Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: MoO Cnoe ที่ พฤษภาคม 17, 2015, 19:09:51

หัวข้อ: ย้ายแล้ว: BMW ควรปรับปรุงคุณภาพ // กรุณาอ่านกฏของเว็บบอร์ดในการร้องเรียน //
เริ่มหัวข้อโดย: MoO Cnoe ที่ พฤษภาคม 17, 2015, 19:09:51
หัวข้อนี้ได้ถูกย้ายไปบอร์ด ห้องเก็บของ (http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php?board=6).

http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php?topic=44449.0 (http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php?topic=44449.0)

// ข้อกำหนด ของการตั้งกระทู้ ร้องเรียนปัญหา รถมี defect ใน Headlightmag.com //
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,7608.0.html (http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,7608.0.html)

ถึง คุณผู้อ่าน และสมาชิก Headlightmag.com ทุกท่าน
บริษัทรถยนต์ ทุกแห่ง และ บุคคลทั่วไปที่หลงเข้ามาอ่านกระทู้นี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่กำลังมีปัญหากับรถใหม่ของตน และต้องการ
หาใครสักคน เพื่อเป็นคนกลาง มาช่วยเหลือแก้ปัญหา


ในฐานะ สื่อมวลชน ผมพบว่า เป็นเรื่องยากจะปฏิเสธ การช่วยเหลือ แก่ผู้บริโภค ซึ่งกำลังตกที่นั่งทุกข์ขัง
กับรถยนต์ป้ายแดง หรือใช้งานมาระยะใหญ่ๆ แล้วเกิดปัญหาข้อบกพร่องใดๆก็ตาม เกิดขึ้นกับ ชิ้นส่วนใดๆ
ก็ตาม ในตัวรถคันนั้น หรือที่จะขอเรียกแทนในกรณีนี้ไปเลยว่า "รถมี defect"

ตลอดระยะเวลา ที่เข้ามาป้วนเปี้ยนอยู่ แถวๆ วงการ ที่เขาเรียกกันว่า "วงการรถยนต์" นี้ มีหลายต่อหลายครั้ง
ที่ผมจะต้องรับรู้ หรือแม้แต่ช่วยประสานงาน เรื่องราว อันเกี่ยวเนื่องกับปัญหา รถมี defect เล่านี้ อยู่เรื่อยๆ
ซึ่งแน่นอนว่า ผมจะต้องพบเจอกับปัญหา และความน่าปวดกบาล หลายประการ

แต่ด้วยเจตนาที่ผมอยากจะช่วยเหลือ ลูกค้า หรือผู้บริโภค ที่เสียหาย และเดือดร้อนจริง ให้ได้รับความเป็นธรรม
ซึ่ง กลุ่มนี้ เป็นกลุ่มน่าเห็นใจที่สุด เพราะเสียเงินซื้อรถไปตั้งมากมาย ก็สมควรอย่างยิ่งที่จะได้รับการ
ดูแลเอาใจใส่ ด้วยบริการที่ดี อย่างเข้าอกเข้าใจกัน และกลุ่มนี้ ร้อยละ 95 เปอร์เซนต์ ที่เจอมา คือกลุ่มที่
"คุยรู้เรื่อง เข้าใจอะไรต่ออะไรต่างๆ อย่างดี และ ยอมถอยคนละก้าวในบางครั้ง"

ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตรถยนต์ ซึ่ง เขาไม่ได้ผิดหรือบกพร่องต่อหน้าที่ แถมยังพยายามช่วยเหลือลูกค้าอย่างดีที่สุด
เท่าที่เขาจะทำได้ กลุ่มนี้ ก็เป็นอีกกลุ่ม ที่น่าเห็นใจ เพราะทำงานปิดทองหลังพระกันมาโดยตลอด "กลุ่มนี้ ก็เป็น
อีกกลุ่มหนึ่งที่ผม จะสบายใจมาก เวลาที่ต้องช่วยประสานงาน กรณีรถมี defect ให้ เป็นอย่างยิ่ง"

