Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: recycleman ที่ เมษายน 15, 2015, 23:57:23

หัวข้อ: ไม่ได้เป็นเศรษฐีแต่อยากลองใช้ e66 ดูครับ
เริ่มหัวข้อโดย: recycleman ที่ เมษายน 15, 2015, 23:57:23
สงกรานต์ที่ผ่านมาผมกลับไปบ้านที่ขอนแก่น ขับ g9 กลับครับ บอกตามตรงผมชักรู้สึกเหนื่อยล้าอย่างมาก ไม่ใช่รถไม่ดีน่ะครับ แต่ถนนในครั้งนี้บอกตามตรงรู้สึก"แย่มาก" ยิ่งโดยเฉพาะช่วงรอยต่อนครราชสีมากำลังจะเข้าสู่ขอนแก่น มันอุดมไปด้วยหลุดบ่อรอยต่อและเนินที่พอจะให้เหินกันแบบเสียวๆ ขับแล้วเกร็งมากครับ อีกใจก็สงสารช่วงล่างรถด้วยโดนหนักจริงๆรอบนี้

ในระหว่างที่ผมอยู่ขอนแก่นผมได้มีโอกาสขับ e66 ของลุง ขับไปๆมาๆระหว่างตัวเมืองกับอำเภอน้ำพอง รู้สึกว่าประทับใจมากครับแม้รถจะมีอายุเข้าหลักสิบปีแล้ว มันสามารถเก็บอาการที่ส่งมาจากพื้นถนนได้สุดยอดจริงๆ และโค้งที่ปกติต้องได้เบรคได้ชะลออยู่เสมอมาเจอคันนี้ผมไม่ต้องเลย ขับแล้วสบายไม่เครียด มันก็เลยเกิดอาการ "คัน" อยากเอามาไว้บ้านสักคัน กะเอาไว้ใช้แค่ออกต่างจังหวัดแค่นั้นครับ ไม่ได้ใช้เยอะหรือใช้ประจำอะไร (มีรถใช้ประจำอยู่แล้วในบ้าน3คันครับ) ที่ผ่านมาก็เคยใช้บีเอ็มมา2คัน แต่ยังไม่เคยเล่นรุ่นใหม่ๆที่ว่าระบบไฟฟ้าเยอะแยะมากมายระดับน้องๆเครื่องบินแบบนี้ครับ ใครเคยใช้หรือเป็นเจ้าของขอคำแนะนำทีครับ อยากรู้ว่าจุดด้วยมีตรงไหนบ้าง ค่าซ่อมโหดระดับไหน จุดไหนที่ควรต้องดูเป็นพิเศษ แนะนำทีครับจะได้พิจารณาและตัดสินใจไปเลยว่าควรจะเอามาจอดไว้ที่บ้านดีหรือไม่ อย่างไร ขอบคุณล่วงหน้าเลยครับ :)

หัวข้อ: Re: ไม่ได้เป็นเศรษฐีแต่อยากลองใช้ e66 ดูครับ
เริ่มหัวข้อโดย: neung23 ที่ เมษายน 16, 2015, 01:03:06
รุ่นนี้โช๊คของประจำเลยคับ

ต้นล่ะครึ่งแสนกว่าๆ ถ้าข้างนอกก็ถูกลงหน่อย เท่าที่ทราบมายังซ่อมไม่ได้

แต่ผมก็ไปสอยมาเหมือนกันคับ 730iSE ตัวสุดท้ายที่มี Night Vision หกหลักขาดบาทนึงครบเจ็ดหลัก

หาคันเคลมโช๊คมาแล้วก็สบายไปเยอะล่ะคับ นอกนั้นก็ตามออพชั่นคันนั้นๆไม่ได้จะจุกจิกมากมายอะไร
อีกอย่างก็เกียร์ ถ้าไม่ได้เจอน้ำมันผิดมา ซ๋อมไม่ได้แพงมากมายแล้วคับ เผลอๆซ๋อมมง่ายๆเลยล่ะคับ ถ้าอู่เก่งพอนะ

