Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: SZG ที่ สิงหาคม 12, 2015, 02:04:42

หัวข้อ: รถวิ่งไปกี่กิโล หรือกี่ปี ไม่ซ่อม ไม่เสีย ถึงจะบอกได้ว่า ทนทาน ไม่จุกจิก
เริ่มหัวข้อโดย: SZG ที่ สิงหาคม 12, 2015, 02:04:42
เกียร์ Manual/Auto/CVT ด้วยครับ
800,000/400,000/300,000 (20/10/8 ปี) หรือปล่าว

คือสงสัยนะครับ เอาอะไรมาวัดกัน
หัวข้อ: Re: รถวิ่งไปกี่กิโล หรือกี่ปี ไม่ซ่อม ไม่เสีย ถึงจะบอกได้ว่า ทนทาน ไม่จุกจิก
เริ่มหัวข้อโดย: Terng ที่ สิงหาคม 12, 2015, 03:36:54
ตูดเป็ดคันเก่าผมวิ่งไปสิบกว่าปี เสียแต่อะไหล่ตามระยะทางของมัน ไม่มีเสียหนักๆ แบบนี้ผมเรียกทนทานอะครับ ไม่ได้เอาเกณฑ์อะไรวัด

ล่าสุด Altis 2009 ผมก็อยู่มาจนถึงปัจจุบันโดยที่ยังไม่เคยเห็นอะไรของมันเสียเลยสักอย่างเดียว ผมก็ว่ามันก็ทนทานดีเหมือนกัน

Jazz 2003 ขายทิ้งไปแล้ว มีงอแงบ้างนิดๆหน่อยๆ แต่ภาพรวมก็ไม่มีอะไรเสียหายหนักหนา ผมก็รู้สึกว่ามันเป็นรถที่พึ่งพาได้ แม้ไม่ทนมือทนเท้าเท่าโตโยต้าสองคันข้างบน

ปัจจุบันมีพรีอุส TRD 2011 อีกคัน เจ้านี่ก็ไม่เห็นมันจะงอแงเลยสักครั้งเดียว ยังขับดีอยู่มากๆทั้งสองคันจนเสียดายแทนคนที่ไม่คิดจะพิจารณามัน เพียงเพราะคำว่ากลัวซ่อมแพงน่ะครับ (ที่ผ่านมาก็ยังไม่ซ่อมอะไรเลยสักรายการ ยกเว้นขับชนหมาประกันเคลมให้ แต่เขาโดนค่าอะไหล่ไปเยอะอยู่ (เพราะเปลี่ยนทั้งชิ้น) รถที่พูดถึงอยู่คือขับไปเกือบสองแสนแล้วนะครับ


