Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Deaw ที่ สิงหาคม 19, 2015, 21:27:54
-
ขอความเห็นครับ
ระหว่าง
Pajero sport 2WD GT 1,250,000.-
กับ
Fortuner 2.4V 2WD AT 1,369,000.-
แต่ละท่านจะเลือกคันไหน เพราะอะไรครับ
-
ถ้าไม่เอาท็อป ผมเลีอก ฟอ
เพราะหน้า ท้าย เข้าตามากที่สุด อ๊อฟชั่นไม่สนปล่อยมันโล้นๆงั้นแหละ เน้นใช้งานระยะยาว
ปล.ผมใช้ ฮอน ไม่ได้เป็นแฟนบอยพี่โตครับ
-
ผมเลือก Fortuner ครับผม เห็นขับในถนนแล้วผมว่ามันสวยดีครับ
ไม่ชอบถ้าย Pa อย่างแรงครับ และ Option ของ For ก็เพียงพอกับการใช้งานแล้วครับ
และคิดว่า เกียร์ของ for น่าจะปัญหาน้อยกว่า Pa อันนี้คิดเอาเองนะครับผม
-
Fortuner ครับ
ถุงลม7ใบ ครบๆ อิๆ
-
ปา สีน้ำตาลคับ หรือดำ วันก่อนขับสวนกับฟอดูโย่งๆไม่สมส่วน
-
ถ้าเลือก Brand ก็ Fortuner ครับ
ถ้าเลือกความคุ้มค่า ก็ Pajero Sport ครับ
ปก จาก Fortuner ตัวรอง เพิ่มนิดเดียวก็ได้ Pajero Sport ตัว TOP ครับ
-
เพิ่มอีก3หมื่นได้ปาท็อป จากราคาฟอตัวนั้น
ผมยอมไปปาครับแบบนี้ :D สำหรับปาท็อปเท่านั้นดูคุ้มสุด
-
Fortuner ครับ
-
ถ้าตัวนี้ผม Fortuner ครับ เป็นรุ่นที่คุ้มสุด
-
ผมเลือก Fortuner ครับผม เห็นขับในถนนแล้วผมว่ามันสวยดีครับ
ไม่ชอบถ้าย Pa อย่างแรงครับ และ Option ของ For ก็เพียงพอกับการใช้งานแล้วครับ
และคิดว่า เกียร์ของ for น่าจะปัญหาน้อยกว่า Pa อันนี้คิดเอาเองนะครับผม
เรื่องเกียร์ for นี่ไม่แน่ใจแล้วนะครับเห็นในคลับ newfortuner มีไปเครมกันแล้วนะครับ ปัญหาคือเกียร์เข้ายากและมีเสียงดังจนสะท้านออกนอกรถ แล้วเรื่องเครมตัว model ใหม่นี่ดูจะเขี้ยวๆด้วยเห็นได้จากปัญหาเครมประตูท้ายไฟฟ้า :-X
https://web.facebook.com/100009430869710/videos/o.774165679297800/1469712880019727/?type=2&theater
-
ถ้ามีสองรุ่นข้างต้น ผมเลือก Fortuner แต่ถ้าตัดสินใจเองผมเลือกเพิ่มเงิน For ไปออก Pa ตัว top ครับ
-
ผมเคยใช้ ฟอร์ มาก่อน ผมไม่แน่ใจคุณเน้นอะไร แต่ผมขับ ฟอร์มา 6 ปี เครื่องยนต์โอเค ปัญหากวนใจน้อยมาก แต่ช่วงล่างแข็ง ไปทางแข็งมากและโยนด้วยครับขับทางไกลไม่สบายตัวมาก ผมจองปาร์ ไปเมื่องานที่ผ่านมา มีสองอย่างที่ทำให้จอง คือหนึ่ง ราคาตัวท๊อปรู้สึกว่าคุ้มมาก กับ ออปชั่นที่ให้ สอง คือ ช่วงล่าง