Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: MoO Cnoe ที่ กรกฎาคม 18, 2015, 13:06:15
-
เสร็จแล้วครับ เชิญรับชมได้เลย
Toyota Fortuner 2.8V 4x4 A/T vs Ford Everest 3.2 Titanium+ 4x4 A/T
เปิดราคามาเท่ากันที่ 1,599,000 บาท
http://www.headlightmag.com/fortuner-vs-everest-ppv-compare/
(http://upic.me/i/k0/ppv_webboard.jpg) (http://upic.me/show/56216210)
-
คำถามที่น่าสนใจคือ MU-X กับ เทรลเบอร์เซอร์ จะแก้ลำออกมาชนยังไง
-
จุดบอดเสา A เหมือน ฟอร์จูนเนอร์จะมากกว่านะ
-
เดี่ยวเจอปาเจโร่ผม จะเงิบ 555
รอก่อน กำลังยัดออฟชั่นอยู่ ;D
-
อยากรู้สเปคน้ำหนักครับ revo นี่หนักมาก Fortuner ไม่รู้เป็นยังไง
-
คำถามที่น่าสนใจคือ MU-X กับ เทรลเบอร์เซอร์ จะแก้ลำออกมาชนยังไง
น่าจะจัดส่วนลดหนักๆ ก่อนเลยตอนนี้
-
เอาตรงๆนะครับ ถ้าซื้อมาไว้เป็นรถหลักประจำบ้าน ใช้งานประจำยังไงก็เลือก Fortuner ส่วนเจ้า Everest เอาไว้เป็นรถคันที่2ลำดับถัดๆไปของบ้านน่ะโอเค รถเมกันในไทยทั้ง2ยี่ห้อ ณ เวลานี้ไม่ไว้ใจเลย
-
ผมมองว่ายังไงก้อเอสเวอเรส จัดเต็มน่าใช้กว่า แต่ยังไงก้อโตโยต้า น่าซื้อมากกว่าเยอะครับ
-
ขอบคุณมากครับ
แต่เพื่อนๆในกลุ่มไลน์ส่งเอกสารของฟอร์ด everest มี
1. ไฟ 230 v
2. ระบบลดเสียงรบกวน (น่าจะเป็น ANC) แรงสั่นสะเทือน (ไม่ทราบว่าคืออะไร) และความกระด้าง (ไม่รู้ว่าคืออะไรเช่นกันครับ)
-
ผมจองEverest ไปนะ ราคากับสิ่งที่ได้ มันยากที่จะปฏิเสธ
ส่วนfortuner ผมยังรู้สึกว่าไม่สมราคา ออฟชั่นต่างๆ เทียบกับeverest ตัวรองท๊อปก็พอไหว
เท่าที่ใช้ฟอร์ด มา 3ปี ผมโอเคกับมันนะ (ตอนจะซื้อ3.2WT ก็เทียบกับ Camry 2.5G นี้ละ ทำให้รู้สึกซื้อกระบะดีกว่า)
-
option ของ FTN ก็ไม่ขี้เหร่นะครับ เทียบกับ EV
แต่ความน่าไว้ใจของศูนย์บริการนำไปไกลอยู่อยากรู้สเปคน้ำหนักครับ revo นี่หนักมาก Fortuner ไม่รู้เป็นยังไง
โบรชัวร์ก็ไม่แจ้งไว้นี่สิครับ น่าแปลก ปกติข้อมูลตัวรถในโบรชัวร์ของยี่ห้อนี้จะครบตลอด
ผมเดาว่าร้ำหนักคงแถวๆ 1990-2100kg
-
ขอบคุณมากครับ
1. ไฟ 230 v
2. ระบบลดเสียงรบกวน (น่าจะเป็น ANC) แรงสั่นสะเทือน (ไม่ทราบว่าคืออะไร) และความกระด้าง (ไม่รู้ว่าคืออะไรเช่นกันครับ)
2. ใช่ครับอันเดียวกับ Active Noise Cancelling
1. ส่วนช่องชาร์จไฟ 230V ขอเช็คกับ Ford Thailand
แปปนะครับ เพราะคันที่มาโชว์คันจริงบางคันมี บางคันไม่มี
ใน Specsheet ไม่ได้ระบุไว้ ต้องรอดูคันจริงสัปดาห์หน้า
-
รอดู daylight ในโคมไฟหน้า mu-x กับไฟท้าย led และครูคอนโทรล ถุงลม 7 ใบ รวมถึงเครื่อง 2500 twin turbo อยู่นะ
-
ขอบคุณมากครับ คุณหมู .......เปรียบเทียบชัดเจนขนาดนี้เลือกไม่ยากเลยครับ อดใจรอปาเจโร่อีกตัว จะได้ตัดสินใจสักที รอมานาน
-
น่าตลก ตรงที่ว่า Fortuner ตัว TOP ... Option ยังแพ้แม้แต่ Ranger Wildtrak ตัวเก่าด้วยซ้ำ ...
ปัดน้ำฝนยังไม่ Auto กับกระจกมองหลังยังไม่ตัดแสง auto เลย .....
Option Everest ชนะหลุดรุ่ย และเชื่อว่า การขับขี่ Everest ก็จะชนะหลุดรุ่ยเช่นกัน ....
-
รอเทียบกับปาเจโร่อีกคันครับ. เพราะสวยเหลือเกิน
-
โชคดีที่เพิ่งขาย Mu-X ไป :)
-
ดูจาก spec แล้ว EV น่าใช้มาก สมกับเป็น SUV ราคา 1.6M แต่ FT ภาษีดีกว่าที่่ศูนย์บริการ
และดูจากอัตราทดเกียร์แล้ว FT ดูจะประหยัดน้ำมันกว่า แต่ EV น่าจะแรงดึงติดเบาะกว่าแน่ๆ
สำหรับ ANC จากประสบการณ์ผมจะใส่ในรถที่เก็บเสียงเครื่องกับเกียร์สุดชีวิตแล้ว
ก๊อกต่อไปจะเป็น ANC เพราะหมดมุขจะเล่นแล้ว
เพราะถ้าใส่อุปกรณ์ซับเสียงเพิ่ม น้ำหนักรถมันจะเพิ่ม และกินน้ำมันมากขึ้น
แต่ไม่ได้แปลว่าเดิมๆเสียงมันจะดังนะครับ แต่หมายถึงวิศวกรอยากให้เสียงมันเงียบกว่าปกติอีกระดับ
ต้องไปลองขับครับว่าการเก็บเสียงสองรุ่นนี้ต่างกันขนาดไหน
วันนี้ผมไปดู FT ดันไม่มีให้ลองขับซะงั้น เซ็ง...
