Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: achila6642 ที่ สิงหาคม 18, 2015, 02:32:29
-
ใครใช้ harrier 2.0 ตัวล่าสุดนี่อยู่บ้างครับรีวิวหน่อยครับ กำลังเครื่องยนเป็นอย่างไรบ้างครับ ประหยัดน้ำมันไหมครับ และที่อยากรู้ที่สุดคือถ้าเทียบกับ fortuner 2015 ตัวtop เงินที่เพิ่มขึ้นไปคุ้มค่าไหมครับ อยากฟังความคิดเห็นของคนที่เป็นเจ้าน่ะครับ
-
รอฟังด้วยคนครับ :)
-
ใช้ตัวไฮบริดอยู่ครับ... อัตราเร่งใช้ได้ดีที่เดียว ประหยัดพอสมเหตุสมผล ไม่ถึงกะประหยัดมาก เครื่องตัวเดียวกะแคมรี่ไฮบริด และnx300 แต่ที่ได้เพิ่มมาเป็นขับ4ล้อ ถ้าเทียบกะฟอร์จูนเนอร์ ผมว่าฟอร์จูนเนอนร์ไม่น่าจะสู้ได้ ความนิ่มนวลการขับขี่ การเกาะถนน ความเงียบ และวัสดุการประกอบที่แฮร์ริเออร์ให้มาแบบพรีเมี่ยมกว่าฟอร์จูนเนอร์เยอะครับ อุปกรณ์ความปลอดภัยมีครบ เรดาห์รอบตัว ระบบช่วยขับครูสคอนโทรล ระบบแจ้งเตือนเปลี่ยนเลนส์ และมันยังมีระบบอีกเยอะที่ใส่อยู่ในแฮริเออร์ครับ ซึ่งโดยภาพรวมแล้ว ฟอร์จูนเนอร์ยังสู้ไม่ได้ตรงนี้ครับ. แต่ฟอร์จูนเนอร์ได้ดี เครื่องดีเซลอัตราเร่งน่าจะดีกว่า2.0ของแฮริเออร์แน่ๆ ความทนทานทุกอย่าง เครื่องยนต์ ช่วงล่าง ความแข็งแรงของตัวถังน่าจะมีมากกว่า และความกว้างขวางที่น่าจะมีมากกว่าแน่นอนครับ. ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ไปลองขับ ไปดูตัวจริง ก่อนซื้อทั้งคู่ดีกว่าครับ. บวก ลบ คูณ หาร เงินที่เพิ่มมา กะสิ่งที่ได้เห็น สัมผัส ความพึงพอใจ ว่าคุ้มมั๊ย แล้วตัดสินใจครับ.
-
ใช้ตัวไฮบริดอยู่ครับ... อัตราเร่งใช้ได้ดีที่เดียว ประหยัดพอสมเหตุสมผล ไม่ถึงกะประหยัดมาก เครื่องตัวเดียวกะแคมรี่ไฮบริด และnx300 แต่ที่ได้เพิ่มมาเป็นขับ4ล้อ ถ้าเทียบกะฟอร์จูนเนอร์ ผมว่าฟอร์จูนเนอนร์ไม่น่าจะสู้ได้ ความนิ่มนวลการขับขี่ การเกาะถนน ความเงียบ และวัสดุการประกอบที่แฮร์ริเออร์ให้มาแบบพรีเมี่ยมกว่าฟอร์จูนเนอร์เยอะครับ อุปกรณ์ความปลอดภัยมีครบ เรดาห์รอบตัว ระบบช่วยขับครูสคอนโทรล ระบบแจ้งเตือนเปลี่ยนเลนส์ และมันยังมีระบบอีกเยอะที่ใส่อยู่ในแฮริเออร์ครับ ซึ่งโดยภาพรวมแล้ว ฟอร์จูนเนอร์ยังสู้ไม่ได้ตรงนี้ครับ. แต่ฟอร์จูนเนอร์ได้ดี เครื่องดีเซลอัตราเร่งน่าจะดีกว่า2.0ของแฮริเออร์แน่ๆ ความทนทานทุกอย่าง เครื่องยนต์ ช่วงล่าง ความแข็งแรงของตัวถังน่าจะมีมากกว่า และความกว้างขวางที่น่าจะมีมากกว่าแน่นอนครับ. ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ไปลองขับ ไปดูตัวจริง ก่อนซื้อทั้งคู่ดีกว่าครับ. บวก ลบ คูณ หาร เงินที่เพิ่มมา กะสิ่งที่ได้เห็น สัมผัส ความพึงพอใจ ว่าคุ้มมั๊ย แล้วตัดสินใจครับ.