ที่ไปลองรุ่นเก่าของปาร์มา แล้วรู้สึกนุ่มกว่ามาก ส่วนเรื่องศุนย์ ผมอยู่สงขลาคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา ยอมรับว่า เสียงเรื่องศุนย์ แต่พอดูราคาที่ต่างกัน สำหรับตัวท๊อป คิดว่า สองแสน ยอมสู้กับเรื่องนี้ เพื่อแลกกับความเสี่ยงเรื่อง ปัญหารถที่จะเข้ามากับเรื่องศูนย์ ส่วนหน้าตา ความสวยงามภายใน แล้วแต่ความชอบแค่ละคนเหมือนกินข้าว แกงเขียวหวานถ้วยเดียวกัน คุณบอกอร่อย ผมอาจจะแหวะ ก็ได้จริงไหมครับ นานาจิตตัง อ้อ ผมมีลูกสองคน ทุกคนชอบระบบบันเทิง เลยลงตัว
-
Fortuner 2.4 2wd AT 1,369,000
Pajero sport 2.4 2wd GT 1,250,000
ข้อแรกเลย คุณชอบ รถรูปร่างหน้าตาแบบไหน เพราะความสวยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ส่วนตัวผมชอบ Parejo sport ออกแบบหน้าตาเส้นสาย ได้ลงตัวกว่า (อันนี้แล้วแต่คนชอบ)
ข้อสอง ออปชั่นและสมรรถนะของรถ มันมีบางอย่างที่ต่างกันอยู่หลายอย่าง ที่ราคารถ 1,250,000 มี แต่ 1,369,000 ไม่มี ลองไปเปิดไล่ดูสเปคได้ครับ ว่าตัวไหนจำเป็นต่อการใช้งาน และเราชอบใช้แบบไหน
ข้อสาม 2.4 2wd AT เท่าๆกัน แต่ราคามันต่างกัน 119,000 บาท เหตุผลถ้าจะเลือก Fortuner เพราะมันคือ TOYOTA รึป่าว อันนี้แล้วแต่คนจะคิด
**แต่ถ้าเป็นผม Pajero sport 2.4 4wd GT Premium 1,399,000 ถ้าจองภายในกันยายนนี้ เพิ่มเงินจาก Fortuner 2.4 2wd AT 30,000
-
ต้องดูจากพื้นฐานการใช้งานที่จะใช้ครับ
ผมก็เล็ง For 2.4V กับ PJS 4WD
ราคาใกล้กัน แต่เสพข่าวเยอะ ก็ตัดสินใจได้แค่ระดับนึงครับ
ลองไปดูตัวจริง ลองนั่งคันจริงชัดเจนกว่า
ถ้าเน้นขับ ไป PJS
ถ้าเน้นนั่ง สามแถว FOR ดีกว่า ครับ
-
ถ้าชอบสวยลงตัวแต่งขึ้นๆเลือกFTN(2.4v ออฟชั่นเกือบครบ) แต่ถ้าขับอย่างเดียวไม่แต่งเลือกPJS
(ภาพจากเว็ปอื่น)
-
เลือกจูนครับ
ปล.เห็นกระแสเงียบๆแต่ป้ายแดงวิ่งเพียบเหมือนกันน่ะครับ
-
ถ้าเป็นสองรุ่นนี้ผมก็เลือก ฟอร์จูนเนอร์อุปกรณ์สำหรับผมคิดว่าเพียงพอขาดแค่ ครุยส์คอนโทรล
-
ถ้าตามคำถาม ก็แล้วแต่ชอบเลยครับคันไหนก็ได้
แต่ผมคิดเหมือนหลายคน เพิ่มเงินอีกนิดเดียวไปปาตัวท๊อป
-
ผมเลือก Fortuner ครับผม เห็นขับในถนนแล้วผมว่ามันสวยดีครับ
ไม่ชอบถ้าย Pa อย่างแรงครับ และ Option ของ For ก็เพียงพอกับการใช้งานแล้วครับ