-
เครื่องเล่น DVD ในรถ สำหรับคนไทยผมว่าเป็นของคู่กันนะ แต่เอเวอร์เรสไม่ให้มา
อีกสองอย่างที่ฟอร์ฯ มีแต่เอเวอร์เรสไม่มี คือพัดเดิ้ลชิป กับพุดสตาร์ท นอกนั้นน้อยกว่า
-
เครื่องเล่น DVD ในรถ สำหรับคนไทยผมว่าเป็นของคู่กันนะ แต่เอเวอร์เรสไม่ให้มา
อีกสองอย่างที่ฟอร์ฯ มีแต่เอเวอร์เรสไม่มี คือพัดเดิ้ลชิป กับพุดสตาร์ท นอกนั้นน้อยกว่า
DVD ผมเฉยๆนะมีช่อง usb จบแล้ว แต่น่าจะให้ keyless กับ push start นะ :'( 8) :'(
แต่ FTN ก็เกินไปหน่อยนะ ปัดน้ำฝนปรับมือ เบาะหน้าปรับมือ ปรับไฟฟ้าแค่ 4 ทิศทาง ดรัมเบรกหลัง และ part time 4x4 ตัด ดิ๊ฟล็อค ในรีโว้ยังให้มาเลยนะ
ส่วนการเลือกรถ มันก็แล้วแต่คนแหละครับ และหลายปัจจัย เมื่อวานผมลองขับทั้ง Ranger 3.2 WT และ FTN เพราะที่ชลบุรีศูนย์ไกล้ๆกัน แปลกดีที่รถกระบะขับขี่ดีกว่า ถ้าเป็น everest คงจะชัดเจนกว่านี้
ส่วนตัวผมมองว่า everest นั่นคบครันสิ่งที่ให้มามันคุ้มค่ากับราคา และก็แอบสงสัยไม่ได้ ทำไมโตโยต้าจึงขายรถแพงนัก และทำไมไม่เน้นพัฒนารถให้มันดีนำหน้าคู่แข่งทั้งๆที่ศักยภาพสูง กำไรจากรุ่นที่แล้วก็มากมาย กลับไปทุ่มแต่งบโฆษณา จนลูกค้าประจำโตโยต้าอย่างผมรู้สึกว่าผมไม่ใช่นะ
-
สำหรับผมนะ ถ้าจะซื้อยังไงก็ EV ครับ
ออฟชั่นเพียบกว่า การขับขี่แน่นกว่า มีหลังคาแก้ว ที่สำคัญผมชอบภายนอก/ในมากกว่าจูน จบ!!!
ใครจะซื้อ0บริการ อะไหล่ ขายต่อหรืออะไรก็สุดแล้วแต่ เงินใครเงินมัน
-
งอลfordที่ต้องให้รอนาน แต่เทียบออกมาแบบนี้แล้วคงต้องรอต่อไปละครับ
ในราคาเท่ากันแค่หลังคาพาโนรามิคก็คุ้มแล้วครับ เวลาพาเด็กๆไปเที่ยวคงจะชอบ
-
งอลfordที่ต้องให้รอนาน แต่เทียบออกมาแบบนี้แล้วคงต้องรอต่อไปละครับ
ในราคาเท่ากันแค่หลังคาพาโนรามิคก็คุ้มแล้วครับ เวลาพาเด็กๆไปเที่ยวคงจะชอบ
ผมคนชอบเที่ยวหน้าหนาว ชอบเหมือนกันครับ รอลุ้นว่าค่ายมิตซูฯ จะให้มาในปาฯปอด หรือป่าว แต่เดาว่าคงไม่มี
-
งอนครับ EVคันละล้านหก ไม่มีPushStart / SmartEntry
-
ขอบคุณครับ ช่วยได้เยอะเลยใครที่เล็งๆ 2 ตัวนี้อยู่ เรื่อง Option ก็ยังไม่มีตัวไหนได้เปรียบชัดเจน มีตกๆ หล่นๆ กันทั้งคู่ (ในสายตาผมนะครับ) แต่ถ้าวัดโดยรวม และเน้นไปที่พวก Active Safety... Everest ดูจะคุ้มกว่านิดหน่อย 8)
-
คันหนึ่งเน้นแต่ของเล่น
อีกคันเน้นแต่ของจริง...
-
ผมกำลังว่าจะหาซื้อรถครอบครัวพอดีเลยครับ ไม่เคยใช้งานมาก่อนปกติขับแต่รถเก๋ง
ได้ข้อมูลจากเว็บนี้แบบไม่ต้องไปหาที่ไหนเลย ครบถ้วนจริงๆ เปิดดูทุกวันช่วงนี้
ตอนนี้ใจเอนไปทาง Everest แต่เดี๋ยวรอ PJS อีกคันนึงก่อน ค่อยตัดสินใจซื้อ
ว่าแต่วันที่ในงาน Big Motor Sale วันที่ 1-9 นี่ จะมีให้ test ทั้ง 3 ตัวเลยไหมครับเนี่ย ;D
-
ผมเลือกกาฟอร์ด
-
มิว ฟอ ปา ใครจะเป็นที่ 1-2-3
-
เอเวอร์ พลาดไม่กี่อย่าง dvd นี่ เอาจริงๆสำคัญนะ
คนซื้อรถใหญ่แบบนี้ ลูกหลาน ชอบมากถ้ามีการ์ตูนเปิดให้ดู
paddle shift , idle stop , push start ผมเฉยมาก
ไม่มีก็ไม่รู้สึกอะไร แค่รู้สึกนิดเดียวว่า มันดูไม่ทันสมัย
idle stop นี่จริงๆ มีมาให้ก็กดปิดระบบทุกที
paddle shift แทบไม่ได้ใช้ นานที ไปกระดิกมันที เพื่อจะได้รู้ว่า มันไม่เสีย
ในขณะที่ฟอร์ไม่มี แต่ เอเวอร์มีนี่แต่ละอย่างสร้างความแตกต่างเยอะ
แค่ระบบช่วยจอดก็ถือเป็นระบบที่ใหม่มากสำหรับรถในบ้านเราแล้ว
ส่วนฟอร์ ปัจจุบัน ยังเอาเบาะแถวสามไปแขวนไว้อยู่เลย
(ผิดหวังตัวนี้มากนะ ทำไมไม่คิดจะพับเก็บเหมือคู่แข่ง)
-
ตอนนี้ผมตัด ฟอร์จูนเนอร์ ออกไปจากตัวเลือกแล้วครับ รอเทียบเอเวอร์เรส กะปาเจโร่สปอร์ท เท่านั้น
-
ถาม นิดนึงครับ เห็น fortuner ตัวใหม่ เป็นไฟหน้า LED แล้ว แต่เห็นมี โปรเจคเตอร์ข้างละ 1 ลูก ปกติ รุ่นอื่นๆ มีข้างละ 2 ลูก เดี๋ยวนี้ LED 1หลอด มันสว่างสู้ hid ได้แล้วใช่รึเปล่าครับ
-
มีพอร์ต USB อ่านเปิดหนังเปิดเพลงได้ มันดีกว่าเป็นแผ่นอีกนะ
-
ถ้ามีเงิน... จัด Everest แน่นอน :-X :-X
-
ผมยังไม่มีความจำเป็นต้องซื้อรถ SUV เพิ่มแต่อย่าใดในเวลานี้เพราะจะเก็บเงินซือ้รถสปอร์ตเท่านั้นหรือไปลงทุนทำอย่างอื่น
แต่ถ้าใช้ให้ซื้อในเวลานี้ ขนาดผมที่เป็นแฟนโตโยต้ามาตลอด รถที่บ้านเป็นโตโยต้า 5 คัน ถ้าจะให้ตัดใจซื้อ New Fortuner ในเวลานี้หลังจากเปิดตัวมาแล้วยังต้องกลับไปคิดใหม่เลย ว่าควรใช้ Fortuner คันเดิมไปดีกว่า แต่ถ้าต้องซื้อเพิ่มเพื่อใช้งานจริง ๆ คงต้องหันไปเลือก Ford Everest แทนในชั่วโมงนี้ แต่ต้องเป็นตัวท๊อปหลังคาพาโนรามิกนะ
เรื่องศูนย์ไม่ห่วงเท่าไหร่ แค่ทำใจว่าแพงกว่า Toyota ที่ใช้อยู่ เท่านั้น เพราะรถแบบนี้รวมถึงสไตล์ปิคอัพ มันไม่ได้น่ากลัวเท่ารถเก๋งหรอก หลายคนห่วงเรื่องการบริการในศูนย์ฟอร์ด และมั่นใจในพี่โตมากกว่า แต่เรื่องรถปิคอัพกับ PPV มันไม่น่าห่วงอะไรเท่ารถเก๋ง รถมันคนละประเภทกัน ไม่จุกจิกหรอก ทนทานกว่ากันเยอะกว่าจะซ่อมก็ยาวล่ะ ไม่น่าห่วง ไม่ต้องพึ่งพาช่างในศูนย์มากนัก ระบบไม่ซับซ้อน
ขนาดพวกปิคอัพ เชฟโรเลตยังไม่ค่อยเป็นอะไรเลย ยกเว้นรถเก๋งที่คบไม่ได้
-
ถาม นิดนึงครับ เห็น fortuner ตัวใหม่ เป็นไฟหน้า LED แล้ว แต่เห็นมี โปรเจคเตอร์ข้างละ 1 ลูก ปกติ รุ่นอื่นๆ มีข้างละ 2 ลูก เดี๋ยวนี้ LED 1หลอด มันสว่างสู้ hid ได้แล้วใช่รึเปล่าครับ
LEDไม่น่าใช่หลอดเดียวนะครับ ข้างในน่าจะมีหลายหลอดครับ
-
Disk เบรคหลังกับ Difflock มีแผนใส่มาให้ในการปรับครั้งต่อไปแล้วครับ เร็วช้าก็แล้วแต่การตัดสินใจของผู้บริหารเลย
TRD ก็ยังเป็น Drum ครับ ชุดแต่งพร้อมแลัว รอเวลาเท่านั้นครับ
-
ถาม นิดนึงครับ เห็น fortuner ตัวใหม่ เป็นไฟหน้า LED แล้ว แต่เห็นมี โปรเจคเตอร์ข้างละ 1 ลูก ปกติ รุ่นอื่นๆ มีข้างละ 2 ลูก เดี๋ยวนี้ LED 1หลอด มันสว่างสู้ hid ได้แล้วใช่รึเปล่าครับ
LEDไม่น่าใช่หลอดเดียวนะครับ ข้างในน่าจะมีหลายหลอดครับ
2 หลอดครับ แยกต่ำ-สูง
ถึงเรียกว่า Bi-LED หรือ Bi-Beam
-
เรื่อง DVD ที่ FOR มี หรือไม่ว่าจะยี่ห้อไหน ที่ใส่มาให้ ผมบอกเลย ว่าไม่ดีนะครับ ..... (ความคิดเห็นส่วนตัว)
DVD เป็น option ที่ทำร้ายผู้โดยสารและผู้ขับขี่ที่สุดครับ ....
