Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ซิ่งเข้าส้วม ที่ กันยายน 11, 2015, 23:23:11
-
เพิ่งเห็นโฆษณา+เพิ่มเติมน้ำมันไปเลยยังไม่ได้ลอง
-
เพิ่งเติมมาตะกี้ เต็มถัง แล้วก็วิ่งไป 80 km Motorway
รู้สึกว่า (หรืออาจจะคิดไปเองเพราะปักธงไว้ในใจว่านี่ E20S) แตะคันเร่งเท่าเดิม มันมีแรงบิด มากกว่าเดิม รถพุ่งดีขึ้นตอนช่วงลอยตัว มากกว่า E20 Euro 5 สูตรเก่า แต่ก็ยังไม่พุ่งเท่า E20 ออกเทน98 ของ PTT รายนั้นพุ่งเหมือน Sohol 95 shell แต่ Sohol 95 PTT นี่ไม่ค่อยพุ่งเท่าไหร่
โดยรวมรู้สึกคุ้มค่าดี เพราะถ้าขับในเมืองรถติดเติม95 ไปก็เผาทิ้งไปเปล่าๆ ได้ 7-9 km/l พอๆกัน ดังนั้นส่วนตัวผมคิดว่าเติม E20 น่าจะคุ้มค่ากว่า ระยะทาง/บาท ถูกลง ยิ่งถ้าเติม บางจาก self service ลดอีก 30 สตางค์/ลิตร + บัตร serenade ลดอีก 50 สตางค์/ลิตร เบ็ดเสร็จลด 80 สตางค์/ลิตร คุ้มเว่อร์
-
เติมแต่ esso เคยเติม บางจากแล้วช่วงออกตัวอืดๆไม่ค่อยพุ่ง
-
เอาจริงๆ ผมคิดว่าความรู้สึกไวนะ ไปขับรถใคร เครื่อง ช่วงล่างมีปัญหา รู้สึกผิดปกติ บอกให้เชค มีปัญหาทุกคัน ไม่เคยพลาด
แต่ขับรถน้ำมันทุกชนิด ไม่เคยรู้สึกต่างกันในเรื่องความแรงยกเว้นโซฮอล91 นี่ชัดเจน แต่สิ้นเปลืองรู้สึกได้ ทุกวันนี้เลยเติมบางจาก e20 เพราะเก็บแต้มอย่างเดียว
ส่วนเซลล์รถผมมี ออโต้สตาร์ท เครื่องมันติดมาระหว่างเติมน้ำมัน เด็กปั้มเดินมาด่า แบบไม่ฟังเหตุผลเลยว่ามันติดเอง เลยเลิกเติม
-
ถ้าE20 ผมเติมแต่เจ้านี้นะ หอยบ้างบางครั้ง
-
ช่วงนี้ผมเติม E20 ของ Esso เท่านั้นคับ แรงไม่แรงไม่สน แต่ได้น้ำขวดใหญ่ 2 ขวด คุ้มละ ^_^
-
เพิ่งเติมมาตะกี้ เต็มถัง แล้วก็วิ่งไป 80 km Motorway
รู้สึกว่า (หรืออาจจะคิดไปเองเพราะปักธงไว้ในใจว่านี่ E20S) แตะคันเร่งเท่าเดิม มันมีแรงบิด มากกว่าเดิม รถพุ่งดีขึ้นตอนช่วงลอยตัว มากกว่า E20 Euro 5 สูตรเก่า แต่ก็ยังไม่พุ่งเท่า E20 ออกเทน98 ของ PTT รายนั้นพุ่งเหมือน Sohol 95 shell แต่ Sohol 95 PTT นี่ไม่ค่อยพุ่งเท่าไหร่
โดยรวมรู้สึกคุ้มค่าดี เพราะถ้าขับในเมืองรถติดเติม95 ไปก็เผาทิ้งไปเปล่าๆ ได้ 7-9 km/l พอๆกัน ดังนั้นส่วนตัวผมคิดว่าเติม E20 น่าจะคุ้มค่ากว่า ระยะทาง/บาท ถูกลง ยิ่งถ้าเติม บางจาก self service ลดอีก 30 สตางค์/ลิตร + บัตร serenade ลดอีก 50 สตางค์/ลิตร เบ็ดเสร็จลด 80 สตางค์/ลิตร คุ้มเว่อร์
เท่าที่ผมทดสอบมาใช้ OBD reader ปตท. ห่วยอย่างมีนัยสำคัญเลยนะครับ กินน้ำมันมากกว่าเจ้าอื่นประมาณ 10% เพราะเหยียบไม่ไป
ปัจจุบันเติม Esso ให้ผลลัพธ์ดีที่สุดครับ ถ้าบางจากสู้ปตท. ไม่ได้ก็น่าจะแย่เกือบสุดในตลาดเลยครับ
-
ค่อนข้างใช้บ่อย ผมไม่ค่อยเห็นความต่างของน้ำมันแต่ละค่ายเลยครับ
เลยไม่รู้ว่า ที่ต่างมันต่างที่ความรู้สึกหรือต่างที่มาตรฐานของแต่ละค่าย (ค่าต่างกันเท่าไหร่?)
