Headlight Magazine : community
General => User's Voice => ข้อความที่เริ่มโดย: Overstreer ที่ กันยายน 23, 2015, 10:38:18
-
สวัสดีครับ เพื่อนๆ พ่อแม่พี่น้อง เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาได้ทำการ ออกรถใหม่ Toyota new yaris 1.2 แต่ต้องบอกก่อนว่าผมเป็นคนชอบแต่งรถมาก ออกมาได้ไม่กีวัน ก็ได้ไปทำการเปลี่ยนล้อ และแน่นอนหลังจากเปลี่ยนล้อแล้ว สิ่งที่ตามมาก็คือ "การโหลดเตี้ย" วันนี้เลยจะมาทำการ รีวิว จากการลองผิดลองถูกของผม มา 3 วิธีด้วยกัน
วิธีที่ 1.การโหลด โดยการใช้ สปริงโหลดราคา 4900 บาท
ใช้เวลาทำประมาน 1-2 ชั่วโมง รวมตั้งศูนย์ด้วยแต่หลังจากที่ทำการ ติดตั้งเสร็จ ก็ได้นำไปทดลองขับ อาการที่ให้ ไม่ต่างจากของเดิมมากนัก ยังถือว่าไม่กระด้างมากเกินไปแต่โดยส่วนตัวผม เป็นคนชอบขับรถเร็ว สาดโค้งแรงๆ แต่อาการของรถในโค้งบางโค้งยังมีอาการ "Understreer" ซึ่งหลายคนอาจะมองว่า เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว รถขับเคลื่อนล้อหน้า ก็ต้องมีเจออาการกันบ้าง แต่จุดประสงค์ของการแต่งรถของผมนั้น อยากจะให้อาการ ลดน้อยลงไป หรือ ประสิทธิภาพของช่วงล่างรถยนต์ จึงทำให้ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นักแต่แลกหับความสวยของรถก็พอรับได้
วิธีที่ 2.การโหลดโดยการ นำโช้คเดิมไปทำสตรัทปรับเกลียว ราคา 7900 บาท
ใช้เวลาทำประมาน 4-5 ชั่วโมง หลายคนอาจจะบอกว่าวิธีนี้ เป็นวิธีที่สิ้นคิด แต่ด้วยความที่ ราคา และความอยากรู้อยากเห็นของผมจึงนำพาให้ผมนั้นเอารถไปทำ หลังจากทำการติดตั้ง ปรับ เซ็ท เสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้นำรถออกไปทดลองขับนั้น ขับทางตรงรู้สึกว่าช่วงล่างของรถ หนึบขึ้นกว่าเดิม แต่ไม่มากมายนัก ถ้าเทียบเป็น เปอร์เซ็นต์ ก็น่าจะได้ สัก 30 เปอร์เซ็นต์ "แต่" อย่าลืมว่าผมเป็นคนที่เห็นทางโค้งไม่ได้ เพราะถ้าเห็นแล้ว จะต้องเข้าไปเล่นทันที หลังจากนั้นก็ลองเข้าโค้งแรงๆสักหน่อย เห็นเค้าบอกมาว่า รับประกันความหนึบ หลังจากลองเข้าโค้งแรงเร็วๆ ปรากฎว่า OMG...อาการ Understreer นั้นมีมากกว่า โช้คเดิมอีก ถึงแม้ทางตรงจะหนึบขึ้น อย่างไรก็ตาม ทางโค้งยังแย่กว่าที่คิดเอาไว้ ไม่พอใจอีกเช่นเคยย
วิธีที่ 3. การโหลดโดยการเปลี่ยน สตรัทปรับเกลียวยกชุด
