Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: SM. ที่ กันยายน 14, 2015, 12:40:52
-
กำลังนั่งคิดๆอยู่ครับว่า รถที่ยอดขายน้อยๆ ที่ไม่ใช่พวกแบรนด์พรีเมี่ยม หรือพวกรถนำเข้า ต้องขายน้อยขนาดไหน บริษัทรถยนต์ถึงตัดสินใจเลิกทำ
Teana ยอดขายน้อย ไม่ทราบว่าคุ้มหรือเปล่าที่ทำต่อมาเรื่อยๆแบบนี้
พวกเจ้าเล็กๆแบบ Suzuki บางโมเดลก็ยอดขายน้อยเหลือเกิน
Kia Volvo ที่ยอดขายทั้งเดือนไม่กี่ร้อยคัน ถ้าแตกมาเป็นรายโมเดล จะเหลือขนาดไหน
ฮุนได ก็เหมือนจะไม่เอา Sonata มาแล้ว
-
ก็ต้องดูว่าเป้าได้ตามที่ตั้งไว้หรือเปล่า หรือคุ้มต้นทุนที่ลงทุนไปหรือเปล่า
แต่บางรุ่นเท่าทุนหรือ ขาดทุน แต่ก็ต้องพยายามให้มีอยู่ในตลาดไว้ เพราะเป็น model หลักที่มีประวัติยาวนาน ก็ต้องรักษา share ไว้ แม้จะน้อยมากก็ตาม
แต่ถ้าเป็น model ใหม่ที่เพิ่งสร้างก็ตัดไปได้เลย
-
โมเดลไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ เกียร์ธรรมดาน่าเป็นห่วงกว่า เวลาออกโมเดลใหม่ๆเริ่มไม่มีเกียร์ธรรมดาให้เห็นแล้ว ยิ่งโมเดลที่มีเกียร์ธรรมดาอย่างฮอนด้าต้องวางเงินจองถึง 20000 อีกนิดนึงก็เท่าจองเบนซ์แล้ว
-
ขายน้อยจนไม่คุ้มด้วยประการทั้งปวงเขาก็เลิกขายครับ
ซึ่งเงื่อนไข องค์ประกอบด้านต่างๆ ก็ขึ้นอยู่กับบริษัทละ่ครับ อย่าคิดมาก 555
-
วัดกันทั้งภูมิภาคที่ทำตลาดครับ
คุ้มกับการประกอบจากโรงงานแค่ไหน
ถึงจะขายบ้านเราได้น้อย แต่ประเทศใกล้เคียงขายได้เยอะ ก็เปิดไลน์ต่อไป
-
อันนี้ตอบยากครับ เพราะเป้าหมาย แต่ละ ค่ายรถไม่เท่ากัน
บางค่าย บ้านเราขายน้อย แต่ ส่งออก เราก็ไม่รู้ได้
และต้องแยกด้วยครับ ว่า เป็น Mass Prodution ที่บ้านเราไหม
อย่างที่ จขกท ยกมาก็เป็นรถนำเข้าเยอะ
บางคันเป็น CKD คือ นำเข้า ชิ้นส่วน เกือบ 100 % รวมถึงพ่นสีเสร้จแล้ว เอามาประกอบเฉยๆ
ประเภท นี้ ยอดไม่ต้องเยอะก็ได้ครับ แต่ราคารถและกำไรจะสูง
รถที่ น่าเป็นห่วงคือ รถ Mass Prodution ที่ ลงทุนผลิตเต็มรูปแบบ ในบ้านเรา
ประเด็นคือ ขายน้อยไม่ว่า แต่ มันขายได้ เรื่อยๆไหม
ถ้ายัง ขายได้เรื่อย สักเดือนละ 50 -60 คันมันก็ยังพอถูๆไถๆไปได้อยู่
ยกตัวอย่าง BMW BENZ นี่ หลายคันคือ CKD ยอดไม่เยอะ น้อยมาก แต่กำไรกระจุย กระจาย แถมขายได้เรื่อยๆ เฉยเลย
TATA บางคนอาจลืมไปว่ามันเป็น MASS PRO เหมือนจะขายไม่ได้ แต่ก็ยังไปเรื่อยๆ
