Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: raygun ที่ พฤษภาคม 08, 2015, 14:57:43
-
.
.
.
ตอนนี้กระแสจักรยานกำลังมาแรงมากๆ แต่ผมมีความเห็นว่ามันไม่เหมาะกับเมืองไทย
โดยเฉพาะกรุงเทพอย่างแรง (กระทู้นี้ขอพูดคุยแบบมีสติไม่เอาดราม่านะครับ ขอคุยกันด้วยเหตุผล)
ความคิดผมแย้งได้เสมอ แค่รบกวนขอให้พูดกันดีๆนะครับ
ในความคิดผม ความเร็วของรถที่ไม่เท่ากัน คือตัวที่ทำให้มันอันตราย
จริงๆบนถนนนั้นจะสังเกตว่าเค้าจะแบ่งเลนด์กันตามความเร็วของรถ
เช่นช้าชิดซ้าย แซงด้านขวา มีทางด่วนที่มอไซค์ห้ามขึ้น หรืออะไรก็ว่าไป
เพราะความเร็วที่ต่างกันมีผลต่อการเกิดอุบัติเหตุมาก
บวกกับการป้องกันความปลอดภัยของจักรยานก็ต่ำมากเมื่อเทียบกับรถ
ถ้ารถชนกันที่ความเร็ว 30km ต่อชั่วโมง เป็นรถชนกับรถ คนขับรถทั้งสองคันยังอาจจะออกมาเถียงกัน
โทรเรียกประกันได้ แต่ถ้าเป็นรถชนจักรยานที่ความเร็วขนาดนี้ ผมว่ารอดยาก
มอไซค์ยังมีหมวกกันน็อคเต็มใบที่ดูแข็งแรงกว่าหมวกจักรยานเยอะเลย
และอย่าเข้าใจผิดว่าผมไม่อยากให้ขี่จักรยานกัน จริงๆผมอยากให้ขี่จักรยาน
กันทั้งเมืองเลยยิ่งดี เพราะสภาพมลพิษต่างๆคงดีกว่านี้ แต่ในความจริงเราก็รู้กันว่า
มันเป็นไปไม่ได้ และความจริงอีกอย่างคือคนไทย ที่เป็นคนขับรถได้โคตรไร้ระเบียบวินัยสุดๆ
ซึ่งนี่คือข้อที่เป็นอันตรายที่สุดข้อนึงของคนที่คิดจะขี่จักรยานบนถนน
ถ้าถนนบ้านเราเป็นเหมือนฮอล์แลนด์ คือมีเกาะกลางกั้นระหว่างเลนส์จักรยานกับเลนส์รถยนต์ไปเลย
แบบนี้ผมว่าจะดีขึ้นเยอะ เพราะเอาจริงๆ ถ้าชาวจักรยานคิดแต่จะใช้คำว่าถนนไม่ใช่ของรถยนต์อย่างเดียว
เกิดมีคนเดินถนน คิดแบบนี้ขึ้นมาบ้าง ขึ้นไปเดินเล่นกันบนทางด่วน คงมีคนได้ซวยกันบ้าง
ไม่งั้นเค้าคงไม่ทำฟุตบาทไว้ให้คนเดิน ซึ่งถ้าเทียบความเร็วกันแล้ว
ผมว่าจักรยานควรจะไปรวมอยู่กับคนเดินด้วยซ้ำ
ที่พิมพ์มาทั้งหมดนี่เพราะเป็นห่วงนะครับ ไม่อยากให้มีใครเสียชีวิตจากกรณีแบบนี้อีก
ทุกวันนี้ผมเจอจักรยานบนถนนนี่ผมให้ไปก่อนตลอด แต่ไม่อยากให้ทุกคนมาแก้ปัญหา
ด้วยการมาเรียกร้องขอแบ่งถนนกับรถ เพราะผมเชื่อว่ามันไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาจริงๆ
และจะมีเหตุการณ์จักรยานโดนรถชนเพิ่มขึ้นอีกแน่ๆ
-
ตอบในฐานะที่ผมก็ปั่นจักรยานเหมือนกันน่ะครับ...ถ้ามองในภาพรวมกว้างๆมันก็เป็นเช่นนั้นครับ แต่ที่สุดแล้วมันอยู่ที่จิตสำนึกของแต่ละคนที่ใช้ถนนร่วมกันครับ อย่างเลนส์จักรยานในกรุงเทพบางแห่งที่ทาสีแบ่งมาจากช่องจราจรก็โดนรถจอดข้างทางขวาง หรือบางแห่งเลนส์จักรยานที่มีกรวยจราจรกั้นไว้ชัดเจนก็โดนมอไซค์วิ่งแทนในกรณีนี้ผมเคยโดนเองเลยมอไซค์บีบแตรไล่ผมเลย หลังๆผมเลยไปปั่นต่างจังหวัดหรือในหมู่บ้านดีที่สุดครับ
-
เหตุผลมา ก็เหตุผลด้วย
เห็นด้วยตามนั้นเลยครับ ถึงผมจะปั่นจักรยานก็ตาม
ปันจักรยานตอนนี้เป็นกระแสจริงๆ แต่ผมว่าบางทีมันก็ควรจะมีความเหมาะสม ดูการใช้งาน ดูวัตถุประสงค์กันด้วยครับ
เมื่อก่อนนานมาแล้ว แม่ค้าปั่นจักรยาน เด็กปั่นจักรยานไปเรียน ไม่ค่อยมีข่าวเกิดอุบัติเหตุ
มาดูฝั่งรถยนต์ก่อน
ผมว่าส่วนนึงมาจาก ผู้คนขับรถสมัยก่อนนั้นยังจิตใจดี มีความระมัดระวังเยอะกว่าสมัยนี้ มาก !!!!!
สมัยก่อนกับสมัยนี้ สมัยนี้คนขับรถเห็นแก่ตัว(ถ่อย)เยอะมากขึ้นครับ เป็นเพิ่มเท่าตัวเลยก็ว่าได้ครับ
มองมุมชาวจักรยานกันบ้าง
ในกรุงเทพมีทางจักรยานหลายจุด แต่เค้าเลือกที่จะไม่ปั่น ส่วนใหญ่เลือกจะปั่นรถแบบ เสือหมอบ (กระแส) บนถนน แน่นอนว่ารถแบบนี้ได้ความเร็ว มันเท่ แต่ต้องปั่นบนถนนร่วมกับรถใหญ่ เจอขรุขระนิดหน่อยก็ไม่ได้ เจอหลุมนี่ล้ม ยางแตกเอาง่ายๆ ซึ่งเสือหมอบ ยางบาง ยางเล็ก เจอตะแกรง เจอฝาท่อ เจอหลุม ต้องหลบให้อลหม่าน (ก็ดันหลบไปปาดเลนรถใหญ่อีก) ซึ่งไม่เหมาะกับถนนเมืองไทย (เราถึงเห็นจักรยานบางคันหลบมาปั่นเลนกลางอะไรแบบนี้เพราะแบบนี้แหละ) ไหนจะบางคน ติดครีตอีก (ล็อกบันไดกับขา) ทำให้เวลาล้ม ไม่สามารถทรงตัวได้อีก
อย่าอ้างเลยครับว่าเฉพาะเสือภูเขาเท่านั้นที่ปั่นตามทางจักรยานใน กทม ได้ ..... เจ้าหน้าที่กทม เทศกิจกวาดๆ แกก็ใช้จักรยานแม่บ้านเนี่ยแหละ ปั่นไปไหนมาไหนตลอด
อ้อ ลืมบอก ระยะเบรกรถแบบนี้ มาเร็วๆ เบรคยากนะครับ เจอรถปาดหน้าที่ 30 นี่จูบท้ายรถเก๋งเอาง่ายๆ ฝนตก ถนนลื่น แอ่งน้ำขัง เจอไปเนี่ยล้มสถานเดียว เพราะยางมันไม่มีดอก ร่องรีดน้ำ ยางทางเรียบโล้นๆ
คือจะออกกำลังกาย ได้ ไม่ห้าม แต่บางทีต้องดูความเหมาะสมของสถานที่บ้าง แล้วจะมาเรียกร้องทางจักรยาน ทำถนนให้เรียบเป็นแพรไหมแบบสนามบินแบบนี้เหรอครับ
ผมว่ามีส่วนผิดทั้งคนขับรถจักรยานและรถยนต์อะครับ ทางแก้ ผมว่า ทาง กทม ทำทางจักรยานให้ดีกว่านี้อีกนิดนึง ไม่ต้องทำหมดก็ได้ แต่ให้เชื่อมแนว MRT BTS ก็พอแล้วนะ เพราะตอนนี้ผมก็ไม่ได้ปั่นยาวๆบนถนน ส่วนมากก็ปั่นบนทางจักรยาน แล้วหิ้วรถขึ้นรถไฟฟ้าไปซะมากกว่า
ดูจักรยานที่ญี่ปุ่นเค้าปั่นไปเรียน ไปทำงานกัน เค้าก็ปั่นรถพับ แม่บ้าน ช้าๆ ธรรมดาๆ แล้วดูบ้านเรา จะจัดเต็มชุดแข่ง ใส่หมวก ยางบางๆ รถทางเรียบกันไปถึงไหนไม่ดูความเหมาะของสถานที่ปั่นซะบ้าง
-
ถ้าจะบอกว่า เหมาะไม่เหมาะ คงไม่ใช่เรื่องที่เป็นประเด็น !!
