Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: franky ที่ กรกฎาคม 21, 2015, 10:57:59
-
ตามที่คุณ MoO Cnoe ได้จัดทำข้อมูลสเปค Toyota Fortuner 2.8V 4x4 A/T vs Ford Everest 3.2 Titanium+ 4x4 A/T
ผมเลยลองมาสรุปดูอีกทีว่าใครติดอาวุธอะไรกันมาบ้าง และอีกฝ่ายไม่มี หรือมีแต่ไม่เหมือนกัน เพื่อมาดูกันว่าในราคาเท่ากันเค้าใส่อะไรกันมามั่ง
ไม่ได้ว่าบอกใครดีกว่าใครนะครับ สุดท้ายก็อยู่ทีคนซื้อว่าชอบแบบไหน จะได้เปรียบมวยกันง่ายขึ้น
อ้างอิงข้อมูลจาก http://www.headlightmag.com/fortuner-vs-everest-ppv-compare/
-
Fortuner โดนหมัดรัวเลยนะครับ
Everest จัด Combo ชุดใหญ่
อย่างที่ผมบอกครับ
หลังจากไปลอง Fortuner แล้ว อยากได้ Everest ซะงั้น :D
-
everest ได้เปรียบนิดๆ นะครับ แต่ fortuner เครื่องเล็กกว่า อืม น่าคิดๆ
-
Everest มีตังจัดไปเเบบไม่ต้องคิดมากเลยจริงๆ
-
ผมนี่กลัวสุด คือเครื่อง 3.2 มันจะกินน้ำมันเยอะหรือเปล่า คือไม่ได้ถามหาความประหยัดนะ
แต่ว่า กลัวมันจะกินน้ำมันไม่ถึง 10 กม./ลิตร ครับ
แต่ของพี่โต ผมว่า ยังไงก็ได้เกิน 10 แน่ๆ เพราะตัวเก่า 3.0 ยังได้ระดับ 12-13 สบายๆ
แล้วเห็นบอกว่าเทคโนโลยีใหม่ด้วย ประหยัดขึ้น ก็น่าจะดีขึ้น หรือยังไงครับ
:)
-
ถ้าสำหรับรถครอบครัวแล้ว...
เบาะแถว 3 พิงไม่ได้
ไม่มี dvd
แต่ดันมีมูนรูฟ
กับอีกคัน
ไม่มีมูนรูฟ
มี dvd
เบาะหลังปรับพิงได้
ขาดๆเกินๆทั้งคู่ครับ
ส่วนเรื่องระบบขับเคลื่อนต่างๆ
หรือระบบความปลอดภัย ผมว่า ก็โอเคแล้วครับ
-
แต่อีกปัจจัยสำคัญที่คนจะซื้อจริงๆ (ไม่ใช่นักเปรียบสเปค) นำมาประเมินค่าในการตัดสินใจซื้อด้วย ได้แก่....
1) ความคุ้มค่าในระยะยาว การซัพพอร์ตอะไหล่ที่ดีกว่าทำให้ Fortuner มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า
2) ความหลากหลายของศูนย์บริการ โตโยต้าลงทุนส่วนนี้ไว้เยอะกว่าชัดเจน แต่ละจังหวัดศูยน์บริการเพียบ
3) ความเป็นมืออาชีพของศูนย์บริการ ผมว่า Ford ห่วยกว่ามากๆๆๆ
4) ราคาของอะไหล่ รถบางยี่ห้อจะถูกตอนซื้อ แต่จะแพงตอนใช้
ปัจจัยเหล่านี้ต่อให้นักทดสอบรถระดับมือทองก็ไม่สามารถบอกเราได้ ผู้ที่จะมีข้อมูลก็คือเหล่าบรรดาผู้ใช้รถเองที่จะแชร์บอกกันจึงทำให้รถของฟอร์ดราคาตกมากกว่าเมื่อต้องการขายต่อ และผมก็มั่นใจว่าถ้าฟอร์ดไม่ปรับปรุงเรื่องหลังขายต่อให้มีสินค้าเทพปานใดก็ตามจะไม่มีวันขายดีกว่า Toyota ได้เลย
-
แต่อีกปัจจัยสำคัญที่คนจะซื้อจริงๆ (ไม่ใช่นักเปรียบสเปค) นำมาประเมินค่าในการตัดสินใจซื้อด้วย ได้แก่....
