Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ฟง อวิ๋น ที่ กรกฎาคม 12, 2015, 07:20:57
-
งงมาตลอดเวลาว่าบริษัทรถยนต์ก็น่าจะรู้ว่าศูนย์บริการเป็นปัจจัยหลักให้คนตัดสินใจซื้อรถ
แต่เหตุไฉนบางยี่ห้อจึงพัฒนาได้ช้า ไม่เหมือนกับตัวรถที่พัฒนาเร็วมาก จึงสงสัยว่า
1. Margin ของศูนย์น้อยเกินไปหรือ จึงไม่มีเงินพัฒนาการบริการ ?? (ขายจำนวนคันได้น้อย บวกกับกำไรต่อคันน้อยเพราะต้องอัด Promotion เยอะ)
2. ไม่มีการอบรมจากบริษัทแม่อย่างต่อเนื่อง?? (ทั้งฝีมือการซ่อม การวิเคราะห์ปัญหา และหัวใจบริการของพนักงาน)
3. ไม่มีการแชร์ประสบการณ์การซ่อมให้ศูนย์อื่น?? (ช่างจึงต้องวิเคราะห์ใหม่ทุกครั้ง)
4. ไม่มีการทำ Spare Part Forecasting ?? (โดยเฉพาะกรณีที่เป็นปัญหาจาก Defect ทำให้เคลมช้า)
ส่วนตัวเชื่อว่าทุกอย่างต้องมีการเริ่มต้น และคิดว่าน่าจะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ทำไมบางยี่ห้อทำได้ (ไม่นับเจ้าตลาด) บางยี่ห้อกลับทำไม่สำเร็จ
:-\ :-\ :-\ :-\ :-\
-
ทางบริษัทแม่เนี่ยคงทราบอยู่แล้ว แต่ทาง Dealer อาจไม่อยากลงทุน ลูกค้าอาจจะน้อย
บางทีพอรถหมดประกันปุ๊บ ลูกค้าส่วนใหญ่ด็อาจไม่นำรถยนต์เข้าเช็คระยะศูนย์แล้วครับ
อย่าง Toyota Honda Isuzu ลูกค้าที่เข้ารับบริการวันๆนึงอาจจะเยอะ แต่ยี่ห้อบางยี่ห้อขายได้กระจิ๊ดเดียว
ตัวอย่างเช่น
ปี 2557 Isuzu ขายได้ประมาณ 160,000 คัน มีศูนย์บริการ อยู่ทั้งประเทศประมาณ 300
ถ้าสมมุติทุกคนใช้ศูนย์บริการ ปีละ 2 ครั้งก็ตกเฉลี่ยศูนย์ละ 1066 ครั้งต่อปี หรือวันละ 3 คันต่อวันต่อศูนย์บริการ
มาดูยี่ห้ออย่าง Chevrolet ขายได้ 25800 คัน มีศูนย์บริการ อยู่ทั้งประเทศประมาณ 100 (อาจเกินกว่านี้ไม่เกิน 10)
ถ้าสมมุติทุกคนใช้ศูนย์บริการ ปีละ 2 ครั้งก็ตกเฉลี่ยศูนย์ละ 258 ครั้งต่อปี หรือวันละ ไม่ถึง 1 คันต่อวันต่อศูนย์บริการ
อันนี้จริงๆ ควรจะประมาณจากยอดขายซะ 3 ปีหลังสุด (แต่ผมขี้เกียจหาตัวเลข) ถ้าเดาๆ รวม 3 ปี และคิดว่า 80% ของลูกค้าเข้าศูนย์บริการ
สำหรับยี่ห้อตลาด ก็น่าจะตกวันนึง 10 คันต่อวันต่อศูนย์บริการได้ แต่ยี่ห้อลองๆลงมา อาจได้เพียง 2-3 คันต่อวันต่อศูนย์บริการเท่านั้น
