Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Posit ที่ พฤษภาคม 28, 2015, 18:30:59
-
อยากถามว่ารถแบบไหนที่ควรจะเคลือบแก้วแล้วมันดีกว่าการเคลือบแบบอื่น
อย่างไรบ้างแล้วราคาแพงมากไหมครับขอบคุณครับ
ตอนนี้ใช้crv g4อยู่ออกมาได้2ปีถ้าจะเคลือบจะคุ้มหรือป่าวกะใช้อีก3ปีครับ
-
คนอื่นๆไม่รุ้ว่ายังไง ไม่ก้าวก่ายครับ แต่ผมคิดว่าสิ้นเปลืองเปล่าครับ เคลือบแก้วเป็นหมื่นสองหมื่น ผมเอาเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่าครับ เรื่องความสะอาดรถ สู้เอาไปให้เค้าเคลือบสีทุกเดือน ๆ ละ 500-600 หรือเคลือบเอง ออกกำลังกายและตรวจเช็ครถไปในตัวด้วย ดีกว่าเยอะครับ
-
ตอบประสาคนเคยเคลือบแก้วนะครับ
ชอบเงาแบบจัดๆ เหมือนมีพลังงาน ออร่าวนเวียนรอบคันรถ โดยเฉพาะรถสีดำ ไปทำเลยครับ
ทั้งนี้ต้องขัดลบรอยต่างๆก่อนครับ ราคาก็หมื่นๆกว่าๆ ถ้างบเหลือนะครับ
ข้อดีคือ ล้างรถง่ายมาก ลื่นๆ เม็ดน้ำสวย โดนขี้นก ยางไม้ ไม่ค่อยเป็นรอยลึก
ส่วนตัวผมเลิกแล้วครับ ตอนนี้ใช้น้ำยาเคลือบเอง ออกกำลังกายและเงาเหมือนกัน
แต่เรื่องความทนสู้เคลือบแก้วไม่ได้ ทำเองเหมาะสำหรับคนมีเวลาครับ
ตอนนี้เบื่อกับรถเงาๆ รู้สึกถ้ามันเงามากไป เงาแบบแปลกๆ จะดูลิเกยังไงไม่รู้
-
อยากเคลือบเหมือนกัน เพิ่งเคยซื้อรถสีดำมาใช้เน่าง่ายมากก สวยแค่ตอนล้างเสร็จไม่รู้เคลือบจะคุ้มไหม
-
ตอนได้รถมาใหม่ๆก็เคยคิดจะเคลือบครับ แต่มีคนบอกว่า
"เอาตังหมื่นกว่าบาทไปล้างเคลือบสีเดือนละครั้ง ครั้งละ 500 ปีนึง 6000 แล้วเงินที่เหลือ 4000 ก็เอาไปขัดสีลบรอยเต็มระบบ
แบบนี้ดีกว่า เพราะน้ำยาที่เคลือบแก้วจะอยู่ได้ถึงปีแบบที่คุยไว้รึเปล่าก็ไม่รู้ สู้เคลือบสีทุกๆเดือนไม่แน่นอนกว่าหรอ"
ตอนนี้ก็เลยยังไม่เคลือบครับ แต่ก็ยังมีความรู้สึกอยากเคลือบอยู่ดี อิอิ
-
ผมว่าคุ้มสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา หรือ ขี้เกียจดูแลรถครับ
รถที่บ้านสีดำ ให้คนงานล้างอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ใช้ไป ปีกว่า ขนแมวมาฮึ่มเรย
เอาไปลบรอย แล้วเคลือบแก้ว ทีนี้ ปล่อยคนงานล้างไปเรยยย ล้างยังไง ก้อไม่มีรอยขนแมว สบายจายย
ลองคิดเทียบดูเล่นๆ
ล้างอาทิตย์ละครั้ง (ให้ร้านล้างเพื่อกันขนแมว) 250 บาท * 4 ครั้ง = 1,000 บาท + 500 เคลือบเดือนละครั้ง = 1,500 * 12 เดือน = 18,000 บาท/ปี * 2 ปี = 36,000 บาท
เคลือบแก้ว ไม่เกิน 3 หมื่น ดูแลให้ 3 ปี + ค่าน้ำประปาที่บ้าน และ ค่าน้ำยาล้างรถ คงไม่กี่บาท ผมว่าคุ้มสำหรับผมนะ
-
ผมว่าคุ้มสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา หรือ ขี้เกียจดูแลรถครับ
รถที่บ้านสีดำ ให้คนงานล้างอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ใช้ไป ปีกว่า ขนแมวมาฮึ่มเรย
