Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Eddy5659 ที่ สิงหาคม 15, 2015, 15:36:40
-
จากข้อมูลหลายอย่างประกอบกัน ตอนนี้ผมคาดว่าฟอร์ดจะทำให้ค่าไอเสียของเครื่อง puma 3.2L I5 ปล่อย CO2 ต่ำกว่า 200 g/km ได้ ซึ่งนั่นแปลว่าราคาอาจจะขึ้นไม่ถึง 1.8 แสนบาท
1. ตอนไปดูรถที่งาน BIG motor sale ผมเห็นช่องเติมน้ำมันของ Everest 3.2+ เหมือนมีช่องเตรียมไว้เติมสารบำบัดไอเสีย ตอนนั้นคาดเดาว่าน่าจะเป็นช่องเติม adblue
2. การปล่อย CO2 ของเครื่อง 3.2 หลังจากปรับปรุง ECU ประจำการใน everest แล้ว ปล่อย CO2 เหลือเพียง 224 g/km
3. วันนี้เพื่อนในกลุ่มได้รับ everest 3.2+ พบว่าในคู่มือมีระบุระบบการเติมสาร adblue
จากข้อมูลเหล่านี้ทำให้เชื่อได้ว่า เครื่อง 3.2l ของฟอร์ดที่ปล่อย CO2 ที่ 224 g/km + Adblue จะทำให้ค่าไอเสียผ่านเกณฑ์คือต่ำกว่า 200 g/km ได้ไม่ยากเลยครับ และน่าจะได้อัตราภาษีสรรสามิตใหม่ที่ 25%
และนั่นก็เป็นไปได้ว่าราคาจะไม่ได้ขึ้นถึง 1.88 แสน แต่อาจจะขึ้นแค่ประมาณ 1 แสนบาท
-
ขึ้น 1 แสน ก็หนาวแล้วครับ
1.6 ล้าน เป็น 1.7 ล้านเลย
เอาเรื่องนะครับ
ปล.ได้ข่าวว่า Ford เตรียมไลน์ผลิตใหม่แล้วโดยแยกการผลิต
กับ Mazda ไปอย่างเบ็ดเสร็จ แต่กว่าไลน์จะพร้อมผลิตก็ พฤศจิกายน 59
ยังไงก็ไม่ทันอยู่ดีครับ คิดช้าทำช้า ไปหน่อย
-
ถ้ามลพิษมากกว่า 200 mg/km โดน 30% ไม่ใช่เหรอครับ ถ้าต่ำกว่า 200 ถึง 25% รอลุ้นว่า ev 3.2 จะลดมลพิษได้น้อยกว่า 200 ไหม ผมว่า ftn ตัว 2.8 น่าจะเกิน 200 mg/km เหมือนกัน
-
ถ้ามลพิษมากกว่า 200 mg/km โดน 30% ไม่ใช่เหรอครับ ถ้าต่ำกว่า 200 ถึง 25% รอลุ้นว่า ev 3.2 จะลดมลพิษได้น้อยกว่า 200 ไหม ผมว่า ftn ตัว 2.8 น่าจะเกิน 200 mg/km เหมือนกัน
ก็น่าจะต่ำกว่า 200 g/km ไงครับ
ตอนนี้ปล่อย 224 g/km ถ้าเติม Adblue ช่วย น่าจะต่ำกว่า 200 g/km ได้ไม่ยากเลยครับ
-
หลัการเหมือนเครื่องยนต์ 2 จังหวะ ต้องเติมออโต้ลูปด้วย อิอิ 8)
-
ถ้า ev 3.2 ต่ำกว่า 200 แล้ว ftn เกิน 200 นี่ ผมว่าโต เงิบเลยนะครับ
-
หลัการเหมือนเครื่องยนต์ 2 จังหวะ ต้องเติมออโต้ลูปด้วย อิอิ 8)
เติมแล้ว เครื่องฟิต สตาร์ทติดง่าย ปะครับ 5555+
-
ขึ้น 1 แสน ก็หนาวแล้วครับ
1.6 ล้าน เป็น 1.7 ล้านเลย
เอาเรื่องนะครับ
ปล.ได้ข่าวว่า Ford เตรียมไลน์ผลิตใหม่แล้วโดยแยกการผลิต