ขอถามนิดนึงคับ กระเทือนไหมคับ เทียบกับ alphard โฉมแรก e90 w211 ก็ได้ครับ
-
ใช้ตัวไฮบริดอยู่ครับ... อัตราเร่งใช้ได้ดีที่เดียว ประหยัดพอสมเหตุสมผล ไม่ถึงกะประหยัดมาก เครื่องตัวเดียวกะแคมรี่ไฮบริด และnx300 แต่ที่ได้เพิ่มมาเป็นขับ4ล้อ ถ้าเทียบกะฟอร์จูนเนอร์ ผมว่าฟอร์จูนเนอนร์ไม่น่าจะสู้ได้ ความนิ่มนวลการขับขี่ การเกาะถนน ความเงียบ และวัสดุการประกอบที่แฮร์ริเออร์ให้มาแบบพรีเมี่ยมกว่าฟอร์จูนเนอร์เยอะครับ อุปกรณ์ความปลอดภัยมีครบ เรดาห์รอบตัว ระบบช่วยขับครูสคอนโทรล ระบบแจ้งเตือนเปลี่ยนเลนส์ และมันยังมีระบบอีกเยอะที่ใส่อยู่ในแฮริเออร์ครับ ซึ่งโดยภาพรวมแล้ว ฟอร์จูนเนอร์ยังสู้ไม่ได้ตรงนี้ครับ. แต่ฟอร์จูนเนอร์ได้ดี เครื่องดีเซลอัตราเร่งน่าจะดีกว่า2.0ของแฮริเออร์แน่ๆ ความทนทานทุกอย่าง เครื่องยนต์ ช่วงล่าง ความแข็งแรงของตัวถังน่าจะมีมากกว่า และความกว้างขวางที่น่าจะมีมากกว่าแน่นอนครับ. ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ไปลองขับ ไปดูตัวจริง ก่อนซื้อทั้งคู่ดีกว่าครับ. บวก ลบ คูณ หาร เงินที่เพิ่มมา กะสิ่งที่ได้เห็น สัมผัส ความพึงพอใจ ว่าคุ้มมั๊ย แล้วตัดสินใจครับ.
ขอถามนิดนึงคับ กระเทือนไหมคับ เทียบกับ alphard โฉมแรก e90 w211 ก็ได้ครับ
ตามความรู้สึก ผมว่ามันนิ่มมากเกิน จนออกอาการย้วย การสะเทือนตึงตังไม่มีครับ
-
ถ้ามองตัว 2.0 ไว้ ผมว่าเลือก fortuner ดีกว่าครับ
เหตุผลที่เหมาะสมกว่าของ fortuner ตามอย่างที่คุณ n บอก
อีกอย่างรถคนละแนวทางกันด้วย ถ้าจะเผื่อมีลุยยังไง fortuner น่าจะดีกว่านะครับ
harrier นี่ยอมรับจริงๆว่าไม่กล้าลุยอะไรทั้งนั้น ใช้งานลักษณะรถเก๋ง ได้เปรียบตรงท้องสูงกว่าหน่อย
ปล.ไม่ค่อยเจอ harrier 2.0 เลยครับ ที่เห็นบ่อยๆคือ hybrid
-
ใช้ตัวไฮบริดอยู่ครับ... อัตราเร่งใช้ได้ดีที่เดียว ประหยัดพอสมเหตุสมผล ไม่ถึงกะประหยัดมาก เครื่องตัวเดียวกะแคมรี่ไฮบริด และnx300 แต่ที่ได้เพิ่มมาเป็นขับ4ล้อ ถ้าเทียบกะฟอร์จูนเนอร์ ผมว่าฟอร์จูนเนอนร์ไม่น่าจะสู้ได้ ความนิ่มนวลการขับขี่ การเกาะถนน ความเงียบ และวัสดุการประกอบที่แฮร์ริเออร์ให้มาแบบพรีเมี่ยมกว่าฟอร์จูนเนอร์เยอะครับ อุปกรณ์ความปลอดภัยมีครบ เรดาห์รอบตัว ระบบช่วยขับครูสคอนโทรล ระบบแจ้งเตือนเปลี่ยนเลนส์ และมันยังมีระบบอีกเยอะที่ใส่อยู่ในแฮริเออร์ครับ ซึ่งโดยภาพรวมแล้ว ฟอร์จูนเนอร์ยังสู้ไม่ได้ตรงนี้ครับ. แต่ฟอร์จูนเนอร์ได้ดี เครื่องดีเซลอัตราเร่งน่าจะดีกว่า2.0ของแฮริเออร์แน่ๆ ความทนทานทุกอย่าง เครื่องยนต์ ช่วงล่าง ความแข็งแรงของตัวถังน่าจะมีมากกว่า และความกว้างขวางที่น่าจะมีมากกว่าแน่นอนครับ. ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ไปลองขับ ไปดูตัวจริง ก่อนซื้อทั้งคู่ดีกว่าครับ. บวก ลบ คูณ หาร เงินที่เพิ่มมา กะสิ่งที่ได้เห็น สัมผัส ความพึงพอใจ ว่าคุ้มมั๊ย แล้วตัดสินใจครับ.
2.5 HV เช่นกันครับ
- อัตราเร่งพอๆ กับ Camry แหละครับ อาจจะด้อยกว่าหน่อย เนื่องจากน้ำหนักตัวรถที่มากกว่าประมาน 150 กก. และการปรับเซตของเครื่องยนต์ ที่ต่างกันเล็กน้อย
- ขับ 4 ล้อครับ ค่อนข้างมั่นใจได้ในการเข้าโค้ง
- ประหยัดมากไหม ล่าสุดเติม ปตท. โซฮอล์ 95 เต็มถัง 1270 บาท วิ่งได้ 640 กม. ซึ่งอันนี้วิ่งในเมืองอย่างเดียว มีนบุรี-เกษตรนวมิน-ประชาชื่น-พระราม7 วิ่งไปกลับ ไม่ต้องถามว่าเส้นที่วิ่งรถติดแค่ไหน เฉลี่ยออกมาแล้วจะได้ 1.98 บาท/ 1 กิโลเมตร หากเทียบกับเจ้า Camry ACV40 2.4V ติดแก็ส LPG เต็มถัง 600 บาท วิ่งได้ 350 กิโลเมตร เส้นทางเดียวกัน จะได้ 1.75 บาท/ 1 กิโลเมตร แต่อย่าลืมว่ามันก็กินน้ำมันด้วยเช่นกัน ไม่ได้กินแต่แก็สอย่างเดียว ส่วนค่าเสื่อมสภาพผมให้พอกัน Harrier โดนค่าแบตเตอรี่ตอนช่วงท้าย ซึ่งเมื่อไหร่ก็ไม่รู้อยู่ที่การรักษา (ปัจจุบัน 2 ปีกว่าแล้ว ไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น) ส่วน LPG โดนแน่ๆ อันนี้ก็แล้วแต่พิจรณา
- เบาะหลังนั่งสบายมากกก หากลองไปนั่งหรือยืนดู โดยที่ไม่โดยสารจริงจะไม่รู้เลย ช่วงล่างเหมือนถูกปรับเซตมาให้กับเบาะแถว 2 เรียกได้ว่าสบายมากๆ แทบจะไม่รู้สึกถึงพื้นถนนเลย นุ่ม เงียบ นิ่ม ผมให้นิยามแบบนี้แล้วกัน
- เบาะหน้า ถือว่าทำได้ดีครับ ความสบายในการขับ อาจจะไม่แตกต่างจากเจ้า Camry เท่าใดนัก แต่จะได้เปรียบก็ช่วงล่างนี่แหละครับ ถือว่านิ่มจริงๆ
