Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: SM. ที่ เมษายน 23, 2015, 15:29:17
-
คิดว่ารถจะติดมากน้อยกว่าในปัจจุบันยังไงครับ
ตามข่าวที่เคยอ่านบอกว่า รถไฟฟ้า-รถไฟฟ้าใต้ดินเชื่อมโยงทั่วทุกพื้นที่ภายในปี 2572 แต่มีแผนเร่งรัดให้เสร็จภายในปี 2562 ซึ่งจะเร็วกว่ากำหนดเดิม 10 ปี
-
ติดเหมือนเดิมครับ
ย้อนไปสิบกว่าปีที่แล้ว ตอนไม่มีรถไฟฟ้า รถก็ติด
ปัจจุบัน มีรถไฟฟ้า มันก็ยังติด
ท้ายสุดผมว่าติดเหมือนเดิมครับ
-
ถ้าไม่เชื่อมต่อกัน ต้องจ่ายใหม่ทุกรอบแบบปัจจุบันนี้ BTS <-> MRT ก็คงติดเหมือนเดิมครับเพราะค่าเดินทางไม่คุ้ม ;D
-
ติดกว่าเดิมครับ เพราะกว่าจะเสร็จ อย่างเร็วอีก 10 ปี รถก็แน่นขนัดทุกรู ทุกซอกซอยแล้วละครับ
-
ถ้าเสร็จหมดจิงๆ คงดีขึ้นเยอะครับผมว่า คนไทยเดี๋ยวนี้ใช้รถไฟฟ้าเยอะมากครับ แต่ก้คงมีติดๆบ้างโดยเฉพาะวันเสาอาทิดคนเอารถออกมาใช้ครับ
-
อยากให้มีการเพิ่มจำนวนสายรถไฟฟ้าหรือรถไฟใต้ดินไปตามรังสิตปทุมฐานี ฉะเชิงเทรา และจังหวัดรอบๆกรุงเทพบ้าง คนต่างจังหวัดสามารถมาทำงานในเมืองโดยไม่ต้องมีบ้านในกรุงเทพได้และคนในกรุงเทพก็กระจายตัวออกต่างจังหวัดได้ง่ายๆเช่นกัน ความเจริญและระบบเศรษฐกิจมันจะแพร่กระจายไปได้อีกไกลมาก :-*
-
ผมว่าสิ่งเดียวที่จะทำให้การจราจรให้กทม.ดีขึ้นได้คือ
เก็บค่าที่จอดรถแบบต่างประเทศครับ
-
ถ้า กทม ทำที่จอดรถรายเดือนใกล้ ๆ BTS ราคาถูก ๆ สักเดือนละ 2-3 ร้อย ผมว่าการจราจรจะดีขึ้นเยอะ
-
ติดเหมือนเดิมครับ ถ้ายังไม่จำกัดจำนวนรถเข้าเมือง
-
;D ;D ;D..........คิดไม่ออกครับ อาจจะดีขึ้นก็ได้มั๊ง ! 8)
-
ถ้าเสร็จหมดจิงๆ คงดีขึ้นเยอะครับผมว่า คนไทยเดี๋ยวนี้ใช้รถไฟฟ้าเยอะมากครับ แต่ก้คงมีติดๆบ้างโดยเฉพาะวันเสาอาทิดคนเอารถออกมาใช้ครับ
สีลมรถแน่นยังกะปลากระป๋องครับ ยืนยัน วันนั้นผมรอรถถึง3คันถึงจะขึ้นได้
-
กระจายความเจริญไปยังภูมิภาคให้มากกว่านี้และพัฒนาระบบคมนาคมทั่วประเทศโดยเฉพาะระบบรางเอาให้เชื่อมกับระเทศเพื่อนบ้านให้หมดวิ่งได้ตั้งแต่มาเลย์ อินเดีย พม่า จีน รัสเซีย เวียดนามกันไปเลย
-
ติดเหมือนเดิม ตราบใดที่ ต้นทุนการเดินทางด้วยรถส่วนตัว มันยังถูกกว่ารถประจำทาง บางคนนั่งมอไซด์ 20 บาท เพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้า นั่งไปอีก 45 บาท เสร้จต่อมอไซด์เข้าออฟฟิศอีก 20 บาท รวมๆ แล้วไปกลับ เกือบ 200 บาท อาทิตย์นึง ทำงาน 5 วัน ค่าเดินทาง 1,000/อาทิตย์ ขับรถติดแก๊ซ LPG จ่าย ไม่ถึง 500/อาทิตย์ ขับรถติดแก๊ซประหยัดค่าเดินทางไป 500 บาท/อาทิตย์ เอาส่วนต่างนี้ไปดูแลรักษารถยังคุ้มกว่า
จะให้หายติดต้องทำให้รถสาธารณะถูกกว่านี้ และเป็นระบบมากกว่านี้ เชื่อไหมครับประเทศสิงคโปร์ ค่าครองชีพจะแพงสุดในโลกอยู่แล้ว เดินทางด่วนรถสาธารณะ ถูกกว่าในกรุงเทพมากๆ!!
