Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: DWL969 ที่ สิงหาคม 22, 2015, 23:50:13
-
คือเกริ่นก่อนวันนี้ผมไปดู EV กะ For ที่เล็งไว้คือรุ่น Top ซึ่งคิวยาวทั้งคู่
ศูนย์แรกที่ไปดูคือ EV, แน่นอนว่าคิวยาวไปถึงปีหน้าละ เซลล์บอกถ้าภาษีขึ้นจริง
ราคารถก็ขึ้นตาม แย่แน่ๆเลยพี่ ประมาณนี้
ศูนย์ที่สอง ก็คือ For เค้าบอกว่าคิวเค้าตอนนี้ไปถึงพฤษจิกาละ ตัวผมเองบอกว่าอาจจะจอง
ไม่เดือนหน้าก็เดือนตุลา รถก็อาจจะได้ปีหน้าเลยรึปล่าวไม่รู้ แต่!!! เซลล์บอกว่าถ้าภาษีขึ้น
ไม่มีผลครับ เอาราคาวันที่จองเป็นหลัก ถ้าได้รถปีหน้าจริงแล้วภาษีมันขึ้นจริง ถือเป็นความรับผิดชอบ
ของโตโยต้าที่ส่งรถไม่ทัน ไม่มีขึ้นราคา
เอาล่ะสิ ผมจะเชื่อใครดี หลายๆคนในเว็ปเราก็เห็นเดือดร้อนจะเอารถปีนี้ให้ทัน เพื่อหนีภาษีปีหน้า
แต่เห็นเซลล์โตโยต้าบอกมาแบบนี้ ก็แบบ เออ!! ก็จริงของเค้า รถมันส่งไม่ทัน แต่ราคามันขึ้น
แต่กรูจองไปนานแล้ว ความผิดกรูที่ไหน
ปล. ทำไมผมดู EV มันไม่เห็นไฮโซสมคำร่ำลือเลยว่าหรูกว่าดีกว่ารถยุโรป คือ ก็ดูธรรมดาป๊ะ
กระแสในเน็ตอวยซ๊า ออกจะดูป้อมๆ ทรงไม่แนว ภายในก็ธรรมดานะ ผืดคาดไปหน่อยกะEV
แต่ For ไม่ต้องกล่าวไรมาก ภายนอกภายใน ตามมาตรฐานโตโยต้า กลางๆ
-
เคยฟังรายการคุ่แข่งมอเตอลิ่ง เห็นบอกว่าคนจองปีนี้ตอนจองควรระบุใบจองให้ชัดเจนเรื่องราคารถด้วยครับ กันเซลหรือดีลเลอร์ที่หัวหมอ
แต่วันนี้ได้ไปนั่ง For เหมือนกันครับมีมาโชว์ที่ซีคอน ภายในนี่ดูหรูแบบหลอกๆนะ ในส่วนของ Instrument panel นี่จริงๆหุ้มหนังมีไม่กี่จุดตอนแรกเข้าใจว่าหุ้มมาแบบเต็มๆแบบรถ suv premium แถมหนังที่หุ้มสัมผัสมือแล้วออกไปทางแข็งมาแนวๆกับ MU X และดูภายในไม่ได้โล่งเท่าไหร่โดยเฉพาะส่วนหลังดูแคบมาก หรือเป็นเพราะเขาแขวนเบาะอยู่ก็ไม่รู้นะครับ
ปล คอนโซลกลางนี่ดูไม่ล้ำไม่หรูเท่าไหร่ ด้วยเพราะมันตั้งตรงมากเกินไป(คงเป็นเพราะต้องการขยายพื้นที่แถวแรกให้ดูโล่ง) Front เครื่องเสียงนี่ดูแล้วทำให้ชวนนึกถึงชุดเครื่องเสียง mini compo ซะอย่างนั้น
(http://www.mx7.com/i/e96/MFLZsC.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yyi4Pf4MX34kIRnC)