อย่างไรก็ตาม เราต้องยอมรับความจริงกันข้อหนึ่งว่า นอกเหนือจากกรณีที่ ผู้ผลิตรถยนต์ ในบางครั้ง จะเล่นตั้งแง่
บ่ายเบี่ยง พยายามปฏิเสธความรับผิดชอบ ไปจนถึงการดำเนินการต่างๆ อันไม่สมควรแก่เหตุแล้ว

ในทางตรงกันข้ามก็ยังมีลูกค้า บางกลุ่ม ซึ่ง เมื่อเจอปัญหา ก็พยายามจะตั้งข้อเรียกร้องต่างๆ ตามที่ตนเองต้องการ
โดยไม่สนใจฟัง อะไรทั้งสิ้นเลย เอะอะอะไร ก็ะต้องเข้าหาสื่อมวลชน ให้ช่วยป่าวประกาศ ด้วยความคิดที่ว่า
"บริษัทรถยนต์ มันเลว มันชั่ว มันเอาเปรียบประชาชนตาดำๆ อย่างฉัน" ทั้งที่ความจริงแล้ว เมื่อมาสืบสาวราวเรื่องกัน
โดยละเอียด ลูกค้าหรือผู้บริโภค รายนั้นเองนั่นแหละ เป็นฝ่ายผิด แถมพอรู้ตัวว่าผิด ก็ยังไม่ยอมรับผิด จะพยายาม
เรียกร้องโน่น นี่ นั่น จนกว่าตัวเองจะพอใจ ไม่เช่นนั้น ก็จะขู่ ส่งเรื่องไปยัง สคบ หรือ ศาลคุ้มครองผู้บริโภค บ้างละ
ไม่จบไม่สิ้นกันสักที บางราย หนักกว่านั้น เห็นคนอื่น เขาทุบรถกันเปรี้่ยงๆ อ่ะ สำเร็จ "งั้น กรูเอามั่ง" ก็เลยเกิดแฟชัน
ทุบรถประจานกันอยู่พักใหญ่ ก่อนจะค่อยๆเงียบหายไป ในช่วงปี 2005-2007

นานวันเข้า พอเจอเรื่องพวกนี้มากๆ เข้า ผมชักเริ่มรู้สึกว่า ผมคงต้อง กำหนดมาตรฐานอะไรขึ้นมาสักอย่างหนึ่ง
เพื่อที่ว่า เราจะได้คัดกรอง กลุ่มลูกค้า ที่มีปัญหา และต้องการความช่วยเหลือ เดือดร้อนกันจริงๆ และ จะได้
ป้องกัน กลุ่มผู้ไม่ยอมเข้าใจโลก ไม่ยอมเข้าใจคนอื่นเลย และสนใจแต่ว่า "กรูต้องได้ ในสิ่งที่กรูต้องการเท่านั้น"
ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ ผมรู้สึกว่า ปวดกบาลชิบหายเลย เวลาต้องดีลด้วยเนี่ย

ดังนั้น ผม ในฐานะ เจ้าของเว็บไซต์ Headlightmag.com และเว็บบอร์ด แห่งนี้ จึงขอออก "ข้อกำหนดร่วมกัน"
ที่จะใช้เป็นหลัก ในการปฏิบัติ ของคุณๆ ในกรณี รถที่ซื้อมา เกิดปัญหา

โดยจะแบ่งออกเป็น
"ข้อแนะนำ เบื้องต้น ว่าควรทำอย่างไรบ้าง ในแต่ละขั้นตอน โดยคร่าวๆ"
"ข้อกำหนด ของกลุ่มผู้ได้รับความเดือดร้อน ที่ผม ยินดีจะช่วยเหลือ"
"ข้อกำหนด ที่คุณ ไม่ควรปฏิบัติ เวลารถมี defect หรือว่า ต้องการให้ผมช่วยเหลือ"

----------------------------------------------------------------------------------------------------

เราจะเริ่มจาก....