-
ติดเหมือนเดิม ตราบใดที่ ต้นทุนการเดินทางด้วยรถส่วนตัว มันยังถูกกว่ารถประจำทาง บางคนนั่งมอไซด์ 20 บาท เพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้า นั่งไปอีก 45 บาท เสร้จต่อมอไซด์เข้าออฟฟิศอีก 20 บาท รวมๆ แล้วไปกลับ เกือบ 200 บาท อาทิตย์นึง ทำงาน 5 วัน ค่าเดินทาง 1,000/อาทิตย์ ขับรถติดแก๊ซ LPG จ่าย ไม่ถึง 500/อาทิตย์ ขับรถติดแก๊ซประหยัดค่าเดินทางไป 500 บาท/อาทิตย์ เอาส่วนต่างนี้ไปดูแลรักษารถยังคุ้มกว่า
จะให้หายติดต้องทำให้รถสาธารณะถูกกว่านี้ และเป็นระบบมากกว่านี้ เชื่อไหมครับประเทศสิงคโปร์ ค่าครองชีพจะแพงสุดในโลกอยู่แล้ว เดินทางด่วนรถสาธารณะ ถูกกว่าในกรุงเทพมากๆ!!
เห็นตัวครับ ไปกันหลายๆคน ค่ารถสาธารณะนี่ก้อหลายร้อย สู้นั่งแท๊กซี่ หารกันยังถูกกว่าเลยครับ
-
น่าจะช่วยได้อยู่แล้ว ใครจะอยากขับรถติด ดีกว่าสร้างถนนเพิ่มละคับ
-
ถ้าโครงข่ายเสร็จทั้งหมด น่าจะช่วยได้เยอะ จะมาเทียบกับตอนนี้ไม่ได้ิ
เพราะรถไฟฟ้าที่มีอยู่ตอนนี้สายสั้นหมดทั้งบีทีเอส และใต้ดิน
ลองนึกภาพหมู่บ้านส่วนใหญ่กระจายไปอยู่ชานเมือง
สายสีม่วงขนคนจากบางใหญ่ สีแดงมาจากรังสิต สีเขียวจาก
วงแหวนตะวันออก สีเหลืิองดึงจากหัวหมาก ศรีนครินทร์ เป็นต้น
สรุปคือมีสายยาวดึงคนเข้ามาในเมือง
แต่สุดท้ายแล้วอยู่ที่ค่าใช้จ่าย ต้องดูว่าตั๋วร่วมที่จะนำมาใช้ตกวันละเท่าไหร่
ถ้าแพงกว่าใช้่รถ ผมว่าช่วยรถติดได้ไม่มากนัก แต่ถ้าซื้อตั๋วร่วมแล้วคุ้ม
ผมก็เลิกใช้รถเหมือนกัน เอาไว้ขับไปซื้ิอกับข้าวอย่างเดียว
-
รถเมล์จะวิ่งกันน้อยลง รถตู้จะวิ่งกันน้อยลง รูแท็กซี่จะวิ่งกันน้อยลง แต่... รถส่วนตัวจะมาวิ่งกันเยอะขึ้น ผมว่าติดเหมหือนเดิม
-
ติดเหมือนเดิมครับ ถ้ารถยังออกง่ายกันขนาดนี้ ดาวไม่กี่บาทก็ออกมาได้แล้วครับ
-
ยังติดเหมือนเดิม แต่อาจจะน้อยกว่าครับ
-
ติดเหมือนเดิม หรือติดกว่าเดิมครับ ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า ส่วนใหญ่เป็นพวกที่ยังไม่มีรถขับ อีกอย่างค่าเดินทางด้วยรถไฟฟ้าแพงกว่าค่าน้ำมันรถด้วย (รถเก๋ง 1.5-1.8 หรือกระบะ 2.5-3.0) ถึงตอนนั้นไม่รู้ราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าจะอยู่ที่เท่าไหร่ แต่สำหรับคนที่มีรถ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมาอีกคือค่าจอดรถ
เรื่องความสะดวกสบาย ยังไงรถส่วนตัวก็สะดวกกว่า ไม่ต้องเดินขึ้น-ลง หรือเดินจากสถานี BTS ไป MRT
ถึงตอนนั้น ปริมาณรถเยอะกว่านี้แน่นอน คนรุ่นใหม่มีรถขับกันเร็วขึ้น นักศึกษาจะนิยมขับรถไปเรียนกันมากขึ้น
ส่วน คนรักรถ คนที่ชอบเรื่องรถ คงยังยึดติดกับการขับรถไปทำธุระ เพราะมีนิสัยชอบการขับรถ น้อยคนนักที่จะเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้า
