Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: sarawut66 ที่ สิงหาคม 01, 2015, 13:01:16

หัวข้อ: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: sarawut66 ที่ สิงหาคม 01, 2015, 13:01:16
สองปีที่ผ่านมาเป็นอันดับหนึ่งแต่ปีนี้คิดหนัก พี่ๆคิดว่าไมเนอร์เชนส์ ต้องปรับอะไรบ้างเพื่อรับมือ 3 ยี่ห้อที่เพิ่งเปิดตัวไป
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: NS ที่ สิงหาคม 01, 2015, 13:05:27
สำหรับผม ต้อง model change เท่านั้น หุหุ
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Joe NG ที่ สิงหาคม 01, 2015, 13:12:20
เฮือก..  ขอถอนหายใจแพร๊พ.

ตอนนี้ที่ทำได้เร็วที่สุดพร้อมกับการเปลี่ยนเครื่องตุลานี้ก็คง  อัดอ๊อปชั่นต่างๆ มาให้เท่าตัวส่งนอก เพื่อประคองตัวไม่ให้เจ็บหนักมาก

ส่วนปรับมากกว่านั้นคงต้องรอ BMC รอบหน้า รอบนี้อาจได้แค่กระจังใหม่  :'(
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: johnlee ที่ สิงหาคม 01, 2015, 13:17:39
เขามีขา มีสายของเขาอยู่ เชื่อดิ

ยังไงก็มีคนซื้อ  อิอิ
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Ws pattaya ที่ สิงหาคม 01, 2015, 13:19:26
สองปีที่ผ่านมาเป็นอันดับหนึ่งแต่ปีนี้คิดหนัก พี่ๆคิดว่าไมเนอร์เชนส์ ต้องปรับอะไรบ้างเพื่อรับมือ 3 ยี่ห้อที่เพิ่งเปิดตัวไป