กับ Mazda ไปอย่างเบ็ดเสร็จ แต่กว่าไลน์จะพร้อมผลิตก็ พฤศจิกายน 59
ยังไงก็ไม่ทันอยู่ดีครับ คิดช้าทำช้า ไปหน่อย
คงประมาณ 1.7x ครับ
เผื่อรุ่นตกแต่งพิเศษ ภายในดำ อ๊อปชั่นเต็ม น่าจะมาในราคา 1.8x-1.9x ล้านบาท
ตอนนี้รุายนี้ก็ส่งให้ผู้บริหาร และเจ้าของศูนย์ใช้อยู่
-
ผมได้แต่คาดหวังว่า แม้จะขึ้นไปเป็นแสน แต่อยากให้ฟอร์ด กดราคาไว้ไม่เกิน 1.65 ล้าน แล้วใส่ของเพิ่มหรือ มีส่วนลดอีกสัก 5-6 หมื่น ซึ่งก็จะทำให้เป็นผลดีต่อผู้บริโภคครับผม :)
-
ผมกลับมองว่า ฟอร์ดกับโตโยค้า บวกราคาเผื่อภาษีหมาแล้ว
ดีไม่ดีปีหน้าเมษา อาจได้เห็นดอก0 ส่วนลดกระหน่ำจากค่ายรถด้วยถ้ายอดไตรมาสแรกแย่
สุดท้ายกลไกลตลาดเองต่างหากที่จะกำหนดราคาขายจริงๆ
มองยังไงรถPpvก็ไม่ควรแพงขนาดนี้
สมัยแรกๆล้านกว่าต้นๆจู่ๆตอนนี้จะไปสองล้าน
ราคาเทียบกับตัวกระบะที่เป็นพื้นฐานสองเท่าสามเท่าเลย
มันแปลกๆครับ ต้นทุนออฟชั่นที่ยัดเข้ามามันไม่ได้แพงเป็นห้าหกแสน เป็นไปไม่ได้
-
ผมกลับมองว่า ฟอร์ดกับโตโยค้า บวกราคาเผื่อภาษีหมาแล้ว
ดีไม่ดีปีหน้าเมษา อาจได้เห็นดอก0 ส่วนลดกระหน่ำจากค่ายรถด้วยถ้ายอดไตรมาสแรกแย่
สุดท้ายกลไกลตลาดเองต่างหากที่จะกำหนดราคาขายจริงๆ
มองยังไงรถPpvก็ไม่ควรแพงขนาดนี้
สมัยแรกๆล้านกว่าต้นๆจู่ๆตอนนี้จะไปสองล้าน
ราคาเทียบกับตัวกระบะที่เป็นพื้นฐานสองเท่าสามเท่าเลย
มันแปลกๆครับ ต้นทุนออฟชั่นที่ยัดเข้ามามันไม่ได้แพงเป็นห้าหกแสน เป็นไปไม่ได้
8) 8) 8) 8)
ใจตรงกันครับ
-
ถ้า everest 3.2 ต้องเติม adblue เพื่อให้ไอเสียต่ำกว่า 200g จริงผมคงไม่ซื้อล่ะครับ adblue ที่เมืองไทยไม่ได้หาซื้อง่ายๆแบบที่ยุโรปลิตรนึงก็แพงหลายร้อยบาท ค่าเฉลี่ยมัน 1000 km/l รถเล็กถัง adblue อย่างมาก็20ลิตรไม่งั้นไปเบียดถังน้ำมันปกติอีก ถ้าเกิด adblue ไปหมดกลางทางก็ซวยอีกรถวิ่งไม่ได้เลยจนกว่าจะหา adblue มาเติมได้ และแน่นอนว่ามันจะสร้างค่านิยมว่าเป็นเศรษฐีกินอะไรไม่เหมือนชาวบ้านเค้าอีก กระทบต่อเป็นลูกโซ่เลย
-
ขึ้น 1 แสน ก็หนาวแล้วครับ
1.6 ล้าน เป็น 1.7 ล้านเลย
เอาเรื่องนะครับ
ปล.ได้ข่าวว่า Ford เตรียมไลน์ผลิตใหม่แล้วโดยแยกการผลิต
กับ Mazda ไปอย่างเบ็ดเสร็จ แต่กว่าไลน์จะพร้อมผลิตก็ พฤศจิกายน 59
ยังไงก็ไม่ทันอยู่ดีครับ คิดช้าทำช้า ไปหน่อย