สุดท้ายผมก็คิดว่า คนก็ใช้ความรู้สึกบวกประสบการณ์ที่เคยใช้รถมาเป็นตัววัดแหละครับว่าอะไรทนไม่ทน จะให้วัดเป็นเชิงปริมาณ อาจจะลำบากหน่อย (คือมันตอบเป็นตัวเลขไม่ได้ชัดเจน ยกเว้นคุณทำวิจัยจริงจัง)
หัวข้อ: Re: รถวิ่งไปกี่กิโล หรือกี่ปี ไม่ซ่อม ไม่เสีย ถึงจะบอกได้ว่า ทนทาน ไม่จุกจิก
เริ่มหัวข้อโดย: JONNY ที่ สิงหาคม 12, 2015, 05:53:23
ระบบช่วงล่างครับ จะไปก่อนอันใด
ขึ้นอยู่กับการใช้งานแต่ละบุคคลและพื้นที่ด้วย
5-6 ปีต้องมีหลวมมีเสียกันทุกคัน อาการเกาะถนนของรถก็ค่อยเปลี่ยนไปทีละนิด บางคนรู้สึกได้ บางคนรู้ไม่ได้ก็ว่ามันทนจัง ส่วนเครื่องยนต์มันได้หลายแสนกิโลอยู่แล้ว ถ้าเปลี่ยนถ่ายของเหลว และไม่ไปดัดแปลง เติมแต่งเครื่องยนต์
ถ้าวิ่งเยอะแบบแท็กซี่ ช่วงล่าง 2-3 ปีก็ไปกันแล้ว
หัวข้อ: Re: รถวิ่งไปกี่กิโล หรือกี่ปี ไม่ซ่อม ไม่เสีย ถึงจะบอกได้ว่า ทนทาน ไม่จุกจิก
เริ่มหัวข้อโดย: sith(สิทธิ์) ที่ สิงหาคม 12, 2015, 06:04:32
ในมุมมองผมขอออกนอกเรื่องนิดนึง
ผมว่าบ้านเราใช้งานรถผิดนะ จริงๆรัฐควรออกมาตรการ ออกกฏมาว่า รถจริงๆควรใช้กี่ปี สมมุติ10ปี
แล้วรัฐจะออกมาตรการรองรับสำหรับคนที่มีรถอายุครบ 10 ปีละ ต้องทำยังไง เพื่อที่เค้าจะสามารถออกรถคันใหม่ได้
โดยที่ไม่กระทบมากมาย เพราะบางคนไม่ได้รวยขนาดซื้อรถบ่อย รถจำเป็นในการใช้ในชีวิตประจำวัน
เพราะระบบขนส่งมวลชลบ้านเรามันไม่ดี เข้าไม่ถึง เค้าจึงออกรถกันเยอะแยะไปหมด จนรถติด มลพิษ มลภาวะ เสียง กลิ่น ควัน
ผมอยากให้จำกัดอายุรถนะ เพราะบางคันเก่ามาก ควันดำมาก มลภาวะเยอะมาก
บ้านเราพร้อมรึยังที่จะทำ เปลี่ยนแปลงกฏพวกนี้ รัฐพร้อมจะมีอะไรมารองรับและแก้ปัญหาเหล่านี้รึยัง
รถผม มาสด้าบีที 8 ปีละ ไม่เคยซ่อม ไม่มีอะไรเสีย วิ่งปกติ กดยังได้ 160 อยู่
ถ้ากฏหมายออกมา มีอะไรรองรับ บังคับให้เปลี่ยน ให้ขายรถส่งคืน แล้วได้คันใหม่ผ่อนใหม่ในราคาที่เป็นธรรม ผมก็ยอมนะ
ขอออกนอกเรื่องของเจ้าของกระทู้หน่อยนะครับ คือ ตอนนี้มาอยู่กรุงเทพ ผมเห็นสภาพถนน รถ ควัน เสียง อะไรพวกนี้แล้วขัดใจ
ยิ่งผมเป็นภูมิแพ้ด้วย เจอมลพิษแบบนี้ ปวดหัวเหมือนกัน ทรมาน  :)
มันจะเป็นไปได้ไหมหนอ ที่รัฐจะออกกฏรถ10ปี มีกฏหมายรองรับ และ ช่วยเหลือคนที่ใช้รถอายุเยอะๆ จะรับซื้อคืน หรือ ให้เค้าเก็บไว้เป็นรถโบราณ
ตามแต่ใจ แต่ไม่ให้ใช้ในชีวิตประจำวัน ผมว่า มลพิษ น่าจะลดน้อยลงนะ รถเมล์นี่เกินหมดแล้วมั้ง
แต่ก็ไม่ใช่ ออกกฏมา แล้วให้ประชาชน ดิ้นรนเอง แบบนั้นก็ไม่สนับสนุนนะครับ เพราะบางคนใช้รถคุ้ม หาเงิน หมุนเงิน
ส่วนเรื่อง รถทนไม่ทน ขึ้นอยู่กับการดูแลของแต่ละคนด้วย อย่างที่บอก รถผมใช้มา8ปี ไม่มีเสียเลย
เข้า0ตลอด เช็คระยะตลอด
หัวข้อ: Re: รถวิ่งไปกี่กิโล หรือกี่ปี ไม่ซ่อม ไม่เสีย ถึงจะบอกได้ว่า ทนทาน ไม่จุกจิก
เริ่มหัวข้อโดย: kris-lack ที่ สิงหาคม 12, 2015, 07:25:12
รถเรานาวาร่าใช้มา 6 ปี แสนสองกิโล เกียร์ธรรมดา
อยากถามต่อว่ามันจะใช้ได้ถึง 10 กว่าปีมั้ย โดยที่ยังท่องเที่ยวขึ้นเหนือลงใต้ได้
ซึ่งขอแค่เปลี่ยนอะไหล่ตามระยะทาง ไม่ต้องซ่อมหนักอะไร??
หัวข้อ: Re: รถวิ่งไปกี่กิโล หรือกี่ปี ไม่ซ่อม ไม่เสีย ถึงจะบอกได้ว่า ทนทาน ไม่จุกจิก
เริ่มหัวข้อโดย: kidkungza ที่ สิงหาคม 12, 2015, 08:11:23
รถเรานาวาร่าใช้มา 6 ปี แสนสองกิโล เกียร์ธรรมดา
อยากถามต่อว่ามันจะใช้ได้ถึง 10 กว่าปีมั้ย โดยที่ยังท่องเที่ยวขึ้นเหนือลงใต้ได้
ซึ่งขอแค่เปลี่ยนอะไหล่ตามระยะทาง ไม่ต้องซ่อมหนักอะไร??
  ผมใช้นาวาร่าอยู่รถปี 2009 วิ่งอยู่แสน 8 ยังไม่เคยซ่อมหนัก  เคยจ่ายแพงสุดตอนเปลียนยางกับครัช
หัวข้อ: Re: รถวิ่งไปกี่กิโล หรือกี่ปี ไม่ซ่อม ไม่เสีย ถึงจะบอกได้ว่า ทนทาน ไม่จุกจิก
เริ่มหัวข้อโดย: rut191 ที่ สิงหาคม 12, 2015, 08:17:39
สำหรับผม5ปีแรกไม่เจอซ่อมเกิน 20000บาทต่อครั้งต่อปีไม่รวมยางก็ถือว่าทนใช้ได้แล้วครับเฉลี่ยวิ่งปีล่ะ20000-30000กม./ปี(รถราคาไม่เกิน1mนะครับ)
ส่วนหลัง5ปีไปแล้วถ้าซ่อมเฉลี่ยเกินปีล่ะ30k-40kก็ควรจะตัดใจขายได้แล้วครับ
หัวข้อ: Re: รถวิ่งไปกี่กิโล หรือกี่ปี ไม่ซ่อม ไม่เสีย ถึงจะบอกได้ว่า ทนทาน ไม่จุกจิก
เริ่มหัวข้อโดย: meeuwarn ที่ สิงหาคม 12, 2015, 08:22:02
 เครื่อง เกียร์ ถ้านับว่าทน 10 ปีครับ 200000โล พังก็ไม่รู้สึกอะไรแล้ว