แต่ผมคิดว่า "วินัยจราจร" มากกว่าครับที่ควรจะเป็นประเด็น
เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมด เป็นเรื่องของการไม่มีวินัยจราจรครับ
ไม่ว่าจะเมาแล้วขับ ขับเร็วกว่ากำหนดปาดซ้ายขวา แซงไหล่ทาง ฯลฯ
ลองย้อนกลับไปดูข่าวอุบัติเหตุทั้งหมด ไม่มีเหตุการณ์ไหนที่เกิดจากประเด็นอื่น นะครับ
เพราะฉะนั้น ผมคิดว่า ระเบียบวินัย การเอื้อเฟื้อกับผู้ใช้ถนนทุกประเภท
จะช่วยให้ผู้ใช้ถนนทุกคนปลอดภัย
-
พวกเราก้อพยามหาที่ปั่นที่รถมันน้อยๆแล้วครับ อย่างเส้น รัชดา-รามอินทรา (ช๊อควิว) คนจักรยานเค้าก้อใช้มาตั้งแต่รถยังไม่ค่อยไปใช้เส้นทางกัน
เส้นนี้จักรยานปั่นกันทั้งเส้น ผมก้อปั่นเส้นนี้ประจำเพราะมันหลังบ้านผม แต่สุดท้ายก้อมีคนโดนชน ทั้งๆที่ก้อปั่นเป็นกลุ่ม เปิดไฟอุปกรณ์เซฟตี้ครบ
คือแบบ ?? พ่อง
-
.
.
.
เพราะคนบนถนนมันร้อยพ่อพันแม่ และผมไม่เชื่อว่าการรณรงค์เรื่องระเบียบวินัย
มันจะช่วยอะไรได้ ชีวิตคนนะครับ อย่าไปฝากไว้กับการรณรงค์พวกนี้เลย
ผมเห็นรณรงค์ให้เลิกเหล้ามากี่สิบปี ยอดขายไม่เคยลดลงเลย
ผมยังคิดว่าการแก้ปัญหาที่แท้จริงไม่ใช่การไปเปลี่ยนให้ทุกคนมีวินัยจราจรครับ
เพราะมันเป็นไปไม่ได้
-
จริงๆแล้ว ถนนในเมืองไทยนี่ขี่จักรยานได้นะครับ
เพียงแต่มีจังไลแมนเพียงไม่กี่คนที่ทำให้ถนนในเมืองไทยขี่ไม่ได้
- มนุษย์แซงไหล่ทาง (รวมถึงพวกมนุษย์ปาด)
- มนุษย์แอลกอฮอล์
- มนุษย์ขี้ง่วง
- มนุษย์มักง่าย
- มนุษย์ซิ่งไปดูใจคนที่บ้าน
สำหรับผมเอง ผมขี่แบบ play-safe นะครับ ชิดซ้ายสุด เวลาจะเลี้ยวก็ใช้ทางม้าลายเอา เพราะผมแค่ปั่นไปสวนลุมเพื่อออกกำลังกาย และไปธุระใกล้ๆบ้าน
-
ผมยังจำได้เลยว่า เมื่อ30 ปีที่แล้ว ( ตอน 10 ขวบ) ผมขับจักรยานออกถนนใหญ่ในกรุงเทพ การขี่คือเหมือนมอเตอร์ไซด์ใช้สัญญาณมือเวลาเลี่ยวหรือขอเปลี่ยนเลน ยังอันตรายเลยครับ ขนาดรถยังน้อย วินัยการจราจรของคนขับยังดีอยู่
พ่อแม่ผมดุใหญ่ว่า ขับไปไหนอันตรายน่ะ... และผมพอเข้าใจว่ามันอันตรายจริงๆ ด้วยเหตุผลที่ว่า อัตราเร่งของจักรยานไม่สัมพันธ์กับรถ ไม่สามารถกระชากตัวแซง หรือหลบได้เหมือนมอเตอร์ไซด์
ปัจจุบันก็ยังรู้สึกว่า การขี่จักรยานบนถนนใหญ่ ยังน่ากลัว อยู่เหมือนเดิม
-
ตัวผมมีมุมมองดังนี้
ผมไม่กล้าปั่น อย่าว่าแต่จักรยานมอไซด์ก็ไม่กล้าขับ
เมื่อไม่นานมานี่ผมเพิ่งรู้จากปากแม่ว่าสมัย12ปีก่อนก่อนตอนผมวัยรุ่นขับมอไซด์อยู่พักนึง แม่บอกว่านอนไม่หลับทุกคืนเป็นห่วงมาก
ขับรถยนต์เองทุกวันผมรู้เลยว่ามอไซด์และจักรยานเสี่ยงแค่ไหน แค่นิดเดียวก็หมายถึงชีวิต
ผมชอบจักรยานมาก แต่มันไม่คุ้ม ลูกโตขึ้นก็คงไม่อนุญาติให้แตะ จนกว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงกับถนนกรุงเทพ
ปล. โอตาคุน่องเหล็ก สนุกมาก
-
ผมมองในฐานะนักวิ่งมาราธอนน่ะครับ
ผมก็วิ่งในช่วงเช้าตรู่บนท้องถนนเหมือนกัน แต่ต่างกับนักปั่นตรงที่ผมวิ่งย้อนศรครับ ถ้ามีรถมา ผมจะเห็น ผมพอจะหลบได้
แต่ถ้าปั่นจักรยาน พวกคุณไม่เสียวกันบ้างหรือครับ ไม่รู้ว่าจะโดนสอยตูดตอนไหน โอกาสหลบก็ไม่มี หากระจกหลังติดจักรยานด้วยก็ดีน่ะครับ รถราบนท้องถนนบ้านเราก็อย่างที่ทุกท่านเห็นนั่นแหล่ะ
ทางที่ดี ปั่นในสวนสาธารณะ หรือถ้าอยากปั่นเร็ว ก็เส้นที่รถน้อยๆน่าจะปลอดภัยที่สุดแล้ว ก็ในเมื่อการใช้รถใช้ถนนบ้านเรามันเป็นแบบนี้ เราก็เซฟที่ตัวเองดีกว่า เพราะกว่าเราจะรณรงค์เรื่องวินัยจราจรให้ได้ผล เราอาจสูญเสียไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ครับ
-
ผมเห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้เลยคับ
ถนนเมืองไทยปัจจุบันไม่เหมาะกับจักรยาน แค่ฝาท้อก็แย่ละ
-
ผมว่านะ ควรทำเลนจักรยานแยกไปเลย แล้วมีที่กั้นแบบ BRT น่าจะแก้ได้
ส่วนตัวไม่ดราม่าผมก็เห็นด้วยว่า ประเทศไทยยังไม่เหมาะกับจักรยานบนถนนหลวง ยกเว้นมีที่ปั่นชัดเจนอย่างชายทะเลบางขุนเทียน เส้นนั้นดีมากๆสำหรับจักรยาน น่าจะทำเป็นต้นแบบให้ถนนอื่นๆในไทย
ส่วนตัวก็ปั่นนะครับจักรยาน แต่จะไปปั่นในเส้นที่ไม่มีรถเลย และไม่เคยมีความคิดมาปั่นริมถนนระหว่างอำเภอ ระหว่างจังหวัด เพราะเห็นๆอยู่อันตรายขนาดไหน
ผมก็คิดว่าสมัยนี้กระแสจักรยานมันก็ดีนะ แต่คิดว่าควรปั่นในพื้นที่ๆปลอดภัยดีกว่า ปั่นแบบทัวร์ริ่งยาวๆไกลๆนั้นคิดว่าไม่ค่อยเหมาะจริงๆ ยกเว้นมีรถปิดท้ายให้
-
พูดถึง ผมก็พึ่งนึกอะไรออก
เมาแล้วขับ ไม่ต้องติดคุกขนาดนั้นก็ได้มั้งครับ
