Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: matthew_unlimitedneeds ที่ เมษายน 22, 2015, 22:15:24
-
มีพี่ๆคนไหนเคยตัดสินใจซื้อรถ ระหว่าง BMW กับ BENZ แล้วได้ซื้อไปแล้ว รู้สึกเสียดาย หรือรู้สึกว่าตัดสินใจผิดบ้างคับ แบบว่า รู้งี้ซื้อ เบนซ์ดีกว่า หรือรู้งี้ซื้อ บีเอ็มดีกว่าประมาณนี้คับ
และผมอยากรู้เหตุผลว่าเพราะอะไรทำให้พี่รู้สึกตัดสินใจผิด ???
หรืออีกอย่าง พี่ๆคนไหนรู้สึกว่า ตัวเองงคิดถูกที่ซื้อ เพราะอะไร และรุ่นอะไรกันบ้างคับบ ???
ผมขอความคิดเห็น ประสบการณ์ พี่ๆหน่อยนคับบบ คิดซะว่าสงสารน้องที่ไม่เคยมีรถยุโรป ยังตัดสินใจไม่ได้จิงๆ ขอบคุณคับบ
-
คนซื้อสองยี่ห้อ นี้มีข้อแตกต่างกันมาก
bm เน้นกับขับขี่ ที่สนุก firm
benz จะเน้นขับสบาย เรื่อยๆ
การซื้อผิดของ 2 ยี่ห้อนี่คือการที่ ไม่รู้จักตัวเองว่าชอบรถแบบไหน และ style ตังเองคืออะไร
-
รถยุโรปคันแรก BMW
คันที่2ก็เลยอยากลองขับBenzดูบ้าง
ส่วนตัวตัดสินใจตามอารมณ์ และความรู้สึก
แล้วรับรองคุณจะไม่เสียใจครับ...
-
ซื้อ ML250 เพราะหน้าตาภายนอก ภายในของมัน
แต่ขับแล้วมันนิ่ม มันโยน และมาแอบเสียดายทุกครั้ง เมื่อเห็น X5
ซึ่งคาดว่า ถ้าซื้อ X5 ก็คงแอบเสียดาย ML เหมือนกัน
อารมณ์เดียวกับ นั่งกินข้าวตามสั่งกับเพื่อนนั่นแหละ จะรู้สึกว่าของเพื่อนมันสั่งมาได้น่ากินจัง
-
ซื้อสองคันก็จบ คันๆ
-
ผมพึ่งได้เป็นเจ้าของ BMW คันแรก ครับ ที่บ้านใช้แต่MB มาตลอด ครับ
ไม่มีคำว่าเสียดาย ในความคิดผมนะ อาจเป็นเพราะว่าคุ้นชินกับ MB มาตลอด ทำให้รู้สึกเบื่อ และเฉยๆ กับมันไปแล้วมั้งคับ
อยากบอกว่า ไม่ต้องเสียดายหรอกครับ ไม่ว่า จะ BMW หรือ MB ก้อมีดีกันคนละอย่าง ครับ
ในความรู้สึกส่วนตัว
BMW - ชอบการขับขี่ และ ช่วงล่าง ที่ค่อนข้างให้ความมั่นใจได้ดีกว่า MB ครับ และ BMW ให้ลุค ที่ดูวัยรุ่นกว่า
MB - วัสดุ และ การตกแต่งภายใน ดูหรูกว่า มีความละเมียด มากกว่า (อาจขึ้นอยู่กับรุ่นด้วยครับ) แต่ผมเทียบ SLK R172 กับ BMW Series 3 การขับขี่ BMW ยังดีกว่า SLK แม้ว่าจะเป็นรถสปอร์ต ก้อตาม MB ยังคงคอนเซปต์ นุ่มตลอดกาลลล ซึ่งนุ่มเกินไปในความรู้สึกผม แต่ยังไม่เคยลองพวก A class ที่เค้าว่าแข็งโป๊ก นะครับ
ถ้าพูดถึงทั้งสองยี่ห้อ นี้ ในปัจจุบัน ผมมองว่า ไม่มีอะไร ดี หรือ ด้อย ไปกว่ากันอย่างชัดเจน เหมือนในอดีต แล้วครับ
ไม่ว่าจะเป็น
1. ค่าซ่อมบำรุง MB ถูกกว่า BMW (ผมว่าแพงทั้งคู่ ถ้าเข้าศูนย์ อยากสมเหตุสมผลต้องไขว่คว้าเอาเอง)