ปล. มีน้องผู้หญิงในหมู่บ้านคนนึง เรียนที่ ม. มหิดล ศาลายา ทางบ้านซื้อรถให้ขับเป็น Nissan Juke แต่ต่อมาน้องเขาชอบเดินทางด้วยรถไฟฟ้ากับเพื่อนๆ ใช้บัตรเติมเงิน จนแทบไม่ได้ขับรถเลย จนกระทั่งพ่อน้องบ่นว่าซื้อรถให้แล้วทำไมไม่ขับ (รถ 1 ปีกว่าๆ แล้วแต่ยังวิ่งไม่ถึง 2000 กม. เลย เกิดอาการ cold start ด้วย)
-
ถ้าขนลางยังไม่แก้ปัญหาคนอัดกันเป็นปลากระป๋องช่วงเร่งด่วนได้ ก็น่าจะติดเหมือนเดิม
ลองคิดดูเมื่อระยะทางที่ต้องวิ่งมากขึ้น รับคนมากขึ้น แต่ปริมาณรถไฟเพิ่มไม่ทัน สุดท้ายก็ไม่ต่างกับรถเมล์ติดแอร์
-
ผมว่าติดเหมือนเดิม เพราะบ้านคนจะไปอยู่นอกเมือง ยังไงรถไฟฟ้า ก็ไปไม่ถึงแน่ๆ แค่เฉี่ยวๆ แล้วบ้านไกล คนก็ต้องออกรถ เพราะสะดวกสุด ไม้ใช่แค่ทำงาน แต่เรื่องการเดินทางทั่วไปด้วย ไปซื้อของ ไปธุระ ต่างๆ บ้านไกล ยังไงก็ไม่มีทาง
แต่ในทางกลับกัน จะมีคนอยู่ส่วนนึงที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะจะใช้รถน้อยลงเพราะมันถึงหน้าบ้านเลยคือคนอยู่ในเมือง ระดับกลางถึงบน คนเหล่านี้อาจจะมีกำลังซื้อ คือมีรถไว้ แต่วันธรรมดา จะไม่ใช้ เพราะรถติด สามารถเดินถึง หรือขึ้นรถไฟฟ้าสะดวกกว่า ที่ออฟฟิสผม พวกเงินเดือนสูงๆ จะมีออฟฟิสไม่ไกลมากเดินทางโดยรถไฟฟ้าได้ จะไม่ใช้รถแล้วครับ เพราะรถมันติด จนสุดท้าย ยอมขึ้นรถไฟฟ้า
ผมคนนึง หากมันมาใกล้ๆ บ้าน ผมก็ชึ้นนะ เพราะอยู่ในรถ นานๆ มันก็ไม่ไหวเหมือนกัน
-
ติดเหมือนเดิม เพราะรถมันมีมากขึ้นทุกๆ วัน
และหลายคนรักสะบายในการใช้รถส่วนตัว คงไม่เลิกขับและไปใช้รถไฟฟ้าหรอก
-
ผมว่าติดมากขึ้นครับ เพราะถ้ารถไม่ติด ก็ไม่ใช่ กทม สิฮะ
เหมือนที่เค้าพูดว่า กลัวน้ำท่วมก็ให้ไปอยู่บนดอย 555
-
เชื่อว่าน่าจะติดน้อยลงนะครับ
อย่างแถวบ้านผม รถตู้คนขึ้นเยอะมาก และผมคิดว่ามีหลายคนเหมือนผม คือไม่ขึ้นรถตู้เพราะบางวันเสียเวลารอนานมาก กะเวลาไม่ได้ บางวันจะรีบหน่อยกลับต้องมายืนรอรถตู้เป็นชั่วโมง ขับรถไปดีกว่า ถ้ามีรถไฟฟ้าวิ่ง มันจะกะเวลาได้ง่ายกว่า ไม่รู้จะขับรถทำไมให้เหนื่อย
ตอนนี้ผมก็รอสายสีเขียวส่วนต่อขยายอยู่ ถ้าเสร็จก็คงไม่ขับรถไปทำงานแล้ว ห่วงอย่างเดียวคือมันจะยาวไปไหน จากลำลูกกาถึงปู่เจ้า
-
ติดรึเปล่าไม่รู้ แต่บ้านผมอยู่แถวๆแคราย ผมจะขึ้นรถไฟฟ้าแน่นอนครับ คืออย่าน้อยก็มีทางเลือกเพิ่มอีกทางครับ
-
ติดไม่เปลี่ยนครับ
แค่ค่นมีทางเลือกในการเดินทางมากขึ้น สามารถกำหนดเวลาได้ดีขึ้น
ลองดูสายแบริ่งซิครับ ช่วงเข้าก็แน่นตั้งแต่แบริ่งเลย
ขนาดแบริ่งนี่เกือบออกเขตกรุงเทพแล้วนะครับ
ยังไงรถก็ติดไม่เปลี่ยน
แต่หากไม่มีรถไฟฟ้า ทุกวันนี้คนจากแบริ่งจะเข้ามาทำงานสีลมนี่ต้องตื่นตั้งแต่กี่โมงเอ่ย ?