ที่ผ่านมาขนาดจูน model เก่าเป็น10ปียังสู้ลำบากเลยครับ คงต้อง model change อีกเสีย ฮิๆๆ
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ สิงหาคม 01, 2015, 13:38:53
ดูจาก Mu-7 แล้วคิดว่าเค้าคงพอใจที่มียอดอย่างนี้นะครับจะอยู่อันดับที่เท่าไหร่คงไม่สนใจตราบเท่าที่ขายได้อย่างนี้
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: JeansZ ที่ สิงหาคม 01, 2015, 13:53:43
ยอดขาย น่าจะ​สู้ Everest ได้ แต่ไม่มีทาง​สู้ Pajaro กับ Fortune​r แน่นอน เหมือน​ตัว​เก่า MU 7
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: ไทบ้าน ที่ สิงหาคม 01, 2015, 14:19:08
ซุปเปอร์คอมมอนเรลจงเจริญ...!!
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: djunsri ที่ สิงหาคม 01, 2015, 14:19:51
ฐานลูกค้าเก่ามีอยู่แล้วผมว่าใส่ ครูสคอนโทรล แอร์แบก 6ใบ ก็เอาอยู่แล้วครับ เพียงแต่จัทำหรือเปล่า ปล่อยไปเรื่อยๆก็จะเสียฐานลูกค้าไปรื่อยๆ ครับ เหมือนผมที่เคยใช้ d maxโฉมที่แล้ว แต่ปัจจุบันไม่เคยคิดที่จะใช้รถของค่ายนี้อีกแล้วครับ
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: kowit1 ที่ สิงหาคม 01, 2015, 14:20:28
ยอดขาย น่าจะสู้ Everest ได้ แต่ไม่มีทางสู้ Pajaro กับ Fortuner แน่นอน เหมือนตัวเก่า MU 7
    ศูนย์บริการ อีซูซุไม่ใช่น้อยๆนะครับบ ผมว่ายังไงก็คงครองที่ 2 อยู่แหละ
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Dubee ที่ สิงหาคม 01, 2015, 14:21:22
ไมเนอร์เชนจ์ ปรับอุปกรณ์เข้าไปเยอะไ ครูสคอนโทรล จอฝังหมอน แอร์แบค 7-11 ใบ เรด้านั้นนี่ ฯลฯ อะไรที่เห็นว่าดียัดๆไปเถอะครับ ที่สำคัญบวกราคาขึ้นได้ แต่ไม่ควรเกิน 1 หมื่นบาทไม่งั้นน่าเกลียดแย่ครับ
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: iceice99 ที่ สิงหาคม 01, 2015, 14:43:56
สงสัยจะไม่เพิ่มอะไรนี่สิครับ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ สิงหาคม 01, 2015, 14:44:54
ผมว่าต้องปรับเยอะเลย
วัสดุภายใน คู่แข่งทิ้งห่างมาก
เครื่องเนี่ยยังไงใหม่ก็มาอยู่แล้ว
ถุงลมควรใส่ให้ครบๆซะ
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: kris-lack ที่ สิงหาคม 01, 2015, 14:49:46
ทำไมเราไม่รุสึกว่า ต้องปรับอะไรเลย
ก็แค่อัดโปรมานิดหน่อย ยังไงที่ 1-2 ก็คงไม่ไปใหน เพราะจุดขายเขาเรื่องบริการและอะไหล่ ก็เป็นจุดขายที่เด่นสุดๆๆอยู่แล้ว ที่ฟอร์ดและมิตซูต้องตามให้ทัน
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: mozart ที่ สิงหาคม 01, 2015, 15:30:46
ถ้าเพิ่มขออุปกรณ์ที่น่าใช้และจำเป็นต้องใช้หน่อยนะครับ ไม่เอานะสติ๊กเกอร์หรือเปลี่ยนชื่อรุ่นเท่ๆ(ตรงไหน)  ::)
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ สิงหาคม 01, 2015, 16:34:56
ลำบากเลยครับ เหมือนเจอศึกหนักจริงๆ
มิวเอ็กยังน่าเป็นห่วงแต่ยังมีแบรนด์ช่วยไว้ แต่น้องเทลนี่สิ
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Sit: ) ที่ สิงหาคม 01, 2015, 16:37:07
รักษาฐานลูกค้าให้มั่น
คนที่เคยขับ mu-7 กับ dmax อย่าให้หลุด
แค่นั้นพอ
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: xman2029 ที่ สิงหาคม 01, 2015, 16:45:44
ผมว่าปลายปีมีแค่เปลี่ยนเครื่องกับขึ้นราคาให้พอๆกับ ftn แค่นี้ล่ะ
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: johnlee ที่ สิงหาคม 01, 2015, 16:51:16
ผมว่าปลายปีมีแค่เปลี่ยนเครื่องกับขึ้นราคาให้พอๆกับ ftn แค่นี้ล่ะ

ไม่ครบครับ แบรนด์นี้เขาจะต้องมีชื่อรุ่นต่อท้ายด้วย
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: xman2029 ที่ สิงหาคม 01, 2015, 16:57:12
ผมว่าปลายปีมีแค่เปลี่ยนเครื่องกับขึ้นราคาให้พอๆกับ ftn แค่นี้ล่ะ

ไม่ครบครับ แบรนด์นี้เขาจะต้องมีชื่อรุ่นต่อท้ายด้วย

อุ้ยผมลืมได้ไงเนี่ย ของสำคัญของค่ายนี้เลยนะนั้น ถ้าไม่บอกผมลืมเลย :P :P :P
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: O_o" ที่ สิงหาคม 01, 2015, 17:16:12
ไม่ต้องทำไรก็ขายได้เรื่อยๆนะครับ อาจมีโปรส่วนลด กับดอก 0 % มาช่วยบ้าง

แค่รักษาบริการหลังการขายดีๆตลอด
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: bagayaro ที่ สิงหาคม 01, 2015, 17:46:17

Mu-X จะไมเนอร์เช้นจ์ เมื่อไหร่ครับ รอเปรียบเทียบ PPV ครั้งสุดท้าย
เหมือน 3ตัวใหม่ ยังขาดๆเกินๆบางอย่างอยู่
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: xman2029 ที่ สิงหาคม 01, 2015, 18:18:14
อย่างเร็วเดาว่า ต่าจะปลายปีนี้ อย่างช้าต้นปีหน้า หรืออาจจะเปลี่ยนเครื่อง แล้วเอามาขายสนโฉมเดิมเลยก็ได้
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: eaton fuller ที่ สิงหาคม 01, 2015, 18:41:00
ทำครึ่งท่อนหน้าใหม่อย่าให้เหมือน ดีแมกซ์