เฟี้ยสต้า พาวเวอร์เรือหายตายกลางทาง เรียก ไม่ทนครับ >:(

พวกจุกจิก เสาดัง เบรกดัง ผมว่าแล้วแต่คนขับด้วย บางคนขับไม่ถนอมรถ แล้วโทษ มันไม่ทน ไม่ไหวครับ
หัวข้อ: Re: รถวิ่งไปกี่กิโล หรือกี่ปี ไม่ซ่อม ไม่เสีย ถึงจะบอกได้ว่า ทนทาน ไม่จุกจิก
เริ่มหัวข้อโดย: KAMILIA ที่ สิงหาคม 12, 2015, 09:09:16
ดูจาก เครื่อง เกียร์ ช่วงล่าง   ยกตัวอย่าง สมมุติว่า มันควรใช้ได้ 1 แสนโล แต่ใช้ได้ 2 แสนโล อันนี้เรียกว่าทน  แต่ใช้ได้ 5 หมื่นพัง อันนี้เรียกว่าไม่ทน
เอาระยะเวลามาวัดไม่ได้ (ปี) เพราะบางคนใช้รถน้อย  บางคนใช้รถเดือนเป็นหมื่นโล
หัวข้อ: Re: รถวิ่งไปกี่กิโล หรือกี่ปี ไม่ซ่อม ไม่เสีย ถึงจะบอกได้ว่า ทนทาน ไม่จุกจิก
เริ่มหัวข้อโดย: rega ที่ สิงหาคม 12, 2015, 09:29:37
ครบสิบปี หลอดไฟน่าจะหมดอายุ

รวมโช๊คหลังที่รั่ว

เปลี่ยนทั้งสองรายการ ใช้รถเกือบทุกวันครับ
หัวข้อ: Re: รถวิ่งไปกี่กิโล หรือกี่ปี ไม่ซ่อม ไม่เสีย ถึงจะบอกได้ว่า ทนทาน ไม่จุกจิก
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ สิงหาคม 12, 2015, 10:58:13
เครื่องยนต์สิบปีและสองแสนโลเป็นอย่างน้อย
ระบบไฟฟ้า กล่องควบคุม 10ปี ไม่จำกัดระยะทาง ต้องถึง
ช่วงล่างนี่พูดยากครับ
ตัวถัง20 ปี ไม่ผุไม่เบี้ยว
หัวข้อ: Re: รถวิ่งไปกี่กิโล หรือกี่ปี ไม่ซ่อม ไม่เสีย ถึงจะบอกได้ว่า ทนทาน ไม่จุกจิก
เริ่มหัวข้อโดย: liveshow ที่ สิงหาคม 12, 2015, 12:00:47
โช๊คัพเกิน 150000โล ช่วงล่าง บูชลูกหมาก 200000โล ครัช 200000 ผมว่ามันทนแล้วละ ใช้เกิน 5 ปี 200000 ไม่เปลี่ยนพวกนี้เลย นี่ โคตรทน
หัวข้อ: Re: รถวิ่งไปกี่กิโล หรือกี่ปี ไม่ซ่อม ไม่เสีย ถึงจะบอกได้ว่า ทนทาน ไม่จุกจิก
เริ่มหัวข้อโดย: EG-5182 ที่ สิงหาคม 12, 2015, 12:08:53
JAZZ GE MT 5 ปี 220,000

60000โล เคลมท่อนล่างไปตัวนึง เนื่องจากซวยตรงที่เจอเสื้อสูบมีปัญหาจากการผลิต

99000 หน้าครัชต์+ฟิลคอยล์ คอมแอร์ (8000 บาท เคลม)

160000 พัดลมโบลเออร์แอร์ 1 ตัว (3 พันกว่า จ่ายเอง)

2000000 ลูกปืนล้อหลัง 2 ตัว (3200) ยางแท่นเครื่อง + แท่นเกียร์ (4500)


นอกนั้นก็หยุมหยิม พวกไฟเก๋ง ไฟสวิตซ์ หลอดขาด


ช่วงล่างยังแน่นปึ้ก ไม่เคยซ่อม (อันนี้อยู่ที่คนขับนะครับ เพื่อนผมรถเดิม 150000 แทบจะหลุดเป็นชิ้นๆ)


ครัชต์เริ่มแข็ง แต่สับสองยางยังร้องอยู่

แต่คงใกล้ไปละคับ สปริงตัวหนอนคงเริ่มหลวม

เพราะบางทีมันสั่นตอนเลี้ยงเกียร์ 2

สาเหตุคงเพราะ บางทีชอบออกแรงๆ บ้าง


แต่แบตฯ นี่ 5 ลูก ยาง 3 ชุด โช้คซิ่ง 3 ชุด ท่อ 2 เส้น ผ้าเบรค 4 ชุด

ที่เหลือก็เช็คตามระยะรอบ แพงทุก 40000 โล อะไหล่ศูนย์ แพงตรงของเหลวที่เลือกเอง

น้ำมันเครื่อง 1800

น้ำมันเกียร์ 350

น้ำมันเบรค ครัชต์ 330

กรองเครื่อง 220

กรองแอร์ 700 (อันนี้ไม่รู้มันจะแพงไปไหน)