แต่คันผมเหมือน Night Vision มันบ๊องๆแล้วล่ะ ถามช่างบอกแสนกว่า เงิบบบบ!!!!!
หัวข้อ: Re: ไม่ได้เป็นเศรษฐีแต่อยากลองใช้ e66 ดูครับ
เริ่มหัวข้อโดย: V221 ที่ เมษายน 16, 2015, 07:40:00
รถดีมากครับ แต่ระบบไฟฟ้าก็เยอะด้วยจริง ถ้าหาสภาพดีๆได้เหมือนเพื่อนผมก็ไม่ค่อยจุกจิกมากนัก แต่ของน้องสาวเป็นตัวแรกก็เจอระบบไฟฟ้ารวนบ่อย บางครั้งไฟไม่ดับ ทำยังไงก็ไม่ดับ ต้องเรียกรถยกมาเอาเข้า0ด้วย
หัวข้อ: Re: ไม่ได้เป็นเศรษฐีแต่อยากลองใช้ e66 ดูครับ
เริ่มหัวข้อโดย: H3T ที่ เมษายน 16, 2015, 10:16:14
 รถพวกนี้ตรวจสอบระบบไฟก่อนซื้อให้ละเอียดเลย ถ้ามีปัญหาแล้วแก้ยากมากครับ
 แต่ถ้าระบบไฟโอเค มีประวัติบำรุงรักษาก็น่าสนนะครับ โดยถ้าให้ดี หารถมือสองจากญี่ปุ่น ตัดหัวท้ายเข้ามาสำรองอะไหล่ไว้เลย

 ราคา 745Li GN44 ลงมามากแล้ว ไม่เหมือนพวก W220 ราคายังไม่ลงมาเลย
หัวข้อ: Re: ไม่ได้เป็นเศรษฐีแต่อยากลองใช้ e66 ดูครับ
เริ่มหัวข้อโดย: NoName__??? ที่ เมษายน 16, 2015, 10:32:37
ที่เหนื่อยอาจเพราะเปป็นที่ช่วงล่างและการเก็บเสียงที่ห่วยของ Honda แนะนำลองหา J32ไปลองถนนที่เจอมา ถ้ามันดีขึ้น แสดงว่าความนุ่มและความเงียบช่วยได้ ย้ายค่ายไปใช้Teanna หรือ Camry จะสบายใจกว่า รถยุโรปนะคะ
หัวข้อ: Re: ไม่ได้เป็นเศรษฐีแต่อยากลองใช้ e66 ดูครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Monn ที่ เมษายน 16, 2015, 10:40:41
อืมมม  จั่วหัวแบบนี้ ก็คงต้องเตือนเรื่องซ่อมละครับ รถถูกเลยตอนนี้ เพราะค่าซ่อมแพง อะไหล่สำรองจากญี่ปุ่น เริ่มมีแล้วหละ แต่หากไม่เคยใช้รถยุโรป ราคาค่าซ่อมเฉลี่ย x2  x3 ของญี่ปุ่นเลยนะครับ โดยเฉพาะ รุ่นสูงอย่าง S7 ซ่อมที หัวบาน 