-
ผมว่าน่าจะดีขึ้นแน่นอน ถ้ามันมีรถไฟที่ไปทั่วทั้งกรุงเทพทำไมจะไม่ใช่ล่ะครับ สะดวกสบายไม่ต้องมานั่งอารมณ์เสียกับรถติด
เสี่ยงชีวิตกับเพื่อนร่วมทางที่บางทีกับรถไม่มีวินัย ผมว่าถ้ารถฟเสร็จทุกสายก็มันต้องดีขึ้นล่ะแต่จะให้ดีกว่านี้คือลดจำนวนแท๊กซี่
จำกัดจำนวนปริมาณเอาแบบอังกฤษอ่ะครับ ใครจะขับต้องสอบให้ผ่านมันจะได้มีคุณภาพไม่ใช่มีมากๆแต่หาคุณภาพไม่ค่อยได้
ออกมาวิ่งกันมากมายทำให้รถติดเปล่าๆเสียพลังงานไปเปล่าประโยชน์
-
ติดเหมือนเดิมครับ แต่คนมีทางเลือกได้มากขึ้น คนที่รถติดจะกลายเป็นส่วนที่คนมองว่าช่างมัน
-
ความเห็นส่วนตัว
ผมว่ารถจะติดน้อยลง
-
รถติดเหมือนเดิมครับ สุขุมวิท อโศก รัชดา ก็มีรถไฟฟ้ามาตั้งนานแล้วผมไม่เห็นมันจะโล่งเลย
ที่จะเปลี่ยนไปแน่ๆคือ รถไฟฟ้าในชั่วโมงเร่งด่วนจะควบคุมเวลาได้ยากขึ้นครับ บางทีแค่รอขึ้นก็ครึ่งชั่วโมงแล้ว ยิ่งอีกหน่อยขนคนมาจากชานเมืองเข้ามาได้ละก็ ถ้าพ่อเจ้าประคุณไม่เพิ่มขบวนหรือคำนึงแต่ประสิทธิภาพสูงสุด รับรองสถานีกลางๆนี่ยืนรอกันตาละห้อยเลยครับ
อีกหน่อยที่ในเกลางเมืองจะราคาสูงลิบลิ่วกว่านี้ ส่วนที่ตามส่วนต่อขยายระหว่างทางจะราคาตก และที่ดินราคาชานเมืองจะขยับตัวขึ้นมาแทนครับ
-
รถเมล์จะวิ่งกันน้อยลง รถตู้จะวิ่งกันน้อยลง รูแท็กซี่จะวิ่งกันน้อยลง แต่... รถส่วนตัวจะมาวิ่งกันเยอะขึ้น ผมว่าติดเหมหือนเดิม
ถ้าจะติดน้อยลง ก็คงอยู่ที่คนทั้งนั้น ถ้ายังขับออกมากันเยอะๆ ก็ติดครับ
-
ผมว่าจะติดน้อยลงครับ
จากคนใช้บริการ MRT ตั้งแต่มาทำงานในกทม ใหม่ๆ ใช่ว่าคนที่ใช้บริกการ ส่วนมากไม่มีรถส่วนตัวนะครับ ผมเห็นหลายๆคนที่ผมรู้จักที่ใช้งานรถไฟฟ้าทั้งที่ทำงานและเพื่อนก็มีสีรถส่วนตัวกันทั้งนั้น แต่ ข้อดีของการใช้ บริการ คือสามารถกำหนดเวลาทำงานได้ อย่างผมทำงาน แถว สุขุมวิท จะเช้ายังไงก็ติดกระจายครับ รถติด เสียสุขภาพจิดเสียเวลาพักผ่อน ผมคิดว่า คนไม่น้อยที่คิดที่จะเซฟเวลาทำงานของตัวเอง ถึงแม้ว่า อาจจะต้องต่อรถไฟฟ้า สองรอบ แต่ได้เวลา พักผ่อนกลับมามากขึ้นสุขภาพจิตดีขึ้น อีกอย่างค่าบริกการ หากคิดดีๆแล้ว ค่าใช้จ่ายอาจจะมากกว่านิดหน่อย หรือ เท่ากับค่าเดินทางโดยใช้รถส่วนตัว ส่วนตัวแล้วผมเลือกใช้รถไฟฟ้าดีกว่าครับ เอาเวลาที่เหลือมาอยู่กับครอบครัวหรือเอาทำอย่างอื่นดีที่จะเป็นรายได้ดีกว่าครับ