Option  ก็เอาตามที่เขามีกัน   

ก็มีลูกค้ากลุ่มจงรักภัคดี ที่มั่นใจในคุณภาพเครื่องดีเซลอีซูซุ อยู่แล้ว ( ส่วนใหญ่อายุ  45-60 ปี ที่ไม่แคร์รูปลักษณ์ )
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: JONNY ที่ สิงหาคม 01, 2015, 18:55:58
ยังพอขายได้เรื่อยๆ แต่ปล่อยไว้นาน ลูกค้าหายหมด
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Duke2001 ที่ สิงหาคม 01, 2015, 19:27:59
    เอาจริงๆ นะครับ ISUZU มีดีที่ศูนย์บริการครับ ซึ่งทั้ง Ford Mitsu หรือแม้แต่ Toyota การบริการหลัง
การขาย การเอาใจลูกค้า การเครมประกันต่างๆ ยังไม่สามารถจะเทียบได้กับศูนย์ ISUZU ครับ

    ISUZU เขามีฐานลูกค้าเดิมที่รักในแบรน ISUZU อยู่ครับลองสังเกตุดูนะครับพวกรถขนของ ขนส่งสินค้าต่างๆ
ก็ยังใช้ ISUZU หรือ Toyota อยู่นะครับซึ่งพวกนี้เป็นพวกค้าขายมีกำลังซื้อมากนะครับ จะเห็นพวก Ford กับ Mitsu เป็นรถใช้งานน้อยมากๆ
ซึ่งคนกลุ่มนี้หละที่กำลังชื่อหลักอยากได้รถ PPV มาขับไว้ไปเที่ยวกับครอบครัว แต่คนพวกนี้ไม่ได้เล่นอินเตอร์เน็ตเพราะว่าชีวิตอยู่กับการค้าขาย
ไม่มีเวลามานั้นจิ้มนั่งเล่นแบบพวกเราๆหลอก เพราะฉะนั้นเขาก็ต้องมองในแบรนที่เขาเคยใช้อยู่และการบริการที่ดีถึงผมบอกว่ายังไง Fortuner ก็ยอด
ขายมาเป็นที่หนึ่ง แล้วยังไง MU-X ก็เบียดๆกับ Pajero ใหม่ โดยแรกๆ Pajero ใหม่ ยอดขายอาจจะนำเพราะรถใหม่สด แต่ผลสุดท้ายพอMU-X
เปลี่ยนเครื่องยนต์ เพิ่มอ๊อฟชั่น Pajero ก็ต้องแพ้ MU-X อยู่ดีครับ อันนี้จากประสบการณ์จริงที่ผมคลุกคลีกับคนทำงานค้าขายเป็นเสี่ยๆ ขนผัก ขนหมู
พวกนี้มีเงินเยอะมากๆ จะซื้อรถตามใจชอบครับโดยไม่เสียเวลามาเปรียบเทียบอ๊อฟชั่นให้วุ่นวายแค่พอมีพอใช้ ไม่ได้อีอฟชั่นขี้เหล่เกิน ขอแค่บริการที่ดีก็
เป็นพอครับ ที่เหลือนมาแต่งเองครับ

