Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: e:smart Hybrid ที่ ตุลาคม 28, 2015, 21:58:06

หัวข้อ: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ ตุลาคม 28, 2015, 21:58:06
ผมอยากทราบว่าที่หลานๆ ท่านบอกว่า

รถหนักๆ จะให้ความรู้สึกว่านุ่มสบาย เช่น เวลาเจอลูกระนาด ถนนไม่ดี ตัวถังและน้ำหนักจะช่วยซับและกระจายแรงสะเทือน ทำให้ไม่มีอาการเสียงดัง แบบรถเล็กๆ น้ำหนักเบา

หรือช่วงล่างมั่นคง นิ่ง วิ่งทางไกลแล้วไม่เหนื่อย

อยากทราบว่ารถยนต์ที่มีคุณสมบัติแบบนั้น โดยมากจะมีน้ำหนัก อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ครับ
และตัวอย่างได้แก่รถอะไรบาง

นอกจากนี้เรื่อง ฐานล้อ ความกว้าง และระบบกันสะเทือน ด้านหลังแบบอิสระ หรือแบบคานแข็ง (ใน PPV) หรือคานบิด (ในรถเก๋ง)
มีปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับน้ำหนักของรถหรือไม่ครับ

 :)
หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kez ที่ ตุลาคม 28, 2015, 22:14:15

  ไม่เกี่ยวกันเลย  จะหนัก หรือเบา  จะทำนุ่มหรือหนึบก็ได้  อยู่ที่คนเซ็ตช่วงล่าง

  แต่ถ้าเป็นรถขายทั่วๆไป   ต้องเซ้ตให้มันเป็นกลาง จะได้ขายได้
หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: yourturle ที่ ตุลาคม 28, 2015, 22:27:43
ตามกระทู้ ถ้าเก๋ง ก็ D-seg น้ำหนักประมาณ 1400-1600 kg
รถเล็กจะรู้สึกเบาโหว่ง
รถใหญ่รู้สึกแน่นกว่า

มาจากน้ำหนักตัวรถ
หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: testmaster ที่ ตุลาคม 28, 2015, 22:32:27
ผมว่าเกี่ยวอยู่ประมาณนึงนะครับคือผมว่าน้ำหนักเบามันทำให้นุ่มหนึบยากครับ อย่าง mazda ก็จะออกแนวแข็งหนึบ

สำหรับ นน ที่ช่วงล่างจะออกแนวนุ่มหนึบผมว่าประมาน D-seg ญีปุ่นน่าจะกำลังดีครับไม่หนักจนเกินไป
หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ktonja ที่ ตุลาคม 28, 2015, 22:46:39
MG3 ที่ใช้อยู่เรื่องช่วงล่างหนึบมั่นคง นิ่ง วิ่งทางไกลแล้วไม่เหนื่อย

น้ำหนักรถ 1,220 กิโลกรัม แต่ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับน้ำหนักรถไหม

ปล.ไปลองขับดูเองนะ แต่สำหรับผมที่ใช้อยู่ผมว่าหนึบ
หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: NONT4477 ที่ ตุลาคม 28, 2015, 22:54:34
MG3 ที่ใช้อยู่เรื่องช่วงล่างหนึบมั่นคง นิ่ง วิ่งทางไกลแล้วไม่เหนื่อย

น้ำหนักรถ 1,220 กิโลกรัม แต่ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับน้ำหนักรถไหม

ปล.ไปลองขับดูเองนะ แต่สำหรับผมที่ใช้อยู่ผมว่าหนึบ
น้ำหนักมีส่วนครับ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
รถบางคันนั่ง 4-5 คน จะรู้สึกเลยว่านุ่ม หนึบขึ้น เข้าโค้งดีขึ้น กว่านั่งขับคนเดียว
ละก็ 1220 kg นี่หนักระดับ C-Segment ญี่ปุ่น
น่าจะแพ้แค่ Sonic ที่น้ำหนักใกล้ๆ 1300kg
หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: zapdos191 ที่ ตุลาคม 28, 2015, 22:58:29
มาตอบว่าไม่เกี่ยวกับน้ำหนักครับ ช่วงล่างล้วนๆว่าเค้าจะ set มายังไง