เอาไปลบรอย แล้วเคลือบแก้ว ทีนี้ ปล่อยคนงานล้างไปเรยยย ล้างยังไง ก้อไม่มีรอยขนแมว สบายจายย
ลองคิดเทียบดูเล่นๆ
ล้างอาทิตย์ละครั้ง (ให้ร้านล้างเพื่อกันขนแมว) 250 บาท * 4 ครั้ง = 1,000 บาท + 500 เคลือบเดือนละครั้ง = 1,500 * 12 เดือน = 18,000 บาท/ปี * 2 ปี = 36,000 บาท
เคลือบแก้ว ไม่เกิน 3 หมื่น ดูแลให้ 3 ปี + ค่าน้ำประปาที่บ้าน และ ค่าน้ำยาล้างรถ คงไม่กี่บาท ผมว่าคุ้มสำหรับผมนะ
คล้ายกันครับ
ผมก็ว่าคุ้ม ของผมไม่ได้ใช้ร้านดังเน้นใกล้บ้าน ไปได้บ่อย
แต่งานฝีมือดีครับ รถที่มาทำมีตั้งแต่ทั่วไป ยัน LFA , 650S, ม้า, กบ, กระทิง มีมาทุกรุ่น ได้เห็นรถพวกนี้ของจริงก็จากร้านนี้ล่ะ
ราคาไม่แพงมากด้วยครับ ของผม แพ็คฯ 2 ปี 18,000
ตอนแรกแฟนก็บ่น แพง ตอนนี้ผ่านมาปีกว่า แฟนถามว่า "ยังไม่หมดอีกหรือ? ล้างบ่อยมาก"
มาตอนนี้แฟนผมยังไปบอกเพื่อนเลยว่า ถ้าออกป้ายแดงมาทำไปเถอะคุ้ม
ฝนตกหนักๆ รถก็สะอาดแล้ว ;D
-
เคลือบแก้วมาแล้วคับ บอกจากใจโคตรเสียดายคับ เอาตังมาซื้อwax ซักขวด ล้างเคลือบที่ คาแคร์ทุกอาทิตย์คุ้มกว่า เห็นผลดีกว่า
-
ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหา เป็นผมๆก็เคลือบครับ
-
ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหา เป็นผมๆก็เคลือบครับ
+1 ครับ
-
ผมว่าดีครับมีประโยชน์มากรถผม 3 คันเคลือบแก้วทั้งหมดมีคันนึงจอดนานเจอทั้งขึ้นก ยางไม้ ใบไม้ คิดในใจว่าแย่แล้วงานนี้สีไปแน่
พอเอาไปล้างออกเกลี้ยงครับแบบง่ายๆด้วยไม่มีปัญหาเลย ถ้าถามความเห็นผมถ้างบไม่ใช่ปัญหาน่าทำครับเคลือบสีธรรมดามันอยู่ได้แป้ปเดียวเองครับ คหสต
-
ถ้ารถสีดำควรทำเป็นอย่างยิ่งครับ ส่วนสีอื่นถ้ามีงบไม่เดือดร้อนน่าทำครับเพราะช่วยปกป้องได้นานกว่าพวกWaxจริงๆ บ้านเราฝุ่นเยอะและฝนเยอะ Waxจะหายไปเร็ว ไม่เหมือนเมืองนอกที่สภาพแวดล้อมไม่Severeเท่าบ้านเราครับ
-
เคลือบแก้วจะมีขั้นตอนการเตรียมผิวที่ต้องใช้ความพิถีพิถันในการทำค่อนข้างมาก ราคาแพงไม่ได้แพงเพราะน้ำยา
แต่แพงเพราะค่าฝีมือ+ค่าเมนเทนแนนซ์ล่วงหน้าไว้แล้ว
เคลือบแก้วดีกว่าลงแว๊กซ์ปกติก็ตรงที่ล้างง่าย ดูแลง่าย ริ้วรอยยังมีได้อยู่ไม่ใช่แข็งโป๊กยังกับแก้ว
แต่ถ้เคลือบแก้วแล้วมันเหมือนมีฟิล์มอีกชั้นที่ช่วยปกป้องเคลียร์โค้ทไม่ให้เป็นรอย(แต่ถ้าขูดขีด+เฉี่ยวชน อันนี้คนละเรื่องนะครับ)
ถ้าเราชอบรถที่ดูเนี๊ยบอยู่เสมอการขัดสีบ่อยๆจะทำให้เคลียร์โค้ทบางลง แต่พอเราลงแก้วแล้วรถมีรอยก็แค่ขัดชั้นเคลือบออก
เคลียร์โค้ทก็ยังหนาอยู่เหมือนเดิม ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหา ทำแล้วดีกว่าไม่ทำแน่นอนครับ
**อ้อมีอีกแนวที่น่าสนใจคือ คาร์ดีเทลลิ่งที่รับงานอยู่กับบ้านครับ ทำคนเดียวค่อยๆทำ เน้นรายละเอียดแบบสุดๆ
-
ถ้าเป็นคนชอบให้รถสวยอยู่ตลอด น้ำไม่เกาะรถ แต่อาจจะมีความขี้เกียจล้างรถ นี่อะใช่เลยครับสำหรับ Glass coating ถ้าเลือกผมแนะนำแบรนด์ดังๆนะครับ
