Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: NeoZeLon ที่ มิถุนายน 13, 2015, 11:21:39
-
กำลังมองหารถมือสองโดยมีงบที่ 500K เท่านั้น ซึ่งไปเดินๆดูตามเต้นดันไปถูกใจเอาเข้าแตมรี่คันนึง คนเขายอมรับมาตรงๆว่าเคยชนข้างหน้ามา แต่จากที่ดูคร่าวๆเปลี่ยนแค่ฝากระโปรง ไฟหน้า รังผึ้งแอร์ ผมก้มไปดูโช๊คน่าจะเป็นโช๊คเดิม เพราะยังมีสีแต้มตากโรงงาน เลยกดราคาให้ได้ ซึ่งเป็นรถปี 2010 ไมล์ 83000 ยังไม่ติดแก๊ส คอนโซลไม่เหนียว (เป็นรุ่นที่ไม่มีปุ่มสตาร์ส แต่มีม่านหลังไฟฟ้า เวลาหาข้อมูลมันคือรุ่นอะไรหรอคับ ?) โดยต่อรองแล้วเขาก็ปล่อยให้ตามงบ เลยไปลองขับดู ทุกอย่างปกติยกเว้นตอนรอบเดินเบา ขับช้าๆ ได้ยินเหมือนเสียงท่อใต้รถหลวมๆ อันนั้นไว้เก็บงาน อยากสอบถามพี่ๆว่า มีวิดีดูหรือสังเกตตรงไหนเพิ่มเติมสำหรับรถรุ่นนี้ไม่ครับ คิดว่าจะไปตรวจอีกรองวันจอง และอยากทราบว่าค่าบำรุงรักษา หรือมีอะไรที่ต้องระวังพิเศษไม่ครับสำหรับรุ่นนี้
ขอบคุณครับ
-
ลองเอาเลขตัวถังไปสอบประวัติกับศูนย์บริการดูสิครับ จะทราบเลขไมล์การรับบริการ และก็เช็คประวัติกับประกันชั้น 1 ของบริษัทที่เขาทำว่าซ่อมเปลี่ยนอะไรมาหนักแค่ไหน โดยรวม CAMRY ราคาตกมหาศาลแต่เป็นรถที่น่าใช้ครับ แต่เครื่อง 2.0 อืดไปหน่อยถ้านั่งหลายคนหรือวิ่งทางไกล
ยกเว้นรุ่นใหม่ ๆ แรงขึ้นกว่าก่อน
-
ผมใช้ acv40 2.0G ปี2007 จนบัดนี้ยังไม่เคยจุกจิกเลยครับ ดูแลรักษาตามระยะตลอด ก็จะมีแค่ซ่อมท่อไอเสียท่อรั่วเพราะสนิม เปลี่ยนโช้ค4ต้นไปครั้งนึง
ส่วนรุ่นที่มีม่านบังแดดหลัง เป็นตัวไมเนอร์เชน แตกต่างที่ชุดกันชนหน้า เส้นสายภายในไฟท้าย
-
ลองเอาเลขตัวถังไปสอบประวัติกับศูนย์บริการดูสิครับ จะทราบเลขไมล์การรับบริการ และก็เช็คประวัติกับประกันชั้น 1 ของบริษัทที่เขาทำว่าซ่อมเปลี่ยนอะไรมาหนักแค่ไหน โดยรวม CAMRY ราคาตกมหาศาลแต่เป็นรถที่น่าใช้ครับ แต่เครื่อง 2.0 อืดไปหน่อยถ้านั่งหลายคนหรือวิ่งทางไกล
ยกเว้นรุ่นใหม่ ๆ แรงขึ้นกว่าก่อน
ผมลองโทรเข้าไปให้ศูนย์เช็ค เขาบอกว่าต้องใช้สำเนาทะเบียนกับบัตรประชาชนที่ตรงกับเล่มทะเบียนนะคับ ตอนนี้รถเป็นชื่อเต้นท์ คงเช็คไม่ได้อะคับ
-
ก็ไม่เข้าใจสมัยนี้ซื้อขายกัน หาความจริงใจไม่มีเลย
ผมเพิ่งขายไป 2.4V Navi 6xx,xxx รถมือเดียววิ่ง 88,000 โล
พอคนซื้อมาดูท่าทางสนใจจริงๆ ก่อนซื้อขายผมบอกเลยว่าจะพาไปศูนย์ดึงประวัติได้เลย
ซื้อผู้ซื้อก็แฮปปี้ คนขายก็สบายใจ รถมีปัญหาตรงไหนก็บอกไปตรงๆ
สรุป คนนี้มาดูคนแรก ผมขายได้ทันที เพราะเค้ารู้เป็นรถเรามีเล่ม เช็คประวัติได้ เอาไปใช้เอง จบครับ
เป็นกำลังใจให้หารถดีๆได้นะครับ
-
ถ้าไม่มีความรู้ หรือดูไม่ละเอียด ดูไม่เป็น จ้างช่างไปดูครับ
เสียไม่กี่บาท (แต่หลักพัน)
แลกกับความสบายใจ และอาการ เสียน้อย เสียยาก เสียมาก ..