ใช่ครับ ขึ้น 1 แสนนี่ก็ไม่ใช่เล่น ๆ แล้วเพราะรถมีราคาไปที่ 1.7 ล้านบาท ถือว่าสดุ้งเหมือนกัน
Ford เขาแยกไลนืกับมาสด้ามานานแล้วไม่ใช่เหรือ พวกเครื่องมือ Jig สั่งคนละครั้งแยกกันมาตลอด เดี๋ยวนี้ให้บริหารศูนย์แยกจากักนเด็ดขาดดด้วย แต่มเห็นเป็นเจ้ของเดียวกันเนื้อที่เดียวกันก็หลายแห่ง แต่เป็นนโยบายให้แยกกัน
-
แล้วการใช้งานเป็นยังไงครับ คนใช้ต้องเติม adblue ตลอดการใช้งานหรือเปล่าครับ หรือเติมดีเซลอย่างเดียวแบบการใช้ปกติเหมือรถดีเซลทั่วไปได้หรือเปล่าครับ :-X
-
ผมกลับมองว่า ฟอร์ดกับโตโยค้า บวกราคาเผื่อภาษีหมาแล้ว
ดีไม่ดีปีหน้าเมษา อาจได้เห็นดอก0 ส่วนลดกระหน่ำจากค่ายรถด้วยถ้ายอดไตรมาสแรกแย่
สุดท้ายกลไกลตลาดเองต่างหากที่จะกำหนดราคาขายจริงๆ
มองยังไงรถPpvก็ไม่ควรแพงขนาดนี้
สมัยแรกๆล้านกว่าต้นๆจู่ๆตอนนี้จะไปสองล้าน
ราคาเทียบกับตัวกระบะที่เป็นพื้นฐานสองเท่าสามเท่าเลย
มันแปลกๆครับ ต้นทุนออฟชั่นที่ยัดเข้ามามันไม่ได้แพงเป็นห้าหกแสน เป็นไปไม่ได้
ถ้าฟอร์ดบวกภาษีใหม่มาแล้วน่าจะรับจอง แล้วคอนเฟิมแบบมิตซูว่า จะส่งรถราคาเดิมแม้จะได้รับนถปีหน้า
คหวน. นะครับ
-
ถ้าแก้แบบนั้นผมว่าผลักภาระให้ผู้บริโภคเกินไปนะครับ ไหนจะราคาตัวรถที่เพิ่มขึ้นและต้องมามีรายจ่ายส่วนนี้อีก
ส่วนเรื่องการใส่ออฟชั่นเพิ่มเพื่อให้ดูสมกับราคา อันนี้ก็ไม่รู้จะตอบโจทก์หรือป่าว ขนาดออฟชั่นปัจจุบันผมว่าลูกค้าหลายคนยังบอกว่ามันเยอะเกินจำเป็น ประเด็นมันจึงอยู่ที่ราคาจะไปไกลเกิน
ปล.ตอนไปงาน บิ๊กมอร์เตอร์เซลล์ เชลล์ของมิตซูฯ บอกว่าหลังปีใหม่ ปาเจโร่ จะขึ้นราคาประมาณ 60000 บาท(ถ้าเซลล์ไม่มั่ว)
-
ถ้าเกินราคาเดิมเป็นแสนและต้องเติม adblue ผมคงไม่ซื้อและมันจะไม่น่าซื้อเลย แม้ว่ามันจะราคาเท่า pa หรือถูกกว่า คือถ้าเติมเฉพาะตอนทดสอบ co2 ก็พอรับได้ ถ้าเป็นอย่างที่สมาชิกว่ามานะครับ และจริงๆก็อยากให้ราคานี้ ภาษีจะคิดหรืออะไรยังไงก็ไม่ควรเกินนี้ บวก ลบ ครับ
-
รถที่ต้องเติม แอดบลู ก็ต้องเติมแอดบลูทุกๆระยะ เหมือนออโต้ลูป
ถ้ามันแพร่หลายกว่านี้ราคาแอดบลูคงถูกลงนิดนุง
ส่วนเรื่องภาษี
ในภาวะขายรถยากแบบนี้ ค่ายรถก็ต้องกระตุ้นยอดขายโดยโหนกระแสนี้ให้มากที่สุด
เซลล์ก็พูดกดดันให้ปิดการขายเร็วๆ เอายอดไว้ก่อน
เหมือนสมัยรถคันแรก ช่วงนั้นอ้างว่าถ้าไม่จองภายในปีนั้นไม่ได้ภาษีคืนกวาดยอดกันไป