แต่ผมเอาว่า เมาแล้วขับ แซงซ้าย ขับเร็วเกิน กม กำหนด ประมาทคุยโทรศัพท์ ชนคน/จักรยานตาย อะไรพวกนี้ .... เพิกถอนใบขับขี่ + ห้ามขับ 10-20 ปี // สาหัส 5-7 ปี // เจ็บ 3-5 ปี แบบนี้ดีกว่า ถ้า ตร เจอพวกไม่มีใบขับขี่ (อาจจะโดนริบ) เพิ่มโทษเป็นปรับ 4-5 พันไปเลย
โทษติดคุกเดี๋ยวมันก็รอดรอลงอาญาอีก เอาแบบริบใบขับขี่นี่ละ เพิกถอนให้ไม่ต้องมีใบขับขี่น่าจะเวิร์คกว่า
โดนริบใบขับขี่ยี่สิบปี ผมว่ารับรองขับระวังขึ้นแน่ ... เป็นวิธีกันพวกขับรถห่วยๆออกจากถนนด้วยในตัว ขับห่วยนักก็ไม่ต้องมีใบขับขี่ ง่ายดี ;D
-
ชอบมุมมองของ
k.SETTHASART (นักวิ่งมาราธอน) น่ะครับ
..."ชัดเจนดีครับ"...
-
ผมว่าถนนเมืองไทยก็เหมาะแล้วนะครับ
เพียงแต่วินัยคนไทยไม่เหมาะแค่นั้น
-
ถ้าจะบอกว่า เหมาะไม่เหมาะ คงไม่ใช่เรื่องที่เป็นประเด็น !!
แต่ผมคิดว่า "วินัยจราจร" มากกว่าครับที่ควรจะเป็นประเด็น
เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมด เป็นเรื่องของการไม่มีวินัยจราจรครับ
ไม่ว่าจะเมาแล้วขับ ขับเร็วกว่ากำหนดปาดซ้ายขวา แซงไหล่ทาง ฯลฯ
ลองย้อนกลับไปดูข่าวอุบัติเหตุทั้งหมด ไม่มีเหตุการณ์ไหนที่เกิดจากประเด็นอื่น นะครับ
เพราะฉะนั้น ผมคิดว่า ระเบียบวินัย การเอื้อเฟื้อกับผู้ใช้ถนนทุกประเภท
จะช่วยให้ผู้ใช้ถนนทุกคนปลอดภัย
ผมเห็นด้วยกับความคิดเห็นนี้นะ เพราะสาเหตุหลักๆที่เกิดอุบัติเหตุหลายๆครั้งที่ผ่่านมา
- มาจากการเมาสุรา
- ผู้ขับขี่ไม่อยู่ใในสภาพที่เหมาะสมกับการขับขี่
- ขับแซงซ้ายแบบเร่งรีบ
ซึ่งประเด็นหลังนี้ ผมว่าให้คุณขับช้า 30 กมต่อชั่วโมง คุณแซงซ้ายขึ้นมา กว่าที่คุณจะเห็นจักรยานที่อยู่ข้างหน้า
ผมว่าคุณก็อาจจะเบรคไม่ทันเหมือนกันนะ ดีไม่ดีอาจจะใช้ท้ายรถคันข้างหน้าคุณเบรคแทน
ถ้าพวงมาลัยรถคุณอยู่ข้างซ้ายก็ว่าไปอย่าง ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็น คนเดินถนนชิดไหล่ทาง รถมอเตอร์ไซค์
หรืออะไรก็แล้วแต่ คงจะไม่เหมาะกับการสัญจรบนถนน...
ผมเองก็เป็นทั้งผู้ขับขี่รถยนต์ ทั้งปั่นจักรยาน ก็ไม่เห็นด้วยกับคนที่ปั่นจักรยานและขับขี่โดย ไม่เคารพกฏจราจร ครับ
-
รถยนต์ส่วนใหญ่ยังไม่ชินกับจักรยานนะผมว่า แบบลืมไปว่าจักรยานจะใช้ความเร็วต่ำ (ชินแต่ความเร็วต่ำระดับมอไซต์)
พอเห็นเข้าก็เบรกไม่ทันแล้ว ผมเจอบ่อยๆช่วงหลังๆเลยรู้ทัน ถ้าเห็นจักรยาน ผมต้องเตรียมแซงมาแต่ไกลเลย
ส่วนที่ว่าในอดีตใครๆก็ปั่นจักรยาน ผมว่ามันจริง แต่ไม่หมด ผมก็เป็นเด็กบ้านนอก
ปั่นจักรยานไปโรงเรียนตั้งแต่ ประถมยันมัธยมต้น แต่ผมแทบไม่เห็นใครปั่นบนทางหลวง
มีแต่ปั่นกันบนถนนหมู่บ้าน พอโตหน่อยผมมาอาศัยในเมืองหลวง การปั่นจักรยานส่วนมากก็ปั่นในซอยไปปากซอย
ผมว่าจักรยานบนทางหลวงเป็นเรื่องใหม่ในบ้านเราจริงๆ ดังนั้นรถใหญ่ก็ต้องระวังและปรับตัว ไม่ประมาท
ส่วนจักรยานก็ต้องระวังตัวเองให้มาก อย่าใช้นิสัยมอไซต์บางคัน ที่คิดว่ารถเล็กถูกเสมอ
ทั้งนี้ทั้งนั้น การเคารพกฏจราจรอย่างเคร่งครัดก็ช่วยได้มาก
-
เห็นด้วยครับ แต่ผมอยากจะใช้คำว่าเมืองไทยมากกว่าถนนเมืองไทย ครับ
อยากให้อ่านกันให้เข้าใจดีๆ หวังว่าจะไม่มีดราม่า
พ่อผมก็นักปั่น ก่อนหน้านี้ผมก็ไม่อยากให้ปั่นครับ อากาศก็ไม่ดีและก็กลัวว่าจะเป็นอะไรไป
ด้วยอะไรหลายๆอย่างที่ทุกคนก็น่าจะรู้ๆกันอยู่ว่าเพราะอะไร ไม่อยากพูดแล้วพูดกันมาหลายครั้งล่ะ
ชับขี่ปลอดภัยทุกคนครับ
-
ส่วนตัวมองว่าถ้าจะปั่นก็ปั่นได้ จริงๆก็สนับสนุนนะค่ะ ได้สุขภาพดีด้วย.. แต่ควรดูสถานที่ที่เหมาะสมมากกว่า คืออาจจะแถวสถานที่ท่องเที่ยว ที่รถยนต์ไม่พลุกพล่าน มีเลนส์ให้วิ่งปลอดภัยพอ ... เมื่อเทียบกับถนนในกรุงเทพฯนี่อาจจะไม่เหมาะ เพราะการจราจรหนาแน่น ส่วนตัวมองเรื่องอุบัติเหตุมากกว่าค่ะ เพราะถ้าเจ็บแล้วคงเจ็บเยอะ ถ้าในกรุงเทพฯตามสวนสาธารณะน่าจะเหมาะและปลอดภัยกว่า ขับไปชิลล์ๆชมวิวไป ได้เหงื่อด้วย :)
-
ก็ต้องช่วยกันทุกฝ่าย. ทำให้เหมาะขึ้นมาให้ได้ครับ
ทั้งรัฐ ที่ต้องปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน และกฎระเบียบต่างๆ
ผู้ขับขี่จักรยาน รถยนต์ และมอเตอร์ไซค์ ที่ต้องปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ
และรัฐ ที่ต้องบังคับใช้กฎหมายให้ได้จริง
การเดินทางด้วยจักรยาน อาจเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาการจราจร และสิ่งแวดล้อมครับ
วันนี้ยังไม่เหมาะสม ต้องช่วยกันปรับปรุงครับ อย่าเพิ่งยอมแพ้เสียก่อน
-
ขอเพิ่มเติมครับ สภาพถนนและวินัยการจราจรเป็นหลัก
ถนนเหมาะคนมีวินัย ปัญหาเกิดยากครับ แต่ก็น่ะ ความเป็นจริงก็อีกเรื่อง
-
รถยนต์ชนจักรยาน มันเป็นข่าวดัง แต่.....