รถผมหนักตันครึ่ง แต่เด้งมากและแข็งสุดๆ 55555+ อีกคันที่บ้าน Vios หนักไม่ถึงตัน กลับซับแรงกระแทกได้ดีกว่า แต่ก็ย้วยกว่าครับ
หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: JONNY ที่ ตุลาคม 28, 2015, 23:12:20
รถใหญ่อาจน้ำหนักเยอะ อยู่แล้วครับ
การทำช่วงล่างให้เหมาะน้ำหนักต่างหากคือโจทย์ที่ต้องวิจัย ต้นทุน ราคา มืออาชีพ
รถเล็กก็ทำให้เกาะกว่าได้เหมือนกัน แฮนลิ่งที่เบาคมสบายมือ ฟิลลิ่งนุ่มหนึบสบายก้น สมรรถนะเครื่องยนต์ทีแรงพอลากน้ำหนักไม่ต้องลุ้น แต่นี้ผ่อนคลายเหนื่อยได้แล้ว
หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ซิ่งเข้าส้วม ที่ ตุลาคม 28, 2015, 23:33:29
ผมใช้ MG6 หนัก 1548 กก. หนึบจริงครับ แต่ไม่นุ่ม น้ำหนักน่าจะไม่เกี่ยว อยู่ที่การเซ็ตมากกว่า
หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: localgame ที่ ตุลาคม 29, 2015, 00:11:59
ตัวถัง ช่วงล่าง น้ำหนัก ล้อ ยาง มีส่วนทั้งหมดครับ ถ้าอยู่ที่ช่วงล่างเพียงอย่างเดียว จะนั่งรถใหญ่ทำไมทำรถเล็กให้นั่งนุ่มกว่าหนึบกว่าสิ ไม่งั้นd-segmentขายไม่ออกละครับถ้ารถเล็กทำได้แบบนั้น
หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kiwiwi ที่ ตุลาคม 29, 2015, 06:44:09
มาเสริมให้อีกเสียงครับ "ว่าไม่เกี่ยวกับน้ำหนัก"

มันอยู่ที่ความถี่และความห่างของขดสปริง และ โช้คอั๊พครับ
ถ้าหลอกสปริงถี่ๆเท่ากันทั้งหลอกเป็นเหมือนพวกเบ๊นซ์ w123 w124 สมัยก่อน
รถนิ่มมากมายเลยครับ ต่อให้เซ็ทโช็คอัพแข็ง ก็ยังรู้สึกนุ่มสบาย

แต่ถ้าเป็นพวก 124 คูเป้
มันจะถี่ประมาณ 3/4 และห่าง 1/4 อาการนี้ก็จะทะมัดทะแมงขึ้น

ความนุ่มในการซับพวกหลังเต่า ขอบถนน เส้นแบ่งถนน จะอยู่ที่ความถี่ครับ
แล้วความนุ่มเวลาวิ่งเร็วๆก็อยู่ที่ค่า k ครับ

ผมยกตัวอย่างให้อีกหนึ่งแล้วกัน
กระบะบรรทุกผัก ที่ใส่แหนบหลังเป็น 10 แผ่น และดูเหมือนว่าถ้ารถเปล่าคงแข็งปั๊กๆ
แต่ความเป็นจริงแล้ว รถเปล่านี่ ก็เหมือนกระบะทั่วๆไป เพราะ เขามีแหนบแผ่นลอย อยู่แค่ 2 แผ่นเท่านั้นครับ

หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: AkE ที่ ตุลาคม 29, 2015, 08:18:20
ไม่เกี่ยวกับ นน ครับ
หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: localgame ที่ ตุลาคม 29, 2015, 08:34:35
มาเสริมให้อีกเสียงครับ "ว่าไม่เกี่ยวกับน้ำหนัก"

มันอยู่ที่ความถี่และความห่างของขดสปริง และ โช้คอั๊พครับ
ถ้าหลอกสปริงถี่ๆเท่ากันทั้งหลอกเป็นเหมือนพวกเบ๊นซ์ w123 w124 สมัยก่อน
รถนิ่มมากมายเลยครับ ต่อให้เซ็ทโช็คอัพแข็ง ก็ยังรู้สึกนุ่มสบาย