แล้วเปนไงต่อพอปีต่อมายอดหดขายรถไม่ได้
ก็ลดกันกระหน่ำ มากกว่าคืนภาษีด้วย
ใครรีบใช้ก็ซื้อครับ
แต่ถ้าไม่รีบก็ไม่ต้องกลัวมาก
ถ้าของมันราคาแพงกลไกลตลาดก็จะทำงานเอง
-
ก่อนจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่
เวอร์ชั่นไทยไม่มีการใส่ถัง Adblue เข้ามาแน่นอนครับ
และการปล่อยไอเสีย CO2 ให้ลดลงไม่ได้ง่ายขนาดนั้นครับ
แค่การเติม Adblue ไม่สามารถทำให้ปล่อยได้ต่ำกว่า 200g/km.
แล้วทำไมในคู่มือถึงมีล่ะ ? ฟอร์ด ทำงานกันแบบ Global ครับ
ทุกอย่างถูกแปลและเรียบเรียงใหม่มาจากต้นฉบับ นโยบาย One Ford
ยกตัวอย่างเครื่องยนต์เดียวกัน เช่น Mazda2 และ CX-3
1.5 Skyactiv-D Mazda2 ปล่อย 99g/km. พอเป็น CX-3
น้ำหนักเพิ่มขึ้นมาก็ทำให้ปล่อย 105g/km. แล้วครับทำให้ไม่
สามารถเข้า Ecocar Phase2 ได้ การคำนวณการปล่อย CO2
ไม่ได้วัดจากเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว มีปัจจัยน้ำหนักตัวรถ
เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยครับ
และยืนยันทุกค่ายที่เปิดราคาขายตอนนี้ไม่ใช่ราคาสำหรับเผื่อภาษีปีหน้าครับ
เป็นราคาของปีนี้ ปีหน้ามีการปรับขึ้นแน่นอน แต่จะมากจะน้อย ขึ้นอยู่กับแนวทาง
การตลาดของแต่ละค่ายด้วย ว่าจะไปโปะส่วนไหน เพิ่ม option หรือ ขึ้นเยอะ
แต่ชดเชยเป็นส่วนลดให้ลูกค้าแทน คงไม่ได้ขึ้นกันตรงๆตามภาษีใหม่เฉยๆ แน่นอน
Everest โดนแน่นอนจาก 20% เป็น 30% แต่ทางฟอร์ดมีการเตรียมการ
ไว้แล้ว ว่าไม่ได้แค่ขึ้นราคาอย่างเดียว แต่ต้องมีการปรับ Option เพิ่มมา
เพื่อเป็นการชดเชยให้ลูกค้าด้วย เช่น Adaptive Cruise Control
Lane Keeping Warning / รุ่นภายในห้องโดยสารสีดำ เป็นต้น
ทั้งหมดนี้คาดว่าจะมาปีหน้า หลังปรับราคาขึ้นครับ
ยี่ห้ออื่นก็เช่นเดียวกันครับ แต่ขึ้นมาก ขึ้นน้อย หรือ เพิ่ม Option
ก็แล้วแต่แนวทางของแต่ละค่าย ตามที่บอกข้างต้นครับ
-
รับแซบบบบบ ครับ
รอดูไปครับ
ผมเชียร์เฉยๆไม่ได้มีโครงการซื้อ
-
ขึ้นหนึ่งแสนก็แพงอยู่ดีอ่าครับ
แต่ก็ดีกว่าเกือบสองแสน ฟอร์ดทำการบ้านมาดีมากๆ
-
ก่อนจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่
เวอร์ชั่นไทยไม่มีการใส่ถัง Adblue เข้ามาแน่นอนครับ
และการปล่อยไอเสีย CO2 ให้ลดลงไม่ได้ง่ายขนาดนั้นครับ
แค่การเติม Adblue ไม่สามารถทำให้ปล่อยได้ต่ำกว่า 200g/km.