วันนึงๆ รถยนต์ชนรถยนต์ สิบล้อชนเก๋ง
เก๋งชนมอร์เตอร์ไซค์ กี่เคสต่อวัน?
ใครคือผู้ไม่สมควรขับตามท้องถนนกันล่ะ
ถ้ามันยังไม่เหมาะก็พยายามปรับให้มันเหมาะ
แม้อาจต้องใช้เวลานานซักหน่อย :-*
-
ถนนใหญ่ที่จราจรแออัดจักรยานไม่ควรลงไปปั่นเพราะรถเก๋งรถเมลล์
เร่งรีบกันอยู่แล้วรถมันติดไปได้ก็ใส่กันเต็มที่ จะโดนเสยตูดเอาง่ายๆ แต่ถนนย่อยหรือตามซอย
รถสี่ล้อต้องเห็นใจจักรยานบ้าง ที่ผมเจอหนักๆก็ในซอยสองเลน
รถเก๋งแซงรถช้าขึ้นมาแบบไม่ดูเลยว่ามีจักรยาน ผมปั่นมาเห็นละว่าแซงมา
จอดหลบชิดขอบทางสุดๆละยังเฉียดห่างประมาณ10เซนได้
ถ้าผมไม่จอดหลบชิดให้คงชนไปเลยแน่ๆ
-
คนขับรถชนจักรยาน << ผิดเต็มประตู
แต่ปั่นจักรยานออกกำลังกายบนถนน ตอนมืดๆ << แม้ไม่ผิด แต่เสี่ยง
รวมทั้งที่รวมตัวกันมาวิ่งบนถนนตอนเช้ามืดด้วย << วิ่งสวนดีกว่ามั้ย
ส่วนตัวก็เห็นใจคนชอบออกกำลังกาย แต่คิดว่าบ้านเรารถเยอะเกินไป ไม่คุ้มเสี่ยงกับการมาออกกำลังกายบนถนน
-
คนขับรถชนจักรยาน << ผิดเต็มประตู
แต่ปั่นจักรยานออกกำลังกายบนถนน ตอนมืดๆ << แม้ไม่ผิด แต่เสี่ยง
รวมทั้งที่รวมตัวกันมาวิ่งบนถนนตอนเช้ามืดด้วย << วิ่งสวนดีกว่ามั้ย
ส่วนตัวก็เห็นใจคนชอบออกกำลังกาย แต่คิดว่าบ้านเรารถเยอะเกินไป ไม่คุ้มเสี่ยงกับการมาออกกำลังกายบนถนน
ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับการวิ่งสวนนะครับ ถ้าชนก็จะเหมือนกับการประสานงา และความรุนแรงในการชนจะมากกว่า
ต่างคนต่างต้องระวังซึ่งกันและกันครับ เทรนด์สีจักรยานตอนนี้สีดำกำลังมาแรง จักรยานผมก็สีดำ แต่ขอได้ไหมครับ ติดไฟหน่อย ไฟสว่างๆ สว่างกว่าอันละ50-60บาทที่ร้านแถมมาให้ และติดไฟหน้าสว่างๆหน่อย แพงนิดนึง แต่ถูกมากเมื่อเทียบกับราคาจักรยานทั้งคันนะครับ
ทั้งนี้และทั้งนั้น เมา ง่วง คุยโทรศัพท์(ไม่มีอุปกรณ์เสริม) อย่าขับ อย่าแซงไหล่ทาง
-
ถ้าเป็นผมจะไม่ขี่จักรยานบนถนนที่ขับรถขับลากันอย่างบ้าระห่ำเด็ดขาด
เหมือนเอาชีวิตไปเสี่ยงจริงๆครับ
ถ้าอุบัติเหตุเกิดขึ้นมาไม่ว่าจะเกิดจากการเจตนา หรือไม่ก็ตาม
จักรยานรับเต็มๆครับ เจ็บน้อย เจ็บมาก พิการ อัมพาต เสียชีิวิต
ผมคิดอย่างท่านเจ้าของกระทู้เลยครับ
จักรยานควรขี่ กับยวดยานที่ความเร็วใกล้เคียงกันครับ
หากเกิดเหตุพลาดพลั้งขึ้นมา ความบาดเจ็บ เสียหายจะได้ไม่มากครับ
-
ผมว่าถนนเมืองไทยก็เหมาะแล้วนะครับ
เพียงแต่วินัยคนไทยไม่เหมาะแค่นั้น
สั้นๆได้ใจความ เป็นไปตามนี้ทุกประการ ต่อให้ถนนเรียบยังกะสนามแข่ง หรือแบ่งเป็นฝั่งละ4เลนพร้อมไหล่ทางเลย ถ้าคนไทยยังวินัยต่ำๆเรี่ยดินแบบนี้ ต่อให้ถนนที่ไหนในโลกก็ไม่เหมาะกะการปั่นจักรยานหรอกครับ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ถนนหรือสภาพแวดล้อม ปัญหามันอยู่ที่ วินัยคนใช้ถนนร่วมกันต่างหากครับ
-
ถ้าจะเหมารวมถนนเมืองไทยทั้งหมดไม่เหมาะ ผมว่าไม่ใช่นะ แต่ถ้าเป็นกรุงเทพฯ นี่เห็นด้วยเลย
ถนนต่างจังหวัดหลายๆ เส้นที่เป็นสี่ช่องจราจร มีไหล่ทางกว้าง มันเหมาะที่จะปั่นออกกำลังกายได้ดีทีเดียว อย่างเช่น แถวอำเภอจตุรัส-ชัยภูมิ เวลาผมขับรถรถผ่านเห็นบ่อยๆ และต้องมองแบบอิจฉานิดๆ
แต่ที่เหมือนกันทั้งประเทศก็คือ การขับขี่ของคนไทยไม่สนใจกฎหมาย กฎจราจร หรือมารยาทในการขับขี่ โดยเฉพาะพวกเมาแล้วขับนี่ก่อให้เกิดความเสียหายแต่ละครั้งหนักๆทั้งนั้น
-
เอาวินัยในการขับรถให้ดีก่อนทุกอย่างก็ดีตามครับ
-
ครับ บางคนต้องการความเท่าเทียม เสรีภาพในการใช้ถนน
ถึงกับต้องเอาชีวิตตัวเองไปแลกกับคำว่าปลูกจิตสำนึกแบบที่เว็บต้องห้ามเค้าพูดกันอยู่
ทั้งๆที่รู้กันอยู่ว่าปัจจัยการปั่นในบ้านเรามันไม่ได้เอื้อขนาดนั้น
สมัยก่อนราวๆ ยี่สิบปีมาแล้ว ผมยังซ้อนท้ายจักรยานพ่อไปเรียนอยู่เลย
ซึ่งในเมืองที่รถติดๆนี่ผมว่าโอเคนะ ยังไงก็ไม่เกิดเหตุรุนแรง ความเร็วมันต่ำ
ซึ่งไม่เกิดเรื่องอะไรจนผมมานั่งพิมพ์ข้อความนี้ และพ่อผมก็นั่งดูทีวีอยู่ข้างๆ
สมัยนี้เป็นช่วงนิยมจักรยาน กระแสมาแรง แนวโน้มการใช้งานก็เปลี่ยนไปเป็นเพื่อออกกำลังกาย
ตามถนนถ้าเทียบกัน สมัยนู้นเสือหมอบผมแทบไม่เคยเห็นวิ่ง
เดี๋ยวนี้แป็บๆ มาแล้วสองสามคัน
แล้วบางเส้นทางที่ใช้ความเร็วกันสูง ขนาดรถยนต์ด้วยกันยังไล่กันไม่ทัน
แต่ก็ยังมีกลุ่มจักรยานบางส่วนไปวิ่งเสี่ยงชีวิตกันด้วย