แต่ถ้าเป็นพวก 124 คูเป้
มันจะถี่ประมาณ 3/4 และห่าง 1/4 อาการนี้ก็จะทะมัดทะแมงขึ้น

ความนุ่มในการซับพวกหลังเต่า ขอบถนน เส้นแบ่งถนน จะอยู่ที่ความถี่ครับ
แล้วความนุ่มเวลาวิ่งเร็วๆก็อยู่ที่ค่า k ครับ

ผมยกตัวอย่างให้อีกหนึ่งแล้วกัน
กระบะบรรทุกผัก ที่ใส่แหนบหลังเป็น 10 แผ่น และดูเหมือนว่าถ้ารถเปล่าคงแข็งปั๊กๆ
แต่ความเป็นจริงแล้ว รถเปล่านี่ ก็เหมือนกระบะทั่วๆไป เพราะ เขามีแหนบแผ่นลอย อยู่แค่ 2 แผ่นเท่านั้นครับ
ขอยกตัวอย่างครับ w124เครื่อง 220 4สูบ กับ 280 6 สูบ สปริง กับ โช๊ค คนละเบอร์กัน แต่สามารถใส่กันได้ ถ้าe220ใส่สปริง6สูบกับ บิลดำเบอร์2 เหมือน e280 ช่วงล่างเหมือนกันแต่พอมาขับจริง e220จะแข็งกว่าในทันทีเพราะน้ำหนักด้านหน้าที่เบากว่า ช่วงยุบตัวเวลาขับขี่จะน้อยกว่า ความนุ่มนวลไม่เท่ากันแน่ๆครับ แบบนี้จะอยู่ที่สปริงกับโช็คได้ยังไงหละครับ
หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: tarahlm ที่ ตุลาคม 29, 2015, 08:41:08
น้ำหนัก คงมีผลช่วยเรื่องความนุ่มนวลเป็นส่วนน้อย และเป้าหมายการผลิตรถยนต์ต่างก็มุ่งลดน้ำหนักตัวอยู่แล้ว เพื่อการประหยัดเชื้อเพลิง
แต่ที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มคืออุปกรณ์เสริมความสะดวกสบาย อุปกรณ์ความปลอดภัย ระบบช่วงล่าง ระบบป้องกันเสียงรบกวน
คงไม่มีการเพิ่มน้ำหนักเพื่อความนุ่มสบาย

ส่วนที่ทำให้รถนุ่มสบาย มั่นคง ส่วนสำคัญคงจาก
  / การออกแบบระบบช่วงล่าง ระบบกันสะเทือน รวมไปถึงการออกแบบโครงสร้างตัวถัง
  / ระยะห่างฐานล้อ wheelbase รถใหญ่จะยาวกว่ารถเล็ก (ใช้หลักการของคานกระดก ดูระยะความสูงขึ้นลง)
 



หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Activehybrid ที่ ตุลาคม 29, 2015, 08:57:15
รถใหญ่แบบS class คงจะนุ่มน่าดู

รถเล็กที่ผมประทับใจความนุ่มคือCityครับ นุ่มมากๆ สุดๆ

ไม่รู้ว่านุ่มต่างกันเยอะไหมใครเคยนั่งทั้ง2คันช่วยบอกที
หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: FyGI ที่ ตุลาคม 29, 2015, 09:14:06
ผมว่าไม่เกี่ยวกับน้ำหนักตัวครับ

ขึ้นอยู่กับการ set up ช่วงล่างอย่างไรให้ลงตัวกับน้ำหนักขนาดนี้

อย่างเช่น Peugeot 205 นน.ไม่ถึงตัน แต่ช่วงล่างที่สุดยอด
หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Life is a Highway ที่ ตุลาคม 29, 2015, 09:43:25
นน.เกี่ยวบ้าง แต่ไม่หมดครับ

เอาจริงๆผมชอบขับรถใหญ่ที่ นน.ไม่ต่ำกว่า2ตัน มันรู้สึกหนักๆดี คชสต.
หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ ตุลาคม 29, 2015, 10:10:15