2. ความทนทาน MB ทนกว่า BMW (เปราะ พอๆกันทั้งคู่ อยู่ที่อะไร จุดไหนมากกว่า รถยังไงๆ ก้อต้องมีเสียอยู่แล้ว จะให้ทนเทพ ไม่มีซ่อมเลย ผมว่ายาก ผมมองว่าถ้าจะเอาทนทาน ซ๋อมถูก ไป โตโยต้า อย่างเดียวเลยคับ)
3. ราคา BMW ตกกว่า MB (ตกพอๆกัน ทั้งคู่ )
4. ภาพลักษณ์ (ผมว่าไม่หนีกันทั้ง 2 ยี่ห้อ เจอ รปภ. ไถเงินประจำ เช่น แสร้งทำมายืนหน้ารถบ้าง ตะเบ๊ะบ้าง วิ่งมาโบกบ้างทั้งๆที่กรูหาที่จอดเจอเอง) 555 แซวเล่นน่ะคับ คนทั่วๆไป มองก้อรู้คับทั้ง MB และ BMW คนที่ไม่รู้เรื่องรถ หรือ ผู้หญิงแทบจะ 100% รู้จัก BMW พอๆกับ MB (ถ้าป้าหรือยายแก่ๆ จะไม่รู้จัก BMW ก้อไม่เป็นไรเนอะ เพราะ เราคงไม่ไปจีบ ป้าหรือยาย อยู่แล้ว อิอิ)
แต่จากที่ จขกท. เขียนมา ว่า กำลังตัดสินใจ ซื้อ รถยุโรป คันแรก ซึ่งผมไม่ทราบเงื่อนไขต่างๆ ของ จขกท. เลย
ผมแนะนำให้ ลอง MB ก่อนเลยครับ เพราะว่า มันครบเครื่อง ทั้งเรื่อง สมรรถนะ ที่ไม่ขี้เหร่ และ ภาพลักษณ์ ที่เป็นที่ยอมรับ อยู่แล้ว
แต่ถ้าให้บอกจริงๆ คือ ถามความรู้สึกตัวเองครับ ความรู้สึกแรกที่ชอบคันไหน เอาคันนั้นครับ ไม่ต้องหาเหตุผลแล้ว สำหรับ 2 ยี่ห้อนี้ ซื้อได้หมด ฮะ
-
ผมไม่เสียดาย Benz นะ ผมว่ามันระดับเดียวกัน
แล้วคุณตาใช้ Benz ก็ไม่เคยมอง BM เลย เวลาไปบ้านตาทีไรจอดคู่กัน ก็ภาพลักษณ์เหมือนกัน ตาไม่เคยว่ารถผม ผมไม่เคยว่ารถตา
ส่วนคนที่ตัดสินใจผิด เพราะไม่รู้ตัวเองมากกว่า แค่ดูมันก็สร้างความเชื่อในตัวเองไม่ได้ ต้องลองขับดู ผมขับBenzคุณตา ผมบอกเลยว่า สบาย ไม่อึดอัด อัตราเร่งดีใช้ได้ ข้างในสวยงาม
พอขับรถตัวเอง อึดอัด แต่ก็สบาย อัตราเร่งดี ข้างใน ดูสปอตๆ ใช้งานก็ง่ายดี
ดีคนล่ะแบบ มีความสุขแบบไหนก็เลือกแบบนั่นเลย
-
4ปีที่แล้วต้องเลือกระหว่าง F10 520d กับ E250CGi ซึ่งเป็นรถยุโรปคันแรกในชีวิตเหมือนกัน
โดยในตอนแรกได้ตัดสินใจจอง 520d ไปเพราะอารมณ์ชอบ BMW มากกว่าแต่เพราะรีบอยากได้รถจึงจองสีที่ไม่ได้ชอบไป
แต่แล้วก็มีจุดเปลี่ยนคือพอดีเซลส์เบนซ์ติดต่อมาว่า E250 ออกสีพิเศษมาจำนวนจำกัดแถมปรับ option มี Navi และมีรถเลย
จึงเปลี่ยนใจไปเอา E250 ซะงั้น ทิ้งเงินจองไป 50000 บาท :P
สรุปหลังจากใช้มา4ปี ผมไม่รู้สึกผิดหวังกับการตัดสินใจซื้อ Benz เลยแม้แต่น้อย
แต่ว่า... ลึกๆภายในใจยังคงโหยหา และอยากลองเป็นเจ้าของ BMW ซักคัน