โดยพื้นฐานแล้ว การใช้งาน จอ DVD จะใช้งานได้ในกรณีที่รถ หยุด หรือใส่เกียร์ P เท่านั้น .. แต่ยังไงซะ พี่ไทย ก็จะต้องไปปลดล๊อคให้มันสามารถดูได้ในขณะรถวิ่งอยู่ดี ซึ่ง ..... มันอันตราย ....
คุณมั่นใจไหมว่า ถ้าเปิดหนังอยู่แล้ว มีฉากเลิฟซีน หรือฉากบุ๊ แล้วคุณคนขับจะไม่หันมาดู ...... (นั่นคือคุณต้องละสายตาจากถนน อันตรายเทียบเท่ากับการหลับใน)
หน้าจอ 7 นิ้ว ถ้าเด็กนั่ง ที่แถว 2 แล้วดู DVD ขณะรถวิ่ง เค้าจะเสียสายตาขนาดไหน ...... (ในขณะที่รถวิ่ง แสงสว่างจากด้านหน้ารถจะสว่างมากกว่าหน้าจอ DVD ทำให้เด็กต้องเพ่งสายตามากกว่า ปรกติ)
หลายเหตุผลครับ ที่จริงๆแล้วระบบ DVD ไม่ควรมีในรถ .... แต่จ้าวตลาดก็พยายามยัดมาให้คนไทยและถือเป็นจุดขาย .... บอกเลย ผมโคตร Anti เลย ...ไอ้ DVD ในรถเนี่ย ...
-
+1
ผมนี้ไม่ยอมให้เด็กดูDVD ในรถเลย ไม่เห็นประโยชน์ที่ได้รับเลยจริงๆ
หวังเเค่ว่า จอจะอ่านsd card ที่เป็นแผนที่ได้เหมือนมาสด้า2 เเค่นั้น
-
สมัยเด็กๆ ผม ดูนะครับ DVD ในรถ ชอบมาก
ต่อ Playstation 2 ด้วย :-* :-*
-
Disk เบรคหลังกับ Difflock มีแผนใส่มาให้ในการปรับครั้งต่อไปแล้วครับ เร็วช้าก็แล้วแต่การตัดสินใจของผู้บริหารเลย
TRD ก็ยังเป็น Drum ครับ ชุดแต่งพร้อมแลัว รอเวลาเท่านั้นครับ
เขาทำแบบนี้ ไม่เห็นใจผู้บริโภคเลยนะครับ
สงสัยจะใส่มาให้ตอนปรับภาษี
-
ปัญหาไปโทษ DVD เองหรอกรึ
ทำไมไม่โทษคนขับละ จะละสายตาทำไม ขับรถต้องมีสมาธิสิ
เครื่องเล่นเค้าให้คนโดยสารดู รถผมก็มีเครื่องเล่นพวกนี้
ผมขับรถระยะทาง 800 กว่าโล ไม่เห็นผมจะได้ดูจออะไรเลย
ผมเปิดให้ลูกให้หลานดู ให้เมียดูเวลาร่วมทางด้วยกันจะได้ไม่เหงา
ส่วนผมคนขับ สมาธิผมอยู่บนถนนนู่นครับ ผมต้องดูแลคนโดยสารที่มากับผม
ฉะนั้น สติ สมาธิ ผมไม่ได้อยู่ที่จอพวกนี้หรอก ไม่มีสิผมเคือง ผมให้ความสำคัญกับผู้โดยสารเหมือนกันนะ
รถครอบครัว แม่ ลูก หลาน นั่งดูเรื่องเดียวกัน คุยกัน สนทนากัน ในเรื่องเดียวกัน
ผมว่ามันดีกว่าที่จะให้ ลูกหลาน เมีย มองก้มหน้า มือถือใคร มือถือมันเสียอีก มีแต่สังคมก้มหน้า
เมียเครื่อง ลูกเครื่อง คุยกันหรือทำกิจกรรมร่วมกันแทบไม่มี มีแต่โลกใครโลกมัน
-
รอ MC ทั้งคู่ครับ
หรือรอไปอีกประมาณ 1 ปี รอแก้ไขปัญหาต่างๆให้จบก่อน
เพราะอุปกรณ์เยอะ ปัญหาก็เยอะตาม
ปล.คหสต
-
ลองขับรถกลับต่างจังหวัดช่วงเทศกาลดูครับ แล้วจะรู้สึกว่าการมีdvdอยู่ในรถนี่ก็เป็นอะไรที่ไม่เลวทีเดียว
-
เมื่อก่อน แคมรี่ของผมไม่มี DVD ก็อาศัย iPad ไป แล้วก็ไปติด DVD พร้อมกล้องมองหลัง
ตอนนี้ผมใช้แค่กล้องมองหลัง DVD ก็เปิดเพลงอย่างเดียว เพราะการพาลูกๆไปเที่ยวคือให้เขาเห็นโลกข้างนอก ไม่ใช่เหมือนนั่งอยู่ในบ้านดูการ์ตูน เล่นเกมส์ ตอนนี้จอหมอนผมถอดทิ้งไปแล้ว
ส่วนท่านไหนจะเห็นว่าสำคัญก็แล้วแต่ความคิด และบริบทของท่าน
อันตรายจ่กการดู dvd ขณะขับรถเขารู้กันทั่วครับ บริษัทรถยนต์ก็ป้องกันไว้แล้ว แต่คุณพี่ทั้งหลายก็สรรหาวิธีการเพิ่มอันตรายให้ตัวเอง ถ้าตั้งสะติกับถนนได้ 100% มันดีครับ แต่ที่เกิดอุบัติเหตุก็เพราะพลาดไม่กี่ % ไม่ใช่เหรอครับ
-
Disk เบรคหลังกับ Difflock มีแผนใส่มาให้ในการปรับครั้งต่อไปแล้วครับ เร็วช้าก็แล้วแต่การตัดสินใจของผู้บริหารเลย
TRD ก็ยังเป็น Drum ครับ ชุดแต่งพร้อมแลัว รอเวลาเท่านั้นครับ
ถ้าแบบนั้นคงได้รอตัวนี้ล่ะครับ แต่ไม่ใช่ไปปรับเอาท้าย ๆ โมเดลโน่นนะ แบบนั้นไม่ไหวครับ
-
เครื่องเล่น DVD ในรถ สำหรับคนไทยผมว่าเป็นของคู่กันนะ แต่เอเวอร์เรสไม่ให้มา
อีกสองอย่างที่ฟอร์ฯ มีแต่เอเวอร์เรสไม่มี คือพัดเดิ้ลชิป กับพุดสตาร์ท นอกนั้นน้อยกว่า