-
ที่จะให้ระบุในใบจองว่าโน่นนี่นั่นผมก็ไม่ปักใจเชื่ออยู่ดีว่าถ้าโดนภาษีจริงแล้วเป็นหน้าที่รับผิดชอบของบริษัท เนื่องจากได้อ่านมาหลายที่ หลายกระทู้ หลายเวป ผจก. ออกมาแจ้งว่าเป็นความเข้าใจผิดของลูกน้องบ้าง(ไงก็ไม่รับผิดชอบ) พนง. คนนั้นลาออกไปแล้วบ้าง แล้วก็มีปัญหากัน ถ้าเป็นผมคงเลือกที่ชอบแล้วจองโดยไม่สนว่าจะขึ้นราคารึเปล่า เพราะหากปรับขึ้นจริง จ่ายเพิ่มอีก 5-60,000 แต่ใช้รถอีก 10ปี ปีละไม่กี่พัน แต่ใช้รถที่ชอบแล้วมันใช่ จบกว่า
ปล.รึว่า fortune ไม่เข้าข่ายการเสียภาษี แต่ ev โดน
-
ระบุไปเหอะครับล้านแปด ถึงเวลาภาษีขึ้นจริงๆ คุณก็ต้องรับ หรือถ้าไม่รับ
เซลส์ยังมีก๊อก 2 อีก คือผิดเงื่อนไข คืนเงินจอง
ผมโดนมาแล้วกับรถยุโรปคันนึง รอมาเกือบ 4 เดือน พอถึงเวลารถไม่มา
เซลส์บอกถ้าไม่รอต่อก็คืนเงินจองให้ เพราะเขาทำได้แค่นั้น
ถ้าสมมุติศูนย์นั่นโดนขึ้นคันละ 50,000 เจอไป 20 คัน ล้านนึง ถ้า toyota thailand ไม่ช่วย
อันนี้ศูนย์ตาย เพราะปกติ margin คันนึงก็ต่ำเรี่ยติดดินมาก
-
ผมว่าไม่แน่ครับ กม. อาจจะอนุโลม สำหรับการจองก่อน กม. ออกมาครับ เหมือนรถคันแรก จองก่อนหมดเขต เลยเวลาเป็นปีก็ยังได้สิทธิ์ครับขอให้จองในเวลาที่กำหนดครับผม ถ้า กม.เป็นแบบนี้ผมว่า บางที่อาจจะไม่อยากให้จอง ครับผม
-
Fortuner คิวรับรถยาว? ลองหาดีๆครับ ไม่เกินเดือนรับรถได้เลย
กำลังการผลิตมีเยอะพอสมควรครับ ตอนนี้แทบจะประเคนส่งรถให้ลูกค้า
กลัวใบจองจะปลิวไปค่ายอื่นๆ
-
ฟังรายการพี่จิมมี่อาทิตย์ที่แล้วเพื่อนแกจองแปปเดียวได้รถแล้ว
มันจะถึงปีหน้าจริงๆเหรอครับ
-
ระบุยังยากเลยครับที่ศูนย์จะรับผิดชอบส่วนต่าง
ไม่ต้องฟังเค้าเล่า เอากรณีผมละกัน
จองรถไปตอน มกราคม 2556 รอรถ 14 เดือน
(ช้ากว่าที่ระบุในใบจอง 6 เดือน แต่มีการแจ้งเหตุผลที่ล่าช้ามาล่วงหน้า ก่อนถึงกำหนดอยู่แล้ว และก็ให้เลือกว่าจะรอ, เปลี่ยนรุ่น หรือคืนเงินจองทั้งหมด ผมเลือกรอ)
ในใบจองระบุราคาและรายละเอียดต่างๆไว้หมด เพราะผมเพิ่มอุปกรณ์เสริมบางอย่าง ซึ่งมันต้องจ่ายเพิ่มจากราคาปกติ
มีนาคม 2557 รถของผมมาถึงไทย