กรองอากาศ 250

กรองเบนซิน 1100

หัวเทียน 2400 (เบิกศูนย์ เปลี่ยนแสนโล)


แบบนี้พอเรียกทนได้ไหมครับ
หัวข้อ: Re: รถวิ่งไปกี่กิโล หรือกี่ปี ไม่ซ่อม ไม่เสีย ถึงจะบอกได้ว่า ทนทาน ไม่จุกจิก
เริ่มหัวข้อโดย: ChiLun ที่ สิงหาคม 12, 2015, 12:24:16

7ปี 150,000โล ผมว่าถ้าเปลี่ยนถ่ายตามระยะอย่างเดียวคือทนตามที่ควรจะเป็น
หัวข้อ: Re: รถวิ่งไปกี่กิโล หรือกี่ปี ไม่ซ่อม ไม่เสีย ถึงจะบอกได้ว่า ทนทาน ไม่จุกจิก
เริ่มหัวข้อโดย: yord ที่ สิงหาคม 12, 2015, 13:26:01
ใช้ isuzu กระบะเครื่อง 2500 ปี2004 วิ่งมา 260,000โล ระยะช่วง 250,000โล น้ำแห้งความร้อนขึ้นไปเปลี่ยนซีลยางท่อต่างๆ ปรากฏว่าความร้อนขึ้นน้ำแห้งอีก คราวนี้หาสาเหตุใหม่ช่างบอกเสื้อสูบรั่วเห็นรอยคราบน้ำ ถ้าจะแก้ก็ต้องเชื่อมเสื้อสูบ ประมาณไม่เกิน 5000.-รื้อประกอบกลับ 3วัน แต่ถ้าเปลี่ยนเสื้อใหม่ เฉพาะเสื้อ 30,000.-กว่าๆ ไม่รวมอย่างอื่นที่อาจชำรุดหรือใช้ไม่ได่้กับเสื้อใหม่ตอนเปลี่ยนเสื้ออีกเช่นลูกสูบต่างๆ ราวๆให้เผือ่ไว้ 80,000.- ระยะเวลาทำ3วัน  สุดท้ายผมยังไม่ได้ซ่อม ตรวจดูน้ำในหม้อพักตลอด ขับซัก 1,000โล นำจะลดไปประมาณ 1เซน ก็คอยเติมเอาครับ มีอย่างอื่นพังก็เคยแค่แอร์ไม่เย็นไม่รู้อะไรพังตอนนั้นโดนไป 8,000.- และก็เซ็นทรัลล็อคพังอีก 2,000.-+ หลังจากขับมา 5ปี เป็นคนขับรถแบบลุยทุกอย่าง หลุม ลูกรัง เนิน ขรุขระ

เครื่องรั่วนี่ผมยังสงสัยตัวเองอยู่ว่าไม่รู้อยู่ที่การขับขี่หรือเปล่าคนอื่นไม่เป็นผมเป็น เพราะผมขับรถ5-6ปีแรก ทุกเกียร์เหยี่ยบมิด 4,000รอบตลอด แบบว่าควันดำทุกเกียร์ ออกตัวกระชากออกอย่างเดียวแบบปล่อยครัชหมดเหยีบยคันเร่งมิด  เพราะรถมันอืดมากๆเลยขับอย่างนี้มาตลอด ไม่เคยคิดหรือรู้มาก่อนเลยว่าไม่ควรเหยียบเกิน 3,000 รอบถึงจะถนอมเครื่องยนต์  ก็ดันซื้อรถอืดตอนวัยรุ่นสะงั้น
หัวข้อ: Re: รถวิ่งไปกี่กิโล หรือกี่ปี ไม่ซ่อม ไม่เสีย ถึงจะบอกได้ว่า ทนทาน ไม่จุกจิก
เริ่มหัวข้อโดย: localgame ที่ สิงหาคม 12, 2015, 18:16:35
ในมุมมองผมขอออกนอกเรื่องนิดนึง
ผมว่าบ้านเราใช้งานรถผิดนะ จริงๆรัฐควรออกมาตรการ ออกกฏมาว่า รถจริงๆควรใช้กี่ปี สมมุติ10ปี
แล้วรัฐจะออกมาตรการรองรับสำหรับคนที่มีรถอายุครบ 10 ปีละ ต้องทำยังไง เพื่อที่เค้าจะสามารถออกรถคันใหม่ได้
โดยที่ไม่กระทบมากมาย เพราะบางคนไม่ได้รวยขนาดซื้อรถบ่อย รถจำเป็นในการใช้ในชีวิตประจำวัน
เพราะระบบขนส่งมวลชลบ้านเรามันไม่ดี เข้าไม่ถึง เค้าจึงออกรถกันเยอะแยะไปหมด จนรถติด มลพิษ มลภาวะ เสียง กลิ่น ควัน
ผมอยากให้จำกัดอายุรถนะ เพราะบางคันเก่ามาก ควันดำมาก มลภาวะเยอะมาก
บ้านเราพร้อมรึยังที่จะทำ เปลี่ยนแปลงกฏพวกนี้ รัฐพร้อมจะมีอะไรมารองรับและแก้ปัญหาเหล่านี้รึยัง
รถผม มาสด้าบีที 8 ปีละ ไม่เคยซ่อม ไม่มีอะไรเสีย วิ่งปกติ กดยังได้ 160 อยู่
ถ้ากฏหมายออกมา มีอะไรรองรับ บังคับให้เปลี่ยน ให้ขายรถส่งคืน แล้วได้คันใหม่ผ่อนใหม่ในราคาที่เป็นธรรม ผมก็ยอมนะ
ขอออกนอกเรื่องของเจ้าของกระทู้หน่อยนะครับ คือ ตอนนี้มาอยู่กรุงเทพ ผมเห็นสภาพถนน รถ ควัน เสียง อะไรพวกนี้แล้วขัดใจ
ยิ่งผมเป็นภูมิแพ้ด้วย เจอมลพิษแบบนี้ ปวดหัวเหมือนกัน ทรมาน  :)
มันจะเป็นไปได้ไหมหนอ ที่รัฐจะออกกฏรถ10ปี มีกฏหมายรองรับ และ ช่วยเหลือคนที่ใช้รถอายุเยอะๆ จะรับซื้อคืน หรือ ให้เค้าเก็บไว้เป็นรถโบราณ
ตามแต่ใจ แต่ไม่ให้ใช้ในชีวิตประจำวัน ผมว่า มลพิษ น่าจะลดน้อยลงนะ รถเมล์นี่เกินหมดแล้วมั้ง
แต่ก็ไม่ใช่ ออกกฏมา แล้วให้ประชาชน ดิ้นรนเอง แบบนั้นก็ไม่สนับสนุนนะครับ เพราะบางคนใช้รถคุ้ม หาเงิน หมุนเงิน
ส่วนเรื่อง รถทนไม่ทน ขึ้นอยู่กับการดูแลของแต่ละคนด้วย อย่างที่บอก รถผมใช้มา8ปี ไม่มีเสียเลย
เข้า0ตลอด เช็คระยะตลอด