และคิดว่า เกียร์ของ for น่าจะปัญหาน้อยกว่า Pa อันนี้คิดเอาเองนะครับผม
เรื่องเกียร์ for นี่ไม่แน่ใจแล้วนะครับเห็นในคลับ newfortuner มีไปเครมกันแล้วนะครับ ปัญหาคือเกียร์เข้ายากและมีเสียงดังจนสะท้านออกนอกรถ แล้วเรื่องเครมตัว model ใหม่นี่ดูจะเขี้ยวๆด้วยเห็นได้จากปัญหาเครมประตูท้ายไฟฟ้า :-X
https://web.facebook.com/100009430869710/videos/o.774165679297800/1469712880019727/?type=2&theater
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ครับผม
-
อ่านสเป็คแล้วลองไปดูคันจริงก่อนครับ บางทีอาจได้รุ่นอื่นก็ได้ใครจะไปรู้ แต่ถ้านั่งเลือกตามหน้าเวปตามรูปนี่ก็อีกเรื่องหรือเลือกเล่นๆ แต่ไม่ได้ซื้อใช้จริงๆก็ตามแต่เรยย หนุกดีครับ
-
ถ้าไม่ใช่ตัว Top เครื่อง 2.4 เหมือนกันและวิ่งในกรุงเทพอย่างเดียว เป็นผมไป Fortuner ครับ ราคา 1.3 ล้านกว่า ๆ อ๊อพชั่นที่ให้มาไม่ด้อยกว่าคู่แข่งจนน่าเกลียดกันเกินไป พอรับได้เลยล่ะ ประหยัดน้ำมันด้วย
แต่ถ้าตัว Top 2.8 Fortuner กับอ๊อพชั่นแค่นี้ ราคา 1.59 ล้านบาทนี้รับไม่ได้
เมื่อวานผมฟังวิทยุก็มีคนถาม อ. พัฒนเดช อาสาสรรพกิจจัดรายการ FM 89.5 เรื่องคล้าย ๆ แบบนี้เหมือนกันว่าถ้าเลือก 2wd 4wd อะไรดีระหว่าง Fortuner Pajero
อ. พัฒนเดช ตอบว่าถ้าคิดจะวิ่งในกรุงเทพหรืออย่างเก่งก็ไปชัยนาทบ้านเค้าแค่เนี๊ยะ เขาเลือกแค่ 2wd เพียงพอ Fortuner Pajero ก็ได้ แต่ถ้าจะวิ่งไกลกว่านั้นเขาเลือก 4wd ดีกว่า ถ้าเทียบกันในตัว4wd Pajero ให้อ๊อพชั่นมาเยอะและราคาดูดีทีเดียว
-
เลือก Pajero ครับ สวยกว่าทุกสัดส่วน ราคาถูกกว่าอีก
วันนี้วิ่งตามตูด For มา ดูมันโหลนๆ โล้นๆ ชอบกล ด้านข้างยิ่งแย่กว่าตัวเก่าเยอะ ไม่สมส่วน โย่งล่าง แฟ๊บบน
แฟนนั่งไปด้วยกันบอก รถบ้าอะไร ดูโล้นๆ ไม่มีความสวยเอาสะเลย แถมบอกว่าตัวเก่าสวยกว่าอีก
ผมก็เลยถามว่า ปา กะ ฟอ ตัวไหนสวยกว่า เมียบอก เลือกปา โดยไม่ต้องคิด
-
fortuner คับ
-
รอข้อมูลจากทางเว็ปเปรียบเทียบทุกค่ายของรถ ppv 4x2 ก่อนซิครับ แล้วค่อยดูว่าอันไหนคุ้มค่ากว่ากันครับ
-
Fortuner ทำไมผมรู้สึกว่ามองหน้าเฉียงๆ แล้วมันให้ฟีลเดียวกับ Focus Mk3
คือ เหมือนคนฟันเหยิน
-
เลือก PJS ครับเพราะเรื่องราคา ดีไซด์และอ็อปชั่น ด้านท้ายผมจะสั่งสปอยเลอร์ของแต่งศูนย์แท้ติดเข้าไป จบเลย :) :)