"ข้อแนะนำเบื้องต้น ในกรณีที่พบว่า รถยนต์ ที่คุณซื้อมาขับ มีอาการผิดปกติ ในระยะ ไม่เกิน 10,000 กิโลเมตรแรก"

1. นำรถเข้าศูนย์บริการ จะเป็นโชว์รูมที่คุณซื้อรถมา หรือว่า โชว์รูมแห่งอื่นที่คุณคิดว่า ไว้ใจได้ ก็ได้ทั้งสิ้น
ให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอาการ ควรให้ทางศูน์บริการ เปิด job ออกเอกสารรับรถ โดยปกติแล้ว ถ้าเป็น
เพียงแค่ "การตรวจสอบวินิจฉัยอาการ" ลูกค้าไม่ควรจะเสียค่าใช้จ่ายอะไร มากเกินไปกว่าค่าแรง และยิ่งถ้า
ค้นพบปัญหา ก็ต้องมีการเคลมชิ้นส่วนอะไหล่ ในกรณีนี้ ให้เป็นไปตาม ข้อกำหนดการรับประกันของรถยนต์
ในแต่ละบริษัท ยี่ห้อผู้ผลิต ซึ่งจะแตกต่างกันไป กรุณา เปิดอ่านศึกษาในคู่มือผู้ใช้รถ และสมุดรับประกันรถ
ที่ติดมาด้วย เพราะในนั้น จะบอกรายละเอียดเอาไว้หมดแล้ว ว่าการรับประกันจะครอบคลุมถึง และไม่รวมถึง
ชิ้นส่วนใด การขับขี่รถแบบใดบ้าง ฯลฯ

2. ถ้าในกรณีที่ แก้ปัญหาแล้วไม่เรียบร้อย หรือว่า แก้ไขเรียบร้อยดีตอนรับรถ แต่ยังเกิดอาการอีก ให้นำรถกลับไป
ให้ช่าง รายเดิม ที่คุณดูแล เขาดูอาการกันอีกรอบ แก้จนกว่าจะเรียบร้อย

3. ถ้าเริ่มแก้ไขไม่ได้จริง หนักข้อจริงๆ และ/หรือ เจอช่างปากหมา พูดจากวนส้นตีน กรุณา อย่าถอดรองเท้า
ไปตบหน้าช่าง แต่ควร ร้องเรียนกับผู้จัการศูนย์บริการ และถ้ายังไม่ได้เรื่องกันอีก คราวนี้ ขับรถออกจากศูนย์บริการ
โทรไป ร้องเรียน "โดยตรง" ที่ศูนย์ Call Center ของแต่ละค่าย ซึ่งตั้งชื่อกันสนุกสนานมากมาย

การโทรหาศูนย์ Call Center นั้น ข้อพึงปฏิบัติ ก็คือ "คุณควรจะจดจำชื่อ หรือถามชื่อ พนักงานที่คุณคุยด้วย
และจดเวลาที่โทรไป อ้อ! กรณา แจ้งชื่อ แซ่ นามสกุล และข้อมูลรถคันที่เกิดปัญหา ทั้งชื่อ รุ่นรถ สีตัวถัง
เลขทะเบียนรถ ไปจนถึง เลขตัวถัง ให้ครบถ้วน  

ที่ต้องทำแบบนี้ ก็เพื่อการอ้างอิงสอบเช็คข้อมูลกันในภายหลัง หากมีเหตุให้ต้องตรวจสอบกันตามมาจริงๆ
ข้อมูลที่คุณจดบันทึกไว้ จะช่วยเป็นประโยชน์กับคุณได้ ในกรณีที่ พนักงาน ไม่เดินเรื่อง หรือบริษัทรถ
แจ้งคุณว่า ไม่เคยทราบเรื่อง

จากนั้น ตามหลักการแล้ว บริษัทรถยนต์ จะต้องมีเจ้าหน้าที่ ติดต่อประสานงาน เพื่อแก้ปัญหากับคุณ ตามลำดับ
และขนาดของเหตุการณ์ ต่อไป

โดยปกติแล้ว เพียงแค่ 3 ข้อนี้ ทุกอย่าง ก็จะต้องจบลงได้แล้ว โดยที่คุณไม่ต้องติดต่อหาผม ให้ช่วยเหลืออะไรเลยครับ

แต่...ถ้าในกรณีที่มันไม่จบละ?.....อ่านต่อ ข้างล่าง

----------------------------------------------------------------------------------------------------