1) ความคุ้มค่าในระยะยาว การซัพพอร์ตอะไหล่ที่ดีกว่าทำให้ Fortuner มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า
2) ความหลากหลายของศูนย์บริการ โตโยต้าลงทุนส่วนนี้ไว้เยอะกว่าชัดเจน แต่ละจังหวัดศูยน์บริการเพียบ
3) ความเป็นมืออาชีพของศูนย์บริการ ผมว่า Ford ห่วยกว่ามากๆๆๆ
4) ราคาของอะไหล่ รถบางยี่ห้อจะถูกตอนซื้อ แต่จะแพงตอนใช้
ปัจจัยเหล่านี้ต่อให้นักทดสอบรถระดับมือทองก็ไม่สามารถบอกเราได้ ผู้ที่จะมีข้อมูลก็คือเหล่าบรรดาผู้ใช้รถเองที่จะแชร์บอกกันจึงทำให้รถของฟอร์ดราคาตกมากกว่าเมื่อต้องการขายต่อ และผมก็มั่นใจว่าถ้าฟอร์ดไม่ปรับปรุงเรื่องหลังขายต่อให้มีสินค้าเทพปานใดก็ตามจะไม่มีวันขายดีกว่า Toyota ได้เลย
+1
ใช่ครับ บ้านเราไม่เหมือนทางฝั่งบ้านเขาที่เมกานู่น
รถคันนึงก็แพงแสนแพง ใช่ว่าจะซื้อมา 5 ปีแล้วต้องโดนบังครับเปลี่ยน
อยากให้ฟอร์ดคิดหนักๆเลยครับ
มีคนอยากได้รถเขาเยอะแยะ แต่ไม่กล้าซื้อ
ดูฮอนด้า กับอีซูสุก็พอครับ กว่าจะเป็นวันนี้ได้ มันไม่ใช่ขายรถเสร็จแล้วก็จบกันไป
-
ง่ายๆ เลยครับ พอใจคันไหน ซื้อ คันนั้น
และ ผลสุดท้าย ยอดขาย จะเป็นตัวบอก ทุกสิ่งทุกอย่างเอง
ใครทำถูกใจลูกค้า คนนั้นก้อได้ยอดขายไป
ถ้าทำไม่ดี ออฟชั่น ไม่ถูกใจ ยอดตก เค้าก้อต้อง แก้ไขเพิ่มเติม ของเค้าไปเอง
ปล. สงสัยว่าใครถือหุ้น หรือ เป็นเจ้าของ 2 บริษัทนี้ อิอิอิ
-
รอดูตาอยู่ 1 ส.ค. นี้ดีไหมครับ
ผมว่าออกกลางๆ ช้อนลูกค้าได้เยอะเลย
-
เห็นในfaceบอกว่าวันนี้จะให้สื่อเทสEverestไม่แน่ใจว่ามีทีมงานของเว็บไหมครับ
-
เรื่องของอะไหล่เทียบกันด้วยอะไหล่มือหนึ่งจากศูนย์สิครับไม่ใช่อะไหล่แท้กับอะไหล่เทียมหรืออะไหล่มือสอง ตอนกรณีปั๊มABSแคมรี่ที่ใครๆก็ว่าโตโยต้าอะไหล่ถูกทำไมพอเปลี่ยนแล้วแพง สุดท้ายก็มีคนชี้แจงว่าอะไหล่ชิ้นนี้แพงในรถทุกยี่ห้ออยู่แล้วแต่คนไม่รู้กันนั่นเอง :-X
-
ชอบรุ่นไหน ก็ซื้อรุ่นนั้น ชอบยี่ห้อไหน ก็ซื้อยี่ห้อนั้น
ไม่มีใครสามารถตอบแทนเราได้ เพราะว่าแต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน บางครั้งเชื่อคนอื่นๆก็มานั่งเสียใจทีหลังก็มีเยอะ ข้อมูลมีไว้เปรียบเทียบ
สุดท้ายแล้วผู้ใช้งานนั้นแหละเป็นผู้ตัดสินใจ
ขอให้ได้รถที่ถูกใจกันทุกๆคนครับ
*ส่วนตัวใช้รถคันหนึ่ง 6-10 ปี มองรถที่ศูนย์บริการเยอะและอะไหล่หาง่าย* จะได้ไม่ต้องรอกันนานๆ
-