DVD ผมเฉยๆนะมีช่อง usb จบแล้ว แต่น่าจะให้ keyless กับ push start นะ :'( 8) :'(
แต่ FTN ก็เกินไปหน่อยนะ ปัดน้ำฝนปรับมือ เบาะหน้าปรับมือ ปรับไฟฟ้าแค่ 4 ทิศทาง ดรัมเบรกหลัง และ part time 4x4 ตัด ดิ๊ฟล็อค ในรีโว้ยังให้มาเลยนะ
ส่วนการเลือกรถ มันก็แล้วแต่คนแหละครับ และหลายปัจจัย เมื่อวานผมลองขับทั้ง Ranger 3.2 WT และ FTN เพราะที่ชลบุรีศูนย์ไกล้ๆกัน แปลกดีที่รถกระบะขับขี่ดีกว่า ถ้าเป็น everest คงจะชัดเจนกว่านี้
ส่วนตัวผมมองว่า everest นั่นคบครันสิ่งที่ให้มามันคุ้มค่ากับราคา และก็แอบสงสัยไม่ได้ ทำไมโตโยต้าจึงขายรถแพงนัก และทำไมไม่เน้นพัฒนารถให้มันดีนำหน้าคู่แข่งทั้งๆที่ศักยภาพสูง กำไรจากรุ่นที่แล้วก็มากมาย กลับไปทุ่มแต่งบโฆษณา จนลูกค้าประจำโตโยต้าอย่างผมรู้สึกว่าผมไม่ใช่นะ
ที่พี่โตขายแพง ผมมองไปที่กำไรมากกว่าครับ, ขายเยอะกว่า,ขายแพงกว่า(เมื่อเทียบออพชั่น),จึงสามารถเปิดศูนย์และโฆษณาได้เยอะกว่านะครับ นี่คือความเห็นส่วนตัวผมล้วนๆ สำหรับผมไม่ได้คบพี่โตมานานแล้วครับ
-
เชียร์ ford ครับผม
-
พูดถึงจอ DVD นี่
ทุกวันนี้ขับรถตอนกลางคืน ออกจ่างจังหวัด แสงสว่างแยงตามาก ขับรถรบกวนสายตาจริงๆ แทบอยากจะถอดออกเลยหล่ะ
-
เครื่องเล่น DVD ในรถ สำหรับคนไทยผมว่าเป็นของคู่กันนะ แต่เอเวอร์เรสไม่ให้มา
อีกสองอย่างที่ฟอร์ฯ มีแต่เอเวอร์เรสไม่มี คือพัดเดิ้ลชิป กับพุดสตาร์ท นอกนั้นน้อยกว่า
DVD ผมเฉยๆนะมีช่อง usb จบแล้ว แต่น่าจะให้ keyless กับ push start นะ :'( 8) :'(
แต่ FTN ก็เกินไปหน่อยนะ ปัดน้ำฝนปรับมือ เบาะหน้าปรับมือ ปรับไฟฟ้าแค่ 4 ทิศทาง ดรัมเบรกหลัง และ part time 4x4 ตัด ดิ๊ฟล็อค ในรีโว้ยังให้มาเลยนะ
ส่วนการเลือกรถ มันก็แล้วแต่คนแหละครับ และหลายปัจจัย เมื่อวานผมลองขับทั้ง Ranger 3.2 WT และ FTN เพราะที่ชลบุรีศูนย์ไกล้ๆกัน แปลกดีที่รถกระบะขับขี่ดีกว่า ถ้าเป็น everest คงจะชัดเจนกว่านี้
ส่วนตัวผมมองว่า everest นั่นคบครันสิ่งที่ให้มามันคุ้มค่ากับราคา และก็แอบสงสัยไม่ได้ ทำไมโตโยต้าจึงขายรถแพงนัก และทำไมไม่เน้นพัฒนารถให้มันดีนำหน้าคู่แข่งทั้งๆที่ศักยภาพสูง กำไรจากรุ่นที่แล้วก็มากมาย กลับไปทุ่มแต่งบโฆษณา จนลูกค้าประจำโตโยต้าอย่างผมรู้สึกว่าผมไม่ใช่นะ
ที่พี่โตขายแพง ผมมองไปที่กำไรมากกว่าครับ, ขายเยอะกว่า,ขายแพงกว่า(เมื่อเทียบออพชั่น),จึงสามารถเปิดศูนย์และโฆษณาได้เยอะกว่านะครับ นี่คือความเห็นส่วนตัวผมล้วนๆ สำหรับผมไม่ได้คบพี่โตมานานแล้วครับ
โตโยต้า ขายแพง เพราะต้นทุนโฆษณาสูงครับ
ศูนย์บริการคือเอกชนรายอื่น โตโยต้า ไม่ได้มาช่วยพัฒนาครับ ในทางตรงกันข้าม ศูนย์ต้องทำตามโตโยต้าเข่นการตัดขายรีโว้ 8100 คัน เพื่อให้ยอดขายชนะอีซูสุ แต่รถจอดอยู่ที่โกดังของศูนย์ ก็รับความเสี่ยงไป โตโยต้าก็ได้หน้า แชมป์ยอดขายไป
-
ในเรื่องของความปลอดภัย กรณี DVD ก็ตามที่หลายท่านบอกแระครับ มันเพิ่มความเสี่ยง ก็อยู่ที่ผู้ใช้รถแต่ละคนจะคุมสมาธิของตัวเองได้ดีแค่ไหน
-
หาแผ่นใหม่ๆไม่ค่อยได้คับ โหลดเพลงเสียบ usbใช้บ่อยสุด
-
แล้ว เอาแบบกลางๆ นะครับ ถ้าเป็นรถที่ซื้อมาใช้ 10 ปี ขึ้นไป ราคา+ค่าอะไหร่ +ค่าซ่อมบำรุง ยี่ห้อไหนน่าจะสบายใจกว่าครับ
-
เครื่องเล่น DVD ในรถ สำหรับคนไทยผมว่าเป็นของคู่กันนะ แต่เอเวอร์เรสไม่ให้มา
อีกสองอย่างที่ฟอร์ฯ มีแต่เอเวอร์เรสไม่มี คือพัดเดิ้ลชิป กับพุดสตาร์ท นอกนั้นน้อยกว่า
DVD ผมเฉยๆนะมีช่อง usb จบแล้ว แต่น่าจะให้ keyless กับ push start นะ :'( 8) :'(
แต่ FTN ก็เกินไปหน่อยนะ ปัดน้ำฝนปรับมือ เบาะหน้าปรับมือ ปรับไฟฟ้าแค่ 4 ทิศทาง ดรัมเบรกหลัง และ part time 4x4 ตัด ดิ๊ฟล็อค ในรีโว้ยังให้มาเลยนะ