  ไม่เกี่ยวกันเลย  จะหนัก หรือเบา  จะทำนุ่มหรือหนึบก็ได้  อยู่ที่คนเซ็ตช่วงล่าง

  แต่ถ้าเป็นรถขายทั่วๆไป   ต้องเซ้ตให้มันเป็นกลาง จะได้ขายได้

ไม่จริงครับ
รถต้องทำ CG ต่ำ ถึงจะเรียกว่าหนึบ น้ำหนักรถเกี่ยวข้องด้วยครับ

แต่ไม่เกี่ยวกับ F1 เพราะอันนั้น รถมันติดพื้นเลย CG ต่ำอยู่แล้ว

แต่รถบ้าน น้ำหนักเกี่ยวครับ ถ้าเอาเอาเข้าโค้งเร็วๆ แรงๆ

ส่วนหนุ่มนี่ ไม่เกี่ยวกับน้ำหนัก
หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: madboy ที่ ตุลาคม 29, 2015, 10:22:46
น่าจะมีบ้างนาาา  unsprung weight / sprung weight พวกนั้นน่ะครับ  :D
หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Turin ที่ ตุลาคม 29, 2015, 10:31:19
น่าจะมีบ้างนาาา  unsprung weight / sprung weight พวกนั้นน่ะครับ  :D
ส่วนตัวผมเชื่อว่าเป็นที่อัตราส่วน sprung weight ต่อ unsprung weight ยิ่งน้อยน่าจะยิ่งดี (คือช่วงล่างเบาเมื่อเทียบกับนำ้หนักรถ)
ซึ่งรถใหญ่(หนัก)มีแนวโน้มที่จะมีอัตราส่วนนี้ต่ำกว่า

คงต้องเทียบรถรุ่นเดียวกันที่ใช้ ปีกนกธรรมดากับปีกนกอลู
หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: the kit ที่ ตุลาคม 29, 2015, 12:17:54
น้ำหนักเป็นปัจจัยหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
ผมว่า สำคัญ คือ เม็ดเงินที่ใช้ในการทำช่วงล่าง
คราวนี้ก็จะแบ่งไปอีก คือ ลักษณะ รูปแบบ วัตถุประสงค์การใช้งาน ราคาขาย กลุ่มเป้าหมาย ฯลฯ

ถ้ารถยิ่งเบา ก็ยิ่งดีครับ นน.ต่อแรงม้า ความประหยัด การควบคุมที่ง่าย เนื่องจาก นน.จากการโยนตัวที่น้อย
แต่มันมามี ปห. จากราคาโลหะ หรือวัสดุที่ใช้นี่ล่ะ

ถ้าไม่เกี่ยงราคา จะเอาช่วงล่างให้นิ่มหนึบที่ความเร็วต่ำ เกาะมั่นคงในความเร็วสูงก็ทำได้
เพียงแต่ราคาขาย จะขายใคร คือ ทุกอย่างมันเกี่ยวเนื่องกันหมด

มันเหมือนว่า จะเอารถเดิมๆ จากโรงงาน Toyota Camry ไปเกาะหนึบเท่า BMW 5 Serie มันก็ไม่ได้ ประมาณนี้ครับ
หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ichok ที่ ตุลาคม 29, 2015, 13:14:03
ผมว่าน้ำหนักเกี่ยวแน่นอน ไม่มาก ก็น้อย คำว่านุ่มคือสปริงกะโช๊คก็จริง แต่คำว่าสบายและมั่นคงก็คือตัวรถนิ่งกว่านั่นก็คือน้ำหนักรถแน่ๆ อันนี้พูดถึงรถที่มีความสูงตัวรถเท่าๆกันนะ
หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ ตุลาคม 29, 2015, 13:29:04
ผมไม่ค่อยเก่งวิศกรรมอะไรต่างๆ แต่ผมคิดว่าน้ำหนักน่าจะเกี่ยวนะครับ(ไม่มากก็น้อย)
เอาง่ายๆเลย รถคันเดียวกันรุ่นเดียวกันทุกอย่างเหมือนกัน แต่คนนั่งเต็มคันกับนั่งคนเดียว
นั่งเต็มรู้สึกหนักแน่นกว่านั่งคนเดียวนะ แต่ก็อืดและกินน้ำมันมากกว่าไปตามระเบียบ
เป็นการเทียบแบบบ้านๆและรถรุ่นเดียวกันนะครับ  8) 8) 8)
หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: lexus ที่ ตุลาคม 29, 2015, 14:25:47
คิดว่าน้ำหนักยังไงก็มีผล แต่ผลจะมากน้อยอยู่ที่คนset
เช่น everest 2.2 vs 3.2 ตัว3.2 bodyหนักกว่า ตัวรถนิ่งกว่า เด้งน้อยกว่า2.2
หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: g_abac ที่ ตุลาคม 29, 2015, 15:24:22
ถ้าในรถเก๋ง ผมเห็นรถพวกหนักเฉียดๆ 2 ตัน หรือ 2 ตันนิดๆ เห็นว่านุ่มหนึบทุกคัน