แต่ตอนมกราคม 2557 ทางบริษัททำการปรับราคารถทุกรุ่นขึ้น จะมากน้อยก็แล้วแต่รุ่น แต่รุ่นผมขึ้นมา 1 แสนบาท
ศูนย์ฯ แจ้งมาว่าต้องเพิ่ม 1 แสนบาท ผมไม่ยอมเพราะในใบจองระบุราคาไว้ชัดเจน
และส่วนลด ของแถมต่างๆ ต้องได้ตามที่ระบุในใบจองถ้าไม่ได้ ผมไม่รับรถ และของเงินจองคืนพร้อมดอกเบี้ย
ซึ่งกรณีนี้ชัดเจนว่าทางบริษัทส่งมอบรถช้าเอง และตอนที่ให้เลือกว่าจะรอรถหรือไม่ ไม่เคยมีการพูดถึงเรื่องราคา (ตอนที่คุยกันราคายังไม่ได้ปรับ)
ทางศูนย์ฯ จึงต้องขายให้ผมในราคาตามใบจอง
แต่กว่าจะจบก็ต้องคุยกันหลายรอบ ซึ่งกรณีผมก็ไม่รู้ว่าใครรับผิดชอบส่วนต่างนะครับ
ดังนั้น ต่อให้ระบุในใบจอง ก็เตรียมใจเผื่อไว้ได้เลยครับ ไม่ง่าย
-
รอครับรอ ยอดไม่ดีปีหน้าก็ ลด แหลก แจก แถม ครับ
ตอนนี้เซลไม่ง้ออ้างแต่ปีหน้าภาษีขึ้น มีตัวอย่างจากรถคันแรกแล้วครับ
-
ฟอจูนไม่น่ารอนานนะครับ
-
ฟอจูนไม่น่ารอนานนะครับ
เซลโต โทรหาเกือบทุกวัน บอกรถมาเเล้ว คิวยาวนี้ไม่น่าจะจริง
-
ภาษีรถไม่ได้ยึดที่วันจองรถหนิครับ
มันนับที่วันที่รถ Buy-off ออกจาก Line การผลิต
สมมุติหลัง 1 มค. 59 ถ้ารถที่ลูกค้ารับจากศูนย์เป็นรถที่ Buy-off ออกมาจากโรงงานก่อนวันที่ 31 ธค. 58 รถคันนั้นก็ควรที่จะเป็นราคาเก่า เพราะจ่ายภาษีอัตราเก่า
แต่สมมุติรับรถหลังจาก 1 มค. 59 เหมือนกัน แต่รถคันที่รับมัน Buy-off มาหลังจาก 1 มค.59 มันก็จะเป็นราคาใหม่ เพราะใช้ภาษีใหม่แล้วตอนรถผลิตเสร็จ เรื่องส่วนต่างราคาคงต้องขึ้นอยู่กับการคุยกับตัวแทนขายเป็นกรณี
เคสหลังมันก็แลดูลำบากใจทั้งสองฝ่าย เพราะตอนตกลงซื้อมันราคานึง แต่ของมาจริง คนขายรับของมาแพงขึ้น จะให้ขายเท่าเดิมคงขาดทุนกำไร
-
For ขนาดTaxiตอนนี้เห็นหลายคันแล้วครับ ส่วนมากจะอยู่ตามจังหวัดท่องเที่ยว น่าจะมีรถเลย
เรื่องราคาระบุใบจองแล้วรอข้ามปี ที่เคยโดนคือจองก่อนเปิดตัว พอเปิดมาราคาขึ้นจะให้เราจ่ายเพิ่ม เถียงกันกว่าจะจบ
ส่วนตัวคิดว่าถ้าไม่แน่นอนอย่าเสี่ยงดีกว่าครับ เพราะถ้าตกลงกันไม่ได้เท่ากับรอฟรีกันไม่รู้กี่เดือน
-
ผมเองก็เพิ่งไปจอง For มา(ตจว) ไปมา 4 ศูนย์ ทุกศูนย์บอกคิวยาวถึงพฤศจิ-ธันวาทั้งนั้น ><
-
คอนโซล For มันเหมือนขนมปังแหมะๆ วางทับกัน