เท่าที่ผมอ่านมาไม่เห็นมันต่างจากนโยบายรถคันแรกตรงไหนเลย สุดท้ายก็คือสนับสนุนให้คนซื้อรถใหม่โดยลดราคาให้ แทนที่จะเอาไปสนับสนุนพวกขนส่งสาธารณะมากกว่า รถจะกี่สิบปีไม่เห็นเกี่ยว เอาง่ายๆรถเกิน20ปีรัฐไม่ต้องบอกคนก็แทบไม่อยากจะเอามาใช้แล้ว ยกเว้น รถที่ทนจริงไม่จุกจิกซึ่งทุกวันนี้อัตราส่วนรถใหม่กับรถเกิน10ปีนี่รถใหม่เยอะกว่ามาก ไม่เห็นมีความจำเป็นต้องไปสนับสนุนให้ซื้อรถใหม่เลยครับ ทำรถเมล์ รถไฟ รถไฟฟ้าให้ดีๆคนก็ใช้รถน้อยลงแล้ว
หัวข้อ: Re: รถวิ่งไปกี่กิโล หรือกี่ปี ไม่ซ่อม ไม่เสีย ถึงจะบอกได้ว่า ทนทาน ไม่จุกจิก
เริ่มหัวข้อโดย: promt ที่ สิงหาคม 12, 2015, 19:31:54
กี่ปี กี่แสน กม.