-
pajero รุ่นไหนก็ได้ครับ ไม่ชอบทรงฟอร์ มันสูงโยกเยก ตัวถังอะไรก็เหมือนรุ่นเก่า
-
for แหล่มกว่า
-
Fortuner 2.4 2wd AT 1,369,000
Pajero sport 2.4 2wd GT 1,250,000
ข้อแรกเลย คุณชอบ รถรูปร่างหน้าตาแบบไหน เพราะความสวยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ส่วนตัวผมชอบ Parejo sport ออกแบบหน้าตาเส้นสาย ได้ลงตัวกว่า (อันนี้แล้วแต่คนชอบ)
ข้อสอง ออปชั่นและสมรรถนะของรถ มันมีบางอย่างที่ต่างกันอยู่หลายอย่าง ที่ราคารถ 1,250,000 มี แต่ 1,369,000 ไม่มี ลองไปเปิดไล่ดูสเปคได้ครับ ว่าตัวไหนจำเป็นต่อการใช้งาน และเราชอบใช้แบบไหน
ข้อสาม 2.4 2wd AT เท่าๆกัน แต่ราคามันต่างกัน 119,000 บาท เหตุผลถ้าจะเลือก Fortuner เพราะมันคือ TOYOTA รึป่าว อันนี้แล้วแต่คนจะคิด
**แต่ถ้าเป็นผม Pajero sport 2.4 4wd GT Premium 1,399,000 ถ้าจองภายในกันยายนนี้ เพิ่มเงินจาก Fortuner 2.4 2wd AT 30,000
+1
ชอบคำตอบนี้ครับ
-
ผมอยากรู้จริงๆถ้าปาตัวท๊อปปรับเป็นราคาเต็มแล้ว จะมีคนซื้อไหมครับ หรือว่าจะมีคนซื้อแค่ตอนราคาโปรเท่านั้น 5555
-
ผมอยากรู้จริงๆถ้าปาตัวท๊อปปรับเป็นราคาเต็มแล้ว จะมีคนซื้อไหมครับ หรือว่าจะมีคนซื้อแค่ตอนราคาโปรเท่านั้น 5555
ราคาเต็มก็ยังมีคนซื้อเพราะความคุ้มค่าครับผม
อย่าลืมว่า Pajero sport ไม่ใช่ว่าเป็นรถที่ไม่ดีนะครับผม
ตัวเก่าก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรนะครับผม ใช้ดีปัญหาน้อยมากครับ
-
ท้ายฟอ เทียบกับปาตัวเก่าคือเฉยๆมากคับ
-
ผมไปลองนั่งมา ผมว่าบรรยากาศในห้องโดยสาร FTN ดูมีราคาว่าปาปอดนะครับ
ท่านั่งขับ ที่วางแขน leg room คนขับ สบายกว่าปาปอด วัสดุที่ FTN เลือกมาบุนุ่ม เดินด้าย
มันทำให้เหมาะกับราคามากกว่า (ยกเว้ณ FTN 2.8V อันนี้หาเหตุผลไม่ได้ว่าทำไมมันราคานั้น)
ของปาปอดมันดูสวยล้ำยุคก็จริง แต่มันพลาสติกๆแข็งๆหมดเลย อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะครับ
แต่ถ้าเอาของเล่น option เนี้ย ปาปอดกินขาด แต่ผมซื้อรถผมซื้อมาขับอ่ะนะ ไม่ได้มาเล่นของเล่น
ดังนั้น อันไหนนั่งขับสบายกว่าก็เอาอันนั้น ถ้าในพิกัด 2.4 ผมไป FTN ครับ นั่งขับสบายกว่า
บรรยากาศห้องโดยสารหรูหราดี ลายไม้ด้านสวยมาก ของจำเป็นมาให้ครบ...