    ทีนี้พอมาดูพวกเล่นเน็ตข้อมูลเยอะเปรียบเทียบไปหมดทุกจุดพวกนี้จะเป็นคนรุ่นใหม่กำลังซื้อน้อยเพราะรถ PPV คันละ1.5ล้านต้องทำงานมีเงินเดือน
ไม่ต่ำกว่า 4 หมื่นนะครับถึงจะผ่อนรถพวกนี้ได้เพราะรถพวกนี้ผ่อนเดือนหนึ่งขั้นต่ำ 2 หมื่นขึ้นอยู่แล้วนะครับซึ่งคนกลุ่มนี้ผมว่าอายุไม่น่าจะเกิน 35 ซักเท่าไร
อาจจะมีส่วนน้อยที่มีกำลังที่พอจะซื้อได้ ผมถึงบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง ISUZU เขาหลอกครับเขามีกลุ่มคนใช้ของเขาอยู่เรื่อยๆ
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: beerrl ที่ สิงหาคม 01, 2015, 19:29:04
เครื่องใหม่ ประหยัดกว่าคู่แข่ง
Option เพิ่มให้ใกล้เคียงกับคู่แข่ง ไม่ต้องเท่าเขา
แค่นี้ ผมว่า พอไหวครับ
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: mothsan ที่ สิงหาคม 01, 2015, 20:02:10
ออฟชั่นที่ PJS FTN  ให้มานั้น ผมว่า Isu..u เค้าไม่มีหรอกครับ เค้ามีแต่ออฟชั่นที่มีในรถสิบล้อนะครับ
ไม่เคยได้ทุ่มงบพัฒนาพวกออฟชั่นจุกจิกแบบนี้สำหรับรถปิคอัพหรอก ยังไงเค้าก็คิดว่าขาย มีแต่พวกออฟชั่นตามกระแส Xenon DRL
ขายไปเรื่อย  งบพัฒนาน้อย แต่ดันขายแพง ไม่รู้กำไรไปอยู่ที่ไหน ทรีเพชร หรือ Isu..u ที่ได้กำไรเยอะๆ
ผมว่าเป็นเจ้าแรกนะ
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: SETTHASART ที่ สิงหาคม 01, 2015, 20:12:14
เพิ่มชื่อให้ยาวขึ้นครับ จะ super อะไรก็ให้เพิ่มเข้าไป
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: ixoxi999 ที่ สิงหาคม 01, 2015, 21:11:45
ตอนนี้เพิ่มเติมอะไรใส่รถเข้าไป ยอดขายก็ไม่ได้พุ่งมากครับ ผมว่ารอจังหวะให้เศรษฐกิจมันผงกหัวขึ้นหน่อย แล้วอัดออฟชั่นให้เต็มที่ ผมว่า ยอดน่าจะวิ่ง ออฟชั่นใหม่มาพรัอมกับเครื่อง twin turbo นั่นละเจ๋งสุด
ตอนนี้ต้องรักษาลูกค้าเก่าไว้ให้ได้เยอะที่สุดก่อนครับ อัดโปรเกี่ยวกับการซ่อมบำรุง แสดงถึงความพร้อมของศูนย์บริการ เอาจุดแข็งแสดงออกมาให้เยอะที่สุด เลิกเอาโก้ะตี๋มาโฆษณา แล้วเอายอดตรงนั้นมาเพิ่มให้ลูกค้าเลยครับ น่าจะ work กว่าครับ
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: kiwiwi ที่ สิงหาคม 01, 2015, 21:27:54
ออฟชั่นที่ PJS FTN  ให้มานั้น ผมว่า Isu..u เค้าไม่มีหรอกครับ เค้ามีแต่ออฟชั่นที่มีในรถสิบล้อนะครับ
ไม่เคยได้ทุ่มงบพัฒนาพวกออฟชั่นจุกจิกแบบนี้สำหรับรถปิคอัพหรอก ยังไงเค้าก็คิดว่าขาย มีแต่พวกออฟชั่นตามกระแส Xenon DRL
ขายไปเรื่อย  งบพัฒนาน้อย แต่ดันขายแพง ไม่รู้กำไรไปอยู่ที่ไหน ทรีเพชร หรือ Isu..u ที่ได้กำไรเยอะๆ
ผมว่าเป็นเจ้าแรกนะ

ถ้าจำไม่ผิด กล้องหน้ามุมกว้าง ที่ฟ้องว่าจะมีรถออกมาจากซอยนี่ เค้าคนแรกและคนเดียวเลยนะ
หากเอาตามวัตถุประสงค์ตรงๆ ปาเองก็ไม่ใช้นะครับ เอฟเวอเรสท์ไม่แน่ใจ

สุดยอดเลยอะครับ
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: JetDou ที่ สิงหาคม 01, 2015, 23:08:33
ดูแล้วคงจะได้ ใส่เครื่องใหม่ + ไฟหน้า bi-Xenon + DRL ยาวขึ้น แล้วตั้งชื่อว่า