อย่างที่ความเห็นแรกบอกไปครับ เพื่อนใช้อยู่ตัวนี้ ของพ่อเขา ซ่อมโช็ค ของแท้ มือหนึ่ง รวมค่าแรง 9xxxx ไม่ได้เข้า 0 นะ นี่คือตัวเดียวนะครับ เพราะเขาว่าเป็นไฟฟ้าไฮดรอลิคส์ เสีย 4 ต้น แต่ 2 ต้นซ่อมพอใช้งานได้ 2 ต้นเปลี่ยน แค่นี้ก็ 18xxxx นะ ค่าตัวไม่ถึงล้าน แต่ซ่อมแค่โช๊ค เกือบได้ครึ่งคัน ลองคำนวนดูดีๆ เลยนะครับ ถึงอะไหล่อื่น จะไม่ได้แพงขนาดนี้ แต่ไม่มีหลักพันแน่ๆ ซ่อมทีก็คงหลายหมื่น ถึงเหยียบแสน ไม่ก็ลองไปถามอู่ดูราคาอะไหล่คร่าวๆ ก่อนก็ได้ครับ สำหรับผมนะ ตรงๆ S7 คงต้องเศรษฐีจริงๆ ครับ มือหนึ่งมี BSI อาจจะน่าใช้กว่า มือสอง เกิดเจอรถช้ำ ร้องไห้แน่ครับ
หัวข้อ: Re: ไม่ได้เป็นเศรษฐีแต่อยากลองใช้ e66 ดูครับ
เริ่มหัวข้อโดย: wa330 ที่ เมษายน 16, 2015, 11:08:38
โฉมนี้น่าจะยิ่งซ่อมแพงกว่าโฉมe38ตัวก่อน
แนวนี้ผมชอบ jaguar XJR หรูแรง
หัวข้อ: Re: ไม่ได้เป็นเศรษฐีแต่อยากลองใช้ e66 ดูครับ
เริ่มหัวข้อโดย: laempiab ที่ เมษายน 16, 2015, 11:59:10
รอชมรีวิวครับ เคยเห็นขึ้นเรือไปขายเมืองจีนหลายคันแล้ว
หัวข้อ: Re: ไม่ได้เป็นเศรษฐีแต่อยากลองใช้ e66 ดูครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Jatupon ที่ เมษายน 16, 2015, 13:04:16
รอชมรีวิวครับ เคยเห็นขึ้นเรือไปขายเมืองจีนหลายคันแล้ว

โหว.... โหดสลัดดด

ไม่กลัวตกน้ำเหรอครับนั่น
หัวข้อ: Re: ไม่ได้เป็นเศรษฐีแต่อยากลองใช้ e66 ดูครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kpar ที่ เมษายน 16, 2015, 13:09:38
ใช้ bmw มือสองไม่น่ากลัวครับ ลองหาอะไหล่เองไม่แพงอย่างที่คิดและถ้าได้ช่างดีๆซ่อมจบใช้ยาวครับ 
หัวข้อ: Re: ไม่ได้เป็นเศรษฐีแต่อยากลองใช้ e66 ดูครับ
เริ่มหัวข้อโดย: tsubasa ที่ เมษายน 16, 2015, 13:10:04
รถรุ่นนี้ขับดีมากๆครับ นิ่มสบายจริงๆ  แต่ของที่บ้านเป็นตัว e65 760 v12 การกินน้ำมันก็มากเอาการ
ของที่บ้านเกียร์เพิ่งมาเสียเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง สั่งเกียร์ใหม่ก็สองแสนกว่าครับ (ราคาศูนย์)
หัวข้อ: Re: ไม่ได้เป็นเศรษฐีแต่อยากลองใช้ e66 ดูครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ เมษายน 16, 2015, 14:21:33
ส่วนตัวผมว่ารุ่นนี้ไม่สวยเลย แต่ยอมรับว่ารถดี มีคุณภาพ

เรื่องค่าซ่อม คงสูงแน่ๆครับ กับรถระดับนี้
หัวข้อ: Re: ไม่ได้เป็นเศรษฐีแต่อยากลองใช้ e66 ดูครับ
เริ่มหัวข้อโดย: CookiE ที่ เมษายน 16, 2015, 14:47:43
ผมคิดว่าอย่าลองดีกว่าครับ

ต่อให้สภาพรถมันจะดีแค่ไหน แต่อย่าลืมว่ามันก็เหมือนมนุษย์เราที่ว่า ต่อให้ออกกำลังกายจนร่างกายแข็งแรง ทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ อย่างไรร่างกายก็ทนต่อสังขารไม่ได้หรอกครับ

ตอนผมใช้ E60 525iSe ตัวเครื่อง M54 คันแรกปี 2004 อีกคันปี 2006 สองคันนี้หลังระยะวิ่ง 100,000 กิโลเมตรไป ผมเจอค่าอะไหล่ ค่าแรงรวมกันไปประมาณ 1.4 ล้่านบาท (อาจจะมีพี่ๆ หลายท่านบอกว่าใช้กันมานานนนนนนนนน ค่าซ่อมแค่ไม่กี่หมื่นหรื่อไมกี่แสน แต่สำหรับผมไม่ใช่ครับ เนื่องจากพออะไหล่ถึงอายุผมเปลี่ยนก่อนเลยครับ ตอบตามตรงว่ากลัวมากการยืนรอรถยกข้างทางเนี้ย)