ตรงนี้ผมว่ามันเพิ่มความเสี่ยงในการปั่นขึ้นไปอีก
ไม่ได้ห้ามนะครับ ว่าคุณอย่าไปปั่นที่นู่นที่นี่
รู้อยู่ว่าคนขับรถสมัยนี้ ใจร้อน เลือดเดือด ไร้น้ำใจมากขนาดไหน
วินัยไม่มี กฎระเบียบไม่สนใจ อะไรห้ามก็ทำหมด
ชีวิตคุณ เลือกเองเสี่ยงเอง
-
คนขับรถชนจักรยาน << ผิดเต็มประตู
แต่ปั่นจักรยานออกกำลังกายบนถนน ตอนมืดๆ << แม้ไม่ผิด แต่เสี่ยง
รวมทั้งที่รวมตัวกันมาวิ่งบนถนนตอนเช้ามืดด้วย << วิ่งสวนดีกว่ามั้ย
ส่วนตัวก็เห็นใจคนชอบออกกำลังกาย แต่คิดว่าบ้านเรารถเยอะเกินไป ไม่คุ้มเสี่ยงกับการมาออกกำลังกายบนถนน
ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับการวิ่งสวนนะครับ ถ้าชนก็จะเหมือนกับการประสานงา และความรุนแรงในการชนจะมากกว่า
ต่างคนต่างต้องระวังซึ่งกันและกันครับ เทรนด์สีจักรยานตอนนี้สีดำกำลังมาแรง จักรยานผมก็สีดำ แต่ขอได้ไหมครับ ติดไฟหน่อย ไฟสว่างๆ สว่างกว่าอันละ50-60บาทที่ร้านแถมมาให้ และติดไฟหน้าสว่างๆหน่อย แพงนิดนึง แต่ถูกมากเมื่อเทียบกับราคาจักรยานทั้งคันนะครับ
ทั้งนี้และทั้งนั้น เมา ง่วง คุยโทรศัพท์(ไม่มีอุปกรณ์เสริม) อย่าขับ อย่าแซงไหล่ทาง
หมายถึงวิ่งสวนสาธารณะครับ
-
แล้วแต่เส้นนะครับ ยกตัวอย่างที่ผมเจอประจำนะครับ
เส้นหนองมน-บางพระ-ศรีราชา ทึ่ชลบุรี เสาร์อาทิตย์ ปั่นกันเยอะมากครับ รถที่ขับก็ใช้ความเร็วระดับนึง การจราจรไม่แออัดมาก เหมาะแก่การปั่นอย่างยิ่ง
แต่ทางขึ้นเขาปักธงชัยจากทางทับลาน ถนนก็แคบ แถมชัน และคดเคี้ยว รถก็เยอะ รถบรรทุกก็มาก อุบัติเหตุก็เกิดบ่อย แต่ก็มีนักปั่นเทพๆ ไปปั่นท้าความตายอยู่บ่อยๆ ไม่เหมาะอย่างยิ่งครับที่จะไปปั่น
เมาแล้วขับชนคนตาย ส่วนตัวผมเห็นว่าตั้งข้อหาเป็นเจตนาฆ่าดูจะเหมาะสม
-
สดๆร้อนๆเลยครับ ปั่นกันมา 20+ คัน ถนนฝั่งละ 2เลนไม่มีเกาะกลาง จักรยานกินไป 1ช่องทาง รถใหญ่(4ล้อขึ้นไป) เหลือ1ช่องทาง รถใหญ่วิ่งมาร้อยกว่ามาติดเพราะรถจักรยานวิ่งเกาะกลุ่มกินไป1เลน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขับรถทุกประเภทต้องให้เกียรติกัน รถใหญ่กว่าเจอรถเล็กๆ(2ล้อ) ก็ควรระวังเพิ่มขึ้น ไม่ใช่บึ่งบี้คันเร่งอย่างต่อเนื่อง ส่วนรถเล็กก็อย่าคิดว่ามากันเยอะแล้วเกาะเป็นก้อนใหญ่ๆบังเลนรถใหญ่วิ่งเร็ว บางทีเขามาเร็วต้องมาเบรคเพราะรถเล็กขับกินเลนเป็นเหตุให้รถใหญ่คันหลังที่ตามมาเร็วเบรคกันสนั่นหรืออุบัติเหตุเกิด เป็นต้น ขับรถ ให้ระวัง ให้เกียรติ ให้มีสติ ให้ปลอดภัยกันนะครับน้าๆ
-
สาเหตุเกิดจากอะไรเอาจาก 2 เหตุการณ์ล่าสุดนี้นะ 1.เมาแล้วขับ 2.ขับซิ่ง ใช่มั้ยครับ ถ้ามีสติดีอยู่ดีๆจะไปชนจักรยานมั้ย แล้วถ้าเปลี่ยนจากจักรยานเป็นพระกำลังเดินบิณฑบาตอยู่ละแล้วสาวเมาแล้วขับมาชน แบบนี้พระก็ไม่เหมาะมาเดินบิณฑบาตข้างถนนเหมือนกันซินะเจ้านาย ควรมองที่ต้นเหตุก่อน ไม่ใช่ไปมองปลายเหตุนะผมว่า (ไม่มาม่านะเจ้านาย)
-
ไม่อยากก่อดราม่าเหมือนกัน
ผมปั่นจักรยาน ในทุกที่ที่คิดว่าความเสี่ยงไม่สูง
การปั่นจักรยานรึการใช้ชีวิตทำกิจกรรมริมฟุตบาทในประเทศนี้มีความเสี่ยงครับ เสี่ยงต่ำ เลี่ยงปานกลาง เสี่ยงสูง (ขึ้นอยู่กับอยู่ที่พื้น อยู่ที่ช่วงเวลา)
เพราะ จิตสำนึกการใช้ถนนของคนในประเทศนี้อยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยที่ต่ำ
หลายคันละเลยกับกฏเกณฑ์ บนท้องถนน การเมาแล้วขับ การเมาแล้วขี่ รึการไร้สติในการขับ (เร็วเกิน ไร้น้ำใจ ฯลฯ)
กลับมาเรื่องความเสี่ยง การประเมินความเสี่ยงแต่ละที่ไม่เหมือนกัน หลักแล้วคือ เช้าตรู่วันเสาร์ - อาทิตย์ ไม่ควรออกปั่นตามท้องถนน ขี้เมาแยะ
ถนน 2 เลน ระหว่างจังหวัด ที่ไหล่กว้างเกินไป และรถปริมาณมากไม่ควรปั่น
ถนนระหว่างอำเภอที่รถปานกลาง-มาก 2 เลน และไม่มีไหล่ทาง ไม่ควรปั่น
ถนน 4 เลน รถน้อยและมักจะใช้สัญจนกันด้วยความเร็วสูงมาก ไม่ควรปั่น
ถนนที่มีความเสี่ยงเยอะ(อันนี้ต้องรู้เอง คนในพื้นที่ ผ่านบ่อยๆ) อาทิเช่น สายคลองตั้งแต่คลอง 1-7 ขับและขี่กันไร้ระเบียบที่สุด
ทั้งนี้ทั้งนั้นผมยังคงจะปั่นเพื่ออกกำลังกายบ้าง ใช้เพื่อชอปปิ้งบ้าง ไปดูหนังบ้าง ไปเที่ยวระหว่างจังหวัดบ้าง ไปกินอาหารกับเพื่อนบ้าง ต่อไป โดยที่รู้ว่ามีความเสี่ยง