แล้วทำไมในคู่มือถึงมีล่ะ ? ฟอร์ด ทำงานกันแบบ Global ครับ
ทุกอย่างถูกแปลและเรียบเรียงใหม่มาจากต้นฉบับ นโยบาย One Ford
ยกตัวอย่างเครื่องยนต์เดียวกัน เช่น Mazda2 และ CX-3
1.5 Skyactiv-D Mazda2 ปล่อย 99g/km. พอเป็น CX-3
น้ำหนักเพิ่มขึ้นมาก็ทำให้ปล่อย 105g/km. แล้วครับทำให้ไม่
สามารถเข้า Ecocar Phase2 ได้ การคำนวณการปล่อย CO2
ไม่ได้วัดจากเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว มีปัจจัยน้ำหนักตัวรถ
เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยครับ
และยืนยันทุกค่ายที่เปิดราคาขายตอนนี้ไม่ใช่ราคาสำหรับเผื่อภาษีปีหน้าครับ
เป็นราคาของปีนี้ ปีหน้ามีการปรับขึ้นแน่นอน แต่จะมากจะน้อย ขึ้นอยู่กับแนวทาง
การตลาดของแต่ละค่ายด้วย ว่าจะไปโปะส่วนไหน เพิ่ม option หรือ ขึ้นเยอะ
แต่ชดเชยเป็นส่วนลดให้ลูกค้าแทน คงไม่ได้ขึ้นกันตรงๆตามภาษีใหม่เฉยๆ แน่นอน
Everest โดนแน่นอนจาก 20% เป็น 30% แต่ทางฟอร์ดมีการเตรียมการ
ไว้แล้ว ว่าไม่ได้แค่ขึ้นราคาอย่างเดียว แต่ต้องมีการปรับ Option เพิ่มมา
เพื่อเป็นการชดเชยให้ลูกค้าด้วย เช่น Adaptive Cruise Control
Lane Keeping Warning / รุ่นภายในห้องโดยสารสีดำ เป็นต้น
ทั้งหมดนี้คาดว่าจะมาปีหน้า หลังปรับราคาขึ้นครับ
ยี่ห้ออื่นก็เช่นเดียวกันครับ แต่ขึ้นมาก ขึ้นน้อย หรือ เพิ่ม Option
ก็แล้วแต่แนวทางของแต่ละค่าย ตามที่บอกข้างต้นครับ
ขอบคุณครับ
จบไปที่หวังว่าปีหน้าราคาจะขึ้นไม่มาก และอีกหลายๆความหวังว่าราคารถกลุ่มนี้จะไม่ขึ้นในปีหน้า
สรุปก็เหมือนเดิม คือถ้าต้องการรถแนวนี้ก็ซื้อซะในปีนี้ ปีหน้าจะกลายเป็นอีกราคาแน่นอน ถึงแม้จะปรับเพิ่มอุปดรณ์ แต่ส่วนตัวผมมองว่าถ้าราคาเกิน 1.6 ล้าน ความคุ้มค่ามันหายไป ถ้าจะชูความพรีเมียม ผมว่า PPV บ้านเรามันไม่ใช่คำตอบ
-
ถ้าขึ้นไปถึงระดับ 1.8-1.9 ล้านนี่ คนที่จะซื้อ SUV แล้วมองรถพรีเมียม
ไว้ด้วยคิดหนักเลย
แต่ออพชั่น จ่าย ไม่เกิน 2 ล้าน แต่ได้พอๆ กับรถ SUV ยุโรปราคาแพงกว่า 5 ล้าน
-
Abblue สำหรับตลาดยุโรปครับ จะเปิดตัวพร้อมกับการเริ่มบังคับใช้ Euro 6
ส่วนตลาดในไทย ยังไม่มีนโยบายหรือวางแผนจะลดมลพิษลงครับ
-
ภาษีรถใหม่2.2ขึ้น ไหมครับ
-
ภาษีรถใหม่2.2ขึ้น ไหมครับ
ppv ขึ้นแน่นอน 5% จากนั้นมาดู co2 อีกที ถ้ามากกว่า 200 โดนอีก 5%
-
เท่าที่รู้จุดประสงค์ของการเติม adblue เพื่อลด Nox นี่ครับ
และลดการทำงานของ EGR ลงเพื่อเครื่องยนต์สะอาดขึ้น กำลังดีขึ้น