😂😂😂

ไม่หนึบได้ไง ราคาขนาดนั้น
หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: HME ที่ ตุลาคม 29, 2015, 15:46:32
ก็ตามโมเมนตั้มอ่ะครับ ตัวถังก็ส่วนนึง ช่วงล่างก็ส่วนนึง เซ็ตติ้งก็อีกส่วน แต่มันเกี่ยวกันทั้งหมด
หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: soklong ที่ ตุลาคม 29, 2015, 15:54:44
ลองเอารถเก๋งเล็กนั่งเต็มๆ หรือ กระบะขนของเยอะๆ ดูสิครับ

ขับดีขึ้นเยอะ..แต่ก็อึดขึ้นหมือนกัน
หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: onbit40 ที่ ตุลาคม 29, 2015, 16:02:38
นน + center gravity มีผลโดยตรงเรื่องมั่นคง ไม่เกี่ยวกับนุ่มสะบาย

ดู นน รถเยอรมันได้ 2 ตัน + แทบทุกตัว

รถพวกนี้ถึงกับถูกด่าเลย ว่าหนักเกินความจำเป็น อันตรายต่อผู้ร่วมทางคันอื่น
หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Pon76 ที่ ตุลาคม 29, 2015, 16:39:35
น่าจะมีบ้างนาาา  unsprung weight / sprung weight พวกนั้นน่ะครับ  :D
ส่วนตัวผมเชื่อว่าเป็นที่อัตราส่วน sprung weight ต่อ unsprung weight ยิ่งน้อยน่าจะยิ่งดี (คือช่วงล่างเบาเมื่อเทียบกับนำ้หนักรถ)
ซึ่งรถใหญ่(หนัก)มีแนวโน้มที่จะมีอัตราส่วนนี้ต่ำกว่า

คงต้องเทียบรถรุ่นเดียวกันที่ใช้ ปีกนกธรรมดากับปีกนกอลู

มันเกี่ยวกับน้ำหนักตัวรถ ที่กดอยู่บนสปริง เทียบกับน้ำหนักช่วงล่างที่ขยับขึ้นลงตามถนนครับ ยิ่งตัวรถหนักกว่าช่วงล่าง
เวลาช่วงล่างขยับตัว ตัวรถด้านบนจึงนิ่ง ขยับแต่พวกปีกนก เหมือนรถยุโรปใช้ อลูมิเนียมทำช่วงล่างครับ
ช่วงล่างเบา โมเมนตัมน้อย เซตสปริง กับ โช้คได้ง่ายกว่า
หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: redsun ที่ ตุลาคม 29, 2015, 20:02:25
ผมว่ามันขึ้นอยู่กับสิ่งที่ผู้ผลิตป้อนเข้าไปให้รถคันนั้นๆ
ว่าเขาป้อนอะไรลงไป และเขาหวังในสิ่งใด
โดยต้องรู้ว่ารถคันนั้นใส่พื้นฐานอะไรไว้
จากนั้นก็ค่อยๆเติมเสริมแต่งต่อ

ยกตัวอย่างแค่เรื่องสปริง
ถ้าสปริงออกแบบมาให้นุ่มนวล (พอดี)อยู่แล้ว
การเพิ่มน้ำหนัก(เกินๆหรือผิดตำแหน่ง)เข้าไปจะทำให้รถย้วย โยนและไม่มั่นคง

ถ้า
เดิมๆสปริงมันเซ็ตมาเผื่อสำหรับการโหลดน้ำหนักไว้อยู่แล้ว
การเพิ่มน้ำหนัก(ที่เหมาะสม)เข้าไป(ในจุดที่เหมาะสม)รถก็เกาะขึ้น นุ่มขึ้น มั่นคงยิ่งขึ้น
ยิ่งได้โช้คอัพดีๆ แนวนุ่มหนึบที่เหมาะกันยิ่งเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย

หรือ
ระบบการออกแบบมุม ระยะ ความสูง ความยื่น ความกว้างยาวต่างๆ ศูนย์ล้อ
โครงสร้างของตัวรถ วัสดุ  ความrigid การกระจายน้ำหนัก ความสมดุลของตัวรถ
การเซ็ตติ้งพวงมาลัย ระบบเบรก คลัทช์  เกียร์ ฯลฯ ทุกๆส่วนมีผลหมด
บางทีแค่ล้อและยางดีๆ (ขนาดเหมาะๆ) สักชุด ก็เห็นความแตกต่างแล้ว

หรือการออกแบบตัวถัง สัมประสิทธิแรงเสียดทาน
ที่ความเร็วต่างๆกัน ก็เกาะถนนและให้ความมั่นคงที่ต่างกัน
หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Weetting ที่ ตุลาคม 29, 2015, 21:53:52
ความนุ่มสบาย ของแต่ละคนต่างกันครับ  ฉะนั้นเอาความรู้สึกมาเป็น บรรทัดฐานไม่ได้

ที่นี้ นน. มาถามต่อว่า น้ำหนักเกี่ยวไหมที่จะทำให้นุ่มขึ้น มั่นคงขึ้น ?   คำตอบคือเกี่ยวครับ 
ลองรถรุ่นเดียวกัน สเปคเดียวกัน  ช่วงล่างเหมือนกัน  แต่จาก Std.  เข้าไปไล่เบาที่ อู่แห่งหนึ่ง   
คันไล่เบาสิ่งที่ทำ เอากระจกออกเปลี่ยนเป็น อครีลิก กระจกข้าง คราฟสแควร์ เปลี่ยนกระโปรงหน้า เปลี่ยนแก้มข้าง กระบะฝาท้าย (เป็นคาร์บอนไฟเบอร์)เอาเบาะแคปออก เอาพรมออก เอาล้อสำรองไปเก็บ  เรียกว่าเบากว่ารถ Std ร่วมๆ300กิโล    ออกจากอู่   วิ่งเส้นเดิม  รถกระด้างขึ้นครับชัดเจนเลย  ลูกระนาดเดียวกัน  รอยต่อถนนเส้นเดียวกัน  กระแทกคนละเรื่อง 
ทั้งที่ช่วงล่าง ยาง ล้อ เหมือนเดิมหมด     

มาถามต่อ หนึบเกี่ยวกับ น้ำหนักไหม ?   
ตอบตรงๆเอาง่ายๆคงบอกว่าไม่เกี่ยว  ดูมาสด้า MX-5 เกาะถนนซิ ทั้งที่น้ำหนักตัวไม่ถึงตัน มันก็เกาะถนนหนึบได้ 
เพราะค่าศูนย์ถ่วงทำมาดี  พอรถเบา ค่าศูนย์ถ่วงต่ำ  การโยกย้ายซ้ายขวาเป็นเรื่องง่ายกว่าน้ำหนักเยอะ(นัยนึงคือช่วงล่างคม)  อาจจะไม่ต้องใชเโช้คที่แข็งมากแต่รถมันเบา มันทำให้คุมง่ายเกาะถนน   ยางไม่รับภาระหนักมากเกินไป   

ต่อมา  หนึบกับน้ำหนัก ตอบยากๆให้ฟังหน่อยเกี่ยวยังไง?      คอบง่ายๆคือการบาลานซ์รถ น้ำหนักควรจะทิ้งไว้ระหว่าง ล้อหน้ากับล้อหลัง ให้เยอะที่สุด  รถจะเป็นนึงเดียวกันมากกว่า
เช่น รถคันนึงขยับจุดวางเครื่องให้ย่นเข้ามาในตัวรถมากกว่า (ขยับเครื่องให้เข้ามาใกล้ตัวห้องโดยสารมากกว่าอีกคันนึง)   คันที่เครื่องใกล้ห้องโดยสารมากกว่าย่อมจะเกาะถนนมากกว่าอยู่แล้วเป็นปกติจากการบาลานซ์