ซึ่งการลงทุนด้านบริการหลังการขาย อาจจะไม่คุ้ม หรือนานมากกว่าจะคุ้มก็ได้ ศูนย์เลยงอแงนิดหน่อย ไม่ยอมทำแบบเต็มที่ กั๊กเงินไว้
ปล. อันนี้ผมเดาล้วนๆนะ 555555
-
เท่าที่คิดได้นะ
คนมีตังค์เหลือๆที่เปิด 0 รถเพื่อต่อยอดให้เงินตัวเองมีเยอะมากครับ
แต่... จะมีซักกี่คนที่กล้าจ้างบุคคลากรที่เก่งเรื่องรถมากๆมาทำงาน
ยิ่งรวยยิ่งขี้เหนียว
ส่วนเรื่องระบบต่างๆ ผมว่าอยู่ที่นโยบายของบริษัทแม่มากกว่า
อ่อ ส่วนเรื่องแชร์นะครับ
บางครั้งใน เครือเดียวกันมันยังแยกการใช้ข้อมูลกันเลยครับ เช่น... พระราม3 กรุ๊ป หรือเค แถวๆบ้านผมนี่แหละ รถผมซ่อมตามสะดวกระหว่างสาขาในกรุ๊ปแถวบ้านและออฟฟิส ยังมีฐานข้อมูล 2 ดาต้าเลย
แทนที่จะเป็นดาต้าเดียว
อย่างที่บอก ยิ่งมีตังค์เยอะ ยิ่งขี้เหนียวครับ การแชร์ระดับนี้ ต้องใช้เซิร์ฟเว่อร์เพิ่มขึ้นอีก
ในเมื่อบริษัทแม่ไม่บังคับ เรื่องอะไรที่ดีลเล่อร์ต้องค์มาคัวกกระเป๋าตังค์จ่ายล่ะ???
-
บอกได้เลยว่า ศูนย์ดีหรือแย่ มีมันทุกยี่ห้อ ไม่จริงเลยที่ยี่ห้อหนึ่งศูนย์จะดีไปซะหมด หรือยี่ห้อหนึ่ง ศูนย์จะแย่ไปซะหมด คุณต้องหาข้อมูลเรื่องศูนย์ที่มีคุณภาพ ด้วยตัวเอง
-
ศูนย์สร้างเพิ่มได้ครับ แต่คนมันพัฒนาได้ไม่เร็วเท่าศูนย์ ความเชี่ยวชาญ ชำนาญ กว่าจะได้แต่ละคนนาน แล้วต่อให้เชี่ยวชาญไปแล้วบางทีลาออกไปเปิดร้านเองเยอะแยะ ทำให้ศูนย์ต้องหาคนใหม่มาแทนอีก
ส่วนพวกค่ายรองตอนนี้เค้ารู้แล้วว่าศูนย์เป็นรอง เค้าปรับนะครับ เมื่อก่อนดีเทลกากๆยังกะห้องแถวหลายศูนย์มาก เดี๋ยวนี้ทำใหม่สวยงาม น่านั่งน่าเข้าไปชม หลายๆศูนย์เริ่มครบวงจรมากขึ้น เพิ่มช่องซ่อม เพิ่มซ่อมสีตัวถังเข้ามา
นี่ที่พูดคือฟอร์ดนะครับ เพราะใช้อยู่ก็เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง ส่วนใหญ่เลยนะที่เปลี่ยนยากคือ ศูนย์ที่มีบริษัทใหญ่เป็นเจ้าของหลายๆแห่ง พวกนี้ทำงานแบบขูดรีดมาก เครมยากน่ารำคาญ ต้องดูเช็คละเอียด กว่าจะได้ซ่อม เปลี่ยน
ส่วนศูนย์ที่ดีๆมักจะเป็นศูนย์ใหญ่ มีสาขาไม่เกิน 2-3 แห่ง ช่างเก่งๆเพียบ จะเครมก็ง่ายๆ หรือไม่เป็นศูนย์ที่มีเจ้าของหลายยี่ห้อเปิดด้วยกัน
-