ผมเติมประจำ เติมแต่ E20
-
ตอบอย่างตรงไปตรงมา
ถ้าคุณรู้สึกเร็วขึ้น = การสื่อสารการตลาด/ โฆษณา ได้ผลแล้วกับคุณ
ถ้าคุณรู้สึกเฉยๆ ไม่ต่าง = การตลาด/ การสื่อสาร ไม่มีผลกับคนแบบคุณ คุณอาจเชื่อใครยาก
เรื่องจริงครับ
ผมทำวิทยานิพนธ์ เรื่องการรับรู้จากสื่อ against ควาจริง
โดยเอาน้ำ เปล่าๆที่กรองที่บ้านมาใส่ขวด มิเนเร่
และใส่แก้วธรรมดา บ้านๆ
ให้ผู้ทดสอบ ดื่มทั้งสองแก้ว แล้วถามว่าต่างกันมั้ย
คำตอบคือ 10 ต่อ 10 บอก มิเนเร่ดีกว่า ทั้งที่น้ำทั้งสอง มาจากแหล่งเดียวกันคือน้ำกรองบ้าน
แค่แยกบรรจุภัณฑ์เท่านั้นเอง
เห็นมั้ยครับ แค่เปลี่ยนการสื่อสาร ทุกอย่างเปลี่ยน
-
กดจับเวลา0-100ดูน่าจะตอบโจทย์ทุกอย่างนะครับ
-
ผมไม่รู้สึกนะครับ แต่ผมว่าเค้าขายราคาเดิม คงไม่ได้เพิ่มต้นทุนอะไรลงไปแน่ๆ
-
เดี๋ยวไปลองดูบ้างดีกว่าว่าเป็นไง
ถ้าห่วยสุดผมว่า E20 ของ Shell นะ รถที่บ้านทั้ง Jazz และ Camry เติมเสร็จ ออกตัวแตะคันเร่งรอบเดินเบาแล้วรอบเครื่องสวิงทั้งคู่เลย ไม่รู้ไปเจอน้ำมันผสมมาหรือป่าว พอดีเติมปั๊มเดียวกัน ผมเลยไม่เติม E20 ของ Shell อีกเลย
ถ้าที่คิดว่าดีที่สุดในความคิดของผมคือ E20 ของ Esso ครับ รู้สึกว่าประหยัดกับแรงกว่าเจ้าอื่นทั้งหมดแล้ว
แต่ทั้งหมดทั้งปวงของ E20 เมื่อเทียบกับ 91 แล้ว E20 เร่งได้ดีกว่ามากมายครับ
-
เอาจริงๆ ผมคิดว่าความรู้สึกไวนะ ไปขับรถใคร เครื่อง ช่วงล่างมีปัญหา รู้สึกผิดปกติ บอกให้เชค มีปัญหาทุกคัน ไม่เคยพลาด
แต่ขับรถน้ำมันทุกชนิด ไม่เคยรู้สึกต่างกันในเรื่องความแรงยกเว้นโซฮอล91 นี่ชัดเจน แต่สิ้นเปลืองรู้สึกได้ ทุกวันนี้เลยเติมบางจาก e20 เพราะเก็บแต้มอย่างเดียว
ส่วนเซลล์รถผมมี ออโต้สตาร์ท เครื่องมันติดมาระหว่างเติมน้ำมัน เด็กปั้มเดินมาด่า แบบไม่ฟังเหตุผลเลยว่ามันติดเอง เลยเลิกเติม
ผมก็เป็นคนที่ไม่รู้สึกเรื่องน้ำมันเลย แบบว่าลองหลายครั้งก็ไม่กล้าตอบว่าอันไหนดี แต่ถ้าน้ำมันเครื่องอ่ะรู้สึกได้บ้าง
-
เท่าที่ผมขับรถมาหลายปี
น้ำมันที่ผมเห็นว่าแตกต่าง(รวมถึงราคา)ที่สุดก็คือ Shell V-Power แก๊สโซฮอล์ 95 ครับ