จึงจะบอกว่าทน

ไม่มีใครบอกได้หรอก แต่ละคนเอาความพึงพอใจของตนเป็นที่ตั้ง

เอาเป็นว่า ใช้จนอยากให้พัง แต่ไม่พัง

ใช้จนเบื่อ แต่ถึกไม่ยอมเสีย

สตาร์ท แชะบิ้ม

นั่นแหละทน และไม่จุกจิก
หัวข้อ: Re: รถวิ่งไปกี่กิโล หรือกี่ปี ไม่ซ่อม ไม่เสีย ถึงจะบอกได้ว่า ทนทาน ไม่จุกจิก
เริ่มหัวข้อโดย: GolffyGolf ที่ สิงหาคม 12, 2015, 21:36:33
ACV40 ปี 2007 ไม่เคยซ่อม ไม่เคยเสีย ไม่มีจุกจิก แต่ล่าสุดเพิ่งจัดโช้คชุดใหม่ กับยางรอบที่ 2 ไป
หัวข้อ: Re: รถวิ่งไปกี่กิโล หรือกี่ปี ไม่ซ่อม ไม่เสีย ถึงจะบอกได้ว่า ทนทาน ไม่จุกจิก
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ สิงหาคม 12, 2015, 22:25:02
ในมุมมองผมขอออกนอกเรื่องนิดนึง
ผมว่าบ้านเราใช้งานรถผิดนะ จริงๆรัฐควรออกมาตรการ ออกกฏมาว่า รถจริงๆควรใช้กี่ปี สมมุติ10ปี
แล้วรัฐจะออกมาตรการรองรับสำหรับคนที่มีรถอายุครบ 10 ปีละ ต้องทำยังไง เพื่อที่เค้าจะสามารถออกรถคันใหม่ได้
โดยที่ไม่กระทบมากมาย เพราะบางคนไม่ได้รวยขนาดซื้อรถบ่อย รถจำเป็นในการใช้ในชีวิตประจำวัน
เพราะระบบขนส่งมวลชลบ้านเรามันไม่ดี เข้าไม่ถึง เค้าจึงออกรถกันเยอะแยะไปหมด จนรถติด มลพิษ มลภาวะ เสียง กลิ่น ควัน
ผมอยากให้จำกัดอายุรถนะ เพราะบางคันเก่ามาก ควันดำมาก มลภาวะเยอะมาก
บ้านเราพร้อมรึยังที่จะทำ เปลี่ยนแปลงกฏพวกนี้ รัฐพร้อมจะมีอะไรมารองรับและแก้ปัญหาเหล่านี้รึยัง
รถผม มาสด้าบีที 8 ปีละ ไม่เคยซ่อม ไม่มีอะไรเสีย วิ่งปกติ กดยังได้ 160 อยู่
ถ้ากฏหมายออกมา มีอะไรรองรับ บังคับให้เปลี่ยน ให้ขายรถส่งคืน แล้วได้คันใหม่ผ่อนใหม่ในราคาที่เป็นธรรม ผมก็ยอมนะ
ขอออกนอกเรื่องของเจ้าของกระทู้หน่อยนะครับ คือ ตอนนี้มาอยู่กรุงเทพ ผมเห็นสภาพถนน รถ ควัน เสียง อะไรพวกนี้แล้วขัดใจ
ยิ่งผมเป็นภูมิแพ้ด้วย เจอมลพิษแบบนี้ ปวดหัวเหมือนกัน ทรมาน  :)
มันจะเป็นไปได้ไหมหนอ ที่รัฐจะออกกฏรถ10ปี มีกฏหมายรองรับ และ ช่วยเหลือคนที่ใช้รถอายุเยอะๆ จะรับซื้อคืน หรือ ให้เค้าเก็บไว้เป็นรถโบราณ
ตามแต่ใจ แต่ไม่ให้ใช้ในชีวิตประจำวัน ผมว่า มลพิษ น่าจะลดน้อยลงนะ รถเมล์นี่เกินหมดแล้วมั้ง
แต่ก็ไม่ใช่ ออกกฏมา แล้วให้ประชาชน ดิ้นรนเอง แบบนั้นก็ไม่สนับสนุนนะครับ เพราะบางคนใช้รถคุ้ม หาเงิน หมุนเงิน
ส่วนเรื่อง รถทนไม่ทน ขึ้นอยู่กับการดูแลของแต่ละคนด้วย อย่างที่บอก รถผมใช้มา8ปี ไม่มีเสียเลย
เข้า0ตลอด เช็คระยะตลอด

เท่าที่ผมอ่านมาไม่เห็นมันต่างจากนโยบายรถคันแรกตรงไหนเลย สุดท้ายก็คือสนับสนุนให้คนซื้อรถใหม่โดยลดราคาให้ แทนที่จะเอาไปสนับสนุนพวกขนส่งสาธารณะมากกว่า รถจะกี่สิบปีไม่เห็นเกี่ยว เอาง่ายๆรถเกิน20ปีรัฐไม่ต้องบอกคนก็แทบไม่อยากจะเอามาใช้แล้ว ยกเว้น รถที่ทนจริงไม่จุกจิกซึ่งทุกวันนี้อัตราส่วนรถใหม่กับรถเกิน10ปีนี่รถใหม่เยอะกว่ามาก ไม่เห็นมีความจำเป็นต้องไปสนับสนุนให้ซื้อรถใหม่เลยครับ ทำรถเมล์ รถไฟ รถไฟฟ้าให้ดีๆคนก็ใช้รถน้อยลงแล้ว


TAX ที่เราซื้อรถใหม่   มา ทำถนน ให้เราขับ
พอรถเราเก่า ซื้อรถใหม่ TAX ที่เราซื้อรถใหม่  ก็ มา ทำถนน ให้เราขับ
พอรถเราเก่า ซื้อรถใหม่ TAX ที่เราซื้อรถใหม่  ก็ มา ทำถนน ให้เราขับ
พอรถเราเก่า ซื้อรถใหม่ TAX ที่เราซื้อรถใหม่  ก็ มา ทำถนน ให้เราขับ
พอรถเราเก่า ซื้อรถใหม่ TAX ที่เราซื้อรถใหม่  ก็ มา ทำถนน ให้เราขับ


หัวข้อ: Re: รถวิ่งไปกี่กิโล หรือกี่ปี ไม่ซ่อม ไม่เสีย ถึงจะบอกได้ว่า ทนทาน ไม่จุกจิก
เริ่มหัวข้อโดย: localgame ที่ สิงหาคม 12, 2015, 23:08:57

TAX ที่เราซื้อรถใหม่   มา ทำถนน ให้เราขับ
พอรถเราเก่า ซื้อรถใหม่ TAX ที่เราซื้อรถใหม่  ก็ มา ทำถนน ให้เราขับ
พอรถเราเก่า ซื้อรถใหม่ TAX ที่เราซื้อรถใหม่  ก็ มา ทำถนน ให้เราขับ
พอรถเราเก่า ซื้อรถใหม่ TAX ที่เราซื้อรถใหม่  ก็ มา ทำถนน ให้เราขับ
พอรถเราเก่า ซื้อรถใหม่ TAX ที่เราซื้อรถใหม่  ก็ มา ทำถนน ให้เราขับ