Isuzu Mu-X Super Xenon Daylight Bi-turbo

ถ้าทำจริงนี้ผมฮา
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: NONT4477 ที่ สิงหาคม 02, 2015, 00:32:01
Model Change คงอีกนาน
ขอเป็น Very Big Minor Change พร้อมเครื่องใหม่ครับ
ออพชั่นที่ต้องมี หลอดไฟหน้า HID หรือ LED, Cruise Control, ไฟท้าย LED แบบTube ยิ่งดี,
ล้อแม็กรุ่น Top ขอขอบ 18 ปัดเงาลายสวยๆ แค่นี้ไปวัดไปวาได้อยู่
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: whoami ที่ สิงหาคม 02, 2015, 08:17:11
เจ้านี้เขาไม่เน้นยอดและอัดแคมเปญแรงๆไม่เป็นครับ

ต่อให้ขายไม่ออกจอดเต็มโชว์รูมอย่างมากก็คงลดไม่กี่หมื่น

จะลดแสนสองแสนแบบค่ายอื่น ยากกกกกกส์
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: mile ที่ สิงหาคม 02, 2015, 11:56:32
นักออกแบบ อีซูซุ เขาไม่ได้คิดอย่างเราๆคิดหรอกครับ ว่าต้องทำให้มันฉีกแนว ทำให้แตกต่างจากรถกระบะ แต่เขาคิดจากพื้นฐานหลายๆอย่างที่เหมือนกันเพื่อแชร์ แฟลตฟอร์ม ไงครับทำให้อะไหล่หลายอย่างแชร์ร่วมกันได้  ซึ่งมันก็ส่งผลต่อด้านต้นทุนโดยรวมของรถด้วยไง อีซูซุเขามองไปที่จุดนี้มากกว่า 

อีกอย่างตลาดผู้ใช้อีซูซุนั้นค่อนข้างเหนียวแน่น ซึ่งเกิดมาจากความมั่นใจในด้านบริการหลังการขาย อะไหล่ที่หาได้ง่าย การใช้งานที่ประหยัดน้ำมัน อัตราเร่งต่างๆก็ไม่น่าเกลียดอะไรสำหรับคนใช้รถธรรมดาทั่วไป ความต้องการของคนที่ซื้อรถโดยอินเตอร์เน็ท  กับคนอีกมากที่ซื้อรถโดยความรู้สึกและความเชื่อมั่นในแบรนด์  กลุ่มหลังมีเยอะกว่าแน่นอนครับแถมส่วนใหญ่มีกำลังซื้อมากด้วย
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: lacked ที่ สิงหาคม 02, 2015, 13:52:33
ไมเนอร์เชนในแบบที่ค่ายนี้ไม่เคยทำคือ เปลี่ยนแปลงให้มากกว่าความยาวชื่อรุ่น หน้าหลังต้องไม่เหมือนกระบะ
ที่เหลือคงยากที่จะเปลี่ยนได้แค่ที่กล่าวมาข้างต้นสำหรับค่ายนี้ก็เป็นไปได้ยากแล้ว
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: delete ที่ สิงหาคม 03, 2015, 08:16:14
ออพชั่น และเครื่องใหม่ มีขายอยู่ในในเมืองนอก(อังกฤษ)
ผมว่าไม่ยากที่จะเล่นอัดออพชั่น แต่ราคานี่สิ 1.59 เท่าพี่โต ผมว่า ราคาแรงไปนะ
1.49 น่าจะดี กลางๆระหว่างพี่โต กับ ปาเจโร่
ส่วนออพชั่น เท่าๆกับพี่โต เพื่อตีกันพี่โต
แต่ราคา แพงกว่าปาเจโร่ไม่มาก
แล้วก็โม้กับไอจีนี่ ระบบเชคระยะอัจฉริยะเหมียนเดิมกันไป 555
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: mothsan ที่ สิงหาคม 03, 2015, 21:38:02
    เอาจริงๆ นะครับ ISUZU มีดีที่ศูนย์บริการครับ ซึ่งทั้ง Ford Mitsu หรือแม้แต่ Toyota การบริการหลัง
การขาย การเอาใจลูกค้า การเครมประกันต่างๆ ยังไม่สามารถจะเทียบได้กับศูนย์ ISUZU ครับ

