Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: firstime911 ที่ ธันวาคม 01, 2015, 21:15:23
-
x5 edrive น่าใช้ไหมครับ ผมกำลัง หา SUV ใช้คุ้ม แรงๆ ซักคัน เห็นได้ของแต่งมาเต็มเลย
1.กังวลใจ เรือ่ง แบตเตอรี่ ของ bmw ถ้าพังนี้จะยังไงดี รับประกันแค่ 1แสนโลเท่านั้น
2. ผมใช้รถเยอะครับ ปีหละ สามหมื่นได้ BSI แป๊ปเดียวก็หมดแล้ว ถ้าผมใช้ 4ปี ก็เกลี้ยงแล้วคับ หลังจากนั้น ค่าซ่อมเซ็งแน่
3. ราคาขายต่ออันโหดร้าย ยิ่งเป็นตัว hybrid ด้วยนี่เดาไม่ถูกเลย
ทางเลือกผม อีกทาง คือ GLE 250d amg เอาตัวไหนดีครับ
-
;D มีความกังวลเหมือนผมเลยครับ เรื่องหลังหมด BSI ปกติก้อน่าจะราคาแรงอยู่แล้ว ยิ่ง Plug-in Hybrid ด้วย ผมล่ะกลัวจริงๆ
ไม่ได้อยากจะขายต่อหรอกนะครับ แต่พอใช้สัก 7-8 ปีก็น่าจะเริ่มดูคันใหม่แล้ว ถ้าราคาเหลือแค่ ล้านต้นๆ หรือไม่ถึงล้าน คงดูไม่จืด พร้อมค่าบำรุงรักษาที่อาจจะสูงกว่า รถดีเซลธรรมดา อีก หวั่นใจจริงๆ เลยครับ ยังไม่นับเรื่องที่ เป็นรุ่นแรกๆ ที่เป็น Plug-in Hybrid ถึงแม้จะบอกว่า มีทั้ง i3,i8 ออกมาเถอะนะครับ มันดูยังไม่ค่อยใช้กันเยอะเท่าไหร่เลยครับ :(
-
เท่าที่อ่านดูผมว่าท่านเจ้าของกระทู้ไป X5 30d หรือ GLE ดีกว่าครับ
-
ลองไล่หา x5 3.0d ก่อนครับไม่มีค่อยไปหาดาว น่าจะเหมาะสมกว่า
-
ใช้ 30d M sport อยู่ผมว่าเรื่องประหยัดก็ประหยัดมากแล้วนะครับในเมืองขับแบบไม่ต้องเบาเท้ามากก็ได้ 11-12 นิดๆได้ รถใหญ่อยู่นะครับได้ขนาดนี้โอเคมากแล้ว
ส่วนเรื่องแบดขนาดโตโยต้ายังมีให้ปวดหัวกันบ้างกับบีเอ็มผมเองไม่กล้าครับผมว่ามีดีเซลให้เล่นเล่นสบายใจกว่าเยอะนะครับ
1.ใช้คุ้มๆยังไงก็ไม่คุ้มทั้งราคาซื้อและราคาขายครับ
2.ขับเยอะหลีกให้ไกลมีดีเซลแล้วผมว่าขับเยอะเล่นดีเซลดีกว่าที่บ้านผมวิ่งเยอะเหมือนกันครับช่วงนี้สลับคันอื่นเสียดายรถถ้าใช้เยอะมากๆผมเองคงหารถสำรองด้วย
3.ราคาไฮบริดไม่ต้องลุ้นครับรถพรีเมี่ยมราคาตกอยู่แล้วมือสองเล่นไฮบริดด้วยไม่ต้องลุ้นเลยครับ GLE 250d AMG ก็น่าสนใจครับแต่ผมชอบ X5 มากกว่าภาพรวมนะครับ
*เพิ่มเติมนิดนึงครับไฮบริดจริงๆแบดผมว่าน่ากลัวน้อยสุดของระบบไฮบริดแล้วครับส่วนอื่นๆราคารุนแรงกว่ามากถ้าจะเล่นจริงถ้าผมเองจะเช็คราคาอะไหล่ก่อนเลยครับ
ผมเชียร์ดีเซลขาดใจ
-
เห็นว่าเป็นเครื่อง 2.0 + Hybrid
เป็นผมคงเอา X5 3.0d ครับ รถทรงนี้ดีเซลน่าเล่นกว่าครับ
-
30d ผมว่าก็เหลือๆแล้วครับ
GLE สวยจริง แต่ X5สวยกว่า อิๆ
-
วิ่งเยอะขนาดนี้ซื้อตราดาว + warranty เพิ่มเป็น 5 ปีเลย เพราะเขารับประกันไม่จำกัดระยะทาง วิ่งกันให้พังไปข้างนึง
-
ถ้าไม่ได้เน้นแรงไรมากและกลัวพัง ไปรุ่นอื่นครับ แต่รุ่นนี้อะแหละน่าใช้
-
X5 สวยสง่า น่าใช้มากๆครับ
เป็นผมจะไม่ลังเลเลย
-
X5 สวยทุกมุมมอง....