บางคนอาจจะบอกว่า "ไม่ลองเปลี่ยนยางดูเหรอ อาการ Understreer ก็ขึ้นอยู่กับยางเหมือนกันนะ" ตอนที่ทดลองโหลดดูนั้น ผมได้เปลี่ยนยาง เป็น KU31 ไปแล้ว แต่ละวิธีนั้นเห็น ความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด ต่อให้เป็นยางดีแค่ไหน ยังไงก็เจออาการ นี้อยู่ดี ปัจจุบัน ได้เปลี่ยนไปใช้ สตรัททั้งชุด ปรับ ความแข็ง-อ่อน ได้ตามใจชอบ หลังจากทดลองอีกครั้ง เจออาการ นั้นน้อยลง แต่ต้องแรกกับความกระด้างของชุดสตรัท ถ้าถามว่า ทำไมถึงสนใจมันนักหนา กับอาการของรถที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้เจอ จะทำให้รถสวยๆ มีราคาถูกๆให้ทำกันก็ดีอยู่แล้ว......แต่อย่าลืมไปนะครับ ช่วงเวลาที่อยู่บนท้องถนนนั้น อะไรจะเกิดเราไม่ทราบได้ พวก อาการ Under หรือ Over ก็แล้วแต่ ถ้าเกิดขึ้นมา หากรถไม่พร้อม หรือ คนไม่พร้อม อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้เช่นกัน แต่ทั้งหมดนี้ ก็อาจจะเป็น การขับของผมเองก็ได้ บางคนใส่สปริงโหลด แต่ไม่เจออาการ หรือ บางคนเจอ ก็แล้วแต่คนครับ ไม่ได้สนับสนุนให้ขับรถเร็ว หรือให้ใช้ของแพงๆ แต่ถ้าเกิดเหตุการ บนท้องถนน ก็คุ้มที่จะจ่ายนะครับ....
-
ถือว่าขอแชร์แล้วกันนะครับ
จากที่ทำมาหลายอย่างเหมือนกัน การใส่สตรัสก็จะ feel แบบคุณ Overstreer ว่าครับ เพียงแต่บางครั้งถ้าอยากเซ็ตช่วงล่างให้ได้แบบที่เราต้องการจริง ๆ การปรับความหนืดของสตรัสอาจจะไม่พอ บางทีต้องเพิ่มเติมด้วยการหาสปริงหลอดที่มีค่า K ที่เหมาะสมด้วย จะทำให้ performance ออกมาดีที่สุดครับ ซึ่งกว่าจะลงตัวก็อาจใช้เวลานาน หรือพอใจในจุดนี้ก็แล้วแต่
อย่างผมนอกจากใช้สตรัสแล้วก็ได้เปลี่ยนสปริงหลอดค่า K ต่าง ๆ กันลองเซ็ตรถดูครับ ซึ่งกว่าจะหาจุดที่พอเหมาะระหว่างความนุ่มนวล + performance และอาการที่ค่อนข้างเป็นกลางได้นี่ใช้เวลาพอควรครับ (การเซ็ตตอนนี้อาจจะไม่ดีที่สุด แต่ก็พอใจแล้ว)
ส่วนยางก็สำคัญมากนะครับ อย่าง KU31 ที่คุณ Overstreer ใช้ถือว่าอยู่ในระดับอย่างที่เน้นราคาอาจจะประหยัดสักหน่อย ถ้าโอกาสหน้าได้ลองยางที่ performance สูงกว่านี้ ก็จะเห็นผลต่างกันชัดเจนพอควรครับ
-
อ่านแล้วก็ น่ะครับ การปรับของคุณมันผิดนิดหน่อย ตั้งแต่แรกแล้ว