CAPTIVA อันนี้ก็ MASS ลากมากี่ปีแล้ว แต่ก็ยังขายได้ คุ้มค่า tool mass ไปแล้ว
สำหรับผม มองว่า ขึ้นอยู่กับแผนธุรกิจมากกว่า
ว่า OEM มีแผน ยังไงกับรถรุ่นต่ไป
เช่น มีการเปลี่ยน โมเดล ตัวเก่าก็เลิกผลิต
แต่หากยังไม่มีแผนเปลี่ยนโมเดล ก็อาจจะลากไปเรื่อยๆ ได้ เช่น Lancer แซยิด กำลังจะลาก EX รึเปล่าไม่แน่ใจ แล้วก็ captiva แต่อันนี้ ขายได้เรื่อยๆเฉยเลย
การที่มีการปิดโมเดล รถรุ่นนั้น แล้วไม่มี รุ่นต่อไป มันคือ การล่มสลายของ OEM ซึ่ง จะไม่มีทางให้เกิดขึ้นได้
ธุรกิจ รถยนต์ ก็คือ ธุรกิจอีกประเภท ซึงไม่มีทางหยุดได้ครับ
-
หลายปัจจัยตามที่คุณmamamanบอกมา
เพิ่มเติมให้อีกหน่อยเรื่องสต็อคอะไหล่ก็สำคัญ รถรุ่นไหนแชร์อะไหล่กับรุ่นอื่นๆได้เยอะก็อาจจะลากขายต่อไปแบบไม่ทำโฆษณา อย่างเช่น SLKเป็นต้น ยอดขายไม่ได้เยอะแต่อะไหล่ส่วนใหญ่แชร์กับรุ่นอื่นๆได้และตลาดของรถสปอร์ตก็ยังพอมีอยู่บ้างก็ขายกันต่อไป
-
แต่ละบริษัทไม่เท่ากันครับ อย่างบริษัทใหญ่ ๆ ยอดขายบางเดือนไม่กี่ร้อย คันก็ถอดออกแล้วไม่คุ้ม แต่กลับกันถ้าเป็นบริษัทเล็กบางบริษัทยอดขายเดือนละไม่กี่ร้อยคันนี่ดีใจแทบน้ำตาไหลแล้ว
-
ยากที่จะบอกได้ครับ ยกตัวอย่าง Chevrolet
Sonic ขายได้เดือนละ 300-400 คัน ก็ยกเลิกการผลิตไป
แต่กับ Cruze ที่ขายได้เดือนละไม่ถึง 50 คัน แต่ยังอยู่ต่อ
-
ยากที่จะบอกได้ครับ ยกตัวอย่าง Chevrolet
Sonic ขายได้เดือนละ 300-400 คัน ก็ยกเลิกการผลิตไป
แต่กับ Cruze ที่ขายได้เดือนละไม่ถึง 50 คัน แต่ยังอยู่ต่อ
อย่างที่ผมบอกครับ รถยนต์มันต้องไปต่อ หยุดไม่ได้ ถ้าหยุดแปลว่า ล่มสลาย เจ๊ง..ไม่คุ้มทุน
แล้วรถที่อยู่ดีๆ ขายได้เดือนละ 300 คัน ก็ยกเลิกการผลิตไป ผมคงไม่ต้องอธิบายเหตุผลนะครับ อิอิ....
-
ยากที่จะบอกได้ครับ ยกตัวอย่าง Chevrolet
Sonic ขายได้เดือนละ 300-400 คัน ก็ยกเลิกการผลิตไป
แต่กับ Cruze ที่ขายได้เดือนละไม่ถึง 50 คัน แต่ยังอยู่ต่อ
อย่างที่ผมบอกครับ รถยนต์มันต้องไปต่อ หยุดไม่ได้ ถ้าหยุดแปลว่า ล่มสลาย เจ๊ง..ไม่คุ้มทุน
แล้วรถที่อยู่ดีๆ ขายได้เดือนละ 300 คัน ก็ยกเลิกการผลิตไป ผมคงไม่ต้องอธิบายเหตุผลนะครับ อิอิ....
Cruze มันเก๋งที่ขายดี ติดหนึ่งใน10ของโลกนะครับ
ถึงต้องบอกว่าคุ่มกับไลน์ผลิต ถึงทำต่อ บ้านเราอาจขายได้50 แต่ ภูมิภาคที่ส่งยังต้องการอยู่ รวมๆแล้วคงได้หลายคัน
sonic ตลาดส่งออกอาจไม่ต้องการถึงบ้านเราขายได้ถึง300 ก็คุ้มจะเดินต่อไป