ผมว่าศูนย์จะดีหรือแย่อยู่ที่ทัศนคติที่มีต่อลูกค้า ยิ่งบริษัทมองแต่ว่าลูกค้าจะมาเอาเปรียบก็ยิ่งป้องกันตัวเองมาก ทำให้นโยบายมันยากที่จะให้อะไรดีๆกับลูกค้าได้
ทั่วๆไปศูนย์ก็อยากเอาใจลูกค้าอยู่แล้วแหละ แต่นโยบายมันไม่เอื้อก็ยากครับ
ศูนย์ไม่ดีส่วนใหญ่มาจากนโยบายของบริษัทรถเป็นหลักเลย ผมเคยได้ยินศูนย์บ่นบริษัทแม่เยอะ ยิ่งค่ายรองเนี่ยผมเจอมาทั้งนั้น
เรื่องคุ้มไม่คุ้มมันต้องดูกันยาวครับ เพราะอันไหนทำไม่ดี ผมก็เอาไปพูดให้คนอื่นฟังหมด ส่วนที่ไหนดียี่ห้อไหนดี ผมก็ชม
บอกได้เลย คันต่อไปมันก็ขึ้นอยู่กับตรงนี้แหละ ไม่ต้องโฆษณาอะไรมาก แต่ถ้าไม่ดีโฆษณาเป็นพันล้านผมก็ไม่ซื้อ และคนที่ผมเล่า เค้าก็ต้องคิดด้วย ว่าทำไมค่ายนึงเราชม อีกค่ายทำไมเราด่าจัง
-
1 เครมง่าย อะไหล่พร้อม
2 เวลาเช็คระยะไม่ควรเกิน 1.30 ชั่วโมง
3 สถานที่รอน่านั่ง ดูดี มีขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่ม
4 มี ฟรี WIFI
5 ราคาสมเหตุสมผล
6 พนักงานพูดเพราะ ตอบคำถามได้
7 เคจที่ต้องรอนานแต่เสร็จใน 1 วัน ก็ขอมีรถรับส่งไปที่อื่นไม่ต้องไกลมากก็ได้ ฟรี
เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ
มโนได้แค่นี้แหละ ::) ::)
-
เอาจริงๆนะ ศูนย์นี่ผมเฉยๆ เพราะผมคิดว่า รถที่ดีจริงๆ มันไม่ต้องพึ่งศูนย์บ่อยขนาดนั้น มันก็เลยออกมาเป็นสิ่งที่ผมต้องการไม่กี่อย่างครับ
1. ช่างเปลี่ยนของเหลวเป็นทุกตัว รู้ Schedule การเช็คว่าต้องมีอะไรบ้างในแต่ละระยะ ไม่เชียร์เติมสารนู่นนี่นั่นไร้สาระและเติมน้ำมันเครื่องในปริมาณตามคู่มือที่กำหนดให้มา
2. อะไหล่ไม่ว่าจะเป็น Body part หรืออะไหล่อื่นๆ สำรองใช้สั่งได้เร็ว ผมให้ไม่เกิน 2 อาทิตย์
ผมขอแค่นั้นล่ะครับ
ยกตัวอย่างผมนะ Toyota Vios ปี 2003 พอหมดประกันปุ๊บผมไม่ได้เข้าไปยุ่งกับศูนย์อีกเลย และรถก็ไม่ได้งอแงอะไรอีกเลยเหมือนกัน ขนาดเอามันไปยัดหอยแล้วก็ยังสุขภาพดี ไม่มีอะไรเลยครับ Body part เวลาเกิดอุบัติเหตุก็สั่งได้เร็ว ซ่อมเร็ว เสร็จเร็วครับ :-* :-*
-
ขอสามข้อหลักแล้วกันครับ
1.พนักงานต้อนรับและพนักงานขายยิ้มแย้มแจ่มในกันลุกค้าทุกระดับชั้นไม่เลือกปฎิบัติ