ถ้าในกรณีไม่จบเคส ขอแนะนำดังนี้

ถ้าคุณเจอมาหลายเรื่องราว หนักหนาสาหัสเหลือเกิน ในระหว่างการดำเนินเรื่อง ไปตามช่องทางอันถูกต้อง
ตามหลักการมองของบริษัทรถแล้ว ปัญหายังไม่จบ หรือยังแก้ไขไม่หาย เสียที เรียกได้ว่า ต้องเป็นเคสที่
เจอมานักต่อนักแล้ว สาหัสจริงๆ นับไม่ถ้วน ติดต่อกันกับทางสำนักงานใหญ่ ของบริษัทรถ หลายครั้งแล้ัว
แต่ยังไม่มีอะไรดีขึ้น

โอเค กรณีนี้ คุณถึงควรจะติดต่อผม

แต่...."ข้อแนะนำ สำหรับผู้ได้รับความเดือดร้อน / กลุ่มผู้เดือดร้อน ที่ผม ยินดีจะช่วยเหลือ"

1 กรุณา ใจเย็น และปรับทัศนคติ เสียก่อน จะเริ่มต้นเจรจา ครับ

จากที่ดีลมาทั้งหมด ผมเชื่อ อยู่ข้อหนึ่ง คือ บริษัทรถยนต์ แม้จะดูเหมือนว่า คิดเอาเปรียบลูกค้า ในเรื่องเล็กๆน้อยๆ
อยู่ตลอดเวลา แต่ ยังไงๆ พวกเขา พนักงาน ในระดับปฏิบัติการณ์ ก็อยากเห็น ลูกค้า หรือผู้บริโภคอย่างคุณ มีความสุข
กับรถที่ซื้อไปใช้ ทั้งนั้น ละ เพราะนั่นก็จะเป็นความสุขของเขาเช่นกัน ที่จะเข้านอนตอนกลางคืน ได้โดยไม่ฝันร้าย
ว่ามีเสียงลูกค้าอย่างคุณ คอยไปยืนชี้หน้าด่าเขา ปาวๆๆ ไม่มีใครเป็นสุขได้ ด้วยเหตุแบบนี้หรอกครับ!

แต่ เมื่อทุกบริษัทรถยนต์ จะมีขั้นตอน ในการรองรับ และแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าอยู่แล้ว ดังนั้น ขอให้พวกเขา
ได้ทำหน้าที่ ตามข้อกำหนดในการทำงานทุกอย่าง จนเรียบร้อย เสียก่อน ถ้าปัญหามันหาย ก็ยินดีด้วยครับ
แต่ถ้าไม่หาย ก็ค่อยมาว่ากัน

อย่าคิดที่จะ กดดันคนอื่น เพื่อให้ตนเองได้มาในสิ่งที่ตนต้องการ โดยไม่สนใจเลยว่า คนอื่น เขาจะโดนอะไร
เจออะไรบ้าง ดีลเคสแบบนี้ คนของบริษัทรถ ก็ควรเข้าใจหัวอกลูกค้าด้วย แต่ขณะเดียวกัน ลูกค้าเอง ก็ต้องเข้าใจ
หัวอก ของคนทำงานในบริษัทรถด้วย ว่าเป็นองค์กรขนาดใหญ่ บางทีจะแก้ปัญหา เปลี่ยนสินค้าให้ในทันที เหมือน
ร้านสะดวกซื้อหรืออาแป๊ะ ร้านโชว์ห่วย ก็ทำไม่ได้ง่ายนักหรอกครับ มันต้องมีขั้นตอนการดำเนินงานอยู่ และการ
ทำตามขั้นตอนก็เป็นเรื่องดี เพราะเมื่อกรณีที่ปัญหามันไม่จบ เราทุกฝ่าย สามารถอ้างกันได้หมดว่า เราต่างได้ทำงาน
ตามขั้นตอนที่บริษัทแม่แก้ไขมาแล้ว แต่มันไม่จบ ทีนี้แหละ เรา ทั้ง สองฝ่าย ต่างจะได้อ้างสิทธิ์กันได้เต็มที่

เท่านั้นเองแหละ!

