Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: นายพรานจ๋าหมีมาแล้ว ที่ พฤษภาคม 05, 2015, 13:22:34
-
คือผมพึงไปทริปใหญ่มาออกเดินทางจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ และ ก็ตีรถกลับมากรุงเทพเพื่อรับญาติและก็ขับจากกรุงเทพลงไปสงขลาแล้วก็ขับกลับกรุงเทพ
โคยที่รถแทบจะไม่ดับเครื่องเลย ถ้ามีก็ไม่เกิน 10 นาที ผมอยากรู้เครื่องยนต์จะสึกหรอมากมั้ยครับ
-
ไม่มีปัญหาหรอกครับจะมีก็ตอนดับ 10 นาทีนี่แหละช่วงสตาร์ทรถจะเป็นช่วงที่สึกหรอมากที่สุดแล้วครับยิ่งวิ่งมานานพักแค่แปปๆดับเครื่องโดยไม่คูลดาวน์ก่อนก็ยิ่งสึกไวครับ
-
หมายถึงในการวิ่งแต่ละเที่ยวจอดพักรถไม่เกิน 10 นาทีใช่มั้ยครับ ,ผมว่าประเด็นน่าจะเป็นอุณภูมิในห้องเครื่องจะสูงโอกาสที่ชิ้นส่วนต่างๆจะสึกหรอก็มากกว่าปกติแน่นอน(อยู่ในเกณฑ์ที่เค้าออกแบบมาให้รับได้อยู่แล้วแต่%คงมากกว่าปกติ) แต่รถใหม่คงยังไม่ออกอาการให้เห็นชัดเท่าไหร่ ปกติผมก็ต้องวิ่งขึ้นลงเส้นนี้เหมือนกัน อาศัยว่าเวลาพักปั๊มอย่าเพิ่งดับเครื่อง รอให้รอบเดินเบาซักแป๊บแล้วค่อยดับพักซักครึ่ง ชม. ครับ
-
ไม่มีปัญหาหรอกครับจะมีก็ตอนดับ 10 นาทีนี่แหละช่วงสตาร์ทรถจะเป็นช่วงที่สึกหรอมากที่สุดแล้วครับยิ่งวิ่งมานานพักแค่แปปๆดับเครื่องโดยไม่คูลดาวน์ก่อนก็ยิ่งสึกไวครับ
ผมก็คิดๆอยู่เหมือนกัน ว่าเครื่องยังไม่ทันเย็นสตาร์ทอีกล่ะมันไม่ดีแน่ๆ สู้สตาร์ททิ้งไวเลยน่าจะดีกว่า
อีกอย่างถึงว่าทำไมพี่ชายผมมันถึงไม่เอารถตัวเองไปแต่ใช้เช่ารถแทน ขับคุ้มมากเลยครับทริปเนี้ย
-
คือถ้าวิ่งมาไกลๆแล้วจะจอดพักผมว่าควรสตาร์ททิ้งไว้สักพักก่อนเเล้วค่อยดับเครื่องจะดีกว่า
-
ถ้าวิ่งทางไกลบ่อยลองไปหาตัวนับถอยหลังดับเครื่องมาติดสิครับ จอดเสร็จแล้วก็ล็อกรถไปเลยเดี๋ยวมันดับให้เอง
-
ถ้าวิ่งทางไกลบ่อยลองไปหาตัวนับถอยหลังดับเครื่องมาติดสิครับ จอดเสร็จแล้วก็ล็อกรถไปเลยเดี๋ยวมันดับให้เอง
ตัวนี้เคยเห็นรถเพื่อนที่ทำงานติดอยู่ และตัวเองก็สนใจด้วยแต่ยังไม่กล้าติด เพราะ
1. ไม่รุหลักการทำงานมัน มันทำงานยังไงคะ??
2. มันต้องตัดสายไฟอะไรมั้ย
3. มันมีข้อเสียมั้ย หมายถึง ติดตัวนี้เข้าไปจะทำให้ระบบรวน อะไรประมาณนั้นค่ะ
4. แพงมั้ย
ปล. รถบัสที่วิ่งสายอุบล-เชียงใหม่ นี่รถเขาใช้ได้กี่ปีนี่ ทำไมมันวิ่งใกลจัง
-
....ให้แง่คิด....