ถ้าผมมีเงินมากพอสามารถซื้อได้ทั้งคู่ ผมเลือกรถที่ดีที่สุด มีอะไรๆ ที่ครบที่สุด ไม่ใส่ใจเรื่องค่าใช้จ่ายที่ต่างกันแค่หลัก พัน หรอกครับ ส่วนเรื่องศูนย์ เดี๋ยวนี้แทบไม่ต่างกันแล้ว การซ่อมบำรุงตามระยะประมาณ ก็ปีละ 2 ครั้งเอง
-
2 คันนี้มันจะร้อนไปหรือยังครับพี่น้อง มีแค่กระทู้ 2 กระทู้ก็ได้นะ เนื้อหาก็เหมือนเดิม คนตอบก็ตอบแบบเดิมๆ ไม่ได้สาระอะไรเพิ่มมาเลยนะครับ ไม่เบื่อกันหรือไง
สุดท้ายเงินใครก็เงินใคร ชอบแบบไหน เหมาะสมกับยี่ห้อไหนก็ซื้อขับ แค่นั้นเอง เดี๋ยว Pajero sport เปิดมามีเซอร์ไพรซ์ขายเป็นเทน้ำเทถ้าแล้วจะขำให้
ผมเรียนตามตรงว่าผมก็ไม่เชียร์ให้ใครเอา Everest นะ แม้แต่คุณพ่อของผมเอง ผมเลือกเพราะมันเหมาะกับผม ผมชอบมันหล่อทั้งคัน ไม่ใช่รถคันเดียวในบ้าน และผมจ่ายได้โดยไม่ต้องคิดอะไรมาก ส่วนเรื่องที่ผมโจมตี fortuner ใหม่ ผมก็อธิบายไปเกือบทุกครั้ง ในฐานะที่ผมเป็นลูกค้าโตโยต้า ผมรับไม่ได้กับวีธีการดำเนินการที่มันเอาเปรียบกันมากเกินไปแบบนี้ มันโหมโฆษณามาหลอกเราว่าสุดยอด เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี บลา บลา บลา แต่การพัฒนามันกลับสู้ที่โฆษณาไม่ได้เลย
-
Cool box Everest มีนะครับ แต่ไปอยู่ในกล่องพักแขนตรงกลางแทน
ส่วน Navi มีนะ แต่ไม่มี Map กำลังคิดอยู่ว่าจะหาเพื่อนที่มีมาสด้า สาม/สอง มาลองใส่การ์ด Map ลงไปดูเหมือนกันว่าจะใช้ได้มั้ย ช่อง SD นั่นจริงๆมันไว้ใส่ Map แต่ไม่มี Map ไทยมันเลยค้างคา
////////////////////
ส่วนเรื่องศูนย์ เอาเป็นว่าแล้วแต่คนครับ ในเมื่อผมใช้ฟอร์ดมาแล้ว 3 คัน 3 รุ่น มาเกิน 10 ปีแล้ว คันต่อมาเป็นฟอร์ดก็ไม่คิดมากครับ
-
มองที่ตัวรถอย่างเดียว everest เหนือกว่าทุกอย่าง
จากคนที่ชอบ ฟอร์ด แต่ไม่เคยซื้อฟอร์ด
-
ช่วงนี้ฮ็อตกันจริงๆคู่นี้
เดี๋ยวเจอตาอยู่ รอแพพ
555+
-
ฮอดจริงคู่นี้ รออีกนิดปาเจโร่ออกมาจะได้มีมวยหมู่ :D :D ;D
-
Cool box Everest มีนะครับ แต่ไปอยู่ในกล่องพักแขนตรงกลางแทน
ส่วน Navi มีนะ แต่ไม่มี Map กำลังคิดอยู่ว่าจะหาเพื่อนที่มีมาสด้า สาม/สอง มาลองใส่การ์ด Map ลงไปดูเหมือนกันว่าจะใช้ได้มั้ย ช่อง SD นั่นจริงๆมันไว้ใส่ Map แต่ไม่มี Map ไทยมันเลยค้างคา
////////////////////
ส่วนเรื่องศูนย์ เอาเป็นว่าแล้วแต่คนครับ ในเมื่อผมใช้ฟอร์ดมาแล้ว 3 คัน 3 รุ่น มาเกิน 10 ปีแล้ว คันต่อมาเป็นฟอร์ดก็ไม่คิดมากครับ
ยังไงถ้า Navi ใช้ได้ไม่ได้ยังไงมาอัพเดทให้ฟังด้วยนะครับ เพราะผมก็หวังให้มันใช้ได้เหมือนกันครับ