ผมเคยจ้างไปดู อาการต่างๆ และค่าการซ่อม รถมือสอง เป็นรุ่นในใจ หลายปีมาแล้ว
เขาสรุปว่าไม่คุ้มครับ เพราะถ้าเปิดนี่เพื่อซ่อมแล้ว นั่นจะเสียต่อ ต้องเปลี่ยนอีก
-
ไม่เคยใช้ 2.0 ครับ เคยใช้ 2.4 ให้ลองเช็ค ที่โช้คทั้ง 4 ต้นครับ โช้คแคมรี่เป็นพวกตรงต่อเวลา พอถึงอายุก็มักจะงอแงทันที
แต่ราคาไม่แรงมากครับ พอรับไหว อย่างอื่นก็จะมีคอมแอร์ครับ เช็คว่าเหม็นไหม แต่ล้างได้ไม่เป็นไร
อย่างอื่นไม่มีแล้วครับ รถทนดี รถผมวิ่งมา 240,000 แล้ว มีปัญหากับไอโช้คเนี่ยแหละ 3-4 รอบแล้ว แต่อาจจะเป็นเพราะลงล้อมามั้งครับ
ยังไงขอให้โชคดีกับรถครับ
-
เคยใช้ 2.4 ครับ
ปัญหาที่ผมเจอที่นึกออกจะมีข้อต่อพวงมาลัยมีเสียงดัง กับ โช๊คพังครับ
-
ข้างบนบอกกันไปหมดแล้ว เข้ามาเอาใจช่วยให้ได้รถดีๆตรงใจนะครับผม :)
-
ดูจากปีรถ กับ ไม่มีปุ่มสตาร์ทแต่มีม่านบังแดดหลัง น่าจะ 2.0G MC นะครับ
ส่วนตัวอยากให้เล่น 2.4V pre MC หรือ 2.4G MC ไปเลยนะ
กินน้ำมันไม่ต่างกันมากหรอกครับ 2.0มันแบกน้ำหนักรถไว้เยอะ
หาจ้างคนที่ดูเป็นไปดูดีกว่า เอาคันที่ไม่เคยชนหนักก็คุ้มแล้วครับ
-
- คอนโซลเหนียว ถ้าเจ้าของเก่าจอดตากแดด จะเยิ้มมาก คุณแม่เคยใช้เป็นรถประจำตำแหน่ง จอดในร่มตลอด ไม่เหนียว แต่คุณน้าไม่มีที่จอดที่บริษัทในร่ม เหนียวและเยิ้มมาก ตอนนั้น TMT รับผิดชอบโดยลดราคาคอนโซล 50% หลังหมดประกัน จากราคาเต็ม 7xxxx ไม่รู้ว่ายังมีโปรรึเปล่า ถ้าเจ้าของเก่าเปลี่ยนแล้วก็ดีไป
- โช้คตาย แต่อย่างพี่ๆข้างบนว่า ราคาไม่แรง
ACV40 2.0Gก่อน MC ถ้าจำไม่ผิดไม่มีม่านหลังฮะไม่มีปุ่ม start เช่นกัน, MC เพิ่มม่าน แต่ตัดถุงลมข้างออก 2 ใบ ไฟท้ายเป็นแบบเหลี่ยม 2.0E จะเป็นเบาะผ้า
กินน้ำมันทางไกล 2.4 กินน้อยกว่าก็จริง แต่ใช้ในเมืองเนี่ยกินกว่าเยอะมาก คุณแม่ทำงานสาทร 2.0 ได้ 8 โลลิตร น้าใช้ 2.4 ทำงานถนนวิทยุ ได้ 5-6 km/l