2 อย่าเพิ่งเข้ามาตั้งกระทู้ บ่นๆๆๆๆๆๆ ในเว็บบอร์ดของเรา หรือที่ไหนก็ตาม
เพราะความจริงคือ บริษัทรถยนต์
ไม่มีใครอยากเสียชื่อเสียง ดังนั้น Tips ของเรื่องแบบนี้ก็คือ ถ้าคุณอยากให้เคสของคุณ ได้รับการแก้ไขด้วยดี
อย่า เอามาโพสต์ประจานบนที่สาธารณะ แม้ว่ามันจะช่วยให้การแก้ปัญหาเร็วขึ้น แต่ก็แค่ ลูบหน้าปะจมูก
เพราะสุดท้าย ทุกขั้นตอนหลังจากนั้น มันก็ต้องแก้ไขกันไปตาม กระบวนการ ที่บริษัทรถยนต์เขากำหนด
เอาไว้อยู่ดี และ สรุปว่า มันไม่ได้ช่วยให้เรื่องของคุณ แก้ไขเร็วขึ้นมากนัก เมื่อเทียบกับ การเจรจา ตามปกติ
เท่าใดเลย


----------------------------------------------------------------------------------------------------

3. อย่าเพิ่งตั้งธง เลยว่า จะขอเปลี่ยนรถคันใหม่ ในทันทีที่เปิดการเจรจา
ไม่มีใคเขาให้คุณเปลี่ยนรถได้ง่ายๆหรอกครับ ขนาดตอนนั้น Chevrolet จัดแคมเปญ ยืนดีเปลี่ยนรถคันใหม่ให้
หรือซื้อคืน ยังไงก็ตาม ก็ยังมีข้อกำหนด ในเครื่องหมายดอกจันทร์เล็กๆ ยาวเฟื้อยเลยทีเดียว ซึ่งเอาง่ายๆก็คือ
แทบจะยาก ที่คุณจะเปลี่ยนรถให้คุณใหม่ กันนั่นแหละ ต่อให้คุณจะมีชื่อเสียง โด่งดังขนาดไหน ต่อให้
เป็นดารา หรือว่า คนดังระดับประเทศ บริษัทรถ คงจะไม่เปลี่ยนให้คุณง่ายๆหรอกครับ ถ้าไม่ใช่ว่าปัญหา
มันแก้ไม่จบจริงๆ ในหลายต่อหลายครั้ง กันจริงๆ ถ้าเป็นเช่นนั้น เรื่องการซื้อคืนรถคันเจ้าปัญหา
จึงจะถูกนำกลับมาพิจารณากันอย่างจริงจังอีกครั้ง บนโต๊ะเจรจา ครับ

----------------------------------------------------------------------------------------------------

4. อย่าคิดจะหวังใช้งานสื่อมวลชน เพื่อช่วยกระจายข่าว เคสของคุณ ให้มันรุนแรงขึ้น ดังในระดับสังคม
ว่าง่ายๆก็คือ ถ้าคุณคิดจะให้ผมช่วยโหมกระแส เพื่อให้เป็นไปตามความสะใจของคุณ ผมจะไม่ขอยุ่งด้วย
และ ผมจะไม่ร่วมมือกับความคิดชั่วร้ายของคุณแบบนั้นเด็ดขาด

ไม่ใช่เพราะกลัวเสียโฆษณา อย่างที่เคยบอกไปหลายครั้งแล้วว่า ผมไม่กลัวว่าผมจะถูกถอดโฆษณา
แต่ ผมมองว่า การเอาปัญหาตัวคุณเอง ไปป่าวประกาศ ในที่แบบนั้น มันอาจสร้างความเสียหาย
ทางชื่อเสียงให้บริษัทรถยนต์ ได้ก็จริง และอาจจะก่อความสะใจให้คุณได้ก็จริง

แต่ หลังจากนั้น เมื่อถึงเวลาต้องกลับมาอยู่บนโต๊ะเจรจาอีกครั้ง (ซึ่งมันจะต้องตามมาแน่นอน)
ทีนี้ คุณจะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบในทุกกรณีเลยทีเดียว!! ดังนั้น ไม่ควรทำอย่างเด็ดขาด
และผม ก็เกลียด ที่จะต้องเห็นผู้บริโภค มาซวย หรือตกม้าตาย ด้วยเรื่องที่ตัวเองก่อขึ้นแบบนั้น
ให้เป็นที่ขายขี้หน้าในบริษัทรถยนต์ กับหมู่มวลประชาชีในสังคม เปล่าๆ ปลี้ๆ โดยไม่มีอะไร
ที่ดีขึ้นมาเลย