-
มองที่ตัวรถอย่างเดียว everest เหนือกว่าทุกอย่าง
จากคนที่ชอบ ฟอร์ด แต่ไม่เคยซื้อฟอร์ด
อารมณ์เดียวกันเลยครับ ชอบ focus, ranger, everest แต่ยังไม่กล้าซื้อ ไม่ใช่เพราะราคาขายต่อ แต่เพราะความไม่สเถียรของตัวรถกับปัญหา defect ต่างๆ ที่ร้ายแรงเกินรับได้
-
แค่เข้าไปนั่งด้านใน แล้วมองรอบๆ ก็สรุปได้แล้ว everest มันมีเสน่กว่าเยอะจริงๆ จนผมคิดว่า Toyota ดูถูกคนใช้รถไปมั๊ย
-
ยอดขายฟอร์ด คงไม่มากไปกว่าโต แต่ฟอร์ดขายใบจองตัวท๊อปของโควต้าปีนี้ไปหมดเเล้ว
มาลุ้นดีกว่า จะมีคนทิ้งใบจองฟอร์ดสักกี่คน
ป.ล. เรื่องอะไหล่ฟอร์ด ผมไม่เคยรอนาน หลายคนวิจารณ์ทั้งที่ไม่เคยใช้
เมื่อก่อนจะซื้อ J32 ได้มีโอกาสนั่งรถFortuner ของเจ้านาย ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองโชว์หน้าบนหน้าจอ 8กม. กว่าๆต่อลิตร
-
2 คันนี้มันจะร้อนไปหรือยังครับพี่น้อง มีแค่กระทู้ 2 กระทู้ก็ได้นะ เนื้อหาก็เหมือนเดิม คนตอบก็ตอบแบบเดิมๆ ไม่ได้สาระอะไรเพิ่มมาเลยนะครับ ไม่เบื่อกันหรือไง
สุดท้ายเงินใครก็เงินใคร ชอบแบบไหน เหมาะสมกับยี่ห้อไหนก็ซื้อขับ แค่นั้นเอง เดี๋ยว Pajero sport เปิดมามีเซอร์ไพรซ์ขายเป็นเทน้ำเทถ้าแล้วจะขำให้
ผมเรียนตามตรงว่าผมก็ไม่เชียร์ให้ใครเอา Everest นะ แม้แต่คุณพ่อของผมเอง ผมเลือกเพราะมันเหมาะกับผม ผมชอบมันหล่อทั้งคัน ไม่ใช่รถคันเดียวในบ้าน และผมจ่ายได้โดยไม่ต้องคิดอะไรมาก ส่วนเรื่องที่ผมโจมตี fortuner ใหม่ ผมก็อธิบายไปเกือบทุกครั้ง ในฐานะที่ผมเป็นลูกค้าโตโยต้า ผมรับไม่ได้กับวีธีการดำเนินการที่มันเอาเปรียบกันมากเกินไปแบบนี้ มันโหมโฆษณามาหลอกเราว่าสุดยอด เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี บลา บลา บลา แต่การพัฒนามันกลับสู้ที่โฆษณาไม่ได้เลย
เห็นคุณโพสต์เเล้วขึ้นตาม เอาค่าโฆษณาที่โหมกระหน่ำนับพันๆล้าน มาใส่ออฟชั่นแทนได้ไหม ตัวขับสี่ลดชั้นจากฟลูเป็นพาร์ททาร์ม ใครจะไปซื้อนอกจากคนที่ไม่ค่อยรู้อะไร ดิสเบรคหลัง กระจกตัดแสง ที่ปัดน้ำฝนออโต้ ใส่มาให้จะล้มละลาย? ไปดูคู่แข่งนู้นเค้าไปไหนถึงไหนแล้ว แทนที่จะเอาความเป็นเจ้าตลาดที่ได้เปรียบอยู่แล้ว ใส่ออฟชั่นไป คนซื้อนี้แทบจะไม่ต้องเทียบกับคู่แข่งแล้ว เพราะฐานมันพร้อมแล้ว ตอนนี้คนซื้อเค้าเปรียบเทียบออฟชั่นการก่อนซื้อแล้วนะ
-
ยอดขายฟอร์ด คงไม่มากไปกว่าโต แต่ฟอร์ดขายใบจองตัวท๊อปของโควต้าปีนี้ไปหมดเเล้ว
