Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Champpz4 ที่ ตุลาคม 07, 2015, 14:53:15
-
สวัสดีครับ ขอสอบถามเรื่องผู้ค้ำประกันรถหน่อยครับ
เรื่องของเรื่องคือ มีญาติ จะให้ทางครอบครัวผมเป็นผู้ค้ำประกันรถให้ครับ เลยอยากจะสอบถามถึงตัวกฎหมายใหม่ที่เกี่ยวกับผู้ค้ำประกัน ซึ่งเท่าที่ผมลองอ่านๆดู มันจะเป็นในลักษณะ
"เจ้าหนี้ต้องไปเรียกร้องเอากับลูกหนี้โดยตรงให้เสร็จสิ้นก่อน
หากลูกหนี้ไม่สามารถใช้หนี้ได้จริงๆเพราะไม่มีหรือไม่พอจึงจะไปเรียกร้องเอากับคนค้ำประกัน"
นั่นหมายความว่า หากลูกหนี้ไม่สามารถจ่ายได้จริงๆ คนค้ำก็ยังต้องเป็นคนจ่ายอยู่ดี ผมเข้าใจถูกต้องหรือปล่าวครับ
ขอบคุณครับ
-
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 680 อันว่าค้ำประกันนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลภายนอกคนหนึ่ง เรียกว่า ผู้ค้ำประกัน ผูกพันตนต่อเจ้าหนี้คนหนึ่ง เพื่อชำระหนี้ในเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้นั้น
อนึ่ง สัญญาค้ำประกันนั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ค้ำประกันเป็นสำคัญ ท่านว่าจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่
มาตรา 686 ลูกหนี้ผิดนัดลงเมื่อใด ท่านว่าเจ้าหนี้ชอบที่จะเรียกให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ได้แต่นั้น
มาตรา 688 เมื่อเจ้าหนี้ทวงให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ ผู้ค้ำประกันจะขอให้เรียกลูกหนี้ชำระก่อนก็ได้ เว้นแต่ลูกหนี้จะถูกศาลพิพากษาให้เป็นคนล้มละลายเสียแล้ว หรือไม่ปรากฏว่าลูกหนี้ไปอยู่แห่งใดในพระราชอาณาเขต
มาตรา 689 ถึงแม้จะได้เรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้ดั่งกล่าวมาในมาตราก่อนนั้นแล้วก็ตาม ถ้าผู้ค้ำประกันพิสูจน์ได้ว่าลูกหนี้นั้นมีทางที่จะชำระหนี้ได้ และการที่จะบังคับให้ลูกหนี้ชำระหนี้นั้นจะไม่เป็นการยากไซร้ ท่านว่าเจ้าหนี้จะต้องบังคับการชำระหนี้รายนั้นเอาจากทรัพย์สินของลูกหนี้ก่อน
***ผมเคยไปค้ำประกันให้ลูกน้องซื้อรถครับ เมียรู้เข้า ถูกด่าเป็นมหากาฟเลยครับ***
ตามกฎหมายแล้ว หากผู้ซื้อไม่สามารถชำระหนี้ได้ ทางเจ้าหนี้ก็จะสามารถฟ้องเอาหนี้นั้นกับผู้ค้ำประกันได้ หากมีเอกสารสัญญาไว้ชัดเจนแล้ว
เราอาจจะเป็นผู้ค้ำประกันได้ครับ หากว่าเรามั่นใจเต็มล้านเปอร์เซ็นต์ว่าเค้ามีความสามารถในการชำระหนี้ได้ แต่หากไม่มั่นใจก็อย่างเสียงครับ
เพราะถ้าเราถูกฟ้องแล้ว มันก็จะยุ่งยากมาก ๆ ๆ แล้วอาจจะต้องเสียเงินแทนเค้าด้วย
-
กฎหมายใหม่ไม่รู้ๆแค่ "ผู้ค้ำประกันก็เสมือนเป็นลูกหนี้ร่วม" เวลาฟ้องเจ้าหนี้ฟ้องก็ฟ้องเราด้วย
ปล.ห้ามไปค้ำประกันให้ใครโดยเด็ดขาด ที่บ้านเคยมีประสบการณ์ไปค้ำ o/d ให้พี่น้องแล้วเค้าไม่สามารถชำระได้โดนธนาคารฟ้องให้ชำระทั้งต้นรวมดอกหลายล้าน
-
ที่ต้องมีคนค้ำเพราะเขาจะมาให้รับผิดชอบกรณีเรียกเก็บลูกหนี้ไม่ได้
จากที่เคยพบเจอคนรอบข้าง คนค้ำมักมีความน่าเชื่อถือและศักยภาพมากกกว่าคนกู้ (เท่าที่พบ)
พอเรียกเก็บลูกหนี้หรือคนกู้ไม่ได้ เขาก็มาตามกับคนค้ำนั้่ล่ะครับ
ถ้าไม่ได้จำเป็น รักกันจริงๆ อย่าเลย
พี่ที่ทำงานค้ำเพื่อนกู้ซื้อรถ เพราะคิดว่าถ้าคนกู้มันผ่อนไม่ไหว อย่างมากกก็เอารถเขามาช่วยผ่อนต่อ และใช้ๆ ไป...