1. สปริงโหลด บอกได้ครับ ยี่ห้ออะไร รุ่นอะไร คนอื่นจะได้ทราบ เพราะพออ่านผมก็งงซิ คุณไปเอาสปริงที่ไหน ราคานี้มา
ที่ผมเคยใช้ก็มีตั้งแต่ Eibach ซึ่งมันจะเป็นแบบ Progresive คือขดมันจะไม่เท่ากัน ยุงแรกจะนิ่มๆ จนถึงจุดนึงมันจะแข้ง ราคาตอนนี้ เกือบหมื่น
H&R สปริง นี้จะว่ามันก็นำเขาแต่น่าจะมีหลาย รง. ออกแข็ง ไม่นิ่มเท่าไหร่ ราคา เกือบหมื่นเหมือนกัน
TEIN ขด เขียว S-Tech ของญี่ปุ่น มีสำหรับรถหลายรุ่น หน้าจะเตี้ยกว่าหลัง ต้องหาโช้คที่หนึบหน่อยจะเข้ากัน
TEIN ขดทอง H-Tech จะเตี้ยน้อยกว่า เขียว ค่า K ไม่แข็งเท่าด้วย ใส่กับโข้คเดิมพอได้ ราคาแพงกว่าเขียวนิดนึง
เท่าที่ใช้ก็ประมาณนี้ แต่ก่อนจะเปลี่ยนสปริง ผมจะเปลี่ยนล้อเปลี่ยนยางก่อนน่ะครับ หายางที่ดีทีสุดเท่าที่งบถึง ส่วนล้อ หาญี่ปุ่นมือสอง ก็ได้เยอะแยะ
พอได้ล้อ ค่อยมาเล่นที่โช้ค กับสปริง แต่ถ้างบจำกัด ผมจะเปลียนโช้คก่อน แล้วค่อยจับอาการ แล้วค่อยเลือกสปริงที่หนังครับ
-
Audi A4 b5 ผมใส สปริง H&R ลง 30 มม. คู่กับ โช๊ค Sachs Super Touring
ผมขับมาตั้งแต่เดือนมีนา จนบัดนี้ ผมว่า H&R มันออกแนวนุ่มๆนะครับ (นุ่มกว่าสปริงเดิมติดรถ)
เวลาเล่นโค้งตัว S ที่ความเร็ว 110+- ยังถือว่าเอาอยู่ โดยไม่ต้องแตะเบรกครับ แต่ตัวรถจะมีอาการโยนตัวปกติครับ
-
จากประสบการณ์ผมส่วนกันสะเทือน
spring โหลด พอได้ นานๆ ไปต้องหาโช้คคู่ใจ
โช้คเดิมทำสตรัท รั่วง่าย เป่าสปริง รถเต้น เหมือนเหนียวหนึบ แต่ใส่โค้งจบ หลุดกระจาย
สตรัท ถ้าอยากเตี้ย แล้วประสิทธิภาพดีขึ้น จัดเลยฮะ ดีตามงบ
ปัจจุบัน ชุด โช้ค สปริง ติดรถ ไม่ดีที่สุด แต่ขับสบาย ไม่ขูด นุ่มนวล
-
ขอบคุณมากครับ ตอนแรกผมคิดว่า ใส่ชื่อ ยี่ห้อไม่ได้ ตอนนี้ผมกำลังจะเปลี่ยนยาง เป็น Toyo T1r ครับ ถ้าได้ผลอย่างไรจะมาเล่าให้ฟังใหม่ครับ
-
ช่วงล่างนี่ผมก็เจ็บมาเยอะ สมัยขับ Jazz GE
ตั้งแต่..
โช๊คเดิม
V
V
สปริงโหลด Tein S Tech
V
V
H Tech
V
V
สตรัทปรับเกลียว ปรับสูงต่ำแข็งอ่อนได้ จำชื่อยี่ห้อไม่ได้ แต่ราคา ราวๆ 3 หมื่นมีทอนนิดหน่อย
V
V
ถุงลม 4 วาล์ว (ทำไปเกือบ 7 หมื่น)
V
V
กลับมา โช๊คเดิมอัดน้ำมัน ตัดปสริง
V
V
สุดท้าย กลับมาโช๊คเดิมๆ 555+
รวมเงินที่หมดกับช่วงล่างไป เกือบจะซื้อบิ๊กไบท์รุ่นถูกๆได้คันนึง ;D
สุดท้ายสูงสุดก็คืนสู่สามัญ ปัจจุบันก็เลยใช้แต่ของสามัญนี่แหละครับ เหนื่อยถาวร...