เข้าไปนั่งแล้วทำใจมองคอนโซลไม่ลง มาตรฐานโตโยต้า มันธรรมดาเกินไป
-
คือเกริ่นก่อนวันนี้ผมไปดู EV กะ For ที่เล็งไว้คือรุ่น Top ซึ่งคิวยาวทั้งคู่
ศูนย์แรกที่ไปดูคือ EV, แน่นอนว่าคิวยาวไปถึงปีหน้าละ เซลล์บอกถ้าภาษีขึ้นจริง
ราคารถก็ขึ้นตาม แย่แน่ๆเลยพี่ ประมาณนี้
ศูนย์ที่สอง ก็คือ For เค้าบอกว่าคิวเค้าตอนนี้ไปถึงพฤษจิกาละ ตัวผมเองบอกว่าอาจจะจอง
ไม่เดือนหน้าก็เดือนตุลา รถก็อาจจะได้ปีหน้าเลยรึปล่าวไม่รู้ แต่!!! เซลล์บอกว่าถ้าภาษีขึ้น
ไม่มีผลครับ เอาราคาวันที่จองเป็นหลัก ถ้าได้รถปีหน้าจริงแล้วภาษีมันขึ้นจริง ถือเป็นความรับผิดชอบ
ของโตโยต้าที่ส่งรถไม่ทัน ไม่มีขึ้นราคา
เอาล่ะสิ ผมจะเชื่อใครดี หลายๆคนในเว็ปเราก็เห็นเดือดร้อนจะเอารถปีนี้ให้ทัน เพื่อหนีภาษีปีหน้า
แต่เห็นเซลล์โตโยต้าบอกมาแบบนี้ ก็แบบ เออ!! ก็จริงของเค้า รถมันส่งไม่ทัน แต่ราคามันขึ้น
แต่กรูจองไปนานแล้ว ความผิดกรูที่ไหน
ปล. ทำไมผมดู EV มันไม่เห็นไฮโซสมคำร่ำลือเลยว่าหรูกว่าดีกว่ารถยุโรป คือ ก็ดูธรรมดาป๊ะ
กระแสในเน็ตอวยซ๊า ออกจะดูป้อมๆ ทรงไม่แนว ภายในก็ธรรมดานะ ผืดคาดไปหน่อยกะEV
แต่ For ไม่ต้องกล่าวไรมาก ภายนอกภายใน ตามมาตรฐานโตโยต้า กลางๆ
ส่วนมากศูนย์ฟอร์ดจะคืนเงินจองทุกกรณีครับ โดยเค้าแจ้งตั้งแต่จองเลยครับว่าถ้าราคาขึ้นทางผู้ซื้อต้องเป็นผู้จ่ายส่วนต่าง ต่างจาก PJS. ที่ทางศูนย์แจ้งเลยครับว่าถ้าส่งมอบรถไม่ทันทาง มิตซูบิชิ จะเป็นคนรับส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นมาเอง
ส่วนพี่โต ผมไม่ได้ถาม มาครับ แต่คิดว่าคงเป็นนโยบายของแต่ละค่าย
-
จะเอา FJN มาจันทบุรีเลยครับ
จอดกองอยู่เพรยบ รับรถทันที
ปล.ตอนนี้ผมกำลังจะวัดใจไม่รีบไม่ร้อน
เพราะกลัวภาษีขึ้น ลองมาคิดๆดูหากภาษี
ปรับขึ้นแล้วราคารถมันขึ้นไปขนาดนั้น
ความน่าซื้อของมันจะแทบไม่เหลือด้วยราคา
ผู้ผลิต ค่ายรถ ต่างๆต้องมีแผนสำรองเพื่อ
กระตุ้นยอด และผมว่าปัจจัยหลักคงไม่ใช่เรื่อง
การเพิ่ม Option เพราะต่อให้ Option ท่วมคัน
แต่ราคามันสูงโด่งจนเกินความน่าจะเป็นของรถรุ่นนั้นๆ
คนก็ไม่ซื้ออยู่ดี
ผมเลยคิดๆแล้ว จะลองดูสถาณการณ์ไปอีกสักพัก