    ISUZU เขามีฐานลูกค้าเดิมที่รักในแบรน ISUZU อยู่ครับลองสังเกตุดูนะครับพวกรถขนของ ขนส่งสินค้าต่างๆ
ก็ยังใช้ ISUZU หรือ Toyota อยู่นะครับซึ่งพวกนี้เป็นพวกค้าขายมีกำลังซื้อมากนะครับ จะเห็นพวก Ford กับ Mitsu เป็นรถใช้งานน้อยมากๆ
ซึ่งคนกลุ่มนี้หละที่กำลังชื่อหลักอยากได้รถ PPV มาขับไว้ไปเที่ยวกับครอบครัว แต่คนพวกนี้ไม่ได้เล่นอินเตอร์เน็ตเพราะว่าชีวิตอยู่กับการค้าขาย
ไม่มีเวลามานั้นจิ้มนั่งเล่นแบบพวกเราๆหลอก เพราะฉะนั้นเขาก็ต้องมองในแบรนที่เขาเคยใช้อยู่และการบริการที่ดีถึงผมบอกว่ายังไง Fortuner ก็ยอด
ขายมาเป็นที่หนึ่ง แล้วยังไง MU-X ก็เบียดๆกับ Pajero ใหม่ โดยแรกๆ Pajero ใหม่ ยอดขายอาจจะนำเพราะรถใหม่สด แต่ผลสุดท้ายพอMU-X
เปลี่ยนเครื่องยนต์ เพิ่มอ๊อฟชั่น Pajero ก็ต้องแพ้ MU-X อยู่ดีครับ อันนี้จากประสบการณ์จริงที่ผมคลุกคลีกับคนทำงานค้าขายเป็นเสี่ยๆ ขนผัก ขนหมู
พวกนี้มีเงินเยอะมากๆ จะซื้อรถตามใจชอบครับโดยไม่เสียเวลามาเปรียบเทียบอ๊อฟชั่นให้วุ่นวายแค่พอมีพอใช้ ไม่ได้อีอฟชั่นขี้เหล่เกิน ขอแค่บริการที่ดีก็
เป็นพอครับ ที่เหลือนมาแต่งเองครับ

    ทีนี้พอมาดูพวกเล่นเน็ตข้อมูลเยอะเปรียบเทียบไปหมดทุกจุดพวกนี้จะเป็นคนรุ่นใหม่กำลังซื้อน้อยเพราะรถ PPV คันละ1.5ล้านต้องทำงานมีเงินเดือน
ไม่ต่ำกว่า 4 หมื่นนะครับถึงจะผ่อนรถพวกนี้ได้เพราะรถพวกนี้ผ่อนเดือนหนึ่งขั้นต่ำ 2 หมื่นขึ้นอยู่แล้วนะครับซึ่งคนกลุ่มนี้ผมว่าอายุไม่น่าจะเกิน 35 ซักเท่าไร
อาจจะมีส่วนน้อยที่มีกำลังที่พอจะซื้อได้ ผมถึงบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง ISUZU เขาหลอกครับเขามีกลุ่มคนใช้ของเขาอยู่เรื่อยๆ
ขอนอกเรื่องนิดนึง ผมว่าอยากรู้ว่า เสี่ยผัก เสี่ยหมู มีรายได้่ต่อวัน หรือ ต่อเืดอฃือนเท่าไหร่ครับ หักค่าใช้จ่ายแล้วนะครับ สนใจมานาน
หัวข้อ: Re: mu-x ต้องปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ สิงหาคม 03, 2015, 22:39:29
นอกจากเครื่องใหม่ที่จะมาแล้ว วัสดุภายใน ขอร้องเลย ใช้ให้มันสมราคาหน่อยเถอะครับ ไม่ไหวจริงๆ

นอกนั้นก็ดูว่า คู่แข่งเค้าใส่อะไรมาบ้าง ก็ใส่ๆตามไป ผมว่าแค่นี้ Isuzu ก็ยอดกลับมามากเหมือนเดิมแล้ว