Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ซิ่งเข้าส้วม ที่ เมษายน 20, 2015, 23:03:15
-
วันนี้เจอ MG GS ขับพรางแถวถนนบางนาตราดแล้วรู้สึกว่ามันเท่บึกบึนดี เลยหาข้อมูลเพิ่ม พบว่าเครื่องมันเป็น 1.5 turbo แต่แรงม้าตั้ง 168 แรงม้า ต่างจาก MG5 turbo ที่ใช้เครื่อง 1.5 turbo เหมือนกันแต่แรงม้าแค่ 136 แรงม้าเท่านั้นทั้งๆ ที่เป็นเครื่องเดียวกัน
เลยสงสัยว่าเค้าตั้ง Turbo ต่างกันที่อะไรครับ ทำไมเครื่องเดียวกันแต่แรงม้าต่างกันเยอะจัง
-
อยู่ที่จูนบูสมากน้อยคับ เทอร์โบแรงตามบูส เครื่องตัวเดียวกัน
-
....
การเซ็ทกล่องเป็นตัวกำหนดค่าการบูสต์ ว่าต้องการอากาศกี่บาร์ ณ ขณะรอบเครื่องนั้น ๆ
ดังนั้น หากเครื่องตัวเดียวกัน ตั้งค่าการป้อนน้ำมัน และอากาศ ไม่เท่ากัน แรงก็ไม่เท่ากัน.....ค่าบูสต์ ก็ต่างกันด้วย......
เข้าใจหรือเปล่าไม่รู้ แต่ผมอธิบาย แล้วก็งง ๆ...ครับ
-
อยู่ที่การเซตค่า ECU อากาศ การจ่ายน้ำมัน ไฟจุดระเบิด บูส ฯลฯ ประมาณนี้ครับ
ไม่ได้แต่เป็นแค่ค่ายนี้ เป็นกันหลายค่ายครับ แล้วรุ่นต่างที่อุปกรณ์บางอย่างด้วย
-
ยังงี้ถ้าผมซื้อ MG5 มาแล้วเอาไปจูนเพิ่มบาร์ ผมก็สามารถสร้าง 168 แรงม้าได้เหรอครับ แล้วเครื่องมันจะพังเร็วมั้ย ถ้าอัดอากาศเยอะๆ
-
ไม่เกินลิมิตก็ไม่พังคับแต่เราจะรู้ลิมิตของมันไหม
อย่าง E200cgi กับ E250cgi ถ้าจำไม่ผิดเครื่องตัวเดียวกันแต่เซ็ทกล่องต่างกัน
ขยับบูสนิดหน่อยไม่เกินรุ่นพี่ขับไม่บูสแช่ไม่พังคับ
แต่ก่อนผมเล่น2jzgte ก็เริ่มจากลงกล่องfconทองเปลี่ยนหัวฉีดบูสเพิ่ม
จากเดิม0.8bar ขยับเป็น1.2bar เปลี่ยนแคมเปลี่ยนโบยักษ์ทำท่อนบนขยับเป็น1.5bar
600ม้าท่อนล่างเดิมรับไหวคับ
-
เครื่องยนต์เหมือนกัน อยู่ที่การเซตค่า ECU มากกว่าครับ
-
วิธีง่ายๆที่สุดคือ electronic limits โดยECU
ลดบูสต์ลงมา แรงม้าก็ตกลง เพิ่มบูสต์แรงม้าก็เพิ่มขึ้น
แต่....อันนั้นคือหัวข้อ การทำจริงๆ ระดับบูสต์ต่างกัน
มาเร็วช้าต่างกัน มันไม่ได้หมายความว่าไปปรับแต่งECU
ให้ลดบูสต์ลงมาแล้วใช้ได้ครับ มันต้องปรับตารางส่วนอื่นๆ
เก็บข้อมูลใหม่ แล้วปรับจูนVolumetric Efficiency,Ignition,
etc...ใหม่หมดครับ