เชื่อว่าค่ายรถต้องมีแผนมารับมือตรงนี้แน่ๆ ไม่งั้น
สมมุติรถ PPv(SUV) ราคาโดนไป 1.7 ล้านกว่า
ยอดขาดมันคงร่วงกราว ถึงตอนนั้นโปรลดแลกแจกแถม
ต้องมาแน่ๆ ผู้ผลิตอาจต้องยอมลดกำไรลงเพื่อให้มี
ยอดขาย ถึงตอนนั้น ราคาจะลงมาอยู่ในภาวะปกติ
ซึ่งอาจจะไม่ต่างจากปัจจุบันนี้สักเท่าไหร่น่ะครับ
-
เรื่องของเรื่อง ศูนย์โตโยต้าที่ผมจะเอามันเป็นต่างจังหวัด รถเข้ามันเลยน้อย
แต่คนรอเยอะ มันเลยรอนาน
แต่คิดไปคิดมา สรุปได้ละว่า ไม่รีบดีกว่า ภาษีจะขึ้นก็ช่างมัน ไม่กี่บาท
เผลอๆ ก็อย่างที่บางท่านบอก ขายไม่ออกก็มีโปรมากระตุ้นเอง
ธนาคารปล่อยกู้ไม่ได้ก็ลดดอกอีก ตามกลไกตลาดดีกว่า
รถทั้งสองก็ยังไม่โดนใจมากเท่าไหร่ด้วย
ฟอร์ดก็รถดี แต่หลอนเรื่องปัญหาก่อนหน้านี้
โตโยต้าก็มาไม่สุดทาง รถขาดๆเกินๆ
เก็บตังค์ไว้อุ่นใจกว่า
-
จะเอา FJN มาจันทบุรีเลยครับ
จอดกองอยู่เพรยบ รับรถทันที
ปล.ตอนนี้ผมกำลังจะวัดใจไม่รีบไม่ร้อน
เพราะกลัวภาษีขึ้น ลองมาคิดๆดูหากภาษี
ปรับขึ้นแล้วราคารถมันขึ้นไปขนาดนั้น
ความน่าซื้อของมันจะแทบไม่เหลือด้วยราคา
ผู้ผลิต ค่ายรถ ต่างๆต้องมีแผนสำรองเพื่อ
กระตุ้นยอด และผมว่าปัจจัยหลักคงไม่ใช่เรื่อง
การเพิ่ม Option เพราะต่อให้ Option ท่วมคัน
แต่ราคามันสูงโด่งจนเกินความน่าจะเป็นของรถรุ่นนั้นๆ
คนก็ไม่ซื้ออยู่ดี
ผมเลยคิดๆแล้ว จะลองดูสถาณการณ์ไปอีกสักพัก
เชื่อว่าค่ายรถต้องมีแผนมารับมือตรงนี้แน่ๆ ไม่งั้น
สมมุติรถ PPv(SUV) ราคาโดนไป 1.7 ล้านกว่า
ยอดขาดมันคงร่วงกราว ถึงตอนนั้นโปรลดแลกแจกแถม
ต้องมาแน่ๆ ผู้ผลิตอาจต้องยอมลดกำไรลงเพื่อให้มี
ยอดขาย ถึงตอนนั้น ราคาจะลงมาอยู่ในภาวะปกติ
ซึ่งอาจจะไม่ต่างจากปัจจุบันนี้สักเท่าไหร่น่ะครับ
จอง titanium+ไปวันที่2 งานBIGดูไปดูมาสงสัยไม่ทันปีนี้แน่ แต่ได้บัตรเติมน้ำมันมา 3000 แล้วไม่ได้ก็ทำใจครับ :) เดี๋ยวราคาใหม่ออก แล้วดูออฟชั่นที่เพิ่มมาค่อยตัดสินใจว่าจะเอาหรือไม่เอาอีกทีถ้าได้รถปีนี้นี่น่าจะดวงดีมาก ๆ
-
จะเอา FJN มาจันทบุรีเลยครับ
จอดกองอยู่เพรยบ รับรถทันที
ปล.ตอนนี้ผมกำลังจะวัดใจไม่รีบไม่ร้อน
เพราะกลัวภาษีขึ้น ลองมาคิดๆดูหากภาษี
ปรับขึ้นแล้วราคารถมันขึ้นไปขนาดนั้น