ถ้าเงินถึงระดับนั้น จะไม่ลังเลเลยครับ
-
ถ้ากังวลแบบนี้ ผมว่าอย่าดีกว่าครับ จะจิตตกเอา ไปดีเซลดีกว่าครับ
-
X5. 3.0D เลิกขายแล้วครับ
-
X5. 3.0D เลิกขายแล้วครับ
อย่างงี้ตัวนี้ เวลาขายต่อราคาจะลดฮวบมั้ยครับ ตัว 30d
-
รถแบบSUVพื้นฐานเก๋งก็จริงแต่ถ้าเป็นไปได้ ผมจะเลือกใช้เครื่องดีเซลดีกว่าครับ Hybridณขณะนี้ผมคงไม่เลือกแน่นอน
ส่วนใหญ่คนใช้X5หรือGLEก็ไม่ได้เอาไปลุยอะไรหนักๆ แต่ที่คิดว่าจะได้ประโยชน์กว่าsedanคือความสูง
แล้วถ้าเป็นเบนซิลแถมยังมีระบบhybridเข้าไปอีก มันจะทำให้กังวลเวลาลุยน้ำแทนที่จะซื้อมาใช้แบบสบายใจ ขนาดก่อนซื้อยังกลัวแล้วจะซื้อไปทำไม
BMมีชื่อในทางไม่ค่อยดีเกี่ยวกับปัญหาระบบไฟเวลาลุยน้ำและแนวท่อไอดีค่อนข้างต่ำ ไม่ทราบว่าได้แก้ปัญหานี้ไปหรือยัง
-
X5. 3.0D เลิกขายแล้วครับ
อย่างงี้ตัวนี้ เวลาขายต่อราคาจะลดฮวบมั้ยครับ ตัว 30d
เลิกขายจริงครับน่าเสียดายมากเจอภาษีใหม่ตอนนี้ยังมีรถอยู่เลิกประกอบปีนี้ไม่เกี่ยวกับว่าตกฮวบครับก็เหมือน 523i เป็น 528i ราคาก็ตามปีรถรถต่อให้ไม่เลิกขายแต่ไม่มีคนรอซื้อคนเล่นตลาดมือสอง
ถึงไม่เลิกขายแต่ไม่มีคนสนใจอันนี้ก็ตกครับเป็นไปตามความต้องการของตลาด
ผมกลับมองว่าถ้าคนอยากได้ X5 มือสองในอนาคตตัวดีเซล 30d M Sport คือตัวที่คนจะหากันครับไม่ใช่ Hybrid
ได้ 6 สูบด้วย 30d โอกาสนี้อนาคตในบ้านเราน่าจะยากแล้วลดขนาดกันหมด
-
X5 40e ตัวนี้เป็นระบบที่คล้ายเจ้า s e hybrid cayenne แหละครับ
สิ่งสำคัญคือต้องตอบโจทย์การใช้งานของผู้ซื้อเป็นหลักครับ ถ้าขี่รถต่อวันเยอะๆเส้นทางหลากหลายแนะนำไปมองตัวดีเซลครับ(รถไม่ได้ผลิตแล้วในส่วน 3.0ดีเซล) แต่ถ้าใช้งานกลางๆเข้าเมืองบ้างชานเมืองบ้าง 40e ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คบหาได้ครับ แบตเตอรี่ประกัน6ปี bsi5ปี ราคาแบตเตอรี่ ณ ปัจจุบัน สองแสนกว่าๆ(ข้อมูลจากbmw) อนาคตน่าจะถูกลงอีก ตัวนี้เป็นรถนำเข้าทั้งคันสิ่งที่ได้เพิ่มขึ้นจากดีเซล(ประกอบใน)คร่าวๆ ประตูซอฟท์โคลส เครื่องเสียงฮามาน กาด้อน ภายในอุปกรณ์เคลือบเซรามิค แอร์หลังปรับระดับอุณหภูมิได้ ในราคาเปิดตัวถูกกว่าดีเซล3.0 สามแสนบาท(ป้ายแดง) ชุดแต่ง m เหมือนกัน.
สรุป..ถ้าอยากลองเทคโนโลยีใหม่ๆก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายครับ ตัวนี้พกแรงม้ามาที่ 313แรงม้า(มอเตอร์ไฟฟ้า+เบนซินหลัก) แรงบิดที่450 อัตราเร่ง0-100ที่เคลมไว้ 6.8วินาที(ดีกว่าตัวดีเซล) ก็น่าจะพอสำหรับคนใช้งานที่ไม่ได้เน้นเรื่องความแรงแบบดุเดือดได้เพียงพอครับ.