ดังนั้นในวันนี้มีโอกาศจะเปลี่ยนรถอีกครั้ง ผมจึงไปจอง BMW แบบไม่ลังเลไปดู Benz แม้แต่นิดเดียว
วันที่ 15 พค นี้ครับเจอกัน X5 xdrive30d M Sport.... :D
-
กลัวเสียดาย ต้องเทสไดร์ฟทั้งคู่ครับ แล้วจะรู้ว่าชอบแนวไหน
สุดท้ายจะเป็นแบบผม 555
-
ซื้อ volvo แทนครับ อิอิ
-
ลองซื้อสลับ segment กันมั้ยครับ แต่ไม่ถึงกับครบทุก seg นะครับ เอาแค่ที่จะใช้งาน
ที่เคยผ่านๆมา จะเป็นไอเดียสลับประมาณว่า S-class, 5-series, C-class หรือ 7-series, E-class, 3-series ทำนองนี้
-
กลัวเสียดาย ต้องเทสไดร์ฟทั้งคู่ครับ แล้วจะรู้ว่าชอบแนวไหน
สุดท้ายจะเป็นแบบผม 555
นอกเรื่องนิดนึงครับ ช่วงล่างระหว่าง E300 AMG กับ active hybrid 5 ต่างกันมากมั้ยครับ
ส่วนถามว่าเสียดายมั้ย แล้วแต่อารมณ์กับการใช้งานครับชอบแบบไหนก็อันนั้นครับ
-
กลัวเสียดาย ต้องเทสไดร์ฟทั้งคู่ครับ แล้วจะรู้ว่าชอบแนวไหน
สุดท้ายจะเป็นแบบผม 555
นอกเรื่องนิดนึงครับ ช่วงล่างระหว่าง E300 AMG กับ active hybrid 5 ต่างกันมากมั้ยครับ
ส่วนถามว่าเสียดายมั้ย แล้วแต่อารมณ์กับการใช้งานครับชอบแบบไหนก็อันนั้นครับ
ตอบแบบตรงๆ ต่างกันมากครับ
AH5 M Sport ช่วงล่างเป็นแบบปรับไฟฟ้าครับ มีระบบ DDC ปรับเปลี่ยนตามโหมดเลยครับ ปรับ Comfort+ นี่นุ่มมากนั่งสบายสุดๆ แต่พอปรับ Sport นี่เฟิมมากๆครับ แต่ไม่กระด้าง ออกแนวหนึบๆ ประทับใจกับช่วงล่างครับ
ส่วน E300 AMG กระด้างครับ รู้สึกช่วงล่างเด้ง ( ตอนแรกคิดว่าเป็นเพราะแม๊ก 18 + ยางรันแฟลต แต่บีเอ็มแม๊ก 19 + ยางรันแฟลต ทำได้ดีกว่า ) นั่งทางไกลเช่นไปพัทยา คอสะพานเส้น motorway ทำเอามึนครับ แอบผิดหวังครับ
-
ลองซื้อสลับ segment กันมั้ยครับ แต่ไม่ถึงกับครบทุก seg นะครับ เอาแค่ที่จะใช้งาน
ที่เคยผ่านๆมา จะเป็นไอเดียสลับประมาณว่า S-class, 5-series, C-class หรือ 7-series, E-class, 3-series ทำนองนี้
ของผมก็ซื้อสลับsegครับ ไม่มีเสียดายแน่นอน คันแรก f30 คันสอง Cls
ทั้งคู่เป็นดีเซล บ้านผมชอบรถดีเซลครับ 555
-
ปัญหานี้แก้ยากครับ ใจไม่นิ่ง รักพี่เสียดายน้อง
-
เป็นประเด็นคำถามที่น่าสนใจมากๆ ครับ
เท่าที่เคยได้พบปะ พูดคุย และสัมผัสความรู้สึก ความสนใจ ทัศนคติ ของคนที่ใช้รถบีเอ็มดับเบิลยู ( ซีรีย์ 3 และ ซีรีย์ 5 )
ส่วนใหญ่ เป็นคนที่มีความรู้เกี่ยวกับรถยนต์เป็นอย่างดี หลายคนสามารถซ่อมบำรุงเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง
ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการใช้งานและครอบครองรถยนต์มาหลายรุ่น เคยสัมผัส และ พึงพอใจสมรรถนะของรถบีเอ็มดับเบิลยู ( โดยเฉพาะ e30 )
บางกลุ่มมีความสนใจในกีฬา motorsport
ตอนตัดสินใจซื้อ ก็ทำการศึกษาข้อมูล ทดลองขับ
และ ซื้อโดยไม่ลังเล เพราะไม่ได้นำรถยี่ห้ออื่นมาเป็นตัวแปรในการพิจารณา
ส่วน เมอร์เซเดส เบ๊นซ์ รอผู้รู้ช่วยชี้แนะครับ
-
ไม่ยากเลยครับ
แต่วิธีผมคือ ลองทั้งคู่ แล้วถามตัวเองว่า ลองขับแล้วเลือกคันที่ใช่ในแบบที่ใจชอบ
ให้มันตกผลึกทางความคิด ถ้าเอาเวลามาเร่งเร้าตัดสินใจ ผมว่ามันจะไม่จบ
กรณีผม ใช้ clk200 w209 มาก่อน คิดอยุ่สักพักหนึง ว่าจะอีคุ้ป หรือ 420i
ผลปรากฏ ชอบ 420มากกว่า เลยจบที่ bm
-
เป็นประเด็นคำถามที่น่าสนใจมากๆ ครับ
เท่าที่เคยได้พบปะ พูดคุย และสัมผัสความรู้สึก ความสนใจ ทัศนคติ ของคนที่ใช้รถบีเอ็มดับเบิลยู ( ซีรีย์ 3 และ ซีรีย์ 5 )
ส่วนใหญ่ เป็นคนที่มีความรู้เกี่ยวกับรถยนต์เป็นอย่างดี หลายคนสามารถซ่อมบำรุงเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง
ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการใช้งานและครอบครองรถยนต์มาหลายรุ่น เคยสัมผัส และ พึงพอใจสมรรถนะของรถบีเอ็มดับเบิลยู ( โดยเฉพาะ e30 )
บางกลุ่มมีความสนใจในกีฬา motorsport
ตอนตัดสินใจซื้อ ก็ทำการศึกษาข้อมูล ทดลองขับ
และ ซื้อโดยไม่ลังเล เพราะไม่ได้นำรถยี่ห้ออื่นมาเป็นตัวแปรในการพิจารณา
ส่วน เมอร์เซเดส เบ๊นซ์ รอผู้รู้ช่วยชี้แนะครับ
ผมเป็นทุกอย่างที่คุณบอกมา แต่ผมซื้อ MB ครับ ไม่ซื้อ BM
ผมสนใจเรื่องรถบ้ารถศึกษาเรื่องรถ ถึงได้รู้ว่ารถคันแรกในโลกคือ MB
และถึงรู้ว่า MB คิดค้นสิ่งต่างๆมากมายจนรถแบรนด์อื่นๆเอาไปเลียนแบบ
กีฬา motorsport ก็ชอบมากครับ เชียร์ MB มาตลอด ปีที่แล้วฟินเลย
ปีนี้ดูรูปการณ์ก็น่าจะได้ลุ้นยาวๆ เพราะเครื่องทำมาดีมาก
ก่อนซื้อก็ศึกษาหาข้อมูลเล็งมาตั้งแต่มีข่าวว่าจะออก
ไปลองเทียบกับคู่แข่ง (รวมทั้ง BM ด้วย) ถึงได้ตัดสินใจซื้อครับ
ผมว่าคนที่ซื้อ BM ก็ไม่ได้เป็นแบบนี้ทุกคน (อย่างน้อยก็น้องสาวผมคนนึงล่ะ)
แบบที่ซื้อตามชาวบ้านเพราะคิดว่าเท่ก็เยอะ คนที่ซื้อ MB ก็คงไม่ได้เหมือนกันทุกคน
อย่างผมตอนนี้ก็อยากได้ 420i ผมว่าคงต้องดูเป็นรุ่นๆไป
-
ขอบพระคุณที่ร่วมอภิปรายครับ คุณ raygun
เป็นข้อมูลดีๆ ที่มีประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ระหว่างกลุ่มผู้สนใจรถยนต์ทั้งสองแบรนด์ครับ
...