จริงๆแล้วถ้าเราทุกคนทำตามกฏหมายแล้วถนนนี่ไม่จำเป็นต้องทำเลยครับใช้ยาวจนลืม ผมสังเกตุจากถนนหน้าบ้านผมที่ไม่มีรถบรรทุก หรือ รถใหญ่ผ่านถนนไม่เสียเลยทั้งๆที่ใช้มาแล้วกว่า30ปี กลับกันพอไปดูถนนแถวๆที่รถเมล์หรือรถสิบล้อผ่านบ่อยๆมันจะมีหลุมบ่อ ซึ่งปัญหาจริงๆมาจากรถเมล์และรถบรรทุกน้ำหนักมากเกินไปตามกฏหมาย ถ้าเข้มงวดเรื่องนี้ได้ เรื่องทำถนนนี่แทบไม่จำเป็นเลย ของแบบนี้ต้องแก้ที่ต้นเหตุ อย่าไปแก้ที่ปลายเหตุที่ไปซ่อมถนนครับ
หัวข้อ: Re: รถวิ่งไปกี่กิโล หรือกี่ปี ไม่ซ่อม ไม่เสีย ถึงจะบอกได้ว่า ทนทาน ไม่จุกจิก
เริ่มหัวข้อโดย: sith(สิทธิ์) ที่ สิงหาคม 13, 2015, 09:25:25
ผมอธิบายในมุมกว้างๆ จะไม่โยงตัวนอกเหนือจากเรื่องรถมากนัก เพราะมันจะเข้าสู่โหมดการเมือง
เพราะนโยบายพวกนี้ล้วนเกี่ยวข้องกับการเมืองและธุรกิจ สิ่งที่ผมมองจะต่างจากนโยบายรถคันแรก
นโยบายนั้น มันจะมีทั้งรถเก่า รถใหม่วิ่งปนกันไปหมด ทำให้รถเยอะกระจุกตัว แต่สิ่งที่ผมมอง
ลดรถเก่า เอารถใหม่มาทดแทน ส่วนรถเก่าเอาไปทำอะไรนั้น ลองเอาไปพิจารณาต่อ ผมแค่แสดงความเห็น
แต่ผมคิดต่อไว้ละว่าควรทำไง (ไม่รู้เป็นไปได้ไหม  :D) แค่ลองชี้สิ่งที่ผมมองดู แต่ก้คงทำไรไม่ได้ เพราะมันไม่มีอำนาจ
ถึงจะมีอำนาจก็ใช่ว่าจะทำง่าย สะดวกโยธิน เกินจากนี้มันจะกลายเป็นเรื่องอื่นละ นอกเรื่องรถในเว็บรถไม่ขอกล่าวถึง
เรื่องขนส่งมวลชลผมกล่าวถึงแค่สั้นๆ ของพวกนี้ถ้าจะทำมันต้องครบวงจรจริง รวมถึงถนนหนทางด้วย
พอกล่าวเรื่องถนน มันก็จะโยงไปยังผู้มีอำนาจแต่ละส่วนอีก(แม้แต่ระบบขนส่งก็ด้วย)
มันก็จะนอกประเด็นในเว็บรถ และไม่ตรงกับโจทย์ของเจ้าของกระทู้ ซึ่งผมพาออกนอกเรื่องเอง
มันเป็นวงจรอุบาทครับ เหมือนเอาตัวกินไก่มาไล่ตัวกินไก่อีกตัว เพื่อเอามากินไก่อีกที
สิ่งที่ผมมองและกล่าวถึงข้างต้นนั้น มันต้องทำควบคุ่อย่างอื่นไปด้วย ทำได้จริงไหม เอาไปทำไหม นั่นอีกเรื่อง
จะพิมพ์แบบจริงๆจังๆมันยาว และก็ไม่รู้จะพิมพ์ยาวทำไม เมื่อการจะทำในสิ่งที่ผมคิดนั้นมันยาก  :-X
แล้วผมจะมาคิดทำไมเนี่ย 555
ปล. อย่าถือสาหาความกันนะ ผมแค่บ่นไปงั้นแหละ อ่านผ่านๆข้ามๆไปก็ได้
หัวข้อ: Re: รถวิ่งไปกี่กิโล หรือกี่ปี ไม่ซ่อม ไม่เสีย ถึงจะบอกได้ว่า ทนทาน ไม่จุกจิก
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ สิงหาคม 13, 2015, 11:12:43
สังเกตุไหมว่ารถที่ทน  ๆ  กันนี่ จะไม่มีรถยุโรปรุ่นใหม่ ๆ ส่งเข้าประกวดแน่นอน    ส่วนมากจะยกตัวอย่างรถญี่ปุ่น
หัวข้อ: Re: รถวิ่งไปกี่กิโล หรือกี่ปี ไม่ซ่อม ไม่เสีย ถึงจะบอกได้ว่า ทนทาน ไม่จุกจิก
เริ่มหัวข้อโดย: ariazero ที่ สิงหาคม 13, 2015, 14:47:19


์Nissan Sunny Gen 7 ซื้อมา 1991-1996
คันนี้ยังไม่ทันได้ซ่อมเลย จำได้ว่าเข้าศูนย์ตามระยะ แล้วก็ขายเลยมองหน้าปัด 41,XXX
ีรถคันแรกของตัวเองเลยงงๆ จำได้ว่าทำดับบ่อยๆเพราะว่าครัชมันใช้ยากกว่ารถคุณพ่อ Mazda Familiar  (แต่เราขับไม่เป็นเองมากกว่า)