- จอนอก ปรับเป็นภาษาอังกฤษได้ แต่ยังคงหลงเหลือภาษาญี่ปุ่นอยู่ ผมให้ อังกฤษ65%/ญี่ปุ่น35% ก็แล้วกัน แต่จะได้กล้อง 360 มาด้วย
- วัสดุและการประกอบถือว่าทำได้ดีครับ ติก็ตรงการใช้งานเป็นระบบสัมผัสทั้งหมด ขับไป กดไป ลำบากมาก และช่องเสียบ USB เพื่อต่อโทรศัพท์ หากเสียบสายคาไว้ จะปิดฝาไม่ได้เลย
- Harrier ยังมีระบบที่แฝงเข้าไปอีกครับ ยกตัวอย่างเช่น ระบบ CIS เป็นต้นครับ ซึ่งในส่วนนี้รถ Toyota ในไทยไม่มีใส่ให้สักรุ่น
ปล.เดี๋ยวว่างๆ จะรีวิวให้ครับ
-
เป็นรถรุ่นที่ชอบมากครับ แต่ภรรยาไม่ชอบเพราะบอกว่าโตโยต้าอะไรตั้งสองล้านกว่า
พยายามบิ้วหลายรอบมากก็ไม่สน
หารีวิวอ่านยากมากเลยครับ ขอบคุณมากๆเลยที่มาแชร์ประสบการ์ณให้ฟังครับ
-
จากรถอาผมเล่าให้ฟังว่าไปเปลี่ยนจอเครื่องเสียงมา อันเดิมคือภาษาญี่ปุ่นใช้งานลำบาก เลยไปเปลี่ยน
พอใช้ไปตัวรถมันฟ้องอะไรซักอย่าง แต่อ่านไม่ได้เพราะมันจะต้องมาอ่านที่จอ จอใหม่ที่ใส่มันแสดงส่วนนี้ไม่ได้
สรุป ต้องเอาจอเดิมมาใส่ถึงอ่านerrorได้ เตือนสำหรับคนที่ซื้อแล้วคิดจะเปลี่ยนจอครับ
-
จากรถอาผมเล่าให้ฟังว่าไปเปลี่ยนจอเครื่องเสียงมา อันเดิมคือภาษาญี่ปุ่นใช้งานลำบาก เลยไปเปลี่ยน
พอใช้ไปตัวรถมันฟ้องอะไรซักอย่าง แต่อ่านไม่ได้เพราะมันจะต้องมาอ่านที่จอ จอใหม่ที่ใส่มันแสดงส่วนนี้ไม่ได้
สรุป ต้องเอาจอเดิมมาใส่ถึงอ่านerrorได้ เตือนสำหรับคนที่ซื้อแล้วคิดจะเปลี่ยนจอครับ
ตอนนี้รู้สึกจะมีจอของ alpine ครับ สำหรับรถรุ่นนี้โดยเฉพาะเลน รุ่น 900e มั้ง
เห็นบอกว่า made for harrier เลย
-
ราคามันต่างกันนะ จะเอามาเทียบอยู่เหรอ เอาไปเปรียบกับ x3 ไม่ก็ glc ดีกว่าไหม
-
จากรถอาผมเล่าให้ฟังว่าไปเปลี่ยนจอเครื่องเสียงมา อันเดิมคือภาษาญี่ปุ่นใช้งานลำบาก เลยไปเปลี่ยน
พอใช้ไปตัวรถมันฟ้องอะไรซักอย่าง แต่อ่านไม่ได้เพราะมันจะต้องมาอ่านที่จอ จอใหม่ที่ใส่มันแสดงส่วนนี้ไม่ได้
สรุป ต้องเอาจอเดิมมาใส่ถึงอ่านerrorได้ เตือนสำหรับคนที่ซื้อแล้วคิดจะเปลี่ยนจอครับ
ตอนนี้รู้สึกจะมีจอของ alpine ครับ สำหรับรถรุ่นนี้โดยเฉพาะเลน รุ่น 900e มั้ง
เห็นบอกว่า made for harrier เลย
ราคาจาก Facebook Alpine Society
ราคาประมาณ 9 หมื่นกว่าบาทครับ ราคาไม่รวมติดตั้งครับ
Shock แปล๊บ :(