----------------------------------------------------------------------------------------------------

(ต่อ)

"ข้อกำหนด ของการตั้งกระทู้ เพื่อแสดงความคิดเห็น เรื่อง คุณภาพการประกอบรถ ไปจนถึง การบริการ ของศูนย์บริการใดๆก็ตาม"

ถ้า คิดว่าทนไม่ไหว และอยากโพสต์กระทู้ บ่นๆๆๆๆ ผมขอความร่วมมืออย่างจริงจังว่า

1. กรุณา เข้ามาตั้งกระทู้ เมื่อนำรถเข้ารับบริการแล้ว รู้สึกว่า มันแก้ไม่จบ หรือมีปัญหาอะไรมากมายเกินรับไหว เท่านั้น
ไม่รับฟัง เรื่องบ่นลอยๆ ขี้หมูราขี้หมาแห้ง ครับ

"เนื่องจาก เราไม่มีนโยบาย ลบกระทู้ของคุณผู้อ่านทิ้ง ถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย เป็นภัยอย่างร้ายแรง จริงๆ
หรือกระทู้ขยะ หรือ กระทู้ที่ไม่มีมูลเหตุความจริง ที่มาให้น่าเชื่อถือ (แบบนี้ ลบหมด) อย่างมากสุดคือ
เอาไปพักเก็บเอาไว้ ในห้องเก็บของ นั่นหมายความว่า กระทู้ ร้องเรียนใดๆก็ตาม เราจะไม่ลบทั้งสิ้น ข้อนี้
ขอให้บริษัทรถยนต์ และ ศูนย์บริการ ที่อาจจะต้องก่อปัญหาในอนาคตรับทราบไว้ด้วยนะครับ

เหตุที่เราไม่ลบให้ ก็เพราะ เราได้พบว่า กระทู้ในลักษณะนี้ จะมีคนกลุ่มหนึ่ง คอยติดตามความเคลื่อนไหวอยู่
เป็นกลุ่มผู้ซึ่งอยู่ในข่าย เสี่ยงว่าอาจจะได้รับความเสียหาย แบบเดียวกับผู้ตั้งกระทู้ ดังนั้น พวกเขาอยากเห็น
การแก้ปัญหา ใดๆ ที่ทำให้พวกเขาสบายใจ แต่ก็รู้ดีแหละ ว่าบริษัทรถยนต์ กลัวจะเสียชื่อเสียงกัน

ดังนั้น ทางแก้ที่ดีที่สุดคือ ปล่อยกระทู้เอาไว้ แต้่ ต้องขอความกรุณา กับ ผู้เสียหาย ที่จะตั้งกระทู้ด้วยว่า
กรุณาคิดให้ดีๆ ถ้าจะตั้งกระทู้แบบนี้ กับ webboard headlightmag.com เพราะ เราจะไม่ลบแล้ว
เราจะเกาะจิกเคสนั้นๆให้อีก นั่นหมายความว่า ถ้าคุณเป็นใครที่ไหน มาโพสต์ลอยๆ โจมตี
ให้เสียชื่อเสียงกันเล่นๆ แบบนั้น "โดยไม่มีหลักฐาน ที่สามารถเช็คสอบทาน การเข้ารับบริการ
ของคุณ กับบริษัทรถยนต์ หรือศูนย์บริการนั้นๆ ได้จริงละก็

นอกจาก จะลบกระทู้ทิ้งแล้ว ผมจะ "แบนไม่ให้คุณ เข้ามาตอบกระทู้อะไรในบอร์ดของเราอีกตลอดไป"
เพราะผมถือว่าคุณเป็นเด็กเลี้ยงแกะ ที่อยากจะลองดีกับผม ก็แค่นั้นเอง