แต่ความจริงคือ ไอ้คนกู้มันเอารถไปกู้+จำนองฯลฯ จนสุดท้ายแอบเอาไปขายเข้าตลาดมืด รถไม่มี เหลือแต่หนี้ ที่คนกู้ก็ไร้ปัญหาจ่ายครับ คนค้ำเจอเต็มๆ ตอนนี้โดนฟ้องอยู่ครับ
-
ขอบคุณพี่ๆทุกๆท่านมากครับ
-
รถใหม่ถ้าดาวน์ 25% ขึ้นไป ไม่ต้องมีคนค้ำนะครับ
ส่วนที่ต้องมีคนค้ำ ส่วนนึงมาจาก ไฟแนนซ์มองว่า กำลังผ่อนของผู้เช่าซื้อไม่เพียงพอ หรือดาวน์น้อย
ถ้าผู้เช่าซื้อ ผ่อนตรงก็ไม่มีปัญหานะครับ
ปัญหาจะเกิดอีตอนผู้เช่าซื้อไม่ผ่อน ค้างชำระ จนไฟแนนซ์ยกเลิกสัญญาและเรียกหนี้ที่เหลือคืน ซึ่งผู้คำ้ประกันโดนแน่ๆครับ
ยิ่งผู้เช่าซื้อหายตัวไปพร้อมรถยนต์แล้วละก็ กรรมตกกับผู้ค้ำประกันครับ
-
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 680 อันว่าค้ำประกันนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลภายนอกคนหนึ่ง เรียกว่า ผู้ค้ำประกัน ผูกพันตนต่อเจ้าหนี้คนหนึ่ง เพื่อชำระหนี้ในเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้นั้น
อนึ่ง สัญญาค้ำประกันนั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ค้ำประกันเป็นสำคัญ ท่านว่าจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่
มาตรา 686 ลูกหนี้ผิดนัดลงเมื่อใด ท่านว่าเจ้าหนี้ชอบที่จะเรียกให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ได้แต่นั้น
มาตรา 688 เมื่อเจ้าหนี้ทวงให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ ผู้ค้ำประกันจะขอให้เรียกลูกหนี้ชำระก่อนก็ได้ เว้นแต่ลูกหนี้จะถูกศาลพิพากษาให้เป็นคนล้มละลายเสียแล้ว หรือไม่ปรากฏว่าลูกหนี้ไปอยู่แห่งใดในพระราชอาณาเขต
มาตรา 689 ถึงแม้จะได้เรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้ดั่งกล่าวมาในมาตราก่อนนั้นแล้วก็ตาม ถ้าผู้ค้ำประกันพิสูจน์ได้ว่าลูกหนี้นั้นมีทางที่จะชำระหนี้ได้ และการที่จะบังคับให้ลูกหนี้ชำระหนี้นั้นจะไม่เป็นการยากไซร้ ท่านว่าเจ้าหนี้จะต้องบังคับการชำระหนี้รายนั้นเอาจากทรัพย์สินของลูกหนี้ก่อน