โดยรู้อยู่แล้วว่ามีความเสี่ยง แต่เลือกที่จะลดความเสี่ยงได้โดยการมองหลังบ่อย ใช้ความเร็วให้เหมาะสมกับสภาพจราจร เพราะผมไม่มีทางมาทนหงุดหงิดวนหาที่จอดในห้าง 15 นาที
รอต่อคิวรับบัตรจอดรถ 10 นาที ในขณะเดินทางมาห้างอีก 15 นาที ผมยอมปั่น25 นาทีและพร้อมทีทำกิจกรรมในห้างต่อได้เลย
สุดท้ายเจ้าของกระทู้ก็ไม่ผิดครับ เข้าใจว่าหวังดีแต่ความดีบางครั้งก็ปิดกั้นโอกาสในการพัฒนา จิตสำนึกการใช้ถนนของประเทศไทย
เราเลือกจะปิดกั้นไม่ให้จักรยานลงมาท้องถนนและ เลือกที่จะปล่อยจิตสำนึกการใช้ถนน จะปล่อยให้มันแย่แบบนี้ไปเรื่อยๆรึครับ
ในที่สุดเชื่อว่าการรณรงค์ให้คนรับผิดชอบตนเองบนท้องถนนและถ้าทุกคนพร้อมจะรับผิดชอบ มีจิตสำนึกในการใช้ท้องถนนร่วมกัน การปั่นจักรยานบนท้องถนนจะไม่ใช่กิจกรรมที่เป็นความเสี่ยงสูงในไทยอีกต่อไป
และลองคิดกลับกันนะครับ หากประเทศไทยจะมีวินัยการใช้ถนนที่ดีขึ้น ไม่ใช่ส่งผลแค่ใครคนใดคนนึง แต่มันเป็นผลดีกับเราทุกคน คนปั่น คนขี่ คนขับ อุบัติเหตุน้อยลงมีน้ำใจบนท้องถนนมากขึ้น
ผมว่าครั้งนี้อาจจะเป็นการกระตุ้นพัฒนาการใช้ถนนที่ดีก็ได้ครับ แต่ต้องกระตุ้นให้ถูกจุดและถูกจังหวะ
-
กระทู้นี้เป็นกระทู้เดียวที่ถกกันด้วยเหตุผล จากที่ผมเคยเห็นกระทู้เกี่ยวกับจักรยานและรถยนต์ในช่วงนี้ทั้งหมด
เห็นด้วยกับ จขกท. และสมาชิกท่านอื่นที่มาแชร์กันหลายๆท่านครับ
จักรยานขี่บนถนนไม่ผิด รถยนต์ก็ควรระมัดระวังและมีน้ำใจให้เพื่อนร่วมทาง
แต่สิ่งที่ผมคิดและอยากจะแชร์มากที่สุดคือ อยากให้ผู้ขับขี่จักรยานช่วยประเมินความเสี่ยงในการไปปั่นตามที่ต่างๆใน กทม. และดูความเหมาะสมของสถานที่ด้วยครับ
รถยนต์ยังงัยต้องระวังอยู่แล้วไม่มีใครอยากให้เกิดอุบัติเหตุหรอกครับ
ยกตัวอย่างทางแถวบ้านผม เป็นถนนเลียบวงแหวนตะวันออกช่วงคู้บอน-จตุโชติทางแคบมากไม่มีไหล่ทางเลย รถสวนยังเสียวๆ มืดด้วย เจอจักรยานปั่นอยู่มีไฟนิดเดียวน่าเป็นห่วงครับ
-
ตัวผมเองก็ปั่นจักรยาน วิ่ง ออกกำลังกาย
อยากบอกว่าเราต้องระลึกเสมอครับว่าความเสี่ยงคืออะไรบ้าง ทั้งจากตัวเราเอง และผู้อื่น
และเรายอมรับมันได้ไหม ถ้าความเสี่ยงมันไม่เยอะเกินไป ผมลุยทุกอย่าง
แต่ !!! ถ้ามันดูแล้วไม่คุ้มค่า คือเสี่ยงมากเกินไป ผมก็จะไม่ทำ
ทุกครั้งที่ปั่นจักรยานบนถนน สิ่งที่กลัวมากคือ อะไรก็ตามที่พุ่งมาจากด้านหลัง แล้วชนเราแบบไม่รู้ตัว
ปัจจุบันผมขับBig Bike บอกเลยว่าการไปเป็นกลุ่ม สิ่งที่ดีคือการช่วยดูแลกันและกัน
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการไปเป็นกลุ่ม จะปลอดภัย และช่วยเราได้เสมอไป เพราะบางครั้งเมื่อเกิดอุบัติเหตุหนักๆ
ก็ได้แค่ยืนดู ตาปริบๆ รอกู้ภัย รอคนมาช่วยอยู่ดี ชีวิตนั้นมีค่าครับ จะทำอะไรต้องคิดถึงคนที่เรารัก และรักเราเสมอ
อาจจะไม่ตรงประเด็นนัก แต่อยากมาแสดงความเห็นและบอกว่า เป็นห่วงผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนครับ
และเสียดายทุกชีวิตที่เสียไปจากอุบัติเหตุ บางครั้งชีวิตเราเปลี่ยนได้แค่เราเลือกในสิ่งที่กำลังจะทำครับ
-
ผมมองว่าการปั่นจักรยานเป็นการเอาชีวิตตัวเองไปฝากไว้กับคนอื่นครับ เพราะจักรยานไม่ปลอดภัยเลยสำหรับถนนบ้านเรา(ผมหมายถึงถนนทั่วไป ไม่ใช่ถนนที่มีเลนส์จักรยานแยกต่างหากซึ่งมีน้อยมาก ) ความปลอดภัยของจักรยานมันไปขึ้นกับเพื่อนร่วมใชุ้นนขับรถโดยมีจิตสำนึกแค่ไหน เมามั๊ย ง่วงมั๊ย อารมณ์เสียมามั๊ย เป็นต้น ทางแก้ผมว่าควรมีเลนส์จักรยานแยกในถนนบางสายครับ และควรมีกฎหมายไปเลยถนนบางสายไม่ให้ปั่นครับเช่น ถนนที่รถยนต์ใช้ความเร็วสูง เช่น ถนนสายเอเซีย เป็นต้น ส่วนการปลูกจิตสำนึกการใช้ถนนร่วมกันก็ควรทำแต่ปมว่าเมืองไทยอาจต้องใช้เวลาสักพักใหญ่เพราะอะไรเราคนไทยก็รู้ๆกันอยู่
-
จักรยาน หรือ มอเตอร์ไซค์ ผมว่ามันก็แนวๆ เดียวกันครับ
อุบัติเหตุ เกิดขึ้นทุกวัน กระบะชนมอเตอร์ไซค์ , สิบล้อชนเก๋ง ... ก็แบบ รถใหญ่ชนรถเล็ก เหมือนกัน
เพียงแต่ ช่วง 3 ปีมานี้ มีคนขี่จักรยาน มากขึ้น ก็จะเกิดเรื่องแบบนี้มากขึ้น
สิ่งที่เกิดขึ้น เกิดจาก คนขับรถไม่มีจิตสำนึกต่อเพื่อนร่วมทาง จิตสำนึกต่อสังคม
ถ้าจะแก้ ต้องแก้ที่กฏหมาย ให้มีบทลงโทษที่หนัก เพื่อให้เข็ด ให้หลาบจำ ... แต่ก็รู้ๆ กันอยู่ บ้านเรา คุกมีไว้ขังคนจนเท่านั้น ..