บางครั้ง เคยย้อนคิดกลับไป --ช่วงเรียนหนังสือ มีเพื่อนสมัยมัธยมที่เป็นสมาชิกของชมรมผู้ใช้รถเมอร์เซเดส รุ่นหนึ่ง
คงเป็นเพราะไม่ได้อยู่ในแวดวงเพื่อนๆ ของเค้าที่ใช้เมอร์เซเดส ต่อมาช่วงเรียนระดับอุดมศึกษา เลยห่างๆ กันไป
เป็นยุคสมัยที่ยังไม่มีระบบอินเตอร์เน็ต โทรศัพท์ยังไม่มีซิมการ์ด ..หึ หึ
ถ้ายุคนั้นมีเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารที่สะดวก รวดเร็ว บางที อาจจะได้ร่วมแชร์ประสบการณ์กับเพื่อนแบบใน headlightmag
...
กลายเป็นนิยายเรื่องแฟนฉันไปซะงั้น-- ขำๆ นะครับ
-
ไม่เห็นเกี่ยวกับ style เลย งี้ใครซื้อ A250 อยากได้ความนุ่มนวลหรอ
ผมบ้าขับรถ ถ้าจะซื้อ S3 กับ C class ตอนนี้ ยังซื้อ C class เลย เพราะผมเห็นว่ามันทำอะไรโดยรวมได้ดีกว่า
แถมรีวิวจากฝรั่งหลายๆ ที่ยังบอกว่าขับสนุกดีด้วย
-
กลัวเสียดาย ต้องเทสไดร์ฟทั้งคู่ครับ แล้วจะรู้ว่าชอบแนวไหน
สุดท้ายจะเป็นแบบผม 555
แล้วแบบนี้เลือกอันไหนใช้บ่อยสุดครับ ::) ::)
-
อย่าไปเชื่อรีวิวไหนๆ ถ้าคุณๆยังไม่ได้หาวันว่างๆสบายๆวันที่มีสติเต็มๆ ไปลองขับรถที่คิดว่าชอบ
เพราะคงไม่มีใครอ่านรีวิวตามเน็ตเว็บไทยบ้างเทศบ้าง แล้วโทรสั่งซื้อรถเลยจริงๆใช่ไหมครับ
คนที่เลือกรถได้ตรงตัวเองที่สุด = คนที่ไม่สนปัจจัยภายนอกที่จะส่งผลให้ตัดสินใจผิดๆ
ถ้าสมมุติผมมีเงินจะซื้อรถได้เพียงคันเดียว
ผมก็ไปลอง BMW และ BENZ รุ่นที่ชอบ
โดยปรกติแล้ว ความรู้สึกเอะใจตามสัญชาติญาณว่า "กูชอบคันนี้หวะ" แว็บแรกของจิตใจตอนลองขับ
นั้นแหละครับคือรถที่คุณจะอยู่ด้วยแล้วคุณมีความสุข (ถ้าไม่เอาปัจจัยเรื่องอื่นมาเกี่ยวนะครับ)
-
สำหรับผมต้องเทียบ เซ็กเมนต์ต่อเซ็กเมนต์เลย
116i กับ A180 >> 116i
320i กับ c200 >> c200
328i vs C250 >> 328i
325d vs c300 >> c300
E coupe vs S4 coupe >> E coupe
E cab vs S4 con >> S4 con
Z4 vs SLK >> SLK
GLE vs X6 >> X6
S class vs S7 >> S class
แต่ถ้า CLA250 กับ 220i อันนี้เลือกยาก
คือ..มันไม่ได้อยู่ที่ยี่ห้อ มันอยู่ที่ตัวรถ
-
กลัวเสียดาย ต้องเทสไดร์ฟทั้งคู่ครับ แล้วจะรู้ว่าชอบแนวไหน
สุดท้ายจะเป็นแบบผม 555
แล้วแบบนี้เลือกอันไหนใช้บ่อยสุดครับ ::) ::)
คัน E300 Hybrid AMG คุณแม่ใช้ครับ ส่วนผมใช้ AH5 M Sport ครับ
Segment เดียวกัน รุ่นชนรุ่น ตัว top ทั้งคู่ เลยเห็นความแตกต่างชัดเจนครับ
-
เห็นกระทู้นี้ แล้ว ต้องขอแจม เลย ผมใช้ทั้ง Benz BMW ตั้งแต่ เด็กจนแก่ ตอนนี้ ก็ยัง มีทั้ง benz bmw รุ่นปัจจุบัน
