Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: kemjc ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2010, 16:38:10
-
เห็นลงโฆษณาในหนังสือรถ หลายฉบับ ว่า Glass Coat ทำออกมาแล้วดูดีเหมือนเคลือบกระจก แล้วรถที่มา present ก็ออกแนวไฮโซๆ
เลยสงสัยครับว่า มันดียังไง ดีกว่าน้ำยาเคลือบแบบทั่วๆไปที่ใช้อยู่ พวกคานูบาร์แว๊กซ์ ยังไง (พอดีรู้อยู่แบบเดียว) แล้วรถเก่าใช้ได้มั๊ยครับ
อายุการใช้งานทนทานมั๊ย แล้วรถญี่ปุ่นราคาไม่กี่แสนนี่สมควรไปทำมั๊ยครับ
-
ลองเลยครับ ผมลองแล้ว
ลองแล้วจะรู้เลยว่าดีจริงๆ เฉพาะ รถสีขาวว
-
เคยศึกษาดูนะครับ บอกได้เลยว่ายังไม่เชื่อว่าจะดีกว่าไปพ่นเคลือบใส่แบบที่สี metallic ใช้ผสม
เอามาจากโฆษณาในเว็บแห่งหนึ่ง
บอกว่าใช้ Crystal Silica (SiO2) สร้างความหนาได้ถึง 4-6ไมครอน
SiO2 ที่ใช้ มันมีส่วนผสมอย่างมากก็ 5% ใส่ขวด 50ml-100ml ก็จะมีปริมาตรราว ๆอย่างมาก 5ml พ่นหมดขวดเลย
หากจะสร้างชั้นฟิล์มCrystal Silica ขนาด 6 ไมโครเมตร บนรถหนึ่งคัน ต้องใช้อย่างน้อย ๆ 0.000006* 10ตารางเมตร(พื้นที่ผิวคร่าวๆ รถเล็ก ๆ) = 0.00006cubic m หรือว่า 60ml
สรุปว่า การพ่นสารเคมี 100ml ที่มีส่วนผสมของ SiO2 5% จะมีชั้น SiO2 เพียงแค่ 5/60 และที่เหลือคืออะไร ? อะไรเกาะบนผิวรถทำให้หนาได้มากถึง 6 ไมครอน ?
แล้วยิ่งพอรู้ราคา.... ผมก็เลยไม่ทำ
หากผมคำนวณผิดก็แย้งกันได้ อ่านมาและวิเคราะห์เองคร่าว ๆ ทางร้านอาจจะมีเทคนิกดี ๆ ที่ใช้ในการทำจรวดแล้วไม่ได้เปิดเผยก็ได้ครับ เพียงแต่ ผม ไม่รู้ เท่านั้นเอง
-
ไม่ค่อยเชื่อครับ แพงด้วย ดูแลขัดเคลือบปกติก็น่าจะเพียงพอแล้ว
-
รถผมตอนนี้ใช้แวกซ์โพลิเมอร์ของแมกไกวอยู่ ข้อดีคือมันทำให้สีฉ่ำและเงามาก แต่ตอนนี้หลังผ่านมา 6 เดือน มันเป็นรอยขนแมวเริ่มเยอะแล้วครับ เมื่อไหร่ที่ไปขัดลบรอยแล้ว
คงจะไปเคลือบคริสตัลครับ มันดูแลง่ายกว่าทนทานต่อรอยขนแมวมากกว่า ไปเห็นของจริงก็จะรู้ครับ เรื่องความเงาสู้พวกโพลิเมอร์แวกซ์ไม่ได้ครับสีไม่ได้ฉ่ำเท่าครับ แต่ความทนทานป้องกันรอยขนแมวนี่ดีกว่ามากครับ
มันไม่ใช่โฆษณาชวนเชื่ออะไรขนาดนั้นครับ ความแตกต่างก็เห็นๆกันอยู่ครับ ไปลองดูคันจริงดีกว่าครับตามร้านที่เค้ารับทำนั่นแหละ ถ้าถูกใจก็ทำไปครับไม่ถูกใจก็บาย
สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจง่ายคือ ราคาครับ หลักพันนิดๆ กับหลักสองหมื่นขึ้น ถ้าคุณรักความเงาชอบสีสดๆ ขัดลบรอยขนแมวได้เรื่อยๆ แค่แวกซ์โพลิเมอร์ก็พอครับ