***ผมเคยไปค้ำประกันให้ลูกน้องซื้อรถครับ เมียรู้เข้า ถูกด่าเป็นมหากาฟเลยครับ***
ตามกฎหมายแล้ว หากผู้ซื้อไม่สามารถชำระหนี้ได้ ทางเจ้าหนี้ก็จะสามารถฟ้องเอาหนี้นั้นกับผู้ค้ำประกันได้ หากมีเอกสารสัญญาไว้ชัดเจนแล้ว
เราอาจจะเป็นผู้ค้ำประกันได้ครับ หากว่าเรามั่นใจเต็มล้านเปอร์เซ็นต์ว่าเค้ามีความสามารถในการชำระหนี้ได้ แต่หากไม่มั่นใจก็อย่างเสียงครับ
เพราะถ้าเราถูกฟ้องแล้ว มันก็จะยุ่งยากมาก ๆ ๆ แล้วอาจจะต้องเสียเงินแทนเค้าด้วย
อันนี้เป็น กม.เก่าครับ กม.ที่แก้ใหม่เนื้อหาก็ไกล้เคียงที่ จขกท.เข้าใจครับ
คือ เจ้าหนี้ต้องเรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้ก่อน จึงค่อยมีสิทธิเรียกเอากับผู้ค้ำฯได้ รวมถึงการห้ามทำสัญญาค้ำที่ระบุให้ผู้ค้ำรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม และอีกอย่างที่สำคัญคือการค้ำฯ ต้องระบุจำนวนเงินที่ผู้ค้ำจะต้องค้ำฯไม่ใช่ค้ำครอบจักวาลเหมือนเดิม
สรุป คือ คุ้มครองผู้ค้ำมากขึ้น แต่ก็อย่างว่าละครับชื่อมันก็บอกว่าค้ำประกัน ยังไงก็ต้องก็ต้องรับผิดหากลูกหนี้ผิดสัญญากับเจ้าหนี้
-
เป็นผมคงไม่เอาอนาคตครอบครัวตัวเองไปเสี่ยงค้ำประกันให้คนอื่นครับ...ตอนนี้เค้าอาจจะดี แค่ต่อไปอาจจะไม่เป็นแบบนี้ก็ได้
อย่างที่หลายๆ ท่านบอก...อย่าเสียงดีที่สุดครับ
-
ขอบคุณทุกคำแนะนำครับ :)
-
สวัสดีครับ ขอสอบถามเรื่องผู้ค้ำประกันรถหน่อยครับ
เรื่องของเรื่องคือ มีญาติ จะให้ทางครอบครัวผมเป็นผู้ค้ำประกันรถให้ครับ เลยอยากจะสอบถามถึงตัวกฎหมายใหม่ที่เกี่ยวกับผู้ค้ำประกัน ซึ่งเท่าที่ผมลองอ่านๆดู มันจะเป็นในลักษณะ
"เจ้าหนี้ต้องไปเรียกร้องเอากับลูกหนี้โดยตรงให้เสร็จสิ้นก่อน
หากลูกหนี้ไม่สามารถใช้หนี้ได้จริงๆเพราะไม่มีหรือไม่พอจึงจะไปเรียกร้องเอากับคนค้ำประกัน"
นั่นหมายความว่า หากลูกหนี้ไม่สามารถจ่ายได้จริงๆ คนค้ำก็ยังต้องเป็นคนจ่ายอยู่ดี ผมเข้าใจถูกต้องหรือปล่าวครับ
ขอบคุณครับ
เข้าใจถูกต้องแล้วครับ แต่กฎหมายใหม่จะให้ระบุจำนวนเงินที่ผู้ค้ำต้องรับผิดชอบไปเลย แต่ถ้าไม่จำเป็นอย่าไปค้ำดีกว่าครับ ของก็ไม่ได้ใช้ถ้ามีปัญหาต้องมาจ่ายเงินแทนให้ ไม่ควรทำอย่างยิ่งครับ