-
ผมเชื่อว่า เด็กทุกคน ต้องเคยขี่จักรยาน เด็กๆ ผมมี BMX ขี่ไปโรเรียน ตั้งแต่ ม.1 จนจบ ปวช 3 ผมขี่จักรยาน บนถนน ตั้งแต่อยู่โคราช จนมาถึงราชบุรี
พอเริ่มโต ก็อยากมีมาเตอร์ไซค์ แต่แม่ไม่ให้ซื้อ เพราะ กลัวจะตายก่อนโต
เรียนจบ ทำ งาน มีรถ ขับรถมา 20 กว่าปี
ผมปั่นจักรยาน ใน Gym ที่ Fitness First มา เกือบ 10 ปี ก่อน กระแสการขี่จักรยานมันจะมา
ตอนกระแสจักรยานฮิตใหม่ๆ ผมคิดว่า ไปออกกำลังใน Gym หนะดีแล้ว ปลอดภัย ไม่ต้องร้อน ไม่ต้องกลัวรถชน
แต่เพราะความขี้เบื่อ อยากลอง และ สนามเขียว สุวรรณภูมิเปิด สภาวะมันเหมาะม วันนึง ผมก็ไปซื้อ MTB มาขี่ Trip แรกของผม ปั่นที่อ่างเก็บน้ำ บางพระ 42 กิโล ความรู้สึก ในวัยเด็ก กลับมาอีกครั้ง หลังจากนั้น มันจึงตามมาด้วย ตามมาด้วย เสือหมอบ อีกคัน มันสนุก ได้ออกกำลังกาย และ ไม่น่าเบื่อ ผมไม่มีกลุ่ม ปั่นเดี่ยวมาตลอด
หลังจากปั่นสยามเขียวมาซักระยะ ผมพบว่า การนำรถ ใส่รถ ขับรถ ไปปั่น ปั่นเสร็จ เอารถ ใส่รถ กลับบ้าน ขนรถลง มันยุ่งยาก วุ่นวายขายปลาช่อน ทำไมมรึงไปปั่นไปจากบ้านมรึงฟระ
ปัจุบัน ผมใช้จักรยานทุกครั้ง เท่าที่โอกาศอำนวย ปั่นไป รับรถที่ศูนย์ เอาจักรยานใส่รถไป เข้าศูนย์ แลัวปั่นกลับบ้าน ปั่นไปหาเพื่อน ปั่นไปกินก๋วยเดี๋ยว ผมชอบน๊ะ
ผมกลัวอุบัติเหตุ พยายามปั่นในถนนซอย รถวิ่งช้าหน่อย ข้ามถนนก็แบกรถขึ้นสะพานลอย ใส่หมวกกันสมองไหล เปื้อนถนน ติดไฟ มืดๆ จะได้ปลอดภัย
แต่วันนี้ มีคนมาถามว่า พี่ๆ มาปั่นบนถนนทำไม เกะกะ น่าหมั่นใส้ ไปปั่นสนามเขียวไป๊ รถแพง อวดรวย เอารถมาโชว์กัน น่าหมั่น เสียภาษีป่ะ มาใชถนนของรถยนต์เนี่ย บลาๆ ๆ
ถึง เพื่อนๆ ที่ไม่เห็นด้วย หรือ หมั่นใส้ คนขี่จักรยาน ผมขอเรียนให้ทราบว่า ตราบใดที่คุณยังไม่ปั่น คุณไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกผมครับ
ไม่เชื่อ ลองมาปั่นดูน๊ะ
-
จักรยานมาปั่นบนถนนไม่ผิดครับ แต่ไปปั่นลอดอุโมงค์ ขึ้นสะพานภูมิพล ขี่เข้าเลนทางด่วนถนนบางนาตราดแบบนี้ จิตสำนึกความถูกต้องของคนขี่จักรยานอยู่ตรงไหนครับ รถยนต์จะชนตายเอาสร้างความเดือดร้อนอีก
ถ้าจะปั่นจักรยานควรเคารพกฎหมายของผู้ใช้รถยนต์บ้าง ที่สำคัญคนใช้รถยนต์ก็ควรระวังจักรยานบ้างไม่แซงซ้าย
-
จักรยานมาปั่นบนถนนไม่ผิดครับ แต่ไปปั่นลอดอุโมงค์ ขึ้นสะพานภูมิพล ขี่เข้าเลนทางด่วนถนนบางนาตราดแบบนี้ จิตสำนึกความถูกต้องของคนขี่จักรยานอยู่ตรงไหนครับ รถยนต์จะชนตายเอาสร้างความเดือดร้อนอีก
ถ้าจะปั่นจักรยานควรเคารพกฎหมายของผู้ใช้รถยนต์บ้าง ที่สำคัญคนใช้รถยนต์ก็ควรระวังจักรยานบ้างไม่แซงซ้าย
จริง !
ทั้งรถยนต์ มอไซค์ และ จักรยาน ต้องรักษาวินัยครับ
อนึ่ง ฟิกซ์เกียร์ ก็เป็นอีกกลุ่มที่อันตราย ฟิกซ์เกียร์ไม่มีเบรค น้อยคันที่จะติดเบรค ผมไปปั่นในสวนลุมนี่ผมยังไม่อยากอยู่ใกล้เลยนะครับ เห็นเขาเบรคด้วยวิธีสคิดนี่ผมยังเสียวรถเขาจะล้มหรือยางจะระเบิด และหลายคนก็ยังเป็นวัยรุ่นซ่า
-
ขี้เกียจดราม่า แต่ตอนอยู่บ้านเก่าที่ปทุม ตั้งแต่ ป3 ผมก็ปั่นไปโรงเรียนระยะ 5กิโล ทุกวัน ไม่เว้น จนจบ ม3 พอเข้า ปวช ผมได้จักรยานใหม่ ผมก็ปั่นไปเรียนตลอด 3ปี
เข้ามาเรียนมหาลัยในกรุงเทพ ต้องนั่งรถเมย์ 3ต่อ คิดดูมันน่าหงุดหงิดขนาดไหน จนวันนึง เรียนจบ จำใจต้องออกรถเพราะค่าเดินทางมันสูงมาก
พอย้ายมาอยู่ห้วยขวาง ทุกวันได้แต่นั่งรถไฟฟ้าไปทำงาน แรกเห็นมีคนเอารถพับขึ้นรถไฟฟ้า ปั่นต่อไปที่ทำงาน
ความคิดอยากปั่นไปทำงานก็เกิด พยายามจะเอาคันเก่ามาใช้ แต่มันเละเกินเลยต้องซื้อมือสอง มาปั่น วันแรก เล่นเอาเป็นลม เพราะไม่ได้ออกกำลังแบบนี้หลายปีจัด
ปัจจุบันก็ปั่น ห้วยขวาง สีลมทุกวันนะ ไม่เสียค่ารถไฟฟ้า ได้อากาศยามเช้าที่รถยังไม่มาก ไปถึงก็เช้ากว่าแย่งขึ้นรถไฟฟ้าด้วย
-
สาเหตุเกิดจากอะไรเอาจาก 2 เหตุการณ์ล่าสุดนี้นะ 1.เมาแล้วขับ 2.ขับซิ่ง ใช่มั้ยครับ ถ้ามีสติดีอยู่ดีๆจะไปชนจักรยานมั้ย แล้วถ้าเปลี่ยนจากจักรยานเป็นพระกำลังเดินบิณฑบาตอยู่ละแล้วสาวเมาแล้วขับมาชน แบบนี้พระก็ไม่เหมาะมาเดินบิณฑบาตข้างถนนเหมือนกันซินะเจ้านาย ควรมองที่ต้นเหตุก่อน ไม่ใช่ไปมองปลายเหตุนะผมว่า (ไม่มาม่านะเจ้านาย)
.
.
.