-
ผมอยากรู้จริงๆถ้าปาตัวท๊อปปรับเป็นราคาเต็มแล้ว จะมีคนซื้อไหมครับ หรือว่าจะมีคนซื้อแค่ตอนราคาโปรเท่านั้น 5555
จำสมาชิกท่านนี้ได้แม่นเลย "ติ่งฟอร์"ใช่มั้ยครับ
-
ผมพยายามหาข้อมูลเชิงลึกนิดหน่อย แต่ก็ไม่รู้จะหายังไงนะครับผม
ผมว่า เรื่องความน้่งสบาย คงไม่ต่างกันระดับ ฟ้ากับเหว ผมว่า สองคันนี้ผมรับได้
เรื่อง Option ไม่ว่า จะน้อยจะมาก สำหรับ ผมว่า มันก็พอรับได้ทั้งสองยี่ห้อครับ
ส่วนความสวย ก็แล้วแต่จะเลือกครับผม
For ก็เห็นมีปัญหาเรื่อง เกียร์ และก็ประตูท้าย อันนี้รถใหม่เลยนะครับผม
และวันนี้ได้มีโอกาสดูคลิปที่เขาทดสอบ Revo แล้วพูดถึงเทคโนโลยีเครื่องยนต์
ไม่ได้บอกว่าอะไรดีกว่า หรือ ด้อยกว่านะครับผม เครื่อง GD ของ Revo ใช้ระบบโซ่ราวลิ้น ละก็ระบบอะไรผมจำไม่ได้ว่า ไม่ต้องปรับตั้งตลอดเท่าอายุเครื่องยนต์
กรองน้ำมันก็ราคาถูกลงและระยะการเปลี่ยนเพิ่มขึ้นประมาณนั้นครับผม บางอย่างผมไม่เข้าใจศัพท์ทางระบบเท่าไหร่
แต่เอาที่ เคยประสบมาก โซ่ราวลิ้น เขาโฆษณาว่า อย่างน้อยจะเปลี่ยนอีกครั้ง ก็ประมาณ 4 แสนกิโลเมต ซึ่งเป็นระยะที่น่าประทับใจครับ ถ้าใช้ในชีวิตประจำวันธรรมดา ผมว่า น่าจะ 10 ปีขึ้นไป
แต่เครื่องมิตซู ผมไม่แน่ใจว่า ใช้ สายพานไทม์มิ่งเหมือนเดิม หรือเปล่า ถ้าใช้เหมือนเดิม ก็จะเปลี่ยนกันประมาณ 1 แสน - 1.5 แสน กิโลเมตร โดยประมาณ ซึ่งถ้าเปลี่ยนทั้งชุด(ซึ่งควรเปลี่ยนทั้งชุด)
ก็เกือบหมื่นและผมมองว่ามันเป็นการซ่อมรถที่รื้อเยอะพอสมควร(มันทำให้ผมไม่ค่อยสบายใจว่าเวลาที่ช่างทำแล้วจะเหมือนกับของเดิมหรือเปล่า แต่ ช่างก็ทำดีนะครับ555) แล้วยังมี Turbo ซึ่งปัจจุบัน
ที่ใช้ใน Revo และ Fortuner นั้น ชุด Turbo มีอะไหล่แยกชิ้นให้ซ่อมได้ ไม่ใช่ยกทั้งชุด แต่ของมิตซู ผมไม่รู้ว่า ต้องยกชุดหรือมีแยกชิ้นเหลือเปล่า(แต่ผมก็ไม่เคยซ่อมนะ) แต่ถ้าเข้าศูนย์มิตซู
ไม่ว่าซ๋อมอะไรทางศูนย์จะพยายาม ยังไงก็ได้ให้เราเปลี่ยนทั้งหมด ถามว่าดีไหม ได้ของใหม่หมด ดีครับ แต่ว่า รวมๆ แล้ว มันหลายเงินเหลือเกินในบางครั้ง ควรจะเป็นเลือกเปลี่ยนเฉพาะ
คือใส่ใจให้เรามากขึ้นหน่อย และหาวิธีการลดค่าใช้จ่ายให้ลูกค้าหน่อย ไม่ใช่ เอะอะ ทั้งชุดๆ ประมาณนั้นครับ ไอ้ที่เปลี่ยนนะ มันเงินผมนะ ไม่ใช้เงินศูนย์
คือ ถ้าเป็นผม ถ้า ซื้อ Fortuner แล้วรู้สึกสบายใจกว่าและต้องบำรุงรักษาน้อยกว่า จ่ายแพงกว่า 2 แสน ผมก็ซื้อครับ สุดท้าย อาจจะคุ้มกว่าตอนซื้อถูกกว่าก็ได้ครับ