2.ช่างซ่อมมีฝีมือและประสบการณ์สามารถวิเคราะห์สาเหตุได้ฉับไวหรือเดาอาการเก่ง
3.มีอะไหล่พื้นฐานที่เปลี่ยนกันมากพร้อมเปลี่ยนได้เลยไม่ต้องรอเป็นเดือน
แค่นี้ศูนย์คุณทำได้มั๊ยละ ถ้าทำไม่ได้ผ่านนนตกรอบ
-
เอาง่าย ๆ เลยนะขนาดศูนย์TOYOTA ที่มีมากกว่าใครมีเป็น 100 แห่งทั่วประเทศยังไม่อาจพอใจคนทุกคนได้เลย นับประสาอะไรกับศุนย์รถยี่ห้ออื่นโดนด่าเปิดเปิงกันหมด เพียงแต่จากการสุ่มสำรวจความพึงพอใจของผู้บริโภค ตามหัวข้อที่เค้ากำหนดมาทาง TOYOTA ได้คะแนนดีมาโดยตลอด สรุปโดยรวมยังไงก็เหนือกว่าคู่แข่ง คือถ้าจะดีในสายตาท่านก็คงต้องเอาหัวข้อทาง JD เพาเวอร์มาประเมิน เพราะในสายตาเรากับสายเค้าไม่เหมือนกัน ยังไงผมเลือกรถที่ศูนย์บริการคงมองตามหัวข้อของเค้และพอใจกับบริการโดยรวมของโตโยต้ามากกว่า
ถ้าเอาส่วนตัวผมเลย
1. ค่าบริการถูก
2. อะไหล่ถูก
3. มีอะไหล่พร้อมแม้จะเป็นการสั่งจากต่างประเทศก็ตาม
4. ช่างวิเคราะห์ปัญหาเบื้องต้นได้ ซ่อมได้ตามมาตรฐาน ศูนย์บริการ
ทำไมผมมองว่าช่างไม่จำเป้นต้องเก่ง เพราะผมไม่เลือกรถที่มันวิเศษเลิศเลอ ระบบซับซ้อนจนกลายเป็นภาระ เวลาซ่อมทีต้องหาช่างซ่อมแนวหน้า ปวดหัวแทนค่าบริการของพวกนี้จะแพง ซึ่งผไม่ต้องการเลือกรถแบบนั้นหรือช่างแบบนั้น ต้องการแค่รถพื้นฐานไม่จุกจิกใครก็พอซ่อมได้ จึงไม่จำเป้นต้องการช่างที่เก่งมาก
5.รับฟังปัญหาพร้อมแก้ไขไม่ใช่โยนปัญหาไปให้ลูกค้า
-
ขอขอบคุณทุกความเห็นครับ ดีมากทุกความเห็นเลยครับ ;D ;D
ส่วนตัวคิดว่าช่างตามศูนย์ไม่ต้องเก่งมากก็ได้ อาการเสียแปลกก็ให้มาหาในฐานข้อมูลกลางเหมือนหาใน Google
หากแก้ไม่ได้ก็ให้เข้าศูนย์หลักของภาคนั้น หรือให้ช่างจากบริษัทแม่มาช่วยตรวจสอบ
ผมเคยใช้ New Lancer ครับ แก้อาการน้ำมันซึมที่ฝาสูบไม่หาย
เปลี่ยนปะเก็น เปลี่ยนฝาครอบแคม จนทาง Mitsu ใหญ่ขอมารับรถไปวิเคราะห์ที่ศูนย์ใหญ่
และเอา Triton 4Dr A/T มาให้สำรองใช้อยู่เกือบเดือน (เกือบไม่อยากคืน 555)
จนสรุปว่าฝาสูปมีตามด ก็ส่งรถคืนให้เรา และนัดให้เราไปเข้าศูนย์บริการปกติเพื่อเปลี่ยนฝาสูบตามระบบระเบียบของเขา