แยกแยะนิดนึงก่อนนะครับ พิมพ์แบบคุณนี่ชวนมาม่านะ
ไม่ใช่ว่าอะไรที่โดนชนแล้วจะไม่เหมาะกับถนน
เพราะรถยนต์ มอไซค์ มันก็ชนกันทุกวันน่ะ อย่างนี้ก็ไม่ต้องมีอะไรวิ่งบนถนนกันเลย
แต่เวลาคุณอ่านอะไรช่วยหัด "จับประเด็น" หน่อยครับ
อย่าพิมพ์เอามันส์ ไม่เท่หรอก ไม่ดูฉลาดด้วย ไปอ่านใหม่ช้าๆ
แล้วคิดตามอีกทีนะ
-
ผมว่าถนนเมืองไทยและจิตสำนึกการใช้ถนนร่วมกันไม่เหมาะกับจักรยานครับ แต่จักรยานเหมาะกับเมืองไทย จบ
-
ควรแก้กฎหมายให้ลงโทษให้รุนแรงและครอบคลุมทุกส่วนมากขึ้น เพราะเดี้ยวนี้คนขับรถบ้านเราวินัยจราจรไม่มี ไม่มีความกลัวเกรงในกฎหมาย โทษมันอ่อนเกินไป ยัดเงินจบได้ง่าย
ในฐานะนักปั้นคนหนึ่งเหมือนกัน ไม่อยากไปร่วมงานศพเพื่อนนักปั้นเพิ่มอีก เราใช้ทางก็ต้องเอื้ออาศัย เกรงใจกัน วิ่งไววิ่งช้าก็ต้องเข้าใจกัน
เคยมีคลิปหนึ่งของเมืองนอกที่สอนการสังเกตุนักขับมอไซท์ให้เด็กเกรียนขับรถที่ชอบมองว่าพวกขับรถ 2 ล้อเป็นพวกเกะกะถนน ว่ามันไม่ใช่อย่างที่เค้าคิดเลย ตอนจบซึ่งมาก น้ำตาไหล
-
ผมขอตอบแบบไม่ มาม่าเลยนะครับ ในฐานะนักปั่นทั้งที่ไทยและต่างประเทศ
คือผมคิดว่า ไม่ใช่ถนนทุกสายไม่ควรปั่น ถนน ดีดี ไม่หลุมบ่อ และรถน้อยวิ่งช้า มีทางกว้าง (คือต้องมีครบทุกข้อนะ)
ผมคิดว่าปั่นได้ และควรปั่นแบบมีสติ คือพยายามหลบ และรบกวนรถยนต์ให้น้อยที่สุด
คือผมไม่คิดหรอกว่าใครผิดใครถูก ใครมีสิทธ แต่ผมคิดว่า ถ้าผมปั่นแล้วรบกวนรถยนต์น้อย โอกาสที่ผมจะโดนชนก็น้อยลง โอเคนะ ?
ประเด็นอีกอันก็คือ ถ้าสมมติเราคิดว่า จักรยานไม่ควรปั่นบนถนน ?? จักรยานควรจะปั่นที่ไหนครับ ?? (ผมไม่ได้กวนนะครับ แค่อยากให้เสนอทางเลือก)
ทั้งการปั่นเพื่อเดินทางและออกกำลังกาย
ในเมื่อเราไม่มีทางเฉพาะสำหรับจักรยานมากมายขนาดนั้น สนามเขียวกำลังจะปิดสามเดือน และทางเท้าก็ถูกเบียดบังไปด้วยคนค้าขาย
สนามอื่นๆก็ไม่ได้ใกล้ๆ เลย
คือปั่นเพื่อเดินทางนี่ผมคิดว่า ถ้าถนนไม่อำนวย เราก็ต้องไปตามทางเท้า ช้าๆ (ก็ไม่ได้จะออกกำลังกายหนิ)
แต่ถ้าปั่นเพื่อออกกำลังกาย เราไม่มีทางเลือกใช่มั๊ยครับ นานนานทีจึงจะมีกิจกรรมปิดถนนปั่น ถ้าเราไม่อนุญาติให้เค้าปั่นบนถนน
ผมคิดว่า เค้าก็จะจัด ปิดถนนปั่น กันบ่อยๆ ทีนี้ใครเดือดร้อนครับ ก็คนขับรถนี่หล่ะ
ใจเขาใจเรานะครับ ทางออกที่มีฝ่ายเดียวได้รับ และอีกฝ่ายเสีย ไม่ยั่งยืนหรอกครับ
-
สมัยนี้นักปั่นบางกลุ่มก็ใช่ย่อยนะครับ
บ้านผมอยู่แถวตลาดน้ำอัมพวาในสวนซึ่งวันหยุดจะมีพวกนักปั่นมาจากทั่วสาระทิศ
อยากจะบอกว่าพี่จะปั่นซ้อน2-3กันทำไมครับ มันอันตรายครับเรียง 1 ได้ไหมถนนก็แคบอยู่แล้ว
ยิ่งกลางคืนจะออกมาปั่นกันทำไมผมขับรถตามบางทีมองไม่เห็นจริงๆทาง ตจว. มืดมาก ทางก็โค้งไปโค้งมา พวกพี่ๆชินทางกันหรือเปล่า
เตือนด้วยความเป็นห่วงครับ
ปล.ขับเรียง1 ก็มีนะครับ แต่เรียง2-4 เยอะมาก
-
จริงแต่ไม่ทั้งหมดครับ
ผม สมัยอยู่เมืองชล (ห่อนเข้ามาเรียนกทม) ใช้จักรยานเป็นหลักครับ ขี่ทั้งออกกำลังกาย ไปเดินห้าง ซื้อของ มากมายครับ ใช้จักรยานอย่างเดียว ขี่ร่วม วันล่ะมากกว่า 40 กม ทุกวันครับ ขี่ทั้งเสือภูเขา ราคาเท่า Vios ไปจนถึงแม่บ้านญี่ปุ่น แม้กระทั้งพวก Vintage เก่าๆ ก็ขี่ครับ
เหมาะสำหรับบ้านเราไหม...เหมาะ ในบางสถานที่ครับ ต่างจังหวัด ขี่ไปห้าง ขี่ไปตลาด ขี่ไปเรียนพิเศษ ขี่ไปเรียน ขี่ไปเล่นดนตรี หรือแม้กระทั้งขี่ไปรับสาว (โคตรญี่ปุ่นเลย) เหมาะครับ.....แต่ สถาการณ์การขี่จักรยานของผม เปลี่ยนไป ตั้งแต่ มาอยู่ใน กทม นี่ล่ะครับ
ทำไมถึงเปลี่ยน?
ขนาดของถนน ไม่เอื้อให้ขี่ครับ....ถามว่าเอื้อไหม....ก็เอื้อก็นะครับ แต่ว่า เอาง่ายๆ ผมเรียนอยู่เทคโนบางมด....ประชาอุทิศนี่......มี 4 เลน ข้างล่ะ 2 มีกระป๋อจอดไปล่ะ 1 ช่อง เหลืออีก 1 ช่อง ถนน หลุมเพียบ ไม่เรียบเลยแม้แต่น้อย.....เวลาขี่ ขี่ช้า คันหลังชนตูดครับ ขี่เร็ว เหนื่อยมากกว่าปกติครับ ออกซิเจนไม่พอ ควันรถ อากาศที่ร้อนมาก.....เอามาขี่ได้เดือนเดียว เลิกครับ
แล้ว......จะขี่ตอนไหนได้ล่ะ...กลางคืนครับ เคยไปออกทริปชมเมืองกลางคืนอยู่ครับ.....ผลคือ....เช้าไม่ตื่นไปเรียนครับ....เลิกครับ....
ฉนั้น ถ้าจะขี่จักรยานในบ้านเราได้ ต้องเป็นรถเสื้อภูเขา ที่สมรรถนะสูง แต่ราคาไม่สูง (หายง่ายมาก) มีเกียร์ชั้นเลิศ อย่างน้อยๆ ก็ SLX ขึ้นไป โช๊คหน้าดีๆ หน่อย คนขี่ ต้องเก่ง พอสมควร ขี่ที่ความเร็ว 35-45 ได้ติดๆ กันเป็นเวลามากกว่า 10 นาทีครับ....ถ้าขี่ไม่ถึง มัวแต่ชิดซ้ายอยู่ ตายครับ...ตายแน่ๆ
โดยคร่าวๆ ก็ประมาณนี้ครับ คือถ้าจักรยาน มีความเร็วพอๆ กะมอเตอร์ไซค์ได้.....ขี่ได้ครับ และไม่มีปัญหาบนท้องถนน