รถบางคันพอวิ่งตัวเปล่า เด้งๆ พอคนนั่งเต็มรู้สึกพอดี เคยรู้สึกอย่างนี้บ้างไหม (ผมรู้สึกกับพวก PPV นะเห็นชัดเลยล่ะ)


โยงมาถึงคำถามคุณ  คุณต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า นุ่มหนึบแค่ไหนกำลังพอดีสำหรับคุณ 
คนรู้จักเอามาสด้า3ตัวเก่า5ประตู พวกเอาไปติดแก็ส กลับมาบอกเออดีหวะน้ำหนักถังแก็สช่วยให้รถไม่กระด้างเหมือนแต่ก่อน อย่างนี้ก็มีครับ
หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: madboy ที่ ตุลาคม 30, 2015, 18:22:27
 :-* :-* :-* :-* :-*

หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ ตุลาคม 30, 2015, 19:10:47
 :)ขอบคุณทุกความเห็นครับ
หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.Chaw ที่ ตุลาคม 31, 2015, 06:52:34
เท่าที่เรียนมานะครับ สมัยยังเป็นนิสิตคณะวิศว

การดูดซับแรงกระแทก - น้ำหนักมีผลแน่นอน แต่ ... ไม่ใช่น้ำหนักอย่างเดียว ... ต้องเป็น อัตราส่วนระหว่าง sprung weight/unsprung weight
ยิ่งมาก รถจะนุ่มขึ้น (เมื่อใช้ช่วงล่างชุดเดียวกัน) sprung weight คือ น้ำหนักที่สปริงรองรับ (พูดง่ายๆก็ตัวรถนั่นแหล่ะ) unsprung ก็คือน้ำหนักที่สปริงไม่ได้รองรับ (ก็คือของชิ้นส่วนช่วงล่าง)
ที่นี้เวลาคนมาเทียบกันมันเทียบยากครับ เพราะเราจะต้องเทียบรถที่ใช้ช่วงล่างเดียวกันแต่น้ำหนักต่างกัน
ผมยกตัวอย่างที่ง่ายที่สุด คือ teana 2.0 กับ teana V6 ครับ อันนี้น้ำหนักต่างกันเลย แต่อนิจจา เค้าก็ใส่สปริงมาให้คนละแบบกันซะนี่
มันก้เลยเทียบได้ยาก แต่ถ้าเอาสปริงชุดเดียวกันมาใส่เทียบ รุ่น V6 จะต้องนุ่มนวลกว่าเพราะ sprung weight  เยอะกว่า โอเคมะครับ

มีความมั่นคง - อันนี้เริ่มยากแล้วครับ ทางวิศวกรรมเค้าจะแบ่งความมั่นคงเป็น 2 แนว คือ dynamic กะ steady state
dynamic คือแบบคุณเหวี่ยงโค้งซ้ายขวาประมาณว่า slalom สิ่งที่มีผลก็คือ จุด CG ของรถ และ จุด roll center
CG คือ จุดเสมือนว่าน้ำหนักของรถทั้งคันมันอยู่ตรงนั้น (ขึ้นอยู่กับความสูงของรถ เป็นต้น)
Roll center คือ จุดที่รถมันโคลง รอบจุดนั้น (ขึ้นอยู่กับลักษณะของช่วงล่าง เช่น ปีกนกคู่ คานแข็ง บลาๆ)
ถ้า roll center อยู่ใกล้จุด CG รถก็โคลงน้อยลง
นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับ น้ำหนักรถและความแข็งของสปริงด้วยครับ รถหนักมันก็โคลงมาก ก็ต้องใช้สปริงแข็งขึ้น

steady state คือแบบเข้าโค้งจนรถเอียงคงที่แล้ว (คือสาดโค้งยาวๆๆๆๆ หน่ะครับ)
อันนี่น้ำหนักก็มีผลครับ แต่น้อยลงกว่าข้อที่แล้ว สิ่งที่มีผลคือ อัตราส่วนระยะฐานล้อ ต่อความกว้างของรถ