ดังนั้น ถ้าจะเข้ามาตั้งกระทู้ขอความช่วยเหลือ เรื่องรถมี defect กรุณา แจ้งชื่อ นามสกุลจริง รถยี่ห้อ
รุ่น สี ระบุเลขทะเบียน หรือ เลขตัวถัง มาให้ผม ทาง PM หลังไมค์ ก่อนตั้งกระทู้ เพื่อที่จะได้เก็บเอาไว้เป็นข้อมูล
ก่อนที่ผมจะอนุญาตให้โพสต์ขึ้นเว็บ เพราะถ้าไม่มีการส่ง PM มาหาผม ผมจะไม่อนุญาตให้ตั้งกระทู้ และจะ
ให้ลบทิ้ง สถานเดียว เพราะถือว่า คุณเข้าข่าย มาบ่นๆ ลอยๆ แล้วก็จากไป ทิ้งขี้ทิ้งเยี่ยวให้คนอื่นเขาเช็ด
แบบนั้น ไม่ถูกต้องครับ


และเมื่อตั้งกระทู้เสร็จแล้ว ขอความกรุณา ทะยอย อัพเดทความคืบหน้า ให้เป็นระยะๆ ว่าตอนนี้
มีใครติดต่อมาบ้าง ดำเนินการไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว เอารถไปทำที่ศูนย์ฯ ไหนอย่างไรบ้าง

และถ้า ปัญหาของคุณ ได้รับการแก้ไขแล้ว กรุณา เข้ามาตอบ ด้วยว่า "ปัญหานี้ จบลงเรียบร้อยแล้ว"
จบอย่างไร ก็ว่าไป ส่วนจะขอบคุณใคร อย่างไรหรือไม่ แล้วแต่คุณครับ เพียงแต่ ตามมารยาท
ขอบคุณเขาสักหน่อย ก็ดีนะ เขาจะยินดีช่วยเหลือคุณ ในวันข้างหน้าอีก

ไม่ใช่ว่า มาโพสต์ปัญหาไว้ ตูมๆๆๆ แต่พอเคลียร์ปัญหาเรียบร้อย เจ้าของเรื่อง กลับหายหัว หายตัวไปเลย
แบบนี้ ผมด่า นะครับ  บอกไว้ก่อน

------------------------------------

2. เช่นเดียวกัน ถ้าปัญหาดังกล่าว อยู่ในเว็บบอร์ด คลับรถยนต์ อื่นๆ อยู่แล้ว กรุณา อย่ามาทำลิงค์
โยงให้ผมเข้าไปช่วยดูแลให้นะครับ มันไม่ใช่เรื่องเลยจริงๆ ประเภทว่า "คุณจิมมี่ครับ มีเคสเกิดขึ้น
ที่บอร์ดนี้ คุณจิมมี่ช่วยเข้าไปดู แล้วส่งต่อให้บริษัทรถหน่อยสิครับ" ไอ้แบบนี้ละก็ ผมด่าแน่ๆ
เพราะว่า ปัญหาตรงนั้น คุณควรจะติดต่อประสานงานตรงกับบริษัทรถยนต์ เองได้เลย ตั้งแต่แรก
จะมาให้ผมช่วยคุย เพื่อกดดัน ให้เขาทำในสิ่งที่คุณต้องการกันเลย มันก็ไม่ถูกต้องนะ นี่ว่ากันตรงๆ

แต่กรณีนี้ ผมถือให้ มีข้อยกเว้นเสียแต่ว่า ปัญหานั้น จะเป็นปัญหาใหญ่โตจริงๆ และเกิดขึ้นกับ
รถยนต์รุ่นนั้น หลายๆคัน มากๆ ซึ่ง กรณีนี้ ทางคลับรถยนต์ รุ่นนั้นๆ จะมีมติ ร่วมกัน ที่จะติดต่อมาทางผม
โดยคที่จะต้องติดต่อกับผม "ต้องเป็นประธานของคลับ ชุมนุม ชมรม ผู้ใช้รถยนต์ รุ่นนั้นๆ เพียงคนเดียวเท่านั้น"!
ผมถึงจะยินดี รับดูเคสให้