สรุปก็จบแบบ Happy นะครับตอนนั้น แต่หลังจากนั้นตัวรถ Mitsu รุ่นใหม่ๆ มันไม่โดนใจผม ก็เลยไม่ได้ซื้ออีกเลยครับ
-
ขอศูนย์ที่มีช่างที่ซ่อมจบๆ มาถึงบอกอาการแล้วนัดมาจ่ายเงินในราคาที่สมเหตุสมผลหลังจากนั้นรับรถกลับ แค่นี้ที่ต้องการ
-
1 เครมง่าย อะไหล่พร้อม
2 เวลาเช็คระยะไม่ควรเกิน 1.30 ชั่วโมง
3 สถานที่รอน่านั่ง ดูดี มีขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่ม
4 มี ฟรี WIFI
5 ราคาสมเหตุสมผล
6 พนักงานพูดเพราะ ตอบคำถามได้
7 เคจที่ต้องรอนานแต่เสร็จใน 1 วัน ก็ขอมีรถรับส่งไปที่อื่นไม่ต้องไกลมากก็ได้ ฟรี
เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ
มโนได้แค่นี้แหละ ::) ::)
เคยเจอ ISUZU บางเจ้าครับ ให้ไปส่งเซ็นทรัลสาชาใกล้ๆแล้วโทรให้ไปรับได้
-
มีจิตบริการ
-
คือผมกำลังจะซื้อกระบะน่ะครับ ข้อมูลรถยี่ห้อต่างๆก็เก็บจากเว็ปไซต์มากมาย แต่พอไปทดลองขับหลายๆเจ้าที่มีในจังหวัด เมื่อผมเข้าไปในศูนย์..
โตโยต้า อีซูสุ ...ดูบรรยากาศมันคึกคัก พนักงานเยอะ เราไม่รู้สึกเคว้งคว้างเมื่ออยู่ในศูนย์ ยิ่งอิซูสินี่ของกินเพียบ มีที่นั่งให้ดูทีวี แอร์เย็น คือนั่งดูโบร์ชัวได้ยาวๆเลยครับ
ฟอร์ด มิตซู นิสสัน ... พนักงานบริการไม่ได้ต่างจาก 2 เจ้าข้างบน แต่บุคลากรมันดูน้อยๆ บรรยากาศในโชว์รูมมันดูหงอยๆ เหมือนร้างๆ ดูว้าเหว่ ที่นั่งอยู่ไหนว่ะ น้ำดื่มอ่ะ? ไม่น่าอยู่เลยครับ ทั้งๆที่สภาพศูนย์บริการเมื่อเทียบกับ 2 เจ้าแรก ก็เก่าใหม่ไม่ต่างกัน
อันนี้ คหสต เฉพาะที่เข้าไปทดลองขับน่ะครับ
-
พนักงานมีความเอาใจใส่ที่จะบริการครับ แล้วอย่างอื่นจะตามมาเอง หน้าตาของศูนย์ยังไม่สำคัญเท่า ขนมไม่มี wifi ไม่ให้ยังเฉยๆครับ :D
-
ขอศูนย์ที่มีช่างที่ซ่อมจบๆ มาถึงบอกอาการแล้วนัดมาจ่ายเงินในราคาที่สมเหตุสมผลหลังจากนั้นรับรถกลับ แค่นี้ที่ต้องการ
ช่างพวกนี้พอเป็นงาน ก็ออกไปเปิดอู่เองอีก > <
-
1. ช่างซ่อมต้องเก่งพอตัวและชำนาญ วิเคราะห์ปัญหาและสาเหตุตรงจุดหรือใกล้เคียง
2. พนักงานต้อนรับ การพูดจา ยิ้มแย้มแจ่มใสกับลูกค้า
3. อะไหล่พื้นฐานควรจะมีตลอด สามารถสั่งและเปลี่ยนได้เลย
4. ห้องรับรองลูกค้า มีทีวี Wifi ของกิน เครื่องดื่มทั้งของร้อนและของเย็น