เพราะความสบายใจ ความสุขในการใช้ บางครั้งมันตีค่าเป็นเงินไม่ได้ครับ
แต่ ณ ตอนนี้ผมก็ยังไม่เลือกนะครับผม ผมขอรอดูสถานะการณ์ไปก่อน แม้ปีหน้าจะขึ้นราคา ก็ยอมครับ ก็เพราะเหตุผลเดิมครับ ผมไม่อยากหงุดหงิด ไม่อยากจะไปเถียงหรือต้องไปต่อรองกับศูนย์
หรือต้องรอให้เขาแก้ปัญหาที่ยังไม่รู้วิธีแก้ไขมันทำให้ผมเหนื่อย ผมยอมจ่ายเพิ่ม และใช้รถคันเก่าไปก่อน เมื่อรถพร้อม ปัญหาน้อย ก็ค่อยว่ากันว่าจะเอารุ่นไหนครับผม
ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับผม อย่าว่าผมนะครับผม :)
-
ใช่ครับ ผมติ่งฟอร์ 555(ขอบคุณที่จำได้) ผมพูดตรงๆนะครับที่ผมซื้อฟอร์ก็เพราะว่าผมไม่เห็นว่าปากับEVจะมีอะไรดีไปมากกว่าฟอร์เลย เพราะว่าไอที่ดีกว่าก็มี แต่ไอที่ไม่ดีก็มี คือว่าถ้าจะเอามาแข่งกันจริงๆก็น่าจะทำมาให้ดีขาดกันไปเลย ไหนๆก็สู้เรื่องหลังการขายไม่ได้อยู่แล้ว จะได้ชนะฟอร์แบบใสๆกันไปเลย ปาก็โดนบ่นเรื่องภายในเยอะมากกกก EVก็ขายตัวรถอย่างเดียวแต่หลังการขายไม่เห็นจะมีดีอะไรเลย อะไรๆก็พูดแต่เรื่องความคุ้มค่าเงิน ผมไม่เห็นว่าฟอร์จะไม่คุ้มค่าเงินตรงไหน มันอยู่ที่คนเลือกรถครับ ว่าชอบแบบไหน ชอบที่ตัวรถ หรือชอบที่บริการหลังการขาย เอาไว้มิตซูกับฟอร์ดไปพัฒนาเรื่องศูนย์บริการให้มีเท่ากับโตโยก่อนนะครับ แล้วค่อยมาดูกันว่าจะทำรถได้ดีกว่าโตโยอีกมั๊ย :P :P :P
-
ใช่ครับ ผมติ่งฟอร์ 555(ขอบคุณที่จำได้) ผมพูดตรงๆนะครับที่ผมซื้อฟอร์ก็เพราะว่าผมไม่เห็นว่าปากับEVจะมีอะไรดีไปมากกว่าฟอร์เลย เพราะว่าไอที่ดีกว่าก็มี แต่ไอที่ไม่ดีก็มี คือว่าถ้าจะเอามาแข่งกันจริงๆก็น่าจะทำมาให้ดีขาดกันไปเลย ไหนๆก็สู้เรื่องหลังการขายไม่ได้อยู่แล้ว จะได้ชนะฟอร์แบบใสๆกันไปเลย ปาก็โดนบ่นเรื่องภายในเยอะมากกกก EVก็ขายตัวรถอย่างเดียวแต่หลังการขายไม่เห็นจะมีดีอะไรเลย อะไรๆก็พูดแต่เรื่องความคุ้มค่าเงิน ผมไม่เห็นว่าฟอร์จะไม่คุ้มค่าเงินตรงไหน มันอยู่ที่คนเลือกรถครับ ว่าชอบแบบไหน ชอบที่ตัวรถ หรือชอบที่บริการหลังการขาย เอาไว้มิตซูกับฟอร์ดไปพัฒนาเรื่องศูนย์บริการให้มีเท่ากับโตโยก่อนนะครับ แล้วค่อยมาดูกันว่าจะทำรถได้ดีกว่าโตโยอีกมั๊ย :P :P :P
ไม่ใช่ติ่งยี่ห้อไหน แต่เท่าที่ใช้รถมาหลายยี่ห้อเจ้าตลาดมีปัญหาน้อยสุดครับ แล้วแก้จบ ผมเชื่อว่ารถขายดียังไงต้องมีจุดแข็งที่ยี่ห้อรองลงมาสู้ไม่ได้ สรุปถ้าให้เลือกก็คงซื้อเจ้าตลาดครับ ขับ เข้า 0 ขับ เข้า 0 ไม่ต้องซ่อมให้ปวดหัว
-