แบรนด์ใหม่ๆ บางทีไทยทำผสม wax ลงไปด้วยไม่ดีครับ ถ้าใช้อีก 3 ปีก้ใช้ package 3 ปีพอครับ
-
สำหรับผม ถ้ามีเงินผมทำแน่นอนครับ ;D ;D
แต่ตอนนี้ไม่มีครับ เลยที่ไม่ได้ทำ ฮ่าๆๆๆๆ
-
เคลือบแก้ว ไม่ได้ทำให้รถเงากว่าการเคลือบ Wax นะครับ
จริงๆความเงาเกิดขึ้นจาก Wax ที่ลงก่อนเคลือบแก้วครับ การเคลือบแก้วเสมือนการเอาฟิลม์ปิดลงบนสีรถที่ยังเงาอยู่จากการ Wax มาเฉยๆครับ
ส่วนที่มันมีผลจริงคือ รอยต่างๆเกิดได้ยาก เข้าถึงเนื้อสีได้ยากถ้าไม่แรงจริง ลื่นล้างง่ายเพราะตัวชั้นของเคลือบแก้ว ;D
มีทางเลือกอีกแบบครับถ้าไม่อยากเคลือบแก้ว คือการ wrap ฟิลม์ใสรถยุโรปแพงๆไปทำกันเยอะ แต่ผมไม่รู้ว่าราคาเทียบกับเคลือบแก้วแล้วแพงกว่ากันเยอะแค่ไหน ;)
-
ในความเห็นผม
ผมมีเวลาวันเสาร์ อาทิตย์ ล้าง ขัด รถด้วยตัวเอง มีเครื่องขัด 2 ตัวโง่ๆ ตัวนึงหมุนเร็ว ตัวนึงหมุนช้า..... 2 ตัวนี้ ราคาไม่เกิน 4 พันครับ
น้ำยาเคลือบ รบรอย ขัดเงา อะไรพวกนี้ รวมน้ำยาเคลือบกระจก ล้อ ยาง.....เยอะไปหมด ซื้อที่ร้านแถวๆ สะพานเหล็ก ชุดใหญ่ รวมผ้าชามัว ผ้า ไมโครอีกเพียบ (เยอะมาก) 4000 กว่าบาท
เครื่องฉีดน้ำ อย่างดี 4000 กว่าบาทอีก.....แล้วก็เครื่องดูดฝุ่น (แบบที่มันมีแรงดูด จริงจัง ไม่ใช่ที่ขายตัวเล็กๆ ตามห้าง) 4000 กว่าเหมือนกัน แล้วก็ ปั๊มลมตัวเล็กๆ อีก 3000 กว่า (มือ 2 )
รวมๆ แล้ว หมื่นกลางๆ ผมสามารถขัด เช็ค ซ่อมสี ลบรอย ที่บ้านเอง โดยไม่ต้องไปพึ้งร้าน และถือเป็นการออกกำลังกายไปด้วย
ฉนั้น ถ้าทำแบบนี้ได้ การไปเคลือบแก้ว = สิ้นเปลือง โดยใช่เหตุ ยิ่งรถคันใหญ่ ยิ่งแพงขึ้นด้วย ซื้ออุปกรณ์มาดูแลรถเราเอง ยังไงก็ดีกว่าครับ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าไม่มีเวลามาดูแลเอง....เคลือบแก้ว ก็เป็นความคิดที่ดีกว่าครับ
-
จริงๆแล้วไม่ว่าเราเราจะลง Natural Wax, Sythetic Polymer, SiO2 (Silicon) หรือ SiC (Ceramic) การเตรียมผิวมันก็เหมือนๆกัน ก็คือต้องเตรียมผิวให้เรียบเนียนที่สุด เพราะรถจะเงาหรือไม่เงามันสะท้อนออกมาจากพื้นฐานของการเตรียมผิว พวกคนที่ขัดรถด้วยตัวเองจะรู้ว่าแค่ขัดด้วยน้ำยาขัดแบบเบอร์ละเอียดๆ (Menzerna 4000) แค่นี้ก็เงาแทบเหมือนลงตัวเคลือบไปแล้ว ส่วนพวกสารเคลือบผิวขั้นตอนสุดท้ายช่วยเพียงขับให้ผิวมันดูอิ่มและเงาขึ้นอีกแค่เล็กน้อยเท่านั้น มาร์เก็ตติ้งมันแรงไปหน่อย จริงๆทำเองที่บ้านก็ได้ หากใช้เครื่องขัดเป็น ส่วนเรื่องความทนทาน อันนี้ค่อนข้างจริง เคลือบพวก SiO2 , SiC ทนกว่าพวก Wax และ Polymer.
-
ถ้าชอบรถเงาๆ ดูแล ง่ายๆ ผมว่าคุ้ม
ซื้อมาทำเอง สั่งเอง ก็ได้ ถ้ามีฝีมือพอ
บางคน อยากประหยัด
ทำเอง จากดีๆ กลายเป็นเละเทะ
รถใหม่ออกมาป้ายแดง ต้องไปเก็บสีใหม่ เพราะความไม่รู้