ส่วนการเลือกรถ มันก็แล้วแต่คนแหละครับ และหลายปัจจัย เมื่อวานผมลองขับทั้ง Ranger 3.2 WT และ FTN เพราะที่ชลบุรีศูนย์ไกล้ๆกัน แปลกดีที่รถกระบะขับขี่ดีกว่า ถ้าเป็น everest คงจะชัดเจนกว่านี้
ส่วนตัวผมมองว่า everest นั่นคบครันสิ่งที่ให้มามันคุ้มค่ากับราคา และก็แอบสงสัยไม่ได้ ทำไมโตโยต้าจึงขายรถแพงนัก และทำไมไม่เน้นพัฒนารถให้มันดีนำหน้าคู่แข่งทั้งๆที่ศักยภาพสูง กำไรจากรุ่นที่แล้วก็มากมาย กลับไปทุ่มแต่งบโฆษณา จนลูกค้าประจำโตโยต้าอย่างผมรู้สึกว่าผมไม่ใช่นะ
ที่พี่โตขายแพง ผมมองไปที่กำไรมากกว่าครับ, ขายเยอะกว่า,ขายแพงกว่า(เมื่อเทียบออพชั่น),จึงสามารถเปิดศูนย์และโฆษณาได้เยอะกว่านะครับ นี่คือความเห็นส่วนตัวผมล้วนๆ สำหรับผมไม่ได้คบพี่โตมานานแล้วครับ
โตโยต้า ขายแพง เพราะต้นทุนโฆษณาสูงครับ
ศูนย์บริการคือเอกชนรายอื่น โตโยต้า ไม่ได้มาช่วยพัฒนาครับ ในทางตรงกันข้าม ศูนย์ต้องทำตามโตโยต้าเข่นการตัดขายรีโว้ 8100 คัน เพื่อให้ยอดขายชนะอีซูสุ แต่รถจอดอยู่ที่โกดังของศูนย์ ก็รับความเสี่ยงไป โตโยต้าก็ได้หน้า แชมป์ยอดขายไป
สร้างเงื่อนไขแชมป์ตั้งแต่เดือนแรกเลยหรือครับ แล้วเดือนต่อๆๆไปจะทำอย่างไร
-
แล้ว เอาแบบกลางๆ นะครับ ถ้าเป็นรถที่ซื้อมาใช้ 10 ปี ขึ้นไป ราคา+ค่าอะไหร่ +ค่าซ่อมบำรุง ยี่ห้อไหนน่าจะสบายใจกว่าครับ
ถ้าเอาซ่อมบำรุงสบายใจหนีไม่พ้นโตโยต้าเพราะขายเยอะอะไหล่เยอะ มีอะไล่ทดแทนในร้านอะไหล่เยอะกว่า แต่ถ้าของแท้ด้วยกันซื้อศูนย์ด้วยกันฟอร์ดแพงกว่า 20-30% แต่รถพวกนี้มันไม่ได้ซ่อมจุกจิกเหมือนรถเก๋งน่ะ กว่าจะซ่อมแต่ละครั้งก็นาน เพราะมันเน้นสมบุกสมบัน
-
แล้ว เอาแบบกลางๆ นะครับ ถ้าเป็นรถที่ซื้อมาใช้ 10 ปี ขึ้นไป ราคา+ค่าอะไหร่ +ค่าซ่อมบำรุง ยี่ห้อไหนน่าจะสบายใจกว่าครับ
ถ้าเอาซ่อมบำรุงสบายใจหนีไม่พ้นโตโยต้าเพราะขายเยอะอะไหล่เยอะ มีอะไล่ทดแทนในร้านอะไหล่เยอะกว่า แต่ถ้าของแท้ด้วยกันซื้อศูนย์ด้วยกันฟอร์ดแพงกว่า 20-30% แต่รถพวกนี้มันไม่ได้ซ่อมจุกจิกเหมือนรถเก๋งน่ะ กว่าจะซ่อมแต่ละครั้งก็นาน เพราะมันเน้นสมบุกสมบัน
เอาจากที่ใช้ฟอร์ด แล้วเข้าศูนย์มาตลอดนะครับ 10 ปี กับ 8 ปี จะ 9 ปีละ ราคารถพวกกระบะกับ PPV ไม่ได้แพงครับ แต่ถ้าของใหญ่พังเปลี่ยนมันก็แพง
แต่ถ้าเข้าเชคระยะ ปกติ ก็ 1500-3000 บาท ประมาณนี้ ยกเว้นไปเจออะไรผิดปกติ
-
แล้ว เอาแบบกลางๆ นะครับ ถ้าเป็นรถที่ซื้อมาใช้ 10 ปี ขึ้นไป ราคา+ค่าอะไหร่ +ค่าซ่อมบำรุง ยี่ห้อไหนน่าจะสบายใจกว่าครับ
ถ้าเอาซ่อมบำรุงสบายใจหนีไม่พ้นโตโยต้าเพราะขายเยอะอะไหล่เยอะ มีอะไล่ทดแทนในร้านอะไหล่เยอะกว่า แต่ถ้าของแท้ด้วยกันซื้อศูนย์ด้วยกันฟอร์ดแพงกว่า 20-30% แต่รถพวกนี้มันไม่ได้ซ่อมจุกจิกเหมือนรถเก๋งน่ะ กว่าจะซ่อมแต่ละครั้งก็นาน เพราะมันเน้นสมบุกสมบัน
ขอบคุณครับผม แต่ ฟอร์ด ผมติดอีกอย่างคือ เครื่งใหญ่ไป 3.2 นี่ มันมีซดกับซดอย่างเดียวแน่ๆ ถ้าตัว Top 2.2 full time 4WD มันจะสุดๆ เลยครับ
For ก็ไม่ Full time น่าเสียดายมากครับ
-
แล้ว เอาแบบกลางๆ นะครับ ถ้าเป็นรถที่ซื้อมาใช้ 10 ปี ขึ้นไป ราคา+ค่าอะไหร่ +ค่าซ่อมบำรุง ยี่ห้อไหนน่าจะสบายใจกว่าครับ
ถ้าเอาซ่อมบำรุงสบายใจหนีไม่พ้นโตโยต้าเพราะขายเยอะอะไหล่เยอะ มีอะไล่ทดแทนในร้านอะไหล่เยอะกว่า แต่ถ้าของแท้ด้วยกันซื้อศูนย์ด้วยกันฟอร์ดแพงกว่า 20-30% แต่รถพวกนี้มันไม่ได้ซ่อมจุกจิกเหมือนรถเก๋งน่ะ กว่าจะซ่อมแต่ละครั้งก็นาน เพราะมันเน้นสมบุกสมบัน
ขอบคุณครับผม แต่ ฟอร์ด ผมติดอีกอย่างคือ เครื่งใหญ่ไป 3.2 นี่ มันมีซดกับซดอย่างเดียวแน่ๆ ถ้าตัว Top 2.2 full time 4WD มันจะสุดๆ เลยครับ
For ก็ไม่ Full time น่าเสียดายมากครับ