ข้อดี เสีย ท่านก่อนหน้านี้พูดไปแล้ว ผม ขอ แค่ แชร์
1. warranty แบบ กั้กๆ
BMW BSI 5ปี แสนโล ส่วนให่ญ รถ ถ้ามีคันเดียว สามปีก็แสนโลแล้ว
MB 3 ปี แสนโล แต่ เพิ่มเป็นแบบ 5ปีได้ แต่ผมไม่แน่ใจเรื่องราคาน่าจะแพง
คือสรุปนะ รถระดับนี้ กล้าๆ หน่อยจัดเลย warranty 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง.. มันต้องแบบนี้ได้แล้ว
2. ขาดความคลาสสิก ราคารถตกระนาว เพราะรุ่นใหม่ออกมาที รุ่นเก่าแทบจำไม่ได้ อันนี้ เมื่อก่อนเป็นเฉพาะ bmw แต่ตอนนี้ benz ก็ทำด้วยแล้ว
3. option ที่แสนกั้ก บอกไม่ให้ซื้อ รถเกรย์ แต่ สั่ง option นู่นนี่ ก็ไม่ได้ distronic นี่ camry ยังมี
แต่ benz thai ไม่ใส่มา..? bmw นี่ option ช่วงหลังๆนี่แย่มากเลยครับ หนักกว่า benz ดู X5 2.5 ดิ เอามาขาย ทำมัย x 5 แต่ไม่มี x drive ใครจะไปซื้อ
4. รถรุ่นใหม่ๆ นี่ท่านใช้นานๆ เหมืนอรุ่นเก่าไม่ได้แล้วนะ ระบบไฟฟ้า อื้อเลย เสีย ที นี่อย่างมัน ..
แถมเวลาซ่อมเดีย่วนี้ online ไป germany อีก net หลุดซ่อมไ่ม่ได้นะครับ
จริงนะ รถหรูเนี่ย ไม่ค่อยมีทางเลือกมาก เมื่อก่อนซื้อ เกรย์ได้ สั่ง option เอง สะใจ เดี่ยวนี้
สั่งไม่ได้ เพราะ ซ่อมไม่ได้อีก จะไปซื้อ Porsche ค่าซ่อมก็แพงเกิน ผ้าเบรค 2xxxx
แล้วพอหันไปดู Lexus เห็นราคา แต่ละรุ่นออกมาแทบ shock RX350 7 ล้าน หน้าตา ราคาขายแค่ 4ล้านก็แพงแล้ว
แถมรอเป็นชาติ นี่ผมจอง Nx ไป ตั้งแต่ มอเตอร์ expo ยังไม่ได้เลย
ถ้าไม่ติดเรื่องที่ (รถ = ภาพลักษณ์ บ่งบอกถึงฐานะ ...) ผมก็คงจะซื้อแต่ toyota ดีสุด .. แล้ว
ผมอยากให้ค่านิยม เรื่องนี้เปลี่ยนได้ซักที.... รถ คือ สิ่งของที่ใช้แล้ว 5ปี หมดอายุ ซ่อมน้อยที่สุดเป็นดี
ผมว่านะ ไปซื้อ bigbike คุ้มกว่าตอนนี้ ราคาก็ไม่ตก
-
ผมใช้ W211 E Class เป็นรถคันแรก ชอบมากครับ
พอใช้ไปสัก 8 ปี จะเปลี่ยนรถ ไปลองเทสไดรฟ์ F10 มันขับสนุก แตกต่างจากเบนซ์มากจริงๆ เลยได้คันที่ 2 มาเป็น F10 Series5 525d
แต่ขับไปสักปี ก็รู้สึกว่าอยากขับเบนซ์มากกว่า 555 พอดี W222 เพิ่งออก ก็เลยได้ W222 เป็นคันที่สาม
สรุปส่วนตัวผม ถ้าได้ลองเทสไดรฟ์ มักจะเสร็จ BMW เพราะคะแนนการขับขี่ มันยอดมาก ทิ้งเบนซ์ห่างๆ ได้เลยครับ แต่ถ้าเป็นคนนั่ง จะชอบเบนซ์มากกว่า และถ้าเป็นคนอื่นๆ ที่ไม่ได้ขับไม่ได้นั่ง จะชอบเบนซ์มากกว่า ดีเซล BMW ประหยัดกว่าเบนซ์ ขับสนุกกว่าเบนซ์ ถ้าถามว่าคันถัดไปจะซื้อยี่ห้อไหน ผมบอกเลยว่าตอบยากครับ มันดีทั้งคู่