1. อุณหภูมิทำงานที่ดีที่สุดของรถแต่ละคันเขาให้มา นั่นคือตำแหน่งที่ให้กำลังที่สุด และสึกหรอน้อยที่สุด
2. คุณพักเครื่อง ให้ครึ่งชั่วโมงหรือสองชั่วโมงเลย....จากนั้นคุณติดเครื่อง ใช้เวลากี่นาทีอุณหภูมิจะอยู่ที่ระดับการใช้งาน.....
ตอนอยู่ซาอุฯ รถหัวลาก วิ่งยี่สิบสี่ชั่วโมงตลอดสัปดาห์ ไม่ดับเครื่องเลย ครบสัปดาห์หนึ่งดับเครื่องทีหนึ่งเพื่อเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง....
คนขับแบ่งผลัด คนต่างหากที่ต้องพัก
-
จริงๆก่อนแวะปั๊มก็วิ่งช้าๆชะลอหน่อยก็พอครับซัก 5 นาทีก่อนถึงปั๊มพอจอดก็พักซัก 1 นาทีก็ค่อยดับเครื่องไม่ต้องไปติดตัวไทม์เมอร์อะไรให้เสียตังแล้วมายุ่งกับระบบรถอีกอันนั้นเหมาะกับรถเทอร์โบที่เค้าอัดๆกันมากกว่า ถ้ามีหลายๆคนผลัดกันเฝ้ารถได้ก็ไม่ต้องดับเครื่องหรอกครับ ผมว่าวิ่งทางไกลนี่สึกหรอน้อยกว่าวิ่งรถติดๆในเมืองซะอีกนะเพราะมีลมพัดมาระบายความร้อนอยู่ตลอดเวลา
ผมขับทางไกลเกือบพันโลยังไม่ดับเครื่องซักครั้งเลยความร้อนหม้อน้ำไม่ขึ้นแสดงว่าไม่เกินขีดความสามารถของเครื่องยนต์ รุ่นใหม่ๆหลายๆรุ่นผมไม่ชอบเลยที่ถอดเกจตัวนี้ออก
-
start ใหม่อะครับมีผลเยอะสุด วิ่งยาวๆให้ไปถึง shanghai รถก้ไม่เป็นไรหรอกครับ สบายมาก
-
ผมก็คิดๆอยู่เหมือนกัน ว่าเครื่องยังไม่ทันเย็นสตาร์ทอีกล่ะมันไม่ดีแน่ๆ สู้สตาร์ททิ้งไวเลยน่าจะดีกว่า
ยิ่งสตาร์ทเย็น ยิ่งไม่ดีครับ สตาร์ทตอนอุ่นๆ โดยอุณหภูมิไม่ตกนี่แหละดีแล้ว
-
ที่ผมเข้าใจคือถ้าเราไม่ได้พักรถนานๆซัก 2-3 ชั่งโมงก็ไท่ต้องดับเครื่อง ช่วงของสตาร์ทคือช่วงที่เครื่องสึกหรอที่สุด
-
ไม่ต้องดับไม่ต้องทำอะไรเลยครับ ใช้ไปตามใจเราต้องการ อยากดับก็ดับ ผมวิ่งทางไกลบ่อย ไม่มีความต่างจากรถใช้ในเมืองเลย ดีไม่ดีผมว่าสภาพมันดีกว่าด้วยซ้ำ
-
ถ้าพัดลมไม่เสีย ปั้มไม่พัง ระบบระบายความร้อนปกติ วิ่งยาวๆเลยครับ
-
ผมว่าถ้าดับเครื่องจะสึกเหรอเยอะกว่าครับ
ตัวผมเอง เวลาเดินทางไกล 2 คนขึ้นไป แวะเข้าห้องน้ำ จะผลัดกันเฝ้ารถ
แต่ถ้าไปคนเดียว ก็ต้องยอมดับเครื่องแหละครับ
-
วิ่งทางไกลไม่ต้องคิดมากครับ ใช้ให้สบายใจ
ถ้าเป็นเบนซินฟังเสียงพัดลมครับ ตัดเมื่อไหร่ผมก็ดับละครับ ใครมีเกจวัดอุณภูมิจะรู้
จอดติดเครื่องไว้กลายเป็นพัดลมต้องทำงานบ่อยกว่าตอนขับทางไกลอีกครับ รถจอดนิ่งลมไม่พัดผ่านหม้อน้ำเลย