ผมพยายามหาข้อมูลเชิงลึกนิดหน่อย แต่ก็ไม่รู้จะหายังไงนะครับผม
ผมว่า เรื่องความน้่งสบาย คงไม่ต่างกันระดับ ฟ้ากับเหว ผมว่า สองคันนี้ผมรับได้
เรื่อง Option ไม่ว่า จะน้อยจะมาก สำหรับ ผมว่า มันก็พอรับได้ทั้งสองยี่ห้อครับ
ส่วนความสวย ก็แล้วแต่จะเลือกครับผม
For ก็เห็นมีปัญหาเรื่อง เกียร์ และก็ประตูท้าย อันนี้รถใหม่เลยนะครับผม
และวันนี้ได้มีโอกาสดูคลิปที่เขาทดสอบ Revo แล้วพูดถึงเทคโนโลยีเครื่องยนต์
ไม่ได้บอกว่าอะไรดีกว่า หรือ ด้อยกว่านะครับผม เครื่อง GD ของ Revo ใช้ระบบโซ่ราวลิ้น ละก็ระบบอะไรผมจำไม่ได้ว่า ไม่ต้องปรับตั้งตลอดเท่าอายุเครื่องยนต์
กรองน้ำมันก็ราคาถูกลงและระยะการเปลี่ยนเพิ่มขึ้นประมาณนั้นครับผม บางอย่างผมไม่เข้าใจศัพท์ทางระบบเท่าไหร่
แต่เอาที่ เคยประสบมาก โซ่ราวลิ้น เขาโฆษณาว่า อย่างน้อยจะเปลี่ยนอีกครั้ง ก็ประมาณ 4 แสนกิโลเมต ซึ่งเป็นระยะที่น่าประทับใจครับ ถ้าใช้ในชีวิตประจำวันธรรมดา ผมว่า น่าจะ 10 ปีขึ้นไป
แต่เครื่องมิตซู ผมไม่แน่ใจว่า ใช้ สายพานไทม์มิ่งเหมือนเดิม หรือเปล่า ถ้าใช้เหมือนเดิม ก็จะเปลี่ยนกันประมาณ 1 แสน - 1.5 แสน กิโลเมตร โดยประมาณ ซึ่งถ้าเปลี่ยนทั้งชุด(ซึ่งควรเปลี่ยนทั้งชุด)
ก็เกือบหมื่นและผมมองว่ามันเป็นการซ่อมรถที่รื้อเยอะพอสมควร(มันทำให้ผมไม่ค่อยสบายใจว่าเวลาที่ช่างทำแล้วจะเหมือนกับของเดิมหรือเปล่า แต่ ช่างก็ทำดีนะครับ555) แล้วยังมี Turbo ซึ่งปัจจุบัน
ที่ใช้ใน Revo และ Fortuner นั้น ชุด Turbo มีอะไหล่แยกชิ้นให้ซ่อมได้ ไม่ใช่ยกทั้งชุด แต่ของมิตซู ผมไม่รู้ว่า ต้องยกชุดหรือมีแยกชิ้นเหลือเปล่า(แต่ผมก็ไม่เคยซ่อมนะ) แต่ถ้าเข้าศูนย์มิตซู
ไม่ว่าซ๋อมอะไรทางศูนย์จะพยายาม ยังไงก็ได้ให้เราเปลี่ยนทั้งหมด ถามว่าดีไหม ได้ของใหม่หมด ดีครับ แต่ว่า รวมๆ แล้ว มันหลายเงินเหลือเกินในบางครั้ง ควรจะเป็นเลือกเปลี่ยนเฉพาะ
คือใส่ใจให้เรามากขึ้นหน่อย และหาวิธีการลดค่าใช้จ่ายให้ลูกค้าหน่อย ไม่ใช่ เอะอะ ทั้งชุดๆ ประมาณนั้นครับ ไอ้ที่เปลี่ยนนะ มันเงินผมนะ ไม่ใช้เงินศูนย์
คือ ถ้าเป็นผม ถ้า ซื้อ Fortuner แล้วรู้สึกสบายใจกว่าและต้องบำรุงรักษาน้อยกว่า จ่ายแพงกว่า 2 แสน ผมก็ซื้อครับ สุดท้าย อาจจะคุ้มกว่าตอนซื้อถูกกว่าก็ได้ครับ
เพราะความสบายใจ ความสุขในการใช้ บางครั้งมันตีค่าเป็นเงินไม่ได้ครับ
แต่ ณ ตอนนี้ผมก็ยังไม่เลือกนะครับผม ผมขอรอดูสถานะการณ์ไปก่อน แม้ปีหน้าจะขึ้นราคา ก็ยอมครับ ก็เพราะเหตุผลเดิมครับ ผมไม่อยากหงุดหงิด ไม่อยากจะไปเถียงหรือต้องไปต่อรองกับศูนย์
