-8 ปีที่ถามไทยคงเยอะขึ้นครับแต่หลายๆประเทศคงใช้กันเยอมากครับ
-
แล้วแต่มุมมองครับ อย่างผมเลือก hybrid เพราะข้อได้เปรียบเรื่องภาษีครับ
รบกวนถามหน่อยครับ. ได้เปรียบเรื่องภาษีอย่างไรหรือครับ ?
ในตระกูล Luxury หรือ exotic car การเป็น Hybrid จะได้ภาษีนำเข้าถูกกว่าครับ รถเลยถูกกว่าด้วย