-
ส่วนของผม
สปริงเดิม > H-Tech(แข็งไป ดีดด้วย) > RS-R(นุ่ม หนึบ แต่ออกแข็งนิดๆ)
ไม่กล้าไปต่อ เห็นคนบอก สตรัทปรับเกลียว ปรับยังไงก็ยังแข็งอยู่ดี
ตอนนี้อยากจะกลับไปสปริงเดิมด้วยซ้ำ ถนนประเทศไทยทุกวันนี้ มันแย่จริงๆ ไม่เหมาะกับรถโหลดอย่างยิ่ง
#Mazda3 BL
-
ความรู้สึกเหมือนกันเลย ซึ่งชอบเป็นคนแต่งรถเหมือนกัน ชอบขับทางไกล ขับเร็วพอประมาณ ความต้องการเหมือนกันๆ กัน
เริ่มต้น
Civic FD(MC)
ป้ายแดง+ล้อเดิม+ยางเดิม+ช่วงล่างเดิม
ผลลัพธ์ = รู้สึกว่ากระด้าง แต่ชอบรถแนวนี้ ไม่ชอบนุ่มๆ ย้วยๆ เหมือนรถที่บ้านเป็น camry 2005
...
step 1. เปลี่ยนเป็น H-TECH ขดทอง โช้คเดิม = รู้สึกแน่นๆ กว่าเดิม หนึบกว่าเดิมรู้สึกได้ แต่ความกระด้างก็เพิ่มเข้ามาด้วย
...
step 2. ต่อมาเป็นโช้คเป็น Kayaba New SR ใส่กับโช้คตัว H-TECH ข้างบนนั้นละ + เปลี่ยนเป็นล้อ 18"(เดิม 16") + ยาง RE002 (หนึบพอตัว)
ผลลัพธ์ = อาการดีขึ้นกว่าแค่เปลี่ยนสปริงอย่างเดียว วิ่งเร็วๆ ลอยๆ ยาวๆ ไม่ค่อยแกว่งหรือโคลง เหมือนแต่ก่อน ความหนึบก็เพิ่มขึ้นกว่าโช้คเดิมชัดเจน โดยรวมชอบมาก
...
คนชอบแต่งเหมือนผม เราๆ ท่านๆ คงไม่พอแค่นั้นใช่ไหม
งั้นจัดให้
step 3. ทีนี้เปลี่ยนเป็นสตัท ปรับนุ่ม-หนึบ แถมเตี๊ยลงได้อีก ของ H-Drive
ผลลัพธ์ = ความรู้สึกยิ่งหนึบยิ่งเฟิร์ม ขึ้นไปอีก ไม่รู้คิดไปเองหรือป่าวนะ ผมขับรถขึ้นเขา ทางชัน ทางโค้งบ่อย เพราะเส้นทางคือเส้น หล่มสัก-ด่านซ้าย-ภูเรือ-อ.เมือง จ.เลย นึกว่าเขาอคินะเมืองไทย จะได้รีบไปส่งเต้าหู้ 555+ เพราะบ้านแฟนผมอยู่ อ.ภูเรือ จึงได้วิ่งเส้นนี้บ่อยๆ แต่ก็กระด้างๆ จริงจังเลยทีนี้ ขนาดว่าปรับไม่แข็งสุด(ประมาณ 24-30 กริ๊ก ของการปรับ) แถมเตี้ยแล้วขับยาก ต้องระมัดระวังมากขึ้นเป็นกองเลย
...
สุดท้าย(ปัจจุบัน)
กลับมาเป็นโช้คเดิม+ล้อเดิม เพราะย้ายมาอยู่คอนโด และก็ที่ทำงานใหม่ มีลูกระนาดเยอะ ทางขึ้นชัน รถมีชุดแต่งรอบคันด้วย เตี้ยมากๆ ขับลำบาก ครูดบ่อย แต่ในใจยังชอบ step 3. มากครับ
ถือว่าเป็นการแชร์ข้อมูละกันครับ
-
Thanks คุณDikiBoyz, NineKlao, JobBabys, และ OverSteer ที่แชร์ประสบการณ์และความเห็นที่เป็นประโยชน์นะครับ
::)
-
เป็นการแชร์ข้อมูลที่ดีมากเลยครับ