ผมให้เดานะ 2.2 4*4 คงมีในอนาคต รวมถึงรุ่นที่เหนือกว่าท็อปปัจจุบัน ที่ออฟชั่น ท็อปตอนนี้มีไม่ถึงแบบตัวส่งออก
-
แล้ว เอาแบบกลางๆ นะครับ ถ้าเป็นรถที่ซื้อมาใช้ 10 ปี ขึ้นไป ราคา+ค่าอะไหร่ +ค่าซ่อมบำรุง ยี่ห้อไหนน่าจะสบายใจกว่าครับ
ถ้าเอาซ่อมบำรุงสบายใจหนีไม่พ้นโตโยต้าเพราะขายเยอะอะไหล่เยอะ มีอะไล่ทดแทนในร้านอะไหล่เยอะกว่า แต่ถ้าของแท้ด้วยกันซื้อศูนย์ด้วยกันฟอร์ดแพงกว่า 20-30% แต่รถพวกนี้มันไม่ได้ซ่อมจุกจิกเหมือนรถเก๋งน่ะ กว่าจะซ่อมแต่ละครั้งก็นาน เพราะมันเน้นสมบุกสมบัน
ขอบคุณครับผม แต่ ฟอร์ด ผมติดอีกอย่างคือ เครื่งใหญ่ไป 3.2 นี่ มันมีซดกับซดอย่างเดียวแน่ๆ ถ้าตัว Top 2.2 full time 4WD มันจะสุดๆ เลยครับ
For ก็ไม่ Full time น่าเสียดายมากครับ
เรื่องค่าบำรุงรักษา ถ้าเข้าศูนย์ ค่าเเรงก็พอๆกันครับ อะไหล่บางตัว โตถูกกว่า
แต่ค่าเปลี่ยนน้ำมันเครื่องนี้ เครื่อง3.2 เเพงกว่าครับ เครื่องตัวนี้ใช้น้ำมันเครื่องราวๆ 10ลิตร ถ้าใช้เกรดแพงสุดในศูยน์ ราคาเข้าเช็คทุก 15,000กม จะอยู่ราวๆ 5,000 กว่าบาทครับ โต เช็คทุก10,000กม พอถั่วเฉลี่ยก็พอๆกัน
อัตราการกินน้ำมัน เครื่อง2.2 ไม่ได้ประหยัดกว่าเครื่อง 3.2เลยครับ แล้วผมก็มั่นใจว่า เครื่อง2.8ของโตก็ไม่ได้มีตัวเลขที่ดีเด่อะไร
เรื่องเกียร์ พอได้ลองฟอร์จูนเนอร์ ผมว่าเกียร์เขาทำได้ไม่ดีเลย ไม่ฉลาด มีอาการชวนหงุดหงิดกว่า3.2wt โหมดสปอร์ต หรือEco ก็เหมือนคุณติดกล่องคันเร่งไฟฟ้านั้นละ
เรื่องการขับขี่ การเบรค การเกาะถนน สู้เเรงเจอร์ไม่ได้ ที่สำคัญฟอร์จูนเนอร์ตัวนี้เมื่อใช้ความเร็วเกิน120 มีอาการพวงมาลัยชวนเครียดเอาเรื่อง เบาเเปลกๆ
ฟอร์จูนเนอร์ตบเเต่ภายในได้สวย แต่กระจกตัดเเสงมีขายในราคา6,000บาท อันนี้พูดไม่ออกจริงๆ ตอนดูรถมีคนแก่คนหนึ่งถามเซลว่า ไม่มีดิสเบรคหลังหรอ? ......
ปี2005 ผมใช้วีโก้4wd 2013 ผมใช้3.2wt เขียนตามที่เจอจริงๆ
-
แล้ว เอาแบบกลางๆ นะครับ ถ้าเป็นรถที่ซื้อมาใช้ 10 ปี ขึ้นไป ราคา+ค่าอะไหร่ +ค่าซ่อมบำรุง ยี่ห้อไหนน่าจะสบายใจกว่าครับ
ถ้าเอาซ่อมบำรุงสบายใจหนีไม่พ้นโตโยต้าเพราะขายเยอะอะไหล่เยอะ มีอะไล่ทดแทนในร้านอะไหล่เยอะกว่า แต่ถ้าของแท้ด้วยกันซื้อศูนย์ด้วยกันฟอร์ดแพงกว่า 20-30% แต่รถพวกนี้มันไม่ได้ซ่อมจุกจิกเหมือนรถเก๋งน่ะ กว่าจะซ่อมแต่ละครั้งก็นาน เพราะมันเน้นสมบุกสมบัน
ขอบคุณครับผม แต่ ฟอร์ด ผมติดอีกอย่างคือ เครื่งใหญ่ไป 3.2 นี่ มันมีซดกับซดอย่างเดียวแน่ๆ ถ้าตัว Top 2.2 full time 4WD มันจะสุดๆ เลยครับ
For ก็ไม่ Full time น่าเสียดายมากครับ
เรื่องค่าบำรุงรักษา ถ้าเข้าศูนย์ ค่าเเรงก็พอๆกันครับ อะไหล่บางตัว โตถูกกว่า
แต่ค่าเปลี่ยนน้ำมันเครื่องนี้ เครื่อง3.2 เเพงกว่าครับ เครื่องตัวนี้ใช้น้ำมันเครื่องราวๆ 10ลิตร ถ้าใช้เกรดแพงสุดในศูยน์ ราคาเข้าเช็คทุก 15,000กม จะอยู่ราวๆ 5,000 กว่าบาทครับ โต เช็คทุก10,000กม พอถั่วเฉลี่ยก็พอๆกัน
อัตราการกินน้ำมัน เครื่อง2.2 ไม่ได้ประหยัดกว่าเครื่อง 3.2เลยครับ แล้วผมก็มั่นใจว่า เครื่อง2.8ของโตก็ไม่ได้มีตัวเลขที่ดีเด่อะไร
เรื่องเกียร์ พอได้ลองฟอร์จูนเนอร์ ผมว่าเกียร์เขาทำได้ไม่ดีเลย ไม่ฉลาด มีอาการชวนหงุดหงิดกว่า3.2wt โหมดสปอร์ต หรือEco ก็เหมือนคุณติดกล่องคันเร่งไฟฟ้านั้นละ
เรื่องการขับขี่ การเบรค การเกาะถนน สู้เเรงเจอร์ไม่ได้ ที่สำคัญฟอร์จูนเนอร์ตัวนี้เมื่อใช้ความเร็วเกิน120 มีอาการพวงมาลัยชวนเครียดเอาเรื่อง เบาเเปลกๆ
ฟอร์จูนเนอร์ตบเเต่ภายในได้สวย แต่กระจกตัดเเสงมีขายในราคา6,000บาท อันนี้พูดไม่ออกจริงๆ ตอนดูรถมีคนแก่คนหนึ่งถามเซลว่า ไม่มีดิสเบรคหลังหรอ? ......