หรือต้องรอให้เขาแก้ปัญหาที่ยังไม่รู้วิธีแก้ไขมันทำให้ผมเหนื่อย ผมยอมจ่ายเพิ่ม และใช้รถคันเก่าไปก่อน เมื่อรถพร้อม ปัญหาน้อย ก็ค่อยว่ากันว่าจะเอารุ่นไหนครับผม
ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับผม อย่าว่าผมนะครับผม :)
ชอบใจ คห. นี้ครับ อธิบายด้วยเหตุผลอย่างมีตรรกะ ไม่ใช่เอาอารมณ์ส่วนตัวมาเป็นหลัก
-
คิดแบบคนจะซื้อจริง ไม่ใช่เอามัน คือ ถ้ากูไม่ซื้อคิดเล่นๆ พิมพ์มันๆ มันก็ง่าย เอาสนุก
แต่สำหรับคนจะซือจริงนี่ จะซื้อสดหรือผ่อนก็ตามถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ระดับครอบครัวเลย
ยิ่งพวกที่มี bias หรือ brand loyalty มาแล้วนี่มันจบ ตั้งแต่ brand แล้ว
ถ้าไม่ใช่ตัว Top ตามที่ จขกท.ว่า
PJS 1,250,000
FTN 1,369,000
ส่วนต่าง 119,000 แต่ FTN ไม่แถม ป.1 น่าจะประมาณ 28,000 บาท = ต่างกัน 147,000
ส่วนเรื่อง ด/บ ผมไม่แน่ใจว่าต่างกันมากน้อย
คุ้มไหม อปก. ทั้ง 2 ตัวใกล้เคียงกัน
แต่ passive safety PJS มี 2 airbags แต่ FTN 7 airbags
แต่ active safety PJS มีให้มากกว่า
เรื่องสายพานราวลิ้นเครื่องใน กท. ด้านบนให้ คห. ไว้น่าสนใจ
เรื่องเกียร์ ความทนทานนี่ ไม่น่ามีใครทราบ นอกจากคาดเดา เพราะถ้าผู้ผลิตเดียวกัน ความทนทานก็น่าจะเท่ากัน
หรือมันมีหลายเกรด
เครื่องยนต์ ใหม่ด้วยกันทั้งคู่ ไม่ยืนยันความทนทาน แต่ FTN น่าจะเหนือกว่านะ
ช่วงล่าง น่าจะใกล้เคียงกัน ราคาอะไหล่ ผมเคยเป็นเจ้าของมาทั้ง Triton และ Vigo ผมว่าใกล้เคียงกัน
เบรค ดูจากพื้นฐาน ผมให้ PJS เหนือกว่า FTN
ราคาขายต่อ FTN น่าจะเหนือกว่า แต่ถ้านำเอาราคาตอนซื้อมาคำนวนเป็น % ด้วย ผมว่าห่างกันไม่มาก
เช่น FTN 550,000 PJS 450,000 ในระยะ 10 ปี
แต่ถ้า FTN ตัวไมเนอร์ นี้มีดิสค์เบรคหลัง เบาะไฟฟ้าข้างคนขับ ราคาปรับขึ้นนิดหน่อย ตัวที่ออกมาตอนนี้น่าจะ
ตกลงมาก
ถ้าถามให้ผมเลือก ตอนนี้ ผมก็ยังเลือกไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ลองสัมผัสจริงๆ จังๆ เลย และตอนนี้ ปห.ของคุณ
กับของผม คือ ปห.เดียวกัน คิดจะออกเหมือนกัน แต่ถ้าอ่านตาม K.Jimmy
ผมว่า PJS น่าสนใจมาก ผมจะไปนั่งคิดในรถโชว์นานๆ แล้วตัดสินใจครับ
แต่คงตัดสินใจก่อน สิ้น กย.นี้ เพราะปีหน้าภาษีปรับอีก อย่างน้อย +50,000 - 80,000 เท่ากับว่า
FTN 1,449,000 PJS2wd 1,330,000 PJS4wd 1,530,000 ช่างโหดร้าย