จนสุดท้ายตอนนี้ขายไปแล้วละครับ ทำให้รู้เลยว่า รถยุโรปอย่าใช้เกินสัก 7 ปี จะกำลังดีมากกว่าครับ

แล้วยิ่งรถระดับ S7 อย่าไปพูดถึงเลยครับ ตัวอื่นอาจไม่น่ากลัว เนื่องจากราคาอะไหล่ก็พอๆ กับ S3 S5 แต่ตัวโช้คเนี้ยน่ากลัวสุดๆ
หัวข้อ: Re: ไม่ได้เป็นเศรษฐีแต่อยากลองใช้ e66 ดูครับ
เริ่มหัวข้อโดย: popdemonic ที่ เมษายน 16, 2015, 17:33:12
จะใช้รถพวกนี้ต้องมีเงินทุนสำรองไว้ก้อนนึง ตัวเจ้าของต้องเก๋าหน่อย รู้จักคนขายอะไหล่ มือ1 มือสอง หาจากเมืองนอกได้เอง
ภาษาอังกฤษต้องพอได้พอสมควร เพราะรถพวกนี้ เมืองนอกข้อมูลเยอะแยะ ถ้าภาษาได้จะเซฟเงินได้มาก มีความรู้DIY รื้อเป็น
พื้นฐานระบบรถยนต์ต้องแน่น แล้วจะสบายครับ รถพวกนี้น่าขับแต่ไม่น่าใช้ รถอาเตี๊ยผมเพิ่งจัดไปคู่หลัง 1 คู่ คงไม่ต้องระบุว่าชิ้นส่วนไหน
รวมเซอร์วิสต์อื่น รถถอยป้ายแดง จัดไป2แสน เป็นสกุลเงินไทย นานมาแล้วเคยมี730LiSE(Option 760) ถ้าวัยรุ่นจะชอบมากกว่าW220
มันจี้ดจ้าดทันใจ ภายในทันสมัยแต่วัสดุห่วยกว่า เคาะแล้วดังป๋องแป๋งๆๆๆ ความนุ่มนวลถ้าว่าE65/66 นุ่มนวล W220 นุ่มกว่าเยอะ
ระบบประตูดูด W220 ง่อยกว่า E65/66 ของBMW ดูแจ่ม ดูทนกว่า(ไม่ได้หมายความว่าsoft close assisted ของBMW ดีกว่า แค่บอกว่าดูทนกว่า)
ออพชั่น เทียบไม่ได้ W220 ที่บ้านผมช่วงสั้น ส่วนE65/66 ตัวนี้ มันoption 760 มีจอหมอน จอพื้น มูนรูฟ ฝาท้ายเปิด/ปิดไฟฟ้า สารพันที่จะโถมใส่
และพร้อมจะพังเมื่อรถเก่าๆ E65/66 กินน้ำมันกว่า W220   โช้คไฟฟ้า W220พังง่ายกว่าE65/66 นาทีนี้ราคา น่าใช้มากๆครับ คือเงินที่จะซื้อรถ
เนี่ยผมว่าไม่ลำบากหรอก ใครๆก็ซื้อได้ แต่....อย่าลืมว่า รถพวกนี้ ไม่มีคำว่าใช้สบายใจครับ รถ1คันสมมติมีอะไหล่ 2,500ชิ้น 5ปีแรก ชิ้นที่1 เสีย
มันก็รันต่อมาชิ้นที่ 2 3 4 5......ไปเรื่อยๆ จนถึงชิ้นที่ 2,500 พอชิ้นที่ 2,500เริ่มเสียมันก็จะRecounter มาชิ้นที่ 1 ที่ผมกำลังจะบอกคือถ้า
เข้าใจว่ารถเก่าคือรถเก่า แล้วรับกับที่ผมบอก บวกกับ คุณมี3บรรทัดด้านบนที่ผมพิมพ์ คุณจะใช้รถพวกนี้ได้ครับ และเข้าใจสถานะที่ว่าใช้ไปซ่อมไป
รักษาตามอาการครับ ขอให้โชคดี
หัวข้อ: Re: ไม่ได้เป็นเศรษฐีแต่อยากลองใช้ e66 ดูครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Cheercheers ที่ เมษายน 16, 2015, 17:58:21
รอชมรีวิวครับ เคยเห็นขึ้นเรือไปขายเมืองจีนหลายคันแล้ว
เห็นแล้วสยิวแทน