ปี2005 ผมใช้วีโก้4wd 2013 ผมใช้3.2wt เขียนตามที่เจอจริงๆ
"เครื่องตัวนี้ใช้น้ำมันเครื่องราวๆ 10ลิตร" - จนเพราะค่าน้ำมันเครื่องแน่ๆ... -_-"
-
ขอบคุณทุกท่านครับผม
เป็นข้อมูลช่วยในการตัดสินใจได้ดีเลยครับผม
:)
-
แล้ว เอาแบบกลางๆ นะครับ ถ้าเป็นรถที่ซื้อมาใช้ 10 ปี ขึ้นไป ราคา+ค่าอะไหร่ +ค่าซ่อมบำรุง ยี่ห้อไหนน่าจะสบายใจกว่าครับ
ถ้าเอาซ่อมบำรุงสบายใจหนีไม่พ้นโตโยต้าเพราะขายเยอะอะไหล่เยอะ มีอะไล่ทดแทนในร้านอะไหล่เยอะกว่า แต่ถ้าของแท้ด้วยกันซื้อศูนย์ด้วยกันฟอร์ดแพงกว่า 20-30% แต่รถพวกนี้มันไม่ได้ซ่อมจุกจิกเหมือนรถเก๋งน่ะ กว่าจะซ่อมแต่ละครั้งก็นาน เพราะมันเน้นสมบุกสมบัน
ขอบคุณครับผม แต่ ฟอร์ด ผมติดอีกอย่างคือ เครื่งใหญ่ไป 3.2 นี่ มันมีซดกับซดอย่างเดียวแน่ๆ ถ้าตัว Top 2.2 full time 4WD มันจะสุดๆ เลยครับ
For ก็ไม่ Full time น่าเสียดายมากครับ
เรื่องค่าบำรุงรักษา ถ้าเข้าศูนย์ ค่าเเรงก็พอๆกันครับ อะไหล่บางตัว โตถูกกว่า
แต่ค่าเปลี่ยนน้ำมันเครื่องนี้ เครื่อง3.2 เเพงกว่าครับ เครื่องตัวนี้ใช้น้ำมันเครื่องราวๆ 10ลิตร ถ้าใช้เกรดแพงสุดในศูยน์ ราคาเข้าเช็คทุก 15,000กม จะอยู่ราวๆ 5,000 กว่าบาทครับ โต เช็คทุก10,000กม พอถั่วเฉลี่ยก็พอๆกัน
อัตราการกินน้ำมัน เครื่อง2.2 ไม่ได้ประหยัดกว่าเครื่อง 3.2เลยครับ แล้วผมก็มั่นใจว่า เครื่อง2.8ของโตก็ไม่ได้มีตัวเลขที่ดีเด่อะไร
เรื่องเกียร์ พอได้ลองฟอร์จูนเนอร์ ผมว่าเกียร์เขาทำได้ไม่ดีเลย ไม่ฉลาด มีอาการชวนหงุดหงิดกว่า3.2wt โหมดสปอร์ต หรือEco ก็เหมือนคุณติดกล่องคันเร่งไฟฟ้านั้นละ
เรื่องการขับขี่ การเบรค การเกาะถนน สู้เเรงเจอร์ไม่ได้ ที่สำคัญฟอร์จูนเนอร์ตัวนี้เมื่อใช้ความเร็วเกิน120 มีอาการพวงมาลัยชวนเครียดเอาเรื่อง เบาเเปลกๆ
ฟอร์จูนเนอร์ตบเเต่ภายในได้สวย แต่กระจกตัดเเสงมีขายในราคา6,000บาท อันนี้พูดไม่ออกจริงๆ ตอนดูรถมีคนแก่คนหนึ่งถามเซลว่า ไม่มีดิสเบรคหลังหรอ? ......
ปี2005 ผมใช้วีโก้4wd 2013 ผมใช้3.2wt เขียนตามที่เจอจริงๆ
"เครื่องตัวนี้ใช้น้ำมันเครื่องราวๆ 10ลิตร" - จนเพราะค่าน้ำมันเครื่องแน่ๆ... -_-"
จะซื้อรถราคา 1.5-1.6 ล้าน แต่กังวลกับเรื่องถ่ายน้ำมันเครื่อง เรื่องต่อประกัน มันยังไงๆ อยู่นะครับ
เห็นพูดกันจัง จ่ายแพงกว่าเดิมแค่ 2-3 พันบาทเอง
-
แล้ว เอาแบบกลางๆ นะครับ ถ้าเป็นรถที่ซื้อมาใช้ 10 ปี ขึ้นไป ราคา+ค่าอะไหร่ +ค่าซ่อมบำรุง ยี่ห้อไหนน่าจะสบายใจกว่าครับ
ถ้าเอาซ่อมบำรุงสบายใจหนีไม่พ้นโตโยต้าเพราะขายเยอะอะไหล่เยอะ มีอะไล่ทดแทนในร้านอะไหล่เยอะกว่า แต่ถ้าของแท้ด้วยกันซื้อศูนย์ด้วยกันฟอร์ดแพงกว่า 20-30% แต่รถพวกนี้มันไม่ได้ซ่อมจุกจิกเหมือนรถเก๋งน่ะ กว่าจะซ่อมแต่ละครั้งก็นาน เพราะมันเน้นสมบุกสมบัน
ขอบคุณครับผม แต่ ฟอร์ด ผมติดอีกอย่างคือ เครื่งใหญ่ไป 3.2 นี่ มันมีซดกับซดอย่างเดียวแน่ๆ ถ้าตัว Top 2.2 full time 4WD มันจะสุดๆ เลยครับ
For ก็ไม่ Full time น่าเสียดายมากครับ
เรื่องค่าบำรุงรักษา ถ้าเข้าศูนย์ ค่าเเรงก็พอๆกันครับ อะไหล่บางตัว โตถูกกว่า
แต่ค่าเปลี่ยนน้ำมันเครื่องนี้ เครื่อง3.2 เเพงกว่าครับ เครื่องตัวนี้ใช้น้ำมันเครื่องราวๆ 10ลิตร ถ้าใช้เกรดแพงสุดในศูยน์ ราคาเข้าเช็คทุก 15,000กม จะอยู่ราวๆ 5,000 กว่าบาทครับ โต เช็คทุก10,000กม พอถั่วเฉลี่ยก็พอๆกัน
อัตราการกินน้ำมัน เครื่อง2.2 ไม่ได้ประหยัดกว่าเครื่อง 3.2เลยครับ แล้วผมก็มั่นใจว่า เครื่อง2.8ของโตก็ไม่ได้มีตัวเลขที่ดีเด่อะไร
เรื่องเกียร์ พอได้ลองฟอร์จูนเนอร์ ผมว่าเกียร์เขาทำได้ไม่ดีเลย ไม่ฉลาด มีอาการชวนหงุดหงิดกว่า3.2wt โหมดสปอร์ต หรือEco ก็เหมือนคุณติดกล่องคันเร่งไฟฟ้านั้นละ
เรื่องการขับขี่ การเบรค การเกาะถนน สู้เเรงเจอร์ไม่ได้ ที่สำคัญฟอร์จูนเนอร์ตัวนี้เมื่อใช้ความเร็วเกิน120 มีอาการพวงมาลัยชวนเครียดเอาเรื่อง เบาเเปลกๆ
ฟอร์จูนเนอร์ตบเเต่ภายในได้สวย แต่กระจกตัดเเสงมีขายในราคา6,000บาท อันนี้พูดไม่ออกจริงๆ ตอนดูรถมีคนแก่คนหนึ่งถามเซลว่า ไม่มีดิสเบรคหลังหรอ? ......