ถ้าคุณต้องการความทนทานต่อรอยขนแมว ล้างง่ายแค่น้ำเปล่าก็พอแล้ว งบถึง ไปคริสตัลครับ
ปล. คริสตัลที่ผมพูดถึงคือ CTS นะครับ ไอ้ที่รับทำกันตามบางที่ สามสี่พันนี่ไม่ทราบ เคยดูมาบ้างแต่ไม่ไหวครับน้ำยาดีแต่งานไม่เนี้ยบครับ ลองตัดสินใจดูครับ ;D ;D ;D
-
่เคลือบแล้วถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ระวังสีที่ทำมาใหม่จะเพี้ยนนะครับ ต่อให้ไปเคลือบใหม่ก็เพี้ยนได้เนื่องจากระยะเวลาของคริสตัลที่เคลือบอยู่มันต่างกันครับ อยากให้เท่ากันต้องเคลือบใหม่ทั้งคัน คิดๆดูแล้วไม่ค่อยคุ้มครับ
-
คิดไกลไปครับ ซื้อรถมาเผื่อชนแล้วทำสีใหม่เลยหรือครับ งั้นไม่ต้องขับละครับ เดี๋ยวชน
-
มันพูดลำบาก เรื่องความคุ้มค่าของแต่ละคน :P
ถ้าสำหรับ Glass coat นี่ IMHO ผมว่ามันเหมาะกับพวก Super car / รถแพงๆๆๆ เก็บโชว์
มากกว่ารถบ้าน ใช้งานทุกๆ วัน ปกติ อะครับ
-
ถามต่อนะครับว่า
หากผมมีงบถึงสองหมื่นพอที่จะไปทำ Glass Coat นี่
แล้วผมขอไปพ่นแล็คเกอร์จากอู่ทำสีเพิ่มอีกชั้นหนึ่งซึ่งราคาน่าจะพอๆกันหรือถูกกว่า
มันจะดีกว่ามั๊ยครับ
-
ก่อนที่จะทำก็ศึกษาอยู่พักนึงเหมือนกัน... ดูๆไปแล้วก้อไม่อยากเชื่อว่าที่พ่นเคลือบมามันจะอยู่นานได้อย่างไร ดูมาหลายที่แต่ก็ไม่อยากเชื่อเพราะแต่ล่ะที่ก็ต้องพูดว่าของตนดีทั้งนั้น.. แต่พอได้ดูรถเพื่อนที่ทำมาเลยเห็นว่าดีจิงๆ สองคัน harrier เหมือนกันสีขาวเหมือนกัน ปีเท่าๆ กัน คันนึงเคลือบคันนึงไม่เคลือบแค่ดูแลสีเคลือบแบบธรรมดาเป็นครั้งเป็นคราว เวลาล้างออกมาเทียบกันสองคันจะเห็นว่าต่างกันคันที่ทำเคลือบแก้วจะดูใสเหมือนตอนใหม่ๆ ขนแมวก็ไม่ค่อยมี ทั้งที่ก็เคลือบแก้วตอนออกรถมาใหม่ๆ แล้วก็เข้าไปทาโลชั่นตามโปรแกมเท่านั้น แต่อีกคันจะเห็นได้ว่าสีไม่ใสเท่า และมีขนแมวให้เห็น...
เลยทำให้ตัดสินใจได้... ของผมเองทำมาได้ 4-5 เดือนแล้ว รถสีขาว.. เมื่อก่อนตอนที่ยังไม่ทำเวลาล้างรถจะเห็นว่าตามข้างรถจะมีจุดยางมะตอยดำๆ ล้างออกยากต้องเอา น้ำยาขัดสีมาเช็ดออก.. แต่หลังเคลือบมาล้างรถง่ายขึ้นคลาบและรอยต่างๆ หลุดออกง่ายมาก ล้างด้วยแชมพูที่แถมมาให้ใส่เพียงนิดเดียว ก็ออกมาเงาเหมือนเคลือบมาใหม่ๆ
ไม่ได้มาโฆษณาหรือ มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรทั้งสิ้นแต่แค่อยากจะแชร์ประสบการณ์... ซิ่งตัวผมเองก็ยังรอดูไปอีกนานๆว่าถ้าผ่านไปซักสองปีแล้วจะเป็นอย่างไร
ป.ล. ของผมทำที่ CTS... ถ้าเกิดมีการต้องทำสีใหม่ขึ้นมา ทาง CTS จะพ่นเคลือบให้ใหม่ฟรีชิ้นนึงในอายุรับประกัน
-
อยากทำ เหมือนกัน รอหาข้อมูลอยู่ เห็นมี สองร้านที่ พูดกัน บ่อย คือ 27 อะไรสักอย่าง แล้วก็ cts รึเปล่า รถผมสีขาว
เห็นหลายคนบอก สี ขาวหน้าทำ ไม่รู้ว่า เพราะอะไร เหมือนกัน แต่อยากให้ มัน เงา ๆ ไปนานๆๆ นะ เรื่องราคา น่าจะ
หาร้าน ที่ ลดให้เราได้ นะครับ
-
ก่อนอื่นเป็นคนที่ชอบเข้าคาร์แคร์และอยากรู้ความแตกต่างระหว่าง เคลือบคริสตัล กับลงแว๊กซ์เคลือบ
คันที่หนึ่ง เข้าคาร์แคร์ เคลือบตลอด ใช้น้ำยา blackfire wet แต่ก่อนใช้ แมกไกว์ 21 ลงพร้อมกับ gold class
อีกคัน ไปเคลือบคริสตันแล้วล้างเอง
ผลที่ออกมาคือ เคลือบบ่อยๆดีกว่าครับ
รถคันที่ไปเคลือบคริสตันมาก็ต้องไปเคลือบสีเหมือนคันแรก
ผมไปเคลือบอาทิตย์ละครั้ง
แต่สำหรับคนที่ไม่มีเวลาการเคลือบคริสตันก็เป้นทางเลือกที่โอเค เพราะมันช่วยให้เวลาล้างคราบสกปรกออกง่าย
แต่เวลาล้างออกมามันไม่เงาฉ่ำ ไม่ลื่น ผิวสีรถเหมือนกระจกเงาแต่ไม่ลื่น
ถ้ามีเวลาไปเคลือบบ่อยๆดีกว่าครับ ชั้นสีก็หนาขึ้นเรื่อยๆแถมประหยัดเงินไปต้องจ่ายทีเดียว สองหมื่นกว่าแถมยังเงากว่าอีกด้วย
เพื่อนที่ไปทำพร้อมกันก็ต้องไปเคลือบที่คาร์แคร์เหมือนกันครับ เพราะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่ชอบเงาแบบกระจก
-
ถามต่อนะครับว่า
หากผมมีงบถึงสองหมื่นพอที่จะไปทำ Glass Coat นี่
แล้วผมขอไปพ่นแล็คเกอร์จากอู่ทำสีเพิ่มอีกชั้นหนึ่งซึ่งราคาน่าจะพอๆกันหรือถูกกว่า
มันจะดีกว่ามั๊ยครับ
ค่าพ่นLaquer จากอู่นอกไม่เกิน 10000 ครับ บางอู่อาจคิดแค่ 5000 แต่ ก่อนพ่น เขาก็จะขัดสีเก่าก่อนอยู่ดี ลบรอย แล้วค่อยพ่นLaquer พอมันแห้ง ก็ขัดเงาอีกที
ซึ่งมันก็ไม่ได้ช่วยให้รถที่เงาอยู่แล้ว เงาขึ้น แต่ได้ใช้ Laquer ใหม่ขัดใหม่คล้าย ๆ กับตอนออกรถใหม่
รถเก่า ๆ ที่Laquer โบราณ มันเหลือง ๆ เขาก็ใช้วิธีนี้แก้ครับ
การเคลือบ Glass Coat แนะว่าไปดูตัวอย่างที่ร้านก่อน พวกนี้รถถ้าเอามาใช้งานทุกวันล้างบ่อย ผมก็เห็นเป็นขนแมว หมดเงาได้เหมือนกัน (อันนี้ไม่ใช่รถผมนะ รถคนรู้จัก)
-
อึม เรื่องราวมันเป็นอย่างนี้นี่เอง เพิ่งกระจ่างวันนี้ เคยคิดอยู่นาน แต่ไม่ได้ไปทำสักที
ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ ที่มาแชร์ให้ฟัง
-
ผมเพิ่งจะทำที่ CTS (คุณแคท)โดยการเลือกโปรแกรม Royal Platinum ราคา 89,000 บาท หลังจาก ลังเลใจอยู่พอสมควร ว่าระดับและความจำเป็น รวมถึงความเหมาะสมกับ สภาพการใช้งาน คือผมว่าอยู่ที่ความพอใจของแต่ละคน ภรรยาผมก็ว่าเกินความจำเป็นเหมือนกัน แต่ผมคิดโดยส่วนตัวว่า เราอยากดูแลรถ ( Z4 E89 สีขาว ) และมีกำลัง ก็เลยตัดสินใจทำ โดยได้เปรียบเทียบกับ ของ J-glass (คุณเจี๊ยบ) รวมถึงให้ทำเบาะเพิ่มเติม โดยการพ่นด้วยเลย ราคา 6,000 บาท ส่วนผลเป็นยังไง ผมจะมารายงานให้ทราบ เป็นระยะ ว่า ของเค้าดีจริง หรือว่า ไม่สมราคา หรือเพียงเอารถแพงๆมาทำ โฆษณา ส่วนระยะเวลาใช้เวลา 1-2 วัน แต่ที่สำคัญจองคิวถือว่า ยาวเหยียดพอสมควร เป็นอาทิตย์เลย เพราะวันหนึ่่ง เค้าทำได้แค่ 2 คันครับ คือเวลาทำใช้เวลา มากพอสมควรกับการเก็บรายละเอียดงานของตัวถัง และ อื่นๆ ส่วนคันเก่า เป็นสมาชิก กับ carlac 68 ถือว่าประทับใจมาก ในระดับหนึ่งเลย สมาชิกราคา ต่อปี 5,500 ผมถือว่าไม่แพง แล้วแต่ความพอใจ หากเอารถเข้ารับบริการตามระยะที่เค้ากำหนด ก็ถือว่า ok ส่ีไม่ซีดจาง กับการขัดเคลือบของเจ้านี้ รอผู้รู้ท่านอื่นมาให้ความเห็นต่อครับ ของผมจะมารายงานทีหลังว่า การเคลือบแก้วนั้นเหมาะกับ สภาพแวดล้อม ของเมืองไทยจริงหรือไม่ รวมทั้ง ความคุ้มค่ากับเงินที่เราต้องจ่ายไป
-
ผมว่าราคาน่าจะโอเวอร์ไปนะครับ
เรื่องคุณสมบัติยังเป็นข้อกังขาว่ามันไม่ใช่ซิลิก้าแท้ๆน่ะครับ
-
ผมเพิ่งจะทำที่ CTS (คุณแคท)โดยการเลือกโปรแกรม Royal Platinum ราคา 89,000 บาท หลังจาก ลังเลใจอยู่พอสมควร ว่าระดับและความจำเป็น รวมถึงความเหมาะสมกับ สภาพการใช้งาน คือผมว่าอยู่ที่ความพอใจของแต่ละคน ภรรยาผมก็ว่าเกินความจำเป็นเหมือนกัน แต่ผมคิดโดยส่วนตัวว่า เราอยากดูแลรถ ( Z4 E89 สีขาว ) และมีกำลัง ก็เลยตัดสินใจทำ โดยได้เปรียบเทียบกับ ของ J-glass (คุณเจี๊ยบ) รวมถึงให้ทำเบาะเพิ่มเติม โดยการพ่นด้วยเลย ราคา 6,000 บาท ส่วนผลเป็นยังไง ผมจะมารายงานให้ทราบ เป็นระยะ ว่า ของเค้าดีจริง หรือว่า ไม่สมราคา หรือเพียงเอารถแพงๆมาทำ โฆษณา ส่วนระยะเวลาใช้เวลา 1-2 วัน แต่ที่สำคัญจองคิวถือว่า ยาวเหยียดพอสมควร เป็นอาทิตย์เลย เพราะวันหนึ่่ง เค้าทำได้แค่ 2 คันครับ คือเวลาทำใช้เวลา มากพอสมควรกับการเก็บรายละเอียดงานของตัวถัง และ อื่นๆ ส่วนคันเก่า เป็นสมาชิก กับ carlac 68 ถือว่าประทับใจมาก ในระดับหนึ่งเลย สมาชิกราคา ต่อปี 5,500 ผมถือว่าไม่แพง แล้วแต่ความพอใจ หากเอารถเข้ารับบริการตามระยะที่เค้ากำหนด ก็ถือว่า ok ส่ีไม่ซีดจาง กับการขัดเคลือบของเจ้านี้ รอผู้รู้ท่านอื่นมาให้ความเห็นต่อครับ ของผมจะมารายงานทีหลังว่า การเคลือบแก้วนั้นเหมาะกับ สภาพแวดล้อม ของเมืองไทยจริงหรือไม่ รวมทั้ง ความคุ้มค่ากับเงินที่เราต้องจ่ายไป
ราคา 89,000 บาท แพงใช้ได้เลย ขนาด สองหมื่น กว่า ผมคิดมา ครึ่งปีได้แล้ว ( คิดมาครึ่งปีแล้ว ก็ยังสรุปว่ายังไม่ไปทำเลย เพราะยังคิดไม่ผ่าน)