จริงๆแล้วอีกประการนึงที่คนไม่ค่อยคิดคือ เวลากดทางตรงยาวๆ นี่ น้ำหนักกะช่วงล่างนี่ส่งผลน้อยกว่าการจัดการอากาศอีกนะครับ
aero dynamic มีผลชัดๆเลยกรณีนี้
หัวข้อ: Re: รถยนต์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงจะทำให้ช่วงล่างนุ่มสบาย และมีความมั่นคง ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Turin ที่ ตุลาคม 31, 2015, 07:37:12
เท่าที่เรียนมานะครับ สมัยยังเป็นนิสิตคณะวิศว

การดูดซับแรงกระแทก - น้ำหนักมีผลแน่นอน แต่ ... ไม่ใช่น้ำหนักอย่างเดียว ... ต้องเป็น อัตราส่วนระหว่าง sprung weight/unsprung weight
ยิ่งมาก รถจะนุ่มขึ้น (เมื่อใช้ช่วงล่างชุดเดียวกัน) sprung weight คือ น้ำหนักที่สปริงรองรับ (พูดง่ายๆก็ตัวรถนั่นแหล่ะ) unsprung ก็คือน้ำหนักที่สปริงไม่ได้รองรับ (ก็คือของชิ้นส่วนช่วงล่าง)
ที่นี้เวลาคนมาเทียบกันมันเทียบยากครับ เพราะเราจะต้องเทียบรถที่ใช้ช่วงล่างเดียวกันแต่น้ำหนักต่างกัน
ผมยกตัวอย่างที่ง่ายที่สุด คือ teana 2.0 กับ teana V6 ครับ อันนี้น้ำหนักต่างกันเลย แต่อนิจจา เค้าก็ใส่สปริงมาให้คนละแบบกันซะนี่
มันก้เลยเทียบได้ยาก แต่ถ้าเอาสปริงชุดเดียวกันมาใส่เทียบ รุ่น V6 จะต้องนุ่มนวลกว่าเพราะ sprung weight  เยอะกว่า โอเคมะครับ

มีความมั่นคง - อันนี้เริ่มยากแล้วครับ ทางวิศวกรรมเค้าจะแบ่งความมั่นคงเป็น 2 แนว คือ dynamic กะ steady state
dynamic คือแบบคุณเหวี่ยงโค้งซ้ายขวาประมาณว่า slalom สิ่งที่มีผลก็คือ จุด CG ของรถ และ จุด roll center
CG คือ จุดเสมือนว่าน้ำหนักของรถทั้งคันมันอยู่ตรงนั้น (ขึ้นอยู่กับความสูงของรถ เป็นต้น)
Roll center คือ จุดที่รถมันโคลง รอบจุดนั้น (ขึ้นอยู่กับลักษณะของช่วงล่าง เช่น ปีกนกคู่ คานแข็ง บลาๆ)
ถ้า roll center อยู่ใกล้จุด CG รถก็โคลงน้อยลง
นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับ น้ำหนักรถและความแข็งของสปริงด้วยครับ รถหนักมันก็โคลงมาก ก็ต้องใช้สปริงแข็งขึ้น

steady state คือแบบเข้าโค้งจนรถเอียงคงที่แล้ว (คือสาดโค้งยาวๆๆๆๆ หน่ะครับ)
อันนี่น้ำหนักก็มีผลครับ แต่น้อยลงกว่าข้อที่แล้ว สิ่งที่มีผลคือ อัตราส่วนระยะฐานล้อ ต่อความกว้างของรถ

จริงๆแล้วอีกประการนึงที่คนไม่ค่อยคิดคือ เวลากดทางตรงยาวๆ นี่ น้ำหนักกะช่วงล่างนี่ส่งผลน้อยกว่าการจัดการอากาศอีกนะครับ
aero dynamic มีผลชัดๆเลยกรณีนี้
ชัดเจนมาก เยี่ยมเลยครับ ... จริงๆจะทดสอบกรณีที่ 1 ผมว่าต้องลอง vary unsprung weight จะง่ายกว่า รถหลายรุ่นมีปีกนกที่เป็นเหล็กหล่อและอลูมิเนียม (เช่น Subaru legacy bp) รวมถึงล้อหล่อ vs ล้อ forged ... ไว้ถ้าผมมีโอกาสได้เจอปีกนกอลูของ legacy จะลองเอามาสลับดูแล้วรายงานผผลครับ