-
น่าจะติดน้อยลง อย่างน้อยก็ช่วงที่ไม่ใช่ Rush Hour น่าจะไม่ติดมาก
แต่ก็อย่างว่า บางคนอยู่คอนโดติดรถไฟฟ้า ชนิดที่มี Sky Walk จากคอนโด ไปขึ้น ยังไม่ใช้รถไฟฟ้าเลย
-
ติด แต่คงไม่แย่ไปกว่าเดิม หรืออาจดีขึ้นด้วย จากเดิมที่แย่ลงทุกปีๆ
แต่จะให้ไม่ติดเลยเนี่ย เป็นไปไม่ได้แน่ๆ ที่นี่เมืองหลวง
แถมไม่มีทีท่าที่จะกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค ทุกสิ่งทุกอย่างต้องมากระจุกตัวในเมืองหลวงแห่งนี้
ผมมองเรื่องรถติดเรื่องเล็กนะ เพราะขนาดภูเก็ต เชียงใหม่ ในตัวเมืองก็ติด ก็ปล่อยให้มันติดไปนั่นแหล่ะ
เพิ่มถนน เพิ่มสะพาน บลาๆ นิดๆ หน่อยๆ ตามสมควร ตามยุคสมัย
แต่สิ่งที่ผมมองเป็นปัญหาที่ต้องพัฒนาคือ ทำยังไงให้ประชาชนมีตัวเลือกในระบบคมนาคมมากขึ้นสะดวกขึ้น
คือรถก็ติดนั่นแหล่ะ แต่เฮ้ยอย่างเราต้องไปทนป่ะ ถ้าไม่อยากทน มีตัวเลือกไหนบ้าง ก ก็ไม่เลวนะ
ข หล่ะก็สะดวกดีนะ ค. ก็ไม่แพงแถมไม่ลำบากเท่าไหร่ ง. ก็จ่ายแพงหน่อย แต่รวดเร็วทันใจสุดๆ บลาๆๆๆ
-
ติดน้อยลงแน่นอนครับ แต่จะมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับกาจัดการแล้วหละครับ ถ้าสามารถบริหารออกมาให้ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง+ความสะดวกในการเดินทาง(ทั่วถึง)
มีแรงจูงใจในการใช้มากกว่าขับรถครับ ;D ;D ;D
-
ถ้าไม่กระจายคนให้ออกไปอยู่รอบนอกให้มากกว่านี้ ยังงัยก็ยังติด เพราะอัตราความหนาแน่นของคนและรถในกรุงเทพฯ มันเยอะเกินพื้นที่ของ กทม. จะรับไหว เพราะกิจกรรมในชีวิตประจำวันหลายอย่างยังต้องใช้รถยนต์อยู่ดี แต่หากคนไปอยู่รอบนอกเยอะกิจกรรมหลายอย่างก็ทำอยู่รอบนอก ไม่ต้องมากระจุกตัวอยู่ที่เดียว
-
รถติดเหมือนเดิมครับ เส้นทางมันไม่ได้ครอบคลุมซะหน่อย มีเป็นเส้นๆ
-
อย่างน้อยก็ทำให้มีทางเลือกเพิ่มมากขึ้นละครับ
เส้นทางที่รู้อยู่แล้วว่าติด ถ้าผมไปคนเดียวและรถไฟฟ้าผ่าน ผมก็ไปรถไฟฟ้า
เคยนัดกับเพื่อน คนอื่นเอารถไปก็ไปถึงทีหลัง ทั้งเจอรถติด ทั้งมัวหาที่จอด
ผมไปรถไฟฟ้าก็ไปถึงคนแรก สะดวกกว่าเยอะ