ปล. คุณ popdemonic หายไปไหนมาครับ แอบคิดถึง ;D
หัวข้อ: Re: ไม่ได้เป็นเศรษฐีแต่อยากลองใช้ e66 ดูครับ
เริ่มหัวข้อโดย: The Relentless Pursuit of Perfection ที่ เมษายน 16, 2015, 19:49:22
มาแชร์ข้อมูลเพราะมีโอกาสได้นั่งของคนรู้ใจบ่อยๆครับ อิอิ

เท่าที่ทราบก็มี Overhaul Gear อู่นอกไป 1.4 แสน

โช็คหน้า ต้นละ 7 หมื่น รอเยอรมัน 1 เดือน เปลี่ยนคู่หน้าแล้ว

กลอนประตูดูด บานละ 2 หมื่น (รอซ่อม)

นอกนั้นไม่มีอะไรครับ นั่งนิ่มสบาย เหยียบ 180 ยังนิ่งเลยครับ อีกอย่างรถใหญ่มากกกกก เคยโดนมอไซด์เบียดกระจกข้างแตกไปครั้งนึง ตอนเข้าซอยเล็กๆ

ถ้าชอบจัดเลยครับ

แถมรูปประกอบครับ
หัวข้อ: Re: ไม่ได้เป็นเศรษฐีแต่อยากลองใช้ e66 ดูครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Sinplug ที่ เมษายน 16, 2015, 21:01:11
สำหรับผมชอบรูปทรงดูใหญ่ภูมิฐานดี เหมือนหัวลากยุโรปรุ่นใหม่ทั้งหลายครบ 7-8 ปี  ขายทิ้งเลย ( ผ่อนหมดตั้ง 4 ปีแรก ) ทนซ่อมระบบไฟฟ้าไม่ไหว จุกจิกมาก แต่ช่วง 1-8 ปีแรกใช้ดีมากประหยัดดีเซลกว่าหัวลากญี่ปุ่นพอสมควร แรงเหลือ ลากหนักๆไม่ต้องเค้นเครื่องมาก ลูกน้องขับสบาย
หัวข้อ: Re: ไม่ได้เป็นเศรษฐีแต่อยากลองใช้ e66 ดูครับ
เริ่มหัวข้อโดย: boneshiro ที่ เมษายน 16, 2015, 22:29:28
Pop ตอบได้แจ่มมากครับ^^
ไม่ต่ากลัวนะถ้าพรัอมหาอะไหล่เอง และมีมือcoding เป็นๆอยู่ใกล้ๆตัว
สมัยนี้มีนวัตกรรมชื่อ ebay อะไหล่มือสองหาไมยากหรอกครับ
และไม่ได้แพงดุร้ายถ้าไม่ใช่รหัส M

หัวข้อ: Re: ไม่ได้เป็นเศรษฐีแต่อยากลองใช้ e66 ดูครับ
เริ่มหัวข้อโดย: E.P.W ที่ เมษายน 17, 2015, 02:45:36
เล่นรถแบบนี้ผมว่าน่าจะมีทุนสำรองไว้ก้อนใหญ่ๆเลยนะครับ

ลุงของผมเคยจัดมือสอง S-class W140 มาตอนนั้นปีน่าจะราวๆปี 2008 ตอนซื้อมาราคาน่าจะราวๆ 1-1.5 ล้านบาท

แต่ด้วยที่ลุงผมเป็นคนชอบรถ รู้เรื่องรถเลยจัดการซ่อมทุกอย่างให้มันกลับมาในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้

รายการเปลี่ยนมีอะไรบ้างผมจำไม่ได้ แต่ที่จำได้เลยคือมีท่อไอเสียยกชุดจากเยอรมันมาเลย ค่าซ่อมรวมหมด เฉียดล้าน!!!