-
อันนี้เจ้าของรถต้องเติมเองเหรอครับ แล้วใครจะไปเสียเงินเติมล่ะครับในเมื่อภาษีได้ผ่านเกณฑ์ตั้งแต่ผลิตมาแล้ว
ขนาด egr ยังไปอุดกันเลย เรื่องมลพิษ ต้องบังคับกันตั้งแต่โรงงานครับ มาให้คนสำนึกรักกันเอง ผมว่าไม่ควรจะได้ส่วนลดภาษีนะครับ
-
ภาษีรถใหม่2.2ขึ้น ไหมครับ
ppv ขึ้นแน่นอน 5% จากนั้นมาดู co2 อีกที ถ้ามากกว่า 200 โดนอีก 5%
ขอบคุณครับ ;D
-
ก่อนจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่
เวอร์ชั่นไทยไม่มีการใส่ถัง Adblue เข้ามาแน่นอนครับ
และการปล่อยไอเสีย CO2 ให้ลดลงไม่ได้ง่ายขนาดนั้นครับ
แค่การเติม Adblue ไม่สามารถทำให้ปล่อยได้ต่ำกว่า 200g/km.
แล้วทำไมในคู่มือถึงมีล่ะ ? ฟอร์ด ทำงานกันแบบ Global ครับ
ทุกอย่างถูกแปลและเรียบเรียงใหม่มาจากต้นฉบับ นโยบาย One Ford
ยกตัวอย่างเครื่องยนต์เดียวกัน เช่น Mazda2 และ CX-3
1.5 Skyactiv-D Mazda2 ปล่อย 99g/km. พอเป็น CX-3
น้ำหนักเพิ่มขึ้นมาก็ทำให้ปล่อย 105g/km. แล้วครับทำให้ไม่
สามารถเข้า Ecocar Phase2 ได้ การคำนวณการปล่อย CO2
ไม่ได้วัดจากเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว มีปัจจัยน้ำหนักตัวรถ
เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยครับ
และยืนยันทุกค่ายที่เปิดราคาขายตอนนี้ไม่ใช่ราคาสำหรับเผื่อภาษีปีหน้าครับ
เป็นราคาของปีนี้ ปีหน้ามีการปรับขึ้นแน่นอน แต่จะมากจะน้อย ขึ้นอยู่กับแนวทาง
การตลาดของแต่ละค่ายด้วย ว่าจะไปโปะส่วนไหน เพิ่ม option หรือ ขึ้นเยอะ
แต่ชดเชยเป็นส่วนลดให้ลูกค้าแทน คงไม่ได้ขึ้นกันตรงๆตามภาษีใหม่เฉยๆ แน่นอน
Everest โดนแน่นอนจาก 20% เป็น 30% แต่ทางฟอร์ดมีการเตรียมการ
ไว้แล้ว ว่าไม่ได้แค่ขึ้นราคาอย่างเดียว แต่ต้องมีการปรับ Option เพิ่มมา
เพื่อเป็นการชดเชยให้ลูกค้าด้วย เช่น Adaptive Cruise Control
Lane Keeping Warning / รุ่นภายในห้องโดยสารสีดำ เป็นต้น
ทั้งหมดนี้คาดว่าจะมาปีหน้า หลังปรับราคาขึ้นครับ
ยี่ห้ออื่นก็เช่นเดียวกันครับ แต่ขึ้นมาก ขึ้นน้อย หรือ เพิ่ม Option
ก็แล้วแต่แนวทางของแต่ละค่าย ตามที่บอกข้างต้นครับ
ปีหน้า ออฟชั่น มาแบบนี้จริงหรอครับ แบบนี้ชัก2จิต2ใจเสียเเล้ว
-
ก่อนจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่
เวอร์ชั่นไทยไม่มีการใส่ถัง Adblue เข้ามาแน่นอนครับ
และการปล่อยไอเสีย CO2 ให้ลดลงไม่ได้ง่ายขนาดนั้นครับ
แค่การเติม Adblue ไม่สามารถทำให้ปล่อยได้ต่ำกว่า 200g/km.