พุ่งดี และปลายไหลๆ
-
เดี๋ยวไปลองดูบ้างดีกว่าว่าเป็นไง
ถ้าห่วยสุดผมว่า E20 ของ Shell นะ รถที่บ้านทั้ง Jazz และ Camry เติมเสร็จ ออกตัวแตะคันเร่งรอบเดินเบาแล้วรอบเครื่องสวิงทั้งคู่เลย ไม่รู้ไปเจอน้ำมันผสมมาหรือป่าว พอดีเติมปั๊มเดียวกัน ผมเลยไม่เติม E20 ของ Shell อีกเลย
ถ้าที่คิดว่าดีที่สุดในความคิดของผมคือ E20 ของ Esso ครับ รู้สึกว่าประหยัดกับแรงกว่าเจ้าอื่นทั้งหมดแล้ว
แต่ทั้งหมดทั้งปวงของ E20 เมื่อเทียบกับ 91 แล้ว E20 เร่งได้ดีกว่ามากมายครับ
มีอาการเช่นเดียวกันเลยครับ รอบเดินเบาแล้วรอบเครื่องสวิง
-
ESSO E20 ประหยัดสุดครับ
แรงสุดไม่รู้ รถผมไม่แรงเท่าไหร่ แต่ที่แน่ๆ รถติดๆ ในเมือง มี ESSO ตัวเดียวที่ได้เกินถังละ 400 โล
ใกล้เคียงหน่อยก็ Caltex แต่ไม่แถมน้ำ ESSO 900 ได้สองขวด จัดไป
บางจากสูตรใหม่สูตรเก่าผมไม่รู้สึกเลย ปตท. เหยียบพุ่งกว่า เชลล์อืดกว่า ปตท. เปลืองพอๆ กัน
-
ตั้งใจมาตอบกระทู้นี้เลยครับ
ปกติผมเติม esso e20 ประจำ เพราะเป็นปั๊มที่ใกล้บ้านผมมากทีสุด
ผมเคยเติมเชล โซฮอล95 ไนโตรพลัสมาบ้างแล้ว แต่ไม่เคยเห็นผลเลยครับ
อาจมีบ้างเรื่องที่รถวิ่งได้เพิ่มขึ้นอีก 20-30 โล แต่ก็เทียบยาก
หลังจากอ่านกระทู้นี้แล้ว ผมเพิ่งได้มีโอกาสแวะปั๊มบางจากเพื่อเติม e20s
ผลที่ได้จากความรู้สึกคือ รถมีแรงบิดเพิ่มขึ้นครับ แต่ปลายรถผมคงหายากอยู่
เครื่อง 2.4 16x แรงม้า นน รถ 1.65ตัน รู้สึกติดเท้าขึ้นมาทันที
ที่เห็นชัดสุดคงเป็นตอนขึ้นภูมิพลครับ ผมขึ้นทุกเช้า มันจะมีจังหวะแรงดึงเพิ่มขึ้นอีกนิด
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ตามความเห็นบนๆท่านนึงว่าไว้ อาจจะเป็นที่ความเชื่อก็ได้ ถ้าไม่ได้ถูกวัดด้วยเครื่องมือ
แต่รถผมก็ขับในเส้นทางเดิมๆเกือบทุกวัน
ใครยังไม่เคยลองก็ลองครับ เอามาแชร์กันนะครับ
***มาอัพเดทให้ครับ***
ระยะทางที่วิ่งได้
จากเฉลี่ย 330กม/ถัง ในเมือง
ช่วง 2 ถังที่เติมมานี่ มีตัวเลข 360กม และ 370กม
ส่วนทางไกล กำลังจะลองให้ครับ