ความน่าซื้อของมันจะแทบไม่เหลือด้วยราคา
ผู้ผลิต ค่ายรถ ต่างๆต้องมีแผนสำรองเพื่อ
กระตุ้นยอด และผมว่าปัจจัยหลักคงไม่ใช่เรื่อง
การเพิ่ม Option เพราะต่อให้ Option ท่วมคัน
แต่ราคามันสูงโด่งจนเกินความน่าจะเป็นของรถรุ่นนั้นๆ
คนก็ไม่ซื้ออยู่ดี
ผมเลยคิดๆแล้ว จะลองดูสถาณการณ์ไปอีกสักพัก
เชื่อว่าค่ายรถต้องมีแผนมารับมือตรงนี้แน่ๆ ไม่งั้น
สมมุติรถ PPv(SUV) ราคาโดนไป 1.7 ล้านกว่า
ยอดขาดมันคงร่วงกราว ถึงตอนนั้นโปรลดแลกแจกแถม
ต้องมาแน่ๆ ผู้ผลิตอาจต้องยอมลดกำไรลงเพื่อให้มี
ยอดขาย ถึงตอนนั้น ราคาจะลงมาอยู่ในภาวะปกติ
ซึ่งอาจจะไม่ต่างจากปัจจุบันนี้สักเท่าไหร่น่ะครับ
จอง titanium+ไปวันที่2 งานBIGดูไปดูมาสงสัยไม่ทันปีนี้แน่ แต่ได้บัตรเติมน้ำมันมา 3000 แล้วไม่ได้ก็ทำใจครับ :) เดี๋ยวราคาใหม่ออก แล้วดูออฟชั่นที่เพิ่มมาค่อยตัดสินใจว่าจะเอาหรือไม่เอาอีกทีถ้าได้รถปีนี้นี่น่าจะดวงดีมาก ๆ
คุยกับเซลให้หาใบจองให้เลยครับ
เซลที่ผมเจอในงาน BMS บอกถ้าจะเอาจริงๆ
ให้ทันปีนี้เค้าหาใบจองให้ได้แต่บวกราคาเพิ่ม
เช่นจองไว้ 10,000 แต่จะขาย 30,000-50,000ครับ
ถ้าผมเอาเค้าหาให้ได้เลยรับรถทันปีนี้แน่นอน
(แต่ผมจำชื่อเซลไม่ได้ แต่เดาว่าเซลน่าจะหาให้ได้ไม่ยากครับ)
-
ไม่เกี่ยวอะไรกับการจองรถนะครับ
ถ้าภาษีมีการปรับขึ้นจริงๆๆ ใครรับรถปีหน้า ก็เตรียมตัวรับมือเรื่องราคารถที่จะมีการปรับไปด้วยครับ
-
การรับรถปีหน้าจริงๆไม่เกี่ยวกับภาษีหรอกครับ
เพราะภาษีมันเกิดหน้าโรงงาน ตอนที่โรงงานขายมาทางเซลล์ (ก่อนขายมาดีลเลอร์โชว์รูมด้วยซ้ำ)
การที่จะได้รถราคาภาษีใหม่มันขึ้นกับสต็อครถปีภาษีนี้ว่าเหลือพอขายปีหน้าแค่ไหน
เช่นรถรุ่นขายดี(มาก) มียอดจองหมื่นคัน(สมมติ) แต่โรงงานผลิตให้ทันขายในปีนี้ได้ 9900 คัน ที่เหลือ 100 คันอาจจะได้ราคาใหม่ (ที่แพงขึ้น) เพราะผลิตไม่ทันปีนี้
ผมคิดว่าบริษัทรถน่าจะใช้วิธีตัดยอด อย่างเช่นรถจองหลังพฤศจิกายนเป็นต้นไป ได้ราคาใหม่ที่แพงขึ้น (สำหรับรถที่ขายดีจริงๆ ยอดจองเกินกำลังผลิต...จะมีซักกี่รุ่น ในภาวะตลาดแบบนี้ 555)
เท่าที่รู้ตอนนี้บริษัทรถเก็บสต็อคกันบานตะเกียงจากภาวะตลาดหดตัว ภาษีใหม่คงไม่มีผลมากนักครับ