สรุปคือค่าตัวเจ้านี่ราวๆ 2-2.5 ล้าน!!!! ส่วนตัวผมว่าถ้ามีเงินราวๆ 2.5 ล้านไว้ซื้อรถคงไม่น่าจะมีคันไหนที่ performance ได้เท่าเจ้า W140 ณ เวลานั้น ในงบไม่เกิน 2.5 ล้านนะครับ

คุ้มไม่คุ้มอยู่ที่มุมมองแต่ละคนครับ อันนี้มาให้ข้อมูลไว้พิจารณาครับไม่รู้ว่ากรณี e66 จะเป็นยังไงนะครับ
หัวข้อ: Re: ไม่ได้เป็นเศรษฐีแต่อยากลองใช้ e66 ดูครับ
เริ่มหัวข้อโดย: PKS8 ที่ เมษายน 17, 2015, 06:30:48
Bmw เวลาวิ่งรูดทางขรุชระ เค้าซับแรงกระแทกดีครับ แต่จบทริปเอาเข้าอู่ทีแทบเป็นลม ซ่อมช่วงล่างไม่เคยต่ำกว่าหมื่นเลยครับ

บางคนบอกว่า ค่ารถและซ่อมรวมกันยังไงก็คุ้มกว่าซื้อมือหนึ่ง ส่วนนึงมันก็จริงครับ แต่ถ้าได้ลองเองจริงๆ ผมคนนึงที่รู้สึกว่าซื้อรถญี่ปุ่นมือหนึ่งดีกว่าครับ
หัวข้อ: Re: ไม่ได้เป็นเศรษฐีแต่อยากลองใช้ e66 ดูครับ
เริ่มหัวข้อโดย: boneshiro ที่ เมษายน 17, 2015, 07:20:51
ยก ตย คนบอกโช้คต้นละ 8-9 หมื่น
อีเบรวมส่งของใหม่ไม่น่าเกินสองหมื่น

มันต้องมีศาสตร์ในการหาอะไหล่นิดนึง คนใช้บีเอมแล้วบอกซ่อมทีหมื่นอัพ แสนอัพ
ไปใช้ยี่ห้ออื่น ไปใช้ d segment ญี่ปุ่นก็ดีแล้วก็ดีแล้วครับ
หัวข้อ: Re: ไม่ได้เป็นเศรษฐีแต่อยากลองใช้ e66 ดูครับ
เริ่มหัวข้อโดย: panjap ที่ เมษายน 17, 2015, 07:43:05
ถ้าเงินเหลือ ก็เอาเลยครับ ผมเคยใช้ E38 บอกตรงๆ รับค่าซ่อมไม่ไหวครับ ขายทิ้งเลยใช้แค่สองปี ซื้อมือสองมาครับ
หัวข้อ: Re: ไม่ได้เป็นเศรษฐีแต่อยากลองใช้ e66 ดูครับ
เริ่มหัวข้อโดย: dht_tubes ที่ เมษายน 17, 2015, 13:27:58
ซ่อมแพง ผมว่าหลายท่านรับได้

แต่ซ่อมไม่จบนี่ซิ เปลี่ยน เปลี่ยน เปลี่ยน แต่ไม่หาย

อันนี้หล่ะ ที่ปวดเฮดของจริง
หัวข้อ: Re: ไม่ได้เป็นเศรษฐีแต่อยากลองใช้ e66 ดูครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ixoxi999 ที่ เมษายน 17, 2015, 23:46:28
ถามเป็นความรู้นะครับ
ถึงแม้เราจะซื้ออะไหล่มาเปลี่ยนเองได้ แต่เราต้องตั้งอะไรกับตัวรถด้วยเครื่องมือพิเศษหรือเปล่าครับ เพราะท่าทางจะทำยากน่าดูรุ่นนี้
หัวข้อ: Re: ไม่ได้เป็นเศรษฐีแต่อยากลองใช้ e66 ดูครับ
เริ่มหัวข้อโดย: boneshiro ที่ เมษายน 18, 2015, 00:27:29
ไม่ต้องถึงขนาดมาเปลี่ยนเองหรอกครับ
อู่ที่เค้าให้เราหิ้วอะไหล่มาเองได้มีเยอะแยะ
หัวข้อ: Re: ไม่ได้เป็นเศรษฐีแต่อยากลองใช้ e66 ดูครับ
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ เมษายน 18, 2015, 01:30:15
"ค่าซ่อม โหดระดับไหน"