วิ่งทางไกล เครื่องอุณภูมิดีกว่าวิ่งในเมืองกับจอดนิ่งอีกครับ
ส่วนเรื่องสตาร์ทเครื่อง ที่มันจะสึกจริงๆ ก็เพราะเราดับเครื่องนานจนน้ำมันเครื่องไหลลงไปกองข้างล่าง
ก็คงหลายชั่วโมง เช่น จอดข้ามคืน หรือหลายวัน
ที่เรากังวลทั้งหมดนี้ มันไม่พังไปก่อนที่เราจะขายหรอกครับ ใช้ให้คุ้มกับค่าเสื่อมที่ลดลงทุกเดือนๆ ดีกว่าครับ
ผมว่ารถยิ่งใช้ยิ่งคุ้มครับ จอดไว้เฉยๆ ราคาก็ตกอยู่ดี
-
เครื่องยนต์ ผมว่าไม่ใช่ประเด็นคับ
ที่ไม่ชอบความร้อนนานๆ จิงจะเป็นพวกพลาสติก มากกว่า สาร plasticizer
ที่ใส่ไว้เพื่อความยืดหยุ่น จะระเหยไปได้มากกว่สถ้าร้อนนานๆ ส่งผลให้
กรอบแตกง่าย
น้ำมันต่างๆ ถ้าโดนความร้อนนานๆ ก้อเสื่อทเร็วขึ้นคับ
-
ไม่ต้องดับครับ
ตราบใดถ้ามีน้ำมันเครื่องเพียงพอ มีน้ำในถังพักหม้อน้ำ พัดลมไฟฟ้า (หรือ พัดลมฟรีปั้มในรถกระบะ) ทำงานปกติ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องดับเครื่องเปิดฝากระโปรงแต่อย่างไร
ส่วนใครที่กังวลความร้อนในห้องเครื่อง เลิกคิดไปได้เลย ในหัวข้อบอกแล้วว่า รถวิ่งทางไกล เวลาวิ่งลมที่พัดหน้ารถก็ระบายความร้อนออกไปตามฝากระโปรงอยู่แล้ว
พวกวิ่งทางไกลพอจอดพักปั้มแล้วเปิดฝากระโปรง ถ้าไม่มีใครเฝ้ารถก็ควรระวังให้ดี อาจเจอรายการวางยาจากพวกมิฉจาชีพก็เป็นได้
ถ้ารถติดๆวิ่งในเมือง นั้นล่ะถึงสมควรเปิดฝากระโปรง เพราะมีความร้อนสะสมเนื่องจากพัดลมไฟฟ้าระบายไม่ทัน และไม่มีลมปะทะหน้ารถเพื่อระบาย
------------------------------------------------------------
รถยนต์ถูกออกแบบให้วิ่งไม่ใช่จอดนิ่งๆ ฉะนั้นวิ่งไปเถอะครับ จะวิ่งรอบประเทศก็ได้ ขอแค่ดูแลรักษาตามระยะก็พอครับ
แล้วก็ไม่ต้องไปติดเจ้า Timer ให้ยุ่งยากนะครับ ติดแล้วขโมยชอบ ต่อสายตรงขับรถไปได้เลย
ลป. วีออสผมก็เคยวิ่งจากกรุงเทพ - เชียงราย แบบไม่ดับเครื่องมาแล้วครับ
-
ระบบ start/stop คงเศร้า คิดมาตั้งเยอะ แต่เปลี่ยนความคิดคนทั่วไปไม่ได้
-
ผมขับไกลๆถ้าจอดไม่นานไม่เคยดับเครื่องครับ โดยเฉพาะเครื่องมีโบ
ส่วนขับยาวๆแบบนี้ไมเป็นไรหรอกครับ อย่าไปกังวลมาก กังวลที่คนขับจะดีกว่า
จะง่วง เมื่อย เพลียหรือเปล่า ประสิทธิภาพในการขับขี่จะลดลง
-
ผมขับทางไกลๆ ยาวๆ แวะปั้มเข้าห้องน้ำซื้อของ ไม่ดับเครื่องยนต์เลย
ถ้าแวะทานข้าว จะCooldownเครื่องยนต์ 5 นาทีก่อนดับครับ