ปี2005 ผมใช้วีโก้4wd 2013 ผมใช้3.2wt เขียนตามที่เจอจริงๆ
"เครื่องตัวนี้ใช้น้ำมันเครื่องราวๆ 10ลิตร" - จนเพราะค่าน้ำมันเครื่องแน่ๆ... -_-"
จะซื้อรถราคา 1.5-1.6 ล้าน แต่กังวลกับเรื่องถ่ายน้ำมันเครื่อง เรื่องต่อประกัน มันยังไงๆ อยู่นะครับ
เห็นพูดกันจัง จ่ายแพงกว่าเดิมแค่ 2-3 พันบาทเอง
ถ้าคิดมากเรื่องค่าใช้จ่าย กระบะcabครับ ถ่ายน้ำมันเครื่องเอง ภาษี900 ซื้อมือ2 ประหยัดค่าเสื่อมไปได้อีก
-
คุณ MUK
ผมว่าซื้อ Everest เถอะครับ อย่าไปซีเรียสมาก
รถประเภทนี้มันหาความประหยัดไม่ได้หรอกครับ น้ำหนัก2ตัน++ หน้ายางกว้าง ยางแก้มหนา รถสูงต้านลม ออกตัวก็อืด พอกดเร่งหน่อยก็ยิ่งกิน
เครื่องเล็กยิ่งกดยิ่งเร่งยิ่งเค้น เผลอๆกินกว่าเครื่องใหญ่ด้วยซ้ำ
-
DVDกับระบบกดปุ่มติดเครื่องนี่ติดเพิ่มเองทีหลังได้สบายครับ แต่ระบบช่วยเหลือด้านการขับขี่นี่มาติดเองทีหลังไม่ได้เพราะไม่มีขายแยกมาให้ :-X รถผมก็ไม่มีDVDมาให้ตอนซื้อแต่ขอสองหมื่นบาทหน่อยเถอะน่า ทั้งDVDและลำโพงที่คุณภาพดีกว่าของติดรถจากโรงงานหามาใส่ได้ไม่ยากเลย ::)
-
ผมมองว่า
ตัวล่างสุด เกียร์ manual ราคา เกือบ ล้านสอง...แพงไปไหม
ไปคบ...Xtrail 2.0 ตัวล่าง ภาพลักษณ์ และความคุ้มค่า น่าจะเหมาะสมกว่า
-
Toyota เจ้าตลาด ไม่ต้องทำอะไรมาก ก็ขายได้อยู่แล้ว
Ford ต้องใส่มาเต็มพิกัด ถึงจะขายได้
ถ้าอยากให้ Toyota ใส่ option มามากๆ ก็คงต้องรอวันที่ยอดขายเค้าตกแบบน่าใจหายก่อนละครับ
-
คุณ MUK
ผมว่าซื้อ Everest เถอะครับ อย่าไปซีเรียสมาก
รถประเภทนี้มันหาความประหยัดไม่ได้หรอกครับ น้ำหนัก2ตัน++ หน้ายางกว้าง ยางแก้มหนา รถสูงต้านลม ออกตัวก็อืด พอกดเร่งหน่อยก็ยิ่งกิน
เครื่องเล็กยิ่งกดยิ่งเร่งยิ่งเค้น เผลอๆกินกว่าเครื่องใหญ่ด้วยซ้ำ
ขอบคุณครับผม
จริงๆ ชอบฟอร์ดมากครับผม สวยดี และความปลอดภัยมาแบบจุใจ ช่วงล่างก็น่าจะไว้ใจได้กว่า for พอสมควร
ถ้าได้สัก 12-13 กม. ที่ 110 เหมือนคุณจิมมี่ทดสอบนี่สวยมากเลยครับผม
เพราะเท่าที่จำได้ for เครื่อง 3.0 ไม่ fulltime วิ่งได้ประมาณ 13.xx นะครับผม
ถ้าประมาณนี้รับได้ครับผม แต่ถ้าต่ำกว่านี้ผมว่า กินเยอะไปครับผม
ภาษี ต่อปี ไม่น่ากลัว เปลี่ยนน้ำมันเครื่องก็ยังไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลสักเท่าไหร่ แต่ถ้าอักตราสิ้นเปลืองไปป้วนเปี้ยนที่
8-9 กม. นี่ไม่ไหวครับผม ต่อให้มีเงินเติมน้ำมัน ก็ไม่อยากได้ที่กินน้ำมันเกินไปครับผม
หรือว่า EV จะทำรถให้ประหยัดได้กว่าเดิมครับผม ลุ่นที่ full review ครับผม
ที่ขัดใจ EV คือ แถวสามทำไมเข้าไปแบบนั้น แก้ไขก่อนส่งมอบได้ไหมครับผม จะให้เหียบเบาะสองเข้าไปเลยหรือครับผม
:)
-
คุณ MUK
ผมว่าซื้อ Everest เถอะครับ อย่าไปซีเรียสมาก
รถประเภทนี้มันหาความประหยัดไม่ได้หรอกครับ น้ำหนัก2ตัน++ หน้ายางกว้าง ยางแก้มหนา รถสูงต้านลม ออกตัวก็อืด พอกดเร่งหน่อยก็ยิ่งกิน
เครื่องเล็กยิ่งกดยิ่งเร่งยิ่งเค้น เผลอๆกินกว่าเครื่องใหญ่ด้วยซ้ำ
ขอบคุณครับผม
จริงๆ ชอบฟอร์ดมากครับผม สวยดี และความปลอดภัยมาแบบจุใจ ช่วงล่างก็น่าจะไว้ใจได้กว่า for พอสมควร
ถ้าได้สัก 12-13 กม. ที่ 110 เหมือนคุณจิมมี่ทดสอบนี่สวยมากเลยครับผม
เพราะเท่าที่จำได้ for เครื่อง 3.0 ไม่ fulltime วิ่งได้ประมาณ 13.xx นะครับผม
ถ้าประมาณนี้รับได้ครับผม แต่ถ้าต่ำกว่านี้ผมว่า กินเยอะไปครับผม
ภาษี ต่อปี ไม่น่ากลัว เปลี่ยนน้ำมันเครื่องก็ยังไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลสักเท่าไหร่ แต่ถ้าอักตราสิ้นเปลืองไปป้วนเปี้ยนที่
8-9 กม. นี่ไม่ไหวครับผม ต่อให้มีเงินเติมน้ำมัน ก็ไม่อยากได้ที่กินน้ำมันเกินไปครับผม
หรือว่า EV จะทำรถให้ประหยัดได้กว่าเดิมครับผม ลุ่นที่ full review ครับผม
ที่ขัดใจ EV คือ แถวสามทำไมเข้าไปแบบนั้น แก้ไขก่อนส่งมอบได้ไหมครับผม จะให้เหียบเบาะสองเข้าไปเลยหรือครับผม
:)
เข้าแถวสาม EV อย่าไปพับเบาะครับ ให้ใช้วิธีแบบกระบะ Cap มันจะเข้าไปง่ายครับ ถ้าพับมันจะเลื่อนไปหน้าได้ไม่สุดทำให้ไม่มีช่องเข้าไปครับ :) :) :)
-
คุณ MUK
ผมว่าซื้อ Everest เถอะครับ อย่าไปซีเรียสมาก
รถประเภทนี้มันหาความประหยัดไม่ได้หรอกครับ น้ำหนัก2ตัน++ หน้ายางกว้าง ยางแก้มหนา รถสูงต้านลม ออกตัวก็อืด พอกดเร่งหน่อยก็ยิ่งกิน
เครื่องเล็กยิ่งกดยิ่งเร่งยิ่งเค้น เผลอๆกินกว่าเครื่องใหญ่ด้วยซ้ำ
ขอบคุณครับผม
จริงๆ ชอบฟอร์ดมากครับผม สวยดี และความปลอดภัยมาแบบจุใจ ช่วงล่างก็น่าจะไว้ใจได้กว่า for พอสมควร
ถ้าได้สัก 12-13 กม. ที่ 110 เหมือนคุณจิมมี่ทดสอบนี่สวยมากเลยครับผม
เพราะเท่าที่จำได้ for เครื่อง 3.0 ไม่ fulltime วิ่งได้ประมาณ 13.xx นะครับผม
ถ้าประมาณนี้รับได้ครับผม แต่ถ้าต่ำกว่านี้ผมว่า กินเยอะไปครับผม
ภาษี ต่อปี ไม่น่ากลัว เปลี่ยนน้ำมันเครื่องก็ยังไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลสักเท่าไหร่ แต่ถ้าอักตราสิ้นเปลืองไปป้วนเปี้ยนที่
8-9 กม. นี่ไม่ไหวครับผม ต่อให้มีเงินเติมน้ำมัน ก็ไม่อยากได้ที่กินน้ำมันเกินไปครับผม
หรือว่า EV จะทำรถให้ประหยัดได้กว่าเดิมครับผม ลุ่นที่ full review ครับผม
ที่ขัดใจ EV คือ แถวสามทำไมเข้าไปแบบนั้น แก้ไขก่อนส่งมอบได้ไหมครับผม จะให้เหียบเบาะสองเข้าไปเลยหรือครับผม
:)
เข้าแถวสาม EV อย่าไปพับเบาะครับ ให้ใช้วิธีแบบกระบะ Cap มันจะเข้าไปง่ายครับ ถ้าพับมันจะเลื่อนไปหน้าได้ไม่สุดทำให้ไม่มีช่องเข้าไปครับ :) :) :)
ขอบคุณครับผม
แล้วเกียร์ AT ของ Ford จะทนสู้ Toyota ได้ไหมครับผม