แล้วทำไมในคู่มือถึงมีล่ะ ? ฟอร์ด ทำงานกันแบบ Global ครับ
ทุกอย่างถูกแปลและเรียบเรียงใหม่มาจากต้นฉบับ นโยบาย One Ford
ยกตัวอย่างเครื่องยนต์เดียวกัน เช่น Mazda2 และ CX-3
1.5 Skyactiv-D Mazda2 ปล่อย 99g/km. พอเป็น CX-3
น้ำหนักเพิ่มขึ้นมาก็ทำให้ปล่อย 105g/km. แล้วครับทำให้ไม่
สามารถเข้า Ecocar Phase2 ได้ การคำนวณการปล่อย CO2
ไม่ได้วัดจากเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว มีปัจจัยน้ำหนักตัวรถ
เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยครับ
และยืนยันทุกค่ายที่เปิดราคาขายตอนนี้ไม่ใช่ราคาสำหรับเผื่อภาษีปีหน้าครับ
เป็นราคาของปีนี้ ปีหน้ามีการปรับขึ้นแน่นอน แต่จะมากจะน้อย ขึ้นอยู่กับแนวทาง
การตลาดของแต่ละค่ายด้วย ว่าจะไปโปะส่วนไหน เพิ่ม option หรือ ขึ้นเยอะ
แต่ชดเชยเป็นส่วนลดให้ลูกค้าแทน คงไม่ได้ขึ้นกันตรงๆตามภาษีใหม่เฉยๆ แน่นอน
Everest โดนแน่นอนจาก 20% เป็น 30% แต่ทางฟอร์ดมีการเตรียมการ
ไว้แล้ว ว่าไม่ได้แค่ขึ้นราคาอย่างเดียว แต่ต้องมีการปรับ Option เพิ่มมา
เพื่อเป็นการชดเชยให้ลูกค้าด้วย เช่น Adaptive Cruise Control
Lane Keeping Warning / รุ่นภายในห้องโดยสารสีดำ เป็นต้น
ทั้งหมดนี้คาดว่าจะมาปีหน้า หลังปรับราคาขึ้นครับ
ยี่ห้ออื่นก็เช่นเดียวกันครับ แต่ขึ้นมาก ขึ้นน้อย หรือ เพิ่ม Option
ก็แล้วแต่แนวทางของแต่ละค่าย ตามที่บอกข้างต้นครับ
ปีหน้า ออฟชั่น มาแบบนี้จริงหรอครับ แบบนี้ชัก2จิต2ใจเสียเเล้ว
แต่ต้องมีการปรับ Option เพิ่มมา
เพื่อเป็นการชดเชยให้ลูกค้าด้วย เช่น Adaptive Cruise Control
Lane Keeping Warning / รุ่นภายในห้องโดยสารสีดำ เป็นต้น
ทั้งหมดนี้คาดว่าจะมาปีหน้า หลังปรับราคาขึ้นครับ
/////////////////////
ว่าแล้ว แม่ม ด่านะเฮ้ยแบบนี้ ไปด่าที่เฟส ฟอร์ดแปป
-
สะดุดตรงภายในสีดำเนี่ยแหละ ;D
-
ส่วนตัวไม่ชอบภายในสีดำ ขอลุ้นรับรถปีนี้ดีกว่า
ได้ราคาถูกกว่า