Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: yourturle ที่ ตุลาคม 25, 2015, 19:02:19
-
จากที่เช็คจากศูนย์ บอกให้ใช้ 10W-30
ลองดูร้านข้างนอก มี 5W-40
10W-40
15W-40
20W-50
แต่ไม่มี 10W-30 แล้วอย่างนี้จะเลือกยังไง ไม่เข้าใจตัวเลข ว่าต่างกันอย่างไร
ช่วยทีครับ
-
http://car.kapook.com/view72598.html
-
อธิบายกันยาว
อ่านลิ้งค์ข้างบนเลยครับ
แต่ถ้าสั้นๆ ง่ายๆ ดูตัวหลังเป็นหลัก
ถ้าเหมือนกันก็ใช้ได้ครับ
-
ง่ายๆ วิธีส่วนตัวผมคือ
ตัวเลขหน้าไม่มีผลอะไรสำหรับเมืองไทย เป็นเรื่องอุณหภูมิ
ดูตัวหลัง เลขยิ่งเยอะยิ่งหนืด รถจะหนืดขึ้นตาม อาจกินน้ำมันกว่า แต่เหมาะกับใช้งานหนัก และเครื่องที่เก่าหน่อย
ถ้ารถใหม่เป็นผมจะใช้เบอร์ตามที่ผู้ผลิตแนะนำไปก่อนครับ
-
30 ก็คงพอใช้ได้แต่บ้านเราเบอร์ 40 จะดีกว่าครับ บ้านเราร้อนครับ ลองดูตามรูปนี่ครับเอามาจากคู่มือ volvo ครับจะเห็นว่าเบอร์ 40 ได้ถึง 40 องศาเลยซึ่งบ้านเราผมว่าถึงอยู่แล้วเผลอๆร้อนๆเกินด้วยซ้ำครับ
ref: http://new.volvocars.com/ownersdocs/2003/2003_SV40/03sv40_09.htm
-
30 ก็คงพอใช้ได้แต่บ้านเราเบอร์ 40 จะดีกว่าครับ บ้านเราร้อนครับ ลองดูตามรูปนี่ครับเอามาจากคู่มือ volvo ครับจะเห็นว่าเบอร์ 40 ได้ถึง 40 องศาเลยซึ่งบ้านเราผมว่าถึงอยู่แล้วเผลอๆร้อนๆเกินด้วยซ้ำครับ
ref: http://new.volvocars.com/ownersdocs/2003/2003_SV40/03sv40_09.htm
30 , 40 คือ ความหนาของเนื้อฟิล์ม รถใหม่ เครื่องฟิต ฟิล์มบางๆ 30 ดีกว่า ...พอเริ่มเก่า ก็ 40 ตามมา 50 ตามมา
-
5-w30 ไหมครับ เยอะแยะเลยในท้องตลาด
-
เลขก่อนW เป็นอุณหภูมิครับ ตรงนี้ไม่น่าซีเรียสอะไรมากเพราะไม่ใช่เมืองหนาว
เลขหลังเป็นความหนืดครับ พวกรถแรงๆ หรือพวกขับโหดๆ หรือเครื่องเก่าหน่อยจะยิ่งใช้ความหนืดสูงๆครับ ประมาณนี้นะผมก็ไม่ได้เป๊ะมาก
ร้านไม่มี10W-30 แต่มี 10W-40 ก็ใช้แทนกันได้ครับ
-
เลขหน้า ถ้าเป็น เบอร์ 20W อุณหภูมิแค่ 0 องศาก็เริ่มเป็นไข
หน้าหนาวก็ต้องระวังนิดนึง เผื่อขับรถขึ้นไปเที่ยวยอดดอยบางปีอุณหภูมิก็ต่ำขนาดนั่นเหมือนกัน
แต่นานๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จะเจอสักทีนึง
เลขหลังคือค่าความหนืด ไม่มีอะไรบ่งบอกไว้เลยว่า มันจะคงความหนืดแบบนั้นไว้ได้สูงสุดที่อุณหภูมิเท่าไหร่ ที่รู้ๆคือถ้าอุณภูมิสูง ความหนืดจะลดลง มากน้อยก็แล้วแต่คุณภาพของน้ำมัน ผมเลยใช้หลักว่า
ถ้าใช้น้ำมัน เกรดธรรมดา หรือกึ่งสังเคราะห์ และไม่ได้เป็นรถใช้งานหนักหรือขับรถรุนแรง ก็ใช้เบอร์ตามที่ระบุในคู่มือ แต่ถ้าใช้งานหนัก ขับโหดๆ จะบวกไปอีก 10
แต่ถ้าเป็นน้ำมันเครื่องสังเคาระห์ 100 % จะใช้ตามที่ระบุในคู่มือเลย เพราะเข้าใจว่าน้ำมันเครื่องสังเคาระห์น่าจะรักษาค่าความหนืดได้ดีกว่าน้ำมันธรรมดา เมื่ออุณภูมิสูงขึ้น
-
สำหรับบ้านเรา ดูแต่ค่าตัวหลังก็พอ ถ้าไม่ได้จริงๆก็หาที่ใกล้เคียงที่สุด
เบอร์__W-30 น่าจะพอหาได้ในปัจจุบัน สมัยก่อนหายากสักหน่อย
ส่วนความหมาย ตามมาตรฐาน SAE ถ้าเป็นน้ำมันเกรดเดี่ยว เช่น SAE20,SAE30,SAE40,SAE50,SAE60
เป็นการวัดค่าความหนืดของน้ำมัน ณ ที่อุณหภูมิ 100 องศาC
ก็จะกำหนดค่าที่วัดได้ว่าถ้าอยู่ในค่าช่วงหนึ่ง กำหนดเป็น SAE20 อยู่ในอีกช่วงกำหนดเป็น SAE30 เช่นเดียวกันแบบนี้ไปเรื่อยๆ
ค่าSAEเลขน้อยๆ จะมีค่าความหนืดน้อยกว่าค่าสูง
ส่วนน้ำมันเครื่องเกรดรวม ที่มี W เข้ามาด้วย
W หมายถึง Winter grade เช่น 0W , 5W, 10W, 15W, 20W, 25W
เป็นการทดสอบนำน้ำมันนั้นมาทำให้เย็นลง (ไม่ได้ระบูว่าอุณหภูมิเท่าไร) แล้ววัดคุณสมบัติความหนืดในขณะเมื่อเย็นนั้น
ได้ค่าความหนืดตรงกับค่า SAE 0 ก็เรียกว่า 0W , ตรงกับค่าความหนืดตรงกับค่า SAE5 ก็เรียกว่า 5W ทำนองเดียวกันไปทุกๆค่า
จาก
http://www.upmpg.com/tech_articles/motoroil_viscosity/