อ่านดูที่คุณเขียนมา คงไม่เคยได้ซ่อม BMW มาก่อน

รถที่มีเทคโนโลยีเยอะ ๆมาก ๆ มักจะมีอะไรเสียเยอะกว่ารถที่มีแค่ชิ้นส่วนพอให้วิ่งได้อยู่แล้วครับ

อะไหล่ที่เสีย ๆ กัน ไม่มีอะไรถูกสำหรับรุ่นนี้ เมื่อเทียบกับรถญี่ปุ่นคันใหญ่ ๆ

อะไหล่ตัวถังที่ผมเห็นว่าคนส่วนใหญ่ที่ซื้อมือสองมามักจะไปซื้อมาก็เซียงกงทั้งนั้น แม้กระทั่งกล่อง Electronics ต่าง ๆ ก็น้อยมากที่จะเบิกเอาของใหม่มาใส่กัน

ไม่ใช่ว่ามันจะเสียทุกอย่าง แต่เอาแค่หลัก ๆ เสียซัก 4-5 ชิ้นในช่วงห้าปี คุณก็อาจจะเบื่อก็ได้ โช๊คอัพถูก ๆ ซื้อ Ebay มาก็ต้องมีภาษี มีค่าใส่ มีค่าเสี่ยง ซื้อมาปุ๊ป รั่วปั๊ปก็เห็นมาแล้ว ส่งคืนก็อ่วมแล้วครับ เบ็ดเสร็จรวมค่าแรงก็ต้องมีตัวละสองหมื่น รับรองได้ว่าเสียครบสี่ต้นในห้าปีแน่ ๆ แต่เสียแล้วจะรู้ตัวรึเปล่าอันนี้ก็แล้วแต่เจ้าของรถล่ะครับ รถมือสอง ได้มาสภาพดี พร้อมใช้มันก็อายุแค่นี้ล่ะ ถนนเมืองไทย สกปรก และห่วยพร้อมจะฆ่าโช๊คอัพเทพ ๆแบบนี้อยู่แล้ว

กล่อง MRS รุ่นนี้มันก็ประหลาด มี หน่วยย่อย ๆ อีกตามตำแหน่งต่าง ๆ ที่มีถุงลม และมีเซนเซอร์แยกจุดต่างหากอีก วันดีคืนดีมีเหตต้องรื้อพวงมาลัยออกมา ประกอบผิดขั้นตอนไปนิดนึง ต้องเริ่มทำ refitting procedure ใหม่ทั้งคันก็มี

ลำพังเทคโนโลยีมันเยอะรอพังอยู่แล้ว ซับซ้อนก็ไม่ใช่ว่าใคร ๆจะทำได้ทุกอย่าง ถ้าแจ็กพ็อตได้รถชนมา ตัดหัวประกอบร่างมาใหม่ วันดีคืนดีขับไปดับกลางทางก็ดูไม่จืดแล้วครับ

ถ้าเอาเงินสองแสนเผื่อไว้ซ่อมจะบอกว่าพออย่างสบายใจในห้าปี ก็คงไม่มากไป แต่ตอนซ่อมนี่ล่ะคุณจะเบื่อก่อนรึเปล่าอันนี้ผมไม่รู้ด้วยครับ ใช้รถรุ่นใหญ่เงินพร้อมอย่างเดียวไม่พอครับ ใจมันต้องพร้อมด้วย ดู E38 เป็นตัวอย่างสิครับ เดินตลาดมือสองหาสภาพดี ๆ เหลือกี่คัน ? เจ้าของที่ยังรัก พอดูแลให้เหมือนเดิม หาไม่ได้แล้ว ที่ขับ ๆ กันแบบเป๋ ๆ พอวิ่งได้กันทั้งนั้น เอาคำว่าซ่อมให้สมบูรณ์ เหลือน้อยเต็มที่