------------------------------------

3. ถ้าคุณติดต่อ กับสื่อมวลชน รายอื่นๆ อยู่ก่อนแล้ว เพื่อหวังให้ช่วยกระจายเคสของคุณอยู่แล้วละก็
ไม่ต้องติดต่อมาทางผมนะครับ ผมไม่รับดูแลกรณีของคุณให้อย่างแน่นอน! เพราะในเมื่อ คุณเลือกแล้วว่า
จะให้คนอื่นจัดการ ก็ไม่ต้องมา เหวี่ยงแห กระจายเรื่องของคุณ ไปตามสื่ออื่นๆ ผมจะไม่เข้าไปเสือก ไม่ยุ่งด้วย
เพราะไม่เช่นนั้น มันจะยิ่งทำให้ ทุกอย่าง เละเทะหนักหนากว่าเดิมที่ควรจะเป็น และอย่าหวังว่า การเจรจาของคุณ
จะจบลงง่ายดายเลย

"ข้อกำหนด ของผู้บริโภค หรือกลุ่มผู้บริโภค ที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งผม ยินดีจะช่วยเหลือ"

1. เป็นผู้เดือดร้อนจริง เราไม่รับตัวแทน หรือนายหน้า ใดๆ ยกเว้น ประธาน ของคลับรถยนต์รุ่นที่มีปัญหานั้นๆ
ซึ่งจะต้องได้รับฉันทามติ จากสมาชิกในคลับรถยนต์นั้นๆ แล้วเท่านั้น ว่าให้เป็นคนมาประสานกับผมโดยตรง คนเดียว
2. เป็นคนที่ มีทัศนคติ ที่ดี จิตใจดี ใจเขาใจเรา (ข้อนี้สำคัญมากที่สุด) มองการแก้ปัญหา ที่ความสบายใจ และความพึงพอใจ
ของทุกฝ่าย เป็นการพบกันแบบ win win ทั้ง 2 ฝ่าย ได้จะเป็นการดี
3. เป็นคนใจเย็น ไม่ใช่คนขี้โมโห เจ้าอารมณ์ เอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่ <------- แบบนี้ ไม่ขอดีลด้วยนะครับ บอกกันก่อนเลย
4. ปัญหาดังกล่าว ต้องเคยมีการพูดคุยมาแล้ว กับทางสำนักงานใหญ่ ของบริษัทรถยนต์แห่งนั้นๆ มาก่อน แต่ ไม่จบ
จะด้วยเหตุใดก็ตามแต่
5. ปัญหาดังกล่าว ต้องไม่เคยถูกนำเสนอผ่านสื่อมวลชนรายใดมาก่อน ทั้งสิ้น
6. ต้องไม่เคย เอารถไปประท้วง ในที่สาธารณะใดๆมาก่อน จะติดต่อเข้ามาที่ผม
7. ต้องไม่เคยมีคดีความกันอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาล อยู่ก่อนหน้าแล้ว

----------------------------------------------------------------------------

ที่จะต้องมีข้อกำหนดเยอะแยะมากมายเหล่านี้ เพราะผมรู้ตัวเองดีว่า ถ้าผมจะต้องดีลเคสไหนละก็
ผมจิกเคสนั้นๆ ไม่ปล่อย จนกว่า ลูกค้าจะแฮปปี้ เคสจะจบลง และมีหนทางแก้ปัญหากันเรียบร้อย
ดังนั้น แต่ละเคสที่เกิดขึ้นนั้น ควรเป็น เคสที่ ลูกค้าได้รับความเดือดร้อนจริงๆ เพื่อเป็นการสกรีน
ลูกค้าประเภท หวังเรียกร้องจนเกินความเป็นจริง เช่นว่า จะให้ซื้อรถกระบะตัวเองคืน แลกเปลี่ยนกับ
SUV คันละ 3 ล้านบาท ซึ่งก็มีมาแล้ว เป็นต้น

เพราะทั้งหมดนี้ ผมอยากจะเห็น กรณีพิพาท ต่างๆ จบสิ้นลง ด้วยดี และด้วยความยินดีของผู้บริโภคเอง เป็นที่ตั้ง ครับ

ขอรบกวนให้เป็นไปตามนี้ก่อนนะครับ อาจมีการปรับปรุง ข้อกำหนดเหล่านี้ในโอกาสต่อๆไปได้
โดยอาจจะแจ้ง หรือไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า แล้วแต่สถานการณ์ ครับ

ขอบคุณที่ทนอ่านจนจบ

----------------------------------------------------------------------------