-Nissan Sunny A/T เลยมาเป็น Auto ซะงั้น Gen 8 น่าจะ ซื้อมาตอนปี 97ขายปี 08 (อันนี้น่าจะแอร์ไม่ค่อยเย็น แล้วก็ แตรพังติดๆดับๆ คันเร่งเหยียบไม่ขึ้น แต่คั้นเร่งนี้เพราะว่าไม่ค่อยได้หมั่นซ่อมมากกว่า)
ตัวนี้ไม่ได้เข้าศูยน์ เลย 8ปี แล้วก็ เข้าอู่ 3 ครั้งระหว่างปี 00-05 แล้วก็3ปีหลังทั้งศูนย์ทั้งอู่ ไม่ได้แตะเลย มองเข็มไมล์ครั้งสุดท้าย 16X,XXX
...จำไม่ค่อยได้ค่าซ่อมเรวมท่าไหร่ น่าจะ 30,000-50,000

แล้วก็ Vios โฉม 08 ขายปี 15
7ปี เข้าศูนย์มันทุก ครึ่งปี 3ปีแรก รวมกัน 3,000 ปีหลังๆ ปีละ 5,000  ปีสุดท้าย10,000 เบ็ดเสร็จ รวมกัน เสียประมาณ 30,000- 35,000 ตลอด 7 ปีขายไปมองหน้าปัดไมล์อยู่ที่ 61,XXX โล จำได้ว่ามีปัญหาที่ปีกนก(ตามอายุ7ปี?) แต่ไม่ได้ซ่อม ขายเลย  ???

ช่วง 96-97 สมัยก่อนมี E28 ได้รับต่อมาจาก รุ่นคุณปู่ ตอนปี96 (รถอายุ 10ปี) ทำเอาผมไม่กล้า ซื้อยี่ห้อนี้อีกเลยอ่ะ แล้วไอ้เราก็ดวงไม่เหมาะกับยี่ห้อนี้จริงๆ เคยขับของเพื่อนแค่ทีเดียว E34 ยังไม่ทันจะเช้าเกียร์เดินหน้าเลย สายพานขาด! เลยเอาเป็นว่า ไม่ใช่รถไม่ดี เราอ่ะไม่ดี (ฮา) 
หัวข้อ: Re: รถวิ่งไปกี่กิโล หรือกี่ปี ไม่ซ่อม ไม่เสีย ถึงจะบอกได้ว่า ทนทาน ไม่จุกจิก
เริ่มหัวข้อโดย: thesun ที่ สิงหาคม 14, 2015, 09:52:36
Dmax hilander - 4 ประตู คอมมอลเรลตัวแรก ปี 2006
วิ่ง 250,000 กม เปลี่ยน SCV ไปหนึ่งตัว ลูกหมากช่วงล่างหน้าหนึ่งชุด โช้ค 4 ต้น อะไหล่สิ้นเปลืองเปลี่ยนตามระยะทางปกติ
ผมว่าทนทาน ไม่จุกจิก วิ่ง ตจว ส่วนใหญ่ คหสต คิดว่าใช้แล้วคุ้มนะ
หัวข้อ: Re: รถวิ่งไปกี่กิโล หรือกี่ปี ไม่ซ่อม ไม่เสีย ถึงจะบอกได้ว่า ทนทาน ไม่จุกจิก
เริ่มหัวข้อโดย: frosty ที่ สิงหาคม 14, 2015, 11:47:49
civic ES วิ่งไป 70000km
ถึงจะเริ่มซ่อม นั่นนี่

นอกนั้นถ่ายของเหลวตามระยะครับ
กว่าจะวิ่งถึง 70000km ใช้เวลา 11ปี
หัวข้อ: Re: รถวิ่งไปกี่กิโล หรือกี่ปี ไม่ซ่อม ไม่เสีย ถึงจะบอกได้ว่า ทนทาน ไม่จุกจิก
เริ่มหัวข้อโดย: imachi ที่ สิงหาคม 14, 2015, 20:55:16
bmw 320D sport 2012     วิ่ง 120000 โล ไปทุกที่ ถนนลูกรังก็ลุย   เพิ่งจะมีโชครั่วไป 1 ต้น หน้าซ้าย  เปลี่ยนยางใหม่ ทุกปี   ที่เหลือยังปกติดีทุกอย่าง   
หัวข้อ: Re: รถวิ่งไปกี่กิโล หรือกี่ปี ไม่ซ่อม ไม่เสีย ถึงจะบอกได้ว่า ทนทาน ไม่จุกจิก
เริ่มหัวข้อโดย: itimkati ที่ สิงหาคม 15, 2015, 23:38:56
Honda City CNG ปี2012 วิ่ง 150,000 โล

ปั๊มน้ำมันเบรคตัวบนรั่วซึม เปลี่ยนตัวใหม่ 2,400 บาท

โช้คอัพคู่หลังน้ำมันซึม เปลี่ยน 2,600 บาท

ที่เหลือเปลี่ยนถ่ายตามระยะ แบบนี้ถือว่าโอเคทนไหมครับ