มาลุ้นดีกว่า จะมีคนทิ้งใบจองฟอร์ดสักกี่คน
ป.ล. เรื่องอะไหล่ฟอร์ด ผมไม่เคยรอนาน หลายคนวิจารณ์ทั้งที่ไม่เคยใช้
เมื่อก่อนจะซื้อ J32 ได้มีโอกาสนั่งรถFortuner ของเจ้านาย ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองโชว์หน้าบนหน้าจอ 8กม. กว่าๆต่อลิตร
ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองบนจอของ IMV ผมว่าเชื่อไม่ได้ทุกรุ่น
อินโนว่าผมยังเคยขึ้น 30 km/l เลยครับ(ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ขับยังไงก็เป็นไปไม่ได้ เครื่องเบนซินด้วย)
ส่วนฟอร์ 3.0 4*4 AT เติมน้ำมัน 1,000 วิ่งได้ 300โล(ศรีนครินทร์-ราม1 ไปกลับตลอดรถติดจะตายครับ) หน้าปัดโชว์7ปลายๆ แต่ขับจริงได้ 9นิดๆ(ตอนดีเซล 29.99)
-
แค่เข้าไปนั่งด้านใน แล้วมองรอบๆ ก็สรุปได้แล้ว everest มันมีเสน่กว่าเยอะจริงๆ จนผมคิดว่า Toyota ดูถูกคนใช้รถไปมั๊ย
-
2 คันนี้มันจะร้อนไปหรือยังครับพี่น้อง มีแค่กระทู้ 2 กระทู้ก็ได้นะ เนื้อหาก็เหมือนเดิม คนตอบก็ตอบแบบเดิมๆ ไม่ได้สาระอะไรเพิ่มมาเลยนะครับ ไม่เบื่อกันหรือไง
สุดท้ายเงินใครก็เงินใคร ชอบแบบไหน เหมาะสมกับยี่ห้อไหนก็ซื้อขับ แค่นั้นเอง เดี๋ยว Pajero sport เปิดมามีเซอร์ไพรซ์ขายเป็นเทน้ำเทถ้าแล้วจะขำให้
ผมเรียนตามตรงว่าผมก็ไม่เชียร์ให้ใครเอา Everest นะ แม้แต่คุณพ่อของผมเอง ผมเลือกเพราะมันเหมาะกับผม ผมชอบมันหล่อทั้งคัน ไม่ใช่รถคันเดียวในบ้าน และผมจ่ายได้โดยไม่ต้องคิดอะไรมาก ส่วนเรื่องที่ผมโจมตี fortuner ใหม่ ผมก็อธิบายไปเกือบทุกครั้ง ในฐานะที่ผมเป็นลูกค้าโตโยต้า ผมรับไม่ได้กับวีธีการดำเนินการที่มันเอาเปรียบกันมากเกินไปแบบนี้ มันโหมโฆษณามาหลอกเราว่าสุดยอด เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี บลา บลา บลา แต่การพัฒนามันกลับสู้ที่โฆษณาไม่ได้เลย
เห็นคุณโพสต์เเล้วขึ้นตาม เอาค่าโฆษณาที่โหมกระหน่ำนับพันๆล้าน มาใส่ออฟชั่นแทนได้ไหม ตัวขับสี่ลดชั้นจากฟลูเป็นพาร์ททาร์ม ใครจะไปซื้อนอกจากคนที่ไม่ค่อยรู้อะไร ดิสเบรคหลัง กระจกตัดแสง ที่ปัดน้ำฝนออโต้ ใส่มาให้จะล้มละลาย? ไปดูคู่แข่งนู้นเค้าไปไหนถึงไหนแล้ว แทนที่จะเอาความเป็นเจ้าตลาดที่ได้เปรียบอยู่แล้ว ใส่ออฟชั่นไป คนซื้อนี้แทบจะไม่ต้องเทียบกับคู่แข่งแล้ว เพราะฐานมันพร้อมแล้ว ตอนนี้คนซื้อเค้าเปรียบเทียบออฟชั่นการก่อนซื้อแล้วนะ
ใช่ครับ ช่วงล่าง daimond งี้